Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ย้อนเวลามาพร้อมกับมิติของอนาคต

ย้อนเวลามาพร้อมกับมิติของอนาคต

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
5.7K
ชม
20
บท

หนิงอวี่ นักวิทยาศาสตร์สาวคนเก่ง ที่ต้องการทดลองเกี่ยวกับการข้ามมิติจากปัจจุบันสู่อดีต ซึ่งเธอนั้นได้ทำการทดลองเรื่องนี้มาร่วมสองปีแล้ว จนกระทั่งวันหนึ่งมีของตกจากฟ้ากลายเป็นกำไลหยกสีเขียวประกาย เธอจึงเข้าไปทดลองข้ามมิติเป็นครั้งสุดท้าย หากไม่ได้ก็จะล้มเลิกการทดลองนี้ แต่ใครจะคิดว่ามันจะนำพาเธอไปยังห้วงมิติแห่งหนึ่ง ข้ามไปแล้วเธอยังสามารถเอาของที่อยู่ในห้องทดลองออกมาได้ งานนี้ทั้งขนมขบเคี้ยว ข้าวสาร ปลากระป๋องสำเร็จรูปก็ข้ามมิติทำให้เธอไม่อดตายอีกแล้ว *************************** "ถ้าคุณหนูยอมกินข้าวจนหมด บ่าวจะนำเอาลูกอม รสนมให้ด้วยเจ้าค่ะ" "ลูกอมรสนมคือสิ่งใด?" "ขนมอย่างหนึ่งที่ทำมาจากน้ำตาลกวนกับนม ทั้งอมและเคี้ยวได้ หนุบหนับ รสชาติหวานและมีกลิ่นหอม รสชาติเป็นเลิศอย่างมากเจ้าค่ะ" หนิงอวี่บรรยายจนลี่ซือน้ำลายสอในปาก ถึงแม้ว่าจะเอาแต่ใจแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นเด็กน้อยอายุเพียงห้าขวบอยู่ดี ******************* นิยายสนุกอบอุ่นหัวใจ กับของวิเศษไม่จำกัดแบบฟิน...

บทที่ 1 ทดลองข้ามภพ

ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยตู้หนังสือ ซึ่งทำมาจากไม้แกะสลักประดับภาพวาดและลายน้ำ ถัดไปเป็นห้องอาหารที่ถูกตกแต่งอย่างวิจิตร มีโต๊ะไม้กลมใหญ่ ตรงกลางโต๊ะมีอาหารวางไว้หลายอย่าง และห้องที่สะดุดตาที่สุดคงจะหนีไม่พ้นห้องเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยด้ายสีสันสวยงามและผ้าทอ ที่ถูกปักอย่างประณีต

และห้องอื่น ๆ อีกหลายห้องภายในจวน ก็ล้วนถูกตกแต่งด้วยตู้ เตียง โต๊ะที่ทำด้วยไม้สนอย่างดี และของประดับตกแต่งหรูหราหากไม่รกหูรกตาจนเกิดไป ภายนอกยังมีสวนเขียวขจีสลับกับสีสันของดอกไม้นานาพันธุ์ มีภูเขาจำลองเตี้ย ๆ วางไว้สองลูกเติมเต็มความเป็นธรรมชาติ ด้านหน้าประตูทางเข้ามีป้ายเหนือประตูสลักตัวอักษรแสดงถึงสกุล ด้วยทองคำวาววับบ่งบอกความมั่งคั่งได้เป็นอย่างดี

แต่ความวิเศษของจวนหลังนี้นั้น ไม่ใช่การตกแต่งด้วยของประดับหรูหรา หรือการแสดงออกถึงความร่ำรวยใด ๆ กลับเป็นห้องเก็บของธรรมดา ๆ ห้องหนึ่งที่ภายในห้องได้รวบรวมของกินของใช้ที่ทันสมัยของโลกปัจจุบันเอาไว้มากมาย

“สมบูรณ์แบบมาก”

เสียงใสของผู้หญิงพูดขึ้นมาพร้อมกับสายตาเปล่งประกายทอดมองไปยังเมืองจำลองโบราณเบื้องหน้าที่ตัวเองตัวเองกับผู้ช่วยคนสนิทตั้งใจสรรค์สร้างขึ้นมา เพื่อใช้ในการทดลองเรื่องการข้ามมิติ

ซึ่งหญิงสาวผู้นี้นั้นก็มีนามว่า หนิงอวี่ นักวิทยาศาสตร์สาวคนเก่ง ที่ต้องการทดลองเกี่ยวกับการข้ามมิติจากปัจจุบันสู่อดีต ซึ่งเธอนั้นได้ทำการทดลองเรื่องนี้มาร่วมสองปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จสักที ทั้งที่ทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาล้วนแล้วแต่ขาดความบกพร่องทั้งสิ้น

แต่หนิงอวี่ก็ไม่เคยย่อท้อ วันนี้เป็นอีกวันที่เธอจะทำการทดลองเรื่องการข้ามมิตินี้อีกครั้ง และก็มีความหวังว่าครั้งนี้จะประสบความสำเร็จเสียที จึงเอ่ยบอกผู้ช่วยสาวคนสนิทที่ยืนอยู่ข้างกายด้วยน้ำเสียงจริงจังและมั่นใจ หลังจากที่หย่อนถุงขนมหลายถุงเพิ่มลงไปในห้องเก็บของทันสมัยขนาดใหญ่ที่ตัวเองสร้างขึ้นมาเรียบร้อย

“เตรียมเครื่องได้เลย”

ผู้ควบคุมระบบนั่งอยู่ในคอกคอมพิวเตอร์ที่เต็มไปด้วยปุ่มและแสงไฟกระพริบ ทั้งหมดนี้เพื่อควบคุมการทดลองเดินทางข้ามมิติของมนุษย์

“ได้ค่ะ”

เมื่อผู้ช่วยตอบรับคำสั่งก็จัดการเตรียมความพร้อมของเครื่องทดลองในทันที โดยการกดปุ่มเปิดสีขาวเปิดเครื่อง หลังจากนั้นหญิงสาวรูปร่างสัดทัดที่สวมเสื้อกาวน์และแว่นตานิรภัยสำหรับปฏิบัติการก็ขึ้นมายืนตัวตรงในเครื่องทดลองเครื่องใหญ่

ก่อนจะหยิบเอาเครื่องสวมหัวที่คล้ายกับเครื่องสแกนสมองมาใส่บนศีรษะของตัวเอง ซึ่งมีสายเลเซอร์เชื่อมต่ออุปกรณ์และข้อมูลแต่ละชิ้นเข้าหากันห้อยระโยงระยางหลายสาย ที่สำคัญยังเชื่อมกับเมืองจำลองที่หนิงอวี่กับผู้ช่วยสร้างขึ้นมาอีกด้วย

เมื่อทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมทั้งหมดแล้ว ใบหน้าสวยก็หันไปพยักหน้าให้กับสาวผู้ช่วยคนสนิท เพื่อให้เธอกดปุ่มเริ่มสีเขียวเริ่มการทดลองได้เลย ผู้ช่วยสาวที่รู้ดีว่าหนิงอวี่ต้องการจะสื่อสารอะไร ก็พยักหน้าขึ้นลงเบา ๆ เป็นการตอบรับ ก่อนที่มือบางจะกดปุ่มเพื่อเริ่มขั้นตอนต่อไปตามคำสั่ง

ปึก!

เมื่อปุ่มเริ่มการทำงานของเครื่องทดลองถูกกดแล้ว เสียงทำงานของเครื่องทดลองก็ดังขึ้นพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัว ตึก! ตัก! ซ้ำ ๆ ของผู้ทำการทดลองทั้งสอง

ตืด! ตืด! ตืด!

สาวผู้ช่วยของหนิงอวี่รู้ดีว่าถ้าผลการทดลองสำเร็จ หนิงอวี่สามารถทะลุมิติไปยุคโบราณได้จริง ขอแค่เวลาผ่านไปได้ประมาณห้านาทีเท่านั้น เธอก็ต้องกดปุ่มสีเหลืองเพื่อดึงสติของหนิงอวี่กลับมาในทันที ป้องกันความผิดพลาดของการทดลอง และเมื่อหนิงอวี่กลับมาได้แล้วก็กดปุ่มสีแดงหยุดการทดลอง ทุกอย่างต้องทำตามขั้นตอนอย่างมีสติเท่านั้น

เมื่อเสียงสัญญาณเตือนว่าเครื่องทดลองกำลังจะทำงานในไม่ช้าเริ่มดังถี่รัวพร้อมกับแสงไฟสีเขียวสีแดงกระพริบไว ๆ ร่างกายของหญิงสาวที่ยืนอยู่ในเครื่องทดลองก็เริ่มค่อย ๆ หมุนจากช้าไปเร็วพร้อมกับมีควันสีขาวถูกฉีดออกมาจนฟุ้งกระจายออกมานอกเครื่อง

ผ่านไปชั่วพริบตาเดียว เมื่อควันฟุ้งสีขาวบริเวณแท่นทดลองมลายสลายหายไปจนหมดก็เผยให้เห็นว่าหนิงอวี่ยังยืนอยู่ที่เดิมและมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ก็สรุปผลการทดลองในครั้งนี้ได้ทันทีว่าล้มเหลวอีกเช่นเคย แน่นอนว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นดั่งใจหวังเสมอไป

หนิงอวี่ถอดเครื่องสวมศีรษะออก ก่อนจะลงมาจากเครื่องทดลองด้วยใบหน้าที่ห่อเหี่ยว แล้วแกะอุปกรณ์ที่ใช้ทำการทดลองที่ตัวเองสวมใส่อยู่ออกจนหมดอย่างคนที่กำลังจะหมดหวัง ก่อนจะปล่อยตัวพิงกับโต๊ะใบหน้าแสดงออกถึงความสิ้นหวังอย่างเห็นได้ชัด ทำเอาผู้ช่วยสาวต้องเดินเข้ามาปลอบใจโดยการตบที่บ่าแคบของหนิงอวี่เบา ๆ หลายที เธอเองก็เศร้าใจไม่แพ้กันที่ผลการทดลองในครั้งนี้ไม่ประสบความสำเร็จอีกแล้ว

“อย่าคิดมากไปเลยนะคะพี่หนิงอวี่ เดี๋ยวเอาไว้เราทดลองกันใหม่ก็ได้ค่ะ หนูเชื่อว่าสักวันต้องสำเร็จอย่างแน่นอน”

“อืม ขอบใจมากนะ วันนี้ก็เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว เราแยกย้ายกันกลับไปพักผ่อนเถอะ”

“ค่ะพี่ ถ้าอย่างนั้นหนูขอตัวกลับบ้านก่อนนะคะ”

“อืม”

หนิงอวี่เดินคอตก เท้าเตะฝุ่นไปตลอดทาง แต่หลังจากพบเจอกับความผิดหวังมาหลายครั้งก็ทำให้จิตใจเข้มแข็งขึ้นได้เร็ว หนิงอวี่สลัดความเศร้าออกไปจากจิตใจ ก่อนที่จะเดินไปถึงรถยนต์ส่วนตัวของตัวเองที่จอดอยู่ในบริเวณลานจอดรถกว้างไร้หลังคาปกคลุมของสำนักงาน จึงทำให้เห็นว่าวันนี้ท้องฟ้ามีสีแปลก ๆ

เมฆสีเทาหม่นก่อตัวเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ราวกับว่าจะมีพายุฝน ทำให้หนิงอวี่จินตนาการไปถึงมิติเวท เนื่องจากเมฆที่รวมตัวกันนั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำทมิฬ ให้ความรู้สึกพิศวงอยู่ไม่น้อยสำหรับคนที่พึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกและชื่นชอบในด้านนี้มาก

หนิงอวี่ยืนเงยหน้ามองท้องฟ้าอยู่อย่างนั้นไม่ขยุกหยิกไปไหน ในใจคิดไปอีกว่านี่มันมหัศจรรย์มาก คล้ายกับท้องฟ้าจำลองที่เธอเคยไปดูอยู่บ่อย ๆ แต่ท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆหมอก แสงจันทร์ และแสงไฟฟ้ารบกวนเช่นนี้ หนิงอวี่ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์รู้ดีว่าอาจจะเกิดดาวตกได้

‘แต่วันนี้มันไม่ใช่วันที่จะเกิดดาวตกได้เลยนะ’

หนิงอวี่คิดในใจ แต่บนโลกใบนี้ก็มีสิ่งที่เหนือความคาดหมายอยู่มาก เธอจึงอยากจะยืนดูให้แน่ชัดว่าจะเกิดดาวตกอย่างที่เธอคิดจริง ๆ หรือไม่

แต่ไม่นานสิ่งที่เธอคาดการณ์เอาไว้ก็เกิดขึ้นจริง มีลูกไฟตกลงมาจากท้องฟ้าเป็นแสงสายสีขาวที่เรียกว่าดาวตก ก่อนที่แสงสีขาวนั้นจะร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าตกลงสู่พื้นดิน หนิงอวี่ที่เคลื่อนใบหน้าตามแสงไฟลูกนี้อยู่ตลอดเบิกดวงตากว้างด้วยความตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้เห็นดาวตกร่วงหล่นจากฟ้ามาสู่ดินได้

ในตอนนี้วัตถุอะไรบางอย่างจากฟ้าที่ตกลงมามีแสงไฟสีขาวระยิบระยับส่องแสงอยู่บนพื้นดินล่อตาล่อใจหนิงอวี่เป็นอย่างมาก ทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นหยิบขึ้นมาดูด้วยความสงสัย

เมื่อหยิบวัตถุประหลาดส่องแสงนี่ขึ้นมาไว้ในมือ หินนั้นก็ยังคงส่องแสงสวยงาม แต่กลับเปลี่ยนเป็นส่องแสงหลายสีจนหนิงอวี่ตกใจและงงงันหนักไปกว่าเดิม ซึ่งหนิงอวี่เชื่อหมดใจว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นประกายของดาวตกที่เกิดการระเบิดระหว่างพุ่งฝ่าบรรยากาศโลก เรียกว่าลูกไฟ หนิงอวี่จึงเก็บลูกไฟนี้ไว้แล้วเดินกลับไปยังห้องทดลองของตัวเอง เพราะสิ่งนี้ไม่ได้จะเจอกันง่าย ๆ

แสงไฟของห้องทดลองถูกเปิดให้สว่างวาบขึ้นมาอีกครั้งด้วยฝีมือของหนิงอวี่ ก่อนที่เธอนั้นจะเปิดเครื่องทดลองให้ทำงาน และระหว่างที่รอให้เครื่องเตรียมการณ์อยู่นั้น เธอก็จัดการนำชุดปฏิบัติการมาสวมใส่ ก่อนที่จะขึ้นไปยืนบ่นแท่นทดลอง และกดเริ่มโดยที่กำลูกไฟไว้ในมืออยู่ตลอด

ครั้งนี้ไม่มีผู้ช่วยใด ๆ แต่หนิงอวี่ก็ตัดสินใจว่าจะทำการทดลองนี้อีกครั้งคนเดียวในวันนี้ ลูกไฟประหลาดในมือคล้ายจะปลุกเร้าความมุ่งมั่นในตัวของเธอออกมาอย่างไรอย่างนั้น

ตืด! ตืด! ตืด!

ในตอนนี้สัญญาณเตือนว่าเครื่องทดลองกำลังจะทำงานก็ดังขึ้น หนิงอวี่กดปุ่มเริ่ม หลังจากนั้นหมอกควันสีขาวก็ฟุ้งขึ้นมาพร้อมกับร่างกายของหนิงอวี่กำลังหมุน ก่อนที่ดวงตากลมของเธอจะค่อย ๆ ปิดลงจนสนิท

หมอกสีขาวปกคลุมไปทั่วร่างของหญิงสาวมากกว่าทุกครัังที่ทำการทดลอง ในตอนนี้หนิงอวี่คล้ายกำลังติดอยู่ในวังวนอะไรสักอย่าง หัวคิ้วขมวดเข้าหากันยุ่งเหยิง ร่างกายรู้สึกวูบวาบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกทั้งหมดนี้ไม่เคยเกิดขึ้นกับตัวของเธอเลยสักครั้งเวลาที่ทำการทดลองข้ามมิติ

หลังจากนั้นหนิงอวี่ก็รู้สึกเหมือนว่าสติของตัวเองดับวูบไป ก่อนที่จะมีแรงกระชากแรง ๆ ดึงให้เธอตื่นขึ้นกลับมามีสติอีกครั้ง เหมือนกับว่าตัวเองกำลังหลุดออกจากวงแหวนมิติอย่างไรอย่างนั้นตามที่เคยดูในหนังในละคร และเมื่อร่างกระแทกกับพื้นอย่างจัง ดวงตาไข่ห่านก็ค่อย ๆ เปิดขึ้นจนเต็มตา แต่ทว่ากลับมองเบื้องหน้าไม่ชัด เนื่องจากมีหมอกขาวบดบังทัศนียภาพ จนหนิงอวี่ไม่สามารถมองออกไปทางไหนได้เลยนอกจากบริเวณรอบตัวของตัวเองเท่านั้น

ร่างบางค่อย ๆ เดินฝ่าฝูงควันไปเรื่อย ๆ มือทั้งสองข้างก็ปัดป่ายหมอกควันตรงหน้าให้มลายหายไปด้วย จนกระทั่งหนิงอวี่พบเข้ากับโลกใบใหม่ที่แปลกหูแปลกตาอย่างยิงยวด

‘นะ นี่มันทำไมเหมือนกับเมืองโบราณที่ฉันสร้างขึ้นมาเลยล่ะ ฉันทะลุมิติมาได้สำเร็จแล้วอย่างนั้นหรือ’

‘นี่มันคือฮอโลกราฟี ภาพสามมิติที่นักวิทยาศาสตร์อย่างฉันกำลังพยายามทดลองกับสมองของมนุษย์อยู่ใช่ไหม หรือว่าฉันทะลุมิติมาที่เมืองโบราณจริง ๆ แต่ถึงจะเป็นแบบไหนมันก็มหัศจรรย์และวิเศษมากอยู่ดี เพราะมันบ่งบอกว่าฉันได้ทำการทดลองสำเร็จแล้ว’

หนิงอวี่คิดไปตกตะลึงไป ก้มมองดูตัวเองก็พบว่าไม่ได้ใส่ชุดปฏิบัติการแต่กลับเป็นชุดของสตรีจีนโบราณตัวยาวสีขาวและสีเขียวอ่อนสวยงาม ลูกไฟจากดาวตกในมือตอนนี้ก็ไม่อยู่แล้ว แต่กลับแปรเปลี่ยนเป็นกำไลหยกสีเขียวส่องประกายงดงามสวมอยู่ที่ข้อมือเล็กแทน

หัวใจดวงน้อย ๆ ของหนิงอวี่เต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น จนเผลอลืมไปว่าไม่มีผู้ช่วยคอยดึงสติของเธอกลับไป แต่ถึงอย่างไรในตอนนี้หนิงอวี่ก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนั้นมาก เพราะเธอกำลังรู้สึกสนุกที่จะได้อยู่ในยุคโบราณต่อไปอีกสักหน่อย อย่างไรในตอนเช้าผู้ช่วยสาวก็ต้องมาทำงานและช่วยดึงเธอกลับไปจนได้อยู่ดี เธอจึงไม่รอช้าที่จะกระโดดโลดเต้นเข้าไปในจวนขนาดใหญ่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มของความดีใจเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังจะได้เข้าไปเที่ยวเล่นในสวนสนุก

ส่วนอีกด้านในขณะนี้ศูนย์ที่มีหน้าจอฮาโลกราฟีขนาดใหญ่กำลังฉายภาพมิติที่แตกต่างออกไปโดยไร้ผู้ควบคุมอยู่ในห้องทดลองห้องใหญ่อยู่สักพักก่อนที่จะดับวูบไป แม้กระทั่งไฟในห้องทดลองก็ดับไปด้วย คล้ายกับว่าไม่เคยมีผู้ใดกลับเข้ามาใช้งานห้องทดลองแห่งนี้ เหลือไว้เพียงแค่ร่างไร้จิตวิญญาณของหนิงอวี่ที่ยืนหลับตาและคอตกนิ่งสนิทอยู่บนแท่นทดลองเท่านั้น

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

ข้าคือฮองเฮาที่ฮ่องเต้ไม่รัก

เด็กน้อยคว้าฝัน
4.8

เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

คู่ทาสของกษัตริย์ผู้โหดร้าย

คู่ทาสของกษัตริย์ผู้โหดร้าย

Devy Tseko
5.0

พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน "เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง "ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า"

ปรารถนารักหนึ่งเดียว

ปรารถนารักหนึ่งเดียว

รินวรส
4.3

เพียงสบตาสาวน้อยหน้าหวาน ‘นัยน์ตาชวนฝัน’ ที่อาจหาญตบหน้าซีอีโอผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขา ‘เดวิโก หนึ่งเดียว เวนนิส’ ก็ประกาศก้องกับตัวเองว่า เขาจะต้องลากเจ้าหล่อนเข้าสู่ ‘กรงทอง’ ให้จงได้ ไม่มีวันที่ ‘แม่กวางน้อยด้อยประสบการณ์’ อย่างหล่อนจะต้านทานเจ้าป่า ‘ผู้ชำนาญงานรัก’ อย่างเขาได้ ใครจะคิดว่าวันสุดท้ายของการฝึกงานก่อนจบการศึกษาจะเป็นวันที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล เพียงเพราะเผลอสบตาคมเข้มคู่นั้นเข้าอย่างจัง!! หากฟ้าประทานพรให้เธอขอพรได้หนึ่งข้อ ‘ปรารถนา’ บอกตัวเองอย่างไม่ต้องหยุดคิดว่าพรข้อนั้นที่เธอจะขอคืออะไร เพราะสิ่งเดียวที่เธอจะขอ คือ... ‘ขอให้ผู้ชายบ้าอำนาจ บ้ากามที่จ้องลวนลามเธอคนนี้หายสาบสูญไปซะ’ แต่ยิ่งนานวันเข้า นอกจากฟ้าจะไม่นำพาแล้วยังเหมือนจะเป็นใจหยิบยื่นเนื้อกวางแสนหวานอย่างเธอเข้าปากเสือเสียนี่ เพราะยิ่งเธอพยายามหนีห่างจากเขามากเท่าไร เธอกลับพบว่าตัวเองกลับยิ่งเข้าใกล้เขามากขึ้นเท่านั้น ใกล้เสียจน...เธอสั่นสะท้านไปทั้งกายและใจ “ฉันลงมือปรุงซุปถ้วยนี้ด้วยตัวเองเลยนะ เธอจะไม่ชิมสักหน่อยเหรอ ใช่ว่าใครจะมีวาสนาได้กินฝีมือฉันง่ายๆนะ” “คุณทำคุณก็กินเองสิคะ ฉันไม่ได้ขอร้องให้คุณทำสักหน่อย” “เธอไม่กินงั้นฉันกินเองก็ได้” “เชิญ!” ปรารถนาเบะปากยิ้มหยันพลางขยับกายหมายล้มตัวลงนอน แต่ทว่า... “ว้าย! คุณจะทำอะไรฉัน ปล่อยนะ” “บังเอิญฉันไม่ชอบอะไรที่มันจืดชืดแบบซุปนั่น เลยอยากลองชิมเนื้อกวางอย่างเธอเสียหน่อยว่าจะอร่อยแค่ไหน หึหึ”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ