เศษเสี้ยวของห้วงหัวใจ

เศษเสี้ยวของห้วงหัวใจ

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
133.7K
ชม
84
บท

หากไม่ใช่ว่ารักมาก ยึดมั่นกับรักแรกและคำสัญญาจอมปลอมจากปากของรุจิภาส ดรัลรัตน์คงไม่เจ็บช้ำใจหนักถึงขนาดนี้ ดรัลรัตน์กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ใจเด็ด หิวเงินในสายตาของใครต่อใคร ห้าปีแล้วที่เธอมีแก้วตาดวงใจอย่างเด็กชายสิปปภาสในชีวิต หญิงสาวยอมลาออกจากงาน เพื่อเลี้ยงดูเด็กชายสิปปภาสให้เติบโตเป็นเด็กดี มาวันนี้รุจิภาสขอกลับมาแก้ไขความผิดพลาดเหล่านั้น พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้กลับเข้ามาในชีวิตของเธออีก ดรัลรัตน์จะยอมให้เขากลับมาแก้ตัวไหม หรือจะปล่อยให้เขาเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งในห้วงหัวใจของเธอเท่านั้นก็พอ บางช่วงบางตอนจากเนื้อหา “ห้ามออกไปไหน ตอนที่ผมยังหลับอยู่” เสียงพึมพำที่เหนือศีรษะทำเอาหัวใจของเธอเต้นแรงมากขึ้น แล้วมันเรื่องอะไรที่เธอจะต้องไปฟังเขาด้วย นอนนิ่งให้ไออุ่นจากกายของเขาห่มคลุมอยู่แบบนั้น ปิดตาไว้จนผ่านไปเป็นนาน เห็นว่าเขานิ่ง ไม่ขยับตัว และลมหายใจก็แผ่ว ๆ ราบเรียบเป็นจังหวะเสมอมากขึ้นก็ค่อยผละออกทีละนิด ออกมาทีละนิด จนแขนของเขาหลุดออกจากตัวของเธอในที่สุด ก็ค่อยพลิกตัวไปอีกด้าน มองฝ่าความมืดหาเสื้อผ้าของตัวเอง “บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าคิดไปไหนตอนที่ผมหลับ” เสียงของเขาไม่ได้ดังเลยสักนิด แต่ทำเอาขนกายของเธอลุกชันไปทั้งตัว “คุณไม่มีสิทธิ์” “ต้องให้ผมใช้สิทธิ์ของผัวอีกไหม” ดรัลรัตน์ไม่เถียง เธอเห็นเสื้อผ้าตัวเองแล้ว ก็พุ่งตัวไปหยิบมันแต่ก็ยังช้ากว่าเขา “ไปสิ อยากไปก็ออกไปแบบนั้นเลย” “ได้” ดรัลรัตน์ไม่สน เธอหันหลังทันที แล้วเดินเปลือยไปยังประตูห้อง แต่แล้วความหึงหวงที่ไม่รู้ผุดออกมาจากส่วนไหนของหัวใจ ก็กระตุ้นให้เขาตรงรี่เข้าไปคว้าแขนของเธอเอาไว้เสียก่อน “อย่าบ้าให้มากนักได้ไหม” ดรัลรัตน์เมินหน้า มือก็พยายามยื้อออกจากมือของเขา แต่ไม่หลุด “กลับไปที่เตียง” “ฉันจะกลับห้อง” “จะกลับไปนอนพักผ่อนที่เตียงดี ๆ ไหม หรือจะทำอีก” สิ้นเสียงถามของเขา เลือดหมดทั้งตัวของเธอก็พากันไหลมากองรวมกันที่ใบหน้า ดรัลรัตน์กัดปากแน่น ไม่มองหน้าเขา แล้วเดินกลับไปยังที่นอนอย่างเดิม “นอนลง ถ้ายังต้องให้พูดให้กล่อมกันอีก ผมจะทำต่อจนถึงเย็นวันมะรืนเลย”

บทที่ 1 1

ห้าปีมานี้ ชีวิตของรุจิภาสผกผันไปมาก จากพนักงานตำแหน่งฝึกหัดเล็ก ๆ ของบริษัทหนึ่งในเครือที่เป็นกิจการหลักของบิดา ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้วในวันนี้

แม้จะยังไม่สูงสุดอย่างที่ใจวาดหวัง แต่มาได้ไกลกว่าเดิม นับว่าน่าพอใจไม่น้อย

ผู้คนต่างให้ความเคารพยำเกรงเขามากขึ้น ได้รับการนับหน้าถือตา มีเงินจับจ่ายใช้สอยคล่องมือ ทุกอย่างไม่ตึงเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป

แต่แล้วในหัวใจส่วนลึกของรุจิภาสกลับดิ่งลงเหว ตรงข้ามกับความก้าวหน้าทางหน้าที่การงานและสภาวะทางการเงินอย่างสิ้นเชิง

ห้าปีมานี้ รุจิภาสผ่านผู้หญิงมามากมาย ไหนจะคู่หมายที่มารดาเฟ้นหามาให้เขา แต่หัวใจของชายหนุ่มกลับต้องการเพียงหญิงสาวแค่คนเดียว

คนเดียวคนนั้นที่ทำให้เขารู้สึกถึงความรักลึกซึ้ง

ดรัลรัตน์...

มาวันนี้ เขาบอกได้เต็มปากเลยว่ายังคงรักดรัลรัตน์อยู่

ความผิดพลาดมากมายที่เขาเป็นคนก่อขึ้น รุจิภาสรู้ดีว่ามันล้วนแต่ทำให้ดรัลรัตน์เสียใจ ผิดหวังในตัวเขามาก

ความคิดที่จะกลับไปงอนง้อผุดเข้ามาในหัวของเขาหลายต่อหลายครั้ง รุจิภาสกัดฟันบอกตัวเองให้ยืดเวลาออกไปก่อน ยืดเวลาออกไปอีก ให้เขาประสบความสำเร็จมากกว่านี้หน่อย ค่อยกลับไปแก้ตัวใหม่

ดรัลรัตน์จะต้องเข้าใจเขา เธอรอเขาอยู่อย่างแน่นอน

“โปรด”

เสียงเรียกชื่อเขาดังมาแต่ไกล เสียงที่รุจิภาสคุ้นชินมาตั้งแต่เกิด ท่าทีของนางกชกรดูหลุกหลิกชอบกล นางตรงเข้ามาจับแขนบุตรชายให้นั่งลง แล้วเริ่มสนทนาขึ้น “เมื่อตอนบ่าย ซินแสทักแม่มาด้วยนะ”

รุจิภาสมองมารดานิ่ง ๆ ค่อยเอ่ยถามออกไป

“ทักว่ายังไงหรือครับ”

“ท่านถามว่าแกน่ะ ซุกลูกเอาไว้ที่ไหน พอแม่บอกว่าไม่มี ท่านก็ส่ายหน้าว่าไม่เชื่อ บอกให้ไปรับเอามาเลี้ยงเอง แล้วแกจะได้ขึ้นเป็นรองกรรมการบริหารไม่เกินสิ้นปีนี้แน่นอน ท่านคอนเฟิร์ม”

รุจิภาสมองมารดาด้วยสายตาเอือมระอาเล็กน้อย ก่อนเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ตอนที่เขานำเรื่องเด็กชายสิปปภาสมาปรึกษา จำได้แม่นว่าตอนนั้นมารดาบอกให้ไปเอาเด็กออกอย่างเดียวเลย

มาวันนี้จะให้ไปเอามาเลี้ยงเอง ทางนั้นไม่มีทางยอมง่าย ๆ แน่

รุจิภาสถอนลมหายใจเบา ๆ พูดไม่ออก ตัวเขาไร้ความรับผิดชอบก็รู้ตัวเองอยู่

เรื่องของเด็กชายคนนั้น รุจิภาสจึงยกให้ทนายความช่วยดูแลทั้งหมด ตั้งแต่คลอดจนมาถึงวันนี้ เขาไม่เคยไปดูหน้าลูกเลยสักครั้งเดียว

นึกแล้วก็ให้กระดากใจไม่น้อย

นางกชกรมองบุตรชายที่นิ่งเงียบ ก็รีบโน้มน้าวต่อ “ซินแสยังบอกอีกนะว่าเด็กคนนั้นจะค้ำจะคูณพวกเรา โดยเฉพาะแกน่ะโปรด ดวงเกื้อหนุนกันมาก ๆ เลยนะ”

เขาไม่ได้เชื่อเรื่องโชคชะตาอย่างที่มารดาว่ามาเท่าไรนัก พึมพำว่า “ไม่รู้แม่เขาจะให้ไหม”

คนเป็นแม่คนเช่นกันเสียงแข็งใส่ทันที “ไม่ให้ได้ยังไง แกเป็นพ่อนะตาโปรด ถึงไม่เคยไปดูลูก ไม่ค่อยได้มีเวลาไปเยี่ยมไปหา แต่แกส่งเงินเลี้ยงดูอยู่ตลอด ก็ถ้าต้องส่งเงินให้ไปแบบนี้ สู้เราทำเป็นตัดเงินไปเลย ดูซิว่าไม่มีเงินจากเรา ทางนั้นจะเลี้ยงเด็กได้ไหม ทนายเรามี ก็ให้ทำเรื่องฟ้องมันสิ จะต้องไปกลัวไปเกรงมันทำไม อย่าบอกนะว่ายังลืมผู้หญิงคนนั้นไม่ลง”

เขาไม่ได้กลัว แต่เกรงใจน่ะก็มีอยู่มากทีเดียว

ส่วนเรื่องลืมไม่ลงนั่น เป็นความจริงแท้อย่างที่มารดากล่าวท้วง ทุกวันนี้เขายังหาหนทางอยู่เสมอ ว่าจะกลับไปง้อดรัลรัตน์แบบไหน หากเล่นไม้แข็งใส่เลย ก็มีแต่ขาดสะบั้นกันพอดี ดรัลรัตน์เป็นประเภทเงียบเหมือนคนหัวอ่อน แต่เวลาโกรธขึ้นมา ไม่ไว้หน้าใครที่ไหนทั้งนั้น

“ผมไม่อยากใช้วิธีแบบนั้นเลยครับ”

นางกชกรเสียงอ่อนลง ทำเป็นคล้อยตามบุตรชาย “ไม่ใช้วิธีนั้นแล้วจะใช้วิธีไหน โปรดลูกรัก ลูกต้องไปเอาเด็กคนนั้นมาเลี้ยงให้ได้เลยนะ ติดขัดตรงไหน แม่จะช่วยเอง”

รุจิภาสพยักหน้าเนือย ๆ บอกว่าจะขอหาหนทางดูอีกที

พอดีกับที่มีสายเรียกเข้า พบว่าเป็นทนายความส่วนตัวของเขาเอง จึงสบโอกาสปลีกตัวจากมารดา เดินตรงไปยังสระน้ำที่ห่างจากจุดที่นั่งสนทนากับมารดาพอประมาณ คุยสายไป ก็ร้องอือตอบรับไปเบา ๆ ก่อนวางสายจากทางนั้นในเวลาต่อมา

หันมองหามารดาอีกที พบว่าท่านลุกจากไปแล้ว

เขามองไปยังความมืดที่เบื้องหน้า หวนคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ต้องตัดทุกอย่างเพื่อเข้ารับตำแหน่งแล้ว ก็ให้ปวดใจไม่น้อย เขาจมกับความคิด นึกถึงเศษเสี้ยวของหัวใจที่จำต้องปล่อยให้หลุดมือไป

คงถึงเวลาแล้ว ที่เขาจะตามไปเอาเศษเสี้ยวที่สำคัญที่สุดชิ้นนั้นกลับเข้ามาต่อให้เป็นหัวใจเต็มดวงอีกครั้ง

ดรัลรัตน์ลดโทรศัพท์ในมือลง ไม่มีการตอบกลับใด ๆ เมื่อเธอทวงค่าเลี้ยงดูของเด็กชายสิปปภาสไปอีกครั้ง

ทวงหลายรอบแล้ว แต่ทางนั้นกลับทำเงียบ

บางทีก็นึกกระดากกับการทวง แต่แล้วจะให้ทำเฉย ๆ ไม่ติดตาม ไม่ทวงถามเลย แบบนั้นจะได้อย่างไรกัน

สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ มองลอดกระจกหน้ารถออกไป เห็นร่างอ้วนกลมที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ เป็นดั่งมวลแห่งความสุขของชีวิตของเธอ เดินตามทางปูน ออกมายังลานเข้าแถวแล้ว ค่อยเปิดประตูรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ลงไปรับ

เด็กชายสิปปภาสอายุเพียงสี่ขวบ แต่เพราะกินจุ กินเยอะ ร่างกายจึงใหญ่โตกว่าเพื่อนร่วมชั้น จะว่าไป สิปปภาสสูงใหญ่เกือบเท่ากับเด็กอนุบาลสามแล้วด้วย ทั้งที่อยู่แค่อนุบาลหนึ่งเท่านั้นเอง

บางทีอาจได้โครงสร้างร่างกายที่สูงใหญ่มาจากบิดาของเขาก็เป็นได้

นึกถึงทีไร ก็ให้ปวดแปลบในหัวใจทุกที กัดผนังปากด้านในเบา ๆ สั่งตัวเองให้เลิกนึกถึงคนมักมาก คนเห็นแก่ตัวแบบนั้นเสียที จะต้องไปนึกถึงเขาทำไมนัก จบกันแล้ว ก็ให้จบกันไปสิ

แล้วถึงได้ยิ้มกว้างให้กลุ่มเด็กตัวเล็กตัวน้อย ทั้งหญิงและชายที่พากันวิ่งกรูออกจากแถว บางคนไปหาผู้ปกครอง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

เมียเก่าที่เขาไม่เคยรัก

โรแมนติก

5.0

ภาวรีแหงนหน้าขึ้นแล้วยิ้มกวนโมโหใส่หน้าเขา "มาขวางทำไม เชยไม่สนพี่เขื่อนแล้วนะรู้ไหม ให้หย่าก็ได้เลย ไปเลย เพราะไรรู้มะ เพราะพี่เขื่อนสู้หนุ่ม ๆ ในร้านไม่ได้เลยสักคน ในนั้นถึงใจกว่าพี่เขื่อนตั้งเยอะ" ลัพธวิทย์หรี่ตามอง ถามเสียงเรียบ "ถึงใจแบบไหน" "ใหญ่กว่า อึด แล้วก็เอาเก่งกว่าพี่เขื่อน" ได้ยินเสียงตัวเองพูดจาก๋ากั่นออกไปแบบนั้นแล้วก็ให้ตกใจไม่น้อย พอได้ยินคำตอบของเธอที่หลับตาฟังก็รู้ว่าจงใจพูดจายั่วยุเขา ลัพธวิทย์ก็ค่อยหัวเราะออกมาลั่น พร้อมค่อนแคะกลับไป "น้ำหน้าอย่างเราเนี่ยหรือ กล้านอนกับผู้ชายตามบาร์" ภาวรีหน้าชาเมื่อถูกจับไต๋ได้ว่าโกหก เธอลอยหน้าลอยตาแล้วตอบเขากลับ "ทำไมจะไม่กล้า แม่เปิดห้องให้เชยลองแล้วด้วย หนุ่ม ๆ ในบาร์โฮสต์ทำให้เชยรู้แล้วล่ะว่าของพี่เขื่อนนี่เทียบชั้นกันไม่ติด แบบนั้นน่ะ..." ภาวรีพูดแล้วกวาดตาลงมองอย่างหยามเหยียด บอกต่อจนจบประโยค "น่าจะเอาไว้แค่ฉี่มากกว่านะ"

ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

วาสนานี้ ข้ามิอยากได้

วาสนานี้ ข้ามิอยากได้

l3oonm@
5.0

ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ

บังเอิญหรือพรหมลิขิต

บังเอิญหรือพรหมลิขิต

Irita Sarkar
5.0

เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

เขยไม่เอาถ่านกับตำนานลูกเศรษฐี

เขยไม่เอาถ่านกับตำนานลูกเศรษฐี

Sydney Chaplin
4.9

ฉันเป็นลูกเขยที่แต่งเข้าตระกูลเจียงมาสามปี ตลอดระยะเวลาสามปีมานี้ ฉันถูกคนในตระกูลเจียงนี้เรียกใช้อย่างกับขี้ข้า และแสงสว่างเดียวในชีวิตของฉันก็คือเธอ เจียงเชียนหนิง ภรรยาที่รักของฉัน แต่พระเจ้าก็เล่นตลกกับฉันเสียจริงเลย ภรรยาของฉันนอกใจฉัน! เพื่อแก้แค้นที่เธอนอกใจ ฉันจึงตัดสินใจเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของฉันออกมา ฉันคือหลินเทียน ผู้ซึ่งเป็นทายาทของตระกูลที่มีทรัพย์สินมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์! ในขณะที่ตัวตนของฉันถูกเปิดเผย คนในตระกูลเจียงก็ตกตะลึงกันไปทุกคน! ยิ่งไปกว่านั้น ภรรยาของฉันคุกเข่าขอโทษฉันเพื่อขอให้ฉันให้อภัยเธอ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ