หากไม่ใช่ว่ารักมาก ยึดมั่นกับรักแรกและคำสัญญาจอมปลอมจากปากของรุจิภาส ดรัลรัตน์คงไม่เจ็บช้ำใจหนักถึงขนาดนี้ ดรัลรัตน์กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ใจเด็ด หิวเงินในสายตาของใครต่อใคร ห้าปีแล้วที่เธอมีแก้วตาดวงใจอย่างเด็กชายสิปปภาสในชีวิต หญิงสาวยอมลาออกจากงาน เพื่อเลี้ยงดูเด็กชายสิปปภาสให้เติบโตเป็นเด็กดี มาวันนี้รุจิภาสขอกลับมาแก้ไขความผิดพลาดเหล่านั้น พร้อมทำทุกวิถีทางเพื่อจะได้กลับเข้ามาในชีวิตของเธออีก ดรัลรัตน์จะยอมให้เขากลับมาแก้ตัวไหม หรือจะปล่อยให้เขาเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งในห้วงหัวใจของเธอเท่านั้นก็พอ บางช่วงบางตอนจากเนื้อหา “ห้ามออกไปไหน ตอนที่ผมยังหลับอยู่” เสียงพึมพำที่เหนือศีรษะทำเอาหัวใจของเธอเต้นแรงมากขึ้น แล้วมันเรื่องอะไรที่เธอจะต้องไปฟังเขาด้วย นอนนิ่งให้ไออุ่นจากกายของเขาห่มคลุมอยู่แบบนั้น ปิดตาไว้จนผ่านไปเป็นนาน เห็นว่าเขานิ่ง ไม่ขยับตัว และลมหายใจก็แผ่ว ๆ ราบเรียบเป็นจังหวะเสมอมากขึ้นก็ค่อยผละออกทีละนิด ออกมาทีละนิด จนแขนของเขาหลุดออกจากตัวของเธอในที่สุด ก็ค่อยพลิกตัวไปอีกด้าน มองฝ่าความมืดหาเสื้อผ้าของตัวเอง “บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าคิดไปไหนตอนที่ผมหลับ” เสียงของเขาไม่ได้ดังเลยสักนิด แต่ทำเอาขนกายของเธอลุกชันไปทั้งตัว “คุณไม่มีสิทธิ์” “ต้องให้ผมใช้สิทธิ์ของผัวอีกไหม” ดรัลรัตน์ไม่เถียง เธอเห็นเสื้อผ้าตัวเองแล้ว ก็พุ่งตัวไปหยิบมันแต่ก็ยังช้ากว่าเขา “ไปสิ อยากไปก็ออกไปแบบนั้นเลย” “ได้” ดรัลรัตน์ไม่สน เธอหันหลังทันที แล้วเดินเปลือยไปยังประตูห้อง แต่แล้วความหึงหวงที่ไม่รู้ผุดออกมาจากส่วนไหนของหัวใจ ก็กระตุ้นให้เขาตรงรี่เข้าไปคว้าแขนของเธอเอาไว้เสียก่อน “อย่าบ้าให้มากนักได้ไหม” ดรัลรัตน์เมินหน้า มือก็พยายามยื้อออกจากมือของเขา แต่ไม่หลุด “กลับไปที่เตียง” “ฉันจะกลับห้อง” “จะกลับไปนอนพักผ่อนที่เตียงดี ๆ ไหม หรือจะทำอีก” สิ้นเสียงถามของเขา เลือดหมดทั้งตัวของเธอก็พากันไหลมากองรวมกันที่ใบหน้า ดรัลรัตน์กัดปากแน่น ไม่มองหน้าเขา แล้วเดินกลับไปยังที่นอนอย่างเดิม “นอนลง ถ้ายังต้องให้พูดให้กล่อมกันอีก ผมจะทำต่อจนถึงเย็นวันมะรืนเลย”
ห้าปีมานี้ ชีวิตของรุจิภาสผกผันไปมาก จากพนักงานตำแหน่งฝึกหัดเล็ก ๆ ของบริษัทหนึ่งในเครือที่เป็นกิจการหลักของบิดา ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้วในวันนี้
แม้จะยังไม่สูงสุดอย่างที่ใจวาดหวัง แต่มาได้ไกลกว่าเดิม นับว่าน่าพอใจไม่น้อย
ผู้คนต่างให้ความเคารพยำเกรงเขามากขึ้น ได้รับการนับหน้าถือตา มีเงินจับจ่ายใช้สอยคล่องมือ ทุกอย่างไม่ตึงเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
แต่แล้วในหัวใจส่วนลึกของรุจิภาสกลับดิ่งลงเหว ตรงข้ามกับความก้าวหน้าทางหน้าที่การงานและสภาวะทางการเงินอย่างสิ้นเชิง
ห้าปีมานี้ รุจิภาสผ่านผู้หญิงมามากมาย ไหนจะคู่หมายที่มารดาเฟ้นหามาให้เขา แต่หัวใจของชายหนุ่มกลับต้องการเพียงหญิงสาวแค่คนเดียว
คนเดียวคนนั้นที่ทำให้เขารู้สึกถึงความรักลึกซึ้ง
ดรัลรัตน์...
มาวันนี้ เขาบอกได้เต็มปากเลยว่ายังคงรักดรัลรัตน์อยู่
ความผิดพลาดมากมายที่เขาเป็นคนก่อขึ้น รุจิภาสรู้ดีว่ามันล้วนแต่ทำให้ดรัลรัตน์เสียใจ ผิดหวังในตัวเขามาก
ความคิดที่จะกลับไปงอนง้อผุดเข้ามาในหัวของเขาหลายต่อหลายครั้ง รุจิภาสกัดฟันบอกตัวเองให้ยืดเวลาออกไปก่อน ยืดเวลาออกไปอีก ให้เขาประสบความสำเร็จมากกว่านี้หน่อย ค่อยกลับไปแก้ตัวใหม่
ดรัลรัตน์จะต้องเข้าใจเขา เธอรอเขาอยู่อย่างแน่นอน
“โปรด”
เสียงเรียกชื่อเขาดังมาแต่ไกล เสียงที่รุจิภาสคุ้นชินมาตั้งแต่เกิด ท่าทีของนางกชกรดูหลุกหลิกชอบกล นางตรงเข้ามาจับแขนบุตรชายให้นั่งลง แล้วเริ่มสนทนาขึ้น “เมื่อตอนบ่าย ซินแสทักแม่มาด้วยนะ”
รุจิภาสมองมารดานิ่ง ๆ ค่อยเอ่ยถามออกไป
“ทักว่ายังไงหรือครับ”
“ท่านถามว่าแกน่ะ ซุกลูกเอาไว้ที่ไหน พอแม่บอกว่าไม่มี ท่านก็ส่ายหน้าว่าไม่เชื่อ บอกให้ไปรับเอามาเลี้ยงเอง แล้วแกจะได้ขึ้นเป็นรองกรรมการบริหารไม่เกินสิ้นปีนี้แน่นอน ท่านคอนเฟิร์ม”
รุจิภาสมองมารดาด้วยสายตาเอือมระอาเล็กน้อย ก่อนเบือนหน้าหนีไปทางอื่น ตอนที่เขานำเรื่องเด็กชายสิปปภาสมาปรึกษา จำได้แม่นว่าตอนนั้นมารดาบอกให้ไปเอาเด็กออกอย่างเดียวเลย
มาวันนี้จะให้ไปเอามาเลี้ยงเอง ทางนั้นไม่มีทางยอมง่าย ๆ แน่
รุจิภาสถอนลมหายใจเบา ๆ พูดไม่ออก ตัวเขาไร้ความรับผิดชอบก็รู้ตัวเองอยู่
เรื่องของเด็กชายคนนั้น รุจิภาสจึงยกให้ทนายความช่วยดูแลทั้งหมด ตั้งแต่คลอดจนมาถึงวันนี้ เขาไม่เคยไปดูหน้าลูกเลยสักครั้งเดียว
นึกแล้วก็ให้กระดากใจไม่น้อย
นางกชกรมองบุตรชายที่นิ่งเงียบ ก็รีบโน้มน้าวต่อ “ซินแสยังบอกอีกนะว่าเด็กคนนั้นจะค้ำจะคูณพวกเรา โดยเฉพาะแกน่ะโปรด ดวงเกื้อหนุนกันมาก ๆ เลยนะ”
เขาไม่ได้เชื่อเรื่องโชคชะตาอย่างที่มารดาว่ามาเท่าไรนัก พึมพำว่า “ไม่รู้แม่เขาจะให้ไหม”
คนเป็นแม่คนเช่นกันเสียงแข็งใส่ทันที “ไม่ให้ได้ยังไง แกเป็นพ่อนะตาโปรด ถึงไม่เคยไปดูลูก ไม่ค่อยได้มีเวลาไปเยี่ยมไปหา แต่แกส่งเงินเลี้ยงดูอยู่ตลอด ก็ถ้าต้องส่งเงินให้ไปแบบนี้ สู้เราทำเป็นตัดเงินไปเลย ดูซิว่าไม่มีเงินจากเรา ทางนั้นจะเลี้ยงเด็กได้ไหม ทนายเรามี ก็ให้ทำเรื่องฟ้องมันสิ จะต้องไปกลัวไปเกรงมันทำไม อย่าบอกนะว่ายังลืมผู้หญิงคนนั้นไม่ลง”
เขาไม่ได้กลัว แต่เกรงใจน่ะก็มีอยู่มากทีเดียว
ส่วนเรื่องลืมไม่ลงนั่น เป็นความจริงแท้อย่างที่มารดากล่าวท้วง ทุกวันนี้เขายังหาหนทางอยู่เสมอ ว่าจะกลับไปง้อดรัลรัตน์แบบไหน หากเล่นไม้แข็งใส่เลย ก็มีแต่ขาดสะบั้นกันพอดี ดรัลรัตน์เป็นประเภทเงียบเหมือนคนหัวอ่อน แต่เวลาโกรธขึ้นมา ไม่ไว้หน้าใครที่ไหนทั้งนั้น
“ผมไม่อยากใช้วิธีแบบนั้นเลยครับ”
นางกชกรเสียงอ่อนลง ทำเป็นคล้อยตามบุตรชาย “ไม่ใช้วิธีนั้นแล้วจะใช้วิธีไหน โปรดลูกรัก ลูกต้องไปเอาเด็กคนนั้นมาเลี้ยงให้ได้เลยนะ ติดขัดตรงไหน แม่จะช่วยเอง”
รุจิภาสพยักหน้าเนือย ๆ บอกว่าจะขอหาหนทางดูอีกที
พอดีกับที่มีสายเรียกเข้า พบว่าเป็นทนายความส่วนตัวของเขาเอง จึงสบโอกาสปลีกตัวจากมารดา เดินตรงไปยังสระน้ำที่ห่างจากจุดที่นั่งสนทนากับมารดาพอประมาณ คุยสายไป ก็ร้องอือตอบรับไปเบา ๆ ก่อนวางสายจากทางนั้นในเวลาต่อมา
หันมองหามารดาอีกที พบว่าท่านลุกจากไปแล้ว
เขามองไปยังความมืดที่เบื้องหน้า หวนคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ต้องตัดทุกอย่างเพื่อเข้ารับตำแหน่งแล้ว ก็ให้ปวดใจไม่น้อย เขาจมกับความคิด นึกถึงเศษเสี้ยวของหัวใจที่จำต้องปล่อยให้หลุดมือไป
คงถึงเวลาแล้ว ที่เขาจะตามไปเอาเศษเสี้ยวที่สำคัญที่สุดชิ้นนั้นกลับเข้ามาต่อให้เป็นหัวใจเต็มดวงอีกครั้ง
ดรัลรัตน์ลดโทรศัพท์ในมือลง ไม่มีการตอบกลับใด ๆ เมื่อเธอทวงค่าเลี้ยงดูของเด็กชายสิปปภาสไปอีกครั้ง
ทวงหลายรอบแล้ว แต่ทางนั้นกลับทำเงียบ
บางทีก็นึกกระดากกับการทวง แต่แล้วจะให้ทำเฉย ๆ ไม่ติดตาม ไม่ทวงถามเลย แบบนั้นจะได้อย่างไรกัน
สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ มองลอดกระจกหน้ารถออกไป เห็นร่างอ้วนกลมที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ เป็นดั่งมวลแห่งความสุขของชีวิตของเธอ เดินตามทางปูน ออกมายังลานเข้าแถวแล้ว ค่อยเปิดประตูรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ลงไปรับ
เด็กชายสิปปภาสอายุเพียงสี่ขวบ แต่เพราะกินจุ กินเยอะ ร่างกายจึงใหญ่โตกว่าเพื่อนร่วมชั้น จะว่าไป สิปปภาสสูงใหญ่เกือบเท่ากับเด็กอนุบาลสามแล้วด้วย ทั้งที่อยู่แค่อนุบาลหนึ่งเท่านั้นเอง
บางทีอาจได้โครงสร้างร่างกายที่สูงใหญ่มาจากบิดาของเขาก็เป็นได้
นึกถึงทีไร ก็ให้ปวดแปลบในหัวใจทุกที กัดผนังปากด้านในเบา ๆ สั่งตัวเองให้เลิกนึกถึงคนมักมาก คนเห็นแก่ตัวแบบนั้นเสียที จะต้องไปนึกถึงเขาทำไมนัก จบกันแล้ว ก็ให้จบกันไปสิ
แล้วถึงได้ยิ้มกว้างให้กลุ่มเด็กตัวเล็กตัวน้อย ทั้งหญิงและชายที่พากันวิ่งกรูออกจากแถว บางคนไปหาผู้ปกครอง
บทที่ 1 1
29/12/2021
บทที่ 2 2
29/12/2021
บทที่ 3 3
29/12/2021
บทที่ 4 4
29/12/2021
บทที่ 5 5
29/12/2021
บทที่ 6 6
29/12/2021
บทที่ 7 7
29/12/2021
บทที่ 8 8
29/12/2021
บทที่ 9 9
29/12/2021
บทที่ 10 10
29/12/2021
บทที่ 11 11
29/12/2021
บทที่ 12 12
22/04/2022
บทที่ 13 13
22/04/2022
บทที่ 14 14
22/04/2022
บทที่ 15 15
22/04/2022
บทที่ 16 16
22/04/2022
บทที่ 17 17
22/04/2022
บทที่ 18 18
22/04/2022
บทที่ 19 19
22/04/2022
บทที่ 20 20
22/04/2022
บทที่ 21 21
22/04/2022
บทที่ 22 22
22/04/2022
บทที่ 23 23
22/04/2022
บทที่ 24 24
22/04/2022
บทที่ 25 25
22/04/2022
บทที่ 26 26
22/04/2022
บทที่ 27 27
22/04/2022
บทที่ 28 28
22/04/2022
บทที่ 29 29
22/04/2022
บทที่ 30 30
22/04/2022
บทที่ 31 31
22/04/2022
บทที่ 32 32
22/04/2022
บทที่ 33 33
22/04/2022
บทที่ 34 34
22/04/2022
บทที่ 35 35
22/04/2022
บทที่ 36 36
22/04/2022
บทที่ 37 37
22/04/2022
บทที่ 38 38
22/04/2022
บทที่ 39 39
22/04/2022
บทที่ 40 40
22/04/2022
หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter
ข้อมูลเพิ่มเติม