เขาทำให้เธอท้อง แล้วทิ้งไป พอวันหนึ่งกลับมาจะมาทวงหาความเป็นพ่อ ทั้งที่วันนั้น เขาบอกว่า “ไปเอาออกเสีย” ------------------ “นี่คืออะไร” ใบหน้าเข้มคิ้วขมวดเข้าหากัน จ้องมองที่ตรวจครรภ์ในมือ แม้จะรู้อยู่แล้ว แต่ก็อยากจะถามให้ได้ยินกับหูของตัวเอง “พี่ราม แป้งท้องค่ะ” น้ำตานองหน้า ในใจเหมือนจะรู้คำตอบของคนตรงหน้าอยู่แล้ว เขาเงยหน้าที่ก้มมองที่ตรวจครรภ์ในมือ ขึ้นมาจ้องหน้าของเธอ เขาถามย้ำ “พี่บอกแป้งตั้งแต่แรกๆ ว่ายังไงนะ” “นอนกับพี่ได้แต่ห้ามท้อง” รามิลกลืนน้ำลายขมๆ ลงไปในลำคอ เขาไม่อยากพูดแบบนี้เลย เขารู้ตัวดีว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ คำว่า ‘ตัดไฟเสียแต่ต้นลม’ มันก้องอยู่ในหัวของเขา นรินภัทรเหมือนถูกคำพูดของเขาตบไปที่ใบหน้าแบบจังๆ น้ำตาที่เอ่อท่วมเริ่มไหลรินอาบทั้งสองพวงแก้ม “อย่าคิดเอาลูก มาผูกมัดพี่ได้นะ อย่าคิดว่าท้องแล้วต้องให้พี่รับผิดชอบ” “แล้วพี่จะให้แป้งทำอย่างไรคะ” “ไปเอาออกเสีย”
เสียงฝีเท้าของเด็กหญิงตัวน้อย ๆ วิ่งเข้ามาในบ้าน เสียงกระดิ่งที่ติดอยู่ที่ข้อเท้าดังตามติดร่างเล็ก ๆ ของเด็กหญิงเข้ามาด้วย
“มะ... แม่ แม่ แม่...” เสียงพูดที่ยังไม่เป็นคำร้องเรียกหาผู้เป็นแม่ ทำให้นรินภัทรรีบวางปากกาวาดรูปในมือลงไปไว้ที่โต๊ะ รีบลุกขึ้นมา แล้วอ้าแขนรับเอาลูกสาวที่วิ่งหน้าตั้งมาหาด้วยความคิดถึง
“เป็นไงไปเที่ยวกับคุณลุงมาสนุกไหมคะ”
“หนุก ได้กินหนมเยอะ ๆ” นรินภัทรยกหน้าขึ้นมองพี่ชาย พร้อมกับจับเอาขนมอมยิ้มในมือของลูกสาวออกมา อมยิ้มที่มักจะมีอยู่ที่หน้าแคชเชียร์ในห้างสะดวกซื้อ
“พี่ปั๊ม แป้งบอกแล้วว่าไม่ให้ชูใจกินลูกอม”
“แหม...” ใบหน้าไม่สำนึกผิด น้องสาวจึงเดินเข้าไปใส่ให้อีกตุบ
“อะ อะไรของแก ชูใจ... ก็แค่กินเล่น ๆ”
“เล่น ๆ ก็ไม่ได้ นี่พี่ไม่เห็นเหรอว่าฟันหลานกำลังสวยเห็นไหม”
“เห็นสิ” ยังตอบหน้าตาย
“ฮึ... แปรงฟันก็ยาก แล้วยังจะ... พี่นี่นะ”
“มะ... แม่อย่าตีลุงนะ” สาวน้อยชูใจรีบเข้ามาขวาง และใช้มือน้อยดึงชายเสื้อของแม่เอาไว้
“เป็นไงล่ะ เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย” แล้วก็หันไปจับมือลูกสาวตัวน้อย พร้อมกับพาตัวเด็กตัวป้อมเข้าไปในห้องน้ำ
จากนั้นก็ได้ยินเสียงของนรินภัทรกล่อมลูกสาวตัวน้อย ๆ ให้แปรงฟันเพื่อไม่ให้ฟันผุ และจับอาบน้ำต่อเลยเพราะออกไปข้างนอกมา
อรนิลเดินอุ้ยอ้ายเข้ามาในบ้าน พร้อมกับข้าวของในมือ ณัฐกรรีบเข้าไปช่วย
“เสียงยายชูใจร้องหรือ” สีหน้าไม่ค่อยดี เพราะใกล้คลอดเต็มทีแล้ว
“อื้อ... ก็ยายแป้งนะสิ จับชูใจแปรงฟัน”
“อรก็บอกพี่แล้วนะว่าอย่าซื้อให้หลาน เป็นเรื่องแล้วไง”
“ก็...” อรนิลทำตาดุเข้าใส่ เธอพูดแบบปรามเอาไว้ก่อน
“ถ้าลูกของอรออกมาละก็ พี่จะมาตามใจแกจนเสียเด็กไม่ได้นะ”
“ทำไมต้องคิดว่าพี่จะตามใจลูกฮึ... อร” ณัฐกรจับร่างท้วม ๆ อวบ ๆ ของเมียรัก
“ก็เห็นพี่ตามใจชูใจไงคะ”
“ก็พี่สงสารหลานนี่นา” พลางกระซิบกระซาบใกล้หูของอรนิล เรื่องนี้ณัฐกรรู้ว่าเขาไม่ควรพูด
การเอ่ยแบบนี้หากนรินภัทรมาได้ยินจะเสียใจ การท้องลูกไม่มีพ่อ แถมยังเรียนไม่จบอีกด้วย กลายเป็นปมด้อยที่อยู่ในใจของนรินภัทรตลอดมา
ดีที่ณัฐกรตัดสินใจพาน้องสาวมาอยู่ด้วยที่บ้านของอรนิลที่กระบี่เพื่อหนีความอับอาย และคำถามที่จะเกิดขึ้นจากคนรอบข้าง
นรินภัทรท้องโดยที่ฝ่ายชายปฏิเสธ ทำให้หญิงสาวเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากที่เคยเป็นคนร่าเริง ก็เอาแต่เก็บตัว และเก็บปากเก็บคำ ซึ่งก็ยังทำให้ทั้งสองคนผัวเมียเป็นห่วงมาตลอด
ในตอนที่น้องสาวจบ ม. หก แม่ที่รักเธอมากก็จากไปด้วยโรคร้าย พอต่อมาสองเดือนพ่อก็มาประสบอุบัติเหตุจากไปอีกคน ในตอนนั้นณัฐกรเป็นห่วงนรินภัทรมากว่าจะประคองชีวิตไม่อยู่ แต่พอมีแฟน นรินภัทรก็ดีขึ้น
และแล้วโชคชะตายังมาเล่นตลกอีก คนที่น้องสาวกะจะฝากชีวิต ดันมาปฏิเสธ ซึ่งตอนนั้นนรินภัทรจะขึ้นปีสี่อยู่แล้ว การท้องมีลูก ผู้ชายบอกให้ไปทำแท้ง แต่น้องสาวเลือกที่จะเก็บลูกเอาไว้
ดีหน่อยที่ตอนเรียน ในสายที่นรินภัทรเลือกเรียนมีสอนการวาดรูป เธอก็ชอบด้วย จึงได้ทำอาชีพเป็นนักวาดการ์ตูนเพื่อทำปกนิยาย ลายเส้นและการลงสีของนรินภัทรที่เป็นเอกลักษณ์ เธอมีรายได้พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ไม่ได้ทำความลำบากให้กับพี่ชายและพี่สะใภ้
อีกทั้งนรินภัทรเป็นคนที่มีความตั้งใจสูง จึงทำให้งานออกมาเร็ว และออกมาสวย เดือนหนึ่งเธอรับงานวาดสี่ห้าปก ก็สามารถทำเงินเข้ากระเป๋าไปอย่างสบาย ๆ
นรินภัทรอุ้มลูกสาวที่อาบน้ำแต่งตัวสวยออกมาข้างนอก
ใบหน้าของเด็กหญิงชูใจขาววอก ใบหน้ากลมแป้นยิ้มร่า พอเท้าแตะพื้นก็รีบวิ่งมาหาคุณลุง
“ลุงปั๊ม”
“แป้งจะดุลูกล่ะนะ ถ้าจะดุ ให้แป้งมาดุพี่” ทำหน้างอนใส่น้องสาวด้วย และกอดร่างป้อม ๆ ของเด็กน้อยเอาไว้แบบโอ๋
นรินภัทรหันมาทำตาขวาง
“หรือพี่ปั๊มจะเอาอีกสักตุ้บหื้อ เมื่อกี้ก็โดนไปตุ้บหนึ่งแล้วยังไม่พอใช่ไหม” พร้อมง้างมือ และทำตาเขียวเข้าใส่อีก
“ก็...” พี่ชายทำท่าจะเถียง
“พอกันเลยทั้งพี่ทั้งน้อง หยุดทะเลาะกันและทำเสียงดังเลยนะ แป้งเอาของพวกนี้ไปใส่ตู้เย็นไป” พี่สะใภ้ออกคำสั่ง
“หมอเขาว่าอย่างไรบ้างพี่” เห็นหน้าตาที่บิด ๆ เบี้ยว ๆ และเหยเกก็นึกห่วง
“คงจะคลอดอาทิตย์หน้าแหละ หมอบอกแบบนั้น” พูดไปพลางเป่าลมออกจากปากไป ตรงหน้าท้องของอรนิลขมวดเกร็งแข็งขึ้นมาอีก จนคนเป็นแม่ทำหน้ามุ่ย สูดปากเสียงยาว ๆ อรนิลยกสองมือขึ้นมาลูบหน้าท้อง
“พี่ก็เตรียมของใช้เด็กอ่อนใส่ตะกร้าเอาไว้นะ”
“อื้อ” พี่ชายพยักหน้า
“จะเอาอะไรไปโรง’บาลมั้ง ก็ต้องเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยเน้อ เดี๋ยวจะหาว่าแป้งไม่เตือน” นรินภัทรเดินเข้ามาพร้อมกับยิ้มเอาของที่กองใกล้เท้าพี่ชายยกขึ้น
“รู้แล้วจ้า พูดมากเสียจริงเนอะ... เนอะ” ทำหน้าพยักพเยิดกับชูใจ เด็กน้อยที่ไม่ประสาก็พยักหน้ารับ สองลุงหลานรักใคร่ใกล้ชิดกันมาก
ณัฐกรและอรนิลเปิดร้านขายน้ำชากาแฟอยู่ในตลาดสดยามเช้าที่แถวตลาดปากน้ำ ในตอนบ่ายก็จะว่าง แต่ทั้งสองก็เลือกที่จะหยุดในวันอาทิตย์ด้วย เพราะทำงานมากไปแบบไม่มีวันหยุดร่างกายก็เหนื่อยก็ล้าได้
และที่จะเปิดเร็ว ๆ นี้คือโฮสเทลที่เอาตึกมาสร้างเป็นห้องพักให้นักท่องเที่ยวแบบราคาไม่แพง ก็อยู่แถวปากน้ำด้วยเช่นเดียวกัน
“มะ... แม่พูดมาก” พูดยานคางด้วยเสียงน่ารัก แล้วส่งมือไปแตะที่หน้าท้องของคุณป้าอรนิล
“น้องอยู่ในนี้ ออกมาไว ๆ นะ จะได้มาเล่นด้วยกัน”
ทั้งลุงทั้งหลานเอาหูแนบไปกับหน้าท้องของอรนิล เธอ หยิบหมอนมาพิงด้านหลังและเอนตัวลงไปนอน แล้วพากันส่งเสียงหัวเราะคิกคัก เพราะเจ้าตัวเล็กในท้องของอรนิลแผลงฤทธิ์เดชถีบใหญ่ ทว่าอรนิลก็ทำท้องเกร็งแข็งขึ้นมาอีก
นรินภัทรรีบยกของแล้วเดินเข้าครัว สีหน้าของนรินภัทรไม่ค่อยดีนัก เธอสะเทือนใจทุกครั้งที่มองหน้าท้องที่นูนเด่นของพี่สะใภ้ ทำให้หวนนึกถึงวันที่ต้องอุ้มท้องโต ๆ โดยที่ไม่มีคนที่เธอรักคอยอยู่เคียงข้าง นึกถึงคราใดมันปวดร้าวไปทั้งหัวใจ
‘ทำไม?’ ทำไมเธอโง่แบบนั้น นรินภัทรคิดว่าการนอนกับเขาแล้ว จะทำให้เขาเห็นค่าในตัวของเธอ และเธอจะทำให้รามิลรักเธอมากยิ่งกว่าเดิม
แต่ไม่ใช่... เธอมันก็ของเล่นของเขา เวลาที่เขาเหงาและเซ็งก็เท่านั้นเอง
เพล้ง... เสียงจานตกแตก
“ยายแป้งเป็นอะไรอีก” พี่ชายตะโกนเรียกด้วยความตกใจ เขาวิ่งมาที่ในครัว
“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรพี่ ฉันล้างจาน แล้วมันลื่น”
พี่ชายโผล่หน้าเข้ามาพอดี
“ทำอะไรก็ระวังบ้างสิ”
แวบนั้นพี่ชายเห็นน้ำตาของเธอ นรินภัทรรีบเช็ด และหันไปหยิบที่โกยขยะกับไม้กวาด เธอทำเสแสร้งว่าไม่เป็นไรเหมือนเดิม ทั้งที่นรินภัทรก็ยังเจ็บปวดอยู่
พี่ชายเดินเข้ามาและแย่งเอาไม้กวาดไป
“พี่ทำเอง แป้งไปทำกับข้าวไป พี่อรบ่นหิวแล้ว”
“แกงส้มใช่ไหมพี่”
“อื้อ... ทำไม่ต้องเผ็ดมากนะ เพราะพี่อรท้องแก่ กินเผ็ดมากไม่ค่อยดี แล้วปลาน่ะ พี่ให้ที่ร้านทำมาให้แล้ว จัดการแกงได้เลย”
“จ้ะ” นรินภัทรหันไปสนใจทำกับข้าวต่อ
คนเป็นพี่ลอบถอนหายใจ ทำอย่างไรนะถึงจะทำน้องสาวลืมไอ้ผู้ชายเฮงซวยได้เสียที เขาโกรธผู้ชายคนนั้นมาก
ณัฐกรเคยถามนรินภัทรครั้งหนึ่งว่า ไอ้ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร ทว่าเธอก็ไม่เคยให้คำตอบ ทำให้ณัฐกรทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่ยอมปิดปากเงียบ
ทั้งที่เขาอยากจะไปฆ่าไอ้ผู้ชายที่ใจร้ายนั้นให้ตายไปเสียได้ก็ดี
เสียงจานที่แตกทำให้ณัฐกรตกใจ เพราะตอนที่นรินภัทรคลอดชูใจ ในวันนั้นน้องสาวก็ทำจานแตก พอเขาเข้ามาเห็นก็มีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดแล้ว มันเป็นภาพที่ติดตายังไม่จางหาย
“กินข้าวเสร็จแล้ว จะวาดรูปต่อก็วาดนะ พี่จะกล่อมชูใจนอนเอง”
“อื้อ” นรินภัทรรับคำสั้น ๆ
ที่กรุงเทพฯ บ้านภมรภูริน
รามิลกำรูปถ่ายที่อยู่ในมือแน่น เขาเริ่มบี้มันจนยับย่น ซองสีน้ำตาลที่วางอยู่บนโต๊ะ มีเขียนที่มุมซองตัวเล็ก ๆ ว่า ‘สำนักงานนักสืบอรรถพล’
คุณนิรันรัตน์เดินเข้ามา โดยในมือของท่านมีไม้เท้าช่วยค้ำพยุงตัว
“เอ... ช่วงนี้หนูตาออกไปข้างนอกบ่อย ๆ แล้วบางวันก็กลับเสียมืดค่ำ”
ท่านมองออกไปทางประตู ก่อนจะหันกลับมาที่ลูกชาย
“คงมีธุระมั้งครับ”
“ธุระอะไรดึก ๆ ดื่น ๆ” ท่านหันไปมองนาฬิกาจะสามทุ่มครึ่งอยู่แล้ว
รามิลรีบเก็บภาพถ่ายที่อยู่ในมือยัดลงไปในซองสีน้ำตาลตามเดิม
“รูปอะไรนะราม”
“ไม่มีอะไรครับคุณแม่” เขาไม่อยากให้มารดารู้เลยว่า ผู้หญิงที่มารดาเป็นคนหาให้ ท้ายสุดแล้ว สันดานของเธอก็ออก และทำตัวอย่างผู้หญิงชั้นต่ำ
“เมื่อเช้าคุณมณีโทรมาถามหาหนูตาเหมือนกันว่าหายไปไหน ไม่โทรไปหาคุณมณีเลย” คุณสิริมณีเป็นแม่ของลูกสะใภ้
คนเป็นแม่คงไม่ได้สังเกตใบหน้าและแววตาของลูกชายที่เจ็บปวด
“แม่นึกถึงวันที่เราล้มวันนั้น ถ้าไม่ได้คุณมณียื่นมือเข้ามาช่วย แม่ก็คงไม่ได้มานั่งหายใจอยู่ตรงนี้ และลูกก็คงไม่เรียนจบหมอจริงไหม”
นั่นแหละเป็นเหตุผลที่เขาต้องแต่งงานกับศศิตาเพื่อทดแทนบุญคุณและรักษาคำมั่นที่คุณสิริมณีขอจากแม่ของเขา
“แม่ครับ ผมว่าแม่ไปนอนเถอะ อย่าเป็นห่วงตาเลย เธอโทรหาผมแล้วว่าจะกลับบ้านห้าทุ่ม”
“หา! ห้าทุ่มเลยหรือ? หือ... มันมีอะไรดีที่นอกบ้านนะ”
“เธอชอบแบบไหน ผมก็แค่ตามใจเธอ ก็เท่านั้นเองครับแม่ ตาเขาไปที่ชอบ ๆ น่ะ ผมพาแม่กลับห้องดีกว่านะครับ” แววตาของลูกชายกล้ำกลืน เขาเข้าไปประคองมารดาให้ลุกขึ้น
“แม่ว่าหนูตาคงเหงาน่ะ ลูกก็เอาแต่ทำงาน อ้อ... แม่เอ่ยปากขอเงินจากคุณมณีแล้วนะ ที่ว่าจะเอามาเปิดคลินิกน่ะ”
รามิลก็นิ่งงันไปเช่นกัน เขากัดปาก
“ผมบอกกับแม่ตั้งหลายครั้งแล้วว่าอย่าไปขอเงินขอทองมาจากคนพวกนั้นอีก แค่เท่าที่ได้มาก่อนหน้านั้น ผมก็ชดใช้บุญคุณให้ไม่หมดแล้วครับ”
“ตาราม รามก็แต่งงานกับหนูตาแล้ว เรากับเขาเป็นทองแผ่นเดียวกัน และที่ต้องรีบทำคลินิก แกก็จะได้ไม่ต้องไปทำโรงพยาบาลอะไรนั่นอีก นี่ถ้าไม่ได้เงินจากคุณมณี ลูกก็ต้องไปทำงานใช้ทุนอีก”
รามิลดวงตาแดงก่ำ กลั้นความเจ็บปวดลึก ๆ กับการกระทำของแม่ ความอดกลั้นทำให้เขาอดปากเอาไว้ไม่ได้
“แม่ทำตัวเหมือนคนไม่มีศักดิ์ศรี ทำตัวเหมือนขอทานอยู่นะครับ แม่รู้ตัวไหม”
คุณนิรันรัตน์ชะงักฝีเท้าหันมามองหน้ารามิล
“เจ้าราม ทำไมแกพูดแบบนี้” ท่านทำเสียงเขียว
พอเห็นมารดาน้ำตาคลอ เขาก็ต้องหยุดและปิดน้ำคำที่จะหลั่งไหลออกมา
“ผมขอโทษครับแม่”
“ฮึ... แม่เลือกทำทุกอย่างก็เพื่อแก ในตอนนั้นพ่อแกทำให้แม่กับแกสุขสบายไม่ได้ แต่คุณมณีเขาให้เราสองคนได้”
“มันไร้ศักดิ์ศรี”
“แต่แกก็สุขสบาย แล้วฉันก็เป็นอย่างที่เห็น ไม่ต้องไปเฝ้ายมบาล”
“ผมเข้าใจแล้วครับแม่ ผมขอโทษ” รามิลหลับตา
“สิ่งที่แกควรทำ ก็คือ ควรทำดีกับหนูตา และคุณมณี เพราะถ้าคุณมณีตายไป สมบัติทั้งหลายก็จะเป็นของแกกับของหนูตา หนูตาเป็นลูกสาวคนเดียวนะ”
“อ้อ... แล้วอีกอย่างที่แกต้องรีบทำ คือทำให้หนูตาท้อง คุณมณีเขาก็ทวงถามมาอีกแล้ว”
“ครับ” คำตอบสั้น ๆ ปะปนอยู่ในอารมณ์ของรามิลในตอนนี้คือความขมขื่น
บทที่ 1 ของที่ระลึกของอสูร
21/06/2024
บทที่ 2 ลูกสะใภ้ที่รัก
21/06/2024
บทที่ 3 โชคร้ายจัง!
21/06/2024
บทที่ 4 โชคชะตากำหนด
21/06/2024
บทที่ 5 แค่เจ็บ
21/06/2024
บทที่ 6 ไหนว่าเส้นขนาน
21/06/2024
บทที่ 7 สวรรค์เบี่ยง
21/06/2024
บทที่ 8 แค่เคย ๆ
21/06/2024
บทที่ 9 คนใจหมา
21/06/2024
บทที่ 10 สายใยที่ปฏิเสธไม่ได้
21/06/2024
บทที่ 11 คุณไม่มีสิทธิ์
21/06/2024
บทที่ 12 ลูกรัก... ชูใจ
21/06/2024
บทที่ 13 คนเห็นแก่ตัว
21/06/2024
บทที่ 14 ควรเสียสละ
21/06/2024
บทที่ 15 อยากได้ลูกเสือ ต้องเข้าถ้ำเสือ
21/06/2024
บทที่ 16 ตื๊อ
21/06/2024
บทที่ 17 อะไรก็ยอม
21/06/2024
บทที่ 18 ทบทวนและขอโอกาส
21/06/2024
บทที่ 19 จับอสูรร้ายกักขังไปตลอดชีวิต
21/06/2024
หนังสืออื่นๆ ของ คุณธิดา
ข้อมูลเพิ่มเติม