5.0
ความคิดเห็น
54K
ชม
84
บท

เมื่อรักแท้ ต้องพ่ายแพ้ให้ความดูมๆ ทำให้สาวคัพเล็ก คิดจะเสริมอึ๋ม! แต่ทว่า...ความอึ๋มที่ต้องการในครั้งนี้ อาจต้องเลือกระหว่าง ซิลิโคน หรือจากการสัมผัส! --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- “ผมขออนุญาตครับ” เสียงทุ้มเอ่ยบอก ก่อนจะค่อยๆ ยื่นมือมาเปิดสาบเสื้อสีชมพูตัวที่วันเมษาสวมอยู่ให้แยกห่างออกจากกันช้าๆ การกระทำของธาวินส่งผลทำให้เธอหลับตาปี๋ กำหมัดแน่น ใจเต้นโครมคราม โครมคราม นับหนึ่งให้ถึงร้อย ความใกล้ที่เกิดขึ้น ทำให้วันเมษาได้กลิ่นโคโลญจ์ลอยมาจากตัวชายหนุ่ม นั่นยิ่งทำให้เธอใจคอไม่ดีเข้าไปอีก พ่อแก้วแม่แก้ว ช่วยลูกด้วย ตอนนี้ช่องว่างของสาบเสื้อค่อยๆ แยกห่างออกจากกันมากขึ้น เผยให้เห็นเนินอกที่วันเมษาหวงแหน เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้สาบเสื้อได้หลุดพ้นจากหัวไหล่ไปแล้ว แม้ก่อนหน้านี้จะเกิดเหตุให้ต้องโชว์หน้าอกต่อหน้าใครๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคงมีธาวินรวมอยู่ด้วย แต่นั่นมันคืออุบัติเหตุ ชีวิตจริงใครจะมาเปิดอกให้คนอื่นดูอยู่แบบนี้ “เพื่อความดูมๆ อดทนไว้ยัยษา อดทนไว้ ไม่เขินๆ โอ๊ย! จะเป็นลมแล้ว” วันเมษาได้แต่เอ่ยประโยคนี้อยู่ในใจ แต่ยิ่งคิดทั้งหน้าและตัวเธอก็แดงซ่านไปหมด เธอมาอยู่ในจุดๆ นี้ได้ไง จุดที่ให้ผู้ชายมาจับหน้าอกแบบนี้ งื้อ! หมอธาวินยังคงนิ่ง ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ ออกมา แต่ก็ใช่ว่าใจของหมอหนุ่มจะไม่เต้นแรง เพราะปฏิกิริยาร่างกายของวันเมษากำลังตื่นตัว ผิวขาวลออตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ คงเพราะความเขินอายที่มี ซึ่งด้วยหน้าที่การงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เขาน่าจะเคยชิน จนแทบไม่รู้สึกอะไรกับการสัมผัสหน้าอกของลูกค้าที่มาใช้บริการ แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป ทำไมมือเขาถึงได้สั่น ตาทั้งสองข้างก็แทบไม่ได้ละไปจากหน้าอกคู่สวยของวันเมษาได้เลย “หมอคะ สะ…เสร็จหรือยังคะ” น้ำเสียงตะกุกตะกักเอ่ยถาม ขณะถามนั้นเจ้าตัวก็ห่อไหล่ไปด้วย ขืนเขายังตรวจเนื้อนมเธอต่อ มีหวังเธอได้เป็นลมล้มพับไปแน่ๆ น้ำเสียงของวันเมษา ช่วยดึงสติที่เตลิดไปไกลออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนของหมอธาวินให้ กลับมา ชายหนุ่มสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ดีที่ตอนนี้วันเมษาหลับตาอยู่ ไม่อย่างนั้นเธอคงได้เห็นว่าเขามีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม “ยังครับ” เพราะต้องตรวจให้ละเอียดและต้องยิ่งละเอียดเมื่อเธอคือวันเมษา --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- “สรุปหมอธาวินว่าไงบ้าง” นี่คือประโยคแรกที่ปลายสายเอ่ยทักเมื่อวันเมษารับสาย “ก็ไม่เห็นว่าไงนิแก” “ไม่เห็นว่าไง ยังไง ฉันงง” “ก็เมื่อวานเขาขอตรวจเนื้อนมฉันเพื่อจะได้กะเรื่องขนาดของซิลิโคลน” ได้ยินคำว่าตรวจเนื้อนม เก๋ไก๋ก็แทบไม่สนเรื่องอื่น “กรี๊ดดดด” เสียงกรี๊ดของเก๋ไก๋ทำเอาคนฟังหูอื้อขึ้นมาทันที นี่แค่ได้ยินว่าตรวจเนื้อนม ถ้ารู้ว่าธาวินทำอะไรที่มากกว่าตรวจตามแบบที่ควรจะเป็น เก๋ไก๋ไม่กรี๊ดจนได้ยินไปถึงดาวอังคารเลยหรือไง “แกจะกรี๊ดทำไม ฉันแสบหู” “ไม่ให้กรี๊ดได้ไง หมอวินตรวจเนื้อนมแก งั้นก็แสดงว่าหมอจับนมแกแล้วนะดิยัยษา” คำแซวของเก๋ไก๋ทำเอาวันเมษาที่ตอนนี้กำลังปั่นจักรยานไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วยนั้นแทบจะล้ม ก่อนจะรีบปั่นให้ถึงหน้าบ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก “เออ” “แล้วแกรู้สึกไงบ้าง ใจแบบว่าเต้นแรงเป็นกลองพลยามออกรบเลยม่ะ” “ก็ทำนองนั้น” ขณะตอบก็เอาเท้าสองข้างแตะพื้นหน้าบ้านไว้ เพราะดูท่าเก๋ไก๋จะยังไม่หยุดถามง่ายๆ แน่ “อายมากไหมแก” “อายสิ…แล้วนี่แกจะซักอะไรเรื่องนี้ หา” เรื่องหมอธาวินตรวจเนื้อนมว่าอายแล้ว เจอคำแซวของเก๋ไก๋เข้าไป วันเมษารู้สึกจะอายมากกว่า “ก็ฉันอยากรู้นี่ย่ะ ว่านมน้อยๆ ของแก จะตื่นมือหมอวินไหม ฮ่า ฮ่า” เก๋ไก๋หัวเราะออกมาเสียงดัง วันเมษาหมั่นไส้ ถ้าอยู่ใกล้เธอจะตีให้ตัวเขียวเชียว โทษฐานที่แซวกันอยู่ได้

บทที่ 1 ไม่ใช่สเปค

ตึก ตัก

ตึกๆ ตักๆ

ตึกๆๆ ตักๆๆๆ!!!

เสียงเต้นของหัวใจที่ดังถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เจ้าของหัวใจที่ตอนนี้อยู่ในชุดเดรสยีนส์คอปกแบบแขนกุด เพิ่มความหวานของชุดด้วยการตัดต่อผ้าชีฟองสีขาวเป็นกระโปรง มีเข็มขัดเล็กๆ คาดตรงเอวที่หัวเข็มขัดออกแบบคล้ายกับกระดุมหน้าของตัวเสื้อ ส่งให้คนสวมใส่ยิ่งดูเอวบางขึ้นไปอีก

แต่เพราะอุณหภูมิในร้านอาหารที่เย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศหรือเพราะจากชายหนุ่มที่นั่งหล่ออยู่ตรงหน้ากันแน่ ถึงทำให้เธอเริ่มจะนั่งไม่ติดที่ มือที่กุมกันอยู่ตอนนี้เย็นเฉียบ คอเริ่มแห้งแต่ก็ไม่กล้าที่จะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบดับกระหาย

“หนาวหรือครับน้องษา” เสียงทุ้มน่าฟังของชายที่เอ่ยเรียกชื่อเล่นของวันเมษา ดังขึ้น เจ้าของชื่อจึงเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะที่เอาแต่มอง เพื่อสบตาเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ แม้จะมีแว่นสายตาของชายหนุ่มเป็นเกราะกำบังอีกชั้นก็ตามที

“นิดหน่อยน่ะค่ะ” ได้ยินเช่นนี้ ปรวีณ์ จึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ ก่อนจะถอดเสื้อสูทออกมาคลุมไหล่มนของวันเมษาอย่างอ่อนโยน การกระทำของเขายิ่งทำให้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะมากยิ่งขึ้นไปอีก

ก่อนที่วันเมษาจะมองใบหน้าของปรวีณ์ด้วยสายตาของความชื่นชม เขาคือชายหนุ่มในอุดมคติของเธอ เป็นชายในฝัน เป็นชายในสเปคก็ว่าได้ ปรวีณ์มีโครงหน้าที่หล่อเหลา แม้เขาจะสวมแว่นก็เป็นหนุ่มแว่นที่ดูดีกว่าใคร เรื่องหุ่นก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะเขาสูงตั้งร้อยแปดสิบ กล้ามเป็นกล้าม แถมยังเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยของเธออีกด้วย ผู้ชายอะไรเพอร์เฟกต์

วันเมษายอมรับ ว่าได้ตกหลุมรักชายหนุ่มมาหลายปี กระทั่งเรียนจบก็ยื่นใบสมัครเข้าทำงานที่เดียวกับรุ่นพี่ที่แอบชอบ แทนที่จะเข้าไปช่วยพี่ชายบริหารงานของครอบครัวที่เป็นถึงเจ้าของโรงแรมใหญ่ในเชียงใหม่ วันแรกที่รู้ว่าตัวเองได้รับเลือกให้เข้าทำงาน เธอกรี๊ดบ้านแทบแตกมาแล้ว

ปรวีณ์เป็นช่างภาพฝีมือดีของบริษัท ลักษณะสุขุม ไม่มีข่าวคาวเรื่องชู้สาว แม้งานที่ทำนั้นจะเกี่ยวข้องกับสาวๆ มากมายก็ตาม ส่วนเธอก็เป็นแค่พนักงานฝ่ายการตลาดธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น หน้าที่การงานว่าธรรมดาแล้ว หน้าตาเธอก็ยิ่งธรรมดา มองยังไงก็ไม่ได้สวย หุ่นก็ไม่ได้ดีเลิศแถมยังเอนเอียงไปทางเตี้ยอีกต่างหาก เพราะเธอนั้นสูงแค่ร้อยหกสิบห้าเท่านั้นเอง

แถมที่หนักใจไม่แพ้ส่วนสูงหรือความสวยที่ได้มาน้อยนิดไปหน่อย ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องหน้าอกที่ไซส์มินิเหมือนเด็กมัธยมต้น ตั้งแต่โตเป็นสาวเธอไม่เคยเปลี่ยนไซส์ชุดชั้นในเลย คัพเอยังไงจนถึงตอนนี้อายุปาเข้าไปสามสิบกว่าก็ยังคงอยู่ที่คัพเออย่างนั้น (คนเกือบสวยเศร้าหนัก ยกหลังมือปาดน้ำตาเบาๆ)

แต่เพราะไม่อาจทนเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ได้อีก เมื่อเดือนก่อน สาวคัพเออย่างเธอจึงรวบรวมความกล้าที่มีทั้งหมด ไล่ขึ้นมาตั้งแต่ตาตุ่มถึงศีรษะ แล้วเดินแบบมึนๆ เข้าไปสารภาพรักกับปรวีณ์ ลึกๆ ก็เผื่อใจหากตัวเธอต้องกินแห้ว เพราะรู้ว่าเธอคงไม่ใช่สเปคของชายหนุ่ม แต่…สวรรค์ก็เมตตาสงสาร

เพราะชายในฝันกลับตอบรับรักและตกลงที่จะลองคบหากับเธอดูเสียนี่ วันเมษาจำประโยคของปรวีณ์ได้อย่างแม่นยำ

‘ครับ…เราจะลองคบกันดู’ ประโยคนี้ทำเอาเธอนอนไม่หลับทั้งคืนก็ว่าได้ รู้สึกว่าตัวมันจะเบาๆ อิ่มทิพย์ไปเสียหลายวัน

เมื่อตกลงคบหากันแล้ว การเดตก็มาถึง วันเมษาดูเก้ๆ กังๆ ยามที่อยู่กับปรวีณ์ จากที่เป็นคนมั่นใจก็ดูจะเสียศูนย์ไปบ้าง ถัดจากเดตก็มาถึงการดินเนอร์ ซึ่งนี่คือครั้งแรกของเธอกับปรวีณ์

ตั้งแต่มาถึงชายหนุ่มคอยเทคแคร์เธอเป็นอย่างดี สั่งอาหารหน้าตาน่าทานที่กำลังนำมาเสิร์ฟในขณะนี้ให้

“ทานเยอะๆ นะครับ” เมื่อเห็นว่าพนักงานวางจานอาหารลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เสียงทุ้มที่แสนจะน่าฟังสำหรับวันเมษาเอ่ยบอก แต่ภายใต้ความน่าฟังก็แฝงความอึดอัดอยู่ในที บ่อยครั้งที่ปรวีณ์ลอบมองใบหน้าของคู่เดต แต่พอเธอหันมา เขาก็เปลี่ยนไปมองมุมอื่น

เขานั้นเป็นผู้ชายประเภทที่ไม่ชอบการจีบผู้หญิงก่อนเสียด้วย หากผู้หญิงคนไหนต้องการที่จะคบเขา เธอต้องเป็นฝ่ายเดินมาสารภาพรักก่อนเท่านั้น บวกกับความเหงาที่เกาะกุมหัวใจ ในวันที่วันเมษาเดินเข้ามาสารภาพรัก ปรวีณ์จึงตอบตกลงที่จะลองคบหากับเธอดู

“ค่ะ” ส่วนคนฟังก็เอ่ยรับเพียงแค่สั้นๆ เท่านั้น อาการประหม่าทำให้เธอแทบจะทำอะไรไม่ถูกด้วยซ้ำ จากวันที่สารภาพรักไปจนถึงวันนี้ นับๆ ดูแล้วเธอก็คบหากับปรวีณ์มาได้หนึ่งเดือนพอดี วันเวลาของความสุขช่างผ่านไปรวดเร็วจนเธอใจหาย

“อาหารอร่อยไหมครับ” เมื่อทานอาหารใกล้จะอิ่ม ปรวีณ์ก็เอ่ยขึ้น

“อร่อยค่ะ” วันเมษายิ้มรับ แค่การมาดินเนอร์กับหนุ่มที่ชอบ เธอก็อิ่มจนจุก แทบไม่ต้องกินอะไรก็ยังได้ ความรักมันช่างสวยงามอะไรอย่างนี้ โลกเป็นสีชมพูจนหลายคนอิจฉา

“ดีแล้วที่ชอบ เพราะทีแรกพี่ก็คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะพาษาไปกินข้าวที่ไหนดี”

“ขอบคุณนะคะที่พาษามาที่นี่”

“ไม่เป็นไรจ้ะ” ปรวีณ์เอ่ยรับ ก่อนที่สายตาจะมองเลยไปยังโต๊ะตรงข้าม ที่มีสาวสวย หุ่นเซ็กซี่มาก สวมชุดเดรสสั้นสีแดงแนบเนื้อ โชว์หน้าอกดูมๆ คนหนึ่งนั่งอยู่ ทั้งสองสบตากัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยขึ้น

“เอ่อ…ษา”

“คะ”

“เรากลับไปเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมดีกว่าไหม”ประโยคที่ได้ยิน ทำเอาช้อนที่อยู่ในมือของวันเมษาแทบจะร่วงก็ว่าได้ สีหน้าเธอดูงุนงงเป็นอย่างมากที่ได้ยินแบบนี้ น้ำตาถึงกับคลอเบ้า

“เอ๊ะ! พี่วีอย่าล้อเล่นแบบนี้สิคะ ษาตกใจหมด” วันเมษาพยายามยิ้มและหัวเราะ ทั้งๆ ที่ตอนนี้สีหน้าของปรวีณ์ไม่ได้แสดงออกว่ากำลังล้อเล่นแต่อย่างใด

“พี่พูดจริงๆ พี่ว่าเราคงไปด้วยกันไม่ได้หรอก สู้กลับไปเป็นเหมือนก่อนน่าจะดีกว่า”

“ทำไมพี่วีถึงคิดแบบนั้นละคะ ทั้งๆ ที่เราพึ่งจะคบกัน ทำไมถึงคิดว่าเราจะไปกันไม่ได้”

“เพราะษาไม่ใช่สเปคพี่” คำตอบของปรวีณ์ทำเอาคนฟังแทบหงาย ก่อนจะทวนประโยคที่ได้ยินด้วยเสียงสั่นนิดๆ

“ไม่ใช่สเปค”

“ใช่…พี่ขอโทษนะ พี่คงทำให้ษาผิดหวังมาก”

“ถ้าไม่ใช่สเปค แล้ววันนั้นพี่วีณ์ตอบตกลงที่จะคบกับษาทำไมคะ” เพราะเสียใจ ผิดหวัง ทำให้น้ำเสียงของวันเมษานั้นฟังดูห้วนขึ้น สีหน้านิ่งๆ ของเธอที่มองมายังปรวีณ์ก็ทำเอาชายหนุ่มอึกอัก

“เอ่อ…คือพี่”

“ษาขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” พูดจบก็ลุกพรวดออกไปทันที ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวไปยังห้องน้ำ ปล่อยให้ปรวีณ์มองตามหลัง ก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ

“ไม่ใช่สเปค ไม่ใช่สเปค” วันเมษาเอ่ยทวนประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่หน้าห้องน้ำ เธอรู้สึกเสียใจจนอยากร้องไห้ แต่น่าแปลกที่น้ำตากลับไม่มีสักหยด เสียงพึมพำของเธอทำให้ชายหนุ่มที่พึ่งจะเดินออกมาจากห้องน้ำชายต้องหันมามอง ก่อนจะอมยิ้มเมื่อได้เห็นเธอ เพราะรู้สึกชอบสไตล์การแต่งตัว

“พูดออกมาได้ยังไงว่าเราไม่ใช่สเปค หึ๋ย” คนพึ่งอกหักหมาดๆ ยืนกำหมัดแน่น ความรู้สึกตอนนี้มันโหวงๆ ในอกบอกไม่ถูก ใจมันก็หวิวๆ ชอบกล ความรู้สึกแบบนี้หรือที่เขาเรียกว่าอกหัก คิดแล้วก็คอตก

จังหวะที่จะเดินเข้าห้องน้ำก็มีคนมาขวาง เธอเบี่ยงไปทางซ้ายเขาก็ตามมา เธอเลี่ยงออกทางขวาเขาก็ยังคงตามมาอีก ความที่เธอเอาแต่ก้มหน้ามองพื้น จึงเห็นเพียงชุดที่เขาสวม อันดับแรกที่เห็นคือกางเกงยีนส์ รองเท้าหนัง ส่วนเสื้อเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนระดับศอก แต่เขาคงจะตัวสูงมาก เพราะตอนนี้ใบหน้าของวันเมษาอยู่ตรงหน้าอกเขาเท่านั้นเอง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ วรนิษฐา / Miss sexy

ข้อมูลเพิ่มเติม
ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

มหาเศรษฐี

5.0

เธอคือ....นางโจร ส่วนเขาคือนายตำรวจ...มือหนึ่ง แต่พรหมลิขิตกลับชักพาให้นางโจรอย่างเธอปล้นความรักไปจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่าง...เขา +++++ “ผมบอกไปหรือยังว่าผมรักคุณ” “ยังค่ะ” มีนาเอ่ยตอบด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อคืนเหมือนเธอจะได้ยินเมฆาบอกรัก แต่มันก็แผ่วเบาเสียจนคิดว่าเธอคงฝันหรือไม่ก็เพ้อไปเองคนเดียว “โอเค...ผมรักคุณ” เมฆาบอกรักคนในอ้อมกอด มันคือคำว่ารักที่แสนเรียบง่ายแต่ทว่ากลับตราตรึงอยู่ในความรู้สึก ทั้งจากคนพูดและคนที่ได้ยิน เพราะหากไม่แน่ใจว่ารักเมฆาหรือจะพูดคำนี้ออกมา “ผู้ชายเขาบอกรักกันง่ายๆ แบบนี้เหรอคะ” “ใครบอกว่าง่าย เมื่อคืนกว่าผมจะบอกรักคุณมีนด้วยภาษากายได้ก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเชียวนะ” “ทะลึ่ง” มีนามองค้อนมาให้ นั่นเพราะรู้ความหมายที่เมฆาเอ่ยว่าคืออะไร “ผมพูดเรื่องจริง” “แต่ฉันเป็นโจรที่เคยยกเค้าบ้านคุณนะคะ ถูกแจ้งจับอีก แบบนี้คุณยังจะรักฉันอย่างนั้นเหรอ” “มีกฎหมายข้อไหน ห้ามไม่ให้ตำรวจรักกับโจรบ้าง” “ก็...” คนฟังแย้งไม่ออก “ผมว่าความรักมันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว รักก็คือรัก” “แต่เราต่างกันเกินไป ฉันคิดว่า...” “โลกนี้ไม่มีคำว่าต่าง ต่อให้มีเราก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากันก็ได้นี่ครับ ผมขอแค่โอกาส” “ฉัน...” “ผมรักคุณมีน ต่อให้จะนอนคิดนั่งคิดหรือตีลังกาคิดก็ยังรัก” เมฆาเอ่ยคำว่ารักให้คนในอ้อมกอดได้ยินและได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเขาอีกครั้ง “แล้วถ้าฉันปฏิเสธละคะ คุณจะว่ายังไง” “ผมคงเสียใจหนักมากแน่” เมฆาเสียใจจริงๆ แต่เขาคงไม่ถอดในจากเธอด้วยเรื่องแค่นี้แน่ แต่ทว่าคำพูดหลังจากนั้นของมีนากลับทำให้คนฟังยิ้มกว้างออกมา “แต่ฉันไม่อยากเห็นคุณเสียใจ” “งั้นก็รับรักผม ได้ไหม” “เฮ้อ! ไหนๆ ฉันก็ได้คุณแล้วก็คงต้องแมนๆ รับผิดชอบ ฉันรับรักคุณก็ได้อะ คุณจะได้ไม่ร้องไห้เสียใจเพราะฉัน” มีนาพูดติดตลก นั่นเพราะไม่อยากให้บรรยากาศตอนนี้อึดอัด คำพูดของเธอทำให้เมฆาถึงกับหัวเราะ ก่อนจะรั้งผ้าห่มขึ้นมาห่มคลุมโปงทั้งเธอและเขา แล้วเริ่มปฏิบัติการยืนยันว่าแท้จริงแล้วใครได้ใครกันแน่ และใครต้องรับผิดชอบใคร

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

มนุษย์หมาป่า

5.0

‘เขาเป็นแวมไพร์ที่ปฏิเสธการดื่มเลือด แต่กลับไม่ปฏิเสธหากจะได้กลืนกินเธอ’ ------------ “วันนี้นายริทเป็นอะไร ดูเหม่อๆ” “นั่นนะสิ” คนงานอีกคนเห็นด้วย ก่อนจะหยุดการสนทนาใดๆ แล้วตัดดอกไม้ต่ออย่างขะมักเขม้น ส่วนคนที่พวกเขาเอ่ยถึงนั้น ตอนนี้ก็กำลังง่วนอยู่กับงานตรงหน้าเช่นเดียวกัน กระทั่งได้ดอกไม้ครบตามจำนวน เชโรมจึงเดินไปยังรถที่ตอนนี้มีดอกไม้แสนสวยอยู่ท้ายกระบะเต็มไปหมด แต่จังหวะนั้น สายตาของเชโรมกลับมองไปเห็นกระต่ายสีขาวที่เขาเลี้ยงไว้หลุดออกมาจากกรง จึงเดินไปอุ้มมันขึ้น ท่าทางเขาดูอ่อนโยนเสียจนมาศิตาที่ผ่านมาเห็น คิดว่าตัวเองตาฝาด จนต้องขยี้ตาแรงๆ สามสี่ครั้ง “ผู้ชายหน้าโหดกับกระต่ายสีขาว ดูยังไงก็ไม่เห็นจะเข้ากันสักนิด สงสัยจะเลี้ยงกระต่ายไว้กินแน่ๆ” “เลี้ยงไว้ดูจ้ะ นายริทชอบกระต่ายสีขาว ตรงนู่นเป็นกรงกระต่าย มีหลายสิบตัว” คนงานสาวคนหนึ่งเอ่ยแย้งให้ผู้เป็นเจ้านาย “ชีวิตดูมุ้งมิ้งกิงก่องแก้วขัดแย้งกับหน้าตาสุดๆ แวมไพร์ตนอื่นๆ มีแต่จะเลี้ยงกระต่ายไว้ดื่มเลือด นี่อะไร เลี้ยงไว้ดูเล่น โอ๊ย! พ่อมังสวิรัติ” มาศิตาบ่นคนเดียวอีกตามเคย ตามมาด้วยอีกประโยค “สอนแวมไพร์ให้ดื่มเลือด มันจะเหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำปะวะเนี่ย ของมันเป็น มันอยู่ในสายเลือด จะให้เรามาสอนเขาทำไม หืม” คนข้างๆ ที่เผลอได้ยินทั้งสองประโยคนี้เข้า กลับมีสีหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด พอจะถามมาศิตาก็เดินตัวปลิวไปเสียแล้ว “ใครเป็นแวมไพร์หว่า หรือเราจะหูฝาดไป” คนงานสาวที่เพิ่งจะเอ่ยแก้ต่างเรื่องกระต่ายให้เชโรมไปเมื่อครู่ถึงกับคิ้วขมวด พูดกับตัวเองตามมาศิตาไปอีกคน ------------------ “แต่ศิตาไม่ยอมให้พี่ริทตายเด็ดขาด เพราะศิตารักพี่ริท” เอ่ยจบก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรม จูบที่ต่างฝ่ายต่างต้องการจากกันและกันมาโดยตลอด จูบที่ฝันว่าครั้งแรกมันต้องโรแมนติกและน่าจดจำ ไม่ใช่จูบที่ได้กลิ่นคาวเลือดจากริมฝีปากเขาเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด เลือด! ใช่…เลือด คำๆ นี้ทำให้มาศิตานึกอะไรขึ้นมาได้ เธอคือผู้พิทักษ์ เลือดของเธอแวมไพร์ที่ยืนจ้องอยู่ตรงนั้นยังต้องการ แล้วทำไมเธอถึงไม่ให้เชโรมชิงดื่มเลือดของเธอเสีย ไม่แน่ว่า หากเขาได้ดื่มเลือดมนุษย์จริงๆ เชโรมอาจมีพลังขึ้นมาก็เป็นได้ มาศิตาถอนจูบออก แล้วแสร้งโอบกอดเชโรม ก่อนจะกระซิบให้เขาฝังคมเขี้ยวลงไปบนลำคอเพื่อจะได้ดื่มเลือดเธอ แต่เหมือนเชโรมกลับส่ายหน้าปฏิเสธกับแผนนี้ กระทั่งมาศิตาชิงลงมือก่อน เธอกัดริมฝีปากตัวเองสุดแรงจนเลือดไหล แม้จะเจ็บแต่ก็ยอมทน จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรมอีกครั้ง ทันทีที่ได้สัมผัสเลือดของผู้พิทักษ์ นั่นทำให้เลือดในกายของแวมไพร์หนุ่ม ผู้ที่ไม่เคยลิ้มรสชาติของเลือดใดๆ มาก่อน พลันพลุ่งพล่านราวกับเปลวไฟ “เจ้าทำอะไร” แดนเองก็ได้กลิ่นเลือดของมาศิตาเช่นเดียวกัน รวมทั้งจ้องมองความผิดปกติของเชโรมอย่างไม่กะพริบตา เลือดเพียงหนึ่งหยด กลับทำให้นัยน์ตาที่เคยเป็นสีน้ำตาลอ่อนแปรเปลี่ยนมาเป็นสีแดงเพลิงในทันที ร่างกายที่เคยเจ็บปวดกลับค่อยๆ หาย และรู้สึกถึงพลังที่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง “แววตาแบบนั้น เจ้าเป็นใครกัน หรือว่า…”

เล่ห์รักฉบับ CEO

เล่ห์รักฉบับ CEO

มหาเศรษฐี

5.0

จูบแรกก็เป็นของเขา จูบครั้งที่สอง สาม สี่ ก็ยังคงเป็นของเขา แบบนี้โสภิตาจะหนีจาก CEO หนุ่มที่เธอบังเอิญผ่านไปช่วยชีวิตเขาไว้ได้อย่างไร ++++++++++++++++ **โปรย 1 “เท่าที่ได้คุยกันฉันว่านายเชนคนนี้นิสัยก็ใช้ได้” “อึนๆ มึนๆ นี่เหรอใช้ได้” โสภิตาอยากจะบอกเหลือเกินว่าบางครั้งราเชนก็กวนตีนเธอ “อื้อ...นายเชนเขาให้ความพิเศษกับแกนะ ขนาดปลายังแกะก้างออกให้ นี่ถามจริงๆ แกไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ” “ก็...” โสภิตาอ้ำๆ อึ้งๆ เธอนั้นไม่มีประสบการณ์เรื่องความรัก เรียกได้ว่าชั่วโมงบินน้อยมากๆ ใครมาดีหรือมาร้ายบางครั้งก็มองไม่ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง อาศัยเพียงแค่สัญชาตญาณของตัวเองซึ่งบางครั้งมันอาจผิดพลาด “หรือคิดมากเรื่องฐานะที่นายเชนมีน้อยกว่าแก” “ไม่ใช่เรื่องนั้น ถามว่าฉันรู้สึกดีกับเขาไหมก็...อื้ม บางครั้งเวลาฉันอยู่กับเขาแล้วเหมือนตัวเองเป็นง่อย จากที่ทำอะไรได้เองก็เริ่มอยากให้เขาทำให้ อยากให้เขาช่วย” นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่โสภิตารู้ตัวเองดี “ไม่แปลกหรอก เพราะผู้หญิงเราต่อให้แข็งแกร่งยังไงลึกๆ ในหัวใจก็อยากมีใครสักคนมาดูแล” “แกก็เป็นเหรอ” “เป็นสิ บางครั้งฉันยังงอแงให้บอสจับแมลงสาบเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเห็นตอนไหนฉันกระโดดกระทืบตอนนั้น” คำพูดของรติชาทำให้โสภิตาหัวเราะออกมาเพราะนึกภาพออกทันที เวลานั้นปิลันธน์คงทั้งกลัวทั้งอยากกำจัดให้คนรักส่วนรติชาก็คงหัวเราะชอบใจแน่ๆ “นึกว่าฉันเป็นอยู่คนเดียว” “แกนะเข้มแข็งมากนะหวาน เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นหัวหน้าคนงาน รับผิดชอบเรื่องนั้นเรื่องนี้มากมาย ที่ผ่านมาอาจเพราะแกยังไม่เจอใครที่สามารถฝากชีวิตเอาไว้ได้แกเลยไม่เปิดใจ แต่ถ้าตอนนี้แกเจอคนคนนั้นแล้วฉันแนะนำว่าแกควรฟังเสียงหัวใจของตัวเองให้มาก ว่าอยากอยู่แบบที่ผ่านๆ มาหรืออยากจับมือกับใครสักคนไปจนวันตาย” นั่นคือคำแนะนำจากใจของรติชาเพราะเธอเคยลังเลแบบนี้มาแล้ว หากเวลานั้นตัดสินใจผิดตอนนี้เธออาจโกนหัวบวชชีที่วัดป่าที่ไหนสักแห่ง “ฉันอยากจับมือใครสักคน” ++++++++++++++++ ***โปรย 2 “ฉันเกลียดที่สุดคือคนโกหก ที่ผ่านมาฉันรู้สึกดีกับนายเพราะเข้าใจมาตลอดมานั่นคือนาย แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นใครกันแน่ นายจะโกหกอะไรฉันอีกไหม ฉันต้องโง่ไปอีกกี่ครั้ง” น้ำเสียงของโสภิตานั้นสั่นเครือ “ผมสัญญาว่าจะไม่โกหกอะไรคุณอีกแล้ว สาบานให้ตาย...” จังหวะที่ราเชนกำลังจะสาบานให้ตัวเองตาย โสภิตาก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของเขาไว้เสียก่อน “ลองตายดูสิ ฉันจะลากตัวนายขึ้นมาแล้วสับๆ” ราเชนอึ้งกับประโยคที่ได้ยินก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าโสภิตาไม่ยอมให้เขาตายง่ายๆ สินะ “โอเคๆ ผมไม่ตายแล้วก็ได้ ยกโทษให้ผมเถอะนะคุณหวาน ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” “นายนี่มัน ทำฉันทั้งสุขทั้งทุกข์เหมือนคนเป็นไบโพลาร์แบบนี้ได้ยังไง รับผิดชอบสติฉันมาเลย” “ถ้าผมรับผิดชอบจริงๆ คุณหวานจะตอบตกลงไหมครับ” “อื้อ” “จริงๆ นะ” ราเชนถามย้ำ ส่วนคนที่ตามความเจ้าเล่ห์ของเขาไม่ทันก็ไม่ได้เอะใจอะไรแม้แต่น้อยเช่นกัน “จะรับผิดชอบอะไรว่ามา” “แต่งงานกันไหม”

รักร้อนซ่อนใจรัก

รักร้อนซ่อนใจรัก

โรแมนติก

5.0

เขาคือพระเอกดาวค้างฟ้า เล่นละครเรื่องไหนเรตติ้งพุ่งแรงเสมอ ในขณะที่เธอก็เป็นแค่เอ็กตร้าในกองถ่าย ที่เอ๋อๆ เด๋อๆ เพราะไม่ได้เป็นแฟนคลับของเขาเธอจึงไม่ได้แสดงออกว่าปลื้ม แต่ยิ่งเธอเฉยเขายิ่งสนใจ กระทั่งมีเหตุการณ์ให้ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน จูบแรกของทั้งคู่เกิดขึ้นก็เพราะงาน แต่หัวใจของเธอกลับถูกริมฝีปากนุ่มและแสนร้ายกาจของพระเอกกระชากจนหลุดลอยและมันมักจะลอยไปหาเขาโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ของขวัญวันเกิดปีนี้ของเธอก็ยังเป็นจูบจากเขา จูบที่ทำให้ใจสาวหวั่นไหวและยากจะต้านทาน หัวใจเธอถูกเขาไล่ต้อนจนมุม ทางเดียวที่จะรับมือคือพุ่งเข้าชนแล้วเอาหัวใจเป็นเดิมพัน

หัวใจแพ้ทางรัก

หัวใจแพ้ทางรัก

โรแมนติก

5.0

ถึงอาดิน เรารู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้วนะคะ เป็นสิบปีที่มิลค์มีความสุขมาก ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักจนถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนที่มิลค์จะหยุดรักอาดินได้เลย นอกจากจะหยุดรักไม่ได้แล้ว ยังรักมากขึ้นๆ ทุกๆ วัน สิบปีมานี้มิลค์ได้บอกรักอาดินไปหลายครั้ง ทุกๆ ครั้งที่บอกไปมิลค์มีความสุขมากค่ะ ถึงแม้อาดินจะไม่ตอบรับมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่มิลค์ก็ยังพยายามต่อ เพราะหวังว่าสักวันอาดินจะหันมามองเห็นความรักที่มิลค์มีให้และรับมันไป แต่ว่า...มันคงไม่มีวันนั้นแล้วจริงๆ มิลค์ขอโทษนะคะที่เอาแต่ใจ ที่ตามกวนใจอาดิน หลังจากนี้เราคงไม่ได้เจอกันสักพัก มิลค์ขอให้อาดินเจอคนที่ใช่ คนที่อาดินรัก ส่วนมิลค์จะขอเฝ้ามองอาดินอยู่ห่างๆ แทน ลาก่อนค่ะ มิลค์

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

“สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13

“สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13

Saranon Writer
5.0

“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

ภรรยาห้าตำลึงเงิน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

Burke Gee
5.0

ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
คัพ A ที่รัก
1

บทที่ 1 ไม่ใช่สเปค

25/02/2022

2

บทที่ 2 ไปตายซะ

25/02/2022

3

บทที่ 3 เสยเนื้อคู่

25/02/2022

4

บทที่ 4 อ่อน!

25/02/2022

5

บทที่ 5 อายุเป็นเพียงตัวเลข

25/02/2022

6

บทที่ 6 กลุ้มใจ

25/02/2022

7

บทที่ 7 ติ๊ก ต่อก ติ๊ก ต่อก

25/02/2022

8

บทที่ 8 เป็นคู่กัน คงไม่แคล้วที่จะได้เจอกัน

25/02/2022

9

บทที่ 9 ปาร์ตี้ริมสระว่ายน้ำ

25/02/2022

10

บทที่ 10 หลักฐานมันโผล่

25/02/2022

11

บทที่ 11 หลักฐานมันโผล่ 2

25/02/2022

12

บทที่ 12 งานนี้ชนะใสๆ

28/02/2022

13

บทที่ 13 เวอร์จิ้น

28/02/2022

14

บทที่ 14 กลางคืนอันตราย

28/02/2022

15

บทที่ 15 สัมผัสจากเธอ

28/02/2022

16

บทที่ 16 แผงอก

28/02/2022

17

บทที่ 17 การ์ดเชิญงานปาร์ตี้

01/03/2022

18

บทที่ 18 คิดดีแล้ว

01/03/2022

19

บทที่ 19 เปลี่ยนตัวเอง

01/03/2022

20

บทที่ 20 ไม่สังเกต

01/03/2022

21

บทที่ 21 โลกมันเปลี่ยนไป

01/03/2022

22

บทที่ 22 หวนคิดถึงแทบทุกลมหายใจ

01/03/2022

23

บทที่ 23 ผายปอด

01/03/2022

24

บทที่ 24 ไปทำนม

01/03/2022

25

บทที่ 25 ทำตามอารมณ์

01/03/2022

26

บทที่ 26 ธรรมชาติลงโทษ

01/03/2022

27

บทที่ 27 การผ่าตัด

01/03/2022

28

บทที่ 28 ยังตรวจไม่เสร็จ

01/03/2022

29

บทที่ 29 ให้เกียรติอาชีพคุณหมอ

01/03/2022

30

บทที่ 30 จะโทรหา

01/03/2022

31

บทที่ 31 เรื่องเมื่อคืน

01/03/2022

32

บทที่ 32 หมั่นไส้

01/03/2022

33

บทที่ 33 คิดคำด่าไม่ออก

01/03/2022

34

บทที่ 34 เลวทั้งคู่

01/03/2022

35

บทที่ 35 เช็กอินสถานที่

01/03/2022

36

บทที่ 36 พลุ่งพล่าน

01/03/2022

37

บทที่ 37 แยกเขี้ยว

01/03/2022

38

บทที่ 38 ไม่สบาย

01/03/2022

39

บทที่ 39 อีตาหมอบ้า

01/03/2022

40

บทที่ 40 ฉันต่างหากที่เสียหาย

01/03/2022