เพราะรักจึงยอมเลิก

เพราะรักจึงยอมเลิก

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
531
ชม
10
บท

นราเป็นเพียงหญิงสาวยากชน ต้องทำงานแลกเงินแต่เธอก็มีตุลย์แฟนหนุ่มที่มีฐานะดีคอยช่วยเหลือตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็มีคนที่ดีพร้อมไว้ข้างกายเช่นกัน เพราะรักจึงยอมเลิก เธอจึงเลือกที่จะหอบลูกในท้องจากไปเพื่อให้เขามีอนาคตที่ดีขึ้น ดีกว่าที่จะอยู่กับคนแบบเธอแม้หัวใจจะเจ็บปวดมากเท่าไรก็ตาม

บทที่ 1 No.1

ขณะที่ นรา นักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 4 คณะอักษรศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ กำลังนั่งทำข้อสอบวิชาสุดท้ายของการสอบกลางภาคอย่างตั้งอกตั้งใจเธอก็โดนอาจารย์ที่ปรึกษาเรียกออกไปหน้าห้องกลางคัน

“นรา หยุดทำข้อสอบแล้วตามอาจารย์ออกมาข้างนอก”

“ค่ะ” เจ้าของชื่อวางปากกาแล้วปิดข้อสอบที่ใกล้จะทำเสร็จอยู่แล้วลง

นักศึกษาสาวไม่แปลกใจเพราะสถานการณ์เช่นนี้เคยเกิดกับตัวเองบ่อยเกือบทุกเทอมจนแทบจะกลายเป็นความเคยชินที่ไม่น่าภาคภูมิใจนัก เช่นเดียวกับเพื่อนร่วมชั้นที่ทำเพียงเงยหน้าขึ้นมามอง บางคนแอบกลั้นขำแล้วกลับไปก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบต่อ ไม่มีใครให้ความสนใจราวสิ่งที่กำลังเกินขึ้นนี้เป็นเรื่องปกติ

นราเดินตามอาจารย์สาวออกมาหน้าห้อง...ปีแรก ๆ เธอยังรู้สึกอายที่โดนเรียก แต่พอเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเข้าปีที่สี่เธอก็ชาชินจนไม่รู้สึกอะไรเสียแล้ว จะเรียกว่าหน้ามันด้านจนชาก็คงไม่เกินจริงนัก

“หนูขอทำข้อสอบต่อให้เสร็จไม่ได้เหรอคะอาจารย์ นี่เป็นวิชาสุดท้ายของการสอบกลางภาคแล้ว เดี๋ยวสิ้นเดือนหนูจะรีบเอาเงินที่ได้จากการทำงานพิเศษไปจ่ายค่าเทอมนะคะ” นักศึกษาสาวยกมือไหว้ขอความเห็นใจ

เธอใกล้จะเรียนจบแล้ว ความหวังที่จะได้มีงานดี ๆ ทำ มีรายได้พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องและช่วยเหลือครอบครัวอยู่ใกล้แค่เอื้อม ขอเพียงแค่เธอผ่านเทอมนี้และเทอมสุดท้ายไปได้เท่านั้น...อีกแค่อึดใจเดียว

“แต่เธอก็ค้างมาหลายเดือนแล้วนะ ทางการเงินเขาแจ้งมาว่าไม่อนุญาตให้เธอเข้าสอบ อาจารย์ก็จนใจ”

“แต่ถ้าหนูไม่ได้สอบ หนูต้องติดเอฟวิชานี้แน่ ๆ เลยนะคะอาจารย์ อีกเทอมเดียวหนูก็จะเรียนจบแล้วด้วย...อาจารย์ช่วยหนูหน่อยไม่ได้เหรอคะ ขอกลับเข้าไปสอบให้เสร็จโดยยังไม่ต้องนับคะแนนก็ได้ค่ะ หนูจ่ายค่าเทอมครบเมื่อไหร่ค่อยนับ” นราไหว้ปรก ๆ พยายามต่อรองให้ได้กลับเข้าไปทำข้อสอบอย่างสุดความสามารถ

เนื่องจากนราเกิดในครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่ทำงานรับจ้างรายวันอยู่ที่ตลาดในชุมชนแออัด ขนผักบ้าง รับจ้างทำความสะอาดบ้านตัดหญ้าบ้างแล้วแต่ชาวบ้านแถวนั้นจะจ้าง รายได้จึงไม่มากมายนัก การที่เธอจะมาเรียนมหาวิทยาลัยได้จึงต้องทำงานพิเศษอย่างหนัก ทั้งรับจ้างเฝ้าร้านกาแฟหลังมหาวิทยาลัย ทำเอกสารกวดวิชาขาย บางครั้งก็รับสอนพิเศษให้น้อง ๆ ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เรียกได้ว่าอะไรที่พอจะเปลี่ยนเป็นเงินได้นราเอาหมด

ความจริงเทอมนี้เธอเก็บค่าเทอมครบแล้ว แต่เพราะพ่อป่วยจึงต้องแบ่งเงินไปซื้อยาทำให้ค่าเทอมยังขาดไปนิดหน่อย ถ้าได้ค่าจ้างเดือนล่าสุดเมื่อไหร่ก็จะครบพอดี

“นะคะอาจารย์หนูขอร้อง ช่วยหนูด้วยเถอะค่ะ” นักศึกษาสาวเริ่มน้ำตาคลอ

คนเป็นอาจารย์ก็ใช่จะใจไม้ไส้ระกำกับลูกศิษย์ ที่สำคัญนราก็เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน แม้จะไม่ค่อยมีเวลามาร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ในคณะเพราะเจ้าตัวบอกว่าต้องทำงานแต่ผลการเรียนก็อยู่ในเกณฑ์ใช้ได้มาโดยตลอด...หากทำตามที่นักศึกษาเสนอให้เธอเข้าสอบให้เสร็จไปก่อนแต่ยังไม่เก็บคะแนนคงไม่เสียหายกระมัง

ระหว่างอาจารย์กำลังตัดสินใจนักศึกษาชายคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในวงสนทนา

“สวัสดีครับอาจารย์” เขายกมือไหว้ก่อนดันแว่นสายตากรอบเหลี่ยมให้กลับไปอยู่บนสันจมูกโด่ง “ถ้าผมไปจ่ายค่าเทอมให้ตอนนี้อาจารย์จะอนุญาตให้นราเข้าสอบได้ใช่ไหมครับ” ตุลย์ถาม

“ตุลย์!” นาราเรียกแฟนหนุ่มอย่างตกใจ ไม่คิดว่าเขาจะมาหาเธอถึงที่คณะแล้วต้องมาเห็นภาพน่าอายพวกนี้...ไหนว่าวันนี้ก็มีสอบเหมือนกันอย่างไรล่ะ

ตุลย์เป็นนักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ชั้นปีที่ 4 เขาเป็นแฟนหนุ่มของนราที่คบหากันมาได้สองปี ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างราบรื่นด้วยมีนิสัยหลายอย่างคล้าย ๆ กัน แทบไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้ง จะมีก็แต่นรานี่ล่ะที่ชอบเก็บงำหลายเรื่องเป็นความลับจนทำให้เขาน้อยใจอยู่บ่อย ๆ

เช่นเรื่องที่เธอมีเงินไม่พอจ่ายค่าเทอม เทอมล่าสุดเป็นต้น

“เธอเป็นญาติของนราเหรอ?” อาจารย์สาวถาม

“ผมเป็นแฟนครับ เดี๋ยวผมจะไปจ่ายค่าเทอมให้เดี๋ยวนี้เลย อาจารย์ปล่อยนราให้เข้าสอบเถอะครับ”

“ตุลย์แต่ว่า...” นราหมายจะห้าม เพราะที่ตุลย์เคยช่วยจ่ายให้เธอเมื่อเทอมก่อน ๆ เธอยังไม่ได้ใช้คืนเลย จะปล่อยให้เขาไปช่วยจ่ายอีกครั้งได้อย่างไร

“อย่าดื้อ” ตุลย์ดุแฟนสาวเสียงนุ่ม “รีบกลับเข้าไปสอบให้เสร็จแล้วออกมารอตุลย์หน้าห้อง ทำธุระเสร็จแล้วจะกลับมารับ”

ในที่สุดนราก็สามารถสอบกลางภาคได้เสร็จครบทุกวิชา เมื่อเธอออกมาจากห้องก็เห็นว่าตุลย์มานั่งอ่านหนังสือรออยู่แล้ว

“ตุลย์...” เธอเรียกเบา ๆ

“เป็นไง ทำข้อสอบได้ไหม?”

“เราขอโทษนะที่ทำให้ตุลย์เดือดร้อนอีกแล้ว” แทนที่จะตอบคำถามนรากลับเลือกที่จะขอโทษแทน เธอไม่ชอบเลยที่ตัวเองต้องกลายไปเป็นตัวภาระของแฟนหนุ่ม...ความจริงเธอควรวางแผนรับผิดชอบชีวิตของตัวเองให้ดีกว่านี้

“ขอโทษทำไม...” ว่าที่คุณหมอหนุ่มถอนหายใจ “เดือดร้อนเรื่องเงินทำไมไม่บอก ตุลย์เคยบอกนราแล้วใช่ไหมว่าไม่ต้องเกรงใจเงินแค่นี้เอง มันไม่ได้มากมายอะไรจนถึงขั้นต้องเอาอนาคตตัวเองเข้าแลก”

“มันไม่มากสำหรับตุลย์ก็จริง แต่มันมากสำหรับเรานี่”

นรารู้ว่าครอบครัวแฟนของตัวเองรวยจนเข้าขั้นเศรษฐี แต่นั่นก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่ทำให้เธอเอาเปรียบเขาได้...

ตุลย์เก็บหนังสือเรียนลงกระเป๋า เขาเดินไปลูบหัวแฟนสาวเบา ๆ นึกอยากหอมกระหม่อมเธอสักทีแต่พวกเขายังอยู่ในอาคารเรียนจึงยังไม่สามารถทำตามใจได้

เพราะนราไม่เคยคิดเอาเปรียบใคร เธอเป็นคนขยัน รักศักดิ์ศรีและภูมิใจที่ได้ยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นคนดีโดยเนื้อแท้ ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ ที่เขาเคยผ่านมาที่พอรู้ว่าเขารวยก็ร่ำร้องจะเอานั่นเอานี่ไม่หยุด...ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงทำให้ตุลย์รักนราจนคิดจะจริงจังกับเธอมากกว่าใคร

“ถ้านราไม่สบายใจ เรียนจบได้งานทำเมื่อไหร่ก็กลับมาเลี้ยงดูนักศึกษาอย่างตุลย์ด้วยก็แล้วกัน ตุลย์ยังต้องเรียนอีกตั้งสองปีกว่าจะจบ” เขาบอกยิ้ม ๆ “เฮอ...อีกหน่อยก็จะได้มีแฟนเป็นสาวออฟฟิศแล้ว ตื่นเต้นจังเลย”

“ตุลย์ก็ เปลี่ยนเรื่องอีกจนได้...เราจะหาเงินมาคืนนะ เราจดเอาไว้ทุกบาททุกสตางค์เลย เราไม่เอาเงินตุลย์มาเฉย ๆ หรอก” นราบอกอย่างมุ่งมั่น

หลาย ๆ ครั้งความใจดีของตุลย์ก็ทำให้นราอดละอายใจไม่ได้

“ตามใจ...ว่าแต่ วันนี้วันอะไรนราจำได้หรือเปล่า” ตุลย์เปลี่ยนเรื่องเพราะไม่อยากให้แฟนสาววนเวียนคิดถึงแต่เรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ

“วันอะไร...ก็วันสอบวันสุดท้ายไง” หญิงสาวตอบพาซื่อ

“เฮอ ลืมจริง ๆ ด้วยสินะ”

ตุลย์จูงมือแฟนสาวออกไปที่ลานจอดรถหลังอาคารเรียนรวม รถยุโรปคันหรูสีน้ำเงินเข้มที่เขาได้เป็นของขวัญจากครอบครัวจอดเด่นเป็นสง่าที่สุดในลาน

ตอนแรก ๆ นราก็รู้สึกอายที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาของนักศึกษาคนอื่น ๆ ในคณะที่มองมาทางเธอกับแฟนหนุ่ม แต่พอนานวันเข้าเธอก็เริ่มชิน...ใครจะมองหรือแอบนินทาว่าเธอจับผู้ชายรวย ๆ ก็ปล่อยให้พวกเขาพูดไป เพราะเธอรู้แก่ใจตัวเองดีว่าคบกับตุลย์เพราะเขาเป็นคนดี น่ารัก ไม่ใช่เพราะเงิน

ตุลย์ช่วยคาดเข็มขัดนิรภัยให้คนรักหลังจากพาเธอเข้ามานั่งในห้องโดยสารเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากรถคันนี้ติดฟิล์มดำ ตอนนี้จึงคล้ายกับทั้งโลกมีพวกเขาเพียงสองคน

“สรุปว่าเราลืมอะไรเหรอ...วันนี้ก็ไม่ใช่วันเกิดตุลย์นี่” นราเอียงคอถามด้วยท่าทางน่ารักที่สุดในสายตาของแฟนหนุ่ม

“ใช่วันนี้ไม่ใช่วันเกิดตุลย์ แต่เป็นวันเกิดของนราต่างหาก...” เขาเฉลยยิ้ม ๆ

“จริงด้วยสิ! เราลืมไปเลย ขอบคุณตุลย์มากเลยนะที่จำวันเกิดเราได้” นราเอ่ยน้ำตาคลออย่างซาบซึ้งใจ...ปีที่แล้วก็เป็นเขาที่พาเธอไปเซอร์ไพรส์ที่ริมทะเล ปีนี้ก็เป็นเขาอีกแล้วที่มาเตือน

ชายหนุ่มดีดหน้าผากคนรักเบา ๆ แล้วจูบตาม...คนอะไรลืมวันเกิดตัวเองก็ได้

“ตุลย์มีของขวัญอะไรจะให้”

“ของขวัญเหรอ...”

“อืม”

ตุลย์หยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงเลือดหมูทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขึ้นมาเปิดตรงหน้านรา ภายในบรรจุล็อกเกตทองคำขาวรูปหัวใจอันเท่าหัวแม่มือของหญิงสาวตัวเรือนประดับเพชรหลากสีพราวพรายเอาไว้

“สวยจังเลย” นราอุทานน้ำตาคลอ “แต่เราคงรับเอาไว้ไม่ได้หรอก...ราคามันคงแพงมาก แค่ตุลย์จำวันเกิดของเราได้ทุกปีเราก็ดีใจแล้ว” เธอบอกอย่างเกรงใจ

“คงไม่รับไม่ได้...ดูนี่สิ”

ตุลย์พลิกให้นราดูชื่อที่สลักอยู่ตรงตัวเรือนด้านหลัง มันเป็นอักษรภาษาอังกฤษ เขียนชื่อของตุลย์กับเธอเอาไว้คู่กัน

“เวลานราสวมมันจะได้รู้สึกว่ามีตุลย์อยู่ข้าง ๆ อีกไม่นานเราก็ต้องห่างกันมากกว่านี้ นราเข้าสู่ชีวิตวัยทำงาน ส่วนตุลย์ยังต้องเรียนต่อ เราไม่อยากให้นรารู้สึกว่าพวกเราไกลกัน...มาใกล้ ๆ สิ เดี๋ยวตุลย์สวมให้นะ”

ชายหนุ่มสวมสร้อยคอให้คนรัก ก่อนถอยห่างออกมามองเธออย่างมีความสุข

“สุขสันต์วันเกิดนะครับ ตุลย์ขอให้นรามีความสุขมาก ๆ ต่อจากนี้ไปขอให้ชีวิตมีแต่ความราบรื่น คิดหวังอะไรก็สมดั่งใจปรารถนา สุขภาพแข็งแรงเพราะมีหมอหล่อ ๆ อย่างตุลย์คอยดูแล...และที่สำคัญที่สุดขอให้รักให้หลงตุลย์คนเดียวไปนาน ๆ”

เจ้าของวันเกิดหัวเราะคิก “ข้อหลังนี่ชักจะแปลก ๆ นะว่าไหม”

“ไม่เห็นแปลกเลย ข้อสุดท้ายต่างหากที่สำคัญที่สุด”

ตุลย์ค่อย ๆ เคลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้แฟนสาว เขาเชยคางของเธอขึ้นเพื่อปรับองศาใบหน้าให้รับจุมพิตของเขาได้ถนัด สองหนุ่มสาวแลกเปลี่ยนความหวานหอมจากริมฝีปากของกันและกันอย่างไม่รู้เบื่อหน่าย

“ตุลย์รักนรามากนะ” เขากระซิบบอกกับริมฝีปากเธอ

“นราก็รักตุลย์เหมือนกัน”

“แฟนของเราสวยมาก” จู่ ๆ เขาก็ชมขึ้นมาดื้อ ๆ

“ตุลย์ก็พูดเกินไป เราสอบมาทั้งวันหน้ามันจนดูแทบไม่ได้...ยังจะมาชมว่าสวยอีก” เธอบอกอาย ๆ พลางหยิบเครื่องประดับที่ห้อยอยู่บนลำคอขึ้นมาพินิจอย่างมีความสุข

“ชอบสร้อยไหม?”

“ชอบมาก ๆ เลย ตั้งแต่เกิดมาเรายังไม่เคยมีเครื่องประดับที่สวยขนาดนี้มาก่อน อันนี้เป็นเส้นแรก” นราบอกตามประสาซื่อ

“ตุลย์ดีใจที่นราชอบนะ แต่ของขวัญวันเกิดปีนี้ของนรายังไม่หมด”

“ยังมีอีกเหรอ!”

“ใช่ วันพรุ่งนี้เราจะไปกินข้าวกับแม่ของตุลย์กัน ตุลย์นัดไว้แล้ว...นราแต่งตัวสวย ๆ รอตุลย์ไปรับที่บ้านเลยนะ”

“มันจะไม่เร็วเกินไปเหรอ” หญิงสาวยังไม่มั่นใจ

“ไม่เร็วไปหรอก ตุลย์อยากให้นรามั่นใจว่าตุลย์จริงจังกับความสัมพันธ์ของเรา ไม่ได้อยากคบเล่น ๆ อีกอย่างต่อไปพอนราไปเจอพวกรุ่นพี่พนักงานบริษัทหล่อ ๆ จะได้ไม่เปลี่ยนใจไปจากตุลย์ด้วยไง” ว่าที่คุณหมอเจ้าเล่ห์ยักคิ้ว...เขาวางแผนทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

มงกุฎเลือด

มงกุฎเลือด

Tepui Frost
5.0

ในชาติก่อน นางได้ต่อสู้เพื่อประเทศชาติเป็นเวลาห้าปี แต่ความดีความชอบทางการทหารกลับถูกน้องหญิงยึดไป คู่หมั้นที่นางรักหมดใจนั้นกลับนิ่งเฉยและร่วมมือกับอีกฝ่ายผลักนางตกลงสู่ห้วงลึกจนต้องเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจในคืนที่หนาวเย็น หลังจากได้เกิดใหม่ นางสาบานว่าจะทำให้ทุกคนที่รังแกนางได้รับผลกรรมที่สาสม เมื่อเผชิญหน้ากับครอบครัวที่เสแสร้งและผู้ชายเจ้าชู้ นางยิ้มเยาะ : ความดีความชอบทางทหาร? รางวัล? คู่หมั้น? เอาไปให้หมด นางหันหลังกลับและคุกเข่าในงานเลี้ยงในวังอย่างน่าตกใจโดยชี้ตรงไปยังมุมมืดที่มีอ๋องอวี้นั่งอยู่บนรถเข็น“ขอฝ่าบาททรงโปรดพระราชทานการสมรสระหว่างหม่อมฉันกับอ๋องอวี้เพคะ” ทุกคนต่างตกตะลึง อ๋องอวี้เซียวจือ ขาทั้งสองข้างใช้การไม่ได้และมีนิสัยเย็นชา เป็นคนที่ทุกคนหลีกเลี่ยงเสมือนปีศาจที่มีชีวิต ทุกคนหัวเราะเยาะนางว่าคงบ้าไปแล้ว ถึงรนหาที่ตายเช่นนี้ แต่ไม่มีใครรู้ว่านางเห็นถึงความโดดเด่นและพลังที่ซ่อนอยู่ลึกในตัวชายคนนี้ นางช่วยให้เขาฟื้นฟูความแข็งแกร่งและรักษาขาที่เป็นพิการ เขาสัญญาว่าจะให้ชีวิตที่มั่นคงแก่นางและเป็นที่พึ่งที่แข็งแกร่งที่สุดให้นาง เมื่อน้องหญิงที่แอบอ้างนำความดีความชอบทางทหารของนางไปอวดความเก่งกล้า และแม่แท้ ๆ ยังคงใช้กลอุบายควบคุมชะตากรรมของนาง… นางและอ๋องอวี้ร่วมมือกันวางแผนอย่างรอบคอบทุกขั้นตอน เปิดโปงกลโกงและแสดงความกล้าหาญในสนามรบ! จนกระทั่งอ๋องอวี้ยืนขึ้นได้อีกครั้งและมีอำนาจครอบครองราชสำนัก จนกระทั่งนางแสดงตราประทับที่แท้จริงข และให้ทหารทั้งหลายยอมรับ ทุกคนเพิ่งรู้สึกตระหนักว่า คนที่พวกเขาเคยทิ้งไปไม่ต่างจากขยะนั้น ทั้งคู่ได้จับมือกันแล้วครองแผ่นดินไว้ด้วยแล้ว

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

เจ้าหญิงน้อยของพี่ๆ ทั้งสาม

เจ้าหญิงน้อยของพี่ๆ ทั้งสาม

Silas Thorn
5.0

ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

เกาะครีต
4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
4.9

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ