ร้านแพรลับของคุณหนูสาม

ร้านแพรลับของคุณหนูสาม

หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง

5.0
ความคิดเห็น
5.2K
ชม
46
บท

เว่ยหย่งฮวาดาราตกกระป๋อง ที่โชคชะตาเล่นตลก ให้เธอฟื้นคืนชีพในโลงศพ กลายเป็นคุณหนูสามของจวนเสนาบดีตระกูลเว่ย สตรีที่มีชื่อแซ่เดียวกัน แต่ไหน ๆ ก็มาแล้วนางขอเป็นคุณหนูสามที่จะสร้างตัวตนให้เป็นที่เลืองลือในโลกจีนโบราณนี้ให้ได้ เปิดร้านแพรลับแฟชั่นทันสมัยและงดงามไม่เหมือนใคร ชื่อเสียงโด่งดังจนมีตัวปลอมโผล่มาอ้างเป็นเจ้าของร้านแพรลับงานนี้คุณหนูสามเจ้าของร้านแพรลับตัวจริงไหนจะยินยอม ชีวิตใหม่ของเว่ยหย่งฮวามีเรื่องให้ตื่นเต้นทุกวัน ไหนจะหาเงินเพื่อไม่ให้ตัวเองไร้ค่า ไหนต้องรับมือกับคนขี้อิจฉา ไหนจะมีน้องชายจอมแสบที่สร้างปัญหาให้ เรื่องราวของคุณหนูสามจะเป็นอย่างไรโปรดติดตามในเรื่องได้เลยเจ้าค่ะ +++++ เมื่อดาราสาวต้องกลายเป็นคุณหนูสามตระกูลเว่ย เรื่องวุ่นวายจึงบังเกิด ไหนต้องหาเงิน ไหนต้องรับมือกับคนขี้อิจฉา ไหนจะมีน้องชายจอมแสบที่ชอบก่อเรื่องให้ ไหนจะมียอดบัณฑิตแห่งต้าซานมาตามเกี้ยว เป็นเว่ยหย่งฮวาไม่ง่ายนัก แต่นางจะฝ่าทุกวิกฤตพร้อมมีชื่อเสียงเลื่องลือ!

บทที่ 0 บทนำ ดาราตกกระป๋อง

เสียงสังสรรค์ในงานเลี้ยงหลังปิดกล้อง ทำให้เว่ยหย่งฮวาอดรู้สึกน้อยใจตัวเองไม่ได้ เพราะท่ามกลางผู้คนที่มากมายนี้ตัวเธอกลับโดดเดี่ยว

นอกจากผู้จัดการชั่วคราวที่ออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอกแล้ว ก็ไม่มีใครเห็นหัวนักแสดงอิสระคนนี้อีก

ไม่ว่าจะเป็นงานครั้งที่เท่าไรเว่ยหย่งฮวาก็ไม่เคยชินได้เลย อาจเพราะเธอไม่ยอมปีนขึ้นเตียงผู้กำกับพวกนั้น ทำให้เธอเป็นเพียงดาราลำดับสามที่กำลังตกกระป๋องเท่านั้น แต่เธอยอมเป็นดาราตกกระป๋องดีกว่าเป็นของเล่นให้ชายวัยกลางคนที่อ้วนลงพุงแบบนั้น

"ทำไมถึงยังนั่งอยู่อีกกันนะ ไม่รู้สึกถึงบรรยากาศรอบตัวบ้างเหรอ"

เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง ที่นั่งในห้องจัดเลี้ยงเป็นแถวยาวสามแถว เว่ยหย่งฮวานั่งอยู่แถวด้านในของโต๊ะจัดเลี้ยงแถวแรก เธอจำเสียงนั้นได้เพราะต่อบทกันมานักต่อนักแล้ว

"อย่าพูดไปเชียวนะ ทำงานมาไม่รู้กี่ปีต่อกี่ปี ยังขึ้นแท่นนางเอกอันดับต้น ๆ ไม่ได้เลย"

เว่ยหย่งฮวาอดจะกรอกตาไม่ได้จริง ๆ ก็คนที่พูดอยู่เมื่อไม่กี่วินาทีก่อน ความเป็นมนุษย์ช่างย้อนแย้ง แล้วที่เธอไม่ได้ขึ้นเป็นนางเอกก็เพราะไม่ได้ปีนขึ้นเตียงเหมือนเจ้าหล่อนไง

"เบาเสียงหน่อย เจ้าตัวอาจจะได้ยินนะ"

ผู้พูดก็อยากได้แสงเหลือเกิน ต่อให้เบาขนาดไหนก็ยังได้ยินอยู่ดี ที่นั่งห่างกันเพียงหนึ่งศอกกัน นินทาระยะเผาขนขนาดนี้ไม่ได้ยินก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว

ถ้าเทียบกับนักแสดงมีสังกัดล่ะก็ เว่ยหย่งฮวายอมรับว่าตัวเองไม่ค่อยมีชื่อเสียงจริง แต่ในหมู่นักแสดงอิสระด้วยกันก็ถือเป็นระดับต้น ๆ ที่ผู้คนจะรู้จัก

แต่เมื่อทำงานให้คนที่มีบริษัทเป็นรูปธรรม ต่อให้เธอจะมีความสามารถแค่ไหน บริษัทก็จะต้องเอาคนของตัวเองไว้ก่อนอยู่แล้ว

ไม่แปลกเลยเพราะหากเป็นเธอก็จะทำแบบเดียวกัน แต่การนินทาว่าร้ายกันทั้งต่อหน้าและลับหลังอย่างนี้เธอรับไม่ได้จริง ๆ

"ได้ดีเพราะว่าเรามีนางเอกแท้ ๆ กระแสก็ดังมาก ๆ ตัวเองไม่มีอะไรมาให้เทียบได้เลยต้องทำแบบนี้สินะ"

"ไม่พูดเกินไปหน่อยเหรอ เสียงเธอชักจะดังขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะ เมาแล้วหรือเปล่าเนี่ย"

"ฉันไม่เมา ฉันคอแข็งจะตาย"

เสียงยานคางขนาดนั้นเอาตรงไหนมาไม่เมาล่ะ

เว่ยหย่งฮวาแอบค้านในใจ หากไม่ติดว่าเธอเสียเปรียบ คงจะนินทากลับไปหลายประโยคแล้ว แต่กองถ่ายนี้ไม่มีเพื่อนร่วมวงสนทนากับเธอได้จริง ๆ แม้จะเป็นกองถ่ายของผู้กับกับชื่อดัง

แต่เห็นได้ว่าทุกคนที่เขาเลือกมาแสดงล้วนมีเส้นมีสายทั้งนั้น คงมีแต่เธอที่ถูกถูกเลือกอย่างงง ๆ และนี่คงเป็นเป้าหมายให้ดาราคนอื่นจ้องจะเล่นงานเธอตลอดเวลาแบบนี้ เมื่อไม่มีโอกาสกลั่นแกล้งเธอก็ใช้ปากนินทาแทน

"ถึงเธอจะเป็นตัวละครเอกหญิงคนหนึ่ง เห็นได้ชัดเลยนะว่าไม่ว่าพระเอกหรือพระรองก็ไม่เลือกเธอ"

"ได้สิหยิ่งผยองขนาดนั้นใครจะอยากเข้าใกล้"

คนฟังเริ่มสับสนแล้วว่าตกลงนินทาเรื่องในชีวิตจริงหรือเรื่องในละครกันแน่ เพราะดูเหมือนจะเอามาปะปนกันจนเลอะเทอะไปหมด

แม้จะเป็นเรื่องที่ควรทำตัวให้ชิน แต่เว่ยหย่งฮวาก็อดหงุดหงิดไม่ได้ว่าทำไมจะต้องให้ชินกับเรื่องแบบนี้ด้วย ไม่มีใครสมควรต้องเจอเลย แต่ก็อย่างว่าแหละ

นี่คือโลกบันเทิงมีใครบ้างที่จะไม่โดนนินทา แม้แต่นางเอกแสนดีมีเงินหลายร้อยล้านหยวนก็ยังถูกนินทา นับประสาอะไรกับดาราไร้สังกัดที่กำลังตกกระป๋องอย่างเธอกัน

"คือว่า นี่ดึกมากแล้ว คงต้องขอตัวก่อนนะคะ"

เว่ยหย่งฮวาลุกขึ้นแล้วเอ่ยลาทีมงาน เธอรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับที่นี่อย่างรุนแรง ความกดดันนี้เกินจะทำใจอยู่ต่อได้ จนกระทั่งจะกลับแล้วก็ยังไม่มีใครสนใจเธอเหมือนเดิม หญิงสาวทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินออกมาเงียบ ๆ

งานที่ส่งคำขอมาจากบริษัทนี้ในอนาคตคงต้องปฏิเสธให้หมด เรื่องเงินก็สำคัญแต่สุขภาพจิตสำคัญกว่า

เดินออกมาจากร้านได้ไม่นานโทรศัพท์มือถือก็ส่งเสียงแจ้งเตือนออกมา เธอหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าเป็นข้อความจากลูกพี่ลูกน้อง เว่ยหย่งฮวาฝากร้านเสื้อผ้าแบรนด์เล็ก ๆ ให้เธอคนนี้ช่วยดูแลระหว่างทำการถ่ายทำภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ที่เธอรับงานช่วงนั้น

ข้อความนั้นไม่มีอะไรมาก นอกจากการบอกว่าสินค้าล็อตใหม่มาถึงแล้ว

เว่ยหย่งฮวาเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าแฮนด์เมดขนาดเล็ก ทุกชิ้นปักประดับด้วยมือ บางตัวก็ใช้กรรมวิธีแตกต่างไป แต่ทั้งหมดถูกทำขึ้นด้วยมือชิ้นต่อชิ้น และเพราะอัตราการผลิตที่ทำได้ช้าและยอดผลิตต่ำนี่เอง ทำให้แบรนด์ของเธอพูดได้เต็มปากเลยว่าเป็นแบรนด์ขนาดเล็ก

ทว่าราคาของมันนั้นสูงพอสมควร เจ้าของแบรนด์อย่างเธอเลยพออยู่ได้ แม้ว่างานนักแสดงอิสระจะไม่ราบรื่นนักก็ตาม เว่ยหย่งฮวาไม่ได้ดื่มมากนัก ยังพอมีสติหลงเหลืออยู่เทียบเท่าคนทั่วไปที่ไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์

เว่ยหย่งฮวาอยากจะกลับไปพักผ่อนที่บ้านเต็มที เธอจึงตอบข้อความกลับไปว่าให้ลูกพี่ลูกน้องคนนั้นปิดร้านได้เลยเมื่อถึงเวลา เพราะวันนี้เธอจะไม่เข้าไป

เว่ยหย่งฮวาไปที่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งใจจะซื้ออะไรไว้กลับไปทานที่บ้านเพิ่ม อาหารงานเลี้ยงปิดกองมีมากมายแต่เธอแทบไม่ได้แตะอะไรบรรยากาศแบบนั้นคนที่จะกินได้อร่อยก็คือคนที่ไม่มีปัญหากับใคร

เว่ยหย่งฮวาเชื่อว่าตัวเองไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน ส่วนใหญ่เป็นการหาเรื่องจากฝ่ายนั้นเองทั้งนั้น

ทั้งที่วันนี้หน้าตาอาหารน่าทานเป็นอย่างมาก แต่บรรยากาศงานเลี้ยงกลับแย่ที่สุดที่เธอเคยเจอ งานก่อนหน้านี้ไม่ว่าภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ ทุกคนให้เกียรติเธอแม้ว่าเป็นนักแสดงอิสระ

เว่ยหย่งฮวายืนรอขึ้นรถบัสสายประจำที่ป้ายรถ แต่แล้วฝนก็ตกลงมาอย่างหนักไม่ทันตั้งตัว เธอรีบเข้าไปหลบในซุ้มที่นั่งแบบมีหลังคา

เว่ยหย่งฮวาอดคิดไม่ได้ว่าชีวิตวันนี้จะซวยซ้ำซวยซ้อนเกินไปแล้ว และเพื่อตอบสนองความคิดนั้นให้เด่นชัดขึ้นไป รถยนต์ที่ขับผ่านมาด้วยความเร็วระดับหนึ่งก็เหยียบน้ำขังที่พื้นก็กระเด็นมาโดนตัวเธอ

นักแสดงสาวอยากจะกรี๊ดแต่ก็กรี๊ดไม่ออก สงสัยวันนี้จะไม่ใช่วันของเธอจริง ๆ รู้สึกว่าดวงไม่ดีตั้งแต่เช้าแล้ว

เว่ยหย่งฮวาเปลี่ยนใจไม่ใช้รถโดยสารประจำทางเพื่อกลับบ้าน แต่เรียกแท็กซี่แทน แอพลิเคชั่นเพื่อความสะดวกสบายถูกจัดทำขึ้นหลายโปรแกรมหลายวัตถุประสงค์ เป็นความสะดวกในชีวิตอย่างหนึ่งตั้งแต่เข้าสู่ยุคการใช้เทคโนโลยีในชีวิตประจำวันเกือบทั้งหมด

รถโดยสารที่เว่ยหย่งฮวาต้องการมาถึงแล้ว เธอใช้เสื้อคลุมตัวเองพับแล้วลองเบาะไว้อีกชั้นก่อนขึ้นไปนั่ง

เว่ยหย่งฮวาบอกจุดหมายปลายทางแล้วก็เงียบไปตลอดทาง ความรู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยล้า ทำให้เธอแทบจะผล็อยหลับอยู่ในรถ แต่เพื่อปลอดภัยของตัวเองตลอดการเดินทาง เธอไม่ควรหลับและปล่อยให้คนขับมองทางคนเดียว

เว่ยหย่งฮวาพิมพ์ข้อความกลับไปหาลูกพี่ลูกน้องคนนั้น ทั้งสองคุยกันสีหน้าเคร่งเครียด

หรือว่าเธอจะเจอดีเข้าให้แล้ว โรงงานที่จ้างผลิตสินค้าไปในครั้งนี้ราคาสูงกว่าที่อื่น เธอจึงคิดว่ามันคุ้มค่า แต่สินค้าทุกตัวที่ส่งมาครั้งนี้กลับมีปัญหา

เว่ยหย่งฮวาก้มหน้าดูจอ โต้ตอบกับลูกพี่ลูกน้องคนนั้นไม่หยุด เธอรื้อแล้วถ่ายรูปมาให้เห็นชัด ๆ เลยว่าคุณภาพสินค้าไม่ผ่านมาตรฐานเธออย่างแรง

"ขอโทษนะ คุณช่วยเปลี่ยนไปส่งที่...หน่อยได้ไหม"

เว่ยหย่งฮวาตัดสินใจเปลี่ยนจุดหมายทันที อย่างไรก็ต้องไปจัดการด้วยตัวเอง เพราะสินค้าชุดนี้เหมือนจะย่ำแย่จริง ๆ เธอถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ช่วงนี้เธอซวยซ้ำซวยซ้อนจริง ๆ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้

วาสนาของบุรุษผู้นั้นที่อกหักสิบครั้งก็ไม่ยอมแพ้

โรแมนติก

5.0

ทั่วทั้งแคว้นอ้ายคงมีเพียงบุรุษเช่นหัวหน้ากลุ่มต้าหยางเท่านั้นที่ยอมแต่งเข้าบ้านภรรยา เพราะนั่นมันเท่ากับว่าเขายอมอยู่ใต้บารมีของภรรยา และยอมให้ภรรยาเป็นใหญ่ ทว่าบุรุษที่อกหักมาสิบครั้งอย่างเขา ไม่อยากจะอกหักเป็นครั้งที่สิบเอ็ดแล้วนี่นา อีกทั้งคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางเองก็ใจตรงกัน เรื่องธรรมเนียมอะไรนั่นก็ช่างมันเถิด เทียนจื่อซานแทบจะถูกเรียกว่าเป็นบุรุษอาภัพในรัก ด้วยเพราะเวลาไปเกี้ยวสตรีบ้านไหน จุดจบก็หนีไม่พ้นการถูกปฏิเสธ จนกระทั่งเขาได้มาเจอกับกู้หลินฟาง ไม่แน่ใจว่าเป็นเมตตาจากท่านเทพบนสวรรค์ หรือเทพมารต้องการให้เขาทำลายสถิติอกหักอีกครั้งกันแน่ แต่เขา... เทียนจื่อซานไม่ขอยอมแพ้ และจะเกี้ยวคุณหนูใหญ่กู้หลินฟางอีกสักครั้ง

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย

โรแมนติก

5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 2

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 2

โรแมนติก

5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 1

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย เล่ม 1

โรแมนติก

5.0

จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - - ตัวอย่างในเล่ม “ดูสิ ฉันจะได้อะไร” หลิวตานถูมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะบอกระบบว่าเริ่มสุ่มวงล้อ “ระบบเริ่มสุ่มวงล้อได้เลย” ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่งามมองวงล้อสุ่มของรางวัลที่หมุนไปมาด้วยความประหม่า เพราะมันเป็นของรางวัลชิ้นแรกที่เธอคาดหวัง ไม่รู้มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้ช่วยสี่แม่ลูกได้ยิ่งดี   “เมล็ดพันธุ์ผักกาด?”  หลิวตานมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่น้ำตาตกในเมื่อของรางวัลที่แลกมากับการไปตัดหญ้ามาให้หมูคือเมล็ดพันธุ์ผักกาด! 

ชายพิการผู้นั้นที่ใครไม่เห็นค่านางจะเป็นภรรยาของเขาเอง

ชายพิการผู้นั้นที่ใครไม่เห็นค่านางจะเป็นภรรยาของเขาเอง

โรแมนติก

5.0

ไป่จวิ้นเดิมทีก็เป็นเพียงทหารชั้นผู้น้อย ที่ไม่น่าจะได้รับความสนใจอะไรในกองทัพ ทว่าเมื่อสงครามจบลง และกลับมาพร้อมชัยชนะ เขาจึงได้เงินรางวัลมาจำนวนหนึ่ง ส่วนหนึ่งเพื่อปลอบขวัญที่ต้องจากบ้านไปเป็นระยะเวลานาน อีกส่วนก็เป็นสินน้ำใจตอบแทนที่เขาต้องกลายเป็นคนที่ไม่ต่างจากคนพิการ เดินเหินไปไหนก็ไม่คล่องแคล่วเช่นเมื่อก่อน และเรื่องนี้ก็สร้างความกลัดกลุ้มให้กับมารดาของเขาอย่างมาก เพราะไม่ว่าจะส่งเทียบดูตัวไปสักกี่ครั้งต่างก็ถูกปฏิเสธ ทว่ามีเพียงสตรียากจนที่เป็นเพียงบุตรสาวของชาวนาจน ๆ คนหนึ่งเท่านั้นที่ยินยอมแต่งเข้าสกุลไป่ แรกทีเดียวไป่จวิ้นไม่ใคร่จะชอบใจภรรยาของตนนัก ด้วยคิดว่านางยินยอมแต่งกับชายพิการเช่นเขาเพียงแค่เพราะเรื่องเงินทอง แต่ความอ่อนโยนและมุ่งมั่นที่จะดูแลเขาของ จางอวี๋จิง’กลับค่อย ๆ ละลายน้ำแข็งในใจของชายหนุ่มลงอย่างช้า ๆ ส่วนทางจางอวี๋จิง นางก็เริ่มมองเห็นความอบอุ่นของสามีที่นางไม่คิดว่าจะรักได้คนนี้เพิ่มขึ้นทุกวัน และนางก็ได้ตั้งปณิธานอันแน่วแน่ว่า จากนี้ไปจะขอเป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ต่อเขาไปจนชั่วชีวิต สามีของนางพิการเดินเหินไม่สะดวกแล้วอย่างไร นางจะขอเป็นแขนขาให้แก่เขาเอง

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สามีข้าเป็นหมีแพนด้าผู้คลั่งรัก

สามีข้าเป็นหมีแพนด้าผู้คลั่งรัก

รวิญาดา ผการุ้ง
5.0

หลิวชิวเยว่จบชีวิตจากชาติภพปัจจุบัน เมื่อฟื้นขึ้นมาก็อยู่ในร่างของหญิงอ้วน ชื่อเดียวกับตัวเอง อีกทั้งตัวเธออยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวกำลังจะไปแต่งงานกับแม่ทัพเสิ่นมู่ฉือ แม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นชิงเป่ย จากซีอีโอสาวแสนสวย ผู้ทระนงตนว่า ฉันสวย รวยและเริ่ดในปฐพี ต้องกลายมาเป็นหญิงอ้วน น้ำหนักร่วมสองร้อยจิน (100กิโลกรัม) แถมด้วยฉายา สตรีกาลกิณี ! แล้วข่าวลือที่ว่าแม่ทัพหนุ่มสามีของเธอ เป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ (ชอบผู้ชาย) นั้นเป็นจริงหรือไม่...จำต้องพิสูจน์ให้กระจ่าง! ทว่า... ยามจันทร์เต็มดวง หลิวชิวเยว่กลับค้นพบความลับของสามี เมื่อเขากลายร่างเป็น หมีแพนด้า ! หลิวชิวเยว่จะใช้ชีวิตในยุคจีนโบราณอย่างไรให้แฮปปี้ เมื่อต้องมีสามีเป็น หมีแพนด้าผู้คลั่งรัก !

วิวาห์ตัวสำรอง ชุด เจ้าสาวพรหมจรรย์ของมหาเศรษฐี

วิวาห์ตัวสำรอง ชุด เจ้าสาวพรหมจรรย์ของมหาเศรษฐี

เนื้อนวล
4.9

เคลวิน แม็คคลาเรน ถูกคู่หมั้นหักหน้าด้วยการประกาศแต่งงานกับชายคนอื่น ด้วยความคั่งแค้นที่ถูกหยามหน้า ทำให้เขาว่าจ้างเด็กสาววัยกำดัดที่ตนเองอุปการะเอาไว้มาแต่งงานด้วย เพื่อเอาคืนคนเคยรักให้กระอักเลือด เพราะบุญคุณล้นหัว ทำให้เฌอปรางต้องยอมลงชื่อในสัญญาจ้างแต่งงาน แทนที่ผู้หญิงคนนั้นที่เขารักมาก "เธออ่านสัญญาละเอียดหรือยัง" "หนูอ่านละเอียดแล้วค่ะ" "ถ้าอ่านละเอียดแล้ว เธอคงรู้ข้อห้ามทั้งสามข้อที่เธอต้องทำให้ได้แล้วใช่ไหม" "ค่ะ หนูทราบแล้วค่ะ" "งั้นลองบอกฉันมาสิ ว่าข้อห้ามมีอะไรบ้าง" หล่อนช้อนตาขึ้นมองผู้มีพระคุณด้วยสายตาที่ซ่อนความเศร้าเอาไว้แทบไม่มิด "ข้อแรก หนูไม่มีสิทธิ์ในตัวของคุณค่ะ" "ถูกต้อง" เขายิ้มอย่างพอใจ "แล้วข้อสองล่ะ" หล่อนกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผาก "ห้ามรักคุณค่ะ" เขายิ้มอย่างพอใจอีกแล้ว "แล้วข้อสามล่ะ" "ห้าม... เอ่อ... ห้ามปล่อยให้ท้องค่ะ เพราะถ้าท้อง คุณจะไม่รับผิดชอบ" "ถูกต้อง และฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด" หล่อนไม่มีทางเลือกนอกจากฝืนยิ้มออกไป "แล้วถ้าครบสัญญาหกเดือนแล้ว เอ่อ... หนูต้องไปจากที่นี่ไหมคะ" "ฉันคิดว่ามันจะดีสำหรับเรา หากไม่ต้องเห็นหน้ากันอีก หรือเธอคิดว่าไง" ท่าทางของเขาเย็นชา ไร้หัวใจ ทำราวกับกำลังเจรจาธุรกิจไม่มีผิด "เอ่อ หนูแล้วแต่คุณค่ะ" เธอทำได้แค่ฝืนยิ้ม ซ่อนน้ำตา ให้กับผู้ชายที่ตรเองทั้งรักทั้งบูชาเท่านั้น แต่ใครจะรู้เล่าว่า เมื่อสัญญาจบสิ้นลง เธอได้เดินจากไปพร้อมกับเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

หนี้รักหมอสาว

หนี้รักหมอสาว

ปีศาจชอนซา
5.0

บทนำ หมอพุฒตาล ศัลยแพทย์ทั่วไป เรียนจบด้วยเกรดนิยมอันดับหนึ่ง เธอกลายเป็นหมอผ่าตัดมือหนึ่งของโรงพยาบาล ด้วยชีวิตที่คิดอุทิศให้กับวงการแพทย์ ทำให้หมอพุฒตาลไม่เคยข้องแวะกับชายใด แม้จะมีหนุ่มเข้ามาจีบไม่เว้นวัน เมื่อบิดาของเธอเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ เพราะการผ่าตัดที่ล่าช้า เนื่องมาจากช่วงเวลานั้น ขาดหมอเฉพาะทาง เหตุผลนี้จึงเป็นแรงผลักดัน ทำให้เธอตั้งใจเรียนศัลยแพทย์ จนฝีมือด้านการผ่าตัดการวินิจฉัยโรคของหมอพุฒตาล เป็นที่ยอมรับของเพื่อนหมอ และคนไข้ที่มารับการรักษา เมื่อเธอทำงานได้สองปีสิ่งที่ไม่คาดฝันกับชีวิตก็เกิดขึ้น เมื่อมารดาเข้ามาหาเธอถึงห้องพักแพทย์ในโรงพยาบาล สิ่งที่มารดาต้องการคือการให้เธอแต่งงานกับลูกชายของเพื่อน เมื่อนางกู้ยืมเงินเขามาส่งเสียให้เธอเรียน ใครเล่าจะรู้ว่าหมอมือหนึ่งอย่างเธอ จะต้องมาแต่งงานใช้หนี้ผู้ชายที่ไม่เคยพบหน้ากันมาก่อน เงินสิบล้านกับดอกเบี้ยอีกเท่าตัวทางเลือกของหมอพุฒตาล คือการแต่งงานกับชายแปลกหน้าเพียงเท่านั้น เตชิน หนุ่มไฮโซรูปหล่อ เห็นผู้หญิงเป็นแค่เครื่องบำเรอ เขามองความรักเป็นแค่เรื่องล้อเล่น เที่ยวเตร่ไปวันๆ ส่วนธุรกิจของครอบครัวเขาทิ้งให้เตชิต พี่ชายเพียงคนเดียวรับผิดชอบ ความอดทนของผู้เป็นมารดาได้สิ้นสุดลง เมื่อเตชินเที่ยวเตร่ไม่เอาการเอางาน นางจึงยื่นคำขาดด้วยการให้เขาแต่งงานกับหมอพุฒตาล เตชินฟังแค่ชื่อของเธอ เขาถึงกับขำออกมา ชายหนุ่มไม่มีวันแต่งงานกับผู้หญิงเฉิ่ม ๆ แบบนั้นเป็นอันขาด ที่สำคัญเขาไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนมาก่อน แต่เมื่อมารดายื่นคำขาดคือการริบทรัพย์ ทั้งบัตรเครดิตและรถสปอร์ตคันหรู เมื่อไม่มีทางเลือก ชายหนุ่มจำใจยอมตกลงแต่งงาน ซึ่งแน่นอนผู้หญิงคนนั้นต้องทนเขาไม่ได้ และเธอต้องขอหย่าภายในสามเดือน เขาจะแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เธอดู เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรวิ่งเข้ามาในกองเพลิง ที่เขาก่อเอาไว้ เพราะมันพร้อมที่จะเผาเธอให้มอดไหม้ไปในพริบตา!! ************************* ฝากภาค 2 รุ่นลูก ด้วยนะคะ บำเรอรักคุณหมอจ้า*************

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ร้านแพรลับของคุณหนูสาม
1

บทที่ 0 บทนำ ดาราตกกระป๋อง

21/10/2024

2

บทที่ 1 โชคชะตา

21/10/2024

3

บทที่ 2 ศพคืนชีพ

21/10/2024

4

บทที่ 3 ไปเดินตลาดครั้งแรก...

21/10/2024

5

บทที่ 4 เข้าเฝ้าพระพันปี

21/10/2024

6

บทที่ 5 ร้องไห้ครั้งแรกหลังจากข้ามภพมา

21/10/2024

7

บทที่ 6 หาร้านค้า

21/10/2024

8

บทที่ 7 ของขวัญขอบคุณ

21/10/2024

9

บทที่ 8 โรงพนัน

21/10/2024

10

บทที่ 9 ความบังเอิญหรือตั้งใจ

21/10/2024

11

บทที่ 10 เป็นที่รักของทุกคน

21/10/2024

12

บทที่ 11 ส่งเทียบเชิญเหล่าคุณหนู

21/10/2024

13

บทที่ 12 ความตั้งใจของอู๋ซือหนิง

21/10/2024

14

บทที่ 13 เตรียมงานเลี้ยงน้ำชา

21/10/2024

15

บทที่ 14 งานเลี้ยงน้ำชา

21/10/2024

16

บทที่ 15 สิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจ

21/10/2024

17

บทที่ 16 การคัดเลือกช่างปักผ้า

21/10/2024

18

บทที่ 17 อาภรณ์ลายปักที่โดดเด่น

21/10/2024

19

บทที่ 18 ร้านแพรลับ

21/10/2024

20

บทที่ 19 อวดอ้างเป็นเจ้าของร้านแพรลับ

21/10/2024

21

บทที่ 20 พิสูจน์ตัวเอง

21/10/2024

22

บทที่ 21 ผลการตัดสิน

21/10/2024

23

บทที่ 22 เสวี่ยฉง

21/10/2024

24

บทที่ 23 แผนซ้อนแผน

21/10/2024

25

บทที่ 24 กลับตัวกลับใจ

21/10/2024

26

บทที่ 25 เผิงป๋อเฟิง

21/10/2024

27

บทที่ 26 ตามเกี้ยวว่าที่ภรรยา

21/10/2024

28

บทที่ 27 เทศกาลล่าสัตว์

21/10/2024

29

บทที่ 28 ปฏิเสธอย่างจริงจัง

21/10/2024

30

บทที่ 29 สารภาพความในใจ

21/10/2024

31

บทที่ 30 หมั้นหมาย

21/10/2024

32

บทที่ 31 ชุดนางระบำต่างแดน

21/10/2024

33

บทที่ 32 เทศกาลเก็บเกี่ยว

21/10/2024

34

บทที่ 33 จับคู่ให้พี่ใหญ่

21/10/2024

35

บทที่ 34 ขอแต่งงาน

21/10/2024

36

บทที่ 35 งานมงคลสมรส

21/10/2024

37

บทที่ 36 กาลเวลาผันผ่าน

21/10/2024

38

บทที่ 37 เจ้าก้อนแป้งคนที่สอง

21/10/2024

39

บทที่ 38 พาเจ้าก้อนแป้งเดินตลาด

21/10/2024

40

บทที่ 39 พรสวรรค์ของบุตรชาย

21/10/2024