5.0
ความคิดเห็น
1.4K
ชม
13
บท

เลิกแอ๊บต่อหน้าพี่นะครับ พี่ชอบเวลาหนูรับบทสาวแซ่บมากกว่า

บทที่ 1 พี่ชาย

ก๊อกก๊อก!

“เบ๊บ เบ๊บบี้ครับเปิดประตูให้พี่หน่อยครับ” เสียงเคาะประตูพร้อมเสียงเรียกจากหน้าห้องทำให้เด็กสาวที่กำลังนอนดูซีรีย์อย่างสนุกนั้นต้องกดหยุดมันไว้ก่อนจะลุกเดินไปเปิดประตูห้อง

“ว่าไงคะ พี่บอนซ์มาขัดจังหวะหนูดูซีรีย์อีกแล้วนะคะ”

“ขอโทษครับ พอดีพี่ซื้อขนมครกมาฝากลงไปกินก่อน กำลังร้อนๆ”

“ไปไหนมาเหรอคะ” เดินไปปิดซีรีย์ หยิบโทรศัพท์แล้วเดินตามพี่ชายลงไปชั้นล่าง “พ่อกับแม่ก็ไม่อยู่หรอกเหรอ?” พึมพำเบาๆเมื่อภายใบ้านเงียบสงัด

“ท่านไปเที่ยวกับเพื่อนน่ะ บอกว่าขี้เกียจบอกเราเดี๋ยวจะร้องขอตามไปด้วย”

“ไม่อยากให้ลูกสาวไปเที่ยวด้วยสินะ”

“หนูไปเที่ยวทีไร กลายไปเป็นภาระพวกเขาทุกครั้ง”

“พูดงี้ แล้วสรุปพี่บอนซ์ไปไหนมาคะ?” เอ่ยถามต่อ เมื่อยังไม่ได้คำตอบที่ต้องการ ก้าวขาเดินไปนั่งบนโซฟาผ้ากำมะหยี่สีชมพูอ่อน หยิบขนมครกขึ้นมาเป่าแล้วนำเข้าปาก

“ไปหาเด็กมาครับ” นั่งตรงข้ามน้องสาว เอ่ยบอกไม่เต็มเสียงมากนัก

“แฟน?”

“แค่คุยๆ กันอยู่น่ะ”

“พ่อกับแม่รู้หรือเปล่าคะ”

“ยังไม่ได้บอก แค่คุยยังไม่ได้คบไง”

“ไม่ต้องบอกหรอกค่ะ”

“ทำไมครับ”

“ยังไงก็ไม่ได้คบ” พูดจบก็ยกมือเล็กๆ ขึ้นมาปิดปากหัวเราะคิกคักราวกับเป็นเรื่องตลก ทั้งที่มันเป็นเรื่องที่น่าเครียดสำหรับพี่ชายอย่างบอนซ์

“พูดแบบนี้มันน่าตีปากนักนะ”

“ล้อเล่นค่ะ แล้วเป็นใครหนูรู้จักไหมคะ”

“ไว้ได้คบค่อยบอกได้ไหมครับ?”

“ได้สิคะ” เพราะพี่ชายไม่ค่อยสมหวังในความรัก เมื่อก่อนคุยกับใครก็มาบอกพ่อแม่มาเล่าให้เธอฟังว่าผู้หญิงดีแบบนี้แบบนั้นผ่านไปไม่กี่วันก็เลิกเพราะผู้หญิงที่แสนดีคนนั้นไปมีคนอื่น และเป็นแบบนั้นอยู่หลายครั้งจนพักหลังมานี้พี่ชายไม่ค่อยบอกว่าคุยกับใครอยู่ ตอนนี้เองก็เช่นกัน

“อืม ฝนก็ตกแล้วด้วยสิ”

“ทำไมคะ” มองออกไปนอกบ้าน ประตูยังเปิดไว้ มีฝนกระหน่ำตกลงมา ตกตั้งแต่ช่วงสายๆ จนตอนนี้ทุ่มกว่าๆ แล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด วันนี้เธอไม่ได้ไปไหนจึงขลุกอยู่ในห้องทั้งวันเลย ขนาดพ่อกับแม่หนีไปเที่ยวกันยังไม่รู้อ่ะ

“พี่ว่าจะมาอาบน้ำน่ะ”

“จะไปนอนบ้านเด็กเหรอคะ”

“ใช่ แต่ว่า...เบ๊บอยู่คนเดียวได้ไหมครับ” นัดสาวไว้ตั้งแต่สองวันก่อนแล้วว่าวันนี้จะไปนอนด้วย ทว่าวันนี้จู่ๆ คุณพ่อสุดหล่อกับคุณแม่สุดสวยก็หนีไปเที่ยวอย่างไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า

ใจนึงก็อยากทิ้งน้องไปหาสาว อีกใจก็อยากเทสาวเพื่ออยู่เป็นเพื่อนน้อง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Thararintr

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

วิวาห์ฟ้าแลบ

วิวาห์ฟ้าแลบ

Rock La porte
5.0

[แสนหวาน + วิวาห์ฟ้าแล่บ + แต่งงานก่อน แล้วรักทีหลัง] แฟนที่หลู่ชิงชิงเลี้ยงดูมาหลายปีกลับนอกใจเธอ แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของเธอ? เธอทนต่อกับเรื่องนี้ไม่ได้ และไปสมัครขอแต่งงานโดยตรง และแต่งงานกับชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็ว หลังจากการแต่งงานแล้ว ชายคนนั้นคำหนึ่งก็ว่าเขาจะออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดในครอบครัวสองคำก็ว่าจะเลี้ยงดูเธอ หลู่ชิงชิงเยาะเย้ยคิดว่ามันเป็นกลอุบายและคำโกหกของผู้ชายอีกแล้ว โดยไม่คาดคิดว่าชายคนนี้กลับกลายเป็นคนให้ความสำคัญกับภรรยาตัวเองจริงๆ ทั้งสนับสนุนอาชีพการงานของเธอและยังช่วยเธอทำงานบ้านด้วย และให้เธอตกแต่งบ้านตามใจชอบ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจยิ่งกว่านั้นคือทุกครั้งที่เธอประสบปัญหา เขาก็สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ตลอด ทุกครั้งที่เธอถามเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เขามักจะหัวเราะและเปลี่ยนเรื่องอย่างฉลาดโดยชมเธอว่าเป็นคนมีความสามารถ ทำงานเก่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง ภายใต้การเลี้ยงดูจากสามีของเธออย่างต่อเนื่อง เธอก็ประสบความสำเร็จเช่นกัน จากนั้นเธอถึงพบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งในนิตยสารการเงินระดับโลกที่ดูเหมือนสามีของเธอทุกประการ...

เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก

เจ้าสาว(ไม่)ปรารถนารัก

คุณธิดา
5.0

นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ