ภรรยาลับของเขา ความขายหน้าที่ถูกเปิดเผย

ภรรยาลับของเขา ความขายหน้าที่ถูกเปิดเผย

Gavin

5.0
ความคิดเห็น
ชม
20
บท

เจ้านายผลักฉันเข้าไปในห้องเพื่อรับมือกับคนไข้วีไอพีที่กำลังขู่จะฆ่าตัวตาย เธอคือเอวา เบญจรงค์ อินฟลูเอนเซอร์ด้านแฟชั่นชื่อดังที่กำลังคลุ้มคลั่งอาละวาดเพราะเรื่องคู่หมั้นของเธอ แต่เมื่อเธอโชว์รูปผู้ชายที่เธอรักให้ฉันดูทั้งน้ำตา โลกทั้งใบของฉันก็พังทลายลงในพริบตา มันคือเบน สามีของฉันที่แต่งงานกันมาสองปี เขาเป็นคนงานก่อสร้างใจดีที่ฉันเจอหลังจากอุบัติเหตุทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ ทว่าในรูปนี้ เขาคือภากร โลหะกุล มหาเศรษฐีผู้เหี้ยมโหดที่ยืนอยู่หน้าตึกระฟ้าซึ่งมีชื่อของเขาปรากฏหราอยู่ และในตอนนั้นเอง ภากร โลหะกุลตัวจริงก็เดินเข้ามาในห้อง เขาสวมสูทที่ราคาแพงกว่ารถญี่ปุ่นคันเล็กๆ ของฉันทั้งคัน เขาก้าวผ่านฉันไปราวกับฉันไม่มีตัวตน แล้วโอบกอดเอวาไว้ในอ้อมแขน “ที่รัก ผมอยู่นี่แล้ว” เขากระซิบ น้ำเสียงทุ้มลึกและอ่อนโยนแบบเดียวกับที่เขาเคยใช้ปลอบฉันหลังจากเจอเรื่องแย่ๆ มาทั้งวัน “ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหนอีกแล้ว ผมสัญญา” เขาเคยให้สัญญาแบบเดียวกันเป๊ะๆ กับฉันมาแล้วนับร้อยครั้ง เขาจูบหน้าผากเธอ ประกาศก้องว่าเขารักเธอเพียงคนเดียว...เป็นการแสดงให้ผู้ชมเพียงคนเดียวดู นั่นก็คือฉัน เขากำลังแสดงให้ฉันเห็นว่าชีวิตแต่งงานของเรา ชีวิตที่เราร่วมสร้างกันมาตอนที่เขาสูญเสียความทรงจำ เป็นเพียงความลับที่ต้องถูกฝังกลบให้มิด ขณะที่เขาอุ้มเธอออกจากห้อง ดวงตาเย็นชาของเขาสบตากับฉันเป็นครั้งสุดท้าย ข้อความนั้นชัดเจน...แกคือตัวปัญหาที่ต้องถูกกำจัด

บทที่ 1

เจ้านายผลักฉันเข้าไปในห้องเพื่อรับมือกับคนไข้วีไอพีที่กำลังขู่จะฆ่าตัวตาย เธอคือเอวา เบญจรงค์ อินฟลูเอนเซอร์ด้านแฟชั่นชื่อดังที่กำลังคลุ้มคลั่งอาละวาดเพราะเรื่องคู่หมั้นของเธอ

แต่เมื่อเธอโชว์รูปผู้ชายที่เธอรักให้ฉันดูทั้งน้ำตา โลกทั้งใบของฉันก็พังทลายลงในพริบตา

มันคือเบน สามีของฉันที่แต่งงานกันมาสองปี เขาเป็นคนงานก่อสร้างใจดีที่ฉันเจอหลังจากอุบัติเหตุทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ

ทว่าในรูปนี้ เขาคือภากร โลหะกุล มหาเศรษฐีผู้เหี้ยมโหดที่ยืนอยู่หน้าตึกระฟ้าซึ่งมีชื่อของเขาปรากฏหราอยู่

และในตอนนั้นเอง ภากร โลหะกุลตัวจริงก็เดินเข้ามาในห้อง เขาสวมสูทที่ราคาแพงกว่ารถญี่ปุ่นคันเล็กๆ ของฉันทั้งคัน

เขาก้าวผ่านฉันไปราวกับฉันไม่มีตัวตน แล้วโอบกอดเอวาไว้ในอ้อมแขน

“ที่รัก ผมอยู่นี่แล้ว” เขากระซิบ น้ำเสียงทุ้มลึกและอ่อนโยนแบบเดียวกับที่เขาเคยใช้ปลอบฉันหลังจากเจอเรื่องแย่ๆ มาทั้งวัน “ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหนอีกแล้ว ผมสัญญา”

เขาเคยให้สัญญาแบบเดียวกันเป๊ะๆ กับฉันมาแล้วนับร้อยครั้ง

เขาจูบหน้าผากเธอ ประกาศก้องว่าเขารักเธอเพียงคนเดียว...เป็นการแสดงให้ผู้ชมเพียงคนเดียวดู นั่นก็คือฉัน เขากำลังแสดงให้ฉันเห็นว่าชีวิตแต่งงานของเรา ชีวิตที่เราร่วมสร้างกันมาตอนที่เขาสูญเสียความทรงจำ เป็นเพียงความลับที่ต้องถูกฝังกลบให้มิด

ขณะที่เขาอุ้มเธอออกจากห้อง ดวงตาเย็นชาของเขาสบตากับฉันเป็นครั้งสุดท้าย

ข้อความนั้นชัดเจน...แกคือตัวปัญหาที่ต้องถูกกำจัด

บทที่ 1

สิ่งแรกที่ฉันได้ยินเมื่อเดินเข้ามาในคลินิกคือเสียงผู้หญิงกรีดร้อง มันไม่ใช่เสียงของความเจ็บปวด แต่เป็นเสียงของความเกรี้ยวกราดอย่างบ้าคลั่งชนิดที่ทำให้อากาศรอบตัวอึดอัดไปหมด

ฉันวางกระเป๋าลงบนโต๊ะทำงาน กลิ่นยาฆ่าเชื้อและกระดาษเก่าๆ ที่คุ้นเคยช่างดูขัดแย้งกับความโกลาหลที่ดังมาจากสุดทางเดิน

“เกิดอะไรขึ้นคะ” ฉันถามแพรว เพื่อนร่วมงานที่กำลังชะโงกหน้ามองออกมาจากห้องทำงานของตัวเองอย่างประหม่า

“เธอไม่อยากรู้หรอก” แพรวกระซิบ ดวงตาเบิกกว้าง “คนไข้วีไอพีน่ะสิ ตัวเป้งเลย”

เสียงแหลมดังตามมา เป็นเสียงแก้วแตกกระทบกำแพง เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีก

“เขาเป็นของฉัน! ฉันจะฆ่าตัวตายถ้าต้องเสียเขาไป!”

ฉันเดินตรงไปยังต้นเสียง ในห้องให้คำปรึกษาที่ใหญ่ที่สุด หญิงสาวในชุดแบรนด์เนมยืนอยู่บนเก้าอี้ ถือเศษแจกันที่แตกจ่อคอตัวเอง ใบหน้าของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา เครื่องสำอางราคาแพงเลอะเทอะไปหมด เธอสวยมาก แต่ในตอนนี้เธอดูเหมือนหมาจนตรอก

“เอมิกา ขอบคุณพระเจ้า” หมอไมตรี เจ้านายของฉันรีบวิ่งเข้ามาหา สีหน้าซีดเผือด “คุณต้องจัดการเรื่องนี้”

เขาผลักฉันไปข้างหน้า “เธอคือเอวา เบญจรงค์ อินฟลูเอนเซอร์ด้านแฟชั่น คนของเธอโทรมา บอกว่าเธอจะยอมคุยกับนักบำบัดผู้หญิงเท่านั้น และคุณคือคนเก่งที่สุดที่เรามี”

เอวา เบญจรงค์ ชื่อนี้คุ้นๆ เหมือนเคยเห็นบนปกนิตยสารตามร้านสะดวกซื้อ

“และเธอมาที่นี่เพราะคู่หมั้นของเธอ” หมอไมตรีเสริมเสียงเบา “ภากร โลหะกุล หนึ่งเดียวคนนั้น”

หัวใจฉันหยุดเต้น

ภากร โลหะกุล

สามีของฉันชื่อเบน โลแกน เขาเป็นคนงานก่อสร้าง เขาเป็นคนง่ายๆ ใจดี และรักฉันมากกว่าสิ่งใดในโลก เราอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็กๆ อีกฟากหนึ่งของกรุงเทพฯ

มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่ๆ นามสกุลโลแกนก็มีอยู่ทั่วไป ส่วนชื่อภากรอาจจะไม่ค่อยมี แต่ก็ยังเป็นไปได้

ฉันพยายามบอกตัวเองแบบนั้น พยายามกดความรู้สึกเย็นเยียบที่แผ่ซ่านไปทั่วอกลง มันก็แค่ชื่อเรื่องบังเอิญโง่ๆ ที่ไม่มีความหมายอะไรเลย

หมอไมตรีส่งแฟ้มคนไข้ใส่มือฉัน “นี่ข้อมูลของเธอ ขอให้โชคดี”

ฉันเปิดแฟ้ม มือสั่นเทา ใต้หัวข้อ “ชื่อคู่หมั้น” มีตัวอักษรพิมพ์ที่ดูเป็นทางการและชัดเจนว่า: ภากร โลหะกุล

ลมหายใจฉันสะดุด รู้สึกเหมือนเลือดทั้งตัวไหลลงไปกองที่เท้า

ฉันบังคับตัวเองให้ทำตัวเป็นมืออาชีพ ฉันเป็นนักบำบัด ฉันรับมือกับวิกฤตได้ ฉันสูดหายใจลึกๆ จัดชุดทำงานเรียบๆ ของตัวเองให้เข้าที่ แล้วเดินเข้าไปในห้อง

“คุณเอวาคะ” ฉันพูด น้ำเสียงสงบนิ่ง ทั้งที่ข้างในกรีดร้องโหยหวน “ฉันชื่อเอมิกา เราคุยกันได้ไหมคะ”

ทันทีที่เธอเห็นฉัน พลังงานที่บ้าคลั่งของเธอก็เปลี่ยนไป แววตาที่ดุร้ายอ่อนลงกลายเป็นความเปราะบางเหมือนเด็กๆ เธอทิ้งเศษแก้วลงพื้นเสียงดังเคร้ง

“เอมิกา” เธอครวญคราง ก้าวลงจากเก้าอี้ เธอวิ่งเข้ามาสวมกอดฉัน ซบหน้าร้องไห้ที่ไหล่ “คุณต้องช่วยฉันนะ”

ฉันกอดเธอไว้ ตัวแข็งทื่อ เธอเกาะฉันแน่นเหมือนเด็กๆ ท่าทีทั้งหมดของเธอบ่งบอกถึงชีวิตที่ได้ทุกอย่างที่ต้องการมาตลอด

เธอผละออก ปาดน้ำตาด้วยหลังมือ “เป็นเพราะภากรค่ะ ช่วงนี้เขาห่างเหินกับฉันมาก”

เธอควานหาโทรศัพท์มือถือ นิ้วปัดหน้าจออย่างรวดเร็ว “ดูสิคะ” เธอยื่นมันให้ฉันดู “นี่คือเรา เราดูสมกันมากเลยใช่ไหมคะ”

ในรูปคือเอวากำลังหอมแก้มชายหนุ่มในชุดสูทที่ตัดเย็บอย่างประณีต เขากำลังยิ้ม ดวงตาของเขามีรอยย่นในแบบที่ฉันคุ้นเคยจนเจ็บปวด

มันคือเบนของฉัน

ไม่สิ มันคือภากร โลหะกุล และเขากำลังยืนอยู่หน้าตึกระฟ้าที่มีโลโก้ของ ‘โลหะกุล กรุ๊ป’ ประทับอยู่

“เขารักฉันมากนะคะ” เอวาอวดอ้าง น้ำเสียงเริ่มมีพลังขึ้น “วันเกิดล่าสุดของฉัน เขาซื้อเกาะส่วนตัวให้ฉันเลยนะ เขาบอกว่าเขาจะทำทุกอย่างเพื่อฉัน ให้โลกทั้งใบกับฉันได้”

โลกของฉันกำลังเอียงกระเท่เร่ พื้นห้องเหมือนกำลังจะถล่มลงไป

“แต่มีบางอย่างเปลี่ยนไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน” เธอพูดต่อ ใบหน้าเศร้าหมองอีกครั้ง “ตั้งแต่เขากลับมา เขาหายตัวไปพักหนึ่งค่ะ คุณรู้ไหม สองปีเต็มเลย เขาประสบอุบัติเหตุอะไรสักอย่าง แล้วก็ความจำเสื่อม พอเขากลับมาได้ เขาก็...เปลี่ยนไป ดูเย็นชาขึ้น”

สองปี

เป็นเวลาเท่ากับที่ฉันแต่งงานกับเบนพอดี

ความจริงถาโถมเข้าใส่ฉันรุนแรงเหมือนโดนหมัดหนักๆ มันอัดอากาศออกจากปอดจนหมด เหลือไว้เพียงความว่างเปล่าที่เจ็บปวดรวดร้าว

ความทรงจำหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว ชัดเจนแจ่มแจ้ง

สองปีที่แล้ว คืนที่ฝนตกหนัก ซากรถที่บิดเบี้ยวบนถนนเปลี่ยว ฉันกำลังขับรถกลับบ้านหลังเลิกงานดึกเมื่อเห็นมัน ฉันจอดรถ หัวใจเต้นระรัว ฉันพบเขานอนสลบอยู่ เลือดไหลจากบาดแผลที่ศีรษะ เขาไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีโทรศัพท์ มีเพียงเสื้อผ้าที่สวมอยู่

ฉันเป็นนักบำบัด ไม่ใช่หมอ แต่ฉันรู้ว่าเขาต้องการความช่วยเหลือ ฉันขับรถพาเขาไปคลินิกเล็กๆ ที่ใกล้ที่สุด ผลวินิจฉัยออกมาว่า: ศีรษะกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ความจำเสื่อมโดยสิ้นเชิง

เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน หรืออะไรทั้งนั้น เขาเหมือนเด็กในร่างผู้ชาย หลงทางและหวาดกลัว ฉันรู้สึกสงสารเขาจับใจ ฉันจะทิ้งเขาไปเฉยๆ ไม่ได้ ตำรวจไม่มีเบาะแสอะไรเลย เขาไม่มีที่ไป

ฉันจึงพาเขากลับบ้าน

ฉันตั้งชื่อให้เขาว่าเบน เป็นชื่อพ่อของฉัน เรียบง่ายและแข็งแกร่ง

ในพื้นที่เล็กๆ ของอพาร์ตเมนต์ฉัน โลกใบใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้น เขาต้องพึ่งพาฉันมาก เขารู้สึกขอบคุณฉันมาก สายตาของเขาจับจ้องมาที่ฉันตลอดเวลา เขาเรียนรู้ทุกอย่างใหม่หมด และฉันคือครูของเขา คือผู้นำทาง คือสิ่งเดียวที่เชื่อมโยยงเขากับโลกที่เขาจำไม่ได้

ความสัมพันธ์ของเราเติบโตอย่างรวดเร็วและลึกซึ้ง เขาเปิดเผยและจริงใจมาก เมื่อไม่มีอดีตมาถ่วงรั้ง เขาก็คือความรักที่บริสุทธิ์ เขาบอกฉันว่าเขารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ในวันที่ฉันพบเขา

เขาเรียนทำอาหารให้ฉัน เขาสมัครงานที่ไซต์ก่อสร้างแถวบ้าน ภูมิใจที่ได้กลับบ้านพร้อมกับมือที่ด้านและสกปรก หาเงินมาเพื่อเราสองคน เขาจะเก็บเงินเป็นอาทิตย์ๆ เพื่อซื้อกุหลาบดอกงามให้ฉันเพียงดอกเดียว

เขารักฉันอย่างรุนแรงจนน่าทึ่ง เขาบอกว่าฉันคือดวงอาทิตย์ คือดวงจันทร์ คือท้องฟ้าทั้งใบของเขา เขาบอกว่าต่อให้ความทรงจำไม่กลับมา เขาก็ไม่สนใจ เพราะชีวิตของเขาเริ่มต้นที่ฉัน

หกเดือนหลังจากที่ฉันพบเขา เขาก็ขอฉันแต่งงาน เขาไม่มีแหวน มีเพียงก้อนหินเรียบๆ เล็กๆ ที่เขาเก็บมาจากริมแม่น้ำ เขาคุกเข่าลงบนพื้นในห้องนั่งเล่นเล็กๆ ของเรา ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยน้ำตา

“เอม” เขาพูด น้ำเสียงสั่นเครือด้วยอารมณ์ “ผมไม่มีอดีต แต่ผมรู้ว่าผมอยากให้อนาคตทั้งหมดของผมมีคุณอยู่ด้วย แต่งงานกับผมนะ”

ฉันตอบตกลงโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว

เราจัดพิธีเล็กๆ ที่สำนักงานเขต มีแค่เราสองคน มันเป็นวันที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของฉัน

ปีแรกของชีวิตแต่งงานของเราเต็มไปด้วยความรักที่เร่าร้อนและความสุขเรียบง่าย เราไม่ได้มีเงินมากมาย แต่เรามีกันและกัน เราตัวติดกันตลอดเวลา เขาบูชาฉัน และฉันก็รักเขาหมดหัวใจ

แล้วเมื่อประมาณสามเดือนก่อน เขาบอกฉันว่าเขาต้องไปทำงานที่อื่น เขาพูดคลุมเครือ บอกว่าเป็นโครงการก่อสร้างใหญ่ต่างจังหวัด เขาไปอยู่หนึ่งสัปดาห์

พอกลับมา เขาก็เปลี่ยนไป ตอนแรกการเปลี่ยนแปลงมันเล็กน้อยมาก เขาดูเก็บตัวมากขึ้น แสดงความรักทางกายน้อยลง เขาเลิกเรียกฉันด้วยชื่อเล่นที่เขาเคยตั้งให้ เขาบอกว่าเขาแค่เหนื่อยจากงาน

ตอนนี้ฉันเห็นภาพทั้งหมดแล้ว “งาน” ที่ว่าไม่ใช่งาน มันคือความทรงจำของเขากำลังกลับมา มันคือการที่เขากลับไปสู่ชีวิตจริงของเขา สู่ชีวิตของภากร โลหะกุล

และชีวิตของเรา การแต่งงานของเรา เป็นเพียงจุดพักชั่วคราวระหว่างทาง เป็นความลับ เป็นความไม่สะดวก

เอวายังคงพูดต่อไป แต่เสียงของเธอดังห่างไกลออกไป สิ่งที่ฉันรู้สึกได้มีเพียงความจริงอันโหดร้ายที่ถาโถมเข้ามา

“คุณฟังอยู่รึเปล่าคะ” เอวาถามอย่างหงุดหงิด เธอจิ้มแขนฉัน “ตาคุณแดงๆ นะคะ คุณร้องไห้ให้ฉันเหรอ คุณคงคิดว่าชีวิตฉันน่าเศร้ามากสินะ”

คำพูดของเธอช่างน่าขันจนฉันเกือบจะหัวเราะออกมา

ทันใดนั้น ประตูห้องให้คำปรึกษาก็เปิดผางออก

“เอวา!”

ภากร โลหะกุล ยืนอยู่ที่ประตู เขาสวมสูทราคาแพงที่น่าจะแพงกว่ารถของฉันทั้งคัน เขาทรงอำนาจ ดูน่าเกรงขาม และแตกต่างจากผู้ชายที่ซ่อมก๊อกน้ำรั่วให้ฉันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วโดยสิ้นเชิง

สายตาของเขาพบฉัน ในเสี้ยววินาทีนั้น ฉันเห็นแววตาตกใจ แววตาที่จดจำได้ แล้วมันก็หายไป ถูกแทนที่ด้วยหน้ากากที่เย็นชาและแข็งกระด้าง

เขาส่งสายตามาให้ฉัน มันไม่ใช่แค่การมอง มันคือคำเตือน คำสั่งที่เงียบงันและโหดร้ายให้ฉันหุบปาก

เขาก้าวผ่านฉันไปราวกับฉันไม่มีตัวตน แล้วโอบกอดเอวาไว้ในอ้อมแขน “ที่รัก ผมอยู่นี่แล้ว ไม่เป็นไรนะ”

“ภากร!” เธอร้องไห้ ซบลงในอ้อมกอดของเขา “คุณมาช้าจัง! ฉันกลัวมากเลย”

“ผมรู้ ผมรู้” เขากระซิบ น้ำเสียงทุ้มลึกและอ่อนโยนแบบเดียวกับที่เขาเคยใช้ปลอบฉันเวลาที่ฉันเจอเรื่องแย่ๆ “ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหนอีกแล้ว ผมสัญญา”

คำพูดนั้นเหมือนมีดที่กรีดลงกลางใจ เขาเคยให้สัญญาแบบเดียวกันเป๊ะๆ กับฉันมาแล้วนับร้อยครั้ง

เขาจูบหน้าผากเธอ “ผมรักคุณนะเอวา รักคุณคนเดียว”

ฉันหันหน้าหนี ทนดูต่อไปไม่ไหว ดวงตาของฉันร้อนผ่าว แต่ฉันปฏิเสธที่จะให้น้ำตาไหลออกมา

เขากำลังประกาศต่อหน้าสาธารณชน เป็นการแสดงให้ผู้ชมเพียงคนเดียวดู นั่นก็คือฉัน เขากำลังแสดงให้ฉันเห็นว่าฉันอยู่ตรงไหน เขากำลังแสดงให้ฉันเห็นว่าฉันไม่มีค่าอะไรเลย

เขาอุ้มเอวาขึ้นในอ้อมแขน ประคองเธอราวกับสมบัติล้ำค่า ขณะที่เขาเดินออกไป ดวงตาเย็นชาของเขาสบตากับฉันเป็นครั้งสุดท้ายผ่านไหล่ของเธอ ข้อความนั้นชัดเจน: แกคือตัวปัญหาที่ต้องถูกกำจัด

ฉันยืนนิ่งอยู่ที่นั่น นานหลังจากที่พวกเขาจากไป ห้องกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง ยกเว้นเสียงหัวใจของฉันที่แตกสลาย

ฉันเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานด้วยขาที่สั่นเทา ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือสั่นมากจนต้องพยายามถึงสามครั้งกว่าจะปลดล็อกได้

ฉันเลื่อนดูรายชื่อผู้ติดต่อจนเจอเบอร์ที่ไม่ได้โทรหามาหลายปี

แม่ของฉัน

เธอรับสายในกริ๊งที่สอง “เอมิกาเหรอลูก?” เสียงของเธอชัดเจน มีสำเนียงยุโรปจางๆ

“แม่คะ” ฉันพูด เสียงของฉันเป็นเสียงกระซิบที่ขาดห้วง “หนูต้องการความช่วยเหลือจากแม่ค่ะ”

“แน่นอนจ้ะที่รัก ทุกอย่างเลย มีอะไรเหรอ”

“หนู...หนูอยากย้ายประเทศค่ะ หนูอยากไปอยู่กับแม่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

มีความเงียบชั่วครู่ “แล้วสามีของลูกล่ะ แล้วเบนล่ะ”

ฉันหลับตาแน่น เสียงหัวเราะที่ขมขื่นและเจ็บปวดหลุดออกมาจากริมฝีปาก “เขาไม่ไปค่ะ”

ขณะที่ฉันกำลังเก็บของ เตรียมจะออกจากคลินิกและไม่กลับมาอีก เงาหนึ่งก็ทาบทับลงบนโต๊ะทำงานของฉัน

ฉันเงยหน้าขึ้น

เป็นภากร เขากลับมา

“เราต้องคุยกัน” เขาพูด น้ำเสียงต่ำและไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Gavin

ข้อมูลเพิ่มเติม
รักต้องห้าม  โทสะของผู้ปกครอง

รักต้องห้าม โทสะของผู้ปกครอง

วัยรุ่น

5.0

สิบปีเต็มที่ฉันแอบรักภาคิน วงศ์วรานนท์ ผู้ปกครองของฉัน หลังจากครอบครัวของฉันล้มละลาย เขาก็รับฉันไปดูแลและเลี้ยงดูฉันจนโต เขาคือโลกทั้งใบของฉัน ในวันเกิดอายุสิบแปดปี ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อสารภาพรักกับเขา แต่ปฏิกิริยาของเขากลับเป็นความเกรี้ยวกราดอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เขาปัดเค้กวันเกิดของฉันตกพื้นแล้วคำรามลั่น “สติแตกไปแล้วเหรอ? ฉันเป็นผู้ปกครองเธอนะ!” จากนั้นเขาก็ฉีกภาพวาดที่ฉันใช้เวลาวาดเป็นปีเพื่อเป็นคำสารภาพรักของฉันจนไม่เหลือชิ้นดี เพียงไม่กี่วันต่อมา เขาก็พาโคลอี้ คู่หมั้นของเขากลับมาบ้าน ผู้ชายที่เคยสัญญาว่าจะรอฉันโต ที่เคยเรียกฉันว่าดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดของเขา ได้หายไปแล้ว ความรักที่ร้อนแรงและสิ้นหวังตลอดสิบปีของฉันทำได้เพียงแผดเผาตัวเอง คนที่ควรจะปกป้องฉันกลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายฉันเจ็บปวดที่สุด ฉันก้มมองจดหมายตอบรับจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในมือ ฉันต้องไปจากที่นี่ ฉันต้องถอนรากถอนโคนเขาออกจากหัวใจ ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ของพ่อ “พ่อคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เอวาตัดสินใจแล้ว เอวาอยากไปอยู่กับพ่อที่กรุงเทพฯ ค่ะ”

การคิดบัญชีอันขมขื่น ของภรรยา

การคิดบัญชีอันขมขื่น ของภรรยา

นิยายสั้น

5.0

ฉันกับภวินท์ สามีของฉัน เราคือคู่รักที่สมบูรณ์แบบที่สุดในกรุงเทพฯ ใครๆ ก็เรียกเราว่าคู่รักทองคำ แต่ชีวิตแต่งงานที่ใครๆ ต่างอิจฉากลับเป็นเรื่องหลอกลวง เราไม่มีลูก เพราะเขามีภาวะทางพันธุกรรมที่หายากมาก เขาอ้างว่าผู้หญิงคนไหนก็ตามที่อุ้มท้องลูกของเขาจะต้องตาย เมื่อพ่อของเขาที่กำลังจะสิ้นใจเรียกร้องทายาท ภวินท์ก็เสนอทางออก...แม่อุ้มบุญ ผู้หญิงที่เขาเลือกคืออารยา เธอคือฉันในเวอร์ชันที่เด็กกว่า สดใสกว่า ทันใดนั้น ภวินท์ก็ยุ่งตลอดเวลา เขาต้องคอยดูแลเธอระหว่าง "กระบวนการทำเด็กหลอดแก้วที่ยากลำบาก" เขาลืมวันเกิดฉัน เขาลืมวันครบรอบของเรา ฉันพยายามจะเชื่อเขา จนกระทั่งฉันบังเอิญได้ยินเขาคุยกับเพื่อนๆ ที่งานเลี้ยง เขาสารภาพกับเพื่อนว่าความรักที่เขามีให้ฉันคือ "ความผูกพันที่ลึกซึ้ง" แต่กับอารยา มันคือ "ไฟ" และ "ความเร่าร้อน" เขากำลังวางแผนจัดงานแต่งงานลับๆ กับเธอที่ภูเก็ต ในวิลล่าสุดหรูที่เขาเคยสัญญาว่าจะพาฉันไปฉลองวันครบรอบ เขากำลังจะมอบงานแต่งงาน ครอบครัว และชีวิตให้เธอ...ทุกสิ่งที่เขาปฏิเสธฉัน โดยใช้คำโกหกเรื่องภาวะทางพันธุกรรมร้ายแรงเป็นข้ออ้าง การทรยศหักหลังมันสมบูรณ์แบบเสียจนฉันรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าอย่างแรง คืนนั้นเมื่อเขากลับมาถึงบ้าน พร้อมกับคำโกหกเรื่องไปทำงานต่างจังหวัด ฉันยิ้มและสวมบทบาทภรรยาที่แสนดีต่อไป เขาไม่รู้ว่าฉันได้ยินทุกอย่าง เขาไม่รู้ว่าในขณะที่เขากำลังวางแผนชีวิตใหม่ ฉันก็ได้วางแผนหนีของฉันไว้แล้ว และที่แน่ๆ เขาไม่รู้ว่าฉันเพิ่งโทรหาบริษัทที่เชี่ยวชาญเรื่องเดียว...การทำให้คนหายตัวไป

ถูกอัลฟ่าแผดเผา  เพลิงแค้นของฉัน  วันชำระของเขา

ถูกอัลฟ่าแผดเผา เพลิงแค้นของฉัน วันชำระของเขา

นิยายสั้น

5.0

คีรินคือพรหมลิขิตของฉัน อนาคตอัลฟ่าของฝูง รักแรกในวัยเยาว์ และคู่แท้แห่งโชคชะตาของฉัน แต่คืนหนึ่ง ฉันได้กลิ่นผู้หญิงคนอื่นบนตัวเขา กลิ่นโอเมก้าที่หอมหวานจนน่าคลื่นไส้ซึ่งฉันรู้จักดีเกินไป ฉันตามเขาไปและพบพวกเขาสองคนใต้ต้นไทรใหญ่ กำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม การทรยศของเขาเปรียบเสมือนยาพิษที่ค่อยๆ ซึมลึกอย่างเชื่องช้า เมื่อไลลา โอเมก้าคนโปรดของเขาแกล้งทำเป็นหกล้ม เขาก็ประคองเธอราวกับว่าเธอทำจากแก้วเจียระไน แต่ตอนที่เขาแอบตัดสายรัดอานม้าของฉันระหว่างการกระโดดข้ามเครื่องกีดขวางสุดอันตราย จนทำให้ม้าสะบัดฉันตกลงมาขาหัก เขากลับเรียกมันว่า "คำเตือน" ที่ห้ามไปแตะต้องเธอ การดูแลฉันหลังจากนั้นเป็นเพียงการสร้างภาพเพื่อไม่ให้พ่อของฉันสงสัย ในงานประมูลสาธารณะ เขาใช้เงินของครอบครัวฉันเพื่อซื้อเพชรล้ำค่าให้เธอ ทิ้งให้ฉันต้องอับอายและไม่มีเงินจ่าย ในที่สุดฉันก็เข้าใจสิ่งที่ได้ยินผ่านจิตสื่อสารของฝูงเมื่อหลายวันก่อน สำหรับเขาและพี่น้องร่วมสาบานของเขา ฉันเป็นเพียง "คุณหนูเอาแต่ใจ" เป็นรางวัลที่ต้องไขว่คว้ามาเพื่ออำนาจ ส่วนไลลาคือคนที่พวกเขาปรารถนาอย่างแท้จริง เขาคิดว่าจะทำลายฉันได้ บังคับให้ฉันยอมรับการเป็นที่สอง เขาคิดผิด ในคืนวันเกิดครบรอบ 20 ปีของฉัน คืนที่ฉันควรจะผูกพันธะกับเขา ฉันกลับยืนอยู่ต่อหน้าสองฝูงและเลือกทางที่แตกต่างออกไป ฉันปฏิเสธเขาและประกาศการแต่งงานกับอัลฟ่าคู่แข่ง ชายผู้มองฉันเป็นราชินี ไม่ใช่ของรางวัลปลอบใจ

ถูกอัลฟ่าของฉันปฏิเสธ แต่ถูกมงกุฎของฉันทวงคืน

ถูกอัลฟ่าของฉันปฏิเสธ แต่ถูกมงกุฎของฉันทวงคืน

นิยายสั้น

5.0

คู่แท้ของฉัน อัลฟ่าธาม กำลังจัดพิธีตั้งชื่ออันศักดิ์สิทธิ์ให้ทายาทของเขา ปัญหามีอยู่เรื่องเดียว... เขากำลังฉลองให้กับลูกที่เกิดกับลิตา หมาป่าไร้ฝูงที่เขาพาเข้ามาในฝูงของเรา ส่วนฉัน คู่แท้ตัวจริงของเขาที่กำลังตั้งท้องทายาทของเขาได้สี่เดือน กลับเป็นคนเดียวที่ไม่ได้รับเชิญ เมื่อฉันไปเผชิญหน้ากับเธอ เธอกลับใช้เล็บข่วนแขนตัวเองจนเลือดออก แล้วกรีดร้องว่าฉันทำร้ายเธอ ธามเห็นการแสดงของเธอก็ไม่แม้แต่จะมองฉัน เขาคำรามลั่น ใช้คำสั่งอัลฟ่าบีบบังคับให้ฉันจากไป พลังแห่งสายใยผูกพันของเราถูกบิดเบือนให้กลายเป็นอาวุธที่หันกลับมาทำร้ายฉันเอง ต่อมา เธอทำร้ายฉันจริงๆ จนฉันล้มลง ขณะที่เลือดเริ่มซึมออกมาจากชุดของฉัน คุกคามชีวิตลูกของเรา เธอกลับเหวี่ยงลูกของตัวเองลงบนพรมแล้วกรีดร้องว่าฉันพยายามจะฆ่าลูกของเธอ ธามพุ่งเข้ามา เขาเห็นฉันจมกองเลือดอยู่บนพื้น แต่เขากลับไม่ลังเลเลยสักนิด เขาช้อนลูกของลิตาที่กำลังร้องลั่นขึ้นมาในอ้อมแขน แล้ววิ่งออกไปตามหมอทันที ทิ้งให้ฉันกับทายาทที่แท้จริงของเขานอนรอความตาย แต่ขณะที่ฉันนอนอยู่ตรงนั้น เสียงของแม่ก็ดังขึ้นในหัวผ่านกระแสจิตของเรา คนของครอบครัวกำลังรอฉันอยู่นอกเขตแดนแล้ว เขากำลังจะได้รู้ว่าโอเมก้าที่เขาเขี่ยทิ้ง แท้จริงแล้วคือเจ้าหญิงของฝูงที่ทรงพลังที่สุดในโลก

จากเบี้ยของเขา สู่ควีนของเธอ

จากเบี้ยของเขา สู่ควีนของเธอ

นิยายสั้น

5.0

ฉันคือคีรติ วรโชติ นักข่าวหัวขบถแห่งตระกูลนักการเมืองทรงอิทธิพล ทางรอดเดียวของฉันคือความสัมพันธ์ลับๆ อันร้อนแรงกับอธิป สุริยวงศ์ ซีอีโอผู้ทรงอำนาจที่ราวกับสลักขึ้นจากน้ำแข็งและตรรกะ เขาเรียกฉันว่า "หายนะที่งดงามของผม" พายุที่ถูกกักขังไว้ในกำแพงเพนต์เฮาส์ของเขา แต่ความสัมพันธ์ของเราสร้างขึ้นบนคำโกหก ฉันค้นพบว่าเขาเพียงแค่ "ทำให้ฉันเชื่อง" เพื่อเอาใจผู้หญิงอีกคน กมลา ลูกสาวผู้อ่อนแอของหัวหน้าคณะทำงานของพ่อฉัน ซึ่งเขาเป็นหนี้บุญคุณที่ไม่อาจชดใช้ได้ เขาเลือกหล่อนต่อหน้าสาธารณชน เช็ดน้ำตาให้หล่อนด้วยความอ่อนโยนที่เขาไม่เคยแสดงให้ฉันเห็น เขาปกป้องหล่อน ปกป้องหล่อน และเมื่อฉันถูกคนชั่วคุกคาม เขาก็ทอดทิ้งฉันเพื่อรีบไปอยู่ข้างหล่อน การทรยศที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเขาสั่งให้จับฉันเข้าคุกและซ้อม พร้อมกับคำรามว่าฉันต้อง "เรียนรู้บทเรียน" ฟางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นลงระหว่างอุบัติเหตุรถชน โดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว เขากระโจนไปขวางหน้ากมลา ใช้ร่างกายของตัวเองเป็นเกราะกำบัง ปล่อยให้ฉันเผชิญแรงกระแทกเพียงลำพัง ฉันไม่ใช่คนที่เขารัก แต่เป็นภาระที่เขาพร้อมจะสังเวย ขณะนอนร่างกายแหลกสลายบนเตียงในโรงพยาบาล ในที่สุดฉันก็เข้าใจ ฉันไม่ใช่หายนะที่งดงามของเขา แต่เป็นตัวโง่ของเขาต่างหาก ดังนั้นฉันจึงทำสิ่งเดียวที่ทำได้ ฉันเผาโลกอันสมบูรณ์แบบของเขาให้วอดวาย ตอบรับคำขอแต่งงานจากมหาเศรษฐีใจดีที่สัญญาสันติสุขให้ฉัน และเดินจากไปเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ ทิ้งเถ้าถ่านแห่งความรักของเราไว้เบื้องหลัง

ค่าของเจ้าแม่มาเฟีย

ค่าของเจ้าแม่มาเฟีย

นิยายสั้น

5.0

การแต่งงานของฉันกับมาคิน ภัทรธำรง คือสัญญาที่ลงนามด้วยเลือด คือคำมั่นที่จะหลอมรวมสองตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในกรุงเทพฯ เข้าไว้ด้วยกัน เขาคืออนาคตของฉัน คือราชันย์ที่ถูกเลือกมาให้ปกครองเคียงข้างฉัน ทุกคนต่างพูดว่าการรวมกันของเราคือพรหมลิขิต แต่เขากลับบ้านมาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมราคาถูกและคำโกหกของผู้หญิงอีกคน มันคือกลิ่นของอัญญาริน เด็กกำพร้าผู้อ่อนแอที่ครอบครัวของเขารับมาเลี้ยงดู เด็กผู้หญิงที่เขาสาบานว่าจะปกป้องเหมือนน้องสาวแท้ๆ ฉันตามเขาไปที่ไพรเวทคลับแห่งหนึ่ง จากในเงามืด ฉันเฝ้ามองเขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนและมอบจูบที่หิวกระหายและสิ้นหวังให้เธอ...จูบที่เขาไม่เคยให้ฉันเลย ในวินาทีนั้น อนาคตทั้งชีวิตของฉันแหลกสลายลง ในที่สุดฉันก็เข้าใจเสียงกระซิบจากลูกน้องของเขาว่าฉันเป็นเพียงรางวัลทางการเมือง ในขณะที่อัญญารินคือราชินีตัวจริงของพวกเขา เขาต้องการอาณาจักรของฉัน แต่หัวใจของเขาเป็นของเธอ ฉันจะไม่เป็นของรางวัลปลอบใจ ฉันจะไม่เป็นรองใคร ฉันเดินตรงเข้าไปในห้องทำงานของพ่อ เสียงของฉันเย็นเยียบราวกับน้ำแข็ง "หนูจะยกเลิกงานแต่งงานค่ะ" เมื่อท่านค้าน ฉันจึงปล่อยหมัดเด็ดสุดท้าย "หนูจะรักษาความต้องการของตระกูลเราในเรื่องพันธมิตรไว้ค่ะ หนูจะแต่งงานกับเจ้าพ่อธาวิน วรไพศาล" แก้ววิสกี้ในมือพ่อร่วงแตกกระจายบนพื้น ธาวิน วรไพศาล คือคู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

Burke Gee
5.0

ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก

วิวาห์ครั้งใหม่กับพ่อหนุ่มเศรษฐีแสนร้ายกาจ

วิวาห์ครั้งใหม่กับพ่อหนุ่มเศรษฐีแสนร้ายกาจ

Rabbit
5.0

[นักธุรกิจหนุ่มระดับต้นแสนร้ายกาจ VS นักปรุงน้ำหอมสาวพิการเลอโฉม บริสุทธิ์ทั้งคู่] บุคคลลึกลับส่งคลิปวิดีโอสามีนอกใจมาให้ ทำลายชีวิตที่ดูสงบของยูหยุนหนิง ทำให้เธอเข้าใจเรื่องหนึ่ง คนรักที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กจะหลอกเรา เพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันจะหลอกเรา แต่นายแบบไหล่กว้างเอวคอดขายาวไม่มีทางหลอกเรา เพียงแต่ชายหนุ่มรูปหล่อขายตัวเพื่อเลี้ยงสุนัขคนนี้ กลิ่นน้ำหอมบนตัวของคุณ ทำไมถึงเหมือนกับนักธุรกิจหนุ่มระดับต้นของตระกูลเสี่ยวเลย? * ตอนที่เธอเปล่งประกายเจิดจรัส เขาเป็นลูกที่ถูกทอดทิ้งของตระกูล กล้าแค่ขโมยจูบแรกของเธอในความมืด เมื่อเธอตกจากที่สูง เขาทิ้งทุกอย่างกลับประเทศ แต่กลับเห็นเธอตอบตกลงคำขอแต่งงานของคนอื่นทั้งน้ำตา ตอนเธอถูกหักหลังอย่างเจ็บปวด เขามีอำนาจอยู่ในมือ เขาคือคนที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เป็นคนที่ช่วยชีวิตตอนที่เธอเสี่ยงอันตราย เป็นกำลังใจที่มั่นคงที่สุดของเธอ เมื่อเธอลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขาคุกเข่าข้างหนึ่ง จริงใจเป็นอย่างมาก “ได้โปรดแต่งงานกับผม” * “อยากรู้ไหมว่า ตอนที่เธอตอบตกลงคำขอแต่งงานของผู้ชายสารเลวคนนั้น ผมกำลังคิดอะไรอยู่? ” “คิดอะไรอยู่เหรอคะ? ” “อย่าให้ผมมีโอกาสนะ” “แล้วถ้าไม่มีโอกาสละคะ? ” “ถ้าอย่างนั้นก็สร้างโอกาสขึ้นมา” เพราะในโลกนี้ ไม่มีใครรักยูหยุนหนิงได้มากกว่าเสี่ยวฉืออีกแล้ว

สะใภ้นอกทำเนียบ + ตอนพิเศษ

สะใภ้นอกทำเนียบ + ตอนพิเศษ

pimchan publication
4.9

เพียงข้ามคืนที่หล่อนต้องสูญเสียพรหมจรรย์เพราะเขาเดินเข้าผิดห้อง จากนั้นแล้วชีวิตหล่อนกับเขาก็ผูกพันกันยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง _________________________________________________________ “ไม่มีใครทำให้ผมกังวลที่สุดเท่าไอ้พีท สายตาที่คุณมองมันวันนั้น แล้วการที่มันโทรหาคุณค่ำๆ มืดๆ มันทำให้ผม...” เฟื่องฟ้าไม่อยากฟังคำตัดพ้อที่เด่นชัดทั้งปากทั้งตานั่นอีก เขายังพูดไม่ทันจบเพราะหล่อนขยับเข้าหาและกดริมฝีปากไว้กับปากของเขา... “ถ้าคุณจะให้ความมั่นใจผม คุณก็ไม่ควรหยุดแค่จูบ การปิดปากผมไห้หยุดพูดไม่ได้ทำให้ผมหายกังวลใจหรอกนะ” “ฉันทำอะไรมากกว่านี้ไม่เป็น คุณก็รู้ นี่ครั้งแรก ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน” “ผมจะสอนเอง ผมอยากให้ผมเป็นผู้รับ ผมจะได้รู้ว่าผมไม่ได้ต้องการอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าผมทำ มันจะทำให้ผมรู้สึกว่าผมฝืนใจคุณ คุณไม่รู้หรือไงว่าเรื่องนี้มันกระทบจิตใจผมแค่ไหน” “แต่...” “ผมเสียขวัญมากเลยนะ คุณจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หรือไง” หล่อนชักเริ่มจะไม่คิดว่าเขากำลังกังวลใจเรื่องหล่อนกับหมอพีท แต่กำลังเจ้าเล่ห์ให้หล่อนทำอะไรที่หล่อนทำไม่เป็นแถมน่าอายสุดๆ อีกด้วย... อยากปฏิเสธแต่แล้วทำไมเขาต้องทำหน้าจริงจังปนเศร้าแบบนั้นด้วย... เฟื่องฟ้ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความรู้สึกซ่านซ่าแปลกๆ กับบางสิ่งที่ดุนดันหน้าท้อง คล้ายมันสั่นระริกเพียงแค่คิดถึงหล่อนก็แก้มแดงเห่อ... “ฉันต้องทำอะไรบ้าง” เสียงพูดและคำถามที่ไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือเสียงหล่อน อาชว์ดูเหมือนอารมณ์ดีขึ้นหากแต่ไม่ยอมยิ้ม เขาตอบหล่อนด้วยสีหน้าจริงจัง “เริ่มจากถอดเสื้อก่อนเป็นไง...” ครางอิดออดนิดเดียวหล่อนก็ยอมทำตามที่เขาบอก มือสั่นเทานิดๆ เมื่อแกะกระดุมเสื้อนอนปาจามาของเขาออกและแก้มเห่อร้อนยามเมื่อแหวกสาบเสื้อออก “ผมหมายถึงถอดเสื้อคุณ” “เอ๊ะ” หญิงสาวทำท่าจะถลึงตาใส่เขา แต่เขาก็ทำหน้านิ่งๆ แล้วก็ต้องถอนหายใจ ไม่รู้ว่าโกรธจริงหรือโกรธเล่นกันแน่ เห็นเขานอนมองหน้าเหมือนรอว่าหล่อนจะทำอะไรหล่อนก็จำต้องถอดผ้าตัวเองมือไม้สั่นไปหมด แกะกระดุมไปพลางเอ็ดตัวเองไปว่าทำไมต้องยอมเขาขนาดนั้นทั้งที่ไม่จำเป็นเลย เพียงแค่เห็นว่าเขาโกรธและเต็มไปด้วยความกังวลใจหล่อนก็ต้องรีบทำให้เขาสบายใจ เขาสำคัญขนาดนั้นกับหล่อนมากหรือไงกัน ถามไปก็ได้คำตอบอยู่ตรงหน้า... เสื้อนอนหล่อนถูกถอดออกด้วยฝีมือตัวเองเพียงเพราะไม่อยากเห็นเขามึนตึงใส่

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ