Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
4.9
ความคิดเห็น
124.9K
ชม
48
บท

“ก่อนทำเรื่องนี้พี่ขอถามน้องภาสักข้อได้ไหม” ธาวิศพูดแล้วก้าวเท้าเข้าไปหาคนบนเตียง “ได้ค่ะ” นิภาก้มหน้ายามตอบ ธาวิศทิ้งสะโพกลงนั่งด้านข้าง พร้อมกับดันปลายคางของหญิงสาวให้ขึ้นมองหน้าเขา “น้องภาเต็มใจใช่ไหม” แววตาของคนถูกถามสั่นระริกไปมา ปากจิ้มลิ้มก็ขยับขึ้นลงเหมือนคนคิดไม่ออกว่าควรตอบอย่างไร “น้องภาพี่ถามว่าเต็มใจใช่ไหม หรือว่าถูกคุณยายบังคับ” คราวนี้ธาวิศเน้นน้ำหนักเสียงมากขึ้นกว่าเดิม “ภาเต็มใจค่ะ” หญิงสาวตอบเขาแล้ว แต่เป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง “ไม่ได้ถูกบังคับแน่นะ” “ค่ะ ภาไม่ได้ถูกบังคับ ภาเต็มใจค่ะพี่ภูมิ” ธาวิศกัดฟันกรอดในคำตอบที่เขาไม่ปรารถนาจะได้ยิน ออกแรงผลักหน้าอกนิภาจนล้มลงไปนอนอยู่บนเตียง ปลดกระดุมเสื้อนอนของตนเองออกทีละเม็ด โดยที่สายตาก็ยังจดจ้องอยู่กับคนตรงหน้า “ระหว่างเรามันจะไม่มีความผูกพันอะไรกันทั้งนั้น เราทำเรื่องนี้ก็เพื่อคุณยาย เสร็จจากนี้ไปพี่ก็จะกลับกรุงเทพฯ ไปใช้ชีวิตกับคนรักของพี่ตามเดิม ภายังรับได้อยู่ใช่ไหม” ชายหนุ่มพูดจบก็ทิ้งเสื้อนอนลงบนพื้น คนบนเตียงก็ยังเม้มริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่น คำตอบไม่มาสักทีเขาเลยต้องเลิกคิ้วขึงตาใส่ “ค่ะภารับได้” คำพูดที่เปล่งออกมาช่างเบาหวิว คงไม่ต่างไปจากอารมณ์ของคนพูด “รับได้ก็ดี อย่ามาเรียกร้องอะไรทีหลังก็แล้วกัน ไม่งั้นพี่เอาตายแน่” ธาวิศทาบร่างตัวเองลงบนลำตัวของนิภา มองจุดหมายแรกที่จะเริ่มต้นทำรัก ประทับจูบลงบนริมฝีปากนุ่มนิ่มของหญิงสาว สัมผัสแรกของทั้งคู่ช่างตราตรึงในความรู้สึก จากที่จะจูบเพียงแผ่วเบากลายเป็นแทรกลึกดูดดื่มขึ้นตามอารมณ์ (รักซ้ำรอย)

บทที่ 1 ตอนที่ : 1 สืบสกุล

1

สืบสกุล

ตระกูลโศภิตอำไพในรุ่นของยายเฉลาลักษณ์ กำลังประสบปัญหาเรื่องทายาทสืบสกุล เพราะลูกสาวคนโตแต่งงานไปอยู่กับสามีและมีลูกชายหนึ่งคน แต่ต้องสืบสกุลทางสามีเนื่องจากทางโน้นมีลูกชายและหลานชายแค่คนเดียว ส่วนลูกสาวคนรองก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ไปพร้อมกับสามีเมื่อสิบปีก่อน ทิ้งดลธีหลานชายตัวน้อย ไว้ให้ยายเฉลาลักษณ์เลี้ยงดู ทว่าความหวังเดียวในการสืบสกุลโศภิตอำไพนั้นช่างริบหรี่ เพราะดลธีดันมีรสนิยมเรื่องความรักในเพศเดียวกัน

“น้ำอัญชันค่ะคุณยาย ภาไปเก็บดอกอัญชันข้างรั้วมาคั้นให้สด ๆ เลยนะคะ บีบมะนาวใส่ด้วยนิดหน่อย รสชาติดีอย่างที่คุณยายเคยสอนเลยค่ะ” นิภาวางแก้วน้ำอัญชันลงบนโต๊ะตรงหน้าของยายเฉลาลักษณ์

นิภาคือเด็กที่มีคนเอามาวางทิ้งไว้ ที่พงหญ้าหลังกำแพงบ้าน ยายเฉลาลักษณ์นึกสงสาร จึงได้เอามาเลี้ยงดูไว้ตั้งแต่แบเบาะ ผ่านมายี่สิบสองปี หญิงสาวเติบโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง ทั้งยังเพียบพร้อมทั้งกิริยามารยาท ตามที่ยายเฉลาลักษณ์สอนมาทุกอย่าง

“ขอบใจมากจ้ะภา ว่าแต่เรียนจบมหา’ลัยแล้ว ภาอยากทำงานที่ไหนหรือเปล่าลูก” หญิงชราถาม หลังจากยกแก้วน้ำอัญชันขึ้นจิบแล้ว

“ภายังไม่อยากทำงานที่อื่นค่ะคุณยาย อยากอยู่ดูแลคุณยายมากกว่าค่ะ” นิภายิ้มสดใสไปทั้งดวงตา หญิงสาวเพิ่งจบการศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยในตัวจังหวัดมาหมาด ๆ มีเพื่อนหลายคนชวนไปสมัครงานด้วยกัน แต่หญิงสาวก็ปฏิเสธเพราะยังไม่พร้อม จะทิ้งยายเฉลาลักษณ์ให้อยู่เพียงลำพัง

“เป็นห่วงยายสินะเรา” มีหรือหญิงชราจะไม่รู้จักนิสัยใจคอ ของคนที่ตนเลี้ยงดูมาตั้งแต่อ้อนตั้งแต่ออด

“ก็น่าเป็นห่วงนี่คะ ไหนจะอาหารการกินหยูกยาที่ต้องกินตามเวลาอีก ภาไม่อยากทิ้งคุณยายไปไหนไกลค่ะ เอาไว้คุณยายมีหลานสะใภ้ก่อนนะคะ แล้วภาจะไปหางานทำ” คำพูดแบบเชิงเล่นเชิงจริงของนิภา สะกิดใจยายเฉลาลักษณ์เข้าอย่างจัง หญิงชราถอนหายใจหนัก ๆ ออกมา

“นี่แหละที่ยายเป็นห่วง”

“คุณยายเป็นห่วงอะไรคะ” นิภาเลิกคิ้วถามท่าน

“ก็เป็นห่วงเรื่องทายาทสืบสกุลโศภิตอำไพน่ะสิ ภาก็รู้นี่ลูกว่าพี่ดลเขาไม่เหมือนผู้ชายทั่วไป”

“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่คะคุณยาย สมัยนี่คนแบบพี่ดลเขาก็มีลูกได้นะคะ ที่มหา’ลัยของภาก็มีเหมือนกัน แบบเมาแล้วเผลอทำสาวท้องก็มีค่ะ” นิภาไม่คิดว่าความเห็นของตนในครั้งนี้ จะทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อนในภายหลัง

ยายเฉลาลักษณ์ได้โอกาส ขอร้องให้นิภาแต่งงานกับดลธีเพื่อสืบทอดวงศ์ตระกูลโศภิตอำไพ นิภาถึงกับน้ำท่วมปากพูดไม่ออกในเรื่องนี้ หากไม่มียายเฉลาลักษณ์ หญิงสาวก็คงไม่มีวันนี้เหมือนกัน บุญคุณที่เลี้ยงดูมายี่สิบกว่าปี หากต้องตอบแทนด้วยการมีทายาทสืบสกุล นิภาคงไม่มีทางปฏิเสธได้แน่

“ยายไม่กล้าไปหาคนอื่นหรอกภา กลัวเขาจะรังเกียจตาดลเอา อีกอย่างยายไม่อยากให้คนนอกรู้เรื่องนี้สักเท่าไหร่ ภาช่วยยายสักครั้งนะลูก” คำขอร้องจากคนที่เก็บเธอมาเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ไม่มีสักครั้ง ที่นิภาจะรู้สึกต่ำต้อยไปกว่าคนอื่น หญิงสาวก้มหน้ามองพื้นในใจมันจุกไปหมดในเรื่องนี้

“ยายขอร้องนะภา ยายไม่อยากให้โศภิตอำไพต้องจบที่รุ่นของยาย ภา...” หญิงชราเอื้อมมืออันเหี่ยวแห้ง ไปกุมมือของนิภาเอาไว้ ความอบอุ่นแล่นวาบไปทั้งหลังมือของหญิงสาว นิภาทอดสายตามองท่านอย่างสงสาร แววตาสั่นระริกเหมือนคนกำลังสับสนในตัวเองอยู่

“ค่ะคุณยาย ภายอมแต่งงานกับพี่ดลก็ได้ค่ะ” ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจตอบตกลงออกไป

“จริงเหรอภา ยายดีใจที่สุดเลยลูก ขอบใจภามากนะ มาให้ยายกอดหน่อยลูก” ยายเฉลาลักษณ์ดึงตัวของนิภา เข้ามาสวมกอดอย่างดีใจ

แต่ปัญหาของหญิงชราก็ยังไม่ได้หมดลงไป เมื่อดลธีไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้ แถมยังมีท่าทีต่อต้านอย่างรุนแรง

“ผมไม่แต่งหรอกครับคุณยาย ผมเป็นเกย์จะให้แต่งงานกับยัยภาได้ยังไง เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กแบบนี้ด้วย ตับไตไส้พุงยังไงก็เห็นกันมาหมดแล้วนะคุณยาย” ดลธีหนุ่มสำอางปฏิเสธการแต่งงานอย่างจริงจัง

“ดลทำเพื่อตระกูลของเราไม่ได้เชียวหรือลูก ขนาดภายังยอมเลยนะ”

“ก็ยัยภามันโง่หัวอ่อนยังไงคุณยาย ผมไม่แต่งเด็ดขาดครับ ผมไม่สามารถทำให้ยัยภาท้องได้แน่” คนไม่พอใจในเรื่องนี้ ตวัดสายตาไปมองนิภาในเชิงตำหนิ

“ก็ได้ในเมื่อดลไม่สามารถมีทายาทสืบตระกูลให้ยายได้ สมบัติทั้งหมดของตระกูล ยายก็จะยกให้การกุศล”

“คุณยาย !”

“ยายขอร้องดลดี ๆ แล้วนะ ภาเองก็ยอมเสียสละตัวเองอุ้มลูกของดลแล้ว แล้วดลล่ะเสียสละอะไรเพื่อโศภิตอำไพบ้าง” บทจะจริงจังขึ้นมา ยายเฉลาลักษณ์ก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน นิภาได้แต่มองยายทีหลานที ด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ โศภิตอำไพน่าจะมีหลานชายมากกว่านี้ ไม่ใช่มีแค่สองคน แล้วยังต้องแบ่งไปสืบสกุลคนละฝั่งอีก

“ผมไม่ยอมนะครับคุณยาย จะมายกสมบัติทั้งหมดให้การกุศลได้ยังไง แล้วผมล่ะจะเอาอะไรกิน”

“มันเรื่องของดล ทียายขอร้องดลดลยังไม่สนใจยายเลย ไปภาพายายเข้าห้อง ยายอยากงีบกลางวันแล้ว” หญิงชราทำเป็นไม่สนใจคนเป็นหลานบ้าง

“ค่ะคุณยาย”

“แต่คุณยายครับ”

“หยุดเลยตาดล ! ถ้าไม่แต่งงานเราก็หมดเรื่องคุยกัน”

“โธ่ คุณยาย” ดลธีได้แต่มองตามหลังผู้เป็นยาย ซึ่งกำลังเดินขึ้นบันไดไป โดยมีนิภาเดินตามหลังไปติด ๆ ตัวเขาเองก็ไม่รู้จะหาทางออกสำหรับเรื่องนี้อย่างไร

ภายในห้องนอนของยายเฉลาลักษณ์ นิภากำลังช่วยหญิงชรา เอนตัวลงนอนกลางวันตามปกติ สีหน้าของหญิงสาวแลดูเคร่งเครียดจนผิดปกติ

“ยายรู้ว่าภาต้องกำลังไม่สบายใจอยู่แน่ ๆ แต่ยายไม่มีใครอื่นแล้วนะลูก”

“ไม่เป็นไรค่ะคุณยาย ว่าแต่พี่ดลจะยอมเหรอคะ ดูแล้วท่าจะยาก” นิภาบอกแล้วก็ดึงผ้าห่ม ขึ้นคลุมตัวให้คนบนเตียง

“ไม่ยอมก็ให้มันรู้ไป ระหว่างแต่งงานมีลูกกับชวดสมบัติทั้งหมดของตระกูล ต่อให้คนโง่มันยังเลือกถูกเลยนะภา”

“มันก็จริงนะคะ แต่ว่าทำไมคุณยายต้องรีบด้วยล่ะคะ ไม่รอไปอีกสักหน่อย”

“ยายเจ็บออด ๆ แอด ๆ เข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นแบบนี้ จะให้ยายรอไปถึงเมื่อไหร่ล่ะภา” ความจริงเรื่องนี้ก็ทำให้นิภาแย้งไม่ได้ เพราะหญิงสาวคือคนที่คอยขับรถ พาท่านไปส่งโรงพยาบาลในแต่ละครั้ง ต้องยอมรับว่าสุขภาพของยายเฉลาลักษณ์ ไม่ได้แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน นับตั้งแต่เกิดเส้นเลือดอุดตันที่หัวใจ เมื่อสามปีก่อนแล้ว โชคดีที่พาไปหาหมอได้ทันเวลา

“นอนเถอะค่ะคุณยาย เดี๋ยวเย็น ๆ ภาจะทำของโปรดคุณยายไว้รอนะคะ”

“จ้ะ ขอบใจมาก” หญิงชราปิดเปลือกตาลง นิภาก็เปิดประตูออกไปแบบเงียบ ๆ

ดลธียืนรออยู่ตรงหน้าห้องของผู้เป็นยาย ชายหนุ่มบุ้ยปากให้นิภา เดินไปคุยกับตนเองที่ระเบียงบ้าน หญิงสาวถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนเดินตามหลังเขาไป

“ยัยภาทำไมไม่ปฏิเสธคุณยายไป พี่เป็นเกย์ก็รู้ ๆ กันอยู่”

“ภาก็อยากปฏิเสธนะคะพี่ดล แต่ว่าคุณยายอยากมีคนสืบสกุลจริง ๆ ภาสงสารคุณยายค่ะ”

“ยัยโง่ พี่จะไปทำเราท้องได้ยังไง ในเมื่อพี่ถนัดแต่ถูกรุก”

“เรื่องนั้นภาไม่รู้หรอกค่ะ ภาแค่อยากทำให้คุณยายสบายใจก็เท่านั้น”

“อยากทำให้คุณยายสบายใจ หรืออยากได้สมบัติของคุณยายกันแน่”

“ทำไมพี่ดลพูดแบบนี้ล่ะคะ”

“ก็ใครจะไปรู้ล่ะ ทั้งสาวทั้งสวยแบบเราแต่ยอมแต่งงานกับพี่ง่าย ๆ ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าพี่ชอบผู้ชาย” ดลธีมีอคติกับนิภามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เขาไม่ชอบใจที่ยายเฉลาลักษณ์ ยกเด็กที่เก็บมาเลี้ยง ให้เทียบเท่าหลานชายอย่างเขา

“ถ้าพี่ดลไม่อยากแต่งงานกับภาก็ไม่เป็นไรค่ะ”

“จะไม่เป็นไรได้ยังไง ก็ในเมื่อคุณยายจะยกสมบัติให้การกุศลแบบนี้”

“ก็ไม่มีทายาทสืบสกุลนี่คะ ทำไงได้”

“ก็พี่นี่ไงไม่ใช่ทายาทหรือยังไง มีแต่เรานั่นแหละที่เป็นคนนอกเป็นส่วนเกินของโศภิตอำไพ”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดลธีพูดแบบนี้กับนิภา ซึ่งเจ้าตัวก็พยายามทำใจเย็น คิดเสียว่าเขากำลังโมโหเรื่องแต่งงานอยู่

“ภามีงานต้องทำค่ะ เรื่องอื่นพี่ดลก็ไปตกลงกับคุณยายเอาเองก็แล้วกันนะคะ ภามันก็แค่คนนอก”

“ยัยภา ! นี่กล้าย้อนพี่เหรอ ยัยภากลับมานี่ !”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ มาชาวีร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

โรแมนติก

5.0

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

โรแมนติก

5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ประวัติศาสตร์

4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

จอมโจรไฟมาร

จอมโจรไฟมาร

โรแมนติก

5.0

หื่น โหด เหี้ยม นั่นแหละเขา ไฟมาร!!! "เป็นเมียข้าไม่น่ากลัวสักนิด เมียข้าเจ้าชื่ออะไร" ไฟมารถามขณะที่สายตากวาดมองทั่วร่างงามของนางราวกับจะประมาณว่า ถ้าเลยลงไปส่วนอื่นมันจะงามล้ำปานใด "ตอบ! " เขาตะคอกเมื่อนางไม่ยอมปริปากบอกออกมา "กอพเยีย" นางรีบร้อนตอบด้วยความกลัว "กอ-พะ-เยีย ใครมันช่างตั้งชื่อให้เรียกยากเพียงนี้" ไม่พูดเปล่ามือสากก็เคลื่อนไปดึงมือของนางออกจากอกงามอย่างช้าๆ "มะ...ไม่ อย่า...ทำข้าเลย" น้ำเสียงสั่นเครือร้องขอน้ำตาก็ปิ่มจะย้อยหยดออกจากเบ้า "ข้าบอกแล้วไง ว่าเป็นเมียข้าไม่น่ากลัวสักนิด" ไฟมารยิ้ม หาได้ใส่ใจต่อคำขอของนางไม่ เคลื่อนตัวเข้าหาอีกคนอย่างช้าๆ "ไม่! " ด้วยความกลัวกอพเยียถึงกับกรีดร้องออกมาดั่งคนเสียสติ ยกมือทุบตีหน้าอกของจอมโจรเป็นพัลวัน "ยอมดีๆ ไม่ชอบนะกอพเยีย" ไฟมารคำรามด้วยความโมโหในอาการคล้ายคนจิตกระเจิงของนาง กดนิ้วลงบนต้นแขนนุ่มสุดแรงเกิด "โอ๊ย ไอ้คนชั่ว! ไอ้ถ่อย! " นางลืมกระทั่งความกลัว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ถูกกระทำต่ำช้าถึงเพียงนี้ น้ำตาพังทลายออกมาระลอกแล้วระลอกเล่าด้วยความเจ็บ (จอมโจรไฟมาร)

ลมหายใจของตาย

ลมหายใจของตาย

โรแมนติก

5.0

"ทำเป็นพูดดียกโน่นนี่มาอ้างที่แท้ก็ไม่มีปัญญาพาแฟนมาด้วย เป็นไงล่ะเลยมานั่งอิจฉาจ้องดาเสียตาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าอย่างนี้งั้นสิ" พิธานพูดจบก็ดึงหญิงสาวด้านข้างเข้ามาหอมแก้มอวดเพื่อนรักให้กระอักหัวใจเล่น "อีโธ่ ทำมาเป็นอวดใครมันจะโชคดีมีของดีของตายอย่างแกล่ะ เรียกเมื่อไหร่ก็มาปฏิเสธสักครั้งก็ไม่เคย" "พอๆ เลิกพูดมาดื่มได้แล้วไอ้อั๋น" ศรันย์ราชไม่ได้คิดก่อนพูด และพิธานก็ไม่ได้ตำหนิในคำพูดของเพื่อน คนที่ต้องกระอักและหนาวเหน็บไปทั้งหัวใจกลับเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงนี้ ของตาย คำนี้ไม่เคยคิดถึงมาก่อน และการที่ผู้ชายสองคนนี้เอ่ยมันออกมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ นั่นย่อมหมายความว่าในสายตาของพิธาน เธอเป็นแค่ ของตาย

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เกิดใหม่อีกครากลายเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก

เกิดใหม่อีกครากลายเป็นผู้ช่วยตัวน้อยของมารดาที่บิดาไม่รัก

โรแมนติก

3.5

ภารกิจสำคัญของนักเขียนที่ข้ามเวลามาเกิดใหม่ในยุคโบราณคือการเป็นผู้ช่วยมารดาหลบหนีจากบิดาไร้หัวใจ และพามารดาไปพบโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยทุ่งดอกลาเวนเดอร์อันงดงาม เมิ่งสืออีถูก ย่าและอนุของหานชางเหยียนผู้เป็นสามีรังแกจนเกือบจะต้องตายไปพร้อมกับลูก ในเวลานี้สามีที่จากไปรบที่ชายแดนกลับมาแล้ว หวังในใจว่าสามีที่กลับมาจะคอยปกป้องดูแล ทว่านางกลับได้รับความเจ็บช้ำที่มากยิ่งกว่าจนแทบทนไม่ไหวและคิดหนี กรุณาอ่านตัวอย่างก่อนกดซื้อ ซื้อหน้าเว็บถูกกว่าแอปเปิ้ลค่ะ กราบขอบพระคุณทุกท่านค่ะที่อุดหนุน

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

โรแมนติก

5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา

โรแมนติก

4.9

ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
รักซ้ำรอย
1

บทที่ 1 ตอนที่ : 1 สืบสกุล

21/02/2022

2

บทที่ 2 ตอนที่ : 2 สืบสกุล 2

21/02/2022

3

บทที่ 3 ตอนที่ : 3 ห้องหอจอมปลอม

21/02/2022

4

บทที่ 4 ตอนที่ : 4 คำขอร้องของยายเฉลาลักษณ์

21/02/2022

5

บทที่ 5 ตอนที่ : 5 คำขอร้องของยายเฉลาลักษณ์ 2

21/02/2022

6

บทที่ 6 ตอนที่ : 6 คำขอร้องของยายเฉลาลักษณ์ 3

21/02/2022

7

บทที่ 7 ตอนที่ : 7 แตกหัก

21/02/2022

8

บทที่ 8 ตอนที่ : 8 แตกหัก 2

21/02/2022

9

บทที่ 9 ตอนที่ : 9 ที่พึ่ง

21/02/2022

10

บทที่ 10 ตอนที่ : 10 ที่พึ่ง 2

21/02/2022

11

บทที่ 11 ตอนที่ : 11 ที่พึ่ง 3

24/02/2022

12

บทที่ 12 ตอนที่ : 12 เจ้าหนูทำพิษ

24/02/2022

13

บทที่ 13 ตอนที่ : 13 เจ้าหนูทำพิษ 2

24/02/2022

14

บทที่ 14 ตอนที่ : 14 เจ้าหนูทำพิษ 3

24/02/2022

15

บทที่ 15 ตอนที่ : 15 ไม่พ้นบ้าน

24/02/2022

16

บทที่ 16 ตอนที่ : 16 ความหลัง

28/02/2022

17

บทที่ 17 ตอนที่ : 17 ความหลัง 2

28/02/2022

18

บทที่ 18 ตอนที่ : 18 รื้อฟื้นความหลัง

28/02/2022

19

บทที่ 19 ตอนที่ : 19 รื้อฟื้นความหลัง 2

28/02/2022

20

บทที่ 20 ตอนที่ : 20 ระแวง

28/02/2022

21

บทที่ 21 ตอนที่ : 21 ระแวง 2

28/02/2022

22

บทที่ 22 ตอนที่ : 22 ระแวง 3

28/02/2022

23

บทที่ 23 ตอนที่ : 23 แกล้งไม่รู้

28/02/2022

24

บทที่ 24 ตอนที่ : 24 แกล้งไม่รู้ 2

28/02/2022

25

บทที่ 25 ตอนที่ : 25 ห่วงรู้ไหม

28/02/2022

26

บทที่ 26 ตอนที่ : 26 ห่วงรู้ไหม 2

28/02/2022

27

บทที่ 27 ตอนที่ : 27 ความไม่ลับ

28/02/2022

28

บทที่ 28 ตอนที่ : 28 ความไม่ลับ 2

28/02/2022

29

บทที่ 29 ตอนที่ : 29 หัวอกของแม่

28/02/2022

30

บทที่ 30 ตอนที่ : 30 หัวอกของแม่ 2

28/02/2022

31

บทที่ 31 ตอนที่ : 31 เฝ้าไข้ลูก

28/02/2022

32

บทที่ 32 ตอนที่ : 32 เฝ้าไข้ลูก 2

28/02/2022

33

บทที่ 33 ตอนที่ : 33 ผลของการหน้ามืด

28/02/2022

34

บทที่ 34 ตอนที่ : 34 ผลของการหน้ามืด 2

28/02/2022

35

บทที่ 35 ตอนที่ : 35 ลูกผม

28/02/2022

36

บทที่ 36 ตอนที่ : 36 ลูกผม 2

28/02/2022

37

บทที่ 37 ตอนที่ : 37 แพ้หนัก

28/02/2022

38

บทที่ 38 ตอนที่ : 38 แพ้หนัก 2

28/02/2022

39

บทที่ 39 ตอนที่ : 39 วันที่รู้ใจ

28/02/2022

40

บทที่ 40 ตอนที่ : 40 วันที่รู้ใจ 2

28/02/2022