Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
เล่ห์มารซาตานทมิฬ

เล่ห์มารซาตานทมิฬ

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
72.2K
ชม
100
บท

“อุ๊ย!” ภัทรวนันต์อุทานอย่างตกใจเมื่อทำท่าจะปิดประตู เขาแทรกตัวเข้ามาอย่างรวดเร็วและกดล็อกประตูห้องเอาไว้ เสียงล็อกประตูห้องทำให้เธอสะดุ้งสุดตัว ตาโตเบิกกว้าง มองใบหน้านิ่งๆ ของเขาแต่ดวงตาฉายแววประหลาดล้ำ “พี่คุณเข้ามาทำไมคะ กรุณาออกไปด้วย” ภัทรวนันต์รับรู้ถึงความไม่ปลอดภัยของตัวเอง เธอถอยหนีอย่างระแวดระวัง “เธอไล่ฉันอีกแล้วเหรอ” เขาถามอย่างไม่พอใจ “ไม่ได้ไล่ค่ะ แต่ชายหญิงไม่ควรอยู่ด้วยกันในห้องตามลำพัง มันจะไม่งาม อีกอย่างพัดจะอาบน้ำเปลี่ยนชุด ไม่สะดวกใจมากๆ ที่จะให้พี่คุณอยู่ในห้อง หรือถ้าพี่คุณมีอะไรก็รีบพูดมาเถอะค่ะ ทุกคนกำลังรอทานอาหารอยู่ข้างล่าง” ภัทรวนันต์ถอยหนี ฝีเท้าหนักก้าวตามมาหาอย่างคุกคาม เธอพยายามพูดให้เขาเห็นใจ “แต่คำพูดเธอมันเหมือนไล่” เขาสาวเท้าเข้าหาเบียดหญิงสาวจนชิดกับผนังห้อง ภัทรวนันต์จึงถูกกักเอาไว้ภายใต้อ้อมแขนแกร่ง “พี่คุณคะ ได้โปรดอย่าทำอะไรพัดเลย” หญิงสาวขอร้องเสียงสั่น

บทที่ 1 1

เด็กสาวขี้เหร่

“ฮือ ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ระงมของเด็กหญิงวัยสิบสี่ไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มวัยยี่สิบสามสงสารหรือเห็นใจเลยสักนิด มีแต่จะเพิ่มความรำคาญและไม่ชอบใจมากขึ้นเรื่อยๆ ดูจากใบหน้าเข้ม ดวงตากระด้าง ริมฝีปากบิดหยันแฝงด้วยเพลิงโทสะอย่างชัดเจน

“หยุดร้องได้แล้วยัยเด็กเหลือขอ ฉันบอกให้เธอหยุดร้องยังไงเล่า หูหนวกหรือไง” คุณธรรม อิทธิ ทายาทคนเดียว เจ้าของไร่บารมีตะโกนใส่หน้าเด็กหญิงภัทรวนันต์ รุ้งแก้ว ซึ่งเป็นบุตรสาวเพื่อนรักของบิดามารดาเขา ท่านทั้งสองได้อุปการะเลี้ยงดูภัทรวนันต์หลังจากที่มารดาของเธอเสียชีวิตเมื่อไม่นานมานี้เอง

“น้องพัดเจ็บหัวเข่า” ภัทรวนันต์ร้องไห้สะอึกสะอื้น มือเล็กๆ ป้อมๆ ป้องแผลที่หัวเข่าเอาไว้ มันทั้งเจ็บทั้งแสบ แถมเธอยังขาแพลงอีกด้วย ยอมรับว่าเป็นคนกลัวเลือด ตอนนี้ใบหน้าอวบกลมซีดเผือด น้ำหูน้ำตาไหลอาบแก้มที่มีสิวขึ้นไปทั่ว แถมยังเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่น่ารังเกียจ เนื่องจากเด็กน้อยผ่านความลำบากมามากและไม่เคยได้ดูแลตัวเองดั่งคนอื่นๆ ทั่วไป เพราะต้องช่วยมารดาตรากตรำทำงาน ดังนั้นจึงไม่น่ามองในสายตา สำหรับใครหลายๆ คน

“อย่ามาสำออยไปหน่อยเลย ลุกขึ้นและกลับบ้านไปซะ วิ่งตามฉันมาทำไม ฮะ! น่ารำคาญที่สุด” คุณธรรมดุเด็กสาวหน้าหงิกงอ น้ำเสียงรำคาญปนด้วยความหงุดหงิดใจ

ภัทรวนันต์ร้องไห้เสียงดังมากขึ้น ตกใจเสียงตวาดดุดันของอีกฝ่ายจนตัวสั่นงันงก ทั้งเจ็บแผล มองเห็นเลือดที่ไหลออกมาก็หน้าซีดเผือดเหมือนจะเป็นลม

“นี่ยัยเด็กบ้านี่ ฉันบอกให้เธอลุกยังไงเล่า โง่หรือไง” คุณธรรมกระชากแขนเด็กสาวให้ลุกอย่างโมโห

“โอ๊ย!” ภัทรวนันต์ร้องด้วยความเจ็บเมื่อโดนกระชากแขนเต็มแรง

“ลุกขึ้นมาสิ ยัยเด็กหน้าตาอัปลักษณ์ หน้าตาขี้เหร่แล้วยังขี้แยน่ารำคาญที่สุด จะทำตัวน่ารังเกียจไปถึงไหน ฮะ!” คุณธรรมตวาด ดวงตาวาววับ เพื่อให้อีกฝ่ายหยุดร้องไห้ แต่กลับทำให้ภัทรวนันต์ร้องไห้หนักมากยิ่งขึ้นด้วยความกลัว

“ฮือๆๆ พี่คุณ น้องพัดเจ็บ ปล่อยน้องพัดนะคะ” ภัทรวนันต์อ้อนวอนขอ เสียงสะอื้นฮักๆ

“ใครเป็นพี่เธอ ยัยเด็กเจ้ามารยา ฉันไม่มีน้องสาว ไม่เคยคิดอยากนับญาติกับเธอ” คุณธรรมตวาดใส่เด็กสาวด้วยความโมโห เขาไม่อยากนับญาติกับเด็กผู้หญิงคนนี้ หน้าตาก็หาความสวยไม่เจอ ผอมแห้ง สิวเขรอะ แถมยังเจ้ามารยาอ้อนให้บิดามารดาของเขารักใคร่เอ็นดู จนบางครั้งท่านทั้งสองแทบลืมไปว่ายังมีเขาเป็นลูกอยู่อีกคน

เท่านั้นยังไม่พอ คิดจะให้พ่อแม่เขารับเป็นสะใภ้ ถามเขาสักคำไหมว่าต้องการยัยเด็กนี่เป็นภรรยาในอนาคตหรือเปล่า แค่คิดเขาก็อยากจะกระอัก อยากจะอาเจียนที่ต้องมีภรรยาหน้าตาอัปลักษณ์มองไปทางไหนก็ไม่น่าพิสมัยในสายตาสักนิด

“ตายแล้ว นั่นลูกทำอะไรน้อง” จันทร์ระวีกับคุณากร มารดากับบิดาของคุณธรรมมองเหตุการณ์อย่างตกใจ

“คุณป้าขา...” ภัทรวนันต์เรียกจันทร์ระวีด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำหูน้ำตาไหลพรากๆ เลือดที่หัวเข่าไหลออกมาไม่หยุด แผลลึกพอสมควร เพราะหกล้มกระแทกกับหินแหลมที่ฝังอยู่บนดิน ใบหน้าซีดเผือดคล้ายจะเป็นลม เหตุการณ์ร้ายๆ ในอดีตและเลือดทำให้เธอกลัวจนสั่นระริกฟันกระทบกันอย่างน่าเวทนา

“หนูพัด เป็นไงบ้างลูก ดูสิเลือดไหลไม่หยุดเลย กรคะ คุณอุ้มหนูพัดหน่อยค่ะ พาไปทำแผลก่อน” จันทร์ระวีพูดกับสามี คุณากรรีบเข้าไปอุ้มเด็กสาวเอาไว้ ก่อนจะพูดเสียงเข้มกับบุตรชาย...

“เจ้าคุณ ตามพ่อกับแม่เข้ามาในบ้าน” เสียงเข้มเครียดของบิดาทำให้คุณธรรมไม่กล้าขัดใจ ตวัดมองร่างผอมในอ้อมแขนบิดาอย่างคาดโทษ โดยมีคนอื่นๆ ลอบมองอย่างสงสารเด็กสาว

“เจ้ามารยาชะมัดยาด” ลลนา หลานสาวป้านวล แม่บ้านประจำไร่บารมีเบะปากอย่างหมิ่นแคลน

“มองคนอื่นในแง่ร้าย น้องพัดเจ็บจริงๆ ไม่ได้มารยา ใครๆ ก็เห็น” อัครเดชแก้ต่างให้เด็กสาวที่เขาสงสารและเอ็นดูเพราะกำพร้าบิดามารดาเหมือนกัน ส่วนเขานั้น คุณากรกับจันทร์ระวีได้อุปการะเอาไว้ตั้งแต่เด็กเช่นกัน

คุณธรรมเดินตามบิดามารดาเข้ามาในบ้าน ป้านวลรีบไปหยิบอุปกรณ์ปฐมพยาบาลตามคำสั่งของเจ้านายในทันที นางทำแผลให้ภัทรวนันต์ที่ร้องไห้สะอื้นเบาๆ อย่างเอ็นดูปนสงสาร เหลือบมองใบหน้าของเจ้าของบ้านเล็กน้อย พอจะรู้ว่าเป็นฝีมือของคุณหนูของนางอย่างแน่นอน

ลลนายืนเหยียดปากอยู่ไม่ไกลนัก นึกสะใจที่เห็นคุณธรรมรังเกียจยัยเด็กนี่ สวยก็ไม่สวย แถมยังขี้เหร่อีก ไม่อยากจะเชื่อว่าจะทำให้คุณากรและจันทร์ระวีที่เคยรักเอ็นดูตนยิ่งกว่าใครๆ หันเหแบ่งความรักไปให้อย่างเต็มเปี่ยม ความอิจฉาริษยามันล้นในหัวใจแทบอกระเบิดเมื่อแอบล่วงรู้ว่าเจ้าของบ้านทั้งสองหมายมั่นปั้นมือจะให้ยัยเด็กกำพร้านี่แต่งงานกับคุณธรรมในอนาคต เธอไม่มีวันยอมแน่นอน คุณธรรมต้องเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว

“ทำไมแกปล่อยให้น้องเจ็บหนักขนาดนี้ แกเป็นคนใจไม้ไส้ระกำตั้งแต่เมื่อไหร่” คุณากรเริ่มสอบสวนบุตรชายเสียงเข้มดุ สีหน้าและแววตาบอกว่าไม่พอใจอย่างมาก

“ผมยังไม่ได้ทำอะไรยัยเด็กนั่นซะหน่อย” คุณธรรมหงุดหงิดใจยิ่งนักที่โดนบิดาดุอีกแล้ว ตั้งแต่เด็กหน้าตาอัปลักษณ์ ผอมเหมือนกุ้งแห้ง สิวเขรอะคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้านก็ดูเหมือนพวกท่านจะรักยัยเด็กบ้านี่มากกว่าเขา แถมยังคิดเป็นตุเป็นตะว่าจะให้เขาแต่งงานกับยัยเด็กหน้าตาน่าเกลียดคนนี้ เขาไม่มีวันแต่งงานกับเด็กคนนี้เด็ดขาด เขาเกลียดการถูกบังคับและมันหมดสมัยคลุมถุงชนไปนานแล้ว

“เดี๋ยวนี้แกขึ้นเสียงกับพ่อหรือไง” คุณากรไม่ชอบใจที่บุตรชายแสดงสีหน้าแบบนี้กับตน คุณธรรมกำหมัดแน่น ตวัดสายตามองยัยเด็กตัวปัญหานั่น เขาโดนบิดาตีทำโทษกี่ครั้งแล้วเพราะยัยเด็กนี่

“ผมแค่ชี้แจงครับพ่อ ว่าผมไม่ได้ทำอะไรยัยเด็กนี่”

“ทำไมแกเรียกน้องแบบนั้น” คุณากรไม่ชอบใจในคำพูดของบุตรชาย

“เค้าวิ่งตามผมแล้วสะดุดหกล้มเอง ก็ช่วยไม่ได้ พ่อจะให้ผมทำยังไงล่ะครับ” คุณธรรมถามกลับเสียงเข้มไม่ต่างกัน

“แกยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือเปล่า น้องวิ่งตามเพราะอยากจะเล่นกับแก แต่แกทำท่ารังเกียจน้องแบบนี้ น้องน้อยใจแย่”

“ผมขอบอกพ่อกับแม่ไว้เลยว่าผมจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ผมขอคุณตากับคุณยายเอาไว้แล้ว ท่านอนุญาต ไหนๆ ผมก็เรียนจบปริญญาตรีแล้ว เชิญคุณพ่อกับคุณแม่โอ๋ยัยเด็กนี่ไปเถอะครับ ผมมันไม่ใช่ลูกรักแล้วนี่ครับ ต่อไปคงยกทรัพย์สมบัติให้ยัยเด็กเหลือขอนี่จนหมด ยัยเด็กนี่คงออดอ้อนจนคุณพ่อกับคุณแม่ตายใจ”

“ตายแล้ว! ตาคุณ ทำไมลูกพูดแบบนี้กับพ่อกับแม่” จันทร์ระวียกมือขึ้นทาบอก

“ผมขอบอกไว้ตรงนี้เลยนะครับ ว่าผมไม่มีทางแต่งงานกับยัยเด็กหน้าตาอัปลักษณ์คนนี้เด็ดขาด อย่าคิดว่าผมไม่รู้ที่คุณพ่อกับคุณแม่คาดหวังอะไรลมๆ แล้งๆ ชีวิตของผม ผมเลือกเอง”

“ไอ้คุณ!!!” คุณากรโกรธจนตัวสั่น

เผียะ!!! เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าของบุตรชายจนหน้าหัน

“พ่อตบผมเพราะยัยเด็กบ้านี่เหรอครับ” คุณธรรมมองหน้าบิดาอย่างเสียใจ

“คือพ่อ” คุณากรเองก็ตกใจ อย่างมากเขาก็แค่ตีทำโทษ แต่ไม่เคยลงไม้ลงมือรุนแรงถึงขั้นตบตีหนักๆ แบบนี้

ใบหน้าของคุณธรรมเป็นปื้นแดง ภัทรวนันต์ตกใจที่เห็นคุณากรทำอะไรรุนแรงแบบนี้ จันทร์ระวีรีบเข้าไปดูบุตรชายอย่างตกใจไม่แพ้กัน

“ผมไม่เป็นอะไรครับคุณแม่ ผมจะออกเดินทางวันมะรืน จองตั๋วเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ขอตัวก่อน” แผ่นหลังกว้างของบุตรชายเดินจากไป คุณากรทรุดตัวลงนั่งอย่างอ่อนแรง มองมือตัวเองอย่างโมโหที่ทำรุนแรงขนาดนี้

“กรคะ ไม่เป็นไรนะ ตาคุณคงแค่โมโห แต่อีกเดี๋ยวก็คงหายโกรธ” จันทร์ระวีปลอบใจสามี

“ช่างมัน มันจะไสหัวไปไหนก็เรื่องของมัน” คุณากรแม้จะรู้สึกผิดแต่กลับไม่ยอมอ่อนลง คุณธรรมได้ยินคำพูดบิดาเต็มสองหู เขายิ่งเกลียดชังตัวต้นเหตุมากขึ้นไปอีก

“พัดขอโทษค่ะ ฮึกๆๆ ฮือๆๆ เพราะพัดเลยทำให้พี่คุณโกรธ”

“ไม่ใช่ความผิดของหนูหรอกจ้ะ อย่าคิดมากเลย” จันทร์ระวีโอบกอดปลอบประโลมเด็กสาววัยสิบสี่ด้วยความสงสาร

คุณธรรมกระแทกหมัดกับกำแพงด้วยความโมโห ถึงขนาดนี้ทุกคนยังเข้าข้างยัยเด็กอัปลักษณ์มารยาสาไถยนั่น!!!

ลลนาที่ยืนฟังอยู่อีกด้านถึงกับหน้าซีดเผือด คุณธรรมจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศ

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

หย่าให้รักร้าวราน

หย่าให้รักร้าวราน

คุณธิดา
5.0

หากความรักของเราเปรียบเหมือนแก้วใบหนึ่ง แก้วใบนี้คงร้าวจนใกล้แตกเต็มที อีกฝ่ายต้องการประคองรักนี้ไว้อย่างอดทน แต่อีกคนกลับทำลายจนหัวใจของเธอย่อยยับแหลกลาน ความอดทนของคนเรามีวันที่สิ้นสุดน่ะ “หย่า” คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเขาไปในที่ชอบ ๆ ทางใครทางมัน แต่เมื่อเวลาพัดผ่าน ด้วยเหตุผลของกามเทพ ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง และเมื่อได้พบหน้าเธอ เขาขอแก้ตัว และบอกเธอว่า เขายังรักเธอ ทว่าในวันที่เธอเดินจากไป เธอมีลูกน้อยติดท้องมาด้วย และปัญหาของคนเป็นแม่ เจ้าเด็กน้อยหนูอยากจะมีพ่อครับ แล้วเธอควรทำอย่างไรต่อไป ++++++++++ คำโปรย เมื่อเข้าไปถึง และเห็นภาพตรงหน้า ปริญเขาไม่ได้อยู่คนเดียว ในอ้อมกอดและวงแขนของเขา มีร่างผู้หญิงคนหนึ่ง และสิ่งที่ทำให้หัวใจของทอดาวสลาย ทั้งสองคนกำลังจูบกัน เพล้ง... ข้าวของในมือร่วงลงไป พร้อมกับร่างของทอดาวที่แทบทรุด เธอเซไปจนปะทะกับฝาบ้าน คนสองคนที่กำลังจูบกันอยู่รีบผละออกจากกันแล้วหันมามอง ทอดาวแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำไป เธอไม่เคยคิดเลยว่าปริญเขาจะทำแบบนี้กับเธอ ทำอะไรที่แสนทุเรศในบ้านที่เป็นเรือนหอของเธอกับเขา ทอดาวน้ำตาคลอ เธอพยายามประคองสติโดยใช้ฝาผนังเป็นที่พึ่ง ‘แล้วลูกของเราล่ะ และนี่คืออะไร มันหมายความว่ายังไง ทำไมเขาทำแบบนี้กับฉัน’ ความคิดอันแรก ครอบครัวของเธอต้องแตกแยกแล้ว พร้อมกับคำถามเกิดขึ้นมามากมายในหัวของทอดาว เธอหน้าถอดสีซีดจางจนไม่มีสีเลือด สิ่งที่น่าเจ็บปวด เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นเธอที่เป็นภรรยาของปริญแล้วจะกระดากอายถอยห่างจากสามีของชาวบ้าน แต่ไม่เลย สองมือของหล่อนคนนั้นยังสอดรัดเอาลำตัวและหน้าอกของตัวเองเบียดไปกับผิวแขนของปริญ

ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่

ย้อนเวลากลับมาเป็นท่านแม่

Zuey
5.0

เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ