สุดสวาทเมียพรหมจรรย์

สุดสวาทเมียพรหมจรรย์

มณีน้ำเพชร

4.9
ความคิดเห็น
426.4K
ชม
90
บท

เพราะรัก...มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่แห่งฟิเรนเซ่ จึงต้องกลายร่างจากเสือมาเป็นแมวตัวผู้ขี้อ้อน เพื่อออเซาะหาไออุ่นจากคนรักผู้แสนเย้ายวน “พี่ราฟ! นอนดีๆ สิคะ แบบนี้จะดูหนังได้ยังไง” “ไม่ดูแล้ว” มือหนาสอดเข้าไปใต้เสื้อตัวโต สัมผัสเนื้อแท้ที่เนียนนุ่มและเย็นลื่น “แต่น้ำผึ้งอยากดูนี่คะ กำลังสนุกเลย พระเอกกำลังจะตามหานางเอกเจอด้วยค่ะ” สาวน้อยปัดป้องสุดแรง แต่แรงเท่ามดหรือจะสู้แรงช้างสารได้ “เจอแล้ว พระเอกเจอนางเอกแล้ว นี่ไง...กำลังกอดอยู่นี่ไง” เสียงแหบพร่ากระซิบเบาๆ ที่ข้างหูเล็กๆ ก่อนงับติ่งหูนุ่มของคนดื้อรั้นเบาๆ “ไม่...น้ำผึ้งจะดูหนัง พี่ราฟปล่อยน้ำผึ้งเดี๋ยวนี้นะ” “ไม่ปล่อย จนกว่าพี่จะได้กินน้ำผึ้งก่อน หนังน่ะ เอาไว้ค่อยดูทีหลังก็ได้ เสร็จก่อนแล้วค่อยดู นะ...นะ” เสียงออดอ้อนออเซาะที่แหบกระเส่าของราฟาเอลไม่เป็นผล เมื่อมธุรสออกแรงผลักราฟาเอลเต็มแรง ภาพของนางแบบสาวที่ตรงรี่เข้ามาจูบปากราฟาเอล ทำให้สาวน้อยมีแรงฮึดสู้ แรงผลักนั้นทำให้ร่างของราฟาเอลกลิ้งตกโซฟาแต่ร่างบางก็กลิ้งตามลงไปด้วย เพราะชายหนุ่มไม่คิดจะปล่อยร่างบาง “ตุบ” “โอ๊ย...น้ำผึ้งจะดิ้นทำไม เห็นมั้ยว่าพี่เจ็บ” ราฟาเอลโอดครวญ แต่แววตานั้นแพรวพราวจนน่าหยิก

บทที่ 1 1 1

ตอนที่ 1

สาวน้อยหน้าหวานที่อยู่ในชุดกระโปรงรัดติ้วไปทุกสัดส่วนสีแดงเพลิงสุดร้อนแรง กำลังนั่งก้มหน้าที่ถูกแต่งจนเข้มด้วยฝีมือของหญิงร่วมอาชีพเดียวกัน มธุรส พงศ์ศักดา หรือน้ำผึ้ง สาวน้อยที่มีชื่อหวานสมกับใบหน้า กำลังตรองไม่ตกกับอาชีพใหม่ที่ถูกยัดเยียดให้จากแม่เลี้ยงสาว บิดาของเธอเพิ่งจะจากไปเมื่อไม่นานหลังจากที่มารดาบังเกิดเกล้าก็ทอดทิ้งเธอให้อยู่กับบิดาเรื่อยมา มธุรสในวันนี้มีอายุ 20 ปีเต็ม เนื่องจากวันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของเธอ แต่แทนที่สาวน้อยจะมีความสุขเหมือนคนอื่นๆ กลับต้องมานั่งน้ำตาตกในอยู่แบบนี้แทน

“น้ำผึ้ง แกจะคิดอะไรมากวะ ชีวิตพวกเรามันเลือกไม่ได้ ถ้าไม่ทำก็อด หรือแกอยากจะกลับไปให้นังแม่เลี้ยงโขกสับ ดุด่าและจิกหัวใช้งานหนักๆ เหมือนเดิม วันดีคืนดียังโดนตบโดนตีซะอีก อีกอย่างนะดีไม่ดีผัวใหม่มันจะรวบหัวรวบหางแกซะด้วยซ้ำ” มณีรัตน์ หรือเม่นบอกอย่างรู้เรื่องของสาวน้อยดี เพราะบ้านอยู่ติดกัน

“แต่ว่า...น้ำผึ้งกลัวน่ะเม่น” มธุรสบอกเสียงสั่นอย่างน่าสงสาร

“น้ำผึ้ง ฉันเข้าใจแกนะ แต่แกอย่าลืมสิว่านังแม่เลี้ยงใจยักษ์ของแก มันรู้จักกับเจ้าของผับนี้ด้วย ถ้าแกไม่ทำงาน มันเล่นงานแกแน่ นอกจากว่าแกจะหนีไป เฮ้อ...แต่ก็นั่นแหละ เงินก็ไม่มีติดตัวจะหนีไปไหนรอด แกก็ต้องสู้กับงานนี้สักตั้ง เสียตัวครั้งเดียว แกก็มีเงินพอจะหนีไปจากนังแม่เลี้ยงได้แล้วนะ”

“เม่น...”

“เชื่อฉันนะน้ำผึ้ง ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้แกทำงานแบบนี้ แต่แกไม่มีทางเลือก ไอ้ฉันเองจะให้เงินแกหนีไป ฉันก็ยังเอาตัวเองไม่รอดเลย เพราะเพิ่งจะเริ่มทำงานนี้เหมือนกัน แต่ถ้าแกไปถูกใจเสี่ยคนใดคนหนึ่งเข้า แกก็จะสบายเลยนะ ยิ่งสาวสวยสดๆ ซิงๆ อย่างแก พวกเสี่ยตัณหากลับมันยิ่งชอบ แกจะได้ไม่ต้องไปเปลืองตัวให้คนอื่นอีกไงล่ะ”

มธุรสทอดถอนใจออกมายืดยาว ก่อนจะลุกขึ้นยืน ไม่ใช่ว่าเธอจะคล้อยตามมณีรัตน์ แต่เป็นเพราะเธอไม่มีทางเลือกต่างหาก และครั้งนี้จะเป็นครั้งเดียวที่เธอจะตัดสินใจทำงานนี้ จากนี้เธอจะต้องหนีไปให้ได้ ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าทนอยู่แบบนี้

“ตกลงเม่น ครั้งนี้ครั้งแรกและจะเป็นครั้งเดียวของน้ำผึ้ง”

มณีรัตน์พยักหน้าให้ และส่งยิ้มน้อยๆ เป็นกำลังใจให้มธุรส ก่อนที่ทั้งสองจะเดินจูงมือกันไปยังห้องที่พวกเธอจะต้องเข้าไปนั่งเรียกแขก

ร่างสูงสง่าของชายหนุ่มรูปงาม เครื่องหน้าทุกชิ้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาไม่ใช่คนไทยแน่นอน ผู้เป็นเจ้าของใบหน้าคมคาย ดวงตาสีฟ้าคู่คมกริบ ขนตายาวหนาเป็นแพแต่ไม่งอนงามเหมือนอิสตรี จมูกโด่งขึ้นสันสวย ปลายคางบึกบึนผ่าเล็กน้อย ประดับด้วยไรเคราที่เริ่มขึ้นเขียว ราฟาเอล โปราซซีนี่ มาเฟียหนุ่มแห่งเมืองฟิเรนเซ่ ประเทศอิตาลี เจ้าของธุรกิจการฟอกเงินที่ใหญ่ที่สุดในฟิเรนเซ่และธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย พร้อมกับบอดี้การ์ดอีก 6 คน เดินเข้ามาในผับลาลาซ่า

ทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามา ทุกคนที่อยู่ในผับต่างก็หันไปให้ความสนใจ เพราะไม่ค่อยเห็นผู้ชายใส่สูทแต่งตัวเต็มยศเข้ามาเที่ยวผับแบบนี้พร้อมกัน 7 คน

“สวัสดีครับท่าน ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดีครับ ผับลาลาซ่ามีบริการครบวงจรนะครับ” ผู้จัดการหนุ่มที่พอจะสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง ตรงเข้ามาถามทันทีที่ราฟาเอลนั่ง ส่วนบอดี้การ์ดอีก 6 คน เลือกที่จะนั่งบนโซฟาชุดติดกันกับเจ้านาย

“ที่ว่าครบวงจรน่ะ มีอะไรบ้างล่ะ” ราฟาเอลถามเป็นภาษาไทยแปร่งๆ เขาพูดได้ 5 ภาษา และหนึ่งในนั้นก็คือภาษาไทยนั่นเอง

“ก็มีอาหาร เครื่องดื่ม ผู้หญิงพร้อมสถานที่ครับ”

“ผู้หญิงเหรอ ดีเลยฉันกำลังต้องการอยู่พอดี แต่ขอสวยๆ ที่บริการถึงใจหน่อยแล้วกันนะ” ราฟาเอล บอก

“ได้เลยครับท่าน แต่...ท่านจะเข้าไปเลือกเองก็ได้นะครับ เพื่อจะได้ถูกใจท่านที่สุด”

“เลือกได้ด้วยเหรอ ดีจริง เอาสิ...” แล้วราฟาเอลก็เดินตามผู้จัดการร้านเข้าไปด้านใน

ชายหนุ่มมาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าห้องกระจก ซึ่งทำที่นั่งเป็นชั้นๆ เหมือนอรรถจรรย์ ในนั้นมีหญิงสาวมากหน้าหลายตาแต่งตัวยั่วยวน และกำลังส่งสายตาเชิญชวนมาที่เขาเกือบทุกคน ยกเว้น...ผู้หญิงในชุดสีแดงเพลิงที่เพียงแต่ตวัดสายตาขึ้นมองเขาชั่วแวบเดียว แล้วก้มหน้าลงมองมือตัวเอง ราวกับว่ามือของเธอมีนิ้วงอกขึ้นมาอีกนิ้วอย่างงั้นแหละ

ราฟาเอลกวาดตามองร่างบางในชุดสีแดงเพลิงอย่างสนใจ ชุดที่เธอคนนั้นสวมมันช่างน่ารัดรึงยั่วยวนให้เขาเป็นผู้ถอดเสียนี่กระไร ผิวของเธอขาวผ่องตัดกับสีแดงนั้นอย่างงดงาม ราฟาเอลมองเธออยู่นานด้วยความลุ่มหลง แม้หญิงสาวจะไม่ได้ส่งสายตายั่วยวนเชิญชวนเหมือนคนอื่น แต่เขาคิดว่าสาวน้อยคนนั้นคงจะร้อนแรงเหมือนชุดที่ใส่แน่ๆ

“ฉันเอาผู้หญิงชุดสีแดงเพลิงคนนั้น” ราฟาเอลบอก และชี้นิ้วไปทางสาวน้อยชุดแดงที่นั่งก้มหน้าก้มตาอย่างไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง

“ได้ครับท่าน แล้วท่านจะใช้บริการสถานที่ของเรามั้ยครับ”

“อืม...ฉันอยากได้ห้องที่มีเตียงน้ำ และมีกระจกล้อมรอบ รวมทั้งบนเพดานด้วยมีมั้ย”

“มีครับ เดี๋ยวผมให้เด็กพาขึ้นไปนะครับ ส่วนผู้หญิงเดี๋ยวผมจะให้เธอตามขึ้นไป” ผู้จัดการหนุ่มรีบบอก และคำนวณรายได้ครั้งนี้ในใจอย่างรวดเร็ว

ราฟาเอลไม่ตอบได้แต่พยักหน้า ผู้จัดการหนุ่มเรียกบริกรมานำแขกพิเศษที่ท่าจะมีเงินถุงเงินถังขึ้นไปยังห้องที่ต้องการ ก่อนจะเรียกสาวน้อยในชุดแดงออกมาจากห้องกระจก

“น้ำผึ้งรับแขก”

มธุรสสะดุ้งทันทีที่ได้ยิน หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายว่าจะต้องทำงานนี้เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย มธุรสเดินออกมาจากห้องกระจก ขาแข้งของเธอสั่นจนแทบจะก้าวขาเดินไม่ไหว

“ห้อง 3505 บริการแขกดีๆ ล่ะ ถ้าเธอบริการเขาถึงใจ รับรองว่าวันนี้เธอรวยแน่ เพราะแขกคนนี้ดูท่าจะกระเป๋าหนักน่าดูเลยล่ะ” ผู้จัดการหนุ่มบอก

“คะ...ค่ะ”

“เอ้า...อย่าลืมพกถุงไปด้วย แล้วนี่...เธอใช้มันเป็นรึเปล่านี่ ครั้งนี้ครั้งแรกนี่นา”

“ปะ...เป็นค่ะ” มธุรสตอบ ใบหน้าหวานสวยนั้นแดงก่ำ จริงๆ แล้วเธอใช้ไม่เป็นหรอก เพราะไม่เคยใช้ แต่ถ้าต้องใช้จริงๆ ก็คงไม่ยากหรอก

“ดีๆ เอาไปสัก 3 อัน ถ้าไม่พอกดลงมาบอกจะให้เด็กเอาขึ้นไปให้” ผู้จัดการหนุ่มบอกอย่างเห็นเป็นเรื่องปกติ แต่มธุรสไม่ปกติ หญิงสาวอดหวาดหวั่นไม่ได้ ถ้า 3 อันแล้วยังไม่พอ เธอคงตายแน่ๆ

“ไปๆ อย่าชักช้า เดี๋ยวแขกรอนานแล้วจะอารมณ์เสียซะก่อน” ผู้จัดการหนุ่มบอก และดันหลังมธุรสให้เดินขึ้นไปทันที

หญิงสาวฝืนกายเดินขึ้นไปยังห้อง 3505 ช้าๆ เพื่อเป็นการถ่วงเวลา แต่เพียงไม่นานเธอก็เดินมาหยุดลงที่หน้าห้องดังกล่าว สาวน้อยทอดถอนใจออกมายืดยาว ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะประตูห้อง 3 ครั้ง และเปิดประตูเข้าไปช้าๆ ประตูสู่ห้องพล่าผลาญพรหมจรรย์ของเธอ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ มณีน้ำเพชร

ข้อมูลเพิ่มเติม
ซ่อนสวาทมาเฟีย

ซ่อนสวาทมาเฟีย

โรแมนติก

5.0

สำหรับเดือนกันยา ความรักที่หลบซ่อนเป็นสิ่งที่น่าชิงชังมากกว่าอื่นใด แต่ไยเธอจึงถวิลหาความรู้สึกนั้น ทำไมมันถึงช่างอบอุ่นอ่อนหวานทั้งที่ทำให้เธอต้องขมขื่นใจ บนใบหน้าเศร้าโศกต้องสวมหน้ากากของความสดใสแว่วหวานเอาไว้ทุกเสี้ยววินาที หัวใจที่ร่ำร้องเรียกหาความรักตะโกนก้องราวกับกำลังขาดใจ สำหรับสงคราม ความรักสำหรับเขาไม่ใช่ของเล่น แต่ความรักจะอยู่เหนือเหตุผลและความจำเป็นก็ไม่ได้ ถ้ารักต้องอยู่เหนือเหตุผล ทุกคนบนโลกจะพบแต่ความหลงใหล เขาแยกแยะได้ แต่สิ่งที่กำลังเจอคือความเร่าร้อนที่ต้องหลบซ่อน รักที่เร่าร้อน รักแรก และรักเดียว มันกลับเป็นการหลบซ่อน และพอกพูนไฟสวาทให้เผาไหม้ทุรนทุราย “เธอก็รู้ว่าไม่มีทางปฏิเสธพี่ได้ หัวใจเธอรู้ดีลูกแก้ว” “ลูกแก้วเกลียดพี่คราม ชิงชังพี่คราม พี่ครามทำแบบนี้ได้ไง พี่ครามเป็นสามีของพี่อัง ทำได้ไง พี่ครามเลวที่สุด” “เราก็เลวด้วยกันทั้งคู่ หรือเธอจะเถียงว่าไม่ได้รักพี่” “ใจร้าย พูดแบบนี้ได้ไง พี่ครามใจร้ายกับพี่อังได้ยังไง” “บางเรื่องเธอก็ไม่จำเป็นต้องรู้ ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ย่อมมีเหตุผล” นิ้วกลางของสงครามชอนไชเข้าสู่ปากถ้ำอันอุดมไปด้วยแหล่งน้ำที่หลั่งริน เดือนกันยากรีดร้องสุดเสียง ทั้งเกลียดเขา เกลียดตัวเอง และซ่านกระสันไปทุกรูขุมขน ร่างอิ่มที่ถูกพันธนาการไว้กับหัวเตียงดิ้นพล่านทุรนทุราย

ทาสรักพญามังกร

ทาสรักพญามังกร

โรแมนติก

5.0

เมื่อทุกคนในครอบครัวถูกขู่เอาชีวิต หญิงสาวจำต้องฝืนความเจ็บสักลวดลายบนเรือนร่างและสวมชุดกี่เพ้าผ้าไหมจีนแสนสวย พาตัวเองไปยืนอยู่หน้าพญามังกรดำ หยางโจวหมิง มาเฟียใหญ่แห่งเกาะฮ่องกง ผู้ชายรูปงามที่มีดวงตาสีสนิมเหล็กวาววับและเย็นชา มีเรียวปากโค้งบางเฉียบสีเข้มที่คล้ายจะคอยเหยียดหยามทุกคนตลอดเวลา ผู้ชายที่มีอำนาจล้นฟ้าและบงการชีวิตของใครก็ตามที่เขาต้องการ โดยเฉพาะ...ชีวิตของเธอ สรัญรัตน์ อัคราบริรักษ์ “คุณมันไม่ใช่คน ร้ายกาจที่สุด” สรัญรัตน์กัดฟันบริภาษเขาออกไป อย่างน้อยก็ขอพูดว่าสักนิดเถอะ ไม่ใช่แต่ยอมให้เขาข่มเหงอยู่ข้างเดียว “ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีคนแบบคุณอยู่บนโลกใบนี้” “ใครที่อยู่ข้างนอก ไปตามนายอรรถวัฒน์กลับมา!” “อย่า!!! ฉัน...จะทำ” พญามังกรดำหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้บุหนังสีน้ำตาลเข้ม เขามองมือสั่นๆ ที่ค่อยๆ เลื่อนไปตามขอบเสื้อ มองผิวกายขาวผ่องเปิดเปลือยออกทีละนิด จนกระทั่งชุดกี่เพ้าเลื่อนลงมาอยู่ใต้อก บราเซียสีขาวสะอาดไร้สายดูเหมือนจะเล็กกว่าสิ่งที่ต้องปิดบังไปมาก เนินอกอิ่มล้นทะลักออกมาเบียดชิดกันอยู่ด้านบน เห็นร่องเนื้อขาวผุดผาดให้ไพล่คิดไปถึงสิ่งที่อยากเข้าไปอยู่ในร่องอกนั้น ชุดกี่เพ้าเลื่อนลงไปเรื่อยๆ มันช้าแต่ก็ทำให้ลมหายใจของหยางโจวหมิงขาดๆ หายๆ แต่ลมหายใจของสรัญรัตน์แทบขาดรอน เสียงสะอื้นเบาๆ ดังออกมาเป็นระยะไม่ได้ทำให้พญามังกรดำบังเกิดความสงสาร ดวงตาคมเฉียงขึ้นที่ปลายหางอย่างคนที่มีเชื้อชาติจีนแผ่นดินใหญ่ จับจ้องนวลนางละเอียดลอออย่างไม่ละสายตา หรืออีกทีเขาก็ไม่สามารถเบือนสายตาไปจากความงามเป็นหนึ่งนั้นไม่ได้ ผ้าไหมสีแดงสดปักลายดอกสีดำตัดกัน ค่อยเลื่อนลงมาถึงสะโพกผาย สัดส่วนโค้งเว้าดุจนาฬิกาทรายเรียกเลือดในกายชายหนุ่มให้เดือดพล่าน เรียวปากบางเฉียบได้รูปสวยของชายกระตุกมุมโค้งขึ้นก่อนจะแยกแย้มผ่อนลมหายใจออกมาอย่างช้าๆ มือใหญ่เริ่มเกร็งขึ้นเพราะความอยากจะแตะต้อง อยากจะตีตรา อยากจะลิ้มลองของใหม่สำหรับเขา แต่คงเก่าสำหรับคนอื่น นั่นเองที่ทำให้พญามังกรดำฝืนนั่งนิ่งอยู่กับที่ ทั้งที่ใจเต้นโครมครามอยู่ในอก สรัญรัตน์ชะงักมือที่เลื่อนชุดกี่เพ้าค้างไว้บนสะโพกสวย เธอสะอื้นฮักจนตัวโยนรู้สึกว่าตัวเองช่างไร้ค่าสิ้นดี ไม่คิดไม่ฝันว่าต้องมาแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายใจร้ายคนนี้ “ไม่ได้ยินที่ฉันพูด หรือฉันบอกไม่ชัดเจน ว่าให้เธอถอดเสื้อผ้าออกให้หมด หรือประโยคนั้นมันฟังดูดีจนเธอไม่เข้าใจ ฉันคงต้องบอกว่า ให้เธอแก้ผ้าจนล่อนจ้อนต่อหน้าฉัน...เดี๋ยวนี้”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

Tann Aronson
5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม

ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม

หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง
5.0

สวี่ซือเหยาเป็นคุณหนูที่แสนโง่งม ที่ถูกแม่เลี้ยงจัดฉากให้เสียกับบุรุษต่ำต้อย นางเดินตามเส้นเรื่องเหมือนคนโง่ที่ไร้สมอง เมื่อเดินทางมาถึงจุบจบของชีวิตจึงได้รู้ว่า ตัวเองเป็นเพียงตัวประกอบอย่างน้องสาวตัวร้ายในนิยายเท่านั้น แต่แล้วสวรรค์เหมือนจะเห็นใจตัวประกอบไร้ค่าอย่างนาง ถึงได้ให้นางกลับมาแก้ไขอดีต ในเมื่อนางหวนคืนกลับมาแล้ว นางเอกของเรื่องก็อย่าฝันว่าจะได้โจวเยี่ยนเฉินสามีนางไปครอบครอง เพราะตอนนี้นางมีความคิดเป็นของตัวเอง อยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีนักเขียนบงการจากปลายปากกา ต่อไปนี้นางจะสร้างครอบครัวของนางเองด้วยสองมือและหัวใจ ส่วนพี่ชายที่เป็นตัวร้ายเมื่อต้นเหตุคือตัวนางเอง ฉะนั้นหากนางไม่ตายพี่ชายที่แสนดีของนางก็จะไม่กลายเป็นตัวร้าย เส้นทางชีวิตของสวี่ซือเหยาจะเป็นอย่างไร ติดตามในเรื่อง ชาติใหม่ข้าจะไม่หวนคืนชะตาเดิม ได้เลยเจ้าค่ะ

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ