Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
นกหงส์หยกข้าใครอย่าหมาย

นกหงส์หยกข้าใครอย่าหมาย

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
33.2K
ชม
88
บท

เกิดอีกกี่ชาติถึงจะได้เป็นเมียองค์รัชทายาท ในเมื่อชาตินี้มีโอกาส คนที่ทะลุมิติมาเป็นนกหงส์หยกในตอนกลางวัน กลางคืนเป็นสาวผู้เลอโฉม ธิดาดอยหรือเหมยจึงไม่พลาดโอกาสทอง จับองค์รัชทายาทเป็นผัว เอ๊ย! ไม่ใช่ เป็นเมียองค์รัชทายาทถึงจะถูก เมื่อสาวเปรี้ยวปากจัดเดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วพลาดท่าหล่นตูมลงในน้ำ แต่พอเธอตะกายขึ้นมาเหนือน้ำ เธอก็พบว่า ตนเองอยู่ในยุคจีนโบราณสมัยราชวงศ์หมิง ซ้ำร้ายเธอยังกลายเป็นนกหงส์หยกขององค์รัชทายาทที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจและถูกขนานนามว่าโหดเหี้ยมที่สุด แต่ในความเหี้ยมโหดก็มีความมุ้งมิ้งกระดิ่งแมวซ่อนอยู่ โชคชะตาไม่ได้เล่นตลกกับเธอเพียงแค่นั้น การทะลุมิติที่ผิดแปลก แถมยังแปลกประหลาด กลางวันเธอจะเป็นนกหงส์หยกตัวน้อยนิดแต่น่ารัก ยามพระอาทิตย์ลาลับเธอจะกลางร่างเป็นสาวผู้เลอโฉมที่สะกดใจองค์รัชทายาทตั้งแต่แรกเห็น เพราะการเห็นเธอครั้งแรก แสนจะไม่ธรรมดา แสงตะวันลับขอบฟ้าคือเวลาที่องค์รัชทายาทอ่านตำราเกี่ยวกับการปกครองอยู่ภายในห้องบรรทม ระหว่าที่เขากำลังนั่งอ่านตำรา เขาตวัดสายตามอไปยังกรงนกหงส์หยก นกเร่ร่อนบินมาเกาะขอบไม้ตรงศาลาริมสระบัวที่เขามักมานั่งพักผ่อน ความเชื่องและความน่ารัก องค์รัชทายาทตึงจับมันใส่กรง ให้อาหารและน้ำ ก่อนนำมาวางไว้ในห้องบรรทม ดวงตาองค์รัชทายาทค่อยๆ เบิกกว้าง เมื่อนกหงส์หยกในกรงกำลังมีรูปลักษณ์เปลี่ยนไป เขาลุกขึ้นยืน สะบัดศีรษะหลายหน ขยี้ตาหลายครั้ง หยิกตัวเองด้วย เพื่อให้แน่ในว่า ภาพที่เห็นไม่ใช่ความฝัน แต่มันคือความจริง ความจริงที่เหนือความคาดหมายและไม่น่าเป็นไปได้ นกหงส์หยกกลายเป็นคน “เฮ้ย!” องค์รัชทายาทร้องดังลั่น มองนกหงส์หยก เอ๊ย! ไม่ใช่สิ ตอนนี้กลายเป็นสตรีที่มีความงามล้ำเลิศ สรีระทรวดทรงงดงามไม่แพ้กัน มีส่วนเว้าส่วนโค้งที่เรียกเลือดลมให้เดือดพล่าน ส่วนกรงนกก็พังเป็นเศษไม้ชิ้นเล็กชิ้นน้อย “ว้าย!” ธิดาดอยหรือเหมยตกใจไม่แพ้กัน เมื่อเห็นว่าร่างกายของตนปราศจากเสื้อผ้า และตอนนี้ตกอยู่ในสายตาของหนุ่มรูปงาม ที่ตอนนั้นตนเป็นนกกำลังบินอยู่เหนือต้นไม้ พอเห็นความงามของบุรุษที่นั่งอยู่ในศาลา เธอก็รีบบินลงมาเกาะบนขอบไม้มองดูความหล่อของเขาในระยะใกล้ “เจ้า...เจ้าทำไมถึงเป็นคน” เออนั่นสิ ทำไมถึงเป็นคนได้หว่า จำได้ว่าเป็นนกหงส์หยกนี่นา

บทที่ 1 1

1

“เหมย...เหมยตื่นหรือยังลูกเดี๋ยวไปมหาลัยสายนะลูก” จันทร์กระจ่างเคาะประตูเรียกบุตรสาวที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ลุกจากเตียงนอนหรือยัง “ตื่นเถอะลูก สิบโมงแล้วนะ”

คนถูกปลุกงัวเงียลุกขึ้นนั่ง หาววอดยาว ยกแขนขึ้นสูงบิดขี้เกียจ แต่ก็ไม่คิดลุกขึ้นจากเตียง แถมหลับนกอีกต่างหาก น้ำลายไหลหน่อยๆ

ปัง ปัง ปังๆๆๆๆๆ

แต่พอเสียงเคาะประตู ไม่ใช่ๆ มันคือเสียงทุบประตูดังรัวไม่หยุด คนนอนขี้เซาสะดุ้งสุดตัว หน้าตื่นตกใจ มือเรียวสวยเช็ดน้ำลายก่อนกระโดดลงจากเตียง

“ไฟไหม้โว้ย ไฟไหม้” เสียงนั้นดังอยู่หน้าประตูห้อง ธิดาดอยรีบวิ่งไปที่ประตูแล้วเปิดมันทันที

“ไฟไหม้เหรอ ไหม้ถึงไหนแล้วเฮีย” ธิดาดอยถามพยัคฆ์หรือหลุยส์พี่ชายคนโตที่ยืนเท้าเอวหน้าห้อง ส่วนมารดายืนยิ้มแห้งอยู่ข้างๆ

“ไฟไหม้เหรอ ไฟไหม้ที่ไหน” พยัคฆ์ไขสือ

“อ้าว ก็เฮียตะโกนลั่นบ้านว่าไฟไหม้”

“เหรอ...อ้อ จำได้แล้ว เฮียซ้อมเสียง วันนี้ต้องไปร่วมเล่นในรายการนักร้องซ่อนแอบ เลยวอร์มเสียง” พี่ชายสุดกวนตอบกลับ ยักคิ้วให้ ธิดาดอยเพิ่งรู้ว่า พี่ชายแกล้งเธอ

“ที่หลังเฮียปลุกเหมยดีๆ ก็ได้ ปลุกดีๆ เหมยก็ตื่นแล้ว”

“นี่แม่คุณ ม้าเรียกจนปากจะถึงรูหูแล้ว แต่ธิดาดอยก็ไม่ตื่นจากบรรทม นอนอุตุนิยมวิทยาจนตะวันจะตรงหัวแล้ว ตกลงธิดาดอยเกิดมาเพื่อนอนใช่ไหม”

“เลิกเรียกธิดาดอยซะทีได้ไหม มีชื่อเล่นก็เรียกชื่อเล่นสิ เรียกอยู่ได้ธิดาดอย” คนพูดทำหน้างอนใส่

“อ้าว ก็ชื่อธิดาดอยนี่ จะให้เรียกอะไร ธิดาขี้เซารึไง” พี่ชายกวนกลับ

“ม้านะม้า ชื่อมีออกตั้งเยอะตั้งแยะที่ดีกว่านี้ทำไมไม่ตั้ง มาตั้งชื่อธิดาดอย ไม่เข้ากับเฮียเลย เฮียชื่อพยัคฆ์ เจ้ชื่อณัฐระพี แต่ทำไมเหมยถึงได้ชื่อธิดาดอยล่ะ” คนไม่ชอบชื่อจริงของตัวเองหน้างอ

“อย่าเรื่องมาก ชื่อไหนก็เหมือนกันแหละ อีกอย่างชื่อธิดาดอยก็เพราะดีออก ไม่เหมือนใครด้วย” พี่ชายปลอบใจ “ไปอาบน้ำได้แล้ว ป๊ากับม้ารอกินข้าว บาปกรรมแค่ไหนเนี่ยต้องให้พ่อแม่คอยกินข้าว”

ธิดาดอยแลบลิ้นใส่พี่ชาย ก่อนหมุนตัวเข้าไปในห้อง อาบน้ำอาบท่า แต่งชุดนักศึกษาลงมาจากชั้นบน เพื่อทานมื้อเช้าในตอนเกือบสิบเอ็ดโมงพร้อมครอบครัว

เมื่อเดินมาถึงโต๊ะอาหาร ธิดาดอยหน้ายุ่งเมื่อเห็นเฉิน บิดาเชื้อสายจีนกำลังนั่งหยอกล้ออยู่กับนกหงส์หยกที่บิดาเลี้ยงไว้ แถมยังเอากรงนกมาวางบนโต๊ะ ราวกับว่าให้มันร่วมทานอาหารด้วย

“ว่าไงจ้ะณัชชาของป๊า หิวไหมเอ่ย มามะป๊าจะให้อาหารนะ” เฉินเปิดกรงนก นำอาหารนกไปวางอยู่ในช่องเล็กๆ ที่ใส่อาหารให้นกตัวโปรด ธิดาดอยมองนกหงส์หยกด้วยความอิจฉาที่ชื่อก็เพราะกว่า แถมบิดายังเอาใจอย่างกับลูก

“ป๊า เหมยถามจริงเถอะ ตอนตั้งชื่อเหมย ป๊าเมาหรือเปล่าถึงได้ตั้งชื่อเหมยว่าธิดาดอย แต่ดันตั้งไอ้นกตัวนี้ว่า ณัชชา ชื่อนี้น่าจะเป็นชื่อจริงของเหมยมากกว่านะ”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ธิดาดอยวีนเรื่องชื่อจริงที่แปลกไม่เหมือนใคร เธอโวยตั้งแต่เพื่อนล้อซึ่งก็ผ่านมาหลายปี อยากเปลี่ยนชื่อก็เปลี่ยนไม่ได้

“ป๊าไม่ได้เมา ป๊ามีเหตุผล”

“เหตุผลอะไรป๊า”

“ก็ตอนนั้นป๊ากับม้าไปเที่ยวภูกระดึง และที่นั่นทำให้เหมยเกิดมา เหมยเป็นลูกสาวความหมายคือธิดา ภูกระดึงเป็นภูเอามารวมกับธิดาก็เป็นธิดาภู แต่ชื่อธิดาภูมันฟังดูแปลกๆ ป๊าก็เลยตั้งชื่อว่า ธิดาดอยแทน เห็นไหมว่ามีเหตุผล เพราะจะตายไป”

“ใช่ เฮียก็ว่าเพราะออก ไม่ซ้ำใครด้วย” พยัคฆ์พูดขึ้นบ้าง อมยิ้มจนแก้มป่อง

“เฮียก็พูดได้สิ ชื่อจริงเฮียออกจะเพราะ” ธิดาดอยหน้าเง้า “ชื่อไอ้นกบ้ายังเพราะกว่าเหมยเลย”

“เออเว้ย อิจฉาแม้กระทั่งนก” พยัคฆ์พูดติดตลก “มันก็แค่นกที่มีชื่อเพราะกว่า แล้วป๊าก็รักมากกว่า แถมตัวก็สวยกว่า แค่นี้ต้องอิจฉาด้วยเหรอ”

“อิจฉามันตายล่ะ จะจับมันย่างกินสักวัน” ธิดาดอยหันไปพูดใส่กรงนกหงส์หยก และทุกคนที่ร่วมรับประทานอาหารเช้ากับธิดาดอยก็ต้องหัวเราะออกมา เมื่อนกหงส์หยกแสนฉลาดพูดประโยคหนึ่ง

“ขี้อิจฉา ขี้อิจฉา”

“ไอ้นกบ้าว่าฉันเหรอ เดี๋ยวแม่จับแล่เนื้อซะดีไหม”

คนพูดให้ไปแยกเขี้ยวใส่นกหงส์หยกในกรงที่นับวันจะยิ่งไม่ชอบหน้า ถ้าวันไหนทนไม่ไหวจะจับมันไปปล่อยไกลๆ เฉินรีบย้ายนกตัวโปรดไปไว้บนเก้าอี้ข้างตัวทันที ราวกับกลัวว่าลูกสาวคนเล็กจะทำเช่นนั้นจริงๆ ระหว่างที่ทานอาหาร ธิดาดอยมองนกน้อยของบิดาเป็นระยะ นึกอิจฉาที่ชื่อมันเพราะกว่า อยากจะสลับชื่อกันเสียจริง

นกหงส์หยกชื่อเพราะถูกเฉินเลี้ยงดูเมื่อหนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมา วันนั้นนกตัวนี้บินมาหลบฝนอยู่บนเครื่องซักผ้าหลังบ้าน ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่เฉินวิ่งไปเก็บผ้าที่ตากไว้ เมื่อเห็นนกตัวน้อยเปียกปอนไปด้วยฝน และชื่นชอบนกเป็นการส่วนตัว เฉินจึงเลี้ยงดูนกหงส์หยกตัวนี้เรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

และนับตั้งแต่วันแรกที่ธิดาดอยรู้ว่า เฉินตั้งชื่อให้นกเร่ร่อนตัวนี้ว่าณัชชา เธอก็ไม่ชอบมันทันที เวลาไม่มีใครอยู่บ้านหรือทีเผลอ เธอก็มักจะมาแกล้งมันเป็นประจำ ใช้ไม้เขี่ยตามตัวมันบ้าง แกล้งดึงขนมันบาง บางครั้งก็ตบหัวมันเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ ถ้านกณัชชาพูดได้ มีความรู้สึก มันก็คงอยากเอาคืนคนชอบแกล้งบ้าง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

พิศวาสทาสเสน่หา

พิศวาสทาสเสน่หา

มหาเศรษฐี

5.0

“บ้าอำนาจชะมัด” หญิงสาวแอบบ่น กระแทกตัวลงนั่งริมสุดของขอบโซฟา ทิ้งระยะห่างจากเขาให้มากที่สุด “นี่แม่คุณ มานั่งใกล้หน่อยสิ นั่งไกลอย่างนั้นแล้วจะบริการฉันได้ยังไง ไม่เห็นเหรออาหารหมดถ้วยแล้ว” ถ้ารู้มาก่อนว่าคนที่จองห้องวีไอพีคือเขาคนนี้ เธอไม่ยอมเป็นพนักงานเสิร์ฟจำเป็นแน่นอน หญิงสาวเขยิบร่างกายเข้ามาอีกนิด ตักอาหารใส่ถ้วย ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าเขาเหมือนเดิม “ป้อนด้วยสิ” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี “ดิฉันมีหน้าที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ตามที่เห็นสมควรนะคะ การป้อนอาหารเป็นนอกหน้าที่ของดิฉัน” สร้อยระย้าพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเข้ม จ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มกับท่าทีแสนพยศของเธอ ขยับร่างกายเข้ามาประชิดร่างบางอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว “ว้าย!!..ปล่อยนะ” หญิงสาวร้องเสียงหลง ผลักร่างหนาให้ออกห่าง แกะมือใหญ่ที่รัดเอวของเธอไว้แน่น แต่ยิ่งพยายามเอวของเธอก็ต้องถูกรัดแน่นมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นร่างงามลอยขึ้นเหนือเบาะ เนื่องจากเขาอุ้มร่างของเธอมานั่งบนตัก “พยศนักนะ” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขามาก่อน เห็นจะมีเพียงผู้หญิงกลิ่นกายเย้ายวนใจคนนี้ ยิ่งชิดใกล้เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน ความต้องการปะทุขึ้นมาทันที เรียวปากใหญ่ปิดสนิทปากนุ่มที่กำลังจะอ้าปากต่อว่า ทำให้เขาสอดแทรกลิ้นร้อนชื้นเข้าไปภายในโพรงปากอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นหนาตวัดพัดโบกกับลิ้นนุ่มที่ตื่นกลัวทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากจูบนี้เป็นจูบแรกของชีวิตสาว สมองของเธอนั้นเริ่มมีกลุ่มหมอกควันสีขาวเข้ามาปกคลุม ความว่างเปล่ากำลังเข้ามาแทนที่ ไม่มีสตินึกคิด ความหวานนุ่มชวนหอมหวานที่เขาได้สัมผัส กระตุ้นความเป็นชายของเขาให้ตื่นจากการหลับใหล เสียงครางที่ดังทักท้วงในลำคอสาว เสมือนยากระตุ้นให้ความดันโลหิตของเขาเสียดทานกับความต้องการทางเพศ ร้อนรุ่มไปทั้งกาย มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางไปมา ก่อนจะวกมากอบกุมทรวงอกขนาดพอเหมาะกับฝ่ามือของเขา ไม่ใหญ่มากเกินไปจนล้นมือและไม่เล็กจนเสียอารมณ์

หนังสือที่คุณอาจชอบ

พระชายาสารพัดพิษ

พระชายาสารพัดพิษ

โรแมนติก

4.9

"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"

ไฟร้อนซ่อนสวาท

ไฟร้อนซ่อนสวาท

โรแมนติก

5.0

“เปล่านะ ฉันไม่ได้โกหกสักหน่อย แค่ไม่ได้บอกว่าจะให้รางวัลมากน้อยแค่ไหนและตอนไหนเท่านั้นเอง” คนเจ้าเล่ห์ตอบกลับเสียงใส รีบปลดสองแขนใหญ่ออกจากร่าง ลุกขึ้นไปยืนยิ้มหน้าระรื่น “เอาน่า...ฉันไม่ผิดคำพูดหรอก แค่ยืดเวลาออกไปนิด คุณคงไม่ถึงกับลงแดงหรอกนะ” “ได้จ้ะเมียจ๋า แต่เดี๋ยวถึงเวลาฉันทวงรางวัล เธอจะมาว่าฉันมักมากไม่ได้นะ” “ให้มันแน่เถอะค่ะคุณสามีขา...แก่แล้วนะคะ กลัวจะตายคาอกฉันน่ะซิ” นิลลดาตอบกลับด้วยรอยยิ้ม ทว่าในใจเธอกลับขลาดกลัว เพราะดันมีเรื่องปกปิดชายหนุ่มเอาไว้น่ะซิ ************ “คะ...คุณภูมิต้องการอะไรล่ะคะ” เอ่ยถามเสียงใสพลิ้ว “ถ้าฉันให้ได้ก็จะให้ค่ะ” “ฉันก็แค่อยาก...” นิ้วยาวร้อนผ่าวทาบทับคลึงบนกลีบปากนุ่ม “กอดเธออย่างแนบชิด แล้วก็จูบ...จูบไปทั่วทั้งตัวเธอเท่านั้นเอง” “บ้า!! คุณภูมิน่ะ” ยกมือทุบอกกว้างเบาๆ “เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย คุณขอแบบนั้นได้ยังไง” “ไม่ได้หรือยายดำ” ภูมินทร์ทำหน้ามุ่ย ทำตาละห้อยโหยหาราวกับว่าจะต้องจากลาไปในบัดเดี๋ยวนี้

สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย

สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย

มหาเศรษฐี

4.9

เมื่อองค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์ถูกวางยาปลุกกำหนัดในคืนวันอภิเษกสมรส... จิรัชยาเป็นเพียงลูกของนางบำเรอของอัครมหาเสนาบดีประจำมหานครฟาดิลาห์ หน้าที่ของลูกนอกสมรสอย่างหล่อนก็คือคอยรับใช้ ฮันนา ว่าที่องค์สุลตาน่า ความทุกข์แสนสาหัสเดียวในใจของหล่อนก็คือการแอบหลงรักจ้าวผู้ครองแคว้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมอง แต่แล้วความฝันของหล่อนก็เป็นจริง เมื่อหล่อนได้นอนอยู่ใต้ร่างขององค์สุลต่านแห่งฟาดิลาห์ แต่คืนนั้นมันเป็นคืนแต่งงานของเขากับฮันนา...! “ยังไม่รีบไสหัวลงไปจากเตียงอีกหรือ!” กายสาวบอบช้ำยังไม่ทันได้ขยับลงจากแท่นบรรทมก็ถูกเขาผลักไสแรงๆ จนกลิ้งตกลงมากองกับพื้นห้องไม่ต่างจากเศษขยะสกปรก น้ำตาแห่งความปวดร้าวไหลพรากออกมาราวกับสายฝน “หม่อมฉัน... ขอประทานอภัยเพคะ หม่อมฉัน...” จิรัชยาพยายามจะอธิบาย แต่เสียงเกรี้ยวกราดขององค์สุลต่านแผดดังก้องขึ้นเสียก่อน หล่อนตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว “เธอกล้ามากนะที่วางยาฉัน!” “หม่อมฉัน... ไม่รู้เรื่องนะเพคะ หม่อมฉัน... ไม่ได้ทำ...” หล่อนสะอื้นได้อย่างน่าเวทนา แต่ก็ไม่ได้รับความเมตตาจากชายผู้สูงศักดิ์เลยแม้แต่น้อย “ถ้าเธอไม่ได้ทำ งั้นก็คงเป็นแม่ของเธอสินะที่ทำ จิรัชยา!”

ขอโอกาสอีกครั้ง

ขอโอกาสอีกครั้ง

โรแมนติก

5.0

หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ” เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ