5.0
ความคิดเห็น
12.6K
ชม
54
บท

"ฝ่าบาท!!ทรงช่วยกระหม่อมด้วยเถอะพะย่ะค่ะ" "เกิดเรื่องร้ายแรงอันใดท่านเซียนเมฆา ที่นี่คือห้องประชุมท่านโปรดรักษากิริยา" "โธ่! ได้โปรดตักเตือนท่านอี๋ซูด้วยเถอะพะย่ะค่ะ เมฆฝนที่กระหม่อมกำลังรวบรวมเอาไว้เพื่อที่เย็นนี้จะต้องทำให้ตกที่โลกมนุษย์บัดนี้ถูกเขาเรียกลมมาปัดเป่าจนกระจัดกระจายหายไปหมดสิ้นแล้ว" "อี๋ซู!!!"เสียงเรียกปานฟ้าผ่ามิได้ทำให้คนผู้นั้นตกใจหรือหวาดกลัว กลับยกสองมือประสานกันหลังศีรษะตนเอง แลบลิ้นปลิ้นตาให้ผู้ที่นั่งอยู่บนตั่งเหนือเซียนอาวุโสทั้งหลายที่กำลังหารือกันเคร่งเครียด แล้วผิวปากเดินจากไป ปล่อยให้เจ้าเหนือภพยกมือขึ้นกุมหน้าผากตัวเองส่ายหน้าไปมา "ท่านเซียนเมฆาเราต้องขอโทษแทนอี๋ซูด้วย หากท่านเริ่มรวบรวมเมฆฝนก้อนใหม่อีกครั้งตอนนี้คงทันเวลาฝนที่ต้องตกลงไปยังโลกมุนษย์ ส่วนอี๋ซูนั้นเราจะตักเตือนเขาเอง อย่างไรท่านก็รีบไปเถิด"หลิงไท่ยามเอ่ยปากน้ำเสียงอ่อนโยนนุ่มนวล เหล่าเซียนเฒ่าทั้งหลายหันหน้ามองไปยังด้านนอกบ้าง ด้านในบ้าง มิสบตากับเจ้าเหนือภพในสมองกลับคิดว่า ท่านเหนือภพมีรึจะกล้าตำหนิติเตียนอี๋ซูผู้นั้น ยังมิทันจะเกินก้านธูปดีเสียงเหล่าเซียนทั้งชายหญิงก็ระเบ็งเซ็งแซ่ ต่างเรียกขานชื่ออี๋ซู!!มิขาดปาก ทุกคนที่ได้ยินถึงกับก้มหน้าปลงกับความซุกซน หนำซ้ำสายตายังเหลือบแลไปยังผู้มีอำนาจสูงสุด ไม่รู้จะกล่าววาจาเช่นไรกับสองคนนี้ดี ด้วยรู้ๆกันอยู่ว่าท่านเหนือภพทั้งรักและตามใจผู้มีนามว่าอี๋ซูมากมายเพียงใด ดุเพียงแค่ปากหากซักแปะยังไม่แตะต้องผิวกายให้ระคายเคือง "ฝ่าบาท..ฝ่าบาท...ฝ่าบาททรงช่วยพวกเราด้วยท่านอี๋ซูเค้า...." "อี๋ซู!!!!เจ้ากลับมานี่เดี๋ยวนี้นะ อย่าให้เราได้ต้องลงมือไปลากเจ้ากลับมาได้ยินหรือไม่ อี๋ซู!!!"บัดนี้ท่านเหนือภพจากผู้ที่เพียบพร้อมทั้งกายและกริยา กลับโหวกเหวกโวยวายไม่แพ้ผู้ใด แถมยังทำท่าเหมือนวิ่งไล่จับคนผู้หนึ่งไปทั่วสรวงสวรรค์เป็นที่เฮฮาต่อเซียนทั้งหลาย ถึงขั้นเอ่ยพนันขันต่อว่าผู้ใดจะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำกันแน่

บทที่ 1 ตอนที่ 1

第1集

ย้อนกล่าวไปถึงตำนานที่ผู้คนเล่าขานกันมาเกี่ยวกับเจ้าแห่งผู้ปกครองทั้งสามภพ ไม่ว่าในนิทานปรัมปราเอาไว้เล่าให้ลูกหลานที่ต้องการความตื่นเต้น และอยากเก่งกาจดั่งผู้ที่เอ่ยนาม ด้วยคำร่ำลือว่าทั้งเก่งกาจ ดุดัน และเป็นเจ้าเหนือเซียน แถมด้วยรูปโฉมดั่งเทพผู้สร้างรังสรรค์ให้เป็นหนึ่งหามีสองไม่ นั่นยิ่งทำให้การเล่าขานสืบต่อมานานยิ่งนาน จวบจนพันปีผ่านไปคำเหล่านี้ก็มิได้จางหายกลับยิ่งมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก

"องค์หลิงไท่นั้นกล่าวกันว่าปราบผู้เป็นฝ่ายอธรรมล้างบางจนไม่เหลือซาก"

"เดี๋ยวนะอาจาร์ยผู้เฒ่า หากไม่เหลือซากแล้วเหตุใดพวกเรายังต้องร่ำเรียนวิชาพวกนี้เพื่อปราบอธรรมกันอีกเล่า"เป็นฮุ่ยเหอรัชทายาท ผู้ที่มีข้อโต้แย้งและช่างสงสัยในทุกๆเรื่องขมวดหัวคิ้วถาม เจ้าแมวหน้าบู้ตัวขาวอ้วนพีเงยหน้าขึ้นจากการหลับไหลอยู่ข้างกาย ยื่นขาข้างซ้ายยืดออกมาค่อยๆกางเล็บออกจนเห็นปลายแหลม บรรจงใช้เล็บแหลมคมจิกลงบนต้นขาเล็กที่นั่งซุกอยู่ใต้โต๊ะเรียน

"โอ๊ยยยยย!! ไป๋อวี้เป็นเจ้าแกล้งข้าอีกแล้วนะ"หลังจากนั้นคนและแมวก็สร้างความปั่นป่วนให้กับเหล่าศิษย์ที่มาเล่าเรียนในสำนักและอาจาร์ยเอี้ยอวิ๋นอีกครั้ง คราวนี้ดูเหมือนองค์ชายน้อยจะมิยินยอมให้ตนเองเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ไล่กวดกวาดต้อนกันจนถึงกองก้อนหินที่ตกแต่สวนเอาไว้ ความวิจิตรหาได้ทำให้หนึ่งคนหนึ่งแมวซาบซึ้งกับความงดงามนั้นไม่ กระทั่งฮุ่ยเหอก้าวกระโดดแล้วเหยียบพลาดร่างร่วงหล่นลงบนพื้น จะว่าสูงก็มิเชิงต่ำเตี้ยก็มิใช่ร่างเล็กถึงกับนอนสลบไสลไม่ได้สติ ร้อนถึงคนที่วิ่งไล่ตามเพื่อรักษาความปลอดภัยหนึ่งในนั้นคือเฟยเหลียงที่มาช้าเพียงครึ่งก้าว

"องค์ชายน้อย!!"ทุกคนเข้ามามุงตัวพลิกร่างกลับมานอนหงาย แต่ร่างเล็กกลับนิ่งเงียบไปเสียแล้ว ทุกคนลืมใส่ใจแมวหน้าบูดที่สายตาเป็นประกาย และจางหายไปอย่างช้าๆ

"อี๋ซู!!!เจ้ากล้าโขมยเปาเซียนอีกแล้ว นั่นจะนำถวายท่านหลิงไท่พรุ่งนี้จะมีพิธีบวงสรวงเจ้ารู้หรือไม่"หญิงร่างอวบใบหน้าเหี่ยวตามวัยโวยวายขึ้นจากห้องครัว ตามติดด้วยเสียงตุ๊บตั๊บจากการวิ่งไล่คนร่างเล็ก เนื้อตัวมอมแมมจากการซุกซนไปทั่ว ยามนี้เด็กน้อยที่คนเอ่ยนามอี๋ซูอายุย่างเข้าหนึ่งหมื่นเจ็ดพันปี หากเทียบกับมุนษย์บนโลกแล้วก็ปาเข้าไปในวัยหนุ่มอายุสิบเจ็ด สามารถออกไปท่องยุทธภพเพื่อเรียนรู้ที่จะดำเนินชีวิตตามวิถีผู้กล้าได้แล้ว แต่คนผู้นี้กลับซุกซนราวเด็กน้อย เขาคือนายน้อยอี๋ซูเป็นบุตรที่เกิดจากสนมผู้หนึ่งของเจ้าแห่งผู้ปกครองเผ่าปักษา ด้วยภพที่กล่าวมาผู้ที่ปกครองเหนือทุกเผ่าที่ดำรงค์อยู่คือเผ่าสวรรค์ รวมโลกมุนษย์และโลกเซียน และผู้ที่เป็นเจ้าเหนือภพพระนามว่าหลิงไท่ผู้ที่ยามดีดุจพ่อผู้อ่อนโยนปกป้องบุตรให้พ้นภัย แต่ยามที่กราดเกรี้ยวหาผู้ใดกล้าเข้าใกล้ไฟร้อนที่พร้อมแผดเผาทุกผู้นามที่เผลอเข้าใกล้ให้ดับสูญจนมิเหลือซาก เป็นเพราะอี๋ซูเป็นบุตรเกิดจากเมียปลายแถวที่มิได้รับการโปรดปราณ จึงถูกชุบเลี้ยงโดยบรรดาบ่าวรับใช้ทั้งชายหญิงแทน นางที่ทนการกลั่นแกล้งไม่ไหวจากไปด้วยวัยที่ยังสาวสะพรั่ง ทิ้งบุตรน้อยวัยสามเดือนให้ผู้อื่นคอยดูแล และเป็นเพราะเม่ยกู๋มิได้เป็นที่โปรดปราณ จึงถูกกลั่นแกล้งจากเจิ่งหวาซึ่งเป็นเมียเอกของฮั่วซุน และเหล่าเมียรองอีกสามคน ร่างบางปราดเปรียวมือหนึ่งถือเปาสีขาวลูกโต อีกมือก็ถือลูกท้อสีสดเอาไว้ ปากคาบขนมอีกชิ้นวิ่งหนีเลี้ยวลดไปมากันมิให้เซิ่งหนิงแม่ครัวที่เลี้ยงดูเขาแทนมารดาไล่ตามทัน

"อี๋ซู ถ้าเจ้าไม่หันมาเย็นนี้เจ้าอดข้าวมื้อเย็นแน่"เซิ่งหนิงตวาดเสียงดัง ยืนหอบเพราะแบกน้ำหนักตัวมากเอาไว้ สองมือเท้าเอวใบหน้าถมึงทึง อี๋ซูพอได้ยินดังนั้นก็หยุดเท้าจนหน้าคะมำรีบหันกลับไปทันที

"เดี๋ยวสิ เดี๋ยวก่อนเซิ่งหนิงเจ้าจะใจร้ายกับข้าแบบนี้ไม่ได้นะ"อี๋ซูโวยวายก้าวเข้าไปหยุดตรงหน้าแม่เฒ่าทันที

"เจ้ากล้าต่อรองกับข้าหรืออี๋ซู"

"มิกล้าๆแต่ว่า แค่เปาสองลูกเซิ่งหนิงใยต้องหวงมากขนาดนี้ด้วยล่ะ ข้าหิวนี่นา"น้ำเสียงออดอ้อนเข้าไปคลอเคลียคนตัวโตจึงใจอ่อน น้ำเสียที่ใช้จึงนุ่มลงด้วยเช่นกัน

"เจ้านี่นะ อย่าหาเรื่องเดือดร้อนให้ตัวเองจะได้หรือไม่ นี่ถ้านายหญิงรู้เข้าละก็ ใช่เพียงแต่งดข้าวเย็นเท่านั้น เจ้ายังต้องไปดูแลโรงนกอีกรู้หรือไม่"เซิ่งหนิงบ่น สองมือใหญ่ปัดสิ่งเปรอะเปื้อนบนเสื้อผ้าอี๋ซูออกให้

"ข้ารู้แล้ว ข้ารู้แล้วน่า โอ๊ยเซิ่งหนิงเจ้าเบามือได้หรือไม่"

"ยังจะให้ข้าเบามือ นี่ไปซุกซนที่ใดกันแน่ตอบข้ามาเดี๋ยวนี้ เศษดินเศษใบไม้ถึงได้มากมายขนาดนี้"เซิงหนิงบ่นเบาๆ

"จุ๊ๆ อย่าเสียงดังไป ข้ามีอะไรจะอวดเจ้าด้วย"อี๋ซูค่อยๆล้วงของบางสิ่งออกจากอกเสื้อตัวเอง จากนั้นก็ยกขึ้นชูอวดต่อสายตา

"ห๋า!!นี่เจ้ากล้าขโมยไข่นกหงส์ไฟเชียวรึ เอาไปเก็บที่เดิมเดี๋ยวนี้ ไม่กลัวตายหรือยังไง"

"ไม่ๆข้าไม่ได้ขโมยนะ ใครจะเข้าไปในเขตหวงห้ามนั่นได้ง่ายๆกันเล่า"อี๋ซูรีบปฎิเสธ

"อย่าริเป็นเด็กพูดปด เจ้าบอกมาว่าไปเอามันมาได้อย่างไร"เซิ่งหนิงไม่ยอมอ่อนข้อให้

"เจ้าดูดีๆสิสีมันเหมือนไข่ของนกหงส์ไฟตรงไหน"อี๋ซูยื่นเข้าไปใกล้ใบหน้าเซิ่งหนิงอีกครั้ง คราวนี้นางถึงกับตาโต เพราะไข่ที่ว่าบางครั้งเป็นสีแดง บางครั้งกลายเป็นสีชมพู ม่วง และขาวสลับกันไป

"เป็นไปไม่ได้!"

"อะไรที่เป็นไปไม่ได้ ข้าแค่เห็นมันตกอยู่ตรงใต้ต้นไม้ตรงทางเข้ามายังเขตของเผ่าเรา อีกอย่างข้าหาดูแล้วหาดูอีกจนมั่นใจว่ามันไม่ได้ตกลงมาจากรังนกแถวนั้นแน่นอน ข้าเลยเก็บมันมา"อี๋ซูครั้งแรกนึกสนุกแต่พอเห็นใบหน้าตกใจบวกกับสีหน้าที่จริงจังนั่นทำให้เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าตนเองจะถูกลงโทษหรือไม่ น้ำเสียงที่เอ่ยจึงอ่อนอ่อย

"เจ้าแน่ใจหรือว่าไมไ่ด้ไปลักขโมยมา"

"นี่เซิ่งหนิง ถึงข้าจะเกเร แต่ข้าไม่เคยพูดปดหรือลักขโมยของผู้ใดนะ ข้าเก็บมันได้จริงๆ"เขาเริ่มโมโห เป็นนางที่เลี้ยงดูเขามาแต่เล็กเหตุใดจึงไม่เชื่อในวาจาของเขากันเล่า

"ข้ารู้แล้วเอาเถอะๆ ในเมื่อเจ้าเก็บได้ก็รักษามันเอาไว้ให้ดี แล้วอีกอย่างอย่าให้ผู้ใดเห็นมันเด็ดขาด เจ้าเข้าใจที่ข้าบอกหรือไม่ มิเช่นนั้นมันจะเป็นภัยสำหรับเจ้า"

"ข้าเข้าใจแล้ว"เซิ่งหนิงหมดความสนใจในเปาสองลูกนั่น ดวงตาเลื่อนลอยดุจคนใช้ความคิดเดินจากไป ทิ้งให้อี๋ซูเกาหัวด้วยความไม่เข้าใจ

"เป็นอะไรของเขากันแน่"อี๋ซูบ่นแล้วก้มลงมองไข่อีกครั้ง จากนั้นเขาเก็บมันเข้าอกเสื้อตัวเองอีกครั้ง จับเอาเปาเข้าปากเดินกินไปเต้นไป ยังไม่ทันเอาเข้าปากจนหมดก็ถูกตบหลังเสียงดัง เปาที่กำลังกลืนหลุดลงไปติดอยู่ในลำคอ เจ้าตัวต้องทุบอกตัวเอง

"แค่กๆ อึก แค่กๆ "

"ข้าขอโทษๆ เจ้าคายออกมาสิ คายออกมาเดี๋ยวก็หายใจไม่ออกตายหรอก"เสียงร้อนอกร้อนใจจากด้านหลัง เป็นเสียงชายหนุ่มรุนคราวเดียวกัน ใบหน้าตอบนิดๆไม่ได้น่าเกลียดจนดูไม่ได้ รีบบอกสองมือลูบหลังบางไปมาด้วยความตกใจ

"อย่าห่วงกินคายออกมาเดี๋ยวนี้"อี๋ซูไม่ยอมคายมันออก ซ้ำยังพยายามกลืนก้อนเปาเข้าไปให้หมด ปาไช่ต้องรีบวิ่งไปเอาน้ำมาส่งให้ถึงปาก คอยลูบหลังให้ทุกอย่างลงท้อง

"เจ้า..เจ้า..เจ้าจะฆ่าข้าหรือยังไง"อี๋ซูตวาดหน้าที่แดงบัดนี้กลับกลายเป็นสีเดิมแล้ว

"ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าเจ้าไปขโมยอะไรจากในครัวมากินอีกแล้ว"ปาไช่บ่นเบาๆ

"ข้าไม่ได้ขโมย"

"จริงหรือ?ข้าเห็นเวิ่งหนิงวิ่งไล่เจ้าจนพื้นดินสะเทือน"

"ข้าก็แค่ชิมดู"

"เฮ๊อะ!! อย่างเจ้าน่ะหรือจะชิมแล้วนี่มีส่วนแบ่งข้าหรือไม่"อี๋ซูยื่นเปาอีกลูกที่เหลือให้ แต่ปาไช่ทำหน้าแหยเปาในมือมีสีดำด่างไปทั่ว หนำซ้ำยังมีผิวที่เปียกจากน้ำ โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นน้ำลายของอี๋ซูหรือน้ำที่เขาตักมาให้ดื่มกันแน่

"เอ่อ ขอบใจ ข้าว่าข้าอิ่มแล้วจะดีกว่า"อี๋ซูหน้าตึง

"ข้าอุตส่าห์นำมาเผื่อเจ้าแต่เจ้ากลับบอกว่าอิ่ม ไม่นึกเลยใช่หรือไม่ว่าข้าเกือบถูกเซิ่งหนิงตีแล้ว"

"ข้าขอโทษๆ แต่ข้าอิ่มจริงๆ" อี๋ซูถอนหายใจ มองเปาในมือแล้วต้องยิ้มออกมา

"ข้าว่า เป็นข้าก็อิ่ม ฮ่าๆๆๆๆ"ปาไช่หน้ากึ่งยิ้มกึ่งบึ้งมองเพื่อนที่อ้าปากกว้างหัวเราะ

"เจ้านี่จริงๆเลยให้ตายสิ"สองคนต่างกอดคอกันเดินกลับไปที่พัก เซิ่งหนิงหลังจากปล่อยอี๋ซูจากไปพร้อมเปาแล้วก็เดินใจลอยกลับมาในห้องครัว ในใจเหน็บหนาวยิ่งนัก ภาพไข่ที่อี๋ซูยื่นมาให้ดูยังติดตามิรู้ลืม

"เซิ่งหนิง แม่เฒ่าเซิ่งหนิง"บ่าวในครัวเรียกซ้ำหลายครั้งจนต้องแตะข้อมือให้รู้ตัว

"ว่าอย่างไร"

"เป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ"

"ไม่เป็นไร ว่าแต่เรียกข้ามีเรื่องอันใด"

"นายหญิงเรียกเจ้าค่ะ"เซิ่งหนิงรู้ทันทีว่าเรียกนางไปด้วยเรื่องอันใดกันแน่

"ข้ารู้แล้วพวกเจ้าไปเตรียมอาหารเถอะ ดูดีๆอย่าให้ขาดตกบกพร่องไป"

"ข้ารู้แล้ว"เซิ่งหนิงเดินเข้าไปยังตำหนักปักษาด้วยท่าทียังไม่ปรกติมากนัก

"นายหญิง"

"เซิ่งหนิง เจ้าเห็นเจ้าเด็กแสบนั่นหรือไม่"

"มิเห็นเจ้าค่ะ นายน้อยอี๋ซูคงออกไปซุกซนตามประสา"

"ข้าไม่เข้าใจจริงๆเหตุใดนายท่านจึงยังเก็บมันเอาไว้ให้อับอายสกุลอีก"นายตบโต๊ะตบเก้าอี้ด้วยความไม่พอใจ เซิ่งหนิงไม่ได้ต่อคำได้แต่ก้มหน้านิ่ง

"ให้คนไปตามมันมาหาข้าเดี๋ยวนี้ พรุ่งนี้ข้ากับนายท่านและ เลี่ยงเอ๋อร์จะขึ้นไปถวายพระพรองค์หลิงไท่ ข้าจะให้มันไปจับนกหงส์ไฟมาเพื่อเป็นของถวาย"

"ตะ..แต่ว่ามันอันตรายมากนะเจ้าคะ หากว่าหงส์ไฟโตเต็มวัยจับได้นายน้อยมิต้องเสี่ยงภัยรึเจ้าคะ"เซิ่งหนิงตกใจละล่ำละลัก

"ชีวิตมันใยต้องนับ ไปตามมันมาเดี๋ยวนี้"เซิ่งหนิงน้ำตาคลอเบ้า นึกน้อยใจในโชคชะตาแทนเด็กน้อยที่ตนเองเลี้ยงมา

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ฺBYM|บลัดดี้แมรี่

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

Crimson Syntax
5.0

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

นางบำเรอกับจอมบงการ

นางบำเรอกับจอมบงการ

B.J.BEN
4.7

ธัญญ์... ชายหนุ่มที่เจ็บช้ำกับความรักเมื่อครั้งอดีต วิธาดา... หญิงสาวร้ายกาจที่แอบรักเขาหมดหัวใจ หญิงสาวมองสบตากับเขาในระยะกระชั้นชิด หัวใจบอบบางเรียกร้องให้เธอเปิดเผยความจริงในส่วนลึกของจิตใจ “ฉันรักนายนะธัญญ์ รักนายมานานแล้ว” หล่อนคิดเอาไว้ไม่มีผิดว่าเขาจะต้องทำหน้าตกใจ แม้จะทำใจเอาไว้แล้ว แต่เธอรู้สึกเจ็บปวด มีผู้ชายหลายคนอยากสานสัมพันธ์กับเธอ แต่เธอก็สลัดทิ้ง แต่เขา... คนที่เธอแอบรัก เขากลับมีใจให้น้องสาวของเธอ เขากลับไม่ต้องการความรักของเธอ เขากลับตกใจและมองเธอเหมือนตัวประหลาด “เธอพูดอะไรของเธอ” ธัญญ์ทั้งมึนงง ทั้งตกใจในคำพูดของหญิงสาว “พูดความจริง นายคงไม่เคยรู้มาก่อน นายเป็นผู้ชายคนแรกของฉัน คืนนั้น...” เธอพูดอย่างหมดเปลือก เขาจะดูถูกยังไงก็ช่าง แต่เธอเป็นคนพูดตรงๆ เธออยากให้เขารับรู้และเข้าใจ “แต่ฉันไม่ได้รักเธอ ไม่แม้แต่จะคิด”

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
มนตราแห่งรัก (Yaoi)
1

บทที่ 1 ตอนที่ 1

15/02/2022

2

บทที่ 2 ตอนที่ 2

15/02/2022

3

บทที่ 3 ตอนที่ 3

15/02/2022

4

บทที่ 4 ตอนที่ 4

15/02/2022

5

บทที่ 5 ตอนที่ 5

15/02/2022

6

บทที่ 6 ตอนที่ 6

15/02/2022

7

บทที่ 7 ตอนที่ 7

15/02/2022

8

บทที่ 8 ตอนที่ 8

15/02/2022

9

บทที่ 9 ตอนที่ 9

15/02/2022

10

บทที่ 10 ตอนที่ 10

15/02/2022

11

บทที่ 11 ตอนที่ 11

15/02/2022

12

บทที่ 12 ตอนที่ 12

15/02/2022

13

บทที่ 13 ตอนที่ 13

15/02/2022

14

บทที่ 14 ตอนที่ 14

15/02/2022

15

บทที่ 15 ตอนที่ 15

15/02/2022

16

บทที่ 16 ตอนที่ 16

15/02/2022

17

บทที่ 17 ตอนที่ 17

15/02/2022

18

บทที่ 18 ตอนที่ 18

15/02/2022

19

บทที่ 19 ตอนที่ 19

15/02/2022

20

บทที่ 20 ตอนที่ 20

15/02/2022

21

บทที่ 21 ตอนที่ 21

15/02/2022

22

บทที่ 22 ตอนที่ 22

15/02/2022

23

บทที่ 23 ตอนที่ 23

15/02/2022

24

บทที่ 24 ตอนที่ 24

15/02/2022

25

บทที่ 25 ตอนที่ 25

15/02/2022

26

บทที่ 26 ตอนที่ 26

15/02/2022

27

บทที่ 27 ตอนที่ 27

02/03/2022

28

บทที่ 28 ตอนที่ 28

02/03/2022

29

บทที่ 29 ตอนที่ 29

02/03/2022

30

บทที่ 30 ตอนที่ 30

02/03/2022

31

บทที่ 31 ตอนที่ 31

02/03/2022

32

บทที่ 32 ตอนที่ 32

02/03/2022

33

บทที่ 33 ตอนที่ 33

02/03/2022

34

บทที่ 34 ตอนที่ 34

02/03/2022

35

บทที่ 35 ตอนที่ 35

02/03/2022

36

บทที่ 36 ตอนที่ 36

02/03/2022

37

บทที่ 37 ตอนที่ 37

02/03/2022

38

บทที่ 38 ตอนที่ 38

02/03/2022

39

บทที่ 39 ตอนที่ 39

02/03/2022

40

บทที่ 40 ตอนที่ 40

02/03/2022