Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
รวมประสบการณ์ที่ไม่อาจลืม

รวมประสบการณ์ที่ไม่อาจลืม

nugkeanransawat

5.0
ความคิดเห็น
506
ชม
13
บท

เรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์โดนปลุกปล้ำของสาวๆที่มีเค้าเรื่องจริงมาจากแต่ละบุคคลแต่ละเหตุการณ์ มีการปรับเติมเสริมแต่งให้เป็นนิยายแต่ยังคงเค้าความจริงไว้เช่นกัน

บทที่ 1 โดนแฟนเพื่อนเปิดซิง

รวมประสบการณ์ที่ไม่อาจลืม

ตอนที่ 1

โดนแฟนเพื่อนเปิดซิง

เมย์เรียนอยู่มหาวิทยาลัยต่างจังหวัด หลังสอบเสร็จเธอก็ออกไปดื่มฉลองกับเพื่อนที่พักอยู่หอห้องเดียวกันอีกสองคน ชื่อต่ายและอ้อย เมื่อถึงร้านเหล้าแนวนั่งชิลก็ตกลงกันว่าจะสั่งเหล้าปั่นมากินเพราะแต่ละคนก็คออ่อนจนไม่กล้าดื่มเบียร์

แรกๆสาวๆทั้งสามคนก็นั่งดื่มและคุยกันสนุกสนาน ในกลุ่มสามสาวเมย์ดูสวยกว่าใคร ถึงจะไม่สูงแต่เธอขาวแบบสาวเหนือและอวบซ่อนรูป หน้ารูปไข่และมีลักยิ้มด้วย

หลังจากนั่งดื่มพลางฟังดนตรีสดได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็มีหนุ่มวัยทำงานโต๊ะข้างๆเข้ามาขอเบอร์กับเธอ แต่เมย์ไม่กล้าให้เพราะคุณพ่อไม่อยากให้มีแฟน แถมท่านยังเป็นข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ค่อนข้างดุ ตั้งแต่เรียนมาจนถึงปีสองเมย์จึงไม่เคยมีแฟนเลย

ดื่มกันไปถึงสองทุ่มต่ายก็โทรเรียกแฟนที่เป็นเด็กช่างปวส.รุ่นเดียวกันมานั่งด้วย เขาชื่อว่าโต้ง เป็นหนุ่มใต้ผิวเข้มร่างผอมสูงชะลูดและเป็นนักกีฬาบาสสมัยมัธยม ก่อนที่โต้งจะเป็นแฟนกับต่ายเขาเคยมาจีบเมย์ก่อนเพราะกลุ่มเมย์มักจะไปออกกำลังกายที่สนามกีฬาเดียวกัน

แรกๆเมย์เองก็ชอบโต้ง แต่ก็ได้แค่คุยกันเป็นเพื่อนเพราะกลัวพ่อจะรู้ว่ามีแฟน พอโต้งจีบเมย์นานเข้าก็จีบไม่ติดเขาจึงเบนเข็มไปจีบต่ายจนได้เป็นแฟนกันตั้งแต่เดือนแรก ต่ายเองก็ไม่รู้ว่าโต้งเคยจีบเมย์และนึกว่าแชทคุยกันธรรมดาตามประสาคนมาออกกำลังกายด้วยกัน แต่พอต่ายมีแฟนก็เริ่มผลการเรียนแย่ลงมาก

ทางด้านอ้อยเองก็เรียกแฟนรุ่นพี่ที่มหาลัยมารับตอนสามทุ่มแล้วไปนอนหอรุ่นพี่กันสองต่อสอง ที่โต๊ะจึงเหลือเพียงเมย์ โต้ง และต่าย

โต้งสั่งเหล้าปั่นมาเพิ่มและอาสาจะเลี้ยงเอง เมย์รู้สึกว่าเขาดื่มเก่งมาก แถมระหว่างที่นั่งชิดแฟนตัวเองก็แอบมองมาหาเธอบ่อยๆ ซึ่งนั่งตรงกันข้าม พอโต้งเมาก็เริ่มหลอกถามเมย์ว่ามีแฟนรึยัง สวยแบบนี้คงมีคนมาจีบเยอะ

"โอ๊ย! ยัยนี่ใครจะเอา พ่อดุจะตาย คบๆกันไปมีหวังโดนพ่อยิงตายก่อนมั้ง" ต่ายตอบแทนเมย์

ยิ่งดึกขึ้นเมย์ก็รู้สึกว่าเพลงเพราะ เธอดื่มเหล้าปั่นกับเพื่อนๆจนหน้าแดงก่ำ แถมอากาศหนาวยิ่งทำให้แก้มสองข้างเป็นสีชมพู

พอถึงสี่ทุ่มเมย์จะขอตัวกลับก่อนแต่ต่ายกลับรั้งให้ดื่มต่อเพราะมารถมอเตอร์ไซค์คันเดียวกัน และโต้งต้องไปนอนบ้านเพราะกลัวแม่ด่า พอเหล้าปั่นหมดโต้งกลับสั่งเบียร์มาดื่มต่ออีกเหยือกนึง

พอเมาแล้วโต้งก็เริ่มพูดมาก เขาโอ้อวดเรื่องแข่งกีฬาชนะและอวดเรื่องรถมอเตอร์ไซค์แต่งซิ่งอยู่นานสองนาน พอคุยไปมากเข้าก็ไม่ค่อยจะยกเบียร์ดื่ม เมย์กับต่ายก็ช่วยโต้งดื่มเบียร์สดจนหมดเหยือกแล้วเช็คบิลตอนห้าทุ่ม พอถึงเวลากลับโต้งเดินเซจนต่ายดูแล้วว่าน่าจะขี่รถกลับบ้านไม่ได้

ต่ายจึงเอาโต้งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์แต่งกลับหอโดยเมย์ขี่รถของต่ายตามกันมาติดๆ สองสาวช่วยกันประคองโต้งขึ้นหอพักชั้นสี่ที่ไม่มีลิฟท์อย่างทุลักทุเลเอาการ

เมื่อถึงห้องโต้งก็ทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียงหกฟุต ต่ายยืนท้าวสะเอวบ่นเขาก็ไม่หือไม่อือและกรนเสียงดัง เมย์เข้ามาอาบน้ำก่อน เธอแต่งชุดนอนแบบกางเกงวอร์มขายาวและสวมเสื้อกันหนาวเพราะอากาศหนาวมาก เธอดึงผ้าห่มมาปูข้างล่างเตียงต่ายก็บอกว่าให้นอนข้างบนเพราะมันหนาว แถมผ้าห่มบนเตียงก็มีผืนเดียว ขืนเมย์เอาลงมาปูนอนคนบนเตียงก็ไม่มีอะไรห่มกันพอดี

เมย์เห็นว่าโต้งหลับแล้วจึงลงมานอนด้านขวามือของเขา เธอนอนตะแคงหันหลังให้แฟนเพื่อนอย่างจำใจ ต่ายปิดไฟแล้วขึ้นเตียงมานอนโดยไม่อาบน้ำ เธอนอนตะแคงด้านซ้ายของโต้งก่อนดึงผ้าห่มมาห่มให้คนสามคน

เมย์หลับไปด้วยความมึนจากฤทธิ์เหล้าปั่นผสมเบียร์ เธอรู้สึกตัวกลางดึกเพราะอาการหนาวจนตัวสั่น พอลืมตาขึ้นในห้องมืดสลัวก็พบว่าผ้าห่มหนาที่คลุมตัวเธอหายไป เหลียวหลังจะไปดึงผ้าบนตัวแฟนเพื่อนมาห่มก็เจอกับหน้าของโต้งที่กำลังซุกไซร้ลำคอด้านหลังของเธออยู่

จุ๊บ! ๆ ริมฝีปากร้อนและนุ่มของโต้งทำเอาเมย์ตัวสั่นและขนลุกซู่ เธอส่งเสียงห้ามโต้งเบาๆเพราะกลัวต่ายจะตื่น แต่พอก้มมองช่วงล่างตัวเองกลับเห็นว่ากางเกงโดนดึงลงไปถึงหัวเข่า แถมไม่ได้สวมกางเกงใน เช่นนี้คงเป็นสาเหตุที่เธอหนาวจนตัวสั่น

"โต้งขอทำเบาๆนะเมย์จ๋า" แฟนเพื่อนกระซิบใบหูและโอบแขนท่อนใหญ่มากอดรัดเมย์จากข้างหลัง ดึงร่างเธอถลาถอยไปแนบหลังกับอกร้อนผ่าว มือเขาลดลงไปสอดลูบใต้ตูดงอนขาวและวนนิ้วใส่ร่องสาวอย่างลุกลี้ลุกลน

อื้อ! ๆ โต้ง! อย่าาาา! เมย์กัดริมฝีปากตัวเองและร้องปราม แต่ต้นกลับมือไวและสอดนิ้วแยงยัดเข้าร่องสาวของเธอจากด้านหลัง พอเขางอนิ้วเกี่ยวเป็นตะขอเบ็ดอยู่ในรูเมย์ก็ดิ้นไม่หลุดเสียแล้ว

เเจ๊ะ! ๆ ๆ โต้งแยงนิ้วกลางเข้าออกรูสาวบริสุทธิ์ที่ตอดรัดนิ้วหนุบหนับ เขาดูดซอกคอเมย์จนเธอเสียวสะท้านและเผลอครางออกมา

หมับ! ๆ มืออีกข้างของโต้งรูดซิบเสื้อกันหนาวแล้วล้วงยัดเข้าคอเสื้อยืดลงมาบีบฟัดเต้านมเพื่อนแฟนอย่างย่ามอกย่ามใจ

ฮือ! ๆ ๆ เมย์นอนตัวงอและร้องไห้กระซิกๆ เธอรู้ดีว่าอะไรกำลังจะเกิด แต่คนที่กำลังจะข่มขืนเธอก็ดันเป็นคนที่เธอชอบแต่แรก สมองกับร่างกายของเธอสับสนไปหมด ใจนึงก็อยากจะกรี๊ดดังๆให้ต่ายตื่น แต่ร่างกายกลับไม่ตอบสนอง มีเพียงร่องสาวที่หลั่งน้ำเสียวออกมาจนเลอะเต็มอุ้งมือของโต้ง

แคว่ก! ๆ โต้งรูดซิบกางเกงยีนส์แปบเดียวเขาก็เอาปลายแท่งร้อนๆมากดอัดเข้าปากรูของเมย์โดนใช้นิ้วควานนำทาง พอเขากดส่วนหัวบานโตเข้ามาเมย์ถึงกับสะดุ้งโหยง น้ำตาไหลพรากอาบแก้มเลอะเต็มหมอน เธอรู้สึกเจ็บมากจึงจิกมือกับแขนโต้งจนมีเลือดไหลซึมออกมา

ส่วบ! ๆ ๆ โต้งโยกเอวกระแทกส่วนที่เหลือยัดเข้ามาและครางซี๊ดซ๊าดขณะที่เมย์เจ็บจนดิ้นพล่านในอ้อมกอดของเขา เธอรู้สึกคับติ้วเหมือนร่างจะฉีกออกจากตรงนั้น

พอโต้งเอาเข้ามาสุดก็กระแทกเข้าออกและจับหน้าเลอะน้ำตาของเมย์เหลียวหลังมาจูบปากอย่างหื่นสุดๆ เขาแทงเข้าออกไม่ถึงห้านาทีก็มีน้ำร้อนผ่าวพุ่งเข้ามาในท้องของเมย์ ตอนนั้นเธอยอมรับว่าเสร็จไปพร้อมๆกับต้นแถมเขายังเอากดแช่คาไว้ในรูจนเธอหยุดร้องไห้

นับแต่นั้นมาโต้งกับเมย์ก็แอบนัดเจอและมีอะไรกันแทบทุกสัปดาห์ จนขึ้นปีสามต่ายเลิกกับต้นเมย์จึงไม่ได้เจอเขาอีกเลย ล่าสุดเธอได้ข่าวว่าต้นเรียนไม่จบและไปทำงานที่อู่ซ่อมรถของญาติที่ภาคใต้

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ nugkeanransawat

ข้อมูลเพิ่มเติม
หลอกลูกเพื่อนมาเล่นกล้าม

หลอกลูกเพื่อนมาเล่นกล้าม

โรแมนติก

5.0

หลังจากโดนผัวทิ้งตอนน้ำหนัก80กิโลแจมก็ผันตัวมาออกกำลังกายดูแลสุขภาพอย่างหนักหน่วง เพียงไม่กี่ปีเธอก็กลายเป็นสาวหุ่นดี แถมยังมีสถาบันฟิตเนสทาบทามให้ไปเป็นเทรนเนอร์สุดสวยประจำยิมเสียด้วย แต่ด้วยการที่ต้องหาลูกเทรนและทำยอดขายช่างยากเย็นไม่ต่างอะไรกับการขายประกัน ล่าสุดแจมเกิดปิ๊งไอเดียใหม่เพื่อหาคนมาเทรนด้วย เธอชอบยั่วยวนลูกชายเพื่อนๆให้มาออกกำลังกายที่ยิมแล้วหลอกกินตับ ไปๆมาๆได้ทั้งคู่นอนได้ทั้งค่าคอมจนกระเป๋าตุง เรียกได้ว่านับแต่นั้นมาแทบไม่มีวันไหนที่เธอได้นอนคนเดียวเลยซักคืน

นี่ฉันเป็นป้าแฝดหื่นแล้วหรือเนี่ย?

นี่ฉันเป็นป้าแฝดหื่นแล้วหรือเนี่ย?

วัยรุ่น

5.0

นาจำต้องเลี้ยงดูลูกติดของน้องเขยเพราะว่าเขากับน้องสาวของเธอนั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต นับแต่นั้นมาฝาแฝดก็มีคุณป้าคนสวยเพียงคนเดียวดูแลตลอดมา พอโตเป็นหนุ่มแล้วพวกเขาก็ชอบเล่นกล้ามและไปแข่งประกวดเพาะกายจนได้รางวัลและเงินมามากมาย คุณป้ายังสาวจึงต้องคอยดูแลอาหารการกินและเสื้อผ้าหน้าผมสองหนุ่มอยู่ตลอดเวลา วันดีคืนดีก็ต้องดูแลเรื่องบนเตียงของพวกเขาด้วย ในเมื่อหนุ่มๆพวกนี้ทั้งคึกคักและแรงดี เรียกได้ว่าเผลอทีไรเป็นต้องถึงเนื้อถึงตัวกับนาทุกครั้งไป แนะนำตัวละคร นา นางเอก อายุ29ปี ด้วยความที่เธอมีเชื้อจีนและหน้าเด็กตัวเล็กขาวจึงดูเหมือนสาววัยรุ่น (สายตาสั้น,เฉิ่ม) อภิวัฒน์ น้องเขยของนา (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) เขาเป็นเสี่ยอายุ38 (มีลูกติดมาจากเมียเก่าสองคนเป็นฝาแฝด) นิน น้องสาวของนา อายุ 28 (เสียชีวิต) ปกป้อง หลานแฝดผู้พี่ อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง ปราบปราม หลานแฝดผู้น้อง อายุ18ปี เล่นกล้าม เพาะกาย เรียนปีหนึ่ง *หมายเหตุ แฝดทั้งสองเป็นแฝดคนละฝา หน้าตาและนิสัยไม่เหมือนกัน

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เธอพลาดที่ทิ้งฉัน

เธอพลาดที่ทิ้งฉัน

Moritz Hearsum
5.0

ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

รักใหม่พันล้าน

รักใหม่พันล้าน

Hilarius Erikson
5.0

เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ