Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
134.4K
ชม
39
บท

ความผิดพลาดในวัยรุ่น ส่งผลเป็นตัวตนในปัจจุบัน เขามาเรียกร้องสิทธิ์ที่ควรจะได้เธอเคยให้สิทธิ์นั้นไปแล้ว แต่เขานั่นแหละทำลายลงกับมือ ตอนนี้จะมาเรียกร้อง เธอไม่ยอมหรอก! +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ เพื่อนรวบรวมเหล้าราคาแพงที่เหลือเพื่อเอาไปดื่มต่อในร้านถัดไป กุมุทยังนั่งนิ่งบนเก้าอี้ กัณหาคุยเบาๆ กับปัทม์ “ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม” ปัทม์ยุติบทสนทนา เลี่ยงออกไป กัณหาหันมาทางเขา สายตาไม่ยินดียินร้าย “เรื่องก่อนปิดเทอม ตอนนั้น...” เขารู้สึกผิดมาตลอด ที่ขี้ขลาด ไม่กล้าเผชิญหน้ากับเธอ เป็นสิ่งค้างคาอยู่ในใจ “ไม่เป็นไร” รอยยิ้มทำให้กุมุทเจ็บแปลบ “เรื่องมันผ่านไปแล้ว ฉันไม่ถือหรอก” ทำไมล่ะ กุมุทถามในใจ เธอน่าจะร้องไห้ ต่อว่า ประจานถึงความแย่ของเขา ในสิ่งที่ทำ ถ้าเป็นเช่นนั้นคงดีกว่า รู้สึกผิดน้อยลง และไม่ทรมานเวลาเห็นเธอเช่นนี้ “แม่ฮะ” เสียงทุ้มๆ ดังแว่วพร้อมประตูห้องจัดเลี้ยงเปิดออก “ผมมารับฮะแม่” กัณหาหน้าซีดลงอย่างเห็นได้ชัด กุมุทหันไปตามเสียง ราวกับกำลังส่องกระจกเงาอยู่ คนตรงหน้านั้นมีใบหน้าพิมพ์เดียวกับเขาไม่ผิดเพี้ยน เพียงเด็กกว่า ส่วนสูงเตี้ยกว่าเล็กน้อย …ไม่สวมแว่น

บทที่ 1 1

อากาศคืนกลางเมษาร้อนอบอ้าว แต่ยังมีลมเย็นผ่านมาวูบบ้าง พอให้ใบบนต้นไม้ใหญ่ริมถนนไหว จุดหมายที่มุ่งไปพราวด้วยไฟประดับพริบพราว ไม่เว้นกระทั่งไม้พุ่มเล็กพุ่มน้อยบริเวณลานจอด

รถซีอาร์วีขาวเลี้ยวเข้ามาแล้วหยุดนิ่ง ชายหนุ่มสวมแว่นตาเดินไปทางร้านอาหาร ผ่านสะพานข้ามคลองเล็ก เชื่อมระหว่างลานจอดกับตัวร้าน

จันทร์เต็มดวงทอแสงนวล กระทบสายน้ำกระเพื่อมเป็นแสงระยิบยับ ใต้สะพาน มีเงาปลาว่ายอยู่ไหวๆ

บรรยากาศดี กุมุทนึกชมใครก็ตามซึ่งเลือกนัดพบกันที่นี่ บริกรยืนต้อนรับอยู่ปลายทางเดิน เมื่อบอกชื่องานเลี้ยง ก็ผายมือและนำไปสู่ห้องโถงในเรือนอีกหลัง แยกเป็นสัดส่วนจากแขกมาใช้บริการปรกติ

ประตูไม้สีขาวกรุกระจกขุ่นเลื่อนออก ไอเย็นฉ่ำเครื่องปรับอากาศลอยโลมไล้ผิวพอให้ชื่นใจ ภายในมีคนนั่งโต๊ะอยู่ประปราย บนเวทีมีจอโปรเจ็คเตอร์ใหญ่ ฉายสไลด์รูปภาพเก่าๆ

“เฮ้ย! ไง”

คนหนึ่งทักพลางเดินมาตบไหล่

“ล่ำซำขึ้นนะแก ได้ข่าวว่าเปิดบริษัทออกแบบเหรอ”

กุมุทยิ้มแทนคำตอบ จำได้คลับคล้ายคลับคลา หมอนี่เป็นคนที่อ้วนสุดในห้องสมัยเรียน ตอนนี้ผอมเพรียวและทำกิจการเกี่ยวกับฟิตเนส

“หัวหน้าห้องมาแล้วเหรอ”

เสียงใสๆ จากสาวชุดผ้าชีฟองลายดอกไม้ ใบหน้าแต่งแต้มอย่างดงาม

“ไม่เจอกันนานเลยนะ”

คำทักไม่ต่างจากนี้ดังไปทั่ว นี่คืองานเลี้ยงรุ่นของชั้นเรียนสมัยเรียนม.ปลาย ทุกคนในวัยสามสิบต้นๆ เป็นผู้ใหญ่ มีหน้าที่การงานหมดแล้ว แต่เวลาอยู่ด้วยกันยังคิดเรื่องความสุขในยามเยาว์ เรียกกันด้วยสรรพนามเก่าๆ

“ถามจริง กลับมาจากเมืองนอก ไม่มีแฟนแหม่มติดมาบ้างเหรอ”เพื่อนอีกหนึ่งสัพยอกตามระดับแอลกอฮอล์รินเข้าปาก ยามแยกไปคุยตามกลุ่มเดิมที่เคยสนิท

“หนุ่มโสดรุ่นเราเหลือไม่กี่คนเอง”

คนพูด กุมุทจำได้ว่าเป็นหนุ่มเนื้อหอมในห้อง รักอยู่กับดาวโรงเรียน แต่สุดท้ายเจ้าหล่อนไปแต่งงานกับคนอื่น ปล่อยให้คนเนื้อหอมเป็นโสดค้างอยู่เช่นนี้

“เวลาผ่านไปเร็วจังนะ เผลอแปรบเดียว พวกเรามาถึงครึ่งชีวิตแล้ว”

สาวอวบคุณแม่ลูกสองเปรยยิ้มๆ สายตาอ่อนโยนมองไปยังเด็กชายหญิงคู่หนึ่งวิ่งเล่นอยู่ในงาน ซึ่งคือลูกของเจ้าตัวเอง

“พูดอะไรอย่างกับคนแก่”

กุมุทเย้า คุณแม่ลูกสองสมัยเรียนเป็นทอมบอยมีเรื่องเตะต่อยกับผู้ชายเป็นประจำ แล้วตอนนี้มีลูกสอง สถานภาพแม่บ้านเต็มตัว

ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ตั้งแต่เอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ไปเรียนต่อต่างประเทศ ทำงานที่นั่นอีกหลายปี ก่อนกลับมาเมืองไทย

“อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทีแรกคิดว่าคนเก่งๆ อย่างนายจะเรียนหมอเสียอีก บ้านนายเป็นหมอทั้งบ้านนี่”

หนุ่มเนื้อหอมพึมพำ กุมุทเลือกอาชีพสถาปนิก ท่ามกลางครอบครัวไม่เห็นด้วย เรียนหนัก ห่างบ้าน แต่งานก็มีความสุขดี

“เจอนายก็ดีแล้ว มีเรื่องถาม ฉันจะต่อเติมบ้านใหม่ว่ะ ไปดูให้หน่อยสิ”

“ฉันเรียนแลนด์นะเว้ย ไปจ้างสถาปนิกเถอะ”

เขาหมายถึง Landscape Architect เรียกภาษาไทยว่าภูมิสถาปนิก

“ก็เพราะจ้างนี่แหละถึงงงอยู่นี่ไง แพงว่ะ ไม่รู้คิดค่าอะไรบ้าง”

“ข้อนั้นฉันไม่รู้นะ แต่ถ้าคิดตามเรทสมาคม งานบ้านที่พักอาศัยงบไม่ถึงสิบล้าน คิดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ ค่าแบบไม่ได้คิดจากพื้นที่อย่างเดียว ดูจากงบประมาณด้วย”

“ก็ยังแพงอยู่ดี รู้งี้เรียนสถาปัตย์ตามแกดีกว่า เรียนวิศวะมาคุมงาน นอกนั้นจะสร้างอะไรก็เสียตังค์เองหมด”

หนุ่มวิศวกรบ่นอุบ

“ไว้จะแนะนำคนรู้จักออกแบบบ้านราคาไม่แพงให้ ว่าแต่วันนี้มากันครบทุกคนนะ”

เขากวาดตาไปทั่วห้อง เจอแต่คนคลับคล้ายคลับคลาจะเป็นเพื่อนในความทรงจำ

“ฮือใช่ นายความจำดีสมเป็นหัวหน้าห้องนี่หว่า”

คำเรียกกุมุทติดปากของเพื่อนๆ สมัยเรียน ห้องเขาเป็นห้องเด็กเรียนเก่ง เป็นตัวของตัวเองสูงไม่ยอมลงให้กันง่ายๆ เพราะต่างคนต่างถือว่ามีดี

กุมุทซึ่งเรียนเก่งที่สุดจึงรับหน้าแทนอาจารย์ กำราบเพื่อนพวกนี้ประจำ ไม่ว่าเรื่องอะไร ใหญ่แค่ไหนเขาจัดการได้เสมอ ทักษะนี้ติดตัวจนมาจนถึงการเป็นเจ้าของบริษัทด้วย

“ก็เกือบหมด ขาดแต่เด็กที่ย้ายมาตอนกลางเทอม คนที่แม่เป็นเมียฝรั่ง” ใจกุมุทกระตุกทันที

“ที่เรียนได้เทอมเดียวก็ย้ายออกใช่ไหม ปากร้าย ตัวดำๆ”

แม่ลูกสองจำได้ดีถึงอริในตอนนั้น เพราะเป็นคู่กรณีฟาดฝีปากกันประจำ

“ฮื่อ”

หลายคนพยักหน้ายืนยัน

“แหม ถ้าไม่บอกก็ลืมไปแล้วนะเนี่ย”

เจ้าของฟิตเนสหัวเราะหึๆ ขณะกุมุทนิ่งเงียบ จำคนอยู่ในหัวข้อสนทนาได้ดี ...ไม่ลืม

พิธีกรบนเวทีเป็นหนุ่มช่างพูดประจำห้องแซวคนโน้นทีคนนี้ที แล้วเชิญคนอยากร้องเพลงขึ้นมาร้อง ท่ามกลางเสียงโห่ฮาของเพื่อนๆ

“ขอโทษที่มาช้า งานโรงพยาบาลเพิ่งเสร็จ”

ผู้มาใหม่คือ ปัทม์ รองหัวหน้าห้อง ตอนนี้มีอาชีพเป็นศัลยแพทย์

“เดี๋ยวมีอีกคนตามมาด้วย”

พูดไม่ทันขาดคำเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เธอแยกตัวไปคุยตามลำพัง สักพักกลับมาใหม่พร้อมใครบางคน

“จำได้ไหมเอ่ย เพื่อนเราที่ย้ายไปก่อนจบไง”

โลกหมุนช้าลงเหมือนหยุดนิ่ง เครื่องปรับอากาศปล่อยไอหนัก จนเขารู้สึกเลือดในตัวเย็นเฉียบ

สาวผิวแทน รวบผมเป็นเป็นหางม้าตกเคลียต้นคอ สวมเชิ้ตเข้ารูปพับแขนสามส่วนพื้นขาวลายปักดำ กางเกงสีเลือดหมู ...ก้าวเข้ามาในสายตา

“กัณหาไง จำนิลได้ไหม เราเจอกันที่มหาวิทยาลัย ตอนนี้เขาเป็นอาจารย์พิเศษ”

เธอยิ้มทักทุกคน จนเมื่อแลเห็นกุมุท กัณหานิ่วหน้าไปนิดก่อนยิ้มเก็บอาการดังเดิม สายตานิ่งสงบผิดจากเมื่อก่อน

“ไม่เจอกันนานเลยนะ”

เขาแทบไม่ได้ยินเสียงตัวเอง เพราะในอกใจเต้นรัวแรงดังกลบหมด

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เฌอเลียร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
พรางกุหลาบ

พรางกุหลาบ

โรแมนติก

5.0

ตั้งแต่ฉันได้กุหลาบสีม่วงมาอย่างบังเอิญ ฉันก็เริ่มฝันถึง อัศวินชุดดำ แม่มดในกระท่อม แมวดำ ความตายสีเพลิง ...และดวงตาสีฟ้าปริศนาที่ทำใจเต้นแรงคู่นั้น ++++++++++++++++++++++++ เราสบตากัน ดวงดาวสีฟ้าที่ฉันเคยใฝ่ฝัน ดวงดาวที่ฉันอยากเอื้อมให้ถึง "เจ้าเป็นเพื่อนที่ข้าไว้ใจที่สุด" เขาโกหกฉัน เหมือนที่ฉันก็โกหกเขา ตลอดมาฉันไม่เคยคิดว่าเขาเป็นเพียงเพื่อน ผู้คุมปลดโซ่ ทหารเข้ามาล้อมรอบตัวฉัน ผลักขึ้นสู่บันได ที่มีอีกคนยืนอยู่พร้อมขดเชือกหนา ร้อยรัดมัดร่างกายฉันไว้อย่างแน่นหนา ชายอ้วนเตี้ยพล่ามอะไรอีกแล้ว ฉันไม่ได้ยินเพราะเสียงร้องไห้ระงมของหลายคนบนเสาต้นข้าง ๆ บ้างก็ก่นด่า บ้างตะโกนบอกตนไม่ผิด ดวงดาวสีฟ้ายังส่องแสง ขณะในตาฉันกำลังเลือนรางด้วยน้ำสีแดง กลุ่มเส้นไหมสีทองซบลงที่ไหล่เขา ทันใดนั้นดวงดาวสีฟ้าก็กะพริบ หลุบมองเธอในชุดขาว "ประหารแม่มด" ท่านอาจารย์ที่รับเลี้ยงฉันเคยพูดไว้ หากแผลใดทำเราเจ็บมาก ถึงที่สุดแล้วมันจะชา กระทั่งไม่รู้สึกอะไรอีก "ไม่มีแผลใดที่ไม่มีวันหาย" ฉันยิ้ม นึกเยาะเย้ย อาจารย์โกหกเสียแล้ว ตอนนี้ฉันเจ็บมาก เจ็บปวดเหลือเกิน ทำไมยังไม่ชาอีกล่ะ +++++++++++++++++++++++++ ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์

สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ

สามีมาเฟียคนนี้เป็นของคุณนะ

โรแมนติก

5.0

ชารีญา เปรียบเสมือนเจ้าสาวที่กลัวฝน เธอหนีงานแต่งมาด้วยเหตุจำเป็นบางอย่าง ทว่าเมื่อหลบซ่อนอยู่ในโรงแรมเธอกลับได้มาพบกับเขา มาเฟียร้ายจอมไร้อารมณ์ เดเมียน จัสติน วินด์ทรอฟ ไม่มีอารมณ์ใครและปรารถนาต่อผู้หญิงคนไหนมาก่อน กระทั่งได้มาพบเธอ ผู้หญิงที่มีดวงตาที่เป็นประกายและช่วยปลุกไฟสวาทของเขาให้ตื่นขึ้นมา ค่ำคืนพลาดพลั้งของทั้งคู่ก่อเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เมื่อวันใหม่มาเยือน เธอคนนั้นก็หนีจากไป จนทำให้เขาต้องใช้ทุกวิธีเพื่อตามเธอกลับมา เขายอมกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ มากด้วยแผนการ ยินยอมเป็นมาเฟียที่ชั่วร้ายในสายตาของเธอคนนั้น เพียงเพื่อกักขังเธอไว้ให้อยู่เคียงข้างเขาตลอดไป สถานที่ที่เธอคนนั้นละอยู่ได้บนโลกใบนี้มีเพียงข้างกายเขาเท่านั้น!

ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

ภริยา(ไม่)รักของนายหัว

โรแมนติก

5.0

วัชรมัยเคยทิ้งไผท ทิ้งลูก แล้ววันนี้กลับมาร้องขอความเป็นแม่อีกครั้ง ไผทจะไม่มีวันให้อภัย! ++++++++++++++++++++++++++ “ฉันไม่รังเกียจหรอกนะ ถ้าเธอจะเคยนอนกับผู้ชายคนอื่น แต่ต้องไม่ใช่ตอนอยู่กับฉัน” ขายาว ๆ ย่างสุขุมเข้ามา หญิงสาวทำตัวลีบเล็ก กระทั่งหลังติดแนบหัวเตียง “ฉันไม่ใช้ผู้หญิงร่วมกับใคร!” “พี่ป้อ...” เอ่ยยังไม่ทันจบ ริมฝีปากซีดก็ถูกประกบด้วยอวัยวะชนิดเดี๋ยวกัน “อื้อ...” ไร้ซึ่งความอ่อนหวาน มีแต่การบังคับดุดัน ไผทดูดดึงริมฝีปากบางจนฮ้อเลือด “เห็นเธอป่วย ว่าจะใจดีให้พักเสียหน่อย แต่ตอนนี้ฉันเปลี่ยนใจแล้ว ถอดเสื้อผ้าออก ฉันจะเช็คของ!” เมื่อจุมพิตอย่างไม่เต็มใจจบลง เสียงทุ้มต่ำดังแหวกเสียงหรีดเรไรข้างนอก ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศหนาวเหน็บชวนขนลุก ไผทแสยะยิ้มร้ายกาจให้คนบนเตียง “ทำสิ ไม่งั้นก็ไสหัวไปออกจากบ้านฉัน ออกไปจากชีวิตลูก” วัชรมัยกลืนทุกความรู้สึกกลับไปในอก มือสั่นถอดเสื้อผ้าออก “จะได้อยู่กับลูก...จะได้อยู่กับปราบ” เสียงในสมองดังก้องสะกดจิตตนเอง เพื่อได้อยู่กับลูก ต่อให้ต้องลงนรกขุมไหนเธอก็จะทน! +++++++++++++++++++++++++++++

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก

โรแมนติก

5.0

อย่าเข้ามาค่ะ! ความรัก ++++++++++++++++++ เมื่อคนอกหักมาวันไนต์แสตนด์กัน จากที่คิดว่าแค่วันไนต์ กลายเป็นมีภาคสอง หัวใจที่บอบซ้ำสองดวง จะเปลี่ยนไปอย่าไร ในเมื่อต่างฝ่ายต่างเข็ดกับความรัก ++++++++++++++++++++ "ลูกพี่ลูกน้องของคุณทำว่าที่สาวเจ้าของคุณท้องอย่างนั้นหรือคะ" สีหน้าของฤดีรัตน์ตกใจมาก ๆ เจ็บหัวใจแทนเขาเลย "ครับผม แต่ยังดีที่ยังไม่ได้ร่อนการ์ดเชิญ มันโคตรรู้สึกแย่เลยนะ สามเดือนมาแล้วนะ ทุกอย่างก็ยังไม่ดีขึ้นเลย รู้สึกเจ็บอยู่ข้างในเนี่ย" "ฉันเข้าใจคุณเลยค่ะ เพราะของฉันมากกว่าสามเดือน" "แล้วผมจะเป็นอย่างคุณไหม" "ไม่มั้งคะ เพราะคุณดูมีสติมากกว่าฉันเสียอีกค่ะ แค่หาคนใหม่" ชนิษฐากรอกหูเธอทุกวันเรื่องนี้ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็ทำไม่ได้ แต่เอาคำปรึกษาของเพื่อนมาบอกเขา "หาคนใหม่ยังไง" คิ้วเรียวเลิกขึ้น "หนามยอกให้เอาหนามบ่งยังไงล่ะคะ" ฤดีรัตน์ทำเป็นยกมือป้องปากกระซิบ "ไม่เข้าใจครับ" "คุณก็แค่หาผู้หญิงคนใหม่ ไม่จำเป็นต้องคบก็ได้ค่ะ แค่มาคั่นกลางให้เรารู้สึกดีขึ้น" เธอยักไหล่ แสร้งทำเป็นช่ำชองเรื่องการหาคนใหม่มาดามใจ "แล้วทำไมคุณไม่ทำ" "ก็ฉันยังไม่ได้เจอคนที่ชอบนี่คะ อย่างน้อยก็ต้องชอบก่อน" "ถ้างั้นทฤษฎีนี้ก็ไม่ได้ผลนะ ที่จริงไม่ต้องชอบกันก็ได้มั้ง แค่รู้สึกไม่รังเกียจก็พอ" เขายกเบียร์ขึ้นจิบ ฉุนนิด ๆ ที่ต้องมาฟังทฤษฎีเพ้อเจ้อ "คุณรังเกียจฉันไหม" ฤดีรัตน์หรี่ตาปรือ "ถ้ารังเกียจผมจะให้คุณนั่งโต๊ะเดียวกันเหรอ" "ถ้าอย่างนั้นคืนนี้" หมอคชาจ้องหน้าเธอ "คืนนี้นอนกับฉันได้ไหมคะ วันไนท์สแตนด์ ไม่ผูกมัด ไม่ผูกพัน" +++++++++++++++++++++ มีตัวละครต่อเนื่องจากเรื่อง รักอย่า...หย่ารัก นะคะ อ่านแยกกันได้ค่ะ ไม่งง ขอให้อ่านสนุก เฌอเลียร์

รักหย่า...อย่ารัก

รักหย่า...อย่ารัก

โรแมนติก

5.0

ชนิษฐารักคณิศร แต่เขารักอีกคน อ้อมกอดเขามีให้เธอ แต่ในใจเขาคิดถึงใคร ทำดีสักเท่าไร สุดท้ายคณิสรมองชนิษฐาเป็นเพียงเครื่องมือผลิตลูก การแต่งงานอันหลอกลวงต้องจบลง ถึงเวลาแล้ว ที่เธอจะหย่า! +++++++++++++++++++++++++++++ ชนิษฐาช็อกกับภาพตรงหน้า "ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นได้คนผลิตลูก แม่วัวยังไงล่ะคะดิน แต่สำหรับหวาย หวายคือนางในดวงใจของดิน อ้า อะ อะ อะ..." คงจะเป็นสามีของชนิษฐาด้วยที่เด้งเอวตอบกลับการกระทำของสุธาวี เคล้ง... ข้าวของในมือของชนิษฐาร่วงหล่น คณิศรยกหัวขึ้นมาด้วยความตกใจ สายตาของเขาสบต้องสายตากับชนิษฐา ที่ในเวลานี้น้ำตาที่ไหลลงมากลบม่านตา ยืนปากคอสั่น สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของชนิษฐาในตอนนี้ คือหนีไปให้ไกลแสนไกล เธอวิ่งออกจากตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ตรงไปที่รถของเธอ แล้วขับออกไป คณิศรผลักตัวของสุธาวี "ออกไป พอได้แล้วหวาย หยุดเถอะ คุณกำลังทำให้ชีวิตผมพัง" "หวายทำพังเหรอคะ พังเหรอคะ ดิน... เราสองคนกำลังมีความสุขด้วยกันต่างหาก ดินยอมรับความจริงเถอะค่ะว่าคุณน่ะขาดหวายไม่ได้" ++++++++++++++++++++++++++++++ ติ๊ง... ติ๊ง... มีข้อความเข้า และทุกวันนี้จะเป็นข้อความจากสินเป็นส่วนใหญ่ คณิศรหยิบมือถือขึ้นมา เมื่อเปิดเข้าไปดู รูปที่บาดตาบาดใจ บาดหัวใจ ผู้ชายคนนั้นเปิดประตูให้กับชนิษฐา เธอหันมายิ้มให้เขา และขึ้นไปนั่ง คณิศรถึงกับทิ้งมือถือ และหลับตาลงทันที เขาเศร้าหม่นในหัวใจมาก ทำไมเป็นแบบนี้ มันจะลงเอยแบบนี้ไม่ได้ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ได้ยินเสียงฉันไหม

ได้ยินเสียงฉันไหม

โรแมนติก

4.4

เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น “กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?” เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

โรแมนติก

5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

เมืองแฟนตาซี

5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

ข้าไม่ใช่คนดีท่านอย่าได้หวัง

โรแมนติก

5.0

จางลี่สตรีเกิดมาพร้อมกับความเกลียดชัง บิดามารดาไม่รัก พี่สาวรังเกียจ รอบด้านทำร้ายร่างกาย ชาติภพนี้นางถูกคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีทำร้ายจนตาย เมื่อเกิดพบชาติใหม่อีกครั้ง นางก็ขอตอบแทบพวกเขาอย่างสาสม อย่าคิดว่าชาติภพนี้พวกเขาจะได้อยู่สุขสบาย นางในชาตินี้จะถนอมพวกเขาเป็นอย่างดี “ข้าไม่ใช่คนดี ท่านอย่าได้หวังว่าข้าจะดีเหมือนคนอื่น หากท่านปรารถนา พบสตรีที่ดีก็เชิญไปหาที่อื่น” บุรุษปริศนาที่ติดตามนางจะเลือกเส้นทางไหน แล้วนางจะตอบแทนพวกเขาเหล่านั้นเช่นไร รอพวกเขาหาคำตอบ แต่บอกได้เลยว่านางหาได้ใจดีเหมือนชาติที่แล้วไม่ “ข้าเตือนท่านแล้ว ว่าอย่าได้หวังว่าข้าจะเป็นคนดี”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ