ขยี้สวาทเจ้าสาวนางบำเรอ

ขยี้สวาทเจ้าสาวนางบำเรอ

เนื้อนวล

5.0
ความคิดเห็น
88.1K
ชม
24
บท

ครอบครัวของเธอเป็นหนี้คุณย่าของเขา และเขาก็ชี้นิ้วเลือกน้องสาวที่กำลังมีอนาคตสดใสของเธอเพื่อนำไปบำเรอกาม เธอผู้เป็นพี่สาวจึงยอมไม่ได้ จึงต้องสวมรอยเป็นน้องสาวมาบำบัดความใคร่ให้เสือผู้หญิงอย่างเขาแทน ดาหลาสะดุ้งรู้สึกตัวตื่นเมื่อที่นอนข้างตัวยุบยวบ หล่อนรู้ทันทีว่าใครมาเยือน ภูผา... ผู้ชายปากร้าย และใจร้ายคนนั้นนั่นเอง หล่อนไม่กล้าเอะอะโวยวาย เพราะเกรงว่าเขาจะจับได้ว่าตนเองนั้นไม่ใช่ดาริกา อย่างน้อยๆ พรุ่งนี้หากเรื่องมันผ่านไปแล้ว ภูผาก็คงจะยอมปล่อยให้อะไรเลยตามเลย หล่อนหวังเอาไว้แบบนั้น... “คุณภูผา...” ในห้องยังคงมืดสลัวเพราะไม่มีแสงไฟจากโคมไฟหัวเตียง และก็ดูเหมือนว่าผู้ชายตัวโตที่ปรากฏกายพร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอล์จะไม่ต้องการแสงไฟเช่นกัน มือใหญ่ของเขาคลำสะเปะสะปะมาคว้าแขนของหล่อนเอาไว้ ไอร้อนจากปลายนิ้วแข็งแรงพุ่งเข้าใส่กายสาวทำให้หล่อนสั่นเทิ้มไปทั้งตัว “พร้อมจะบำเรอฉันแล้วใช่ไหม”

บทที่ 1 ตอนที่ 1

ขยี้สวาทเจ้าสาวนางบำเรอ ตอนที่ 1

ดาหลา ฤกษ์อนันต์ ลูกสาวคนโตของ คุณอนุชา กับ คุณวาสนา ฤกษ์อนันต์ โดยดาหลามีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ ดาริกา ซึ่งตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

ดาหลาเพิ่งเรียนจบการศึกษาระดับชั้นปริญญาตรีมาเมื่อต้นเดือนก่อน และตอนนี้ก็กำลังพยายามที่จะหาสมัครงาน แต่ก็ยังไม่มีสถานประกอบการณ์ใดเรียกตัวไปสอบสัมภาษณ์แม้แต่แห่งเดียว

ครอบครัวของดาหลาค่อนข้างยากจน เพราะมารดาอยู่บ้านไม่ได้ทำงาน โดยมีบิดาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการขับแท็กซี่รับจ้างหาเลี้ยงคนในครอบครัว

หล่อนสงสารพ่อมาก และก็ตั้งใจเรียนจนได้รับเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยรัฐบาลมาครอบครองได้สำเร็จ แต่กระนั้นก็ยังหางานทำไม่ได้เลย

วันนี้พ่อออกไปขับแท็กซี่เหมือนเช่นทุกวัน พ่อออกไปตั้งแต่เช้ามืด ในขณะที่หล่อนก็รีบตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะไปหาสมัครงานเหมือนทุกวัน

หล่อนแต่งตัวจนเสร็จก็ออกมานอกห้องนอน ก่อนจะต้องแปลกใจ เมื่อเห็นมารดายืนอยู่นอกรั้วบ้านเช่า และกำลังยกมือไหว้ผู้หญิงสูงวัยแต่งตัวภูมิฐานคนหนึ่งอยู่

หล่อนไม่เคยมีนิสัยสอดรู้สอดเห็นหรือเผือกเรื่องของชาวบ้าน แต่สีหน้าและท่าทางของมารดาที่เห็น ทำให้อดแคลงใจไม่ได้

แม่เหมือนมีอะไรปิดบังอยู่...

หล่อนย่ำเท้าด้วยความระมัดระวังเดินตรงไปยังรั้วที่สูงแค่เพียงครึ่งตัว และหลบอยู่หลังพุ่มไม้

“รบกวนคุณปรานีเรียนคุณหญิงกรรณิการ์ให้ฉันด้วยนะว่า พรุ่งนี้ฉันจะรีบหาดอกเบี้ยมาส่งให้จ้ะ”

“พูดแบบนี้มาตั้งไม่รู้กี่รอบแล้ว คุณท่านไม่ฟังแล้วล่ะ ถ้าไม่ส่งดอก ก็จะถูกยึดรถแท็กซี่นะ”

นี่แม่ของหล่อนเอารถแท็กซี่ที่พ่อขับ ไปจำนองเอาไว้กับคนพวกนี้เหรอ

ดาหลาเต็มไปด้วยความตกใจ และก็เสียใจกับสิ่งที่ได้ยินเหลือเกิน

ทำยังไงหล่อนถึงจะช่วยแบ่งเบาภาระแม่กับพ่อได้บ้างนะ

“ขอร้องล่ะคุณปรานี ช่วยพูดกับคุณหญิงให้ทีนะคะ วันนี้ผัวฉันออกไปวิ่งรถแต่เช้ามืด ยังไงซะพรุ่งนี้ฉันก็มีเงินไปจ่ายดอกอย่างแน่นอนค่ะ”

“ไม่ได้ ยังไงก็ต้องจ่ายดอกวันนี้”

“แต่วันนี้ฉันไม่มีจริงๆ นะคุณปรานี ฉันเหลือติดตัวอยู่แค่ร้อยกว่าๆ เอง ต้องเอาไว้ให้ลูกสาวคนเล็กไปโรงเรียนน่ะ ฉันขอร้องล่ะนะ”

“ฉันก็เห็นใจแม่วาสนานะ แต่ฉันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้วล่ะ เพราะช่วยมาหลายครั้งจนคุณท่านด่าฉันเละ ยังไงถ้าเย็นนี้ไม่มีดอกเบี้ยไปจ่าย พรุ่งนี้คุณท่านคงส่งคนมายึดรถแท็กซี่ของผัวแม่วาสนาแน่นอน”

“ไม่ได้นะคุณปรานี... ถ้ายึดรถแท็กซี่ของผัวฉันไป แล้วผัวฉันจะทำมาหากินอะไรล่ะ”

แม่ของหล่อนร้องไห้ และยกมือไหว้หลายครั้ง คนเป็นลูกอย่างหล่อนเห็นแล้วก็เสียใจเหลือเกิน

“แม่...”

หล่อนก้าวออกจากหลังพุ่มไม้ และเดินไปหยุดข้างๆ แม่ หล่อนเห็นแม่รีบปาดน้ำตาทิ้ง เห็นแบบนี้ หล่อนก็ยิ่งสะเทือนใจนัก

“ออกมาทำไมล่ะ ผึ้ง เข้าบ้านไปลูก”

แม่คงไม่อยากให้หล่อนรู้ว่าบ้านกำลังมีหนี้สินพะรุงพะรัง

“ผึ้งได้ยินหมดแล้วนะแม่”

“ผึ้ง...”

หล่อนเห็นแม่น้ำตาไหลอาบแก้ม แววตาของแม่มีความละอายใจ หล่อนดึงมือแม่มากุมเอาไว้ ก่อนจะพูดกับผู้หญิงสูงวัยตรงหน้า

“ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายเย็นนี้เท่าไหร่เหรอคะป้า”

“ห้าพันบาท”

“เย็นนี้หนูจะเอาดอกเบี้ยไปจ่ายให้นะคะ ไม่เกินสองทุ่มค่ะ”

ผู้หญิงสูงวัยตรงหน้ามองหล่อนด้วยแววตาเอ็นดู ก่อนจะพูดออกมา

“ลูกสาวหน้าตาน่าเอ็นดูนะ แม่วาสนา”

แม่ของหล่อนระบายยิ้มทั้งน้ำตา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“นี่เรียนอยู่ชั้นไหนแล้วล่ะหนู”

“เอ่อ... หนูเรียนจบแล้วค่ะป้า ตอนนี้กำลังหางานทำอยู่ค่ะ”

“ป้าขอให้หนูหางานทำได้เร็วๆ นะ จะได้เอาเงินมาช่วยจ่ายหนี้แทนแม่วาสนาน่ะ”

“หนูกำลังจะพยายามอยู่ค่ะ ขอบคุณนะคะป้า”

หล่อนยกมือไหว้หญิงสูงวัยตรงหน้า และก็ย้ำถึงเรื่องดอกเบี้ยออกมาอีก

“แล้วเย็นนี้หนูจะเอาเงินเข้าไปจ่ายดอกเบี้ยนะจ๊ะ”

คู่สนทนาของหล่อนผงกศีรษะตอบรับ และกำลังจะหมุนตัวเดินไปขึ้นรถยนต์ที่จอดติดเครื่องอยู่ แต่เสียงของดาริกา หรือว่าแตนดังขึ้นเสียก่อน

“แม่จ๋า... ขอเงินไปเรียนหน่อยจ้ะ แล้ววันนี้ก็มีจ่ายค่ากิจกรรมด้วยนะ”

ดาริกาวิ่งมาหยุดข้างๆ มารดา ซึ่งปรานีก็มองแล้วก็เอ่ยถามออกมา

“ลูกสาวคนเล็กเหรอแม่วาสนา”

“ค่ะ”

“หน้าตาสะสวยดีนะ” ปรานีระบายยิ้ม ก่อนจะก้าวขึ้นไปบนรถยนต์

“ใครเหรอจ๊ะแม่” ดาริกาถามมารดา ซึ่งวาสนาอึกอักเพราะไม่อยากให้ลูกสาวรู้ว่าเป็นหนี้

“คนรู้จักน่ะ แค่แวะมาคุย”

ดาหลาเป็นคนตอบน้องสาวเอง ก่อนจะควักเงินจากกระเป๋าของตัวเองส่งให้น้องสาว

“สามร้อยพอไหมแตน”

“พอจ้ะ ขอบคุณนะจ๊ะพี่ผึ้ง”

ดาริกายกมือไหว้พี่สาว

“งั้นแตนไปเรียนก่อนนะจ๊ะ”

“ขึ้นรถขึ้นราก็ระวังนะแตน”

วาสนาพูดกับลูกสาวแบบนี้ทุกเช้า

“จ้ะแม่ แตนไปก่อนนะ พี่ผึ้งแตนไปก่อน”

“อืม”

เมื่อดาริกาเดินหายออกไปจากรั้วบ้านแล้ว แม่ของหล่อนก็จะเดินหนีเข้าบ้าน ดาหลาจึงรีบเดินตามหลังมา

“แม่จ๋า... ทำไมแม่ไม่เคยบอกผึ้งเลยว่าบ้านเราเป็นหนี้”

“แม่ไม่อยากให้ลูกไม่สบายใจน่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก แม่กับพ่อจัดการได้”

หล่อนรู้ว่าแม่ไม่ต้องการให้ลูกๆ อย่างหล่อนไม่สบายใจ แต่หล่อนจะทำเป็นนิ่งเฉยไม่ได้ หล่อนต้องช่วยเหลือครอบครัว

“เราเป็นหนี้เท่าไหร่จ๊ะแม่”

แม่จ้องมองหล่อน แววตาของท่านเต็มไปด้วยความทุกข์ระบม

เพราะแบบนี้ใช่ไหม แม่ถึงไม่ค่อยยิ้มเลย...

“เก้าหมื่นเจ็ด”

หล่อนยืนนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะยื่นมือไปดึงมือของมารดามาบีบให้กำลังใจ

“ผึ้งจะหางานให้เร็วที่สุด แม่ไม่ต้องกังวลนะจ๊ะ ผึ้งจะรับผิดชอบหนี้ก้อนนี้เองจ้ะ”

แม่ของหล่อนน้ำตาไหลรินอาบแก้ม แววตาของแม่มีแต่ความรักความห่วงใยมอบให้

“ขอบใจนะผึ้ง แต่ไม่เป็นไรหรอก แม่กับพ่อจัดการได้ ลูกทำงานเก็บเงินไว้ใช้เถอะ”

“แม่อย่าพูดแบบนี้สิจ๊ะ ที่แม่กับพ่อมีหนี้สิน ก็เพราะส่งผึ้งกับแตนเรียนหนังสือ ดังนั้นผึ้งจะทำเป็นเพิกเฉยไม่ได้หรอก เราจะช่วยกันใช้หนี้นะจ๊ะแม่”

แม่ของหล่อนระบายยิ้มออกมา ทั้งๆ ที่น้ำตายังคงไหลรินอาบแก้ม

“งั้นผึ้ง... ไปหาสมัครงานก่อนนะแม่ บางทีวันนี้อาจจะมีบริษัทที่เคยไปสมัครไว้เรียกสัมภาษณ์ก็ได้”

ดาหลาพูดอย่างมีความหวัง

วาสนายกมือขึ้นลูบศีรษะของลูกสาวคนโต

“แม่ขอให้วันนี้เป็นวันดีๆ ของลูกนะผึ้ง...”

“ขอบคุณจ้ะแม่”

ดาหลายกมือขึ้นไหว้มารดา ก่อนจะเดินออกไปจากบ้านเช่า ในหัวเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ เนื้อนวล

ข้อมูลเพิ่มเติม
คุณหมอขอรักนะคะ

คุณหมอขอรักนะคะ

โรแมนติก

5.0

เมื่ออาจารย์หมอรูปหล่อว่าที่สามีในอนาคตกำลังจะถูกจับแต่งงาน เธอซึ่งเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงมานานจึงต้องแสดงตัว กลเม็ด หรือน้ำมันพราย เธอไม่เกี่ยง ขอเพียงแค่ให้ได้คุณหมอสุดหล่อมาเป็นสามีก็พอแล้ว “ท่อนชายถูกไถไถลไปมากับร่องชุ่ม เม็ดสวาทถูกหัวเอ็นบดขยี้หลายครั้งจนนิวารินร้องไม่เป็นภาษา และวินาทีที่รอคอยก็เดินทางมาถึง ท่อนชายพุ่งทะยานเข้ามาสุดแรง และมิดด้าม “อ๊ะ... ซี๊ดดดด” “โอ้วววว... แน่นมากนิว... แน่นที่สุด โอ้วววว” “ขยับค่ะพี่หมอ.... ขยับนะคะ นิว... นิวอยากเสร็จกับท่อนพี่หมอ... อ๊า... อา... ซี๊ดดด” “ร้อนแรงเหลือเกินคนสวยของพี่... อืมมม” บั้นเอวของวชิรวิชญ์ขยับเคลื่อนไหวแรงระรัว ครั้งแล้วครั้งเล่าที่กระแทกกระทั้นเข้าสู่โพรงหวาน จนกระทั่งสวรรค์ทั้งผืนถล่มลงมาใส่ เสียงครางเสียวซ่านของนิวารินถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอแกร่งจนเหลือแต่เสียงอู้อี้ ก่อนที่พายุสวาทจะผ่านพ้นไป

คุณหมอทำไมร้าย

คุณหมอทำไมร้าย

โรแมนติก

5.0

นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี

อาจารย์แซ่บไม่ไหว

อาจารย์แซ่บไม่ไหว

โรแมนติก

5.0

ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม

เด็กเลี้ยงของภาวินทร์

เด็กเลี้ยงของภาวินทร์

โรแมนติก

5.0

พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"

ยัยตัวร้ายของท่านประธาน

ยัยตัวร้ายของท่านประธาน

โรแมนติก

5.0

เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."

คนในความลับ

คนในความลับ

โรแมนติก

5.0

เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"

หนังสือที่คุณอาจชอบ

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

สุดที่รักของจักรพรรดิ

สุดที่รักของจักรพรรดิ

Berne Beer
4.9

หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย

l3oonm@
5.0

จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ