นราเป็นเพียงหญิงสาวยากชน ต้องทำงานแลกเงินแต่เธอก็มีตุลย์แฟนหนุ่มที่มีฐานะดีคอยช่วยเหลือตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็มีคนที่ดีพร้อมไว้ข้างกายเช่นกัน เพราะรักจึงยอมเลิก เธอจึงเลือกที่จะหอบลูกในท้องจากไปเพื่อให้เขามีอนาคตที่ดีขึ้น ดีกว่าที่จะอยู่กับคนแบบเธอแม้หัวใจจะเจ็บปวดมากเท่าไรก็ตาม
ขณะที่ นรา นักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 4 คณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ กำลังนั่งทำข้อสอบวิชาสุดท้ายของการสอบกลางภาคอย่างตั้งอกตั้งใจเธอก็โดนอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกออกไปหน้าห้องกลางคัน
“นรา หยุดทำข้อสอบแล้วตามอาจารย์ออกมาข้างนอก”
“ค่ะ” เจ้าของชื่อวางปากกาแล้วปิดข้อสอบที่ใกล้จะทำเสร็จอยู่แล้วลง
นักศึกษาสาวไม่แปลกใจเพราะสถานการณ์เช่นนี้เคยเกิดกับตัวเองบ่อยเกือบทุกเทอมจนแทบจะกลายเป็นความเคยชินที่ไม่น่าภาคภูมิใจนัก เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชั้นที่ทำเพียงเงยหน้าขึ้นมามอง บางคนแอบกลั้นขำแล้วกลับไปก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบต่อ ไม่มีใครให้ความสนใจราวสิ่งที่กำลังเกินขึ้นนี้เป็นเรื่องปกติ
นราเดินตามอาจารย์สาวออกมาหน้าห้อง...ปีแรก ๆ เธอยังรู้สึกอายที่โดนเรียก แต่พอเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเข้าปีที่สี่เธอก็ชาชินจนไม่รู้สึกอะไรเสียแล้ว จะเรียกว่าหน้ามันด้านจนชาก็คงไม่เกินจริงนัก
“หนูขอทำข้อสอบต่อให้เสร็จไม่ได้เหรอคะอาจารย์ นี่เป็นวิชาสุดท้ายของการสอบกลางภาคแล้ว เดี๋ยวสิ้นเดือนหนูจะรีบเอาเงินที่ได้จากการทำงานพิเศษไปจ่ายค่าเทอมนะคะ” นักศึกษาสาวยกมือไหว้ขอความเห็นใจ
เธอใกล้จะเรียนจบแล้ว ความหวังที่จะได้มีงานดี ๆ ทำ มีรายได้พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องและช่วยเหลือครอบครัวอยู่ใกล้แค่เอื้อม ขอเพียงแค่เธอผ่านเทอมนี้และเทอมสุดท้ายไปได้เท่านั้น...อีกแค่อึดใจเดียว
“แต่เธอก็ค้างมาหลายเดือนแล้วนะ ทางการเงินเขาแจ้งมาว่าไม่อนุญาตให้เธอเข้าสอบ อาจารย์ก็จนใจ”
“แต่ถ้าหนูไม่ได้สอบ หนูต้องติดเอฟวิชานี้แน่ ๆ เลยนะคะอาจารย์ อีกเทอมเดียวหนูก็จะเรียนจบแล้วด้วย...อาจารย์ช่วยหนูหน่อยไม่ได้เหรอคะ ขอกลับเข้าไปสอบให้เสร็จโดยยังไม่ต้องนับคะแนนก็ได้ค่ะ หนูจ่ายค่าเทอมครบเมื่อไหร่ค่อยนับ” นราไหว้ปรก ๆ พยายามต่อรองให้ได้กลับเข้าไปทำข้อสอบอย่างสุดความสามารถ
เนื่องจากนราเกิดในครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่ทำงานรับจ้างรายวันอยู่ที่ตลาดในชุมชนแออัด ขนผักบ้าง รับจ้างทำความสะอาดบ้านตัดหญ้าบ้างแล้วแต่ชาวบ้านแถวนั้นจะจ้าง รายได้จึงไม่มากมายนัก การที่เธอจะมาเรียนมหาวิทยาลัยได้จึงต้องทำงานพิเศษอย่างหนัก ทั้งรับจ้างเฝ้าร้านกาแฟหลังมหาวิทยาลัย ทำเอกสารกวดวิชาขาย บางครั้งก็รับสอนพิเศษให้น้อง ๆ ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เรียกได้ว่าอะไรที่พอจะเปลี่ยนเป็นเงินได้นราเอาหมด
ความจริงเทอมนี้เธอเก็บค่าเทอมครบแล้ว แต่เพราะพ่อป่วยจึงต้องแบ่งเงินไปซื้อยาทำให้ค่าเทอมยังขาดไปนิดหน่อย ถ้าได้ค่าจ้างเดือนล่าสุดเมื่อไหร่ก็จะครบพอดี
“นะคะอาจารย์หนูขอร้อง ช่วยหนูด้วยเถอะค่ะ” นักศึกษาสาวเริ่มน้ำตาคลอ
คนเป็นอาจารย์ก็ใช่จะใจไม้ไส้ระกำกับลูกศิษย์ ที่สำคัญนราก็เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน แม้จะไม่ค่อยมีเวลามาร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ในคณะเพราะเจ้าตัวบอกว่าต้องทำงานแต่ผลการเรียนก็อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้มาโดยตลอด...หากทำตามที่นักศึกษาเสนอให้เธอเข้าสอบให้เสร็จไปก่อนแต่ยังไม่เก็บคะแนนคงไม่เสียหายกระมัง
ระหว่างอาจารย์กำลังตัดสินใจนักศึกษาชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในวงสนทนา
“สวัสดีครับอาจารย์” เขายกมือไหว้ก่อนดันแว่นสายตากรอบเหลี่ยมให้กลับไปอยู่บนสันจมูกโด่ง “ถ้าผมไปจ่ายค่าเทอมให้ตอนนี้อาจารย์จะอนุญาตให้นราเข้าสอบได้ใช่ไหมครับ” ตุลย์ถาม
“ตุลย์!” นาราเรียกแฟนหนุ่มอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะมาหาเธอถึงที่คณะแล้วต้องมาเห็นภาพน่าอายพวกนี้...ไหนว่าวันนี้ก็มีสอบเหมือนกันอย่างไรล่ะ
ตุลย์เป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ชั้นปีที่ 4 เขาเป็นแฟนหนุ่มของนราที่คบหากันมาได้สองปี ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างราบรื่นด้วยมีนิสัยหลายอย่างคล้าย ๆ กัน แทบไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง จะมีก็แต่นรานี่ล่ะที่ชอบเก็บงำหลายเรื่องเป็นความลับจนทำให้เขาน้อยใจอยู่บ่อย ๆ
เช่นเรื่องที่เธอมีเงินไม่พอจ่ายค่าเทอม เทอมล่าสุดเป็นต้น
“เธอเป็นญาติของนราเหรอ?” อาจารย์สาวถาม
“ผมเป็นแฟนครับ เดี๋ยวผมจะไปจ่ายค่าเทอมให้เดี๋ยวนี้เลย อาจารย์ปล่อยนราให้เข้าสอบเถอะครับ”
“ตุลย์แต่ว่า...” นราหมายจะห้าม เพราะที่ตุลย์เคยช่วยจ่ายให้เธอเมื่อเทอมก่อน ๆ เธอยังไม่ได้ใช้คืนเลย จะปล่อยให้เขาไปช่วยจ่ายอีกครั้งได้อย่างไร
“อย่าดื้อ” ตุลย์ดุแฟนสาวเสียงนุ่ม “รีบกลับเข้าไปสอบให้เสร็จแล้วออกมารอตุลย์หน้าห้อง ทำธุระเสร็จแล้วจะกลับมารับ”
ในที่สุดนราก็สามารถสอบกลางภาคได้เสร็จครบทุกวิชา เมื่อเธอออกมาจากห้องก็เห็นว่าตุลย์มานั่งอ่านหนังสือรออยู่แล้ว
“ตุลย์...” เธอเรียกเบา ๆ
“เป็นไง ทำข้อสอบได้ไหม?”
“เราขอโทษนะที่ทำให้ตุลย์เดือดร้อนอีกแล้ว” แทนที่จะตอบคำถามนรากลับเลือกที่จะขอโทษแทน เธอไม่ชอบเลยที่ตัวเองต้องกลายไปเป็นตัวภาระของแฟนหนุ่ม...ความจริงเธอควรวางแผนรับผิดชอบชีวิตของตัวเองให้ดีกว่านี้
“ขอโทษทำไม...” ว่าที่คุณหมอหนุ่มถอนหายใจ “เดือดร้อนเรื่องเงินทำไมไม่บอก ตุลย์เคยบอกนราแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องเกรงใจเงินแค่นี้เอง มันไม่ได้มากมายอะไรจนถึงขั้นต้องเอาอนาคตตัวเองเข้าแลก”
“มันไม่มากสำหรับตุลย์ก็จริง แต่มันมากสำหรับเรานี่”
นรารู้ว่าครอบครัวแฟนของตัวเองรวยจนเข้าขั้นเศรษฐี แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่ทำให้เธอเอาเปรียบเขาได้...
ตุลย์เก็บหนังสือเรียนลงกระเป๋า เขาเดินไปลูบหัวแฟนสาวเบา ๆ นึกอยากหอมกระหม่อมเธอสักทีแต่พวกเขายังอยู่ในอาคารเรียนจึงยังไม่สามารถทำตามใจได้
เพราะนราไม่เคยคิดเอาเปรียบใคร เธอเป็นคนขยัน รักศักดิ์ศรีและภูมิใจที่ได้ยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นคนดีโดยเนื้อแท้ ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เขาเคยผ่านมาที่พอรู้ว่าเขารวยก็ร่ำร้องจะเอานั่นเอานี่ไม่หยุด...ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงทำให้ตุลย์รักนราจนคิดจะจริงจังกับเธอมากกว่าใคร
“ถ้านราไม่สบายใจ เรียนจบได้งานทำเมื่อไหร่ก็กลับมาเลี้ยงดูนักศึกษาอย่างตุลย์ด้วยก็แล้วกัน ตุลย์ยังต้องเรียนอีกตั้งสองปีกว่าจะจบ” เขาบอกยิ้ม ๆ “เฮอ...อีกหน่อยก็จะได้มีแฟนเป็นสาวออฟฟิศแล้ว ตื่นเต้นจังเลย”
“ตุลย์ก็ เปลี่ยนเรื่องอีกจนได้...เราจะหาเงินมาคืนนะ เราจดเอาไว้ทุกบาททุกสตางค์เลย เราไม่เอาเงินตุลย์มาเฉย ๆ หรอก” นราบอกอย่างมุ่งมั่น
หลาย ๆ ครั้งความใจดีของตุลย์ก็ทำให้นราอดละอายใจไม่ได้
“ตามใจ...ว่าแต่ วันนี้วันอะไรนราจำได้หรือเปล่า” ตุลย์เปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้แฟนสาววนเวียนคิดถึงแต่เรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ
“วันอะไร...ก็วันสอบวันสุดท้ายไง” หญิงสาวตอบพาซื่อ
“เฮอ ลืมจริง ๆ ด้วยสินะ”
ตุลย์จูงมือแฟนสาวออกไปที่ลานจอดรถหลังอาคารเรียนรวม รถยุโรปคันหรูสีน้ำเงินเข้มที่เขาได้เป็นของขวัญจากครอบครัวจอดเด่นเป็นสง่าที่สุดในลาน
ตอนแรก ๆ นราก็รู้สึกอายที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของนักศึกษาคนอื่น ๆ ในคณะที่มองมาทางเธอกับแฟนหนุ่ม แต่พอนานวันเข้าเธอก็เริ่มชิน...ใครจะมองหรือแอบนินทาว่าเธอจับผู้ชายรวย ๆ ก็ปล่อยให้พวกเขาพูดไป เพราะเธอรู้แก่ใจตัวเองดีว่าคบกับตุลย์เพราะเขาเป็นคนดี น่ารัก ไม่ใช่เพราะเงิน
ตุลย์ช่วยคาดเข็มขัดนิรภัยให้คนรักหลังจากพาเธอเข้ามานั่งในห้องโดยสารเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากรถคันนี้ติดฟิล์มดำ ตอนนี้จึงคล้ายกับทั้งโลกมีพวกเขาเพียงสองคน
“สรุปว่าเราลืมอะไรเหรอ...วันนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดตุลย์นี่” นราเอียงคอถามด้วยท่าทางน่ารักที่สุดในสายตาของแฟนหนุ่ม
“ใช่วันนี้ไม่ใช่วันเกิดตุลย์ แต่เป็นวันเกิดของนราต่างหาก...” เขาเฉลยยิ้ม ๆ
“จริงด้วยสิ! เราลืมไปเลย ขอบคุณตุลย์มากเลยนะที่จำวันเกิดเราได้” นราเอ่ยน้ำตาคลออย่างซาบซึ้งใจ...ปีที่แล้วก็เป็นเขาที่พาเธอไปเซอร์ไพรส์ที่ริมทะเล ปีนี้ก็เป็นเขาอีกแล้วที่มาเตือน
ชายหนุ่มดีดหน้าผากคนรักเบา ๆ แล้วจูบตาม...คนอะไรลืมวันเกิดตัวเองก็ได้
“ตุลย์มีของขวัญอะไรจะให้”
“ของขวัญเหรอ...”
“อืม”
ตุลย์หยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงเลือดหมูทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขึ้นมาเปิดตรงหน้านรา ภายในบรรจุล็อกเกตทองคำขาวรูปหัวใจอันเท่าหัวแม่มือของหญิงสาวตัวเรือนประดับเพชรหลากสีพราวพรายเอาไว้
“สวยจังเลย” นราอุทานน้ำตาคลอ “แต่เราคงรับเอาไว้ไม่ได้หรอก...ราคามันคงแพงมาก แค่ตุลย์จำวันเกิดของเราได้ทุกปีเราก็ดีใจแล้ว” เธอบอกอย่างเกรงใจ
“คงไม่รับไม่ได้...ดูนี่สิ”
ตุลย์พลิกให้นราดูชื่อที่สลักอยู่ตรงตัวเรือนด้านหลัง มันเป็นอักษรภาษาอังกฤษ เขียนชื่อของตุลย์กับเธอเอาไว้คู่กัน
“เวลานราสวมมันจะได้รู้สึกว่ามีตุลย์อยู่ข้าง ๆ อีกไม่นานเราก็ต้องห่างกันมากกว่านี้ นราเข้าสู่ชีวิตวัยทำงาน ส่วนตุลย์ยังต้องเรียนต่อ เราไม่อยากให้นรารู้สึกว่าพวกเราไกลกัน...มาใกล้ ๆ สิ เดี๋ยวตุลย์สวมให้นะ”
ชายหนุ่มสวมสร้อยคอให้คนรัก ก่อนถอยห่างออกมามองเธออย่างมีความสุข
“สุขสันต์วันเกิดนะครับ ตุลย์ขอให้นรามีความสุขมาก ๆ ต่อจากนี้ไปขอให้ชีวิตมีแต่ความราบรื่น คิดหวังอะไรก็สมดั่งใจปรารถนา สุขภาพแข็งแรงเพราะมีหมอหล่อ ๆ อย่างตุลย์คอยดูแล...และที่สำคัญที่สุดขอให้รักให้หลงตุลย์คนเดียวไปนาน ๆ”
เจ้าของวันเกิดหัวเราะคิก “ข้อหลังนี่ชักจะแปลก ๆ นะว่าไหม”
“ไม่เห็นแปลกเลย ข้อสุดท้ายต่างหากที่สำคัญที่สุด”
ตุลย์ค่อย ๆ เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้แฟนสาว เขาเชยคางของเธอขึ้นเพื่อปรับองศาใบหน้าให้รับจุมพิตของเขาได้ถนัด สองหนุ่มสาวแลกเปลี่ยนความหวานหอมจากริมฝีปากของกันและกันอย่างไม่รู้เบื่อหน่าย
“ตุลย์รักนรามากนะ” เขากระซิบบอกกับริมฝีปากเธอ
“นราก็รักตุลย์เหมือนกัน”
“แฟนของเราสวยมาก” จู่ ๆ เขาก็ชมขึ้นมาดื้อ ๆ
“ตุลย์ก็พูดเกินไป เราสอบมาทั้งวันหน้ามันจนดูแทบไม่ได้...ยังจะมาชมว่าสวยอีก” เธอบอกอาย ๆ พลางหยิบเครื่องประดับที่ห้อยอยู่บนลำคอขึ้นมาพินิจอย่างมีความสุข
“ชอบสร้อยไหม?”
“ชอบมาก ๆ เลย ตั้งแต่เกิดมาเรายังไม่เคยมีเครื่องประดับที่สวยขนาดนี้มาก่อน อันนี้เป็นเส้นแรก” นราบอกตามประสาซื่อ
“ตุลย์ดีใจที่นราชอบนะ แต่ของขวัญวันเกิดปีนี้ของนรายังไม่หมด”
“ยังมีอีกเหรอ!”
“ใช่ วันพรุ่งนี้เราจะไปกินข้าวกับแม่ของตุลย์กัน ตุลย์นัดไว้แล้ว...นราแต่งตัวสวย ๆ รอตุลย์ไปรับที่บ้านเลยนะ”
“มันจะไม่เร็วเกินไปเหรอ” หญิงสาวยังไม่มั่นใจ
“ไม่เร็วไปหรอก ตุลย์อยากให้นรามั่นใจว่าตุลย์จริงจังกับความสัมพันธ์ของเรา ไม่ได้อยากคบเล่น ๆ อีกอย่างต่อไปพอนราไปเจอพวกรุ่นพี่พนักงานบริษัทหล่อ ๆ จะได้ไม่เปลี่ยนใจไปจากตุลย์ด้วยไง” ว่าที่คุณหมอเจ้าเล่ห์ยักคิ้ว...เขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว
หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล
ข้อมูลเพิ่มเติม