แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

วรนิษฐา / Miss sexy

5.0
ความคิดเห็น
5.2K
ชม
60
บท

‘เขาเป็นแวมไพร์ที่ปฏิเสธการดื่มเลือด แต่กลับไม่ปฏิเสธหากจะได้กลืนกินเธอ’ ------------ “วันนี้นายริทเป็นอะไร ดูเหม่อๆ” “นั่นนะสิ” คนงานอีกคนเห็นด้วย ก่อนจะหยุดการสนทนาใดๆ แล้วตัดดอกไม้ต่ออย่างขะมักเขม้น ส่วนคนที่พวกเขาเอ่ยถึงนั้น ตอนนี้ก็กำลังง่วนอยู่กับงานตรงหน้าเช่นเดียวกัน กระทั่งได้ดอกไม้ครบตามจำนวน เชโรมจึงเดินไปยังรถที่ตอนนี้มีดอกไม้แสนสวยอยู่ท้ายกระบะเต็มไปหมด แต่จังหวะนั้น สายตาของเชโรมกลับมองไปเห็นกระต่ายสีขาวที่เขาเลี้ยงไว้หลุดออกมาจากกรง จึงเดินไปอุ้มมันขึ้น ท่าทางเขาดูอ่อนโยนเสียจนมาศิตาที่ผ่านมาเห็น คิดว่าตัวเองตาฝาด จนต้องขยี้ตาแรงๆ สามสี่ครั้ง “ผู้ชายหน้าโหดกับกระต่ายสีขาว ดูยังไงก็ไม่เห็นจะเข้ากันสักนิด สงสัยจะเลี้ยงกระต่ายไว้กินแน่ๆ” “เลี้ยงไว้ดูจ้ะ นายริทชอบกระต่ายสีขาว ตรงนู่นเป็นกรงกระต่าย มีหลายสิบตัว” คนงานสาวคนหนึ่งเอ่ยแย้งให้ผู้เป็นเจ้านาย “ชีวิตดูมุ้งมิ้งกิงก่องแก้วขัดแย้งกับหน้าตาสุดๆ แวมไพร์ตนอื่นๆ มีแต่จะเลี้ยงกระต่ายไว้ดื่มเลือด นี่อะไร เลี้ยงไว้ดูเล่น โอ๊ย! พ่อมังสวิรัติ” มาศิตาบ่นคนเดียวอีกตามเคย ตามมาด้วยอีกประโยค “สอนแวมไพร์ให้ดื่มเลือด มันจะเหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำปะวะเนี่ย ของมันเป็น มันอยู่ในสายเลือด จะให้เรามาสอนเขาทำไม หืม” คนข้างๆ ที่เผลอได้ยินทั้งสองประโยคนี้เข้า กลับมีสีหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด พอจะถามมาศิตาก็เดินตัวปลิวไปเสียแล้ว “ใครเป็นแวมไพร์หว่า หรือเราจะหูฝาดไป” คนงานสาวที่เพิ่งจะเอ่ยแก้ต่างเรื่องกระต่ายให้เชโรมไปเมื่อครู่ถึงกับคิ้วขมวด พูดกับตัวเองตามมาศิตาไปอีกคน ------------------ “แต่ศิตาไม่ยอมให้พี่ริทตายเด็ดขาด เพราะศิตารักพี่ริท” เอ่ยจบก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรม จูบที่ต่างฝ่ายต่างต้องการจากกันและกันมาโดยตลอด จูบที่ฝันว่าครั้งแรกมันต้องโรแมนติกและน่าจดจำ ไม่ใช่จูบที่ได้กลิ่นคาวเลือดจากริมฝีปากเขาเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด เลือด! ใช่…เลือด คำๆ นี้ทำให้มาศิตานึกอะไรขึ้นมาได้ เธอคือผู้พิทักษ์ เลือดของเธอแวมไพร์ที่ยืนจ้องอยู่ตรงนั้นยังต้องการ แล้วทำไมเธอถึงไม่ให้เชโรมชิงดื่มเลือดของเธอเสีย ไม่แน่ว่า หากเขาได้ดื่มเลือดมนุษย์จริงๆ เชโรมอาจมีพลังขึ้นมาก็เป็นได้ มาศิตาถอนจูบออก แล้วแสร้งโอบกอดเชโรม ก่อนจะกระซิบให้เขาฝังคมเขี้ยวลงไปบนลำคอเพื่อจะได้ดื่มเลือดเธอ แต่เหมือนเชโรมกลับส่ายหน้าปฏิเสธกับแผนนี้ กระทั่งมาศิตาชิงลงมือก่อน เธอกัดริมฝีปากตัวเองสุดแรงจนเลือดไหล แม้จะเจ็บแต่ก็ยอมทน จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรมอีกครั้ง ทันทีที่ได้สัมผัสเลือดของผู้พิทักษ์ นั่นทำให้เลือดในกายของแวมไพร์หนุ่ม ผู้ที่ไม่เคยลิ้มรสชาติของเลือดใดๆ มาก่อน พลันพลุ่งพล่านราวกับเปลวไฟ “เจ้าทำอะไร” แดนเองก็ได้กลิ่นเลือดของมาศิตาเช่นเดียวกัน รวมทั้งจ้องมองความผิดปกติของเชโรมอย่างไม่กะพริบตา เลือดเพียงหนึ่งหยด กลับทำให้นัยน์ตาที่เคยเป็นสีน้ำตาลอ่อนแปรเปลี่ยนมาเป็นสีแดงเพลิงในทันที ร่างกายที่เคยเจ็บปวดกลับค่อยๆ หาย และรู้สึกถึงพลังที่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง “แววตาแบบนั้น เจ้าเป็นใครกัน หรือว่า…”

บทที่ 1 ต้นกำเนิด

โลกของเราหมุนเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ภายใต้ความหมุนเปลี่ยน กลับมีบางสิ่งบางอย่างที่หยุดนิ่ง

โลกที่เต็มไปด้วยวิวัฒนาการ เทคโนโลยีอันล้ำสมัย จนทำให้มนุษย์หลงลืมบางสิ่งบางอย่าง นานวันเข้าสิ่งเหล่านั้นกลับเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าขานที่ถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น และไร้ซึ่งหลักฐานเพื่อยืนยันความมีตัวตน

“พ่อขา แวมไพร์คืออะไร”

“แวมไพร์คือราชันผู้ยิ่งใหญ่แห่งรัตติกาล” เสียงทุ้มเอ่ยตอบเด็กน้อยที่นั่งอยู่บนตัก เพื่อฟังเรื่องเล่าขานตำนานแวมไพร์จากบิดา ที่มักจะเล่าให้ฟังอยู่บ่อยๆ

“จำไว้นะลูก ว่าเราคือผู้พิทักษ์ หากวันใดท่านต้องการความช่วยเหลือ เราต้องไป”

“อะไรคือผู้พิทักษ์คะ” คำถามอย่างไร้เดียงสาดังขึ้น

“ไว้โตขึ้น พ่อจะเล่าให้ลูกฟังทุกอย่าง ตกลงไหมคะ”

“ตกลงค่ะ” น้ำเสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยสี่ขวบเอ่ยรับ ก่อนจะตั้งอกตั้งใจฟังเรื่องเล่าจากบิดาอย่างตั้งใจ โดยคิดว่านี่เป็นเพียงนิทานก่อนนอนเรื่องหนึ่งเท่านั้น

กระทั่งวันเวลาผ่านไป เด็กน้อยเติบใหญ่เป็นหญิงสาวหน้าตาน่ารัก เธอเติบโตในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและเพราะคำๆ นี้ทำให้ผู้คนในยุคที่เรียกว่าไอที ไม่เคยนึกฝัน ว่าเรื่องราวบางอย่างจากอดีต จะยังคงมีอยู่จริง อย่างเช่นเรื่องของ ‘แวมไพร์’

แม้เรื่องราวจะถูกนำมาถ่ายทอดให้ได้รับรู้ ให้ได้เห็นในรูปแบบของละคร ภาพยนตร์ แต่หลายๆ คนกลับคิดว่านั่นเป็นแค่เรื่องเล่า โดยหารู้ไม่ว่านอกเหนือจาก ‘แวมไพร์’ แล้ว ยังมีกลุ่มคนบางกลุ่มที่มีหน้าที่พิทักษ์และคอยรับใช้เจ้านายอย่าง ‘แวมไพร์’

คนกลุ่มนี้คือมนุษย์ที่เกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่ได้เป็นอมตะอย่างเหล่าแวมไพร์ ส่งต่อทายาทรุ่นต่อรุ่นให้สืบทอดหน้าที่มานานนับร้อยๆ ปี และหนึ่งในนั้นคือเธอ

“อ่านอะไรอยู่แก หน้าตานี่เครียดเชียว” เสียงคนที่นั่งอยู่ข้างๆ เอ่ยถาม ก่อนจะชะเง้อคอยาวมามองว่าเพื่อนสนิทกำลังอ่านอะไรอยู่

“อ้อ…พอดีเปิดฟีดข่าวในเฟสมาเจอเรื่องแวมไพร์เข้าน่ะ เลยอ่านฆ่าเวลา” มาศิตา กระกูลยศยิ่ง ละสายตาจากโทรศัพท์มือถือแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนแล้วยิ้มให้

ตั้งแต่เล็กจนโต เรื่องเล่าของแวมไพร์เปรียบเหมือนนิทานที่พ่อมักจะเล่าให้มาศิตาฟังเสมอ แม้จะเรียกว่านิทานแต่นั่นล้วนแต่คือเรื่องจริงทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้มาศิตารับรู้มาตลอด ว่าเธอเกิดมาในครอบครัวที่แตกต่างจากคนอื่นๆ

‘ผู้พิทักษ์’ คำๆ นี้ฟังดูศักดิ์สิทธิ์และยิ่งใหญ่สำหรับมาศิตามาก ยิ่งโตขึ้นเธอยิ่งรับรู้เรื่องราวของแวมไพร์มากขึ้นตามไปด้วย แม้ถึงตอนนี้จะยังไม่มีโอกาสได้เห็นแวมไพร์ตัวจริง เสียงจริง แต่เธอก็มั่นใจว่าบนโลกใบนี้มีแวมไพร์ปะปนอยู่กับมนุษย์ เพียงแค่เธอไม่รู้ว่าใครเป็นหรือไม่เป็น

“นี่มันสมัยไหนแล้วยะ แวมพงแวมไพร์ไม่มีอยู่จริงหรอก” โรซี่คนงามแย้งขึ้นมาทันที

“มันอาจมีจริง เพียงแค่เราไม่รู้ก็ได้มั้งแก คนที่เดินผ่านไปผ่านมา บางทีเขาอาจเป็นแวมไพร์ก็ได้นะแก” มาศิตาแย้ง นั่นเพราะตั้งแต่เธอเกิดมา คำว่าแวมไพร์เหมือนจะอยู่ในหัวตลอด

คำๆ นี้ คนอื่นอาจหวาดกลัวจนตัวสั่น แต่สำหรับเธอกลับรู้สึกเฉยๆ อาจเพราะได้ยินบ่อยจนชินไปแล้วก็ได้

“แกอ่านข่าวจนเพ้อไปแล้วใช่มั้ย...หืม” โรซี่ส่ายหน้าให้มาศิตา นั่นเพราะเธอไม่เชื่อว่าบนโลกใบนี้มีแวมไพร์ จนกว่าจะได้เห็นกับตาตัวเอง

มาศิตาไม่รู้จะอธิบายให้โรซี่เข้าใจได้ยังไงถึงจะเข้าใจเหมือนกัน

“แวมไพร์มีหรือไม่มีอันนี้ฉันไม่รู้ แต่ที่รู้ว่ามีแน่ๆ คือนี่” เอ่ยจบ โรซี่คนงามก็ส่งโทรศัพท์มือถือมาให้ ทำเอาคนที่กำลังอ่านเรื่องแวมไพร์ถึงกับตาลุก วาว จ้องมองเรือนร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแน่นๆ ของชายหนุ่มที่อยู่ในคลิป

“โอ้ว…ซิกแพค” คำอุทานของคนข้างๆ ทำเอาโรซี่หัวเราะตามไปด้วย นั่นเพราะรู้ว่าเพื่อนสนิทแพ้ทางให้แก่ซิกแพคผู้ชายหล่อ ยิ่งเป็นลูกครึ่งด้วยแล้ว รายนี้แทบจะคลานเข่าเข้าไปหา

“นี่แหละหนุ่มหล่อแวมไพร์ยุคสองพัน ซิกแพคเป็นซิกแพค กล้ามเป็นกล้าม น่าลากไหมล่ะ”

“นี่แวมไพร์เหรอ จริงอ่ะ” ฟังคำถามเพื่อนแล้ว โรซี่ก็ยิ้มกริ่ม ดูท่าแล้วคนข้างๆ จะเพิ่งเคยดูหนังเรื่องนี้เป็นแน่ ไม่งั้นไม่ออกอาการแบบนี้แน่นอน

“หนังย่ะ ไม่ใช่แวมไพร์ตัวจริง นี่หล่อนอย่าบอกนะว่าไม่เคยดูหนังเรื่องนี้นะศิตา”

“ก็แค่ผ่านๆ ตาบ้าง แต่ยังไม่เคยดูจริงๆ จังๆ จนจบเรื่องสักที”

“ยัยหลังเขา” โรซี่แอบแขวะคนข้างๆ นั่นเพราะหนังเรื่องนี้โด่งดังมาก มากเสียจนเป็นกระแสแวมไพร์ฟีเวอร์ไปทั่วบ้านทั่วเมือง เธอกรี๊ดและอยากได้ทั้งแวมไพร์และหมาป่ามาไว้ในครอบครองมาก

“ย่ะ ก็ฉันเป็นพวกไม่ค่อยชอบดูหนังนี่ จะได้ตามทันกูรูหนังแบบแก”

“เขาเรียกดูเพื่อเปิดโลกทัศน์หรอก แกนี่…หนังเขาออกจะดัง ไม่รู้จักซะงั้น”

“แต่ถ้าแวมไพร์จะหล่อ จะเท่ จะคูล จะน่าดึงดูดขนาดนี้นะ ฉันยอมถวายคอให้ดูดเลือดเลยเอา” มาศิตาเอ่ยแซวคนข้างๆ พร้อมๆ กับเชิดคอขึ้นแล้วยกมือมาลูบๆ คลำๆ คอตัวเองไปด้วย

“เหรอ…แต่ถ้าแวมไพร์มีจริง ฉันว่าคงแก่ หงำเหงือก ผมหงอก ใส่ฟันปลอมแล้วมั้ง ไม่หล่อดูดีน่าลากแบบในหนังนี่หรอก”

“เคยเจอแวมไพร์ตัวเป็นๆ หรือจ๊ะนาง ถึงพูดมั่นใจแบบนี้” ถามออกไปแล้วก็ชวนให้สงสัย นั่นเพราะเธอเองก็ไม่เคยเจอแวมไพร์ตัวเป็นๆ สักที เคยแต่ได้ยินเรื่องเล่าจากพ่อเท่านั้นเอง

“ไม่เคย แล้วก็ไม่อยากเจอด้วย แค่คิดก็เสียวคอจะแย่แล้ว...อึ๋ย” โรซี่ขนลุกเบาๆ

“เท่าที่รู้ แวมไพร์เขาเลือกเหยื่อเพศตรงข้ามย่ะ ถ้ารู้ว่าแกข้ามเพศมา เขาอาจช็อกที่ดูดเลือดจากเพศเดียวกันจนเพี้ยนไปเลยก็ได้นะ” คำพูดของคนข้างๆ ทำเอาโรซี่หันมาแยกเขี้ยวใส่ ก่อนจะงอนตุ๊บป่องเป็นเด็กๆ

“ปากหรือนั่น เดี๋ยวเถอะ”

“ล้อเล่นน่ะ อย่างอนเลยนะโรซี่คนงาม แห่งทุ่งบางกะปิ”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ วรนิษฐา / Miss sexy

ข้อมูลเพิ่มเติม
ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

มหาเศรษฐี

5.0

เธอคือ....นางโจร ส่วนเขาคือนายตำรวจ...มือหนึ่ง แต่พรหมลิขิตกลับชักพาให้นางโจรอย่างเธอปล้นความรักไปจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่าง...เขา +++++ “ผมบอกไปหรือยังว่าผมรักคุณ” “ยังค่ะ” มีนาเอ่ยตอบด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อคืนเหมือนเธอจะได้ยินเมฆาบอกรัก แต่มันก็แผ่วเบาเสียจนคิดว่าเธอคงฝันหรือไม่ก็เพ้อไปเองคนเดียว “โอเค...ผมรักคุณ” เมฆาบอกรักคนในอ้อมกอด มันคือคำว่ารักที่แสนเรียบง่ายแต่ทว่ากลับตราตรึงอยู่ในความรู้สึก ทั้งจากคนพูดและคนที่ได้ยิน เพราะหากไม่แน่ใจว่ารักเมฆาหรือจะพูดคำนี้ออกมา “ผู้ชายเขาบอกรักกันง่ายๆ แบบนี้เหรอคะ” “ใครบอกว่าง่าย เมื่อคืนกว่าผมจะบอกรักคุณมีนด้วยภาษากายได้ก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเชียวนะ” “ทะลึ่ง” มีนามองค้อนมาให้ นั่นเพราะรู้ความหมายที่เมฆาเอ่ยว่าคืออะไร “ผมพูดเรื่องจริง” “แต่ฉันเป็นโจรที่เคยยกเค้าบ้านคุณนะคะ ถูกแจ้งจับอีก แบบนี้คุณยังจะรักฉันอย่างนั้นเหรอ” “มีกฎหมายข้อไหน ห้ามไม่ให้ตำรวจรักกับโจรบ้าง” “ก็...” คนฟังแย้งไม่ออก “ผมว่าความรักมันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว รักก็คือรัก” “แต่เราต่างกันเกินไป ฉันคิดว่า...” “โลกนี้ไม่มีคำว่าต่าง ต่อให้มีเราก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากันก็ได้นี่ครับ ผมขอแค่โอกาส” “ฉัน...” “ผมรักคุณมีน ต่อให้จะนอนคิดนั่งคิดหรือตีลังกาคิดก็ยังรัก” เมฆาเอ่ยคำว่ารักให้คนในอ้อมกอดได้ยินและได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเขาอีกครั้ง “แล้วถ้าฉันปฏิเสธละคะ คุณจะว่ายังไง” “ผมคงเสียใจหนักมากแน่” เมฆาเสียใจจริงๆ แต่เขาคงไม่ถอดในจากเธอด้วยเรื่องแค่นี้แน่ แต่ทว่าคำพูดหลังจากนั้นของมีนากลับทำให้คนฟังยิ้มกว้างออกมา “แต่ฉันไม่อยากเห็นคุณเสียใจ” “งั้นก็รับรักผม ได้ไหม” “เฮ้อ! ไหนๆ ฉันก็ได้คุณแล้วก็คงต้องแมนๆ รับผิดชอบ ฉันรับรักคุณก็ได้อะ คุณจะได้ไม่ร้องไห้เสียใจเพราะฉัน” มีนาพูดติดตลก นั่นเพราะไม่อยากให้บรรยากาศตอนนี้อึดอัด คำพูดของเธอทำให้เมฆาถึงกับหัวเราะ ก่อนจะรั้งผ้าห่มขึ้นมาห่มคลุมโปงทั้งเธอและเขา แล้วเริ่มปฏิบัติการยืนยันว่าแท้จริงแล้วใครได้ใครกันแน่ และใครต้องรับผิดชอบใคร

เล่ห์รักฉบับ CEO

เล่ห์รักฉบับ CEO

มหาเศรษฐี

5.0

จูบแรกก็เป็นของเขา จูบครั้งที่สอง สาม สี่ ก็ยังคงเป็นของเขา แบบนี้โสภิตาจะหนีจาก CEO หนุ่มที่เธอบังเอิญผ่านไปช่วยชีวิตเขาไว้ได้อย่างไร ++++++++++++++++ **โปรย 1 “เท่าที่ได้คุยกันฉันว่านายเชนคนนี้นิสัยก็ใช้ได้” “อึนๆ มึนๆ นี่เหรอใช้ได้” โสภิตาอยากจะบอกเหลือเกินว่าบางครั้งราเชนก็กวนตีนเธอ “อื้อ...นายเชนเขาให้ความพิเศษกับแกนะ ขนาดปลายังแกะก้างออกให้ นี่ถามจริงๆ แกไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ” “ก็...” โสภิตาอ้ำๆ อึ้งๆ เธอนั้นไม่มีประสบการณ์เรื่องความรัก เรียกได้ว่าชั่วโมงบินน้อยมากๆ ใครมาดีหรือมาร้ายบางครั้งก็มองไม่ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง อาศัยเพียงแค่สัญชาตญาณของตัวเองซึ่งบางครั้งมันอาจผิดพลาด “หรือคิดมากเรื่องฐานะที่นายเชนมีน้อยกว่าแก” “ไม่ใช่เรื่องนั้น ถามว่าฉันรู้สึกดีกับเขาไหมก็...อื้ม บางครั้งเวลาฉันอยู่กับเขาแล้วเหมือนตัวเองเป็นง่อย จากที่ทำอะไรได้เองก็เริ่มอยากให้เขาทำให้ อยากให้เขาช่วย” นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่โสภิตารู้ตัวเองดี “ไม่แปลกหรอก เพราะผู้หญิงเราต่อให้แข็งแกร่งยังไงลึกๆ ในหัวใจก็อยากมีใครสักคนมาดูแล” “แกก็เป็นเหรอ” “เป็นสิ บางครั้งฉันยังงอแงให้บอสจับแมลงสาบเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเห็นตอนไหนฉันกระโดดกระทืบตอนนั้น” คำพูดของรติชาทำให้โสภิตาหัวเราะออกมาเพราะนึกภาพออกทันที เวลานั้นปิลันธน์คงทั้งกลัวทั้งอยากกำจัดให้คนรักส่วนรติชาก็คงหัวเราะชอบใจแน่ๆ “นึกว่าฉันเป็นอยู่คนเดียว” “แกนะเข้มแข็งมากนะหวาน เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นหัวหน้าคนงาน รับผิดชอบเรื่องนั้นเรื่องนี้มากมาย ที่ผ่านมาอาจเพราะแกยังไม่เจอใครที่สามารถฝากชีวิตเอาไว้ได้แกเลยไม่เปิดใจ แต่ถ้าตอนนี้แกเจอคนคนนั้นแล้วฉันแนะนำว่าแกควรฟังเสียงหัวใจของตัวเองให้มาก ว่าอยากอยู่แบบที่ผ่านๆ มาหรืออยากจับมือกับใครสักคนไปจนวันตาย” นั่นคือคำแนะนำจากใจของรติชาเพราะเธอเคยลังเลแบบนี้มาแล้ว หากเวลานั้นตัดสินใจผิดตอนนี้เธออาจโกนหัวบวชชีที่วัดป่าที่ไหนสักแห่ง “ฉันอยากจับมือใครสักคน” ++++++++++++++++ ***โปรย 2 “ฉันเกลียดที่สุดคือคนโกหก ที่ผ่านมาฉันรู้สึกดีกับนายเพราะเข้าใจมาตลอดมานั่นคือนาย แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นใครกันแน่ นายจะโกหกอะไรฉันอีกไหม ฉันต้องโง่ไปอีกกี่ครั้ง” น้ำเสียงของโสภิตานั้นสั่นเครือ “ผมสัญญาว่าจะไม่โกหกอะไรคุณอีกแล้ว สาบานให้ตาย...” จังหวะที่ราเชนกำลังจะสาบานให้ตัวเองตาย โสภิตาก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของเขาไว้เสียก่อน “ลองตายดูสิ ฉันจะลากตัวนายขึ้นมาแล้วสับๆ” ราเชนอึ้งกับประโยคที่ได้ยินก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าโสภิตาไม่ยอมให้เขาตายง่ายๆ สินะ “โอเคๆ ผมไม่ตายแล้วก็ได้ ยกโทษให้ผมเถอะนะคุณหวาน ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” “นายนี่มัน ทำฉันทั้งสุขทั้งทุกข์เหมือนคนเป็นไบโพลาร์แบบนี้ได้ยังไง รับผิดชอบสติฉันมาเลย” “ถ้าผมรับผิดชอบจริงๆ คุณหวานจะตอบตกลงไหมครับ” “อื้อ” “จริงๆ นะ” ราเชนถามย้ำ ส่วนคนที่ตามความเจ้าเล่ห์ของเขาไม่ทันก็ไม่ได้เอะใจอะไรแม้แต่น้อยเช่นกัน “จะรับผิดชอบอะไรว่ามา” “แต่งงานกันไหม”

รักร้อนซ่อนใจรัก

รักร้อนซ่อนใจรัก

โรแมนติก

5.0

เขาคือพระเอกดาวค้างฟ้า เล่นละครเรื่องไหนเรตติ้งพุ่งแรงเสมอ ในขณะที่เธอก็เป็นแค่เอ็กตร้าในกองถ่าย ที่เอ๋อๆ เด๋อๆ เพราะไม่ได้เป็นแฟนคลับของเขาเธอจึงไม่ได้แสดงออกว่าปลื้ม แต่ยิ่งเธอเฉยเขายิ่งสนใจ กระทั่งมีเหตุการณ์ให้ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน จูบแรกของทั้งคู่เกิดขึ้นก็เพราะงาน แต่หัวใจของเธอกลับถูกริมฝีปากนุ่มและแสนร้ายกาจของพระเอกกระชากจนหลุดลอยและมันมักจะลอยไปหาเขาโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ของขวัญวันเกิดปีนี้ของเธอก็ยังเป็นจูบจากเขา จูบที่ทำให้ใจสาวหวั่นไหวและยากจะต้านทาน หัวใจเธอถูกเขาไล่ต้อนจนมุม ทางเดียวที่จะรับมือคือพุ่งเข้าชนแล้วเอาหัวใจเป็นเดิมพัน

หัวใจแพ้ทางรัก

หัวใจแพ้ทางรัก

โรแมนติก

5.0

ถึงอาดิน เรารู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้วนะคะ เป็นสิบปีที่มิลค์มีความสุขมาก ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักจนถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนที่มิลค์จะหยุดรักอาดินได้เลย นอกจากจะหยุดรักไม่ได้แล้ว ยังรักมากขึ้นๆ ทุกๆ วัน สิบปีมานี้มิลค์ได้บอกรักอาดินไปหลายครั้ง ทุกๆ ครั้งที่บอกไปมิลค์มีความสุขมากค่ะ ถึงแม้อาดินจะไม่ตอบรับมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่มิลค์ก็ยังพยายามต่อ เพราะหวังว่าสักวันอาดินจะหันมามองเห็นความรักที่มิลค์มีให้และรับมันไป แต่ว่า...มันคงไม่มีวันนั้นแล้วจริงๆ มิลค์ขอโทษนะคะที่เอาแต่ใจ ที่ตามกวนใจอาดิน หลังจากนี้เราคงไม่ได้เจอกันสักพัก มิลค์ขอให้อาดินเจอคนที่ใช่ คนที่อาดินรัก ส่วนมิลค์จะขอเฝ้ามองอาดินอยู่ห่างๆ แทน ลาก่อนค่ะ มิลค์

พ่ายสวาท

พ่ายสวาท

มหาเศรษฐี

5.0

รักแรก! ย่อมร้อนแรง รักแรก! ย่อมเร่าร้อน รักแรก! ย่อมปรารถนา แต่เมื่อรักแรกพังทลาย! สิ่งที่หลงเหลือไว้คือบาดแผลแห่งน้ำตา จากวันผ่านเป็นเดือนกลายเป็นปี กระทั่งเขากับเธอได้หวนหลับมาใกล้ชิดกันอีกครั้ง แต่ทว่าเวลานี้…. เขา…คือพี่เขย! ส่วนเธอ…คือน้องเมีย! ------------------------------------------------------- “หลงรักพี่เขยตัวเอง น่าสมเพชจริงๆ” ดารันส่ายหน้าให้ตัวเอง นั่นเพราะต่อให้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หรือตัวจะอยู่ห่างไกลกันสักเท่าไหร่ เธอก็ไม่อาจตัดใจจากโฮมได้สักครั้ง ครั้งแรกที่ได้พบกันคือวันแรกที่ชายหนุ่มย้ายเข้ามาอยู่บ้านหลังข้างๆ ส่วนเธอนั้นคือเพื่อนบ้านที่ย้ายเข้ามาอาศัยก่อนเพียงสองเดือน ในขณะที่ตอนนั้นดารินยังทำงานอยู่ต่างประเทศ แต่ก็มีกำหนดกลับในอีกไม่ช้า เพราะเป็นเพื่อนบ้านกันทำให้เธอกับโฮมค่อนข้างที่จะสนิทกันตามไปด้วย ทั้งๆ ที่บ้านหลังข้างๆ ซึ่งก็เป็นหนุ่มโสดเธอกลับไม่รู้สึกอยากสนิทสนมด้วยสักนิด ที่เป็นแบบนั้นเพราะเธอแอบชอบโฮมอยู่นั่นเอง ชอบตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าเวลาอยู่ใกล้เขาทำให้เธออบอุ่นและปลอดภัย แม้เขาจะอายุมากกว่าเธอถึงสิบสามปีก็ตาม ซึ่งดารันใช้เรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างในการขอความช่วยเหลือต่างๆ เพื่อหาโอกาสได้ใกล้ชิด ทั้งขอให้เขาสอนขับรถให้บ้างหรือแม้กระทั่งเปลี่ยนหลอดไฟ ซ่อมท่อน้ำ ตัดหญ้าตัดต้นไม้ ล้างบ่อปลาเธอก็ไหว้วานเขาหมดทุกอย่าง นี่ถ้ายังเรียนอยู่คงให้โฮมมาช่วยติวหนังสือให้แน่ๆ แต่ติดที่ว่าเธอเพิ่งสอบวิชาสุดท้ายสำหรับการเป็นนิสิตปริญญาตรีไปหมาดๆ เธอกับเขาเข้านอกออกในบ้านของอีกฝ่ายได้ทุกเวลา ประหนึ่งนั่นคือบ้านอีกหลังของกันและกัน บางครั้งก็ทำอาหารมานั่งกินด้วยกันหรือแบ่งอาหารที่ต่างฝ่ายต่างทำให้กัน โดยส่งผ่านมาทางกำแพงข้างบ้าน จนมารู้ตัวอีกทีคือวันที่เธอขาดเขาไม่ได้เสียแล้ว กระทั่งวันหนึ่งเธอเปรยๆ ขึ้นว่าอยากทุบกำแพงทิ้ง แต่สุดท้ายคนที่ทุบมันคือดาริน พี่สาวของเธอ พี่สาวที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตอนที่ยังอยู่และตอนที่ไม่อยู่!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

มาชาวีร์
5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

อาเขยจอมเถื่อน

อาเขยจอมเถื่อน

มณีน้ำเพชร
5.0

เขา...พ่อเลี้ยงดรัณ พัชรอมรินทร์ ผู้ชายที่เกิดมาบนกองเงินกองทองแต่มีอดีตสุดแสนจะเจ็บปวด บาดแผลที่ทิ่มแทงหัวใจมาตลอดระยะเวลาหลายปีมันกำลังจะกลัดหนอง ถ้าไม่ทำการรักษาให้หาย เธอ...พลับพลึง โรจนศุภเกียรติ สาวน้อยวัยใสผู้มีโลกส่วนตัวที่แสนจะงดงาม และหลงรักผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งมาตลอด ‘ความรักคือการให้’ นี่คือนิยามความรักของเธอ เรื่องราวคงไม่วุ่นวายถ้าเธอไม่กลับมารับรู้ว่าเขาเป็น ‘หม้าย’ และเรื่องราวก็คงไม่วุ่นวายกว่า ถ้าเธอกับเขาไม่ต้องเปลี่ยนสถานะจาก ‘น้าเขยกับหลานเมีย’ มาเป็น ‘สามีกับภรรยา’ มันอาจจะเป็นความสมหวังถ้าเธอจะได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ใจดีที่หลงรักมาตลอด แทนการแต่งงานกับผู้ใหญ่ใจร้ายที่ไม่รู้สาเหตุว่าอะไรถึงเปลี่ยนให้เขาเป็นคนละคน เถื่อนและไร้เหตุผลสิ้นดี “เมียของฉันต้องเก่งเรื่องบนเตียง ต้องทำกับข้าวอร่อย ต้องทำงานในไร่ได้ไม่ต่างจากคนงาน ที่จริงจะต้องทำงานบ้านเป็นทุกอย่าง ขยัน ไม่นิ่งดูดายปล่อยให้แม่บ้านทำเอง เธอก็ต้องเป็นแบบนั้น” “ก็ได้ พลับทำให้ได้” “เริ่มเลย” “ปล่อยสิคะ ไม่ปล่อยแล้วจะทำได้ไง” ถ้าเขายังกอดเธอแน่นแบบนี้ ยังหายใจรดใบหน้าเธอแบบนี้ แล้วจะออกไปทำทุกอย่างที่ต้องการได้ยังไง “หน้าที่แรกที่บอก จำได้ไหม”

คลับรัก รักนะครับที่รักของผม

คลับรัก รักนะครับที่รักของผม

bankpan
5.0

อาร์ม>>>นักศึกษาปี4 คณะวิศวะ สุดหล่อที่โคตรใจร้อนไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนนอกจากน้องสาวอย่างแอมแปร์และเพื่อนรักอย่างน้ำฝน "เด็กแพทย์กูนึกว่ามีแต่คนเรียบร้อย แต่คนนี้กูว่ามาร้อยก็เรียบ" เมเบิ้ล>>>นักศึกษาปี4 คณะแพทย์ สาวสวยประจำคณะ เพื่อนสนิทของน้ำขิง สวยแรง เก่ง ฉลาด "เรียนแพทย์เขาใช้สมองนะ ไม่ใช่การแต่งตัว" ดีม>>>นักศึกษาป.โท คณะวิศวะ เพื่อนสนิทของอานนต์ เพลย์บอย เจ้าชู ไม่เคยจริงจังกับใคร "ก็พี่อยากรับผิดชอบหนูนี่คะ" แอมแปร์>>>นักศึกษาปี1 คณะบริหารสาวสวยที่พี่ชายโคตรหวง น่ารัก นิสัยดี แต่ดวงซวยเสียทีให้ผู้ชายในผับของพี่ตัวเอง "จะตามหนูเป็นเงาเลยรึไงคะ"

ตามเธอไม่เคยทัน

ตามเธอไม่เคยทัน

Crepuscular Glyph
5.0

หลินหลั่งเยี่ยน เป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ จากรัฐ เป็นสาวอัจฉริยะที่ทุกคนในองค์กรอิจฉา มีความสามารถทางการต่อสู้สูงและไม่ยอมใคร แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวฝาแฝดของเธอเพียงลำพัง หลังจากผ่านไปเจ็ดปี ในที่สุดรัฐก็อนุมัติอิสรภาพให้เธอ หัวใจของหลินเหลิงเหยียนเต้นระรัวด้วยความคาดหวัง ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับบ้าน แต่เธอกลับต้องพบว่าป้าของเธอใช้ชีวิตอย่างหรูหราในบ้านพักของพ่อแม่ผู้ล่วงลับ ขณะที่น้องสาวของเธอเองกลับถูกบังคับให้นอนในคอกสุนัขและกินของเหลือ ทันใดนั้น เธอพลิกโต๊ะอาหารด้วยความโกรธ ป้าข่มขู่? เธอใช้วิธีการที่เด็ดขาดถอนตัวจากการร่วมมือ จนบริษัทของป้าพังทลายลงอย่างรวดเร็ว! การกลั่นแกล้งในโรงเรียน? เธอปลอมตัวเป็นน้องสาว เข้าไปในโรงเรียนและตัดสินใจสู้ไฟด้วยไฟ จากนั้นเธอก็ถ่ายทอดสดตอนพวกอันธพาลคุกเข่าร้องขอความเมตตา ถูกเยาะเย้ยเรื่องตัวตน? หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา“ใช่ ฉันก็แค่คนธรรมดา” ในวินาทีถัดมา ครอบครัวที่มีชื่อเสียงมายืนยันว่า“เธอคือลูกสาวคนโตของเรา!” สถาบันวิจัยแห่งชาติ “พวกเราคือเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ!” …… ซือฮานเฟิง ผู้เป็นผู้นำของตระกูลลึกลับ ไม่เคยปรากฏตัวในสายตาสาธารณชน ข่าวลือว่าเขาเป็นคนเยือกเย็นและไร้ความปรานี บางคนเคยเห็นเขายืนสูบบุหรี่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว และบางคนก็เห็นเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา แต่ต่อมากลับมีคนเห็นว่าเขาไล่ตามหลินหลั่งเยี่ยนจนถึงมุมกำแพง ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าและความไม่พอใจ “หลั่งเยี่ยน ฉันช่วยเธอจัดการพวกนั้นแล้ว เธอควรจะอยู่เป็นเพื่อนกับฉันบ้างไหม?” “เราไม่ใช่แค่พันธมิตรหรือ?” หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างงงงวย ซือฮานเฟิงถอนหายใจลึกๆ แล้วจูบเบาๆ บนริมฝีปากของเธอ “ตอนนี้ล่ะ”

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ
1

บทที่ 1 ต้นกำเนิด

03/08/2022

2

บทที่ 2 จุดซ่อนเร้นของร่างกาย

03/08/2022

3

บทที่ 3 ผู้พิทักษ์ให้ถึงบ้าน

03/08/2022

4

บทที่ 4 หน้าที่ของผู้พิทักษ์ 1

03/08/2022

5

บทที่ 5 หน้าที่ของผู้พิทักษ์ 2

03/08/2022

6

บทที่ 6 ลูกชายของเจ้านายใหญ่

03/08/2022

7

บทที่ 7 ปลุกเลือดแวมไพร์

03/08/2022

8

บทที่ 8 ผู้ชายปากร้าย 1

03/08/2022

9

บทที่ 9 ผู้ชายปากร้าย 2

03/08/2022

10

บทที่ 10 ผู้ชายปากร้าย 3

03/08/2022

11

บทที่ 11 ความต้องการของตัวเอง

03/08/2022

12

บทที่ 12 กลิ่นยั่วยวน

03/08/2022

13

บทที่ 13 รอยยิ้มของนักล่า

03/08/2022

14

บทที่ 14 อ่อนโยนอย่างบอกไม่ถูก

03/08/2022

15

บทที่ 15 เยือนถึงถิ่น

03/08/2022

16

บทที่ 16 กลิ่นดอกไม้

03/08/2022

17

บทที่ 17 ความอ่อนโยนของชายหนุ่ม

03/08/2022

18

บทที่ 18 แอบห่วง 1

03/08/2022

19

บทที่ 19 แอบห่วง 2

03/08/2022

20

บทที่ 20 ได้ชื่อว่าเป็นแวมไพร์

03/08/2022

21

บทที่ 21 ฝืน 1

03/08/2022

22

บทที่ 22 ฝืน 2

03/08/2022

23

บทที่ 23 ฝืน 3

03/08/2022

24

บทที่ 24 แผนลับ 1

03/08/2022

25

บทที่ 25 แผนลับ 2

03/08/2022

26

บทที่ 26 แผนลับ 3

03/08/2022

27

บทที่ 27 ห่วงเธอเท่าชีวิต 1

03/08/2022

28

บทที่ 28 ห่วงเธอเท่าชีวิต 2

03/08/2022

29

บทที่ 29 ห่วงเธอเท่าชีวิต 3

03/08/2022

30

บทที่ 30 กลิ่นปลุกสัญชาตญาณดิบ

03/08/2022

31

บทที่ 31 เลือดเพียงหนึ่งหยด 1

03/08/2022

32

บทที่ 32 เลือดเพียงหนึ่งหยด 2

03/08/2022

33

บทที่ 33 เลือดเพียงหนึ่งหยด 3

03/08/2022

34

บทที่ 34 เลือดเพียงหนึ่งหยด 4

03/08/2022

35

บทที่ 35 เลือดเพียงหนึ่งหยด 5

03/08/2022

36

บทที่ 36 แวมไพร์เลือดผสม 1

03/08/2022

37

บทที่ 37 แวมไพร์เลือดผสม 2

03/08/2022

38

บทที่ 38 แวมไพร์เลือดผสม 3

03/08/2022

39

บทที่ 39 แวมไพร์เลือดผสม 4

03/08/2022

40

บทที่ 40 รักไร้นิยาม 1

03/08/2022