“คำสาปบัญชารัก The Love of Aamands” นิยายรักที่ฉีกทุกกรอบของแนวคิดความเป็นนิยายรัก แต่ยังคงอบอวลด้วยความรักอันอบอุ่นของอามันด์ หนุ่มผู้ดีชาวปารีสที่เขามีความรักต่อสาวโลกอนาคตอย่าง ‘อรรวินทร์’ หญิงสาวในโลกอนาคตที่บังเอิญเจอเขาเข้าผ่านอักขระโบราณ ความรักของหนุ่มในสมัยโกธิค กับติวเตอร์สาวผู้หลงใหลในกลศาสตร์เลขควอนตัมจะเป็นเช่นไร ทุกคำถามอาจอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ แต่นั่นอาจไม่ใช่ทั้งหมด บางครั้งอาจตอบได้ด้วย ‘ความรัก’ ของเขาและเธอ
แคว้นโอดฟร็องส์
เบื้องหน้าของชายหนุ่มในเวลานี้คืออาสนวิหารนัวยงสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าที่สุดในสายตาของชนชั้นแรงงานอย่างพวกเขา
อามันด์นึกชื่นชมนักออกแบบอาสนวิหารนัวยงในกรุงปารีสแห่งนี้ ทว่าความงดงามของอาสนวิหารนัวยงนี้ไม่อาจทำให้ในใจของชายหนุ่มสงบลงได้เลย
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาถือเป็นวันที่ชนชั้นแรงงานในกรุงปารีสเดินขบวนกันทั้งเมือง ทว่ากลับเกิดการนองเลือดขึ้น สร้างความโศกเศร้าในใจให้กับอามันด์เป็นอย่างยิ่ง
“จับไอ้หัวขโมยนั่นให้ได้” เสียงตะโกนดังไล่มาจากด้านหลังของชายหนุ่มอย่างอามันด์
เวลานี้อามันด์รู้ได้แต่เพียงว่าเขาต้องหนีไปจากปารีสให้ได้ หนทางรอดมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะพาเขาออกไปจากนรกเหล่านี้ได้ มันคือ...มัจจุราช!
เท้าสองข้างของชายหนุ่มเหยียบย่างไปบนอาสนวิหารนัวยงไม่นานนักเขาก็ปีนขึ้นมาสูงจนมองเห็น ‘นายจ้าง’ คนนั้น
ชายแก่ลงพุงสวมชุดผู้ดีตามแบบที่เห็นกันเกร่อในลอนดอนที่ตัดเย็บอย่างประณีตจากห้องเสื้อบูติคที่ชนชั้นสูงมักสวมใส่กัน ...บนบ่าของชายแก่ลงพุงแบกปืนลูกซองขนาดยาว แล้วเล็งขึ้นมาทางอามันด์อย่างรวดเร็ว...อามันด์รู้ดี เขามีทางเลือกแล้วและทางเลือกนั้นคือความตาย
เปรี้ยง...กระสุนปืนพุ่งมาทางเขาเป็นเวลาเดียวกันกับที่ร่างของชายหนุ่มลอยคว้างกลางอากาศ
แรงโน้มถ่วงของโลกดึงร่างสูงโปร่งให้ตกลงไปตามน้ำหนักของชายหนุ่ม...ใช่แล้วเวลานี้อามันด์กำลังดิ่งพสุธา
เปลือกตาของชายหนุ่มปิดลงอย่างอ่อนล้า...อามันด์หลับตาลงย่างแผ่วเบา
ภาพในหัวของอามันด์คือสตรีที่งดงามยิ่ง ดวงหน้าของนางสวยอ่อนหวาน หญิงสาวสวมอาภรณ์ละม้ายคล้ายกับสตรีชนชั้นสูงที่ตัดเย็บอย่างประณีตสวยงาม
ชายหนุ่มยังจำได้ดีถึงแววตาคู่อ่อนหวานคู่นั้นที่ทอดมองมายังชนชั้นแรงงานอย่างเขาด้วยแววตาอ่อนละมุน
ทุกคราที่เขาพบนางทำให้ใจของเขาเต้นเร็วและแรงขึ้น ยิ่งยามใดที่สบสายตาคู่อ่อนโยนทั้งสองข้างนั้น…หัวใจของชายหนุ่มก็พลันสั่นรัวเร็วกว่าเดิม
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาอามันด์ถูกใส่ร้ายว่าเป็นหัวขโมยที่ขโมยอาหาร เพียงแค่เขาได้หยิบขนมปังก้อนมาประทังชีวิตให้กับคนในครอบครัวของเขาเท่านั้น
อามันด์มีบิดาที่เป็นชายวัยกลางคน บิดาของเขาเป็นชนชั้นแรงงาน และมีมารดาที่เป็นชนชั้นล่าง ในระบอบการปกครองแบบศักดินาฯ ในกรุงปารีส
บิดาของเขาเป็นชาวนา ส่วนมารดาของเขาเป็นแม่บ้าน ครอบครัวของอามันด์จัดได้ว่ายากจนมากเสียทีเดียว ‘เฮนน่า’ น้องสาวของอามันด์ยังเล็กนัก เธอโหยหิวน้ำนมของ ‘เอน่า’ ผู้เป็นมารดาของเขาตลอดเวลา
และแล้วในที่สุด...เมื่อชนชั้นแรงงานทนไม่ไหว พวกเขาจึงเดินขบวนเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของพวกเขาจากชนชั้นปกครองของพวกในกรุงปารีส และนั่นคือสาเหตุถึงความสูญเสียนองเลือดในครั้งนี้...ภาพเหล่านั้นกลับเด่นชัดในความทรงจำของอามันด์
ทว่าชีวิตนี้ของอามันด์คงต้องลาร้างจากสตรีในห้วงดวงใจไปตลอดกาล...สตรีชนชั้นกลางที่ไม่เคยรังเกียจเขาแม้ยามทอดสายตาของหล่อนมองมา
ร่างสูงโปร่งของอามันด์ดิ่งลงสู่พื้นพสุธาอย่างรวดเร็วทว่าด้วยความเร็วของการเคลื่อนที่เช่นนี้จึงทำให้เกิดการกระเพื่อมของปริภูมิและเวลาได้เกิดขึ้น
อามันด์สังเกตเห็นรอบตัวของเขามีกลุ่มควันสีดำที่ขยายขนาดใหญ่ขึ้นละม้ายคล้ายหลุมดำขนาดใหญ่แผ่ปกคลุมคล้ายระลอกคลื่นน้ำคลอบคลุมตัวเขาไว้เรื่อยๆ ในขณะเดียวกันกับที่ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มได้ถูกกลืนหายเข้าไปในห้วงมิติแห่งกาลเวลา
เวลา 24.00 น.
เข็มนาฬิกาเคลื่อนที่ประจบกันบ่งบอกว่าเวลานี้หญิงสาวควรเข้านอนได้แล้ว
มือเรียวบางของสาวเจ้าเอื้อมพลิกหน้ากระดาษแผ่นสุดท้ายปิดลงอย่างเชื่องช้า
“เที่ยงคืนแล้วเหรอ...นอนได้แล้วอร” อรรวินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อยระโหยกับตนเอง
ริมฝีปากบนอวบอิ่มของหญิงสาวแยกออกจากริมฝีปากล่างด้วยกลไกของร่างกายตนเอง...อรรวินทร์หาวฟอดใหญ่แล้วบิดตัวไปมาขับไล่ความปวดเมื่อยจากการนั่งอ่านหนังสือเล่มหนากว่าสามร้อยหน้า
หนังสือที่อรรวินทร์อ่านนั้นเป็นหนังสือที่เพิ่งซื้อมาใหม่หมาด ๆ จากร้านขายหนังสือเก่าที่เป็นหนังสือตำราวิทยาศาสตร์ของ‘ทฤษฎีบทเกี่ยวกับภาวะเอกฐานเชิงความโน้มถ่วงในกรอบของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป’
นักวิทยาศาสตร์คนโปรดของอรรวินทร์เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวยิวอย่าง ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ ที่ก้าวเข้ามาสู่แวดวงในวงการวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์มากความสามารถที่คว้ารางวัลโนเบลด้วยผลงานของเขาเอง แม้ว่าจะเกิดหลายข้อกังขาในทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะคนนี้ก็ตาม กระนั้นอรรวินทร์ก็รักเขาเสมือนว่าเขาคือไอดอลต้นแบบบุคคลในใจเธอ
แต่ไหนแต่ไร...ตั้งแต่เกิดมาอรรวินทร์ก็ชื่นชอบวิทยาศาสตร์มาโดยตลอด เธอชื่นชอบมากเสียจนเลือกเรียนแผนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ตอนมัธยมปลาย
ทว่าเกรดเฉลี่ยผลคะแนนการเรียนของเธอกลับดิ่งลงเหวทั้ง ๆ ที่อรรวินทร์ตั้งใจเรียนอย่างมาก นั่นก็เพราะหญิงสาวไปสะดุดกับวิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนเท่าไหร่เธอกลับไม่เคยเข้าใจในการแก้ปัญหาของวิชานี้ทุกที
อรรวินทร์ตัดสินใจทิ้งความฝันการเป็นนักวิทยาศาสตร์มาสอบคณะที่มารดาของเธอจัดสรรไว้ให้อย่างนิเทศศาสตร์ ซึ่งการเบนเข็มทิศในชีวิตครั้งนี้ได้ส่งผลให้เธอได้กลายเป็นนักเขียนบทความเงา หรือโกสต์ไรท์เตอร์ไปตลอดครึ่งชีวิตของเธอ
ทว่าแรงปรารถนาในใจของหญิงสาวกลับลุกโชนขึ้นตลอดเวลา ความต้องการและความหิวในวิชาวิทยาศาสตร์ผลักดันให้หญิงสาวกลายเป็นติวเตอร์ชื่อดังที่รับสอนวิชาวิทยาศาสตร์ออนไลน์ไปโดยปริยาย
ร่างเพรียวหยัดกายขึ้นจากเตียงนอนหนานุ่มขนาดคิงไซส์ ปลายเท้าสะอาดของอรรวินทร์ก้าวลงจากปลายเตียง
‘ไปปิดหลังบ้านดีกว่า’ อรรวินทร์คิดในใจ
เท้าขวาของหญิงสาวสืบเท้าก้าวออกไปด้านหน้าตามด้วยเท้าซ้ายที่เยื้องย่างไปติดกัน
สาวเจ้าสาวเท้าก้าวเดินผ่านห้องโถงใหญ่ในคฤหาสน์แห่งนี้ เสียงดังกุกกักดังราวกับมีคนกำลังรื้อสิ่งของมาจากห้องโถงใหญ่ที่อรรวินทร์กำลังเดินผ่าน
ปลายเท้าเรียวขาวสะอาดอดหยุดอยู่นิ่งไม่ได้ยามเมื่อสายตาคู่คมปลาบของหญิงสาวกวาดสายตามองรอบคฤหาสน์ที่เวลานี้มีเจ้าหนูสีดำสนิทแปลกประหลาดมาเป็นอาคันตุกะในเคหาสน์หลังโตแห่งนี้
“ฉันว่าแล้วว่าเป็นแก...ไอ้หนูท่อ” อรรวินทร์กล่าวอย่างคับแค้นใจ
เมื่อไม่กี่วันก่อนสายอินเตอร์เน็ตในเคหาสน์ของหญิงสาวถูกกัดขาดด้วยฝีมือของเจ้าหนูท่อ
มาเวลานี้เจ้าหนูท่อกลับทำตาแป๋วใส่อรรวินทร์หมายจะให้หญิงสาวละเว้นชีวิตมัน
กระนั้นหรืออรรวินทร์กลับคว้าไม้กวาดขนาดเขื่องมาไล่ทุบหนูอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเจ้าหนูท่อเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็วที่สุดในเวลานี้
‘เจ้าหนูท่อ’ เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิต สองขาหน้าของเจ้าหนูท่อปกคลุมด้วยขนหนาเตอะเกรอะกรังทว่าการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและรุนแรงทำให้หางของมันติดกับกาวดักหนูอย่างรวดเร็ว
‘เจ้าหนูท่อ’ ส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร อรรวินทร์อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่เวลานี้เธอกำลังเป็นมัจจุราชหมายจะคร่าชีวิตหนูท่อที่เข้ามากัดข้าวของของเธอ
อรรวินทร์เงื้อไม้กวาดขึ้นทำมุมสี่สิบห้าองศาเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เสียงร้องโหวกเหวกดังขึ้นมาจากหลังเคหาสน์ของเธอ
หญิงสาวตัดสินใจปล่อยหนูท่อขนดำไป ปลายเท้าเรียวขาวสะอาดจึงสาวเท้าผ่านห้องโถงนั้นไปยังหลังเคหาสน์
บรรยากาศยามค่ำคืนเงียบสงัด ท้องคคนานต์ในยามนี้ถูกความมืดมิดปกคุลมไปทั่ว รองเท้ากีฬาคู่โปรดของอรรวินทร์สาวเท้าไปยังต้นเสียงพร้อมกับไม้กวาดด้ามยาวที่ถือติดมือมาด้วย
หญิงสาวเดินผ่านไม้สุมพุ่มหญ้าขนาดใหญ่ ลัดเลาะไปตามทางที่แสงจันทราสาดส่องไปทั่วอาณาบริเวณ
รัศมีจันทราสาดอาบไล้ไปยังต้นไม้แห่งหนึ่งทว่าภาพที่อยู่เบื้องหน้าของหญิงสาวทำให้อรรวินทร์เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา
บุรุษหนุ่มรูปงามคนหนึ่งสวมแจ็กเกตสีน้ำเงินคล้ายผ้าเดนิม ทว่าหากคะเนด้วยสายตาอันเฉียบคมของหญิงสาว อรรวินทร์คิดว่ามันหนามากกว่า ผ้าเดนิมที่เราเห็นกันในศตวรรษที่ 21 เสียอีก
อรรวินทร์รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปยังบริเวณพุ่มไม้ที่ชายวัยกลางคนนอนสลบอยู่ในอาณาบริเวณนั้น
ภาพที่ปรากฎชัดเจนแก่สายตาของติวเตอร์สาวเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง ชายหนุ่มตรงหน้าของอรรวินทร์จัดได้ว่าเข้าขั้นหล่อแบบผู้ดีชาวฝรั่งเศสเลยทีเดียว
เขามีผิวขาวนวลแม้จะไม่ละเอียดมากแต่ก็ไม่หยาบเกินไป คิ้วสีน้ำตาลเข้มเป็นเส้นตรง เวลานี้ดวงตาของเขาปิดพริ้มราวกับว่ากำลังเข้าสู่ห้วงนิทรารมณ์
จมูกของอาคันตุกะผู้มาเยือนเคหาสน์ของอรรวินทร์นั้นเชิดขึ้นราวกับพ่อมด หากหญิงสาวเดาไม่ผิดหมอนี่อาจจะเป็นลูกครึ่งหรือลูกเสี้ยวของชาวฝั่งยุโรปเป็นแน่
ริมฝีปากของชายหนุ่มปิดสนิท เปลวรัศมีจันทราสาดประกายจนเห็นเรียวปากอิ่มสีซีด หากแต่เวลานี้อรรวินทร์คาดการณ์ว่าชายหนุ่มอาจจะประสบอุบัติเหตุมา...เธอจำต้องพาเขาไปโรงพยาบาล แต่ทว่าโรงพยาบาลห่างไกลจากที่เคหาสน์มรดกของคุณย่าของเธอมากนัก และเวลานี้คุณพ่อและคุณแม่ต่างก็บินลัดฟ้าไปเที่ยวรอบโลกเสียด้วย
“โอ๊ย...นี่มันวันอะไรเนี่ย” ติวเตอร์วิทยาศาสตร์สาวกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก
“คุณหนูเล็ก” เสียงเรียกของชายวัยกลางคนเอ่ยทักอรรวินทร์ที่หันรีหันขวางอยู่ในขณะนั้น
“อ้าว พี่เจมส์” อรรวินทร์กล่าวเสียงสูงกับพี่ชายบุญธรรมที่พ่อเธอรับมาเลี้ยงดูปูเสื่อด้วยความสงสาร
“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” เจมส์เอ่ยถามหญิงสาวอย่างรวดเร็วขณะดวงตาคู่คมของชายหนุ่มกวาดสายตาไปมองยังจุดที่ปลายสายตาของ ‘คุณหนู’ของคฤหาสน์หลังนี้หยุดอยู่
“พี่มาช่วยกันหน่อย” เสียงหวานใสของอรรวินทร์เอ่ยกับ
ชายหนุ่มผู้มีศักดิ์ได้ชื่อว่า พี่ชายบุญธรรมของหญิงสาว
“มา...พี่ช่วย” เสียงของพี่ชายต่างบิดามารดาของอรรวินทร์กล่าวพลางพยุงร่างของชายปริศนาที่แต่งตัวด้วยเสื้อยีนส์และกางเกงยีนส์ออกไปจากคฤหาสน์หลังโตที่อรรวินทร์ได้เป็นผู้รับมรดกแต่เพียงผู้เดียวในเคหาสน์โออ่าหลังโตหลังนี้
+++
บทที่ 1 ความผิดที่ไม่ได้ก่อ
10/08/2022
บทที่ 2 ชายผู้ความจำเสื่อม
10/08/2022
บทที่ 3 เลอนัวร์...เจ้าตูบสื่อรัก
10/08/2022
บทที่ 4 ห้วงรัก
10/08/2022
บทที่ 5 สอนพิเศษออนไลน์
10/08/2022
บทที่ 6 คำถามที่อยากได้ยิน
10/08/2022
บทที่ 7 ลาก่อนยอดดวงใจ
10/08/2022
บทที่ 8 ในที่สุดเธอก็หายไป
10/08/2022
บทที่ 9 เวลาที่ผันผ่าน
10/08/2022
บทที่ 10 จดหมายผ่านการพิจารณา
10/08/2022
บทที่ 11 โชคชะตา
10/08/2022
บทที่ 12 ทายาทโรงละคร
10/08/2022
บทที่ 13 เซ็นสัญญาบทละครเวทีเรื่องใหม่
10/08/2022
บทที่ 14 ภาพวาดนางในฝัน
10/08/2022
บทที่ 15 เจ้าสาวของมหาเศรษฐี
10/08/2022
หนังสืออื่นๆ ของ สรีสามัญ
ข้อมูลเพิ่มเติม