Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
รักร้อนเพลิงพยาบาท 25+

รักร้อนเพลิงพยาบาท 25+

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
67.7K
ชม
105
บท

ความพยาบาทของเธอ ทำให้ทุกคนต่างสะพรึงกลัว ยกเว้นเขา...รัฐรวินทร์ ที่จะใช้ความรักทั้งหมดสลายความพยาบาทในใจเกวลิน เขาคือทายาทตระกูลอัครธนากุล ตระกูลมหาเศรษฐีของเมืองไทย เธอคือหญิงสาวชาวบ้านธรรมดาที่ไร้พิษสง แต่ก็ไม่ใช่ว่า เป็นลูกไก่ในกำมือ “เพี้ยะ!” ฝ่ามือเล็กฝาดลงไปบนแก้มรัฐรวินทร์เต็มแรง จนเกิดรอยฝ่ามือบนผิวแก้มเขา “เธอกล้าตบหน้าฉันเหรอ” เขาถามเสียงเข้ม แววตาลุกโชนด้วยความโกรธ “ก็ใช่น่ะสิ ก็คุณอยากปากหมาทำไม แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ” เกวลินตอบด้วยทีท่าไม่เกรงกลัว ทว่าความเป็นจริงนั้นไม่ใช่ ในใจเต้นรัวจากความกลัวชายตรงหน้าที่อาจบีบคอเธอตายได้ “สองครั้งแล้วนะ สองครั้งแล้วที่เธอตบหน้าฉัน เธอจำไม่ได้หรือว่า เธอตบหน้าฉันครั้งแรก เธอต้องเจอกับอะไรบ้าง เธอคงอยากจะกระอักเป็นครั้งที่สองใช่ไหม” เขาถามเสียงเหี้ยม แววตาไร้ซึ่งความปราณี “แค่นี้ฉันก็กระอักเลือดมากพอแล้ว จะโดนอีกสักหน่อยคงไม่เป็นไร อีกอย่างคนอย่างคุณ มันก็หน้าตัวเมียอยู่แล้ว รังแกคนไม่มีทางสู้ เอาสิ เอาเลย ตบฉันเลย แตะฉันก็ได้ หรือว่าจะถีบฉัน ฉันก็ยินดี ฉันจะไม่ร้องขอชีวิตจากคุณ แต่ฉันจะจำทุกอย่างที่คุณทำกับฉัน แล้ววันหนึ่งฉันจะเอาคืนคุณอย่างสาสม” ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เกวลินพูดโดยปราศจากความเกรงกลังรัฐรวินทร์ ชายหนุ่มที่กุมชีวิตตนกับครอบครัวไว้ในอุ้งมือ อุ้งมือของคนที่ไม่เคยให้คำว่า เมตตาปราณีกับตน

บทที่ 1 1

1

ทุกสายตาในห้องจัดเลี้ยงต่างมองไปยังกลุ่มคนที่เดินเข้ามางาน ความสนใจของพวกเขาเหล่านั้นคือ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาทว่าดุเข้มสมกับเจ้าของฉายาเสือยิ้มยาก ข้างกายเขาคือสตรีรูปร่างระหงสวมชุดราตรีสีแดงเพลิง สวยสง่าราวกับนางพญา คู่ควรกับราชสีห์แห่งโรมนามว่า รอซซี่ ดิออร์ดาโน จุลเทพ เดอซานติส ลูกครึ่งอิตาลี- ไทย นักธุรกิจหนุ่มชื่อดังก้องโลก

เกวลินหรือมาเชล เดอซานติสทรุดกายนั่งบนเก้าอี้บนโต๊ะวีไอพี ที่ล้วนแล้วแต่เป็นที่นั่งของคนมีชื่อเสียงทางด้านสังคม มีเงินใช้ไม่หวาดไม่ไหว หนึ่งในบุคคลที่นั่งร่วมโต๊ะคือ รัฐรวินทร์ อัครธนากุล บุตรชายคนโตของรัฐภาคย์ อัครธนากุล ตระกูลผู้ร่ำรวยติดอันดับต้นของเมืองไทย

รัฐรวินทร์มองหน้ามาดามคนสวยของรอซซี่นิ่ง ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉยเขาตกใจไม่น้อยที่เห็นอดีตนางบำเรอของตน ที่ตอนนี้กลับกลายเป็นภรรยามาเฟียหนุ่มเลือดเย็น คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว คนที่เขาเคยดูถูก เหยียดหยาม เหยียบย่ำหัวใจจนบอบช้ำ ทารุณกรรมทั้งร่างกายและจิตใจ จนเธอไม่อยากอยู่เป็นคน บัดนี้กลายเป็นอีกคนหนึ่งที่รัฐรวินทร์จะทำเช่นในอดีตไม่ได้

มาดามคนสวยไม่หลบสายตาเย็นเยียบของรัฐรวินทร์ เมื่อก่อนเขาคือเจ้าชีวิต ลิขิตความเป็นความตายให้ตนและครอบครัว เธอต้องยอมและยอมอย่างไม่มีข้อแม้ ค่าความเป็นคนถูกชายตรงหน้าย่ำยีจนไม่เหลือชิ้นดี ศักดิ์ศรีเธอเป็นผุยผง ถูกเขาทำลายจนเธอไม่อยากอยู่เป็นคน เกวลินสัญญาและสาบานกับตัวเองว่า เธอจะกลับมาชำระความเขา ให้สาสมกับทุกเรื่องที่เขาทำกับตน รวมถึงอีกหนึ่งชีวิตที่จากไป รัฐรวินทร์ต้องเจ็บเหมือนกับที่เธอเจ็บ และเจ็บยิ่งกว่า

การพบเจอรัฐรวินทร์ในวันนี้ คือจุดเริ่มต้นการชำระแค้น ความพยาบาทของเธอที่ผูกรัดหัวใจและจิตวิญญาณจนแน่น กำลังจะคลายลง ถึงเวลาที่รัฐรวินทร์ต้องพบเจอกับความเจ็บปวดจากผู้หญิงที่เขาคิดว่า ไม่มีทางต่อกรกับตนได้

สี่ปีก่อน

ณ ห้องอาหารบ้านชบา ร้านหรูใจกลางทองหล่อที่มีลูกค้าแวะเวียนมาทานอาหารทั้งวัน ร้านแห่งนี้โด่งดังทางด้านรสชาติของอาหารนานาชนิด หลากหลายทั้งอาหารไทย จีน และฝรั่งเศส บรรยากาศภายในร้านที่ตกแต่งอย่างหรูหรามีระดับ บวกกับการบริการดีเยี่ยม ปากต่อปากพูดถึง จนทำให้ร้านอาหารบ้านชบาเป็นที่รู้จักในสังคม ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้ากระเป๋าหนัก ดารานักแสดง นักการเมือง นักธุรกิจแขนงต่างๆ เนื่องจากค่าอาหารค่อนข้างสูง บางจานสูงถึงหลักหมื่นก็มี

นอกเหนือจากรสชาติอาหารที่มาเป็นอันดับหนึ่ง การบริการเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทางร้านใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะหากบริการไม่ดี ลูกค้าไม่ประทับใจ อาจส่งผลต่อการค้าขายได้ พนักงานในร้านจึงต้องมีระเบียบวินัย เอาใจใส่ ใจเย็น และยิ้มแย้มแจ่มใส ถูกฝึกอบรมการบริการดังมืออาชีพ

เกวลินคือหนึ่งในพนักงานของร้านบ้านชบา เธอเป็นคนขยันและเป็นพนักงานใหม่ที่เพิ่งผ่านโปรก่อนกำหนดเวลา ได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำ เกวลินเป็นคนขยัน หนักเอาเบาสู้ เอาใจใส่ในการทำงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมาย เธอสามารถสื่อสารด้วยภาษาสากลได้ และบ่อยครั้งที่เธอต้อนรับลูกค้าชาวต่างชาติแทนเพื่อนๆ ที่สื่อสารไม่เป็น

ร้านแห่งนี้นอกจากจะมีพนักงานประจำแล้ว ยังมีพนักงานชั่วคราวแบบรายวันที่จะจ้างมาทำงานเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ค่าจ้างในแต่ละครั้งที่มาทำงานคือสามร้อยห้าสิบบาท จะจ่ายให้หลังเสร็จงาน เกวลินจึงชักชวนศุภวรรณ น้องสาวที่ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นปริญญาตรีมาทำงานชั่วคราวนี้ด้วย เพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวที่ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่

วันนี้เป็นวันเสาร์ลูกค้ามาใช้บริการแน่นตั้งแต่ยังไม่เที่ยง เรื่อยมาจนถึงเวลานี้หกโมงเย็นกว่าๆ คนก็ยังไม่ซา ลูกค้าโต๊ะนี้ทานเสร็จ พอลุกไปไม่ถึงนาทีก็จะมีลูกค้าใหม่มานั่งแทนที่ ส่งผลให้พนักงานในร้านทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นงานบริการด้านนอกและด้านในต่างทำงานกันหนัก เวลาพักก็แทบไม่มี ต้องผลัดเปลี่ยนกันทานข้าวและเข้าห้องน้ำ

ลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่สั่งจองล่วงหน้าไว้สามวัน เดินเข้ามาภายในร้านโดยมีสมสมรคอยต้อนรับขับสู้อย่างดี เพราะรู้ดีว่าพวกเขาคือใคร เธอพารัฐรวินทร์ ทายาทคนโตของรัฐภาคย์ อัครธนากุล ตระกูลมหา-เศรษฐีที่ไม่ว่าจะเป็นพี่หรือน้องต่างร่ำรวยทั้งสิ้น ตระกูลอัครธนากุลจึงเป็นอีกตระกูลหนึ่งที่ติดอันดับความร่ำรวยอันดับต้นของประเทศ แล้วยังติดอันดับที่สี่สิบของโลก

รัฐรวินทร์ อัครธนากุลมาพร้อมกับรัฐรวิศ น้องชายตัวแสบที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้ ภคพรนักแสดงมากฝีมือคู่หมั้นที่มีแผนวิวาห์กลางปีนี้ และรุ่งโรจน์ อาคม ลูกน้องคนสนิทที่นั่งแยกอีกโต๊ะหนึ่งใกล้ๆ กัน

“รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันจะให้พนักงานมารับออเดอร์นะคะ นี่เมนูค่ะ”

สมสมรวางเมนูอาหารให้รัฐรวินทร์กับผู้ร่วมโต๊ะ รัฐรวินทร์พยักหน้า หยิบเมนูมาเปิดดูเพื่อเลือกอาหารที่ตัวเองต้องการทาน ระหว่างนั้นศุภวรรณที่รับหน้าที่ดูแลลูกค้าโซนบีได้เดินมาหยุดยืนข้างโต๊ะ ขณะที่ศุภวรรณกำลังยืนรอรับออเดอร์ สายตาของรัฐรวิศมองไป

ยังเธอตลอดเวลา สายตาของเขาไม่ได้มองแค่ใบหน้าเธอที่ยืนจดรายการอาหารที่รัฐรวินทร์และภคพรสั่ง แต่กวาดมองไปทั่วร่าง มาหยุดนิ่งบริเวณทรวงอกที่ดันเสื้อเชิ้ตสีขาวออกมาเป็นรูป เขากะเพียงสายตาก็รู้แล้วว่า มันมีขนาดใด รัฐรวิศกระตุกยิ้มพอใจ พับเมนู เงยหน้าสั่งอาหาร

“ฉันเอาสเต็กเนื้อ ไข่ปลาคาเวียร์”

“ได้ค่ะ” ศุภวรรณแม้ว่าจะยืนรับออเดอร์รัฐรวินทร์กับภคพรอยู่ เธอก็รู้สึกได้ว่า รัฐรวิศมองเธอตลอดเวลา แม้ว่าสายตาของเขาจะไม่หยาบโลน มันเป็นความพอใจที่แทบอยากจะเขมือบเธอทั้งตัว “ห้องน้ำอยู่ไหน พาฉันไปหน่อยสิ”

รัฐรวินทร์เหลือบมองน้องชาย เขายิ้มมุมปากอย่างรู้เท่าทันความคิดรัฐรวิศ น้องชายเขามาที่นี่หลายครั้ง รู้ดีว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน แต่ที่แกล้งทำเป็นไม่รู้ เพราะมีเป้าหมายบางอย่าง ซึ่งเขาก็รู้ว่าคืออะไร

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

พิศวาสทาสเสน่หา

พิศวาสทาสเสน่หา

มหาเศรษฐี

5.0

“บ้าอำนาจชะมัด” หญิงสาวแอบบ่น กระแทกตัวลงนั่งริมสุดของขอบโซฟา ทิ้งระยะห่างจากเขาให้มากที่สุด “นี่แม่คุณ มานั่งใกล้หน่อยสิ นั่งไกลอย่างนั้นแล้วจะบริการฉันได้ยังไง ไม่เห็นเหรออาหารหมดถ้วยแล้ว” ถ้ารู้มาก่อนว่าคนที่จองห้องวีไอพีคือเขาคนนี้ เธอไม่ยอมเป็นพนักงานเสิร์ฟจำเป็นแน่นอน หญิงสาวเขยิบร่างกายเข้ามาอีกนิด ตักอาหารใส่ถ้วย ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าเขาเหมือนเดิม “ป้อนด้วยสิ” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี “ดิฉันมีหน้าที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ตามที่เห็นสมควรนะคะ การป้อนอาหารเป็นนอกหน้าที่ของดิฉัน” สร้อยระย้าพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเข้ม จ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มกับท่าทีแสนพยศของเธอ ขยับร่างกายเข้ามาประชิดร่างบางอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว “ว้าย!!..ปล่อยนะ” หญิงสาวร้องเสียงหลง ผลักร่างหนาให้ออกห่าง แกะมือใหญ่ที่รัดเอวของเธอไว้แน่น แต่ยิ่งพยายามเอวของเธอก็ต้องถูกรัดแน่นมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นร่างงามลอยขึ้นเหนือเบาะ เนื่องจากเขาอุ้มร่างของเธอมานั่งบนตัก “พยศนักนะ” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขามาก่อน เห็นจะมีเพียงผู้หญิงกลิ่นกายเย้ายวนใจคนนี้ ยิ่งชิดใกล้เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน ความต้องการปะทุขึ้นมาทันที เรียวปากใหญ่ปิดสนิทปากนุ่มที่กำลังจะอ้าปากต่อว่า ทำให้เขาสอดแทรกลิ้นร้อนชื้นเข้าไปภายในโพรงปากอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นหนาตวัดพัดโบกกับลิ้นนุ่มที่ตื่นกลัวทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากจูบนี้เป็นจูบแรกของชีวิตสาว สมองของเธอนั้นเริ่มมีกลุ่มหมอกควันสีขาวเข้ามาปกคลุม ความว่างเปล่ากำลังเข้ามาแทนที่ ไม่มีสตินึกคิด ความหวานนุ่มชวนหอมหวานที่เขาได้สัมผัส กระตุ้นความเป็นชายของเขาให้ตื่นจากการหลับใหล เสียงครางที่ดังทักท้วงในลำคอสาว เสมือนยากระตุ้นให้ความดันโลหิตของเขาเสียดทานกับความต้องการทางเพศ ร้อนรุ่มไปทั้งกาย มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางไปมา ก่อนจะวกมากอบกุมทรวงอกขนาดพอเหมาะกับฝ่ามือของเขา ไม่ใหญ่มากเกินไปจนล้นมือและไม่เล็กจนเสียอารมณ์

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

โรแมนติก

5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

CEO ที่รัก ชุด พ่อทูนหัว

CEO ที่รัก ชุด พ่อทูนหัว

มหาเศรษฐี

5.0

เพราะอุบัติเหตุสิบสองครั้งในระยะเวลาหนึ่งเดือนทำให้ พิมนรา เต็มไปด้วยความสยดสยองและขวัญกระเจิง หมอดูคือที่พึ่งหนึ่งเดียวที่คิดได้ ณ ตอนนั้น แต่คำทำนายที่ได้รับกลับทำให้ยิ่งตกใจ “หนูชะตาขาด ไม่มีหัวแล้วนะตอนนี้น่ะ” “แล้วหนูจะ... จะทำยังไงดีคะ หนูยังไม่อยากตาย” “มีผัว” “มีผัว?!” “ใช่ ต้องมีภายในคืนนี้ด้วย หลังออกจากตำหนักของแม่ไป ผู้ชายคนแรกที่พูดกับหนู เขานั่นแหละคือคนที่จะช่วยหนูได้ จับทำผัวให้ได้ก่อนเที่ยงคืนนะ” มหาเศรษฐีเพลย์บอยหมื่นล้าน ลีโอนาโด เด รอสซี ผู้ชายที่มีผู้หญิงล้อมหน้าล้อมหลังตลอดเวลา แต่จู่ๆ กลับต้องมาซวยเมื่อถูกผู้หญิงจืดชืดคนหนึ่งปลุกปล้ำจับทำสามี ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้เต็มใจจะถูกปล้ำเลยสักนิด และที่ร้ายยิ่งกว่านั้น... เช้ามาแม่คุณแม่ทูนหัวกลับหนีหายไปอย่างไร้ร่องรอย นี่เพลบอยย์อย่างลีโอนาโด เด รอสซี ถูกฟันแล้วทิ้งจริงๆ เหรอ?! และทุกอย่างมันก็คือจะเลือนหายไปตามกาลเวลา หากเขากับยายผู้หญิงเฉิ่มแต่ร้อนราวกับไฟป่าคนนั้นจะไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกันอีก ในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง!

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

โรแมนติก

5.0

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ