Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เจียงซินเฟย จันทราตำหนักเย็น

เจียงซินเฟย จันทราตำหนักเย็น

จันทร์ส่องแสง

5.0
ความคิดเห็น
11
ชม
5
บท

สนมที่แม้แต่ชื่อฮ่องเต้ยังจำไม่ได้ แต่รสพิศวาสคืนแรกคืนเดียวของนางช่างตรึงใจ เจียงซินเฟยสนมที่ถูกลืมฝ่าบาทผู้ที่วันๆสนใจแต่เรื่องในราชสำนักไม่ใช่คืนเหน็บหนาวของฮ่องเต้แต่เป็นเพราะแววตาเศร้าสร้อยของนาง

บทที่ 1 ตำหนักเย็น

ร่างบางที่เปรอะเปื้อนด้วยเลือดที่แผ่นหลัง ถูกโบยจนสลบไสล ผมเผ้าหลุดลุ่ยยุ่งเหยิงเลือดไหลซึมเป็นทางบนอาภรณ์สีขาว

“ทิ้งนางไว้ที่นี่ในตำหนักเย็นแห่งนี้”

ร่างโชกเลือดพลิกตัวนอนหงาย กลืนน้ำลายลงคอ คลำที่ท้องของตัวเองไปมา จะตายได้อย่างไรในเมื่อมีลูกอยู่ในท้อง

ตำหนักฮ่องเต้

“ฝ่าบาท ย่าได้ยินว่าฮองเฮา สั่งโบยสนมเจียงซินเฟยจนสาหัสถึงร้อยไม้ ก่อนจะลากตัวนางไปไว้ยังตำหนักเย็น นางทำความผิดใดกันจึงถูกลงทัณฑ์รุนแรงปางตายเช่นนั้น”

ใบหน้าหล่อเหลาเงยหน้าขึ้นจากกองฎีกา หลายวันมานี้ไม่เคยได้ผ่อนคลายหลายเรื่องราวในราชสำนักมีให้ต้องจัดการไม่เว้นแต่ละวัน เขาเองหาใช่คนที่ชอบเรื่อง รักใคร่จึง เอาเวลาทั้งหมดทุ่มเทให้งานในราชสำนักจะดีกว่า

“เสด็จย่าหมายถึงสนมคนไหน”

ก้มหน้าอ่านฎีกาต่อไป

“จางหลง นางกำลังตั้งครรภ์”

ขันทีหนุ่มขยับกายอย่างอึดอัด

“ไว้ หลานส่งคนถามไถ่ฮองเฮาอีกที”

“จางหลงนางตั้งครรภ์ลูกของเจ้า”

สีหน้าเป็นกังวล

“เสด็จย่าเรื่องราว ในวังหลังล้วนเป็นฮองเฮาที่จัดการเป็นอำนาจหน้าที่ของนาง ไว้หลานไต่สวนอีกที อีกอย่างหลานจำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อนางหรือแม้กระทั่งใบหน้าของนางด้วยซ้ำไป”

ไทฮองไทเฮาถอนหายใจยาวเหยียด ยอมจากมาโดยดี ขันทีหนุ่มเปิดประตูให้ไทฮองไทเฮา ก่อนจะก้าวมายืนก้มหน้าข้างๆจางหลง

“เจ้ามีอะไรเสี่ยวซาน”

เหลือบตามอง

“ฝ่าบาท เขาเล่ากันว่านางถูกโบยจนสลบไสลไม่แน่อาจตายไปแล้ว เพราะลักลอบได้เสียกับองครักษ์ผู้หนึ่ง”

“เจ้าเชื่อเรื่องนั้นไหม”

ถามเพราะรู้ว่าเสี่ยวซานต้องการจะพูดอะไร

“เขาเล่ากันว่านางไม่สุงสิงกับใครมาเพียงคนเดียว วันๆแทบจะไม่พูดจากับใคร แล้วเช่นนั้นจะแอบลักลอบได้เสียกับองครักษ์ได้อย่างไร”

“เจ้ารู้ได้อย่างไร นางอาจพูดกับองครักษ์ผู้นั้นมากหน่อยก็ได้”

“ฝ่าบาทเรื่องในวังหลังมักมีการใส่ร้ายป้ายสี ฝ่าบาทไม่เคยสนใจเรื่องราวเหล่านั้นอยู่แล้วจึงมีบางเรื่องที่อาจยังไม่รู้”

“งานราชสำนักสำคัญที่สุดการเป็นอยู่ของราษฎรเองก็สำคัญไม่น้อย เรื่องวังหลัง เป็นเพียงหน้าที่เท่านั้นไม่ว่าฮองเฮาหรือสนม ข้าล้วนทำไปตามหน้าที่เพื่อไม่ให้บกพร่อง หาได้มีความรักใคร่มาเกี่ยวข้อง”

จางหลงเอนหลังลงนอน หลับตาลงช้าๆ เรื่องที่ไทฮองเฮากับเสี่ยวซาน พูดเมื่อครู่ทำเอาเขาคิดมากอย่างนั้นหรือ ไม่เลยเขาไม่เคยคิดมากและใส่ใจ ในเมื่อสนมของเขามีถึงหกตำหนักสามพันนาง จะให้ใส่ใจทุกคนได้อย่างไรกัน จะว่าไปนางคงเป็น หนึ่งในสนมคืนเดียว ด้วยกระมังแม้แต่ใบหน้าหรือชื่อของนางเขาจึงไม่อาจจดจำ

ไหนจะเรื่องการรักษาบัลลังก์แห่งนี้ไว้อีกเล่า

ซินเฟยชันกายลูกขึ้นรู้สึกเจ็บปวดที่บาดแผลที่หลัง จนไม่อาจขยับตัวได้อีกต่อไปนอนแผ่หราบนลานกว้างในตำหนักเย็น หลับตานอนเอาแรงเสียหน่อยคงจะดีขึ้น ในเมื่อตอนนี้แม้แต่แรงจะขยับตัวยังไม่มี แผลถูกโบยบาดลึกน่าจะตายไปเสียแต่ เมื่อยังไม่ครบร้อยทีแล้ว ซินเฟยกัดฟันทน และยังไม่ตายจึงถูกนำตัวมาไว้ที่นี่ คงคิดว่าอย่างไรเสียก็คงต้องตายอยู่ดี

“กินน้ำเสียหน่อย”ร่างเลือนรางเหมือนในความฝันพยุงตัวซินเฟยก่อนจะจ่อถ้วยน้ำลงบนริมฝีปากแห้งผาก

“เจ้าไม่ผิดใช่ไหม สวรรค์จึงมีตาให้เจ้ารอดมาเช่นนี้”

ซินเฟย ยิ้มเศร้าๆผิดหรือไม่ผิดก็ไม่อาจโต้แย้ง ลูกในท้องของใครซินเฟยรู้ดี แต่ถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกของใครไม่รู้ที่อยู่ๆก็มีคนเห็นผ่านเข้าออกยังห้องของซินเฟยสองสามครั้งทั้งๆที่ซินเฟยไม่เคยรู้จักคนผู้นั้นมาก่อน แล้วฮองเฮาก็ส่งมาคนจับเขาตัดหัวทันที ส่วนจินเฟยก็ถูกโบยเสียจนปางตาย

“เพื่อรักษาพระเกียรติของฝ่าบาท ข้าฮองเฮาในฐานะผู้ดูและวังหลังจึงมีบัญชาให้โบยนางร้อยที”

“คนที่ถูกส่งมาที่นี่หากผิดก็จะตายไปเสียหากไร้ความผิดเช่นเจ้ากับข้า มักจะมีชีวิตยืนยาว ข้าพยุงเจ้าลุกไม่ไหวตอนนี้ทำได้เพียงเท่านี้”

ร่มใบหญ่เก่าครำคร่าถูกกางกันแดดลมให้ซินเฟย ผมขาวโพลนบนศรีษะ นางคงอยู่ที่นี่มาเนิ่นนาน ซินเฟยหลับตาลงอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงความปวดแสบที่บาดแผลเมื่อหญิงคนนั้นนำยาสมานแผลที่บดขึ้นเองมาป้ายที่แผ่นหลังที่ชุ่มไปด้วยเลือด

ตำหนักชิงหนิงกง

“ฝ่าบาทเครื่องเสวยวันนี้ล้วนเป็นของชอบของฝ่าบาท ใบหน้าหล่อเหลาพยักหน้าขึ้นลง นั่งบนโต๊ะเสวยพุ้ยข้าวใส่ปากหลังจากที่ขันทีทดสอบพิษเรียบร้อยแล้ว

“นางทำผิดอะไร”ใบหน้ายังเรียบเฉยแต่แววตาไหววูบ

“ฝ่าบาทอย่าทรงกังวลไป ซูจินสำเร็จโทษนางไปแล้วนางแอบลักลอบมีอะไรกับองครักษ์ชั้นต่ำจนตั้งครรภ์ป่านนี้นางคงตายไปเสียแล้วถูกโบยถึงร้อยที”

ใบหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม

“ดีแล้ว…”

คำพูดขาดหายไปในลำคอไม่ได้รู้สึกอะไร แค่เพียงรับรู้อย่างที่เขาคิดว่าควรเป็นเช่นนั้น ซูจินยิ้มบางๆ

“ฝ่าบาทวันนี้จะค้างที่ตำหนักชิงหนิงกงหรือว่าต้องการจะเลือกป้าย”เดินเข้าใกล้ซูจินประคองกอด เบาๆ

“ค้างที่นี่ ป้ายพรุ่งนี้ข้าค่อยเลือกจะดีกว่าวันนี้ข้าอ่านฎีกามาทั้งวัน รบกวนให้ฮองเฮานวดให้หน่อยจะดีไม่น้อย”

ซูจินยิ้ม ก่อนจะซบหน้าลงบนอกกว้าง จางหลงตบที่ไหล่เบาๆอย่างเอาใจ เขาเอาใจใครไม่เป็นกิริยาที่ทำทั้งหมดเพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สึกว่าเขาแปลกไปต่างหาก

ซินเฟย ตะแคลงตัวมองหาหญิงคนเดิม แต่ก็ไม่พบเมื่อฟ้าเริ่มมืดความหนาวเหน็บมาเยือนยกมือขึ้นกอดอกแน่น เพียงครู่เดียวที่หลับตาผ้าฝ้ายฝืนใหญ่ก็ห่มคลุมร่างให้อุ่นสบาย

“ลองขยับตัวดูเจ้าต้องเข้าไปข้างในกับข้าแล้วหิมะทำท่าจะตก คงร่วมเสียใจกับเจ้า”

ซินเฟยรู้สึกปวดท้องจนแทบทนไม่ไหว เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นที่ใบหน้า

“อาวุโสข้าปวดท้องเหลือเกิน”

มือเหี่ยวคลำที่ท้องเป็นก้อนแข็งของซินเฟยไปมา เลือดสีแดงไหลเปรอะเปื้อนเป็นทางลงไปยังเท้าเปลือยเปล่า หญิงชราส่ายศรีษะไปมา

“เจ้าคงรักษาเขาไว้ไม่ได้แล้ว”

ซินเฟยปล่อยน้ำตาไหลริน สี่เดือนที่เฝ้าฟูมฟักดูแลตัวเองอย่างดี เพื่อมาถึงวันนี้อย่างนั้นหรือ

“เขาเป็นลูกของใคร”

ซินเฟยหลับตาไล่หยาดน้ำตา เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

“ช่างเถอะ เขาไม่สมควรได้เกิดมา ในเมื่อไร้ซึ่งความรักมีเพียงความเฉยชา”

“สวรรค์เปิดทางให้เจ้าต่างหาก พักผ่อนเสียเจ้าเสียเลือดมากไป ข้าจะออกไปขอแบ่งยาจากท่านหมอมาให้เจ้า”

ซินเฟยพยักหน้าก่อนจะหลับตาลงช้าๆ

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ จันทร์ส่องแสง

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ