Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
รสสวาท กลิ่นปรารถนา (The Smell of Passion)

รสสวาท กลิ่นปรารถนา (The Smell of Passion)

กวีมนตรา_อัณณ์

4.4
ความคิดเห็น
117.1K
ชม
76
บท

“สิ่งที่ฉันอยากได้...” เฟลิกซ์ลากเสียงบอกอย่างช้าๆ วางมือข้างหนึ่งค้ำยันที่ผนังข้างๆ ศีรษะของเธอ มืออีกข้างยื่นออกไปใช้ปลายนิ้วแตะเข้าที่ข้างลำคอเล็กๆ เนียนละเอียดของเธอ “อุ๊ย!” หญิงสาวสะดุ้งอีกครั้ง ความร้อนจากปลายนิ้วที่สัมผัสเข้าที่ลำคอและกำลังลากช้าๆ ไปตามแนวลำคอระหงบาดเข้าไปในผิวเนื้อของเธอจนรู้สึกแสบร้อนไปหมด “ก็... เธอไงล่ะ” ทันทีที่ได้สานสบกับดวงตาแสนหวานของเธอ ‘เฟลิกซ์ เวอซินี’ ก็รู้ว่าภายใต้คราบสุขุมเย็นชาของเธอ ซุกซ่อนผู้หญิงที่ร้อนแรงราวกับไฟเอาไว้ และเพื่อพิสูจน์ว่าเขาคิดถูก ชายหนุ่มจึงพยายามทำทุกทางเพื่อที่จะได้ลิ้มรสสวาทจากหญิงสาวผู้แสนงดงามและน่าค้นหาผู้นี้ให้ได้ แม้กระทั่งใช้ตำแหน่งอำนาจที่มีมากว่า ดึงรั้งเธอให้มาพัวพันด้วยคำว่า ‘หน้าที่การงาน’ ซึ่งเธอไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะเขาคือ ‘เจ้านาย’ ส่วนเธอเป็นเพียง ‘พนักงานระดับล่าง’ ‘ลินิน พรหมพิริยะ’ หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามราวกับนางอัปสร เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มหลายคน แต่เธอกลับใช้ความเย็นชามาสร้างกำแพงป้องกันไม่ให้ใครหน้าไหนได้เข้าใกล้ เพื่อปกป้องตัวเองจากความสัมพันธ์เร่าร้อนแสนฉาบฉวยของชายหญิง ตามคำสั่งสอนของผู้เป็นยาย เธอใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับกฎเกณฑ์เหล่านั้น และเธอทำมันได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด... แม้จะรู้ตัวดีเสมอว่าเธอเองก็อยากลิ้มลองรสชาติแสนหอมหวานและเร่าร้อนของรสสวาทดูสักครั้ง จนกระทั่งมาพบกับผู้ชายที่หล่อเหลาอย่างร้ายกาจ แถมเจ้าเล่ห์จนเธอตามเกมเขาไม่ทัน ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นทรงเสน่ห์ล้ำลึกจนเธอหลงใหล แม้พยายามจะห้ามใจ แต่ก็ถูกเขารั้งเอาไว้ด้วย ‘บ่วงปรารถนา’ จนได้ แต่ความสัมพันธ์ครั้งนี้จะยืดยาวได้อย่างไร ในเมื่อเขามองเธอเป็นเหมือน ‘กระต่ายป่า’ ที่หายากและนายพรานอย่างเขาก็สนุกกับการล่า ส่วนเธอเองกลับหลงรักผู้ชายร้อนแรงเจ้าของฉายา ‘คาสโนวาแห่งปารีส’ เข้าเต็มหัวใจ รสสวาทที่เขาทิ้งไว้ กลายเป็นบ่วงปรารถนาจองจำหัวใจของเธอให้หยุดอยู่ที่เขาแต่เพียงคนเดียว แล้วเขาล่ะ... พร้อมที่จะหยุดอยู่ที่เธอหรือเปล่า? “พะ...พอก่อนค่ะ ไม่เล่นแล้วนะคะ ฉันมีเวลาไม่มาก ต้องรีบลงไปทำงานต่อ” “ก็เพราะมีเวลาไง ถึงต้องรีบทำ” คำพูดมีนัยยะของเขาเล่นเอาคนฟังหน้าแดงเถือกไปจนถึงคอ “มะ...ไม่เอานะคะ” เธอร้องห้ามด้วยน้ำเสียงไม่มั่นคงนัก พยายามหยุดมือใหญ่ที่สอดมาตามรอยแยกกระโปรงยูนิฟอร์มของเธอที่ผ่าสูงขึ้นมาเหนือเข่าด้านหนึ่ง “รีบพูดธุระของคุณมาเถอะค่ะ” “ก็นี่แหละธุระของฉัน ฉันต้องการเธอจนแทบคลั่งอยู่แล้ว ไม่รู้สึกบ้างเหรอ?”

บทที่ 1 Chapter 1

“อ๊า!!! อย่างนั้นแหละชัย เร่งอีกนิดสิ” เสียงครวญครางอย่างกระสันซ่านของหญิงสามสิบปลายๆ เจ้าของใบหน้าสวยคมคายดังก้องเสียดแทรกความเงียบสนิทของยามดึกสงัด

หนึ่งสาวสะพรั่งรูปร่างอวบอัดวัยสามสิบต้นๆ นอนระทดระทวยอยู่บนโซฟาใหญ่ที่ห้องนั่งเล่นของบ้านปูนสไตล์โมเดิร์นขนาดเหมาะสมกับครอบครัวที่มีสมาชิกอยู่ด้วยกันห้าชีวิต และสมฐานะผู้มีธุรกิจห้างหุ้นส่วนจำกัดขายอุปกรณ์ก่อสร้าง กับอีกหนึ่งหนุ่มรูปร่างกำยำผิวค่อนข้างคล้ำเข้มด้วยทำงานกลางแจ้งมาทั้งชีวิต กำลังเริงรักกันอย่างถึงพริกถึงขิง เสียงครวญครางที่แม้จะพยายามสะกดกลั้นให้เงียบเชียบเพียงใด ก็ยังเล็ดลอดดังมาจนปลุกให้เด็กหญิงวัยแปดขวบตื่นจากนิทราในเวลาดึกสงัด

เด็กหญิงที่มีใบหน้าสวยคมคายตั้งแต่ยังไม่แตกเนื้อสาวเดินตามทางเดินของชั้นสองของตัวบ้านที่มีเพียงแสงไฟสลัวสาดส่องพอให้มองเห็นทางมาตามเสียงครางกระเส่ากับเสียงลมหายใจกระชั้นชิด กระทั่งมาหยุดอยู่ที่เชิงบันไดที่ทอดตัวลงไปสู่ชั้นล่าง อันสามารถมองเห็นสมรภูมิพิศวาสได้อย่างชัดเจน ในมือข้างหนึ่งของแม่หนูถือตุ๊กตากระต่ายที่พึ่งได้เป็นของขวัญวันเกิดจากคุณยายเจ้าระเบียบ เด็กหญิงหย่อนกายนั่งลงที่บันไดขั้นสูงสุด มืออีกข้างเกาะลูกกรงตรงราวบันไดเอาไว้ ขณะที่จับจ้องมองภาพความหฤหรรษ์ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจนัก

“โอ้... ชัย!! แรงอีกนิดสิ พี่จะไม่ไหวแล้ว” นั่นเสียงแม่ของเธอเอง เด็กหญิงจำได้ เพียงแต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยอาการสั่นเครือราวกับทรมานอย่างหนัก และผู้ชายคนนั้น... แม่หนูน้อยจำได้ว่าเป็นหนึ่งในพนักงานที่ทำงานในร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างที่พ่อของเธอเป็นเจ้าของ

ทั้งสองคนกำลังทำอะไรกันนะ? เด็กหญิงตั้งคำถามในใจ ทำไมแม่ของเธอถึงได้ดูทรมานอย่างนั้น ทำไมผู้ชายที่เธอเรียกติดปากว่า ‘น้าชัย’ ถึงได้เคลื่อนไหวด้วยท่วงท่าเช่นนั้นเหนือเรือนร่างเปลือยเปล่าของผู้เป็นแม่ของเธอเอง? เด็กหญิงเกิดอาการใคร่รู้ ทว่าก็ไม่อาจหาคำตอบได้ ด้วยไม่เคยเห็นกิจกรรมดังกล่าวมาก่อนในชีวิต

“ใช่! ใช่! อย่างนั้นแหละ ดีมาก” เสียงของสาววัยสามสิบกลางๆ เอ่ยชื่นชมในการเคลื่อนไหวและบทรักแสนเร่าร้อนของหนุ่มรุ่นน้อง เธอไม่ได้ลิ้มลองบทสวาทที่เหมือนไฟแผดเผาอย่างนี้มานานแล้ว เพราะระยะหลังๆ มานี่ดูเหมือนสามีของเธอจะค่อนข้างห่างเหิน เรียกได้ว่าร่วมรักกันอาทิตย์ละไม่เกินสองครั้งด้วยซ้ำ คงไม่แปลกที่เธอจะหาเศษหาเลยกับผู้ชายหนุ่มแน่นที่พร้อมจะตอบสนองอารมณ์ใคร่ของตัวเอง หญิงสาวคิดเช่นนั้น

“อา... พี่วรรณแน่นจริงๆ เลยนะครับ” เสียงของชายหนุ่มวัยกลัดมันแตกปร่าด้วยความปรารถนาที่แสนเร่าร้อน ทว่าคนที่แอบมองเหตุการณ์อยู่ไม่อาจเข้าใจได้ ได้แต่ยืนมองภาพการเคลื่อนไหวที่แสนร้องแรงนั้นด้วยความสนเท่ห์

“พี่ไม่ไหวแล้วชัย! ไม่ไหวแล้ว! อ๊า!!” เสียงหญิงสาวรูปร่างอวบอัดร้องบอก ก่อนที่เธอกรีดร้องเป็นทางยาวพร้อมกับร่างกายที่เกร็งสะท้าน สองขาสองแขนโอบรัดโอบรัดรอบร่างกำยำที่ชื้นเหงื่อของคนเหนือร่างแน่น

“อา... ผมก็ไม่ไหวแล้วครับพี่วรรณ อึก!” ไม่ทันได้สิ้นเสียงกรีดร้องเป็นทางยาวอย่างสุขสม ร่างหนั่นแน่นของชายผู้เร่าร้อนก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะหยุดนิ่งเพื่อปลดปล่อยความปรารถนาทุกหยาดหยดเข้าไปในปราการพลาสติกที่สวมใส่เพื่อป้องกันทั้งตัวเองและอีกฝ่าย เพราะไม่อยากให้มีผลอันไม่พึงประสงค์ตามมาจากการเป็นชู้รักของกันและกัน

สองหนุ่มสาวกอดกันกลม ขณะที่ทิ้งจังหวะให้ตัวเองได้ซึมซับกับความกระสันซ่านที่พานพบ กระทั่งเมื่อลมหายใจเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ ร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มผู้มีรสรักแสนร้อนแรงจะผละออกห่างจากร่างอวบอัดขาวนวลของสาวรุ่นพี่ แล้ว จัดการรูดเครื่องป้องกันแล้วโยนทิ้งออกไปไกลอย่างไม่ใส่ใจว่ามันจะไปตกลงที่ใด

“ผมรักพี่วรรณจังเลย” ชายหนุ่มรำพันขณะที่สวมกางเกงของตัวเอง ที่จริงต้องบอกว่าเขาหลงรักบทรักแสนเร่าร้อนของสาวรุ่นพี่เสียมากกว่า

“พี่ก็รักเธอจ้ะชัย อืม...” สาวสวยที่มีฐานะเป็นนายหญิงของอีกฝ่ายตอบกลับ ขณะที่ใช้ปลายมือเชยคางเหลี่ยมของอีกฝ่ายกลับมาแล้วมอบจุมพิตแสนเร่าร้อนให้

เด็กหญิงเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำบอกรักของคนทั้งคู่ แม้เธอจะเด็กเกินกว่าจะรู้ว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ระหว่างแม่กับผู้ชายอีกคนที่เธอคุ้นหน้าเป็นอย่างดีนั้นมันคืออะไร แต่สำหรับเด็กวัยแปดขวบอย่างเธอก็พอจะรู้ว่าแล้วคำว่า ‘รัก’ น่ะมันคืออะไร และมีความหมายแค่ไหน

“แม่กับน้าชัยทำอะไรกันเหรอคะ?” เด็กหญิงเอ่ยขึ้นหลังจากที่ยืนดูเหตุการณ์เร่าร้อนของทั้งสองมานาน

“ว้าย! ตายแล้ว! ยัยนิน!” คนเป็นแม่ร้องเสียงหลง เพราะไม่คิดว่าลูกสาวจะตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วมาพบกับเรื่องที่เธอเฝ้าปกปิดเอาไว้มาร่วมปี ก่อนที่จะรีบคว้าเสื้อคลุมผ้าไหมที่สวมติดกายลงมาจากห้องนอนและถอดมันกองเอาไว้ข้างๆ โซฟาตัวนั้นขึ้นมาสวมอย่างรวดเร็ว

ร่างสะโอดสะองเดินลิ่วตรงมาหาลูกสาวที่เดินมาถึงครึ่งทางของบันไดที่ทอดตัวสู่ชั้นบนของบ้าน มือคว้าต้นแขนเล็กๆ บีบไว้อย่างโมโห

“แกลงมาทำอะไร!? ดึกป่านนี้แล้วทำไมยังไม่นอน!?” คนเป็นแม่แผดเสียงถามอย่างไม่พอใจ ที่จริงต้องบอกว่าเธอตกใจมากกว่าที่ลูกสาวตื่นมาเห็นเหตุการณ์คบชู้ของตนเข้า

“นะ...หนูหิวน้ำ” เด็กหญิงวัยแปดขวบน้ำตาคลอ เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และเธอทำอะไรผิดนักหนา แต่ที่รู้คือเธอไม่อยากให้แม่โกรธเธอ และเธอไม่อยากถูกทำโทษด้วยการตีเจ็บๆ อย่างที่แม่ทำเวลาที่เธอทำอะไรให้ไม่พอใจอย่างเดิมอีก แต่ก็ยังอุตส่าห์ถามด้วยความใสซื่อ “มะ...เมื่อกี้แม่กับน้าชัยทำอะไรเหรอคะ?”

“ไม่ใช่เรื่องของเด็ก! กลับขึ้นไปนอนได้แล้ว หรืออยากโดนตี!?” คราวนี้เด็กหญิงน้ำตาปริ่มขอบตา ก่อนยอมหมุนตัวเดินกลับไปยังห้องนอนของตนตามเดิม คนเป็นแม่เดินกลับไปทิ้งตัวนั่งข้างๆ ชู้รักซึ่งสวมกางเกงเรียบร้อยแล้ว แต่เปลือยท่อนบนให้ล่อตาล่อใจสาวไฟแรงสูงเล่น

“เอาไงดีล่ะพี่วรรณ? หนูนินเห็นอย่างนั้นแล้วแกจะเอาไปบอกคุณสิทธิ์ไหมพี่?” ชายชู้ถามอย่างเป็นกังวล ถึงแม้เขาจะหลงบทสวาทของสาวรุ่นพี่มากแค่ไหน แต่มันก็ไม่ได้มากพอที่เขาจะเอาชีวิตมาเสี่ยงโดนฆ่าเพราะเป็นชู้กับเมียชาวบ้าน หรือโดนไล่ออกจากงานหรอกนะ

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เรื่องนั้นพี่จะจัดการเอง ยัยนินน่ะไม่กล้าขัดคำสั่งพี่หรอก” วรรณภาบอก เธอมั่นใจอย่างนั้น ลินินเรียกได้ว่าเป็นเด็กค่อนข้างหัวอ่อน นั่นเพราะถูกคนเป็นยายเสี้ยมสอนมาตั้งแต่เด็กเรื่องการเชื่อฟังผู้หลักผู้ใหญ่ และเด็กหญิงก็ปฏิบัติตัวอยู่ในโอวาทของคนเป็นแม่เสมอมา อีกอย่าง... เธอค่อนข้างแน่ใจว่าลูกสาวยังเด็กเกินกว่าจะรู้ว่าสิ่งที่เพิ่งเห็นไปน่ะมันคืออะไร

“แน่ใจหรือพี่?” แม้จะได้รับคำยืนยันหนักแน่น แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ไม่อาจนิ่งนอนใจได้ ด้วยว่ามีชนักอันใหญ่ปักติดหลังอยู่นั่นเอง

“เชื่อพี่สิ ไม่ต้องคิดมากหรอกชัย” วรรณภาบอกพลางเอียงศีรษะซบกับบ่าบึกบึนแน่นด้วยกล้ามเนื้อต่างจากผู้เป็นสามีที่มีรูปร่างท้วมออกไปทางเจ้าเนื้อมากกว่า มือเรียวลูบไล้ไปตามแผงอกกว้างล่ำสัน “พี่ว่า... พี่มีวิธีช่วยให้ชัยผ่อนคลายความเครียดได้นะ”

“ยังไม่พออีกเหรอพี่? เมื่อกี้นี้ก็สองยกแล้วนะ” ชาญชัยถามอย่างไม่ค่อยอยากจะเชื่อหู เขานับว่าเป็นชายหนุ่มที่บทรักร้อนแรงจนมีสาวๆ หลายคนติดใจรสรักของเขา แต่ไม่มีใครที่จะมีความต้องการมากล้นเหมือนนายหญิงคนนี้เลยสักคน แถมยังตอบสนองแรงรักได้อย่างถึงพริกถึงขิงอีก อีกฝ่ายหัวเราะคิกคักอย่างสาวรุ่น

“แหม...” สาวหุ่นน่าฟัดลากเสียงยาว ก่อนลุกขึ้นยืนแล้วนั่งคร่อมลงบนตักกว้างของชู้รัก มือเรียววางที่อกกว้างที่ยังชื้นเหงื่อ ลูบไล้อย่างเชิญชวนพร้อมส่งแววตาเย้ายวนไปให้ “ก็ชัยทำให้พี่ร้อนแรงได้ขนาดนั้น เท่าไหร่ก็ไม่พอหรอกจ้ะ”

ก่อนที่สองหนุ่มสาวจะเริ่มต้นเริงสวาทกันบนโซฟาตัวนั้นกันอีกหลายต่อหลายยก นั่นเพราะตอนนี้สามีของเธอพาลูกชายคนโตและลูกชายคนเล็กไปเยี่ยมปู่กับย่าที่ต่างจังหวัด ทั้งคู่จึงต้องการตักตวงเวลาอันมีค่านี้เอาไว้อย่างเต็มที่

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ กวีมนตรา_อัณณ์

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ