Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เสียงเพรียกของสองหัวใจ

เสียงเพรียกของสองหัวใจ

ขวัญปัฐน์-ป.ศิลา

5.0
ความคิดเห็น
116
ชม
18
บท

สัมผัสบนหัวไหล่จากมือใหญ่ทั้งสองข้าง และการขยับเข้ามายืนซ้อนแผ่นหลังของร่างสูงใหญ่ ธวัลยาแทบจะไม่ได้สนใจเลย เพราะมัวแต่ตื่นตะลึงกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า รูปเหมือนตัวเธอราวกับส่องกระจก ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ข้างกันคือหนุ่มหล่อในชุดสูททักสิโด้โก้หรูยืนเคียงคู่งามสง่า ทั้งสองถูกคั่นกลางด้วยกรอบข้อความรูปหัวใจข้างในเขียนว่า 'Navinda Adirut..Love Never Dies' "ได้โปรดเถอะคนดี...ช่วยเชื่อผม และไว้ใจผมเหมือนเดิมได้ไหม...ไม่ต้องจำผม หรือจำเรื่องราวในอดีตของเราได้ก็ได้ แต่ช่วยเชื่อว่าเราเป็นของกันและกัน และให้โอกาสผมได้ดูแลคุณเหมือนที่ผ่านมา ผมสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด...ผมขอแค่นี้เท่านั้น" เขาขอแค่นี้... ทุกภพทุกชาติ

บทที่ 1 ในฝัน

"ยาหยี..ยาหยี ตื่นได้แล้วคนดี เดี๋ยวไม่ทันเครื่องครับ"

เสียงนุ่มทุ้มฟังแผ่วหวิวราวกับลอยละล่องมาจากที่ไกลแสนไกล ไม่ได้มีผลใดๆ กับร่างแบบบางบนเตียงใหญ่ที่กำลังนอนหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอเลยแม้แต่น้อย ยันผลให้ผู้เฝ้ามองส่ายหน้าไปมาช้าๆ หากรอยยิ้มละมุนยังติดตรึงอยู่บนเรียวปากหยักสวยไม่จางหาย...

สายตาคมกริบที่กำลังทอดมองคนนอนหลับหรือก็อ่อนโยนระคนเอ็นดูไม่เปลี่ยนแปลง

"เด็กขี้เซา"

"อืม"

เสียงอืออาผ่านริมฝีปากสีชมพูอ่อนจางออกมาให้รอยยิ้มบนริมฝีปากหยักลึกได้รูปแยกแย้มมากขึ้นอีกเล็กน้อย...

ใบหน้าคมสันก้มต่ำ จงใจเป่าลมอุ่นๆ จากปากรินรดใบหน้ากระจ่างใส หวังปฏิกิริยาตอบสนองจากคนนอนหลับตาพริ้ม

"เบบี๋ สายแล้วครับ ไม่มีเวลาแล้ว"

"อือ...อีกนิดแด๊ด"

เจ้าของเสียงเรียกได้ส่ายหน้าทั้งยิ้มอีกครั้ง มองจ้องร่างระหงที่ขยับพลิกตัวหนีการรบกวนด้วยแววตาอ่อนโยนยิ่งยวดไม่ต่างจากเดิม เหมือนเมื่อครั้งที่เคยได้เฝ้ามองมาหลายปีดีดัก

"ผมอดิรุต ไม่ใช่แด๊ด...ผมมาหาแทบจะทุกวัน เมื่อไหร่จะจำผมได้เสียที"

"อดิรุต?"

เสียงงึมงึมผ่านริมฝีปากสีหวานออกมา แม้จะฟังเลื่อนลอยเพราะยังตกอยู่ในนิทรารมย์ แต่ก็ทำให้เจ้าของชื่อพอใจไม่น้อย

"ใช่ อดิรุต"

"อ๋อ..คุณจอมป่วนนั่นเอง"

คำตอบที่ได้รับ ไม่ได้ทำให้รอยยิ้มจางหายไปเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าใบหน้าคมสันจะส่ายไปมาก็ตาม

"ผมรอคุณอยู่นะ"

"รอ?"

"ใช่..รอ นานเหลือเกิน...แต่ในที่สุด มันก็สิ้นสุดลงแล้ว...อีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น"

"หมายความว่ายังไง"

"ถ้าอยากรู้ก็รีบตื่นขึ้นมา"

"ตื่นเหรอ"

ตอนนี้เธอก็ตื่นอยู่ไม่ใช่เหรอ ไม่อย่างนั้นเธอจะคุยกับเขาได้ยังไง

พึลึกคน

"ไม่ต้องมาว่าผมเลย"

พอประโยคดังกล่าวลอยล่องเข้ามากระทบโสตประสาทหู อาการค้อนขวับทั้งปากอ้าตาโตก็เหมือนจะออกมาโดยอัตโนมัติ และมันก็ถูกส่งไปให้เจ้าของรอยยิ้มสว่างไสว ที่กำลังทำหน้าเป็นให้เห็นแบบปัจจุบันทันด่วน ก่อนเจ้าตัวจะฉุกใจนึกขึ้นได้

"ทำไมคุณรู้ล่ะ"

เธอแค่นึกอยู่ในใจนะ

"ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคุณนั่นแหละ...รู้มากกว่าที่คุณคิดซะอีก"

"รู้ทุกอย่างเหรอ"

"รู้ใจด้วย"

เป็นอีกครั้งที่คำพูดดังกล่าวทำให้คู่สนทนาของชายหนุ่มตาโต และท่าทางนั้นก็นำความเอ็นดูมาสู่หัวใจของอดิรุตสุดกำลัง

"แต่ตอนนี้ต้องรีบลุกขึ้นมาอาบน้ำก่อน"

ชายหนุ่มบอกราวกับรู้ว่าหญิงสาวจะถามอะไร ซึ่งก็เล่นเอาคนเตรียมตั้งท่าอ้าปากจะถาม ปากอ้าค้างอยู่ในท่านั้น

"อยากรู้อะไรเดี๋ยวค่อยถามตอนถึงบ้านแล้ว"

"ถึงบ้าน?"

"บ้านของเรา...ผมจะรอคุณอยู่ที่นั่น...ที่บ้านของเรา"

ผมจะรอคุณอยู่ที่นั่น

เสียงสะท้อนก้องอยู่ในหัวนั้นราวดั่งคลื่นพลังมหาศาลฉุดหญิงสาวลุกขึ้นมาจากที่นอน ให้ลืมตาตื่นขึ้นมาเพื่อพบกับ 'ความว่างเปล่า' รอบตัว

"ฝันอีกแล้วเหรอเนี่ย"

"เบบี๋"

เสียงเรียกลอดผ่านบานประตูเข้ามาให้ได้ยิน แม้จะคุ้นเคยและคุ้นชินเป็นอย่างดี แต่ก็ทำให้คนถูกเรียกสะดุ้งโดยไม่รู้ตัว เนื่องเพราะความฝันที่เพิ่งประสบพบพานมาหมาดๆ และมันก็ทำให้อดเหลียวมองไปรอบๆ ห้องไม่ได้จนแล้วจนรอด

"คุณเป็นใครกันแน่ คุณอดิรุต"

คำถามเดิมๆ หลังออกมาจากห้วงความฝัน ธวัลยาเฝ้าถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งที่ไม่เคยได้คำตอบให้กับตัวเอง

"เบบี๋...แด๊ดเข้าไปนะ"

เสียงของบิดาดึงธวัลยาออกมาจากภวังค์ความคิด และกลับมาอยู่กับความจริงตรงหน้าอีกครั้ง

"แด๊ด"

"เพิ่งตื่นเหรอ"

คนเป็นพ่อเอ่ยถาม จมูกโด่งตามสัญชาติจรดแนบหน้าผากนูนเนียน

"มอร์นิ่งคนสวย"

"มอร์นิ่งค่ะ...กี่โมงแล้วคะ"

"จะเจ็ดโมงแล้ว...แม่รอทานข่าวอยู่ เดี๋ยวจะได้เดินทางกัน"

"อิจฉาน่ะ"

แผนการเดินทางไปเปิดโรงแรมแห่งใหม่ในบาหลีที่เพิ่งสร้างเสร็จ และถือโอกาสฮันนีมูนไปในตัว ทำให้มีคำพูดสัพยอกจากลูกสาวคนสวยออกมา

"ไม่ต้องมาพูดเลย ถ้าอิจฉาจริงก็คงไม่เลือกเดินทางไปเมืองไทย แทนที่จะไปกับแด๊ดกับแม่หรอก"

คนเป็นพ่อสัพยอกลูกสาวกลับ และด้วยความที่เป็นบุตรสาวคนเดียว และเคยตามใจกันมาตั้งแต่เด็ก พอลูกสาวแจ้งความประสงค์ ขออาสาไปจัดการธุระแทนมารดา หลังมีหนังสือแจ้งเรื่องทรัพย์มรดกที่ญาติยกให้กับมารดามาจากเมืองไทย คนเป็นพ่อแม่ก็เลยตามใจอีกตามเคย

"เดี๋ยวญ่าตามไปไงคะ แด๊ดอย่าเพิ่งพาแม่กลับก่อนก็แล้วกัน"

เพราะโรงแรมในเครือที่บิดาบริหารงานอยู่ กระจายอยู่ในหลายเมืองทั่วโลก จึงทำให้มีการเดินทางอยู่ตลอดเวลา แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่เคยรู้สึกว่าขาดความรักความอบอุ่นแต่อย่างใด เพราะไม่ว่าบิดามารดาจะอยู่ส่วนไหนของโลก การติดต่อสื่อสารหากันยังคงมีสม่ำเสมอ

และอีกคนที่อยู่ในความฝันมานานปี

'ผมจะรอคุณอยู่ที่นั่น...ที่บ้านของเรา'

พอคิดถึง เสียงก้องสะท้อนในความฝันก็กลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง และอาการส่ายหัวก็ออกมาโดยไม่รู้ตัว พอกันกับคิ้วเรียวสวยที่ขมวดมุ่นให้บิดาเกิดความสงสัย

"เป็นอะไรหรือเปล่าเบบี๋"

"เป็นอะไร...อ๋อ เปล่าค่ะ พอดีคิดอะไรนิดหน่อย"

ลูกสาวกลบเกลื่อนด้วยการเข้าโอบกอดบิดาเอาไว้หลวมๆ เพราะเรื่องของความฝันและคนในฝัน ยังคงเป็นความลับกับผู้ให้กำเนิดทั้งสอง

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ขวัญปัฐน์-ป.ศิลา

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ