Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
52.7K
ชม
49
บท

เพราะการสูญเสียบุตรชายคนโตจากโรคร้าย ที่ติดมากับผู้หญิงมากหน้าหลายตา ผู้เป็นมารดาจึงต้องการปกป้องทายาทคนสุดท้ายของบ้านทยารัย ให้พ้นจากภัยมืดที่แฝงเร้นอยู่ในหมู่ผีเสื้อราตรี ไหมฟ้า ประดับดาว...หลานสาวแม่บ้านจึงเป็นเป้าหมายเดียวที่นางต้องการ และด้วยบุญคุณท่วมหัวทำให้สองป้าหลานไม่อาจขัดความประสงค์ของผู้เป็นนายได้ ไหมฟ้าจำต้องกลายเป็นดาวประดับเตียงให้กับเขา...นคินทร์ ทยารัย "จะหวงอะไรกันนักหนา พี่เห็นไปจนถึงมดลูกแล้วมั้ง" เขาดุเสียงดัง ซ้ำยังเปรียบเปรยชนิดที่คนฟังรับแทบไม่ได้ "พูดจาน่าเกลียดจัง" คำต่อว่าของไหมฟ้าทำให้นคินทร์ฉุนโกรธขึ้นมา ยกมือขึ้นบีบปลายคางของหญิงสาว บังคับให้มองสบสายตาดุกร้าวของตน "ไหมฟ้า...เธอเป็นใครแล้วพี่เป็นใคร กล้าดียังไงมาขึ้นเสียงใส่พี่ ก็แค่...เมียเก็บ จำเอาไว้" (ละอองราคี)

บทที่ 1 ตอนที่ : 1 บุญคุณต้องตอบแทน

1

บุญคุณต้องตอบแทน

ใบหน้าเศร้าแกมหม่นหมองของหลานสาว ทำให้ผู้เป็นป้าถึงกับหน้าเสียลงเมื่อได้เห็น ไพลินคิดว่าเรื่องนี้มันคงยากแก่การจะทำใจยอมรับได้ แต่จะให้ปฏิเสธอย่างไรได้ในเมื่อผู้มีพระคุณของนางขอร้องมา

“ว่ายังไงไหม” ไพลินถามย้ำอีกรอบ

ไหม หรือชื่อจริงว่า ไหมฟ้า ประดับดาว เงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นป้า แววตาไหวระริกไปด้วยความเจ็บปวด หากแต่หญิงสาวก็รู้ดีว่าท่านทำแบบนี้ก็เพราะว่าถูกคุณแสงระวีสั่งการมาอีกที ไหมฟ้ากลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะยิ้มแบบสุดจะฝืนแล้วเอ่ยตอบผู้เป็นป้า

“ถ้ามันจะทำให้คุณป้าสบายใจ ไหมทำก็ได้ค่ะ”

“ไหม ป้าไม่รู้จะพูดยังไง ไหมจะปฏิเสธก็ได้นะ แต่ว่าคุณแสงเธอก็จะผิดหวัง เข้าใจป้าใช่ไหมลูก” ไพลินนึกสงสารหลานสาวขึ้นมาจับใจ แต่เจ้านายผู้มีพระคุณก็สำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน

“เพราะว่าคุณแสงท่านเมตตาคุณป้า และคุณป้าก็เมตตาไหมอีกที ไม่เป็นไรหรอกค่ะหากเราจะทำให้ท่านสบายใจ อีกอย่างก็แค่หนึ่งปีเอง จากนั้นไหมก็จะมีอิสระใช่ไหมคะ” ไหมฟ้าพยายามปลอบใจตัวเอง ด้วยการฝืนเอ่ยออกมาให้เป็นปกติมากที่สุด ทั้งที่นี่คือเรื่องที่เธอทำใจยอมรับไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

“ใช่จ้ะ คุณแสงบอกว่าขอปีเดียว ท่านไม่อยากให้คุณคินไปมั่วกับผู้หญิงนอกบ้าน” ได้ยินแล้วไหมฟ้าก็ใจกระตุก

“...ค่ะคุณป้า”

‘เลยต้องให้มามั่วกับเธอแค่คนเดียวพอ’

หญิงสาวนึกอยากจะร้องไห้กับความจริงตรงหน้า อยู่ใต้ใบบุญของคุณแสงระวีทั้งป้าและหลานแบบนี้ จะไปขัดอะไรท่านได้ หากขัดไปก็จะได้กลายเป็นคนเนรคุณในทันที

“ไหม ป้าขอโทษนะลูก” ไพลินแตะหัวไหล่หลานสาวเบาๆ

“ไม่เป็นไรค่ะคุณป้า” แม้ปากจะพูดแบบนั้นแต่หัวใจก็เจ็บร้าวไปทั้งดวง สิ่งที่ถูกขอร้องมานั้น ช่างยากแก่การที่จะทำใจให้ยอมรับได้จริงๆ คนอื่นมีเป็นร้อยเป็นพันที่เขาเต็มใจ แล้วทำไมต้องเลือกเธอ

“ป้า ลำบากใจจริงๆ แต่ถ้าไหมไม่...” เห็นสีหน้าเศร้าของไหมฟ้าไพลินก็นึกอยากจะเปลี่ยนใจ

“ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะคุกดกดกดกดณป้า” หญิงสาวฝืนยิ้มให้ผู้เป็นป้าอีกหน ชีวิตของเธอถูกชุบเลี้ยงจากไพลินตั้งแต่บิดามารดาแยกทางกัน แล้วทิ้งเธอให้ท่านดูแล ส่วนบุพการีทั้งสองคนนั้นต่างก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัวของตัวเอง ไพลินไม่อยากให้เกิดปัญหาพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงขึ้นในภายหลัง จึงได้รับตัวเธอผู้เป็นหลานสาวมาเลี้ยงดู และด้วยความที่เป็นคนตัวคนเดียวไม่มีครอบครัว ไพลินจึงรักไหมฟ้าเสมือนหนึ่งลูกสาวของตัวเอง นับเป็นเวลาสิบสองปีแล้วที่ไหมฟ้าอยู่ในบ้านหลังนี้ ในฐานะหลานสาวของแม่บ้าน

“แล้ว...วันไหนคะคุณป้า” ถามเพราะต้องการใช้เวลาในการทำใจ

“ก็คงมะรืนนี้แหละไหม...คุณคินเรียกเมื่อไหร่ค่อยขึ้นไปหานะ”

ไพลินรู้สึกลำคอแห้งผากเมื่อต้องเอ่ยประโยคนี้ออกมา ไหมฟ้าเองก็หัวใจวูบหล่นไปอยู่ปลายเท้า เพียงเพราะว่าไม่อยากให้ลูกชายของตนเองเสี่ยงโรคร้าย คุณแสงระวีถึงกับให้เธอเป็นคนรองรับตัณหาของนคินทร์แทน

“ทำไมคุณคินไม่ป้องกันล่ะคุณป้า ไหมไม่เข้าใจ” ถามพร้อมกับสีหน้าคล้ายคนอยากจะร้องไห้

“คุณคินแกบอกว่าป้องกันอย่างดีแล้ว แต่คุณแสงท่านไม่ไว้ใจเผื่อพลาด อีกอย่างท่านก็กลัวจะไปทำใครป่องเข้าสักวัน” ไพลินบอกหลานสาวด้วยท่าทีหนักอกหนักใจอยู่ไม่น้อย เพราะไม่ว่าจะมองมุมไหนเรื่องนี้ไหมฟ้าก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นด้วยแม้แต่นิดเดียว

“แล้วไหมจะต้อง...เอ่อ” ไหมฟ้าไม่กล้าพูดต่อด้วยรู้สึกกระดากปากตัวเอง

“ป้าจะพาไปฉีดยาคุมกำเนิดทุกสามเดือนเอง”

ได้ยินแล้วก็พลันให้รู้สึกห่อเหี่ยวใจ ไหมฟ้าน้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาในทันที เธอเพิ่งจะยี่สิบเอ็ดได้รับปริญญาตรีมาไม่ถึงครึ่งปี กลับต้องมีสถานะเป็นนางบำเรอของนคินทร์เสียแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งอนาถใจ นคินทร์ไม่เคยชายตามองเธอเลยตลอดสิบสองปีที่ผ่านมา สถานะยังคงเป็นลูกชายเจ้าของบ้านกับผู้อาศัยอยู่ไม่เคยเปลี่ยน แต่ว่าอีกสองวันข้างหน้าทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป ความสัมพันธ์บางอย่างมันจะไม่เหมือนเดิม อดคิดไม่ได้ว่าเขาจะมองเธอแบบไหน จะรังเกียจหรือสมเพชดี

ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน คุณแสงระวีได้เรียกให้ไพลินเข้าไปพบและเอ่ยวัตถุประสงค์นี้ออกมา ครั้งแรกที่ได้ยินไพลินถึงกับหน้าชาไปด้วยความรู้สึกว่า ตัวเองและหลานสาวนั้นกำลังถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรีอยู่

‘ฉันไม่ได้จะดูถูกหนูไหมกับไพลินเลยนะ แต่ฉันไม่ไว้ใจใครเท่าหนูไหมแล้ว’ คุณแสงระวีบอกด้วยสีหน้าหนักใจ

‘คุณแสงคะ เรื่องนี้ไพลินไม่สามารถตัดสินใจเองได้ ต้องถามไหมก่อน’

‘ไม่เป็นไรไพลินฉันเข้าใจ แต่ฉันคาดหวังเอาไว้มาก ไพลินเห็นใช่ไหมข่าวที่ออกแต่ละวันตาคินควงสาวไม่ซ้ำหน้า ฉันเกรงว่าสักวันจะพลาดหรือเกิดติดโรคร้ายขึ้นมา ฉันจะไร้ทายาทสืบสกุล ตาคินเป็นลูกชายคนเดียวที่เหลืออยู่ของฉัน’

คนพูดมีแววตาสะท้อนถึงความเจ็บปวดออกมา และที่คุณแสงระวีต้องตัดสินใจทำแบบนี้ ก็เพราะว่าบุตรชายคนโตนั้นได้จากโลกนี้ไปเมื่อสองปีก่อนด้วยวัยแค่สามสิบสามปี จากโรคร้ายที่ติดมาจากบรรดาสาวกลางคืน

‘แต่คุณคินก็น่าจะคิดได้นะคะ เพราะว่ามีตัวอย่างจากพี่ชายให้เห็น’ ไพลินออกความเห็นของตัวเองบ้าง

‘ใช่ฉันรู้ ตาคินเคยบอกว่าป้องกันทุกครั้ง แต่ฉันเป็นห่วงหากวันไหนเมาจนเกิดขาดสติขึ้นมา ทุกอย่างมันก็อาจเกิดขึ้นได้’ ความวิตกกังวลนี้ส่งผลออกทางสภาพร่างกาย คุณแสงระวีนั้นข้าวปลาแทบไม่แตะ ร่างกายผ่ายผอมลงทุกวัน คนได้รับรู้ถึงกับเห็นอกเห็นใจผู้เป็นนายขึ้นมาครามครัน

‘ทำไมไม่พูดกับคุณคินตรงๆ ล่ะคะคุณแสง’

‘เคยแล้วไพลิน ตาคินก็เอาแต่ขำบอกว่าเลิกห่วงได้แล้ว เขาเป็นผู้ชายเรื่องแบบนี้ต้องมีบ้าง’ คุณแสงระวีเงยหน้ามองเพดาน ดวงตาส่อแววเศร้าออกมาอย่างชัดเจน เมื่อต้องนึกไปถึงเรื่องราวในอดีตที่เคยเกิดขึ้นกับบุตรชายคนโต ชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง กลับทิ้งภาพสุดท้ายอันแสนหดหู่เอาไว้ในความทรงจำของผู้เป็นมารดา

‘คุณแสงคะ’ เมื่อเห็นเจ้านายเงียบไปไพลินจึงเรียกเบาๆ

‘ตาเคนก็เคยพูดแบบนี้กับฉัน แล้วเป็นไง ไพลินเห็นแล้วใช่ไหมว่าวาระสุดท้ายของตาเคนเป็นยังไง’ น้ำตาคลอเบ้ายามเอ่ยถึงบุตรชายคนโต ไพลินเห็นแล้วก็หัวใจห่อเหี่ยวตามไปด้วย สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อตัดสินใจรับปากในเรื่องนี้

‘ก็ได้ค่ะคุณแสง เดี๋ยวไพลินจะไปคุยกับไหมให้นะคะ กลัวก็แต่...คุณคินนั่นแหละ’

‘ตาคินทำไมไพลิน’

‘ก็คุณคินจะรังเกียจไหมหรือเปล่าคะ ปกติก็ไม่ค่อยจะเห็นคุณคินแกชายตาแลหลานสาวของไพลินเลย’

‘ไม่หรอกไพลิน หนูไหมน่ารักอ่อนหวานและใสซื่อขนาดนั้น ต่างจากผู้หญิงเจนจัดของตาคินมากมายนัก แค่ได้อยู่ใกล้ๆ เถอะ คร้านจะติดใจ’

‘ก็หวังว่าคุณคินจะไม่ไล่ไหมออกจากห้องเสียก่อนนะคะ’

‘ฉันคิดว่าไม่เป็นแบบนั้นแน่ ฉันขอเวลาแค่ปีเดียวแค่นั้นนะไพลิน จากนั้นฉันจะหาลูกสะใภ้ให้เร็วที่สุด’ คุณแสงระวีคาดหวังเอาไว้สูง ไพลินเลยจำต้องนำเรื่องนี้ ไปบอกหลานสาวของตัวเองในวันรุ่งขึ้น

“ไหมถือว่าเห็นแก่ป้า แล้วก็เห็นแก่บุญคุณที่คุณแสงเมตตาเราสองคนนะลูก ตอบแทนท่านบ้างสักครั้งหนึ่ง”

ในอดีตนั้นไพลินเคยถูกสามีทอดทิ้ง แล้วขโมยทรัพย์สินของมีค่าไปจนหมดสิ้น ในตอนนั้นไพลินไม่ได้ทำงานเนื่องจากป่วยหนัก จนต้องออกจากงานที่ทำ เคราะห์ดีที่ว่าคุณแสงระวีไปพบเข้า ในวันที่ไม่มีแม้ข้าวสารสักเม็ดจะหุง ไพลินจึงมีที่ซุกหัวนอนและได้งานใหม่ในตำแหน่งแม่บ้าน แล้วยังสามารถจุนเจือให้หลานสาว ที่พ่อแม่แยกทางกันอย่างไหมฟ้าอีกคน

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ มาชาวีร์

ข้อมูลเพิ่มเติม
บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

โรแมนติก

5.0

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

โรแมนติก

5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

โรแมนติก

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ประวัติศาสตร์

4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

จอมโจรไฟมาร

จอมโจรไฟมาร

โรแมนติก

5.0

หื่น โหด เหี้ยม นั่นแหละเขา ไฟมาร!!! "เป็นเมียข้าไม่น่ากลัวสักนิด เมียข้าเจ้าชื่ออะไร" ไฟมารถามขณะที่สายตากวาดมองทั่วร่างงามของนางราวกับจะประมาณว่า ถ้าเลยลงไปส่วนอื่นมันจะงามล้ำปานใด "ตอบ! " เขาตะคอกเมื่อนางไม่ยอมปริปากบอกออกมา "กอพเยีย" นางรีบร้อนตอบด้วยความกลัว "กอ-พะ-เยีย ใครมันช่างตั้งชื่อให้เรียกยากเพียงนี้" ไม่พูดเปล่ามือสากก็เคลื่อนไปดึงมือของนางออกจากอกงามอย่างช้าๆ "มะ...ไม่ อย่า...ทำข้าเลย" น้ำเสียงสั่นเครือร้องขอน้ำตาก็ปิ่มจะย้อยหยดออกจากเบ้า "ข้าบอกแล้วไง ว่าเป็นเมียข้าไม่น่ากลัวสักนิด" ไฟมารยิ้ม หาได้ใส่ใจต่อคำขอของนางไม่ เคลื่อนตัวเข้าหาอีกคนอย่างช้าๆ "ไม่! " ด้วยความกลัวกอพเยียถึงกับกรีดร้องออกมาดั่งคนเสียสติ ยกมือทุบตีหน้าอกของจอมโจรเป็นพัลวัน "ยอมดีๆ ไม่ชอบนะกอพเยีย" ไฟมารคำรามด้วยความโมโหในอาการคล้ายคนจิตกระเจิงของนาง กดนิ้วลงบนต้นแขนนุ่มสุดแรงเกิด "โอ๊ย ไอ้คนชั่ว! ไอ้ถ่อย! " นางลืมกระทั่งความกลัว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ถูกกระทำต่ำช้าถึงเพียงนี้ น้ำตาพังทลายออกมาระลอกแล้วระลอกเล่าด้วยความเจ็บ (จอมโจรไฟมาร)

ลมหายใจของตาย

ลมหายใจของตาย

โรแมนติก

5.0

"ทำเป็นพูดดียกโน่นนี่มาอ้างที่แท้ก็ไม่มีปัญญาพาแฟนมาด้วย เป็นไงล่ะเลยมานั่งอิจฉาจ้องดาเสียตาแทบจะหลุดออกมาจากเบ้าอย่างนี้งั้นสิ" พิธานพูดจบก็ดึงหญิงสาวด้านข้างเข้ามาหอมแก้มอวดเพื่อนรักให้กระอักหัวใจเล่น "อีโธ่ ทำมาเป็นอวดใครมันจะโชคดีมีของดีของตายอย่างแกล่ะ เรียกเมื่อไหร่ก็มาปฏิเสธสักครั้งก็ไม่เคย" "พอๆ เลิกพูดมาดื่มได้แล้วไอ้อั๋น" ศรันย์ราชไม่ได้คิดก่อนพูด และพิธานก็ไม่ได้ตำหนิในคำพูดของเพื่อน คนที่ต้องกระอักและหนาวเหน็บไปทั้งหัวใจกลับเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงนี้ ของตาย คำนี้ไม่เคยคิดถึงมาก่อน และการที่ผู้ชายสองคนนี้เอ่ยมันออกมาเหมือนเป็นเรื่องปกติ นั่นย่อมหมายความว่าในสายตาของพิธาน เธอเป็นแค่ ของตาย

หนังสือที่คุณอาจชอบ

จำนนรักจอมเผด็จการ

จำนนรักจอมเผด็จการ

มหาเศรษฐี

5.0

แสงเหนือ เจ้าของฟาร์มวัวนม เป็นคนดุ ทำแต่งาน ไม่ยุ่งเกี่ยวกับใคร และเกลียดเด็ก! แต่กลับถูกขอร้องให้ช่วยดูแลลูกสาวของเพื่อน และใช่... คิดว่าสามขวบ ที่ไหนได้ยี่สิบสองต่างหาก นี่เวลาผ่านไปเร็วอะไรเบอร์นี้ แต่เขายังหล่อ รวย โสดอยู่เลย กับคำขอร้องของเพื่อนรุ่นพี่ ให้ดัดนิสัยลูกสาวให้แต่เขาปฏิเสธหัวชนฝา ไม่เอาเด็ดขาด แต่ความจริงบางอย่าง ทำให้เขาต้องช่วยเหลือและปฏิเสธไม่ได้ แคท หรือแคทรียา ลูกสาวท่านนายพลจากเมืองกรุงฯ ต้องจากบ้านอันแสนสุขสบาย ไปเลี้ยงวัว ล้างขี้วัว ตากแดดหน้าดำ เพื่อ... เพื่อหนีไอ้เฒ่าหัวงูหื่นกามที่มารดาสรรหามาให้ จะฟังพ่อหรือฟังแม่ก็เลือกเอา แน่นอนเธอเลือกฟังพ่อ แต่หนีเสือปะจระเข้หรือเปล่าไม่รู้ เพราะแค่วันแรก... ก็ทำเอาใจเหลวเป็นน้ำเพราะเจ้าของฟาร์มดันอวดสาขาใหญ่ให้เธอใจเต้น...

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

โรแมนติก

5.0

“คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?” ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

ฮัวฟู่หรง ฮูหยินร้ายแม่ทัพทมิฬ

ฮัวฟู่หรง ฮูหยินร้ายแม่ทัพทมิฬ

โรแมนติก

4.9

เมื่อฮัวฟู่หรงถูกวางแผนฆาตกรรมให้จบชีวิตลงบนสะพานข้ามแม่น้ำเฉียนถัง สาเหตุเพราะได้รับบทฮูหยินฮัวของแม่ทัพอินลี่ซานผู้เลื่องลือแห่งต้าฉิน ที่นำมาทำละครฟอร์มยักษ์แห่งปี ซึ่งบทดังกล่าวตกมาเป็นของฮัวฟู่หรง ดาราสาวน้องใหม่ที่กำลังมาแรงในวงการบันเทิงจีน และมีชื่อแซ่ที่ดันไปตรงกับตัวละคร ครั้นหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตัวเองมาอยู่ในอดีตยุคของขุนพลเทพแห่งต้าฉิน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแม่ทัพทมิฬอินลี่ซานที่กำลังพลิกแผ่นดินตามล่าค้นหาฮูหยินที่หายสาบสูญไป และเธอก็คือฮูหยินฮัวที่หายสาบสูญไปของแม่ทัพทมิฬ ที่สตรีทั่วหล้าต่างพากันริษยา หากแต่การกลับมาครั้งนี้ของฮัวฟู่หรง ดารา่สาวชื่อดังเธอไม่ได้ไร้เดียงสาดั่งเช่นในอดีตอีกต่อไป แต่เธอร้ายและก็ถือสากับทุกๆ คนที่ทำให้คนรอบข้างที่เธอรักต้องเจ็บและตายจากอย่างไม่หวนคืน ร้ายรักให้ถึงที่สุด ร้ายลึกทะลุไปจนสุดขั้วหัวใจ แต่ถึงร้ายอย่างไรก็เป็นหนึ่งในหัวใจของแม่ทัพทมิฬ เพราะแม่ทัพผู้กล้ารักมั่นต่อสตรีร้ายกาจนางนี้ยิ่งนัก

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

โรแมนติก

5.0

อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ละอองราคี
1

บทที่ 1 ตอนที่ : 1 บุญคุณต้องตอบแทน

21/02/2022

2

บทที่ 2 ตอนที่ : 2 บุญคุณต้องตอบแทน 2

21/02/2022

3

บทที่ 3 ตอนที่ : 3 ราคีอัปยศ

21/02/2022

4

บทที่ 4 ตอนที่ : 4 ราคีอัปยศ 2

21/02/2022

5

บทที่ 5 ตอนที่ : 5 ราคีอัปยศ 3

21/02/2022

6

บทที่ 6 ตอนที่ : 6 สมปรารถนาหรือร้าวไปทั้งทรวง

21/02/2022

7

บทที่ 7 ตอนที่ : 7 สมปรารถนาหรือร้าวไปทั้งทรวง 2

21/02/2022

8

บทที่ 8 ตอนที่ : 8 สมปรารถนาหรือร้าวไปทั้งทรวง 3

21/02/2022

9

บทที่ 9 ตอนที่ : 9 คืนที่สอง

21/02/2022

10

บทที่ 10 ตอนที่ : 10 คืนที่สอง 2

21/02/2022

11

บทที่ 11 ตอนที่ : 11 ว้าวุ่น

22/02/2022

12

บทที่ 12 ตอนที่ : 12 ว้าวุ่น 2

22/02/2022

13

บทที่ 13 ตอนที่ : 13 ว่าที่สะใภ้ทยารัย

22/02/2022

14

บทที่ 14 ตอนที่ : 14 ว่าที่สะใภ้ทยารัย 2

22/02/2022

15

บทที่ 15 ตอนที่ : 15 ว่าที่สะใภ้ทยารัย 3

22/02/2022

16

บทที่ 16 ตอนที่ : 16 ความลับไม่มีในโลก

22/02/2022

17

บทที่ 17 ตอนที่ : 17 ความลับไม่มีในโลก 2

22/02/2022

18

บทที่ 18 ตอนที่ : 18 อดีตที่อยากลืม

22/02/2022

19

บทที่ 19 ตอนที่ : 19 อดีตที่อยากลืม 2

22/02/2022

20

บทที่ 20 ตอนที่ : 20 ผลข้างเคียงของยาคุม

22/02/2022

21

บทที่ 21 ตอนที่ : 21 ผลข้างเคียงของยาคุม 2

23/02/2022

22

บทที่ 22 ตอนที่ : 22 ผลข้างเคียงของยาคุม 3

23/02/2022

23

บทที่ 23 ตอนที่ : 23 เจ้านายจอมเฮี้ยบ

23/02/2022

24

บทที่ 24 ตอนที่ : 24 ออกอาการ

23/02/2022

25

บทที่ 25 ตอนที่ : 25 ออกอาการ 2

23/02/2022

26

บทที่ 26 ตอนที่ : 26 หว่านเสน่ห์

23/02/2022

27

บทที่ 27 ตอนที่ : 27 หว่านเสน่ห์ 2

23/02/2022

28

บทที่ 28 ตอนที่ : 28 พลาดอีกแล้ว

23/02/2022

29

บทที่ 29 ตอนที่ : 29 พลาดอีกแล้ว 2

23/02/2022

30

บทที่ 30 ตอนที่ : 30 ทำตัวน่าเบื่อ

23/02/2022

31

บทที่ 31 ตอนที่ : 31 ทำตัวน่าเบื่อ 2

23/02/2022

32

บทที่ 32 ตอนที่ : 32 ได้ผลหรือไม่ได้

23/02/2022

33

บทที่ 33 ตอนที่ : 33 ได้ผลหรือไม่ได้ 2

23/02/2022

34

บทที่ 34 ตอนที่ : 34 คู่หมั้น

23/02/2022

35

บทที่ 35 ตอนที่ : 35 คู่หมั้น 2

23/02/2022

36

บทที่ 36 ตอนที่ : 36 หวั่นไหว

23/02/2022

37

บทที่ 37 ตอนที่ : 37 คลุมเครือ

23/02/2022

38

บทที่ 38 ตอนที่ : 38 คลุมเครือ 2

23/02/2022

39

บทที่ 39 ตอนที่ : 39 คลุมเครือ 3

23/02/2022

40

บทที่ 40 ตอนที่ : 40 ถอยคนละก้าวดีกว่าไหม

23/02/2022