Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
5.0
ความคิดเห็น
3.9K
ชม
46
บท

คงเจ็บปวดไม่น้อยหากรู้ว่าตนเองถูกใช้เป็นหมากตัวหนึ่ง ในกระดานของเกมแก้แค้นและฟาดฟันห้ำหั่นกับอีกฝ่าย แต่แล้วเมื่อเรื่องราวถึงจุดจบใครกันจะเป็นคนที่เจ็บปวดที่สุด เขา เธอ หรือ ทุกคน ########## “ถ้าคุณทนไม่ไหวจริงๆ ก็ช่วยจบสัญญาของเรา เซ็นชื่อลงในทะเบียนหย่าเถอะค่ะ ในส่วนที่ผิดสัญญาคุณต้องปรับอีกเท่าไร จะหามาใช้คืนให้” ลืมไปเสียสนิทว่าต้องหย่า ธีร์หรี่ตามองคนที่ท้าเหย็งๆก่อนเหยียดยิ้มว่า “ทำไมผมต้องหย่า ในเมื่อมีทั้งคนรับใช้ทั้งนอกห้อง ในห้อง แถมบนเตียง ออลอินวันในคนเดียวแบบนี้คุ้มเกินคุ้มเสียอีก...ว่าไหม” เลือดในกายพุ่งปรี้ดเมื่อได้ยินคำหยามหมิ่นของเขา ไม่เคยสุดทนสุดกลั้นแบบนี้มาก่อนในชีวิต จะให้เข้าไปทำร้ายเขาก็ผิดวิสัยของเธอ ณิชามองเขาด้วยแววตาแบบเดียวกับคำพูด “คุณทำสัญญาไว้ว่าจะหย่าเมื่อครบหนึ่งปี” “แล้วไง ผมไม่หย่า ใครจะมาจับมือผมเซ็นชื่อได้” “ฉันจะฟ้องศาล” “เอาสิ ให้ช่วยหาทนายให้ไหม” “ฉันเกลียดคุณ ได้ยินไหม” ธีร์ยิ้มร้ายกาจเข้ามาตวัดจูบเธออย่างไม่ให้ตั้งตัว รู้สึกได้ว่าปากเริ่มหนาบวมเพราะแรงบดไร้ความปราณีจากเขา ก่อนที่คนใจร้ายจะปล่อยให้เธอได้หายใจเอาอากาศเข้าไปในปอด “ก็ดีแล้วนี่หนูณิช” เขาผละมาโต้เหนือริมฝีปากของเธอ ก่อนสบตาท้าทายบอกอย่างทระนงในความเป็นธีร์ “ผมนึกกลัวแต่ว่าคุณจะเกลียดผมไม่ได้เท่านั้นเอง”

บทที่ 1 1

เสียงหอบหายใจถี่เร็วกระชั้นนั่นดังมาจากสองร่างเปลือยเปล่าบนเตียงนอนคิงไซซ์ในห้องกว้างเย็นฉ่ำเพราะเครื่องปรับอากาศถูกปรับให้อุณหภูมิต่ำกว่ายี่สิบองศาเซลเซียสคงช่วยบรรเทาความเร่าร้อนจากบทรักดุเดือดได้เป็นอย่างดีทีเดียว ครู่ใหญ่จากนั้นเสียงคำรามถึงได้ดังลั่นกังวานราวราชสีห์บาดเจ็บเพราะอารมณ์ดิบได้รับการปลดปล่อยในที่สุด

“เสร็จแล้วใช่ไหมคะ”

หญิงสาวที่นอนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยล้าไม่ต่างกันถามออกมาด้วยเสียงอันสั่นเทา เจ้าหล่อนนอนหลบสายตาคมเข้มปนดุเล็กๆของสามีตามทะเบียนสมรสขณะเอื้อนเอ่ย

เวลาล่วงเลยผ่านมาร่วมครึ่งปี แต่ไม่ได้ทำให้เธออายเขาน้อยลงเลย ชายหนุ่มพลิกตัวออกมานอนหงายข้างๆปรับลมหายใจให้เป็นปกติดังเดิมค่อยพูดคล้ายไล่กลายๆ

“คุณจะกลับห้องเลยก็ได้นะณิชา”

ได้ยินแบบนั้นแล้วหญิงสาวเจ้าของชื่อเม้มปากตัวเองแน่นจนเลือดแทบปริซึมออกมาให้ได้ลิ้มรส พยายามข่มความอายพลิกตะแคงตัวไปยังริมเตียงฝั่งของตน ลุกขึ้นนั่งแล้วผละไปคว้าชุดนอนที่ถูกเขาโยนทิ้งไปก่อนหน้านี้มาสวมทับอย่างไว ไม่ลืมก้มเก็บซากชิ้นส่วนอุปกรณ์ป้องกันการสืบทายาทบนพื้นเพื่อนำไปทิ้งลงถังขยะในห้องน้ำถัดไปอีกฟากฝั่งของห้องนอนด้วย

ณิชาบังคับร่างกายให้ยืนอย่างมั่นคงเสียก่อนเพื่อจะได้ออกเดินไปยังจุดหมาย แม้ยากเย็นเพราะเนื้อตัวอ่อนล้าสั่นเบาๆ จากบทรักยาวนานก็ตาม แต่ต้องพยายามเดินออกไปให้ได้ในนาทีนี้

เรื่องจะให้นอนพักบนเตียงนอนกว้างนั่นย่อมเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะชายหนุ่มที่นอนพังพาบบนนั้นไม่อนุญาตให้นอนร่วมเตียง

ชายคนที่ได้ครองสถานะสามีของเธอนั้นคือ ‘ธีร์’ ชายผู้กุมบังเหียนอาณาจักรโลจิสติกส์ชื่อดังในประเทศ และยังถือหุ้นในเครือศิวาไลมากกว่าครึ่งหนึ่งอีกด้วย เขาอายุเพียงสามสิบหกปีเท่านั้นแต่ประสบความสำเร็จเกือบทุกด้าน ธีร์มีพลังงานเหลือล้นในงานและแน่นอนว่าพลังงานทางเพศของเขาก็พุ่งทะยานตามกันไป เขาจะร่วมรักกับเธอยาวนานแบบนี้เสมอตั้งแต่วันแรกที่จรดปากกาลงในทะเบียนสมรสจนถึงปัจจุบัน บางครั้งถึงเช้าตรู่เลยก็มี

แต่วันนี้ธีร์คงเหนื่อยจากงานข้างนอก เขาจึงหยุดเวลาแห่งการเสพย์สุขในเรือนกายของเธออยู่ที่สามชั่วโมงห้าสิบนาทีเท่านั้น แล้วถึงยอมปล่อยให้กลับไปยังห้องนอนได้

“อ้อ เดี๋ยวก่อนคุณ”

เสียงทุ้มสุภาพนั่นดังมาจากบนที่นอน แทรกเข้ามาในห้วงความคิดของณิชา หญิงสาวกระชับสาบเสื้อนอนทบเข้าหากัน ค่อยหันไปขานรับคำเขา

“คะ”

เขาสั่งทั้งๆที่ยังนอนราบบนที่นอน เสียงอ่อนล้าเต็มทีคงเพลียจัดและกำลังเข้าสู่ห้วงนิทราในไม่ช้า “พรุ่งนี้อย่าลืมคุมเด็กๆให้เตรียมงานตอนเย็นด้วยนะ”

“ได้ค่ะ แล้วณิชาต้องอยู่ด้วยไหมคะ”

ธีร์นิ่งไปคล้ายคิดอยู่ครู่ แล้วดันตัวตั้งศอกขึ้นเอี้ยวคอมามอง สายตาคมเข้มติดดุเล็กๆของเขาครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วถึงว่า “คุณคอยดูแลงานแถวนั้นก็แล้วกันเผื่อมีอะไรจะได้บอกเด็กๆได้ ก็รู้นี่ว่าถ้ามีอะไรไม่ทันใจ ผมจะหงุดหงิดมาก”

ณิชาหลบตาเขาวูบลง รับคำเบาๆ “ค่ะ”

ธีร์ยังคงมองหญิงสาวที่ยืนนิ่งไม่วางตาไปไหน รอยยิ้มผุดขึ้นเพียงนิดเดียวตรงมุมปาก กำลังคิดว่ามันช่างคุ้มแสนคุ้มที่เลือกแต่งงานกับณิชา แรกที่เห็นหญิงสาวเขาว่าเธอช่างจืดชืดไร้ซึ่งแรงดึงดูดใดๆ แต่พอได้มาไว้ในมือแล้วนั้นก็...คุ้มค่าดี เขาเกือบยักไหล่เพราะความลืมตัว

เหมือนได้ทั้งคนรับใช้ ทั้งเลขาฯส่วนตัวแล้วก็ผู้หญิงบนเตียงไว้ระบายอารมณ์ดิบของตนเองที่มีมากล้นเกินพอดีจนน่าเหนื่อยหน่ายใจ

ณิชาเม้มปากแน่นอีกครั้ง หน้าชาดิกออกร้อนจนแทบไหม้เมื่อเห็นสายตาชนิดนั้นของธีร์ เธอตีความสายตาคมกริบติดดุๆนั่นว่ามันคือการดูถูกและหยามเหยียด ธีร์เป็นนักบริหารชั้นยอดแถมยังเป็นนักลงทุนตัวฉกาจ นี่ไม่ใช่แค่คำเปรียบเทียบเปรียบเปรย แม้แต่ในชีวิตจริงเขาก็เป็นเช่นนั้น ธีร์ยิ้มมุมปากขึ้นอีกหน่อยหนึ่งค่อยล้มตัวลงนอนดังเดิม หญิงสาวจึงสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆร่างอ่อนล้าเดินกลับไปยังที่ที่ของตนเองซึ่งอยู่คนละฟากฝั่งกับห้องนอนแห่งนี้

หญิงสาวอดสะอื้นในอกไม่ได้กับสถานะของตนเอง

ชายหนุ่มไม่นอนร่วมเตียงด้วย เขาประกาศกร้าวตั้งแต่วันแรกที่เข้าหอด้วยกันนั่นแล้ว ธีร์อาจร่วมเรียงเคียงหมอนกับคู่นอนคนอื่นหรือผู้หญิงที่เขาคบหาจริงๆจังๆคนไหนสักคน แต่ไม่ใช่เธอ ที่เขาทำคือระบายอารมณ์ใคร่จนเสร็จสมแล้วนั่น ณิชาจะหมดความหมายถูกไล่แบบนี้ร่ำไป

ปิดประตูห้องของตนเองลงแล้วก็ล้มแผละตรงพื้นทันที เพราะฝืนเดินมาเป็นระยะทางไกลพอควร เม้มปากแน่นเสียจนแทบห้อเลือดบอกตัวเองว่าให้ฝืนอีกหน่อย อีกไม่นานเธอต้องหลุดพ้นจากตรงนี้ไปให้ได้

กัดฟันตั้งเข่ายันพื้นแล้วใช้มืออีกข้างแตะผนังห้อง ดันตัวลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เกาะเดินตรงไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากนั้น เปลื้องชุดออกมองเงาที่สะท้อนกลับมาด้วยแววตาหวานปนเศร้า ร่องรอยเขียวจ้ำทั่วเรือนกายใต้ร่มผ้าของเธอมีทั้งที่จางลงแล้วและขึ้นใหม่เพราะเขาหนักมือขณะร่วมรักแบบนี้เสมอ

เขามักทิ้งหลักฐานการร่วมรักไว้บนเรือนร่างของเธอทุกครั้งที่หลับนอนด้วยกัน ณิชาไม่รู้ว่าเขาเป็นพวกนิยมความรุนแรงหรือเปล่า เธอไม่กล้าปริปากเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ใครฟัง ก่อนปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง น้ำตาที่กักเก็บเอาไว้นั่นรินไหลลงอาบสองข้างแก้มช้าๆพร้อมเสียงสะอื้นไห้เบาๆ ในนี้ไม่มีใครได้ยินเสียงแห่งความอ่อนแอของเธอ ไม่ช้าไม่นานเสียงสะอื้นดังขึ้นเรื่อยก่อนหยุดลงได้เองในเวลาไม่กี่นาทีจากนั้น หยุดลงพร้อมกับความเจ็บปวดตื้อตึงที่อัดแน่นในหัวใจ หมดสิ้นแล้วความรักที่เธอแอบซ่อนเอาไว้มาเนิ่นนาน รักที่เคยเร้นหลบถูกฉีกขาดเพราะคำว่าแค้นของเขาเพียงคำเดียวเท่านั้น

บิดาของเธอและเขาคบหาร่วมลงทุนกันมานาน เครือศิวาไลเป็นหนึ่งในกิจการร่วมทุน แต่บิดาของเธอก็โกงมาเป็นของตนเองจนได้เพราะคำว่าโลภเพียงคำเดียว ธีร์ใช้เวลาศึกษาต่อในต่างประเทศอยู่นานเมื่อกลับมาก็พบว่าเครือศิวาไลเป็นของฝั่งนี้เสียแล้ว

เคราะห์ร้ายที่บิดาของเธอบริหารมันไม่รอด และไม่รู้ว่าท่านไปตกลงกับเขาอย่างไร ธีร์จึงเข้ามาช่วยพยุงกิจการจนรอดมาจนถึงวันนี้

ข้อแลกเปลี่ยนในการช่วยเหลือคือการแต่งงานกับเธอ

หากเป็นการแต่งงานด้วยความรักก็คงดี

ยืนมองตัวเองในกระจกพร้อมกับคำถามว่าเมื่อไรการแต่งงานจอมปลอมนี่ถึงจะจบลงเสียที รักเพียงข้างเดียวควรตัดใจทิ้งเสียดีไหม เธอทำได้ไหม จะมีใครรู้บ้างว่าที่ทนอยู่ทุกวันนี้เพราะคำว่ารักเพียงคำเดียว

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ