กลลวงเล่ห์สวาท

กลลวงเล่ห์สวาท

B.J.BEN

4.0
ความคิดเห็น
48.9K
ชม
51
บท

“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน สบายดีเหรอครับ” เขาเอ่ยถามในขณะที่เธอเดินหนี รันนรินทร์ชะงัก เธอหันมาสบตากับเขา ว่างเปล่าและเฉยชา มันไม่มีความรักอยู่ในดวงตาคู่นี้อีกแล้ว เขาเหมือนอีกคนที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน “ฉันสบายดีค่ะ คุณก็คงสบายดีกับมะปราง” ตอกกลับไป เขาคงจะหน้าหงายหรือหน้าซีดที่ผิดต่อเธอ แต่เขากลับหัวเราะ “ครับ พวกเราสบายดี” รันนรินทร์รู้สึกว่าเธอเจ็บจุกไปถึงขั้วหัวใจ เขาใช้คำว่า “เรา” เขากับมะปราง... เธอบอกตัวเองว่าอย่าร้องไห้เด็ดขาด อย่ามีท่าทีอ่อนแอให้เขาเห็นอีก เธอพยายามทำให้น้ำตามันไหลย้อนกลับเข้าไปในหัวใจอันแสนเจ็บปวด “ก็ดีแล้วนี่คะ” หญิงร้ายชายเลว หญิงชั่วชายโฉด ผีเน่ากับโลงผุ อยากจะด่าออกไปแต่เธอจุกจนพูดไม่ออก ก้อนอะไรสักอย่างมันแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่คอหอย เธอรู้สึกถึงอาการพะอืดพะอมเหมือนจะอ้วก! “คุณก็คงสบายดีกับ... ผัวใหม่” สารเลวด้วยกันทั้งคู่ เห็นเขาเป็นไอ้งั่ง เป็นควาย กันภัยกัดกรามจนขึ้นสัน สิ่งที่เขาคิด แต่ไม่ได้พูดออกไปเพราะมันน่ารังเกียจที่จะเอ่ย คนทำก็ย่อมจะรู้อยู่แก่ใจ “ฉันสบายดีค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” “ไม่ทราบว่าเดินมาที่นี่ทำไมครับ มาระลึกความหลังว่าจะได้เจอไอ้คนโง่ๆ บ้านนอกเหรอครับ หรืออยากให้มันปรนเปรอจนร้องครางลั่นด้วยความเสียวซ่านเหมือนสมัยก่อนล่ะ” เพียะ!!! วินาทีนั้นเอง!!! รันนรินทร์ฟาดฝ่ามือลงบนซีกแก้มของเขาอย่างโมโห เขามีสิทธิ์อะไรมาพูดจาดูถูกเธอแบบนี้ มันยิ่งตอกย้ำว่าเขาหลอกลวงเธอ เห็นเธอเป็นของเล่น

บทที่ 1 1

เสียงตะหลิวผัดข้าวในกระทะเหล็กดังเป็นระยะๆ พร้อมกับกลิ่นอาหารที่ลอยอบอวลไปทั่วบริเวณร้านทำให้ลูกค้าสาวๆ ในร้านน้ำลายสอไปตามๆ กัน เพราะรสมือพ่อครัวสุดหล่อนั้นอร่อยยิ่งกว่าเชฟในโรงแรมหรูๆ เสียอีก

เพิงเล็กๆ ใช้ผ้ายางกันฝนและฝาสังกะสีตีกั้นเอาไว้พอทำกับข้าวได้ มีโต๊ะตัวเล็กๆ เก้าอี้พลาสติกสีแดงแบบไม่มีพนักพิง เหยือกน้ำพลาสติกถูกจัดวางไว้พร้อมกระดาษทิชชูสีชมพูและไม้จิ้มฟันบนโต๊ะแบบพับเก็บได้และกล่องใส่ช้อน ส้อมและตะเกียบวางใกล้กัน

พ่อครัวหนุ่มนามว่ากันภัย พัทธนพงศ์ อายุ 27 ปี เขาเป็นคนผิวสีแทนใบหน้าหล่อเหลาคมเข้ม

สาวๆ ที่มาอุดหนุนอาหารตามสั่งของร้านเล็กๆ แห่งนี้หรือจะเรียกว่าเพิงข้างทางก็ได้ นอกจากติดใจในรสมือแล้ว ยังติดใจพ่อครัวหนุ่มที่หล่อยิ่งกว่าพระเอกละครทีวีเสียอีก สาวๆ ในซอยเรียกเขาว่า “พี่กันสุดหล่อ” หล่อที่สุดในซอย

อีกฉายาก็คือ “พี่กันหล่อสุดซอย”

กันภัยเป็นคนขยันขันแข็ง สู้งาน แม้ฐานะครอบครัวจะยากจนก็ไม่เคยงอมืองอเท้า เขาทำงานทุกอย่างที่ทำได้ แต่ใจนั้นรักการทำอาหาร เลยหันมาลองเปิดร้านขายอาหารตามสั่งดู ลูกค้าแน่นร้านตั้งแต่เปิดร้านยันปิดร้าน

ความฝันของกันภัยมีอยู่มากมายเต็มหัว เขาอยากจะทำอะไรตั้งหลายอย่าง ไม่อยากเอาความยากจนของครอบครัวที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิดมาเป็นปมด้อย หรือเรียกร้องความเห็นใจจากคนอื่น เพราะเขาคิดว่าคนเราจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องลงมือทำ ต้องขยัน มีวินัย อดออมและรู้จักลงทุน ไม่ใช่รอแค่โชคชะตา

“ได้แล้วครับ ข้าวผัดกะเพราสิบกล่อง”กันภัยยื่นกล่องข้าวผัดกะเพราให้ลูกค้าสาวที่ชม้ายชายตามองเขาไม่วาง เธอทำงานอยู่แถวนี้ ทุกวันก็จะอาสามาซื้อกับข้าวไปให้พนักงานคนอื่นๆ

“ขายแค่กล่องละยี่สิบห้าบาท ถูกแบบนี้จะได้กำไรสักกี่บาทกันคะ” คนเอ่ยถามยิ้มหวานหยด ยื่นมือไปรับกล่องข้าวไม่พอ ยังไล้มือขึ้นไปหา ทอดสะพานให้อย่างออกนอกหน้า

กันภัยรับเงินอย่างสุภาพ เขายิ้มรับก่อนตอบเสียงนุ่ม

“ยี่สิบห้าบาทก็ได้กำไรแล้วครับ กะเพรากับพริกผมปลูกเองครับ”

“แหม... หล่อแล้วยังขยันอีกด้วย ไม่อยากหาคนมาช่วยปรนนิบัติพัดวีหลังเลิกงานบ้างเหรอคะ” คนถามยิ้มหวานหยดส่งไปให้

“จนๆ แบบผมคงไม่มีใครเอาหรอกครับ” กันภัยพูดจริงๆ จากใจ

เขารู้ว่ามีผู้หญิงทอดสะพานให้มากมายเพราะหน้าตาของเขา แต่ความจริงใจนั้นเขายังไม่แน่ใจ คนเราต่อให้หล่อให้หน้าตาดีขนาดไหนแต่จะมีใครรักจริงยอมกัดก้อนเกลือกินในยุคสมัยนี้นั้นหายากยิ่ง

เขาเองก็เป็นผู้ชาย หากมีครอบครัวแล้วคงทนให้ครอบครัวลำบากไม่ได้ อยากดูแลลูกเมียให้ดีที่สุด เขาจึงอยากเก็บเงินสักก้อน ขยับขยายกิจการของตัวเองให้มั่นคง แล้วค่อยคิดเรื่องแต่งงาน หัวใจของเขาในเวลานี้กระหวัดไปถึงใครคนหนึ่ง คนที่ทำให้เขามีแรงกายแรงใจที่จะมุ่งมั่นกับการทำงานเพื่อสร้างฐานะให้เป็นปึกแผ่น เขาเชื่อเสมอว่าหากมุ่งมั่นสักวันต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

“แหม... ขยันอย่างพี่กัน ใครได้เป็นแฟน โชคดีมากเลยค่ะ ถ้ามีแฟน แฟนคงรักมากๆ นะคะนี่” คนพูดยิ้มหวานส่งมาให้อีก ก่อนจะตัดใจเดินกลับไปยังที่ทำงานของตัวเอง เป็นร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ประจำจังหวัดที่มีพนักงานจำนวนมากและใครๆ ก็มักพาคอมพิวเตอร์มาซ่อมที่นี่ โรงเรียนและหน่วยงานของรัฐก็มาใช้บริการเป็นประจำ

“กะเพราไก่จานนึงค่ะ” เสียงหวานที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้กันภัยหันไปมอง เขาจำเสียงของเธอได้ รันนรินทร์ วรกานต์ หญิงสาววัย 23 ปี

เธอเป็นผู้หญิงที่ยิ้มหวานที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอมา อีกฝ่ายเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี ในสาขาวิชาบริหารธุรกิจ การเงินและการธนาคารจากกรุงเทพฯ บิดามารดาของเธอเป็นเศรษฐีร่ำรวยที่สุดในจังหวัด มีบ้านเช่าหลายหลัง พร้อมด้วยที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อีกมากมาย และยังปล่อยเงินกู้อีกด้วย

“ไข่ดาวไหมครับ” กันภัยเอ่ยถามพร้อมรอยยิ้ม คนตอบยิ้มแก้มปริก่อนพยักหน้า

“ค่ะ เอาแบบข้างนอกกรอบ ไข่แดงเยิ้มนะคะ”

“ครับ”

“พี่กันทำอาหารอร่อยกว่าเชฟที่โรงแรมดังๆ ในกรุงเทพฯ อีกนะคะ” เธอเอ่ยชมจากใจ

“ยอกันเกินไปแล้ว พี่พอทำได้ ขายไปวันๆ น่ะครับ”

“ที่ไหนกันล่ะ นี่ถ้าไปทำขายที่กรุงเทพฯ รับรองว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเชียวค่ะ” รันนรินทร์มองร่างสูงแข็งแรงของพ่อครัวหนุ่มแล้วอมยิ้ม กันภัยเป็นคนตัวสูง เขาสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตร ใบหน้าของเขาหล่อเหลา คางผ่า หน้าเรียวคมเข้ม ร่างสูงเพรียว แข็งแรง มีกล้ามให้เห็นเป็นมัดๆ ไร้ไขมันส่วนเกิน เขามีผมดกหนา ดำสนิท คิ้วเข้ม ริมฝีปากกว้างรับกับจมูกโด่งเป็นสัน

เธอไล่มองไปตามเรือนร่างแล้วเผลอกลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะเผยอ ริมฝีปากยั่วยวน สายตามองสัดส่วนบนใบหน้าอย่างอ้อยอิ่ง ปลายครางมีรอยเคราเขียวครึ้มที่เพิ่งผ่านการโกนมา

“เสร็จแล้วครับ กะเพราไก่ไข่ดาว”

“ไข่ดาวของพี่กันเป็นรูปหัวใจ” คนถามหน้าแดง

“ก็ใจดวงนี้ยกให้น้องรันคนเดียว” ไม่เกรงใจว่าจะมีลูกค้าเข้ามาอีก เขาจะร้องเพลงจีบเธอเสียเลย

“สาวๆ ติดตรึม รันเห็นนะ”

“แค่ลูกค้าเองครับ พี่รักเดียวใจเดียว” กันภัยมีความสุขเสมอที่ได้พูดคุยกับคนตรงหน้า เขากับเธอตัดสินใจคบกันเป็นแฟนหลายเดือนแล้ว แต่อาภัพหน่อย ตรงที่ต้องเป็นแฟนกันแบบหลบๆ ซ่อนๆ บิดามารดาของเธอนั่นแหละคือปัญหาใหญ่ แต่เขาไม่เคยย่อท้อ จะเพียรสร้างเนื้อสร้างตัวให้ เขารักเธอจริงๆ จะไม่ยอมให้เธอน้อยหน้าหรืออับอายใครเด็ดขาดหากต้องแต่งงานกับคนอย่างเขา

รันนรินทร์เป็นผู้หญิงผิวขาวจัด ขาวเนียนผุดผ่องอมชมพูไม่ได้ขาวซีดอย่างสาวเมืองกรุงฯ บางคน ใบหน้าของเธอเรียวรูปไข่ มีลักยิ้ม เธอยิ้มหวานเหลือเกินในความรู้สึกของเขา ดวงตาสวยใสเป็นประกาย ผมนุ่มสลวยสีดำขลับเป็นลอน เงางามสุขภาพดี

“ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเลยค่ะ” เธอว่ายิ้มๆ แต่เขารู้ว่าเธอแหย่เล่นไม่ได้จริงจังอะไร

“วันนี้จะชวนไปดูอะไร”

“อะไรคะ?”

“ข้าวผัดพริกไข่ดาวสองจานค่ะ” เสียงลูกค้าที่สั่งอาหารก่อนจะทรุดนั่งลงที่โต๊ะ ทำให้กันภัยต้องละสายตาจากแฟนสาวไปเร่งทำอาหารให้ลูกค้าทั้งสองโดยเร็ว

“ขายดีจริงๆ เลยนะคะพี่กัน ไม่คิดจะหาคนช่วยบ้างเหรอคะ” ลูกค้าสาวเอ่ยถาม กันภัยเพียงแค่ยิ้มรับ รันนรินทร์หน้างอเล็กน้อย กันภัยหันมามองเพื่อบอกเธอทางสายตาว่าเขาไม่สนใจใครนอกจากเธอคนเดียวเท่านั้น

กันภัยไม่มีโอกาสได้คุยกับแฟนสาวเลยเมื่อลูกค้าทยอยเข้ามาในร้านเยอะขึ้น รันนรินทร์นั่งมองแฟนหนุ่มแล้วอมยิ้ม กันภัยปาดเหงื่อเบาๆ เมื่อรับเงินจากลูกค้าหลายคนเก็บเข้าในลิ้นชัก วันนี้เขาขายดีและคิดว่าจะปิดร้านเร็วกว่าปกติ

“พี่กันจะชวนรันไปไหนคะ” หญิงสาวแอบกระซิบถาม เธอนัดเจอกับเขาก็ต้องแอบไปกันคนละครั้ง ไปพร้อมกันไม่ได้ เพราะกลัวโดนบิดามารดาจับได้

“จะชวนไปบ้านหน่อยครับ” เขายกมือขึ้นลูบท้ายทอยไปมาอย่างเก้อเขิน

“แน่ะ! ชวนสาวไปบ้าน แล้วหน้าแดงทำไมคะ”

“กลัวสาวไม่ไป” คนตอบพาซื่อ ทำเธอยิ้มขำ

“จะไปดีไหมนะ” รันนรินทร์แกล้งพูดเหมือนตัดสินใจ

“พี่สัญญาว่าจะไม่ล่วงเกินรัน แค่จะพาไปดูอะไรเท่านั้นเอง”

“ไปก็ได้ค่ะ รันรู้หรอกค่ะว่าพี่กันไม่ทำอะไรรันหรอก” รันนรินทร์ยิ้มให้เขา รู้ดีว่ากันภัยไม่ทำอะไรตนแน่นอน แถมไปกับเขาไม่มีอันตรายอะไร นอกจากความปลอดภัยเพราะชายหนุ่มเป็นสุภาพบุรุษเอามากๆ

ตัดสินใจคบกันเป็นแฟนเกือบครึ่งปีแล้ว เขาไม่เคยกล้าแตะเธอเลย เธอเป็นคนเริ่มกุมมือเขาก่อนในครั้งแรก

“ไปกันเถอะครับ” เขาบอกหลังจากที่เก็บร้านเรียบร้อยแล้ว

เขายิ้มกว้างอย่างดีใจ กันภัยเป็นคนซื่อๆ ขยัน เธอชอบที่เขาไม่เจ้าชู้ ไม่หลงตัวเอง ไม่ขี้เกียจ สะอาดสะอ้าน แม้เขาไม่ได้มีฐานะร่ำรวยแต่ตัดเล็บมือเล็บเท้าสะอาดเรียบร้อย เสื้อผ้าซักรีดหอมกรุ่น ผมเผ้าไม่ยุ่งเหยิง ตัดแต่งเข้าทรง หล่อเหลาเรียบร้อย สระผมเสียหอมกรุ่นในทุกๆ วัน เขาไม่มีกลิ่นตัว แต่กลับมีกลิ่นผู้ชายที่น่าหลงใหล

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
วิวาห์คลั่งรัก

วิวาห์คลั่งรัก

สมัยใหม่

5.0

เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน

คู่หมั้นไร้เสน่หา

คู่หมั้นไร้เสน่หา

โรแมนติก

5.0

เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

จาก ภรรยาผู้ถูกทอดทิ้ง สู่ ทายาทหญิงผู้ทรงอำนาจ

Gavin
5.0

ชีวิตแต่งงานของฉันพังทลายลงในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัดขึ้นมาเองกับมือ วินาทีหนึ่ง ฉันคือภรรยาผู้มีความสุขและกำลังตั้งครรภ์ของเก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อวงการเทคโนโลยี วินาทีต่อมา หน้าจอโทรศัพท์ของนักข่าวคนหนึ่งก็ประกาศให้โลกรู้ว่าเขากับพราว นิธิวัฒน์ รักแรกในวัยเด็กของเขา กำลังจะมีลูกด้วยกัน ฉันมองข้ามห้องไป เห็นพวกเขาสองคนยืนอยู่ด้วยกัน มือของเก้าวางอยู่บนท้องของพราว นี่ไม่ใช่แค่การนอกใจ แต่มันคือการประกาศต่อสาธารณะที่ลบตัวตนของฉันและลูกในท้องของเราให้หายไป เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง... พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้ ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี... เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

รอยรักรอยร้าว

รอยรักรอยร้าว

Del Goodman
5.0

เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

Me'JinJin
4.9

คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ