Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คุณลุงขาอย่าบอกใคร

คุณลุงขาอย่าบอกใคร

กาสะลอง

4.6
ความคิดเห็น
160.7K
ชม
39
บท

“ฮึ่ก... พอแล้วหนูเสียว ฮือๆ ไม่ไหวแล้วค่ะคุณลุงขา” มือเรียวของฉันขยุ้มศีรษะของลุงทอมเอาไว้แน่น ลิ้นของเขาไล้เลียนุ่มนวล สลับกระแทกเสียบรุนแรง ฉันยอมรับว่าทรมาน แต่ใจจริงก็ชอบ… มันเสียวซ่าน ไม่อยากให้เขาหยุด ลุงทอมเลียเก่งเหลือเกิน “ของหนูสวยมาก… ฟิตแน่นดูดลิ้นลุงดีจัง” ลุงทอมชำแรกเรียวลิ้น ไชชอนกลีบเนื้อสีชมพูนุ่มอ่อนบอบบางของฉันอย่างบ้าคลั่ง ทั้งแบะทั้งบีบกลีบสวาทออกมาไล้เลีย สลับไปมาทั้งสองข้างซ้ายขวา เสียงดังจ๊วบจั๊บหนับหนุบ “ฮื่อๆ…. ลุงขาหนูเสียวจะขาดใจอยู่แล้ว” ฉันขยับสะโพก ยกหนอกเนินสวาทกระแทกสวนใบหน้าของลุงทอมที่ก้มงุดอยู่ตรงง่ามขา เบิร์นน้องสาวฉันไม่ลืมหูลืมตา เมามันจนแทบไม่อยากเงยหน้ากลับขึ้นมาหายใจ คาวสวาทของฉันคงหอมถูกใจแก กระตุ้นอารมณ์ลุงทอมจนออกอาการหลงใหลอย่างที่เห็น

บทที่ 1 ตอนที่ 1

นิยายชุดนี้มีสองเรื่องคือ คุณลุงขาอย่าบอกใคร และ ลุงเจมส์

"คุณลุงขาอย่าบอกใคร"

ขณะที่ฉันกำลังนั่งอ่านหนังสือนิยายสุดฟินอยู่ในเปลที่ผูกเอาไว้ระหว่างต้นมะม่วงสองต้น จู่ๆ ภายในหูก็พลันได้ยินเสียงรถกระบะคันหนึ่ง วิ่งเข้ามาในบ้านเช่าที่อยู่ติดกับสวนมะพร้าวข้างบ้าน

ตอนแรกฉันไม่ได้สนใจมอง แต่เป็นเพราะว่าบ้านหลังนี้อยู่ติดกับสวนมะพร้าวของพ่อฉัน ห่างกันเพียงรั้วกั้น ใครเข้าใครออกก็ต้องเห็น ลักษณะของบ้านปลูกสร้างแบบปูนเปลือยชั้นเดียวผสมไม้ ดูเรียบง่ายแต่มีสไตล์ เจ้าของเปิดให้เช่าแบบรายเดือน จึงมีลูกค้าผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเช่าบ้านหลังนี้ไม่ซ้ำหน้า เท่าที่เห็นส่วนมากก็เป็นพวกฝรั่งต่างชาติที่นิยมมาเที่ยวเมืองไทยแล้วอยู่นานแบบลองสเตย์

บอกตรงๆ ว่าตอนแรกฉันไม่ได้สนใจมอง กระทั่งได้ยินเสียงคนที่มาเช่าบ้าน ถือโทรศัพท์แนบหูเดินออกมาที่สวนหลังบ้าน

เสียงสนทนาเป็นภาษาอังกฤษสะดุดหูฉันอย่างจัง ทำให้ต้องลุกขึ้นจากเปล เดินมาที่รั้ว มองผ่านช่องว่างระหว่างแนวรั้วหลังบ้าน

และพลันนั้นเอง ที่สายตาของฉันปะทะเข้ากับฝรั่งร่างสูงใหญ่วัยลุงคนหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาสไตล์หนุ่มลาตินที่ฉันชอบ กำลังเดินตรงมาที่ป่ากล้วย ใกล้กับแนวรั้วที่ฉันยืนอยู่ แกไม่ได้สวมเสื้อ สวมเพียงกางเกงบอลขาสั้นบางๆ

เนื้อตัวของฝรั่งคนนี้กำยำล่ำสันไปด้วยมัดกล้าม แผงอกแน่นนูนไปด้วยมัดเนื้อ มีเส้นขนสีดำแผ่กระจายทั่วอกกว้าง ซิกแพคเป็นลูกเป็นลอนน่าลูบไล้ ที่ปั้นไหล่ด้านขวามีลายสักคลาสสิคเป็นเส้นสายสีดำขลัง สวมนาฬิกาสีเงินวาวที่ข้อมือข้างซ้าย โครงร่างสูงใหญ่ล่ำสันสะดุดตาฉันเหลือเกิน

‘ว้าว… อีตาลุงคนนี้เซ็กซี่สุดๆ’

ฉันอุทานในใจ เบี่ยงตัวหลบวูบว่องไวเพราะกลัวว่าแกจะเห็น รีบซ่อนร่างไว้หลังเหลี่ยมเสา แอบมองฝรั่งวัยลุงควักกล้วยของเขาออกมาอวดสายตา

‘ว้าย… อกอีแป้นจะแตก’

ไม่คิดว่าจะได้เห็นของดีเป็นบุญตาแต่เช้าตรู่ ฉันอุทานเสียงดังลั่นอยู่ในใจ อีตาลุงคนนี้ไม่ได้ดึงขอบกางเกงลงมา แต่ควักแก่นกายชนิดที่ว่าทำเอาฉันใจเต้นระทึก เพราะว่าแกรั้งเป้ากางเกงไปไว้ข้างซอกขาแล้วควักดุ้นเอ็นยาวใหญ่ออกมาจากด้านล่าง ล้วงออกมาแบบแมนๆ

‘โห… ’

ฉันตะลึง มองอีตาลุงฝรั่งยืนแอ่นสะโพก ปลดปล่อยน้ำฉี่สีเหลืองอำพัน พวยพุ่งออกมาเป็นสาย สะท้อนอยู่ในประกายแสงแดดเหลืองอร่ามของยามสาย ราดรดลงมาที่โคนต้นกล้วย ที่เห็นมันพุ่งแรงนั้นคงเป็นธรรมดาของคนท่อใหญ่

‘โอ้แม่เจ้า… ของคนหรือของม้าวะนั่น โห… ยังกะแขนเด็กแน่ะ… ใครโดนเข้าไปตายแน่ๆ’

ฉันยังคงอุทานลั่นอยู่ในใจ เอามือลูบแขนตัวเองไปมา ยอมรับว่ารู้สึกขนลุกขนพอง หากดวงตาก็ยังเบิกโพลง มองแล้วมองอีก มองจนตาแทบจะถลนออกจากมาจากเบ้า ตะลึงกับความ ‘ใหญ่’ และ ‘ยาว’ ของอีตาลุงฝรั่งสุดหล่อที่จู่ๆ ก็ควักไอ้จ้อนออกมาให้สาวน้อยอย่างฉันตาค้าง เพ่งมองด้วยใจกระเจิง

นี่ขนาดอยู่ในสภาพปกติธรรมดาก็ยังใหญ่ยาวราวกับมะเขือยาว แล้วถ้าตอนที่มันอยู่ในสภาพแข็งตัวสุดๆ ล่ะ โอ้ย… ไม่อยากจะคิด แต่ก็คิดไปแล้ว… มันคงใหญ่เบ้อเริ่มเท่าแขนของฉันกระมัง

ฉันนิ่งมอง ยืนตัวแข็งทื่อ ราวกับโดนสะกดด้วยเวทย์มนต์คาถาอะไรสักอย่าง ยืนมองลุงฝรั่งจับแท่งเอ็นฟาดกับต้นขาของตัวเองสองสามทีจนสะเด็ดน้ำแล้วดึงกลับเข้ามาทางซอกขากางเกง เมื่อเก็บอาวุธไว้ในสภาพเรียบร้อยก็ผิวปากหวือ เดินออกไปจากป่ากล้วยโดยไม่รับผิดชอบกับความรู้สึกของฉันที่ยังตะลึง ใจเต้นแรง

“อีตาลุงบ้า”

ฉันรู้สึกโล่งใจ ที่แกเดินออกไปเสียได้ สิ่งที่เห็นทำเอาเหงื่อซึมออกมาชื้นอยู่ในอุ้งมือทั้งสองข้าง ใจยังเต็นรัวไม่หาย ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้มาเห็นอวัยวะเพศชายขนาดอลังการในตอนกลางวันแสกๆ

“โอ๊ย… ตกใจหมดเลย”

ฉันยกมือขึ้นทาบอก ใจยังเต้นแรงเหมือนกลองรัว ก่อนที่เสียงแหวของแม่ช่วยฉุดฉันออกจากภวังค์

“นังฟ้า… นั่นเอ็งอยู่ไหนวะ”

เสียงของ ‘นางชบา’ แม่ฉันดังขึ้นมาอีก ฉันมีชื่อจริงว่า ‘เฟื่องฟ้า’ แต่แม่มักจะเรียกสั้นๆ ว่า ‘ฟ้า’ ด้วยความเคยชิน

“จ๋า… อยู่หลังบ้านจ้ะ แม่มีอะไรจ๊ะ”

เสียงของแม่เรียกสติฉันกลับมา รีบเก็บอาการพิรุธแล้วก้าวยาวๆ กลับเข้ามาในบ้าน สงสัยว่าแม่คงมีอะไรจะใช้จึงร้องเรียกเสียงดังลั่นมาถึงหลังบ้าน

“มีอะไรจ๊ะแม่จ๋า”

ฉันยื่นใบหน้าเข้ามาในครัว

“เดี๋ยวเอ็งช่วยเอาปิ่นโตไปส่งให้ลุงฝรั่งข้างบ้านนะ”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ กาสะลอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ