The Test of Time ย้อนเวลามาตามใจ

The Test of Time ย้อนเวลามาตามใจ

after5p.m.

5.0
ความคิดเห็น
93
ชม
14
บท

เมื่อ ‘รัก’ ถูกเวลาทําให้พรากจาก แต่ก็เป็น ‘เวลา’ ที่จะทําไห้ได้รักกลับคืน เมื่อโลกนี้มีไทม์แมชชีน อดีตแสนวุ่นกับอนาคตแสนสงบ จึงถูกดึงดูดให้เข้าใกล้ และเขาจะแก้ไขปัจจุบันให้มันเป็นอนาคตให้ได้ เมื่อ 'ด็อกเตอร์มาวิน' หรือ 'วินซ์' นักฟิสิกส์วัย 38 ผู้ขลุกตัวอยู่ในแอเรีย X สถานที่วิจัยไทม์แมชชีนของประเทศนีโอวิสท์นอส  พาตัวเองออกเดินทางย้อนเวลาไปเมื่อ 20 ปีก่อน โดยที่ไม่รู้ตัวว่าจะได้กลับมาเจอกับ 'ทอยส์' รักแรกที่เขาหลงลืม  รักในอดีตของทอยส์ กับ รักในอนาคตของผู้การนาธาน และปมเบื้องหลังการสูญเสียความทรงจําของมาวิน  ความสัมพันธ์ที่มากกว่าแค่คนสองคน บทสุดท้ายจะจบลงอย่างไร #testoftime *นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น

บทที่ 1 Backward (1)

.

.

ในสวนสาธารณะกว้างกลางฤดูหนาวที่อุณหภูมิ 27 องศา แม้ไม่หนาวมาก แต่ก็ถือว่าเย็นสบายและชวนรื่นรมย์มากกว่าหน้าร้อนที่ต้องทนเผชิญมาตลอดปี ต้นไม้ใหญ่อายุหลายสิบปีสูงตระหง่านตั้งเด่นกระจายตัวมอบร่มเงา ไม้พุ่มไม้ดอกถูกปลูกตัดแต่งและดูแลอย่างดีกระจายตัวตามการจัดวางที่ถูกออกแบบมา ทั้งสวยงาม เบ่งบานและใกล้ร่วงหล่น ที่มุมหนึ่งของสวนมีอดีตหอคอยสังเกตการณ์เฝ้าระวังการลอบหลบหนีของนักโทษที่ถูกปลดระวาง ตั้งอยู่กลางสระน้ำรูปวงกลม ขณะที่อีกฝั่งของสวน มีลานสเก็ตบอร์ด สนามบาส และมุมเครื่องเล่นเด็ก ที่นี่กลายเป็นสวนสาธารณะหลังจากทำหน้าที่เป็นสถานจองจำนักโทษร่วมร้อยปี

ใต้แสงแดดอ่อนที่ส่องแยงทะลุลอดหมู่ใบไม้สีเขียวอมเหลืองที่ชูช่อแตกระแนงเป็นแพใหญ่ของต้นไม้ที่มีลำต้นหนาขนาดหลายคนโอบ สองเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนมอปลาย เสื้อเชิ้ตสีขาวปักชื่อชั้น ทั้งอักษรย่อชื่อของโรงเรียน สอดอยู่ในกางเกงขาสั้นสีดำที่ถูกรัดหลวมไว้ด้วยเข็มขัดหนังสีเดียวกัน ทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่บนผืนหญ้าเขียวที่กินพื้นที่ไกลสุดปลายสายตา อย่างน้อยก็ไกลเกินกว่าที่พวกเขาจะเห็นรั้วขอบโดยรอบ

คนตัวสูงกว่ากำลังก้มมองใบงานเนื้อกระดาษหยาบสีเปลือกไข่ขนาด A5 ที่อยู่ในมือ ปลายปากกาจรดลงกรอกบันทึกข้อมูลที่สังเกตได้ ..ในสระน้ำมีสัตว์สปีชีส์ชนิดอื่นอาศัยอยู่นอกจากปลา เช่น แพลงตอน และสาหร่าย ระบบนิเวศของที่นี่..

ส่วนคนตัวเล็กกว่ากลับเหยียดขานอนสบายวางศีรษะบนตักของคนที่ตั้งใจทำการบ้านเพียงลำพัง

ลมอ่อนพัดเอาใบไม้ใบเล็กสีเหลืองซีดลอยละลิ่วตกบนอกเสื้อของคนที่เอาแต่นอนอย่างเกียจคร้าน เพียงไม่นานมือใหญ่ก็หยิบมันออกอย่างแผ่วเบาด้วยกลัวว่าจะกวนคน (ตั้งใจ) หลับ ..ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ อกบางยกตัวสม่ำเสมอ เขาเผลอมองไล่ไปบนใบหน้าเรียวเล็กที่ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มทั่วไป ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นโดยไม่แจ้งเขาล่วงหน้ามาสักพัก

แพขนตาดำเรียงเบียดสละสลวย คิ้วเข้มแต่ไม่เข้มมากและได้รูป จมูกจัดว่าโด่งและก็มีดั้งสวยรองรับ ริมฝีปากไม่บางไม่หนาแต่มีเนื้ออวบชวนให้มอง

ในเวลาที่มีแต่ความเงียบระหว่างกัน ก็ยังได้ยินว่าอีกฝ่ายกำลังพูดอะไร ไม่รู้ว่ารู้ใจกันขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทั้งที่ตอนเข้ามาเรียน คนตัวเล็กทำเหมือนเกลียดขี้หน้าเขามากมาย เรียกว่าตั้งป้อมรังเกียจกันก็ยังได้ ..เพราะเขาใช้วิธีทำความรู้จักเพื่อนใหม่ในแบบของตัวเอง แต่กลายเป็นถูกมองว่าใช้ของขวัญเพื่อซื้อมิตรภาพความเป็นเพื่อน

..ก็แค่ของเล่นจากสำเพ็งเอง ทำไมต้องคิดเยอะ

ไม่รู้ว่าเขาคิดน้อย หรือคนตัวน้อยคิดมาก

เขาตกใจที่ของขวัญชิ้นเล็กถูกส่งคืนกลับมาพร้อมกับกระดาษหนึ่งแผ่นที่ถูกพับปิดบังข้อความไว้ภายใน เขาเปิดมันออกอ่าน ข้อความในนั้นมีใจความคล้ายว่ากำลังตำหนิการกระทำของเขา ประมาณว่า ‘เพื่อน’ ไม่ได้ซื้อได้ด้วยของ..

แค่อ่านก็สะอึก คนคนนี้เป็นคนแบบไหนกัน ต้องจริงจังกับคำว่า ‘เพื่อน’ มากขนาดนั้นเลยรึไง

ถึงคนมากเรื่องจะเด่นสะดุดตาเพราะรูปลักษณ์แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาสนใจเท่าการทำตัวที่ต่างจากคนทั่วไป ไม่ก็เพราะการที่เขาโดนเกลียดขี้หน้าตั้งแต่วันแรก เลยทำให้คนที่ปฏิเสธของขวัญอยู่ในความสนใจมากกว่าใครๆ เขาหัวเราะกับตัวเองก่อนจะหันไปมองคนที่นั่งอยู่แถวถัดไปอีก 2 แถว ..ชักอยากรู้ว่าถ้าได้สนิทด้วยจะเป็นยังไง

..จนกระทั่งได้สนิทกัน

“อ่ะ อือ” เสียงครางบิดดังจากคนที่นอนสลบไสลไปได้ราวหนึ่งชั่วโมง สองแขนเล็กถูกยื่นเหยียดจนสุดแขนเกือบจะต่อยเอาหน้าของคนที่เอาแต่จ้องมองหลังจากหยิบใบไม้ออกจากอกให้คนที่เพิ่งตื่นจากฝัน

“นอนต่อดิ”

“กี่โมงแล้ว”

“ห้าโมง”

“เห้ย ห้าโมง! ทำไมไม่ปลุก”

“ทำไมต้องปลุก”

“ก็ทอยส์ต้องรีบกลับไง เดี๋ยวโดนแม่ดุ”

ความเป็นห่วงถูกส่งออกมาในเนื้อความ เขายกยิ้มพึงพอใจ นี่ล่ะมั้งสิ่งที่ได้จากการสนิทกัน

คนที่เพิ่งตื่นพลิกตัวตะแคงก่อนจะใช้สองมือดันตัวเองให้ลุกขึ้น ส่วนคนที่ถูกให้ยืมตักก็ช่วยออกแรงดันอีกแรง

“อ๊ะ” เสียงร้องดังแผ่วเบาจากคนที่นั่งนิ่งๆ ทำงานอยู่คนเดียวตลอดชั่วโมง

“เป็นอะไร” คนเพิ่งลุกขึ้นนั่งถามด้วยความเป็นห่วง

“...” เขาไม่ได้ตอบ แต่สีหน้าบูดเบี้ยวเล็กน้อย

“ขาชา?”

“อืม” คนถูกถามพยักหน้าตอบก่อนจะพยายามยืดขาออกไปบ้างเพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว แต่คนที่เพิ่งตื่นกลับหัวเราะขบขันพลางยื่นสองมือมาเขย่าขาที่ชาอยู่ของคนเสียสละ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะฉายอยู่บนใบหน้าที่เศร้าสร้อยมาตลอดทั้งวัน ทอยส์พอใจที่ได้เห็นมัน เขากลัดกลุ้มมาทั้งวันว่าจะทำยังไงให้คนรักหายเจ็บปวดจากสิ่งที่เจอมา

“พอได้แล้ววิน มัน..!” เขาร้องลั่นเมื่อความทรมานปวดแปลบแล่นไปทั่วขา มันดำเนินอยู่ไม่นานอาการชาก็ผ่อนคลายลง เขามองหน้าคนช่างแกล้งที่ยังยิ้มกว้าง ..มันน่านัก

“กลับกันเถอะ” วินตั้งท่าจะลุกจากพื้นหญ้าที่ถูกทับจนราบเตียน แต่มือใหญ่ก็รั้งแขนเล็กไว้

“ไม่ต้องหรอก เราโทรบอกแม่แล้ว” พูดพลางยก PCT* ในมือโบกไปมา

“แต่เย็นแล้ว ยังไงก็ต้องกลับ” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่สีหน้าที่แสดงออกมากลับไม่เป็นไปอย่างที่พูด วินของเขาไม่ได้อยากกลับบ้านสักนิด

“ไปบ้านเราก่อนไหม” คนตัวสูงเอ่ยชวน หวังว่าจะยืดเวลาและมอบพลังดีๆ ให้วินก่อนกลับได้

“ไม่เอาอ่ะ เดี๋ยวนาน”

ทอยส์ยกมือลูบผมนิ่มๆ อย่างหมั่นไส้ เขาไม่ชอบเลยที่วินรู้ใจและรู้ทันเขาเสมอ ตั้งแต่ตกลงคบกัน ทั้งคู่ก็มักหาโอกาสเติมเต็มความรู้สึกให้กัน หลายครั้งก็เกือบจะยับยั้งห้ามใจกันไม่อยู่ พลังวัยแตกหนุ่มมันพลุ่งพล่านจนไม่อยากจะทนทรมาน

“งั้นไปกินไอติมแล้วค่อยกลับ เราเลี้ยงเอง” เขารู้ดีว่าคนตัวเล็กกว่าชอบของหวาน ยิ่งตอนอารมณ์ไม่ดี เครปเจ้าใหม่ที่เพิ่งมาเปิดในโรงอาหารเลยเป็นของโปรดของมาวิน ..กล้วยราดช็อกโกแลต เป็นเมนูที่วินสั่งประจำ

“เลี้ยงทำไม ต้องเป็นเราที่เลี้ยงทอยส์ดิ งานเราก็ไม่ได้ช่วย เอาแต่หลับ” มาวินรู้สึกผิดที่ไม่ได้ช่วยทำงานกลุ่มวิทยาศาสตร์ ทั้งที่ไม่เคยหันหลังให้กับวิชาโปรด แต่วันนี้..เขาไม่มีแรงจะทำอะไรจริงๆ

“งั้นวินก็เลี้ยงไอติมเรา แล้วเราก็เลี้ยงฮอตดอกวิน”

“เดี๋ยวก็กินข้าวที่บ้านไม่ลงหรอก”

“เรากินจุ วินก็รู้”

ด้วยความที่ทอยส์สูงเกือบ 180 ในวัยนี้ จึงกลายเป็นจอมล้างผลาญอาหารในสายตาของกลุ่มเพื่อน ชามกระดูกหมูติดเนื้อที่ขอจากเจ๊ร้านก๋วยเตี๋ยวในโรงอาหารจึงวางอยู่ตรงหน้าเขาเสมอ และไม่มีใครกล้าแย่งแทะ เพราะกลัวว่าจะไม่ได้ลอกการบ้านจากคนเก่งเลขอย่างเขา

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

คุณนาย ประธานมาขอคืนดีอีกแล้ว

Apogean Spark
5.0

【สาวน้อยผู้มีความรักในใจกลายเป็นหญิงสาวที่มีสติปัญญา vs ซีอีโอผู้ตามรักอย่างบ้าคลั่ง】 ในปีที่ห้าของการแต่งงานแบบลับๆ ของเธอ เสิ่นจาวหนิงเห็นสามีของไปเปิดห้องที่โรงแรมกับรักแรกของเขากับตาตนเอง จากนั้นเธอเพิ่งรู้ว่าลี่เยี่ยนซิวแต่งงานกับเธอเพราะเธอดูคล้ายกับรักแรกของเขา เสิ่นจาวหนิงตายใจและหลอกให้ลี่เยี่ยนซิวเซ็นสัญญาหย่า หนึ่งเดือนต่อมา เธอประกาศต่อหน้าผู้คนว่า “ลี่เยี่ยนซิว ฉันไม่ต้องการคุณอีกแล้ว อให้คุณกับรักแรกของคุณจะอยู่ด้วยกันตลอดไป” ลี่เยี่ยนซิวกอดเธอพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “เสิ่นจาวหนิง คุณเป็นคนที่เข้ามาหาผมก่อน แล้วตอนนี้คุณจะทิ้งผมง่ายๆ ได้ยังไง?” ****** หลังจากที่เสิ่นจาวหนิงหย่า งานของเธอไปได้ดีขึ้นเรื่อยๆ บริษัทก็เตรียมที่จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ ในงานเลี้ยงฉลอง ลี่เยี่ยนซิวก็เข้าร่วมด้วย เขามองอดีตภรรยาที่จับมือผู้ชายอื่นด้วยความหึงหวงอย่างแรง ขณะที่เสิ่นจาวหนิงเตรียมเปลี่ยนชุด เขาก็ตรงเข้ามาหาเธอในห้องลองเสื้อ “ผู้ชายคนนั้นดีขนาดนั้นเลยเหรอ?” เสิ่นจาวหนิงถึงสังเกตเห็นว่าลี่เยี่ยนซิวร้องไห้แล้ว น้ำตาของเขาตกลงบนกระดูกไหปลาร้าของเธอและมันรู้สึกร้อนๆ “เสิ่นจาวหนิง ผมเสียใจแล้ว เราคืนดีกันได้ไหม?”

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

ฮูหยินของข้า แซ่บไม่เบา

Burke Gee
5.0

ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก

การกลับมาอย่างมีชัย

การกลับมาอย่างมีชัย

Leroi Glenister
5.0

ลูหว่านแต่งงานอย่างลับๆ มาสามปีแล้วและไม่เคยเห็นหน้าสามีมาก่อนเลย แต่แล้วสิ่งที่เธอได้รับในที่สุดกลับเป็นข้อตกลงารกย่าและข่าวที่เขาใช้เงินฟุ่มเฟือยเพื่อตามจีบสาวรักในใจของเขา ในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้นมาและตัดสินใจหย่าร้าง หลังจากนั้น ลู่หว่านก็มุ่งหน้าที่พัฒนาในตัว โดยมีตัวตนหลายตัวตน เป็นหมอเทวดา สายลับระดับสูง แฮ็กเกอร์ชั้นนำ นักออกแบบชื่อดัง นักแข่งรถ และหัวหน้าฝ่ายวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หลังจากเปิดเผยตัวตนมากมายของลู่หว่าน อดีตสามีของเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ชายคนนั้นร้องขอว่า "หว่านหว่าน ให้โอกาสผมอีกครั้ง ทรัพย์สินทั้งหมดของผมเป็นของคุณ และชีวิตของผมก็มอบให้คุณด้วย"

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ