Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
53.8K
ชม
84
บท

เมื่อรักแท้ ต้องพ่ายแพ้ให้ความดูมๆ ทำให้สาวคัพเล็ก คิดจะเสริมอึ๋ม! แต่ทว่า...ความอึ๋มที่ต้องการในครั้งนี้ อาจต้องเลือกระหว่าง ซิลิโคน หรือจากการสัมผัส! --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- “ผมขออนุญาตครับ” เสียงทุ้มเอ่ยบอก ก่อนจะค่อยๆ ยื่นมือมาเปิดสาบเสื้อสีชมพูตัวที่วันเมษาสวมอยู่ให้แยกห่างออกจากกันช้าๆ การกระทำของธาวินส่งผลทำให้เธอหลับตาปี๋ กำหมัดแน่น ใจเต้นโครมคราม โครมคราม นับหนึ่งให้ถึงร้อย ความใกล้ที่เกิดขึ้น ทำให้วันเมษาได้กลิ่นโคโลญจ์ลอยมาจากตัวชายหนุ่ม นั่นยิ่งทำให้เธอใจคอไม่ดีเข้าไปอีก พ่อแก้วแม่แก้ว ช่วยลูกด้วย ตอนนี้ช่องว่างของสาบเสื้อค่อยๆ แยกห่างออกจากกันมากขึ้น เผยให้เห็นเนินอกที่วันเมษาหวงแหน เธอไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้สาบเสื้อได้หลุดพ้นจากหัวไหล่ไปแล้ว แม้ก่อนหน้านี้จะเกิดเหตุให้ต้องโชว์หน้าอกต่อหน้าใครๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคงมีธาวินรวมอยู่ด้วย แต่นั่นมันคืออุบัติเหตุ ชีวิตจริงใครจะมาเปิดอกให้คนอื่นดูอยู่แบบนี้ “เพื่อความดูมๆ อดทนไว้ยัยษา อดทนไว้ ไม่เขินๆ โอ๊ย! จะเป็นลมแล้ว” วันเมษาได้แต่เอ่ยประโยคนี้อยู่ในใจ แต่ยิ่งคิดทั้งหน้าและตัวเธอก็แดงซ่านไปหมด เธอมาอยู่ในจุดๆ นี้ได้ไง จุดที่ให้ผู้ชายมาจับหน้าอกแบบนี้ งื้อ! หมอธาวินยังคงนิ่ง ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ ออกมา แต่ก็ใช่ว่าใจของหมอหนุ่มจะไม่เต้นแรง เพราะปฏิกิริยาร่างกายของวันเมษากำลังตื่นตัว ผิวขาวลออตาของเธอเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่อ คงเพราะความเขินอายที่มี ซึ่งด้วยหน้าที่การงานที่ทำอยู่ทุกวันนี้ เขาน่าจะเคยชิน จนแทบไม่รู้สึกอะไรกับการสัมผัสหน้าอกของลูกค้าที่มาใช้บริการ แต่ครั้งนี้กลับต่างออกไป ทำไมมือเขาถึงได้สั่น ตาทั้งสองข้างก็แทบไม่ได้ละไปจากหน้าอกคู่สวยของวันเมษาได้เลย “หมอคะ สะ…เสร็จหรือยังคะ” น้ำเสียงตะกุกตะกักเอ่ยถาม ขณะถามนั้นเจ้าตัวก็ห่อไหล่ไปด้วย ขืนเขายังตรวจเนื้อนมเธอต่อ มีหวังเธอได้เป็นลมล้มพับไปแน่ๆ น้ำเสียงของวันเมษา ช่วยดึงสติที่เตลิดไปไกลออย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนของหมอธาวินให้ กลับมา ชายหนุ่มสูดอากาศเข้าปอดลึกๆ ดีที่ตอนนี้วันเมษาหลับตาอยู่ ไม่อย่างนั้นเธอคงได้เห็นว่าเขามีบางอย่างที่ไม่เหมือนเดิม “ยังครับ” เพราะต้องตรวจให้ละเอียดและต้องยิ่งละเอียดเมื่อเธอคือวันเมษา --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- “สรุปหมอธาวินว่าไงบ้าง” นี่คือประโยคแรกที่ปลายสายเอ่ยทักเมื่อวันเมษารับสาย “ก็ไม่เห็นว่าไงนิแก” “ไม่เห็นว่าไง ยังไง ฉันงง” “ก็เมื่อวานเขาขอตรวจเนื้อนมฉันเพื่อจะได้กะเรื่องขนาดของซิลิโคลน” ได้ยินคำว่าตรวจเนื้อนม เก๋ไก๋ก็แทบไม่สนเรื่องอื่น “กรี๊ดดดด” เสียงกรี๊ดของเก๋ไก๋ทำเอาคนฟังหูอื้อขึ้นมาทันที นี่แค่ได้ยินว่าตรวจเนื้อนม ถ้ารู้ว่าธาวินทำอะไรที่มากกว่าตรวจตามแบบที่ควรจะเป็น เก๋ไก๋ไม่กรี๊ดจนได้ยินไปถึงดาวอังคารเลยหรือไง “แกจะกรี๊ดทำไม ฉันแสบหู” “ไม่ให้กรี๊ดได้ไง หมอวินตรวจเนื้อนมแก งั้นก็แสดงว่าหมอจับนมแกแล้วนะดิยัยษา” คำแซวของเก๋ไก๋ทำเอาวันเมษาที่ตอนนี้กำลังปั่นจักรยานไปด้วยคุยโทรศัพท์ไปด้วยนั้นแทบจะล้ม ก่อนจะรีบปั่นให้ถึงหน้าบ้าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก “เออ” “แล้วแกรู้สึกไงบ้าง ใจแบบว่าเต้นแรงเป็นกลองพลยามออกรบเลยม่ะ” “ก็ทำนองนั้น” ขณะตอบก็เอาเท้าสองข้างแตะพื้นหน้าบ้านไว้ เพราะดูท่าเก๋ไก๋จะยังไม่หยุดถามง่ายๆ แน่ “อายมากไหมแก” “อายสิ…แล้วนี่แกจะซักอะไรเรื่องนี้ หา” เรื่องหมอธาวินตรวจเนื้อนมว่าอายแล้ว เจอคำแซวของเก๋ไก๋เข้าไป วันเมษารู้สึกจะอายมากกว่า “ก็ฉันอยากรู้นี่ย่ะ ว่านมน้อยๆ ของแก จะตื่นมือหมอวินไหม ฮ่า ฮ่า” เก๋ไก๋หัวเราะออกมาเสียงดัง วันเมษาหมั่นไส้ ถ้าอยู่ใกล้เธอจะตีให้ตัวเขียวเชียว โทษฐานที่แซวกันอยู่ได้

บทที่ 1 ไม่ใช่สเปค

ตึก ตัก

ตึกๆ ตักๆ

ตึกๆๆ ตักๆๆๆ!!!

เสียงเต้นของหัวใจที่ดังถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้เจ้าของหัวใจที่ตอนนี้อยู่ในชุดเดรสยีนส์คอปกแบบแขนกุด เพิ่มความหวานของชุดด้วยการตัดต่อผ้าชีฟองสีขาวเป็นกระโปรง มีเข็มขัดเล็กๆ คาดตรงเอวที่หัวเข็มขัดออกแบบคล้ายกับกระดุมหน้าของตัวเสื้อ ส่งให้คนสวมใส่ยิ่งดูเอวบางขึ้นไปอีก

แต่เพราะอุณหภูมิในร้านอาหารที่เย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศหรือเพราะจากชายหนุ่มที่นั่งหล่ออยู่ตรงหน้ากันแน่ ถึงทำให้เธอเริ่มจะนั่งไม่ติดที่ มือที่กุมกันอยู่ตอนนี้เย็นเฉียบ คอเริ่มแห้งแต่ก็ไม่กล้าที่จะเอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบดับกระหาย

“หนาวหรือครับน้องษา” เสียงทุ้มน่าฟังของชายที่เอ่ยเรียกชื่อเล่นของวันเมษา ดังขึ้น เจ้าของชื่อจึงเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะที่เอาแต่มอง เพื่อสบตาเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ แม้จะมีแว่นสายตาของชายหนุ่มเป็นเกราะกำบังอีกชั้นก็ตามที

“นิดหน่อยน่ะค่ะ” ได้ยินเช่นนี้ ปรวีณ์ จึงลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวที่นั่งอยู่ ก่อนจะถอดเสื้อสูทออกมาคลุมไหล่มนของวันเมษาอย่างอ่อนโยน การกระทำของเขายิ่งทำให้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะมากยิ่งขึ้นไปอีก

ก่อนที่วันเมษาจะมองใบหน้าของปรวีณ์ด้วยสายตาของความชื่นชม เขาคือชายหนุ่มในอุดมคติของเธอ เป็นชายในฝัน เป็นชายในสเปคก็ว่าได้ ปรวีณ์มีโครงหน้าที่หล่อเหลา แม้เขาจะสวมแว่นก็เป็นหนุ่มแว่นที่ดูดีกว่าใคร เรื่องหุ่นก็ไม่ต้องพูดถึง เพราะเขาสูงตั้งร้อยแปดสิบ กล้ามเป็นกล้าม แถมยังเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยของเธออีกด้วย ผู้ชายอะไรเพอร์เฟกต์

วันเมษายอมรับ ว่าได้ตกหลุมรักชายหนุ่มมาหลายปี กระทั่งเรียนจบก็ยื่นใบสมัครเข้าทำงานที่เดียวกับรุ่นพี่ที่แอบชอบ แทนที่จะเข้าไปช่วยพี่ชายบริหารงานของครอบครัวที่เป็นถึงเจ้าของโรงแรมใหญ่ในเชียงใหม่ วันแรกที่รู้ว่าตัวเองได้รับเลือกให้เข้าทำงาน เธอกรี๊ดบ้านแทบแตกมาแล้ว

ปรวีณ์เป็นช่างภาพฝีมือดีของบริษัท ลักษณะสุขุม ไม่มีข่าวคาวเรื่องชู้สาว แม้งานที่ทำนั้นจะเกี่ยวข้องกับสาวๆ มากมายก็ตาม ส่วนเธอก็เป็นแค่พนักงานฝ่ายการตลาดธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น หน้าที่การงานว่าธรรมดาแล้ว หน้าตาเธอก็ยิ่งธรรมดา มองยังไงก็ไม่ได้สวย หุ่นก็ไม่ได้ดีเลิศแถมยังเอนเอียงไปทางเตี้ยอีกต่างหาก เพราะเธอนั้นสูงแค่ร้อยหกสิบห้าเท่านั้นเอง

แถมที่หนักใจไม่แพ้ส่วนสูงหรือความสวยที่ได้มาน้อยนิดไปหน่อย ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องหน้าอกที่ไซส์มินิเหมือนเด็กมัธยมต้น ตั้งแต่โตเป็นสาวเธอไม่เคยเปลี่ยนไซส์ชุดชั้นในเลย คัพเอยังไงจนถึงตอนนี้อายุปาเข้าไปสามสิบกว่าก็ยังคงอยู่ที่คัพเออย่างนั้น (คนเกือบสวยเศร้าหนัก ยกหลังมือปาดน้ำตาเบาๆ)

แต่เพราะไม่อาจทนเก็บซ่อนความรู้สึกไว้ได้อีก เมื่อเดือนก่อน สาวคัพเออย่างเธอจึงรวบรวมความกล้าที่มีทั้งหมด ไล่ขึ้นมาตั้งแต่ตาตุ่มถึงศีรษะ แล้วเดินแบบมึนๆ เข้าไปสารภาพรักกับปรวีณ์ ลึกๆ ก็เผื่อใจหากตัวเธอต้องกินแห้ว เพราะรู้ว่าเธอคงไม่ใช่สเปคของชายหนุ่ม แต่…สวรรค์ก็เมตตาสงสาร

เพราะชายในฝันกลับตอบรับรักและตกลงที่จะลองคบหากับเธอดูเสียนี่ วันเมษาจำประโยคของปรวีณ์ได้อย่างแม่นยำ

‘ครับ…เราจะลองคบกันดู’ ประโยคนี้ทำเอาเธอนอนไม่หลับทั้งคืนก็ว่าได้ รู้สึกว่าตัวมันจะเบาๆ อิ่มทิพย์ไปเสียหลายวัน

เมื่อตกลงคบหากันแล้ว การเดตก็มาถึง วันเมษาดูเก้ๆ กังๆ ยามที่อยู่กับปรวีณ์ จากที่เป็นคนมั่นใจก็ดูจะเสียศูนย์ไปบ้าง ถัดจากเดตก็มาถึงการดินเนอร์ ซึ่งนี่คือครั้งแรกของเธอกับปรวีณ์

ตั้งแต่มาถึงชายหนุ่มคอยเทคแคร์เธอเป็นอย่างดี สั่งอาหารหน้าตาน่าทานที่กำลังนำมาเสิร์ฟในขณะนี้ให้

“ทานเยอะๆ นะครับ” เมื่อเห็นว่าพนักงานวางจานอาหารลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว เสียงทุ้มที่แสนจะน่าฟังสำหรับวันเมษาเอ่ยบอก แต่ภายใต้ความน่าฟังก็แฝงความอึดอัดอยู่ในที บ่อยครั้งที่ปรวีณ์ลอบมองใบหน้าของคู่เดต แต่พอเธอหันมา เขาก็เปลี่ยนไปมองมุมอื่น

เขานั้นเป็นผู้ชายประเภทที่ไม่ชอบการจีบผู้หญิงก่อนเสียด้วย หากผู้หญิงคนไหนต้องการที่จะคบเขา เธอต้องเป็นฝ่ายเดินมาสารภาพรักก่อนเท่านั้น บวกกับความเหงาที่เกาะกุมหัวใจ ในวันที่วันเมษาเดินเข้ามาสารภาพรัก ปรวีณ์จึงตอบตกลงที่จะลองคบหากับเธอดู

“ค่ะ” ส่วนคนฟังก็เอ่ยรับเพียงแค่สั้นๆ เท่านั้น อาการประหม่าทำให้เธอแทบจะทำอะไรไม่ถูกด้วยซ้ำ จากวันที่สารภาพรักไปจนถึงวันนี้ นับๆ ดูแล้วเธอก็คบหากับปรวีณ์มาได้หนึ่งเดือนพอดี วันเวลาของความสุขช่างผ่านไปรวดเร็วจนเธอใจหาย

“อาหารอร่อยไหมครับ” เมื่อทานอาหารใกล้จะอิ่ม ปรวีณ์ก็เอ่ยขึ้น

“อร่อยค่ะ” วันเมษายิ้มรับ แค่การมาดินเนอร์กับหนุ่มที่ชอบ เธอก็อิ่มจนจุก แทบไม่ต้องกินอะไรก็ยังได้ ความรักมันช่างสวยงามอะไรอย่างนี้ โลกเป็นสีชมพูจนหลายคนอิจฉา

“ดีแล้วที่ชอบ เพราะทีแรกพี่ก็คิดอยู่นานเหมือนกันว่าจะพาษาไปกินข้าวที่ไหนดี”

“ขอบคุณนะคะที่พาษามาที่นี่”

“ไม่เป็นไรจ้ะ” ปรวีณ์เอ่ยรับ ก่อนที่สายตาจะมองเลยไปยังโต๊ะตรงข้าม ที่มีสาวสวย หุ่นเซ็กซี่มาก สวมชุดเดรสสั้นสีแดงแนบเนื้อ โชว์หน้าอกดูมๆ คนหนึ่งนั่งอยู่ ทั้งสองสบตากัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะเอ่ยขึ้น

“เอ่อ…ษา”

“คะ”

“เรากลับไปเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมดีกว่าไหม”ประโยคที่ได้ยิน ทำเอาช้อนที่อยู่ในมือของวันเมษาแทบจะร่วงก็ว่าได้ สีหน้าเธอดูงุนงงเป็นอย่างมากที่ได้ยินแบบนี้ น้ำตาถึงกับคลอเบ้า

“เอ๊ะ! พี่วีอย่าล้อเล่นแบบนี้สิคะ ษาตกใจหมด” วันเมษาพยายามยิ้มและหัวเราะ ทั้งๆ ที่ตอนนี้สีหน้าของปรวีณ์ไม่ได้แสดงออกว่ากำลังล้อเล่นแต่อย่างใด

“พี่พูดจริงๆ พี่ว่าเราคงไปด้วยกันไม่ได้หรอก สู้กลับไปเป็นเหมือนก่อนน่าจะดีกว่า”

“ทำไมพี่วีถึงคิดแบบนั้นละคะ ทั้งๆ ที่เราพึ่งจะคบกัน ทำไมถึงคิดว่าเราจะไปกันไม่ได้”

“เพราะษาไม่ใช่สเปคพี่” คำตอบของปรวีณ์ทำเอาคนฟังแทบหงาย ก่อนจะทวนประโยคที่ได้ยินด้วยเสียงสั่นนิดๆ

“ไม่ใช่สเปค”

“ใช่…พี่ขอโทษนะ พี่คงทำให้ษาผิดหวังมาก”

“ถ้าไม่ใช่สเปค แล้ววันนั้นพี่วีณ์ตอบตกลงที่จะคบกับษาทำไมคะ” เพราะเสียใจ ผิดหวัง ทำให้น้ำเสียงของวันเมษานั้นฟังดูห้วนขึ้น สีหน้านิ่งๆ ของเธอที่มองมายังปรวีณ์ก็ทำเอาชายหนุ่มอึกอัก

“เอ่อ…คือพี่”

“ษาขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ” พูดจบก็ลุกพรวดออกไปทันที ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวไปยังห้องน้ำ ปล่อยให้ปรวีณ์มองตามหลัง ก่อนจะถอนหายใจออกมาหนักๆ

“ไม่ใช่สเปค ไม่ใช่สเปค” วันเมษาเอ่ยทวนประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่หน้าห้องน้ำ เธอรู้สึกเสียใจจนอยากร้องไห้ แต่น่าแปลกที่น้ำตากลับไม่มีสักหยด เสียงพึมพำของเธอทำให้ชายหนุ่มที่พึ่งจะเดินออกมาจากห้องน้ำชายต้องหันมามอง ก่อนจะอมยิ้มเมื่อได้เห็นเธอ เพราะรู้สึกชอบสไตล์การแต่งตัว

“พูดออกมาได้ยังไงว่าเราไม่ใช่สเปค หึ๋ย” คนพึ่งอกหักหมาดๆ ยืนกำหมัดแน่น ความรู้สึกตอนนี้มันโหวงๆ ในอกบอกไม่ถูก ใจมันก็หวิวๆ ชอบกล ความรู้สึกแบบนี้หรือที่เขาเรียกว่าอกหัก คิดแล้วก็คอตก

จังหวะที่จะเดินเข้าห้องน้ำก็มีคนมาขวาง เธอเบี่ยงไปทางซ้ายเขาก็ตามมา เธอเลี่ยงออกทางขวาเขาก็ยังคงตามมาอีก ความที่เธอเอาแต่ก้มหน้ามองพื้น จึงเห็นเพียงชุดที่เขาสวม อันดับแรกที่เห็นคือกางเกงยีนส์ รองเท้าหนัง ส่วนเสื้อเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนระดับศอก แต่เขาคงจะตัวสูงมาก เพราะตอนนี้ใบหน้าของวันเมษาอยู่ตรงหน้าอกเขาเท่านั้นเอง

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ วรนิษฐา / Miss sexy

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ