สาวใช้คนเก่งของผม

สาวใช้คนเก่งของผม

ชนิตร์นันท์

5.0
ความคิดเห็น
1.2K
ชม
12
บท

เมื่อหนูเหมียวดันเอ่ยคำทักทายคุณบิ๊กว่า ‘บิ๊กสมชื่อเชียวนะ’ แค่นั้นคุณบิ๊กก็ร้อนสิคะ ก็เหมียวน่ะเป็นสาวใช้เรือนร่างอวบอึ๋มน่ากระแทกกระทั้นแบบนั้น ใครจะอดใจได้ล่ะ คุณบิ๊กก็ไม่เอาไว้เหมือนกันค่ะ แต่สุดท้ายแล้ว ใครกันล่ะที่จะเยี่ยมยอดกว่ากัน ในเมื่อ คุณบิ๊กได้แต่เอ่ยชมหนูเหมียวว่าเป็น ‘สาวใช้คนเก่ง’ ที่มีลีลาชั้นเชิงทั้งเพลงลิ้นเพลงดอกไม้จนคุณบิ๊กต้องเสียน้ำไปเยอะ

บทที่ 1 EP.01

ผมชื่อ ‘บิ๊ก’ ครับ ช่วงเรียนมหาลัยปี 4 ผมเรียนหนักมาก บางครั้งต้องทำรายงานกับเพื่อนๆ จนดึกดื่น ทำให้ผมกลับบ้านบ้างไม่กลับบ้าง แม้ว่ารถเมล์จะหมดประมาณเที่ยงคืน แต่ผมก็สู้ระยะเวลาเดินทางไม่ไหวครับ บางคืนผมเลยต้องอาศัยนอนตามบ้านเพื่อน

สุดท้ายแม่ก็เลยฝากให้ผมไปอยู่ที่บ้านลุงแถวมีนบุรีน่ะครับ จะได้เดินทางได้สะดวกหน่อย ประกอบกับลุงผมต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัดนาน 1 เดือน นั่นก็เท่ากับว่าผมจะได้ช่วยลุงดูแลบ้านไปด้วยเลย

ลุงผมเป็นพ่อหม้ายเมียตายครับ แต่แกไม่ได้แต่งงานใหม่ แม่ว่าแกครองตัวเป็นโสดเพราะรักเมียมาก อีกอย่างระยะเวลาทำใจที่เมียตาย ทำให้แกทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการทำงาน แกจึงติดที่จะใช้ชีวิตอยู่ตามลำพัง อีกทั้งยามที่แกต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัด บ้างก็ 1 เดือน และมีบ้างที่หลายเดือน ทำให้แกอยากใช้ชีวิตให้คุ้มค่ามากที่สุด หากมีเมียใหม่แกก็คงจะทำงานไม่ได้เต็มที่

“คิดซะว่าเป็นบ้านของตัวเองนะบิ๊ก มีอะไรขาดเหลือก็บอกเหมียวเขา”

“ครับลุง เดินทางปลอดภัยนะครับ สวัสดีครับ”

ผมกดตัดสายโทรศัพท์ ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้สีฟ้าหม่นตรงหน้า จากแผนที่ที่แม่ให้มา บ้านเลขที่ และคำยืนยันจากลุงที่คุยโทรศัพท์กันเมื่อครู่ก็ยืนยันได้ว่าผมมาถูกบ้านแล้ว

ใช่ครับ ผมเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก ผมก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปล่ะครับ เวลาแม่ชวนไปบ้านญาติ ผมไม่อยากไปหรอก อ้างว่าติดเรียน ติดทำรายงานมั่ง แค่นี้แม่ก็ไม่บังคับผมแล้ว และวันแรกที่ผมย้ายมาอยู่บ้านลุง ก็เป็นวันที่ลุงเดินทางไปดูงานพอดีครับ ผมก็เลยไม่ได้เจอลุง ได้แต่คุยโทรศัพท์กันเมื่อสักครู่เท่านั้น

ติ๊งหน่อง... ติ๊งหน่อง...

ผมกดออดหน้าบ้านได้สักพักหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครมาเปิดประตูให้ครับ ทั้งที่ลุงบอกว่าเด็กทำงานบ้านที่ชื่อว่า ‘เหมียว’ เธออยู่ในบ้าน แต่เธอกลับไม่ออกมาเปิดประตูให้ผมครับ หรือว่าเธอจะไม่อยู่ ผมคิดก่อนจะเดินตรงไปยังประตูเล็กที่อยู่ด้านข้าง มองลอดเข้าไปก็เห็นว่าลงกลอนไว้ นั่นก็แปลว่าเธอจะต้องอยู่ข้างในแน่ แต่ทำไมเธอไม่ออกมาเปิดประตูให้ผมล่ะครับ

ผมเริ่มหงุดหงิดแล้วล่ะ เพราะตั้งแต่เช้าก็ยังไม่มีอะไรตกถึงท้อง กะว่าจะรีบมาให้ทันเจอลุง ก่อนที่ลุงจะออกจากบ้าน แต่ก็ไม่ทัน

ความหงุดหงิดทำให้ผมถือวิสาสะหาทางเข้าไปด้านในด้วยตัวเอง ผมเปิดกระเป๋าเป้ หยิบเอาไม้บรรทัดฟุตเหล็กอันจิ๋วออกมา แล้วปฏิบัติการสะเดาะกุญแจของผมก็ดำเนินไปอย่างง่ายดาย ไม่ต่างจากขุนแผนสะเดาะกุญแจเข้าไปลักพานางวันทองเลยครับ ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้ว ผมน่ะกลับบ้านดึกประจำ ไอ้เรื่องสะเดาะกุญแจเข้าบ้านนี่งานถนัดของผมเลย

แค่แป๊บเดียวผมก็ขนกระเป๋าสัมภาระใบเขื่อง 2 ใบ เข้ามาด้านในรั้วบ้านได้สำเร็จ แต่ถึงตอนนี้สาวใช้ที่ชื่อว่าเหมียวก็ยังไม่โผล่หน้าออกมาครับ

ผมส่ายหัวด้วยความขัดใจ เพราะโมโหแทนลุงที่ดันจ้างสาวใช้แบบนี้มาดูแลบ้าน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมลุงถึงไว้ใจให้เหมียวดูแลบ้าน เพราะถ้าผมเป็นโจร สาวเหมียวคงถูกฆ่าหมกท่อส้วมไปแล้วล่ะ

ผมเดินลัดเลาะไปตามแนวรั้วของบ้านที่น่าจะนำทางไปสู่ด้านหลังของตัวบ้าน เพราะประตูด้านหน้านั้นล็อคเอาไว้ และเสียงตะหลิวกระทบกับกะทะ บวกกับกลิ่นหอมของอาหารจานผัดที่โชยมาก็ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าที่สาวเหมียวไม่ไปเปิดประตูให้ผมนั้นเพราะว่าเธอกำลังทำกับข้าวอยู่นี่เอง

แต่ถึงอย่างนั้นก็คงต้องตำหนิกันหน่อยที่ทำเพลินจนไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงกริ่ง ทั้งๆ ที่เสียงนั้นควรจะดังไปทุกจุดในตัวบ้านสิ

ผมเดินตามกลิ่นและเสียงจนมาถึงลานโล่งด้านหลังของตัวบ้าน ซึ่งน่าจะใช้เป็นที่ซักล้าง เพราะเห็นมีอุปกรณ์ซักผ้า คือ เครื่องซักผ้า กะละมัง และแปรง พิงผนังบ้านอยู่ ทว่าสิ่งที่ทำให้ผมชะงักเท้าที่จะก้าวเดินต่อไปก็คือ

‘ชุดชั้นในสตรี’

แม่นครับ ชุดชั้นในสตรีที่ภาษาบ้านๆ เราเรียกกันว่า ‘เสื้อใน, ยกทรง, กางเกงใน หรือ กางเกงลิง’ นั่นแหละครับ ที่ทำให้ผมสะดุดกึก ก็จะไม่ใช่สะดุดได้ยังไง เพราะทั้งหมดนั่นตากเรียงกันเป็นแนวอยู่บนราวที่ต่อง่ายๆ จากท่อพีวีซี

ขนาด สี และแบบต่างๆ ราวกับกวักมือเรียกผมเข้าใกล้ โดยเฉพาะตัวที่เป็นลูกไม้สีแดงสดนั่น ทั้งเสื้อในและกางเกงใน ทำให้ผมเดินเข้าหาราวกับละเมอ รู้ตัวอีกที จมูกและปากของผมก็อยู่ชิดติดเนื้อผ้า

‘อา... หอม’

ผมเผลอตัวดมกางเกงชั้นในของใครก็ไม่รู้ครับ แต่... ผมว่าผมรู้แล้วล่ะ เมื่อเสียงฮึมฮัมเพลงร่วมสมัยดังแว่วมา

ผมสูดความหอมจากเนื้อผ้าหอมกรุ่นด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มนั้นอีกครั้ง ก่อนจะเดินลัดเลาะไปสู่ทิศทางของห้องครัว เพราะผมยังได้ยินเสียงตะหลิวกับกะทะกระทบกันอยู่ไม่หยุด และสิ่งที่เห็นก็ทำให้ผม ‘แข็ง’

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ชนิตร์นันท์

ข้อมูลเพิ่มเติม
คนงานบ้านนายฝรั่ง

คนงานบ้านนายฝรั่ง

โรแมนติก

5.0

หากนาไม่แล้ง ข้าวไม่แห้งตาย ‘เดช’ ก็ไม่คิดจะหอบเอา ‘ฟ้า’ เมียรักเข้ามาทำงานในเมืองกรุง แต่ความจนทำให้เลือกไม่ได้ และงานดี เงินดี เจ้านายเห็นใจ ก็เป็นเส้นทางที่ดีที่สุด ทว่า... หากรู้ว่ามาแล้วจะต้องเสียเมียให้นายฝรั่ง เดชเลือกที่จะไม่มาเสียยังดีกว่า แต่... เสียแล้วคือเสียเลย สิ่งเดียวที่จะชดเชยความแค้นก็คือ ‘เมียนาย’ คุณผู้หญิงเร่าร้อน เร่งเร้า รุนแรง และมากครั้งเท่าที่ต้องการ เดชไม่รู้แล้วว่านั่นคือการแก้แค้นหรือรางวัล +++++ ‘เดช’ พา ‘ฟ้า’ เมียรักมาทำงานที่บ้านนายฝรั่ง แต่ ‘คริส’ นายฝรั่งกินเมียเขาไปแล้ว และยังเอาดุ้นยาวใหญ่มาล่อให้ฟ้าติดใจ จนฟ้ากินไม่อิ่มไม่พอ อยากได้อะไรที่เทียบเท่า เขาก็เลยแอบกิน ‘โรส’ เมียของนายฝรั่ง แก้แค้นให้สาสม แต่แค้นช่างแสนหวานและฉ่ำชุ่ม จนเขาต้องกินซ้ำๆ ยิ่งได้กินพร้อมๆ กับพี่โชค เขาก็ยิ่งเมามัน และแน่นอนว่าโรสชอบ ในขณะที่นายฝรั่งกระหยิ่มยิ้มที่ได้กินเมียเขา เดชกลับสุขและยิ้มกว้างยิ่งกว่า เพราะเขาได้กิน ‘คุณหนูแพทตี้’ คุณหนูช่างร่านร้อนไม่ต่างจากแม่ แน่นอนว่าเขาชวนพี่โชคมากินด้วย

รับ(ลับ)ฉบับมาดาม

รับ(ลับ)ฉบับมาดาม

โรแมนติก

5.0

#มาดามทรายกับชายเลี้ยงม้า เปิดประสบการณ์รักร้อนในฟาร์มม้ากันสักครั้ง หรือจะลองกลิ่นฟางแห้งบ่มแดดอุ่นๆ ในโรงนาก็ไม่เลวนะ +++++ เคิร์กรู้ว่าฉันชอบขี่ม้า เขาจึงสอนให้ฉันขี่ม้าจริงๆ หลังจากขี่เขาจนช่ำชองมาหลายครั้ง และฉันก็หัวไวสอนง่ายซะด้วย เพราะเมื่อฝึกหัดขี่ม้าจริงตอนเย็นเสร็จ พอตกกลางคืนฉันก็ซ้อมขี่กับม้าเทียมอย่างเคิร์กอยู่ทุกวัน ไม่ได้ว่างเว้น และก็มีบ้างเป็นบางวันที่ฉันทนไม่ไหวและเคิร์กก็อดไม่ได้ เมื่อฟางใหม่หอมกลิ่นแดดเร่งเร้าความกำหนัดของเราเหลือเกิน เคิร์กก็จะพาฉันไปซ้อมขี่กันที่คอกม้าในโรงนาซะหลายครั้ง และความตื่นเต้นก็ทำให้ฉันกับเคิร์กคึกคักกันมากเป็นพิเศษ ยามที่ฉันควบขี่เคิร์กอยู่ในโรงนา กลิ่นฟางแห้งที่รองรับร่างกายยิ่งใหญ่ของเขาอยู่นั้น เร้าใจจนฉันควบขี่เขาได้ไวกว่าที่เคยทำได้ บั้นเอวและช่วงบั้นท้ายทำหน้าที่โยกตัวไปข้างหน้าและโย้มาข้างหลัง ทว่าปากก็ร่ำร้องบอกถึงความเสียวซ่านที่ดุ้นบังเหียนกระทำกับร่องลึกลับของฉันอยู่ตลอดเวลา

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เทพเจ้าแห่งอสูร: พิชิตทุกพิภพด้วยหมื่นภูตผี

เทพเจ้าแห่งอสูร: พิชิตทุกพิภพด้วยหมื่นภูตผี

Daniel
5.0

-- ในศตวรรษที่ 26 ทหารรับจ้างอันดับหนึ่งได้กลับชาติมาเกิดใหม่ กลายเป็นลูกเลี้ยงที่ไร้ค่าของตระกูลผู้มีชื่อเสียง แต่เมื่อนางลืมตาขึ้นอีกครั้ง โลกก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ย่ำยีชายทรยศ ข่มเหงหญิงเลว จัดการกับพวกที่ทำให้ชีวิตติดขัด เปลี่ยนแปลงทุกสิ่งตามใจปรารถนา ควบคุมเทพสัตว์นับพัน ถลุงยาวิเศษ วางข่ายศักดิ์สิทธิ์ วาดยันต์ผี ทุกอย่างนางทำได้อย่างชำนาญ อยู่เหนือกว่าอัจฉริยะทั้งห้าภพ โลกนี้นางครอบครอง ไม่สามารถบำเพ็ญตบะงั้นหรือ แต่นางเป็นผู้ครอบครองพลังครบทุกธาตุ ไม่มีคุณสมบัติมากพอบำเพ็ญลัทธิหรือ นางนอกจากบำเพ็ญลัทธิอสูรลัทธิเทพลัทธิวิญญาณลัทธิมารทั้งสีแล้ว ยังสร้างลัทธิภูตผีอีกด้วย ไร้ค่า ไม่มีความสามารถงั้นหรือ นางคือราชาผี ที่สืบทอดพลังหยินขั้นสูง แค่กระดิกนิ้ว พญาวิญญาณแค้นนับหมื่นก็พรั่งพรูมาปรนนิบัติ เพียงแต่ว่าจักรพรรดิผู้ลึกลับที่ตามตื้อนางนั้น มันคือยังไงกัน เฝิงอี้ "เพิ่งเจอหน้ากันก็ถอดเสื้อข้า เช่นนั้นเราสู้กันบนเตียงอีกรอบดีหรือไม่" เย่วเฉิงเฟิงยิ้มยั่ว "ผู้ชายมีแต่จะเป็นตัวถ่วงของข้า ท่านจักรพรรดิ ท่านเดินทางดีๆ ลาก่อนนะ"

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

ข้าคือดาวมงคลน้อยหลินลู่ฉี

มาชาวีร์
4.4

เมื่อยมทูตหน้าใหม่ดึงวิญญาณมาผิดดวง เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมดุลของโลกวิญญาณ หลินลู่ฉีผู้มีปราณมงคลในยุคปัจจุบัน จึงถูกส่งไปยังต่างโลก สวมร่างเด็กน้อยวัยสามขวบ ที่เพิ่งถูกงูกัดตายด้านหลังอารามเต๋า เจ้าอาวาสไม่อาจยอมรับวิญญาณสวมร่างได้ แต่เมื่อขับไล่วิญญาณร้ายออกจากร่างกายไม่ได้ จึงจำเป็นต้องขับไล่คน ออกจากอารามแทน ++++ "อนิจจาวาสนาเด็กน้อยได้ดับสิ้นลงแล้ว จี้คงเตรียมพิธีสวดส่งวิญญาณให้นางเถอะ" นักพรตเฒ่าสั่งการลูกศิษย์ตัวน้อย หันหลังหมายจะเดินกลับไปยังที่พักของตน "ขอรับท่านอาจารย์" จี้คงขานรับคำสั่ง หันไปเตรียมสิ่งของสำหรับทำพิธีสวดส่งวิญญาณผู้ตาย ทว่าผ่านไปเพียงอึดใจเดียว "อ๊ากกก ! มีผี !" เสียงกรีดร้องดังลั่น ร่างเล็ก ๆ ของเขาวิ่งไปหลบอยู่ด้านหลังผู้เป็นอาจารย์ "จี้คงมีอะไร" "นะนางลืมตาขอรับท่านอาจารย์" เด็กน้อยชี้นิ้วสั่น ๆ ไปที่ศพบนพื้น "ว่าอย่างไรนะ" นักพรตเฒ่ารีบตรงไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างศพ เห็นเปลือกตาของนางขยับไปมา ก่อนจะปรือลืมขึ้นอย่างลำบากยากเย็น "นี่มัน...เป็นไปไม่ได้" รีบคว้าข้อมือของเด็กน้อยมาจับชีพจรดู ดวงตาของนักพรตเฒ่ามืดมนลงในทันที แตะนิ้วทำนายชะตา นี่มันคือการสลับร่างเปลี่ยนวิญญาณ ดึงตัวลูกศิษย์ถอยหลังไปสามก้าว "ผีร้ายตนไหนกล้ามาสวมร่างคนตาย จงออกไปเสีย !" ผีร้ายที่ว่ากำลังมึนงงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จำได้ว่าเธอกำลังขับรถกลับบ้าน ใช่แล้ว เกิดอุบัติเหตุขึ้น มีรถบรรทุกเสียหลัก พุ่งมาชนรถของเธอ จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบไป ท่าทางเหม่อลอยไร้สติของนางทำนักพรตเฒ่าหวาดระแวงในทันที เตรียมหยิบยันต์ป้องกันภูตผีออกมา ขณะที่เด็กน้อยยกฝ่ามือของตัวเองขึ้นเพ่งมองอย่างประหลาดใจ ดวงตาคู่กลมน้อยกลอกกลิ้งไปมาอย่างสับสน นิ้วมือสั้น ๆ นี่มันอะไร ขยับปลายเท้าเข้าหากัน ขาก็สั้น พลิกฝ่ามือตัวเองไปมา สีหน้าคล้ายคนอยากร้องไห้ นี่มันโลกถล่มใส่หัวของเธอหรืออย่างไรกัน เปรี๊ยะ ! ยันต์ขับไล่ภูตผีถูกปาใส่นางสุดแรง ก่อนที่มันจะปลิวร่อนลงไปกองอยู่บนพื้น ยันต์ไม่เกิดการเผาไหม้ ผีร้ายยังคงอยู่ในร่างกายของเด็กน้อย "เจ้า ๆ ๆ ออกไปจากร่างของนางเดี๋ยวนี้ !" นักพรตเฒ่าชี้นิ้วพร้อมดึงยันต์สายฟ้าฟาดออกมาอีกแผ่น นี่นับเป็นยันต์ที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว รีบปาใส่เด็กน้อยสุดแรง เปรี๊ยะ ! ทว่าไร้ผลอยู่ดี... ตาเฒ่านี่เล่นตลกอะไรกัน... [นิยาย3เล่มจบ 252ตอน]

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ