Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ย้อนเวลาไปเปิดร้านติ่มซำเพื่อร่ำรวยยุค80

ย้อนเวลาไปเปิดร้านติ่มซำเพื่อร่ำรวยยุค80

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
404
ชม
16
บท

เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน

บทที่ 1 No.1

ค่ำคืนหนึ่งในห้องเล็ก ๆ ที่อับทึบ มีผู้หญิงร่างบางคนหนึ่งนามว่า เจียซิน ซึ่งเธอกำลังนั่งพิงกำแพงที่เย็นเฉียบ ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและจิตใจที่บอบช้ำ ภายในห้องไม่มีแสงไฟ มีเพียงแสงจันทร์อ่อน ๆ ที่ลอดผ่านหน้าต่างบานเล็กเข้ามา เธอกอดตัวเองแน่น น้ำตาไหลลงอาบแก้มมาอย่างไม่ขาดสาย

เจียซินที่พึ่งนั่งทรุดตัวลงกับพื้นห้องที่เย็นเยียบ มือที่สั่นเทายกขึ้นแตะรอยแดงช้ำบนใบหน้าที่สามีของเธอฝากไว้ ความเจ็บปวดจากการถูกทำร้ายยังคงแผ่ซ่าน แต่ไม่อาจเทียบได้กับความรู้สึกที่แตกสลายภายในใจ เงินทองที่เธอหามาอย่างยากลำบากถูกสามีกวาดไปจนหมด ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่าไว้กับเธอเท่านั้น

เสียงสะอื้นเบา ๆ ดังขึ้นในห้องที่เงียบสงัด เธอกอดตัวเองแน่นราวกับพยายามยึดเหนี่ยวเศษเสี้ยวของความหวังที่หลุดลอยไปให้กลับมา ถึงแม้ว่าจะยังคงมีความคิดที่ไม่ดีเกี่ยวกับสามีวนเวียนอยู่ในหัว

‘ทำไมฉันถึงเลือกเขา’

เจียซินตำหนิตัวเองซ้ำ ๆ ดวงตาแดงก่ำจับจ้องไปยังเงาสะท้อนในกระจก เธอแทบไม่รู้จักตัวเองอีกต่อไป ความฝันในอดีตที่เคยสดใสกลับกลายเป็นฝันร้าย ทุกคำพูดหวานที่สามีเคยพร่ำบอก กลายเป็นคำลวงที่กัดกินจิตใจ

เจียซินเหนื่อยเกินกว่าจะร้องไห้ต่อ แต่หัวใจของเธอกลับแตกสลายจนไม่เหลือชิ้นดี เธอได้แต่ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมาในความมืดมิดว่าเธอจะไปจากนรกขุมนี้ได้อย่างไร หรือเธอจะต้องจมอยู่กับมันตลอดไปจริงหรือ

“ฉันผิดเอง...ที่เชื่อใจเขา”

เสียงพึมพำของเจียซินสั่นเครือ เต็มไปด้วยความเสียใจที่ไม่อาจลบเลือนได้ เธอนึกถึงวันที่เธอตัดสินใจแต่งงานกับสามีคนนี้ หวังว่าการเริ่มต้นชีวิตคู่จะนำมาซึ่งความมั่นคง แต่ทุกอย่างกลับพลิกผัน

สามีของเธอใช้ชีวิตอย่างไร้ความรับผิดชอบ เงินทองที่เธอเก็บหอมรอมริบจากการทำงานหนักถูกเขานำไปใช้จนหมด เจียซินพยายามอดทน หวังว่าสักวันเขาจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเฉยชาและการละเลย

เจียซินก้มหน้ามองมือที่สั่นเทา ความเจ็บปวดและความเสียใจท่วมท้น เธอหวนคิดถึงชีวิตในวัยเด็กที่เรียบง่าย แม้จะลำบากแต่ก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นจากครอบครัว

ในความมืดมิดของค่ำคืนนั้น เจียซินที่กำลังกอดตัวเองและพยายามปลอบใจตัวเอง หันไปมองทีวีเก่าที่ตั้งอยู่มุมห้อง หน้าจอสั่นไหวพร้อมเสียงเบา ๆ จากรายการข่าวธุรกิจที่เธอไม่ได้ตั้งใจดู แต่ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอกลับทำให้เธอหยุดนิ่ง

ชายหนุ่มในชุดสูทเรียบหรูยืนอยู่กลางเวทีงานสัมมนา ดวงตาของเขามีประกายแห่งความมุ่งมั่น และรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรแต่สง่างาม ซึ่งคนคนนั้นคือ ซูเหอ ชายที่เคยเป็นแฟนของเจียซินในสมัยเรียน

เจียซินเบิกตากว้าง ความทรงจำเก่า ๆ พลันหวนกลับมา ซูเหอคือคนที่เธอเคยรักอย่างจริงใจในช่วงเวลาที่เรียบง่ายที่สุดของชีวิต เขาเคยเป็นคนที่มีความฝันและความมุ่งมั่นที่จะสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่ในตอนนั้นทั้งสองแยกจากกันเพราะเหตุผลบางอย่างที่เธอไม่อยากคิดถึง

ในรายการข่าว ซูเหอถูกสัมภาษณ์เกี่ยวกับความสำเร็จในฐานะนักธุรกิจส่งออกอาหารที่มีชื่อเสียงระดับโลก เขาเล่าเรื่องราวการต่อสู้และความพยายามของตัวเองตั้งแต่เริ่มต้นจากศูนย์จนสามารถขยายธุรกิจไปยังหลายประเทศ

เจียซินนั่งมองหน้าจอด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอรู้สึกภูมิใจในตัวของซูเหอ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้ากับชีวิตของตัวเองที่กำลังติดอยู่ในวงจรของความล้มเหลวและความทุกข์ เธอคิดถึงคำพูดของซูเหอในอดีต

“ความสำเร็จไม่ได้มาหาเราเอง เราต้องลุกขึ้นและพยายามอย่างถึงที่สุด”

คำพูดนั้นดังก้องในหัวของเจียซิน เธอสูดลมหายใจลึก ความรู้สึกที่เคยหมดหวังค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยบางสิ่งที่เธอไม่ได้สัมผัสมานาน นั่นคือความหวัง

เธอไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขอดีตได้ แต่การเห็นซูเหอในวันนี้ทำให้เธอรู้ว่าเธอยังมีโอกาสที่จะลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงตัวเองอีกครั้ง

‘ถ้าซูเหอทำได้ ฉันก็ต้องทำได้’

เจียซินคิดในใจ แสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างดูเหมือนจะสว่างขึ้นอีกครั้ง เธอรู้ว่านี่คือเวลาที่เธอต้องเริ่มต้นใหม่ แม้ว่ามันจะยากเพียงใดก็ตาม

เจียซินหลับตาแน่น น้ำตาเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง เธอปาดน้ำตาด้วยหลังมือ ความเสียใจและความเจ็บปวดในใจทำให้เธอแทบหายใจไม่ออก

‘ถ้าฉันเชื่อในตัวเขาสักนิด ถ้าฉันไม่ปล่อยเขาไป’

เจียซินคิด แต่เธอรู้ดีว่าไม่มีทางย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วได้ เจียซินปาดน้ำตาอีกครั้ง พยายามรวบรวมสติ เธอไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับความเสียใจนี้ไปได้ตลอด เธอรู้ว่าการเอาแต่มองย้อนกลับไปในอดีตจะไม่ช่วยให้เธอมีชีวิตที่ดีขึ้นมาได้

เช้าตรู่ในวันถัดมา เจียซินแต่งตัวอย่างเรียบง่ายด้วยชุดเสื้อผ้าซ้ำ ๆ ที่เริ่มเก่า รวบรวมความกล้าเดินออกจากบ้าน มุ่งหน้าไปยังร้านติ่มซำที่เธอทำงานเป็นลูกจ้าง แม้ว่าร่างกายจะยังเจ็บปวดจากความบอบช้ำเมื่อวาน แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก เธอต้องทำงานเพื่อประคองชีวิตต่อไป

ร้านติ่มซำที่เจียซินทำงานนั้นอยู่ในตรอกเล็ก ๆ ที่มีกลิ่นหอมของอาหารโชยออกมาจากประตูไม้ที่ถูกเปิดไว้ครึ่งหนึ่ง ป้ายร้านเขียนด้วยตัวอักษรจีนสีทองเด่นชัดบนพื้นหลังสีแดง บ่งบอกถึงความเป็นมาของร้านที่สืบทอดกันมาหลายรุ่น

เมื่อเจียซินเข้าไปในร้าน เจ้าของร้านเป็นชายวัยกลางคนที่มีบุคลิกเคร่งขรึม มองเจียซินด้วยสายตาไม่พอใจทันทีที่เห็นใบหน้าของเธอซึ่งยังมีรอยฟกช้ำเด่นชัด

“นี่เจียซิน เธอปล่อยให้ตัวเองเป็นแบบนี้ได้ยังไง เธอไปทำอะไรมา!”

เจ้าของร้านพูดเสียงดัง จนพนักงานคนอื่น ๆ หันมามอง เจียซินก้มหน้าลงด้วยความอาย ไม่กล้าสบตาใคร

“ถ้าให้เธอออกไปเสิร์ฟ ลูกค้าคงตกใจกันหมด ไปอยู่หลังร้านเลย จัดการของในครัวให้เรียบร้อย อย่าให้ใครเห็นหน้าเธอแบบนี้อีก!”

“ดะ ได้ค่ะเถ้าแก่”

คำพูดนั้นของเถ้าแก่ เหมือนมีดที่กรีดซ้ำลงในหัวใจที่เปราะบางของเจียซิน เธอพยักหน้ารับคำสั่งอย่างเงียบ ๆ รีบเดินไปที่หลังร้านด้วยน้ำตาคลอเบ้า แต่เธอก็พยายามกลั้นเอาไว้

ที่หลังร้านเจียซินจัดการนึ่งติ่มซำและเตรียมจานอาหารด้วยความตั้งใจ แม้จะถูกลดบทบาท เธอก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด มือของเธอสั่นเล็กน้อยในขณะที่จับเข่งติ่มซำออกจากซึ้งไอน้ำ เธอรู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ออกมา แต่ก็ต้องอดทน

‘ฉันต้องทนแบบนี้อีกนานแค่ไหน’

ในใจของเจียซินมีแต่คำถาม แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็รู้ว่าการหยุดทำงานไม่ใช่ทางออก

ขณะที่เจียซินกำลังจัดการกับงานในครัว เจียซินแอบมองออกไปยังโต๊ะของลูกค้าที่เต็มไปด้วยผู้คนที่หัวเราะและพูดคุยกันอย่างมีความสุข แม้เธอจะรู้สึกโดดเดี่ยว แต่ภาพเหล่านั้นกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้เธออยากเปลี่ยนแปลงชีวิต

เสียงช้อนจานกระทบกันดังเป็นจังหวะในครัวที่อบอวลไปด้วยไอน้ำร้อน เจียซินนั่งยอง ๆ อยู่หน้ากองจานที่สูงล้น มือน้อยๆ ของเธอจับฟองน้ำขัดถูจานแต่ละใบอย่างอ่อนแรง แม้ร่างกายจะเหนื่อยล้าจนแทบยืนไม่ไหว แต่เธอก็พยายามฝืนทำงานต่อ เพราะรู้ว่าหยุดไม่ได้

แต่ไม่นานนัก ร่างของเจียซินเริ่มโอนเอน สายตาของเธอพร่ามัวก่อนที่ความมืดจะเข้าครอบงำ เธอทรุดตัวลงกับพื้น พนักงานคนอื่น ๆ ร้องเสียงหลงและรีบเข้าไปช่วย แต่หารู้ไม่ว่าเจียซินจะหลับไปแบบนี้อีกนานเท่านาน…

“เจียซิน! เจียซิน!”

…เสียงอื้อ ๆ ในหูทำให้เจียซินที่กำลังหลับใหลลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอรู้สึกถึงความเย็นของพื้นโต๊ะไม้เรียบและแสงสว่างจ้ายามบ่ายที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามา

เจียซินมองรอบตัวด้วยความงุนงง พบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในครัวร้านติ่มซำอีกต่อไป แต่กำลังนั่งอยู่ในห้องเรียนที่คุ้นตา เจียซินกะพริบตาอย่างงุนงง สูดลมหายใจลึกเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับคืนมาให้ได้มากที่สุด

เจียซินก้มมองตัวเองด้วยความตกใจ ชุดที่เธอสวมคือชุดนักศึกษาสะอาดเรียบง่ายของมหาวิทยาลัย ชุดที่เธอไม่ได้ใส่มาหลายปีแล้ว เมื่อเห็นอย่างนี้ เสียงหัวใจของเจียซินก็เต้นดังระรัว เจียซินพึมพำออกมาเบา ๆ ขณะที่มองไปรอบตัวเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง

“ที่นี่มัน...”

บรรยากาศในห้องนั้นดูคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด โต๊ะเรียงเป็นแถว หนังสือและสมุดวางอยู่ตรงหน้า เสียงกระซิบกระซาบของเพื่อนร่วมชั้นดังแผ่วเบา เธอหันไปมองเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ มันคือชุดนักศึกษาสีขาวสะอาดและกระโปรงดำที่เธอไม่ได้สวมมานานหลายปีจริง ๆ

ซึ่งเป็นการแต่งตัวของนักศึกษาผู้หญิงที่ยังไม่เน้นความหรูหรา แต่เป็นการสะท้อนถึงการศึกษาและค่านิยมของสังคมจีนที่ให้ความสำคัญกับการทำงานหนักและการตั้งใจเรียนรู้มากกว่าการแสดงออกถึงตัวตนผ่านการแต่งตัว

‘นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน’

เจียซินหยุดจ้องมองกระดานดำตรงหน้าซึ่งเต็มไปด้วยตัวอักษรจีนที่เขียนด้วยชอล์กขาว และที่มุมขวาด้านบนของกระดานมีวันที่ที่เขียนไว้ด้วยลายมืออักษรจีนอย่างชัดเจนว่าวันนี้คือ…

วันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1980

เจียซินตาเบิกกว้าง วันนั้นคือวันที่ฝังแน่นในความทรงจำของเธอ มันคือวันที่เธอตัดสินใจบอกเลิกซูเหอ ชายหนุ่มที่เคยเป็นแฟนของเธอสมัยเรียน วันที่เธอเลือกเส้นทางชีวิตที่พาไปสู่ความผิดหวังและเสียใจในอนาคต

เจียซินยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง ความรู้สึกหลากหลายถาโถมเข้ามา ทั้งตกใจ สับสน และไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง

“ฉันย้อนเวลากลับมาในอดีตจริง ๆ เหรอ”

เจียซินพึมพำกับตัวเองพร้อมกับหยิกแขนของตัวเองเบา ๆ เพื่อพิสูจน์ว่าเธอไม่ได้ฝัน ซึ่งความเจ็บที่รู้สึกนั้นช่วยยืนยันว่าทุกอย่างตรงหน้าคือความจริง

เสียงของอาจารย์ที่กำลังสอนดังขึ้น แต่เจียซินไม่ได้ฟัง เธอมัวแต่นั่งนิ่ง ใจเต้นแรงจนแทบควบคุมไม่ได้ ภาพของซูเหอผุดขึ้นมาในหัว เขาคงอยู่ที่ไหนสักที่ในมหาวิทยาลัยนี้

‘นี่คือโอกาส…โอกาสที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้กลับมา’

เจียซินหายใจเข้าปอดลึก ๆ พยายามควบคุมความตื่นเต้นและความหวาดกลัว เธอรู้ว่าสิ่งที่เธอจะทำต่อจากนี้อาจเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ ไม่ใช่เพียงแค่ชีวิตของเธอ แต่ยังรวมถึงอนาคตของซูเหอด้วย

'ฉันได้โอกาสแก้ตัวครั้งใหญ่แล้ว ฉันจะไม่ทำผิดพลาดอีก’

เจียซินกำมือแน่น รวบรวมความกล้า ขณะที่แสงแดดจากหน้าต่างทอประกายอ่อน ๆ เหมือนเป็นสัญญาณให้เธอรู้ว่า ชีวิตใหม่นี้ เธอจะมีโอกาสได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง...

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เผลอใจรัก 18 มงกุฏ  นาธัชชา-ฟาเบียน)

เผลอใจรัก 18 มงกุฏ นาธัชชา-ฟาเบียน)

ญาตาวีมินทร์
5.0

นาธัชชาถูกทำร้ายร่างกายและจิตใจจากผู้เป็นพ่อ เพียงเพราะเธอมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ใครจะคิดว่าชีวิตเด็กเจ็ดขวบ จะถูกโชคชะตาเล่นตลกครั้งแล้วครั้งเล่า และพลิกผันจนกลายเป็น 18 มงกุฏ เพื่อความอยู่รอดของชีวิต ฟาเบียน (อายุ 35 ปี) ชายหนุ่มรูปหล่อทายาทคนโตแห่งมาร์ตินกรุ๊ป เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีธุรกิจโรงแรมทั้งที่ไทยและฝรั่งเศส ชีวิตของเขามีพร้อมทุกอย่างแต่กลับไร้เงาของสาวข้างกาย ใครๆ ก็พูดว่าเขาตั้งมาตรฐานผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตไว้สูง บางคนบอกว่าระดับเขาต้องได้ผู้หญิงระดับนางงามที่มีมงกุฏการันตีความสวย ซึ่งมันก็คงจะจริง เพราะสาวที่เข้ามาพัวพันเป็นสาวสวยที่มีมุงกุฏการันตี และไม่ได้มีแค่มงกุฏเดียว เพราะเธอเป็น 18 มงกุฏ นาธัชชา (อายุ 20 ปี) นาธัชชาหรือหนูนา เด็กหญิงผู้เผชิญกับชีวิตที่แสนรันทดตั้งแต่อายุแค่เจ็ดขวบ เธอถูกพ่อแท้ๆ ยัดเยียดให้เป็นตัวซวย เพียงเพราะมีส่วนทำให้แม่ต้องตาย ชีวิตของเธอต้องพลิกผันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เป็นกราฟชีวิตที่มีแต่จะตกต่ำ จนถึงขั้นต้องเป็น 18 มงกุฏ เพียงเพราะความอยู่รอดของชีวิต ความแตกต่างและความห่างชั้นทางสังคม จะชักนำให้เขาและเธอมาเจอกันได้อย่างไร เรามาติดตามไปพร้อมๆ กันค่ะ - ฟาเบียน ลูกชายคนโตของ เซดริก และมาลารินทร์ จากเรื่อง Malalin of love ร้อยรักมาลารินทร์ - นาธัชชา หรือหนูนา ตัวละครใหม่ คำเตือน -นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นมาเพื่อความบันเทิงเท่านั้น มิได้มีเจตนาชี้นำหรือเป็นตัวอย่างให้นำไปใช้ในชีวิตจริง -นิยายอาจมีเนื้อหาบางช่วงบางตอนที่ไม่เหมาะสม ทั้งเรื่องเพศ และมีคำหยาบคาย โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน - นิยายเรื่องนี้เหมาะสมกับผู้อ่านที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
5.0

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ