icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
คำสาปบัญชารัก...The Love of Aamands

คำสาปบัญชารัก...The Love of Aamands

สรีสามัญ

0.0
ความคิดเห็น
173
ชม
15
บท

“คำสาปบัญชารัก The Love of Aamands” นิยายรักที่ฉีกทุกกรอบของแนวคิดความเป็นนิยายรัก แต่ยังคงอบอวลด้วยความรักอันอบอุ่นของอามันด์ หนุ่มผู้ดีชาวปารีสที่เขามีความรักต่อสาวโลกอนาคตอย่าง ‘อรรวินทร์’ หญิงสาวในโลกอนาคตที่บังเอิญเจอเขาเข้าผ่านอักขระโบราณ ความรักของหนุ่มในสมัยโกธิค กับติวเตอร์สาวผู้หลงใหลในกลศาสตร์เลขควอนตัมจะเป็นเช่นไร ทุกคำถามอาจอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ แต่นั่นอาจไม่ใช่ทั้งหมด บางครั้งอาจตอบได้ด้วย ‘ความรัก’ ของเขาและเธอ

บทที่ 1 ความผิดที่ไม่ได้ก่อ

แคว้นโอดฟร็องส์

เบื้องหน้าของชายหนุ่มในเวลานี้คืออาสนวิหารนัวยงสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าที่สุดในสายตาของชนชั้นแรงงานอย่างพวกเขา

อามันด์นึกชื่นชมนักออกแบบอาสนวิหารนัวยงในกรุงปารีสแห่งนี้ ทว่าความงดงามของอาสนวิหารนัวยงนี้ไม่อาจทำให้ในใจของชายหนุ่มสงบลงได้เลย

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาถือเป็นวันที่ชนชั้นแรงงานในกรุงปารีสเดินขบวนกันทั้งเมือง ทว่ากลับเกิดการนองเลือดขึ้น สร้างความโศกเศร้าในใจให้กับอามันด์เป็นอย่างยิ่ง

“จับไอ้หัวขโมยนั่นให้ได้” เสียงตะโกนดังไล่มาจากด้านหลังของชายหนุ่มอย่างอามันด์

เวลานี้อามันด์รู้ได้แต่เพียงว่าเขาต้องหนีไปจากปารีสให้ได้ หนทางรอดมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะพาเขาออกไปจากนรกเหล่านี้ได้ มันคือ...มัจจุราช!

เท้าสองข้างของชายหนุ่มเหยียบย่างไปบนอาสนวิหารนัวยงไม่นานนักเขาก็ปีนขึ้นมาสูงจนมองเห็น ‘นายจ้าง’ คนนั้น

ชายแก่ลงพุงสวมชุดผู้ดีตามแบบที่เห็นกันเกร่อในลอนดอนที่ตัดเย็บอย่างประณีตจากห้องเสื้อบูติคที่ชนชั้นสูงมักสวมใส่กัน ...บนบ่าของชายแก่ลงพุงแบกปืนลูกซองขนาดยาว แล้วเล็งขึ้นมาทางอามันด์อย่างรวดเร็ว...อามันด์รู้ดี เขามีทางเลือกแล้วและทางเลือกนั้นคือความตาย

เปรี้ยง...กระสุนปืนพุ่งมาทางเขาเป็นเวลาเดียวกันกับที่ร่างของชายหนุ่มลอยคว้างกลางอากาศ

แรงโน้มถ่วงของโลกดึงร่างสูงโปร่งให้ตกลงไปตามน้ำหนักของชายหนุ่ม...ใช่แล้วเวลานี้อามันด์กำลังดิ่งพสุธา

เปลือกตาของชายหนุ่มปิดลงอย่างอ่อนล้า...อามันด์หลับตาลงย่างแผ่วเบา

ภาพในหัวของอามันด์คือสตรีที่งดงามยิ่ง ดวงหน้าของนางสวยอ่อนหวาน หญิงสาวสวมอาภรณ์ละม้ายคล้ายกับสตรีชนชั้นสูงที่ตัดเย็บอย่างประณีตสวยงาม

ชายหนุ่มยังจำได้ดีถึงแววตาคู่อ่อนหวานคู่นั้นที่ทอดมองมายังชนชั้นแรงงานอย่างเขาด้วยแววตาอ่อนละมุน

ทุกคราที่เขาพบนางทำให้ใจของเขาเต้นเร็วและแรงขึ้น ยิ่งยามใดที่สบสายตาคู่อ่อนโยนทั้งสองข้างนั้น…หัวใจของชายหนุ่มก็พลันสั่นรัวเร็วกว่าเดิม

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาอามันด์ถูกใส่ร้ายว่าเป็นหัวขโมยที่ขโมยอาหาร เพียงแค่เขาได้หยิบขนมปังก้อนมาประทังชีวิตให้กับคนในครอบครัวของเขาเท่านั้น

อามันด์มีบิดาที่เป็นชายวัยกลางคน บิดาของเขาเป็นชนชั้นแรงงาน และมีมารดาที่เป็นชนชั้นล่าง ในระบอบการปกครองแบบศักดินาฯ ในกรุงปารีส

บิดาของเขาเป็นชาวนา ส่วนมารดาของเขาเป็นแม่บ้าน ครอบครัวของอามันด์จัดได้ว่ายากจนมากเสียทีเดียว ‘เฮนน่า’ น้องสาวของอามันด์ยังเล็กนัก เธอโหยหิวน้ำนมของ ‘เอน่า’ ผู้เป็นมารดาของเขาตลอดเวลา

และแล้วในที่สุด...เมื่อชนชั้นแรงงานทนไม่ไหว พวกเขาจึงเดินขบวนเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของพวกเขาจากชนชั้นปกครองของพวกในกรุงปารีส และนั่นคือสาเหตุถึงความสูญเสียนองเลือดในครั้งนี้...ภาพเหล่านั้นกลับเด่นชัดในความทรงจำของอามันด์

ทว่าชีวิตนี้ของอามันด์คงต้องลาร้างจากสตรีในห้วงดวงใจไปตลอดกาล...สตรีชนชั้นกลางที่ไม่เคยรังเกียจเขาแม้ยามทอดสายตาของหล่อนมองมา

ร่างสูงโปร่งของอามันด์ดิ่งลงสู่พื้นพสุธาอย่างรวดเร็วทว่าด้วยความเร็วของการเคลื่อนที่เช่นนี้จึงทำให้เกิดการกระเพื่อมของปริภูมิและเวลาได้เกิดขึ้น

อามันด์สังเกตเห็นรอบตัวของเขามีกลุ่มควันสีดำที่ขยายขนาดใหญ่ขึ้นละม้ายคล้ายหลุมดำขนาดใหญ่แผ่ปกคลุมคล้ายระลอกคลื่นน้ำคลอบคลุมตัวเขาไว้เรื่อยๆ ในขณะเดียวกันกับที่ร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มได้ถูกกลืนหายเข้าไปในห้วงมิติแห่งกาลเวลา

เวลา 24.00 น.

เข็มนาฬิกาเคลื่อนที่ประจบกันบ่งบอกว่าเวลานี้หญิงสาวควรเข้านอนได้แล้ว

มือเรียวบางของสาวเจ้าเอื้อมพลิกหน้ากระดาษแผ่นสุดท้ายปิดลงอย่างเชื่องช้า

“เที่ยงคืนแล้วเหรอ...นอนได้แล้วอร” อรรวินทร์กล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อยระโหยกับตนเอง

ริมฝีปากบนอวบอิ่มของหญิงสาวแยกออกจากริมฝีปากล่างด้วยกลไกของร่างกายตนเอง...อรรวินทร์หาวฟอดใหญ่แล้วบิดตัวไปมาขับไล่ความปวดเมื่อยจากการนั่งอ่านหนังสือเล่มหนากว่าสามร้อยหน้า

หนังสือที่อรรวินทร์อ่านนั้นเป็นหนังสือที่เพิ่งซื้อมาใหม่หมาด ๆ จากร้านขายหนังสือเก่าที่เป็นหนังสือตำราวิทยาศาสตร์ของ‘ทฤษฎีบทเกี่ยวกับภาวะเอกฐานเชิงความโน้มถ่วงในกรอบของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป’

นักวิทยาศาสตร์คนโปรดของอรรวินทร์เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวยิวอย่าง ‘อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์’ ที่ก้าวเข้ามาสู่แวดวงในวงการวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์มากความสามารถที่คว้ารางวัลโนเบลด้วยผลงานของเขาเอง แม้ว่าจะเกิดหลายข้อกังขาในทฤษฎีของนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะคนนี้ก็ตาม กระนั้นอรรวินทร์ก็รักเขาเสมือนว่าเขาคือไอดอลต้นแบบบุคคลในใจเธอ

แต่ไหนแต่ไร...ตั้งแต่เกิดมาอรรวินทร์ก็ชื่นชอบวิทยาศาสตร์มาโดยตลอด เธอชื่นชอบมากเสียจนเลือกเรียนแผนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ตอนมัธยมปลาย

ทว่าเกรดเฉลี่ยผลคะแนนการเรียนของเธอกลับดิ่งลงเหวทั้ง ๆ ที่อรรวินทร์ตั้งใจเรียนอย่างมาก นั่นก็เพราะหญิงสาวไปสะดุดกับวิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนเท่าไหร่เธอกลับไม่เคยเข้าใจในการแก้ปัญหาของวิชานี้ทุกที

อรรวินทร์ตัดสินใจทิ้งความฝันการเป็นนักวิทยาศาสตร์มาสอบคณะที่มารดาของเธอจัดสรรไว้ให้อย่างนิเทศศาสตร์ ซึ่งการเบนเข็มทิศในชีวิตครั้งนี้ได้ส่งผลให้เธอได้กลายเป็นนักเขียนบทความเงา หรือโกสต์ไรท์เตอร์ไปตลอดครึ่งชีวิตของเธอ

ทว่าแรงปรารถนาในใจของหญิงสาวกลับลุกโชนขึ้นตลอดเวลา ความต้องการและความหิวในวิชาวิทยาศาสตร์ผลักดันให้หญิงสาวกลายเป็นติวเตอร์ชื่อดังที่รับสอนวิชาวิทยาศาสตร์ออนไลน์ไปโดยปริยาย

ร่างเพรียวหยัดกายขึ้นจากเตียงนอนหนานุ่มขนาดคิงไซส์ ปลายเท้าสะอาดของอรรวินทร์ก้าวลงจากปลายเตียง

‘ไปปิดหลังบ้านดีกว่า’ อรรวินทร์คิดในใจ

เท้าขวาของหญิงสาวสืบเท้าก้าวออกไปด้านหน้าตามด้วยเท้าซ้ายที่เยื้องย่างไปติดกัน

สาวเจ้าสาวเท้าก้าวเดินผ่านห้องโถงใหญ่ในคฤหาสน์แห่งนี้ เสียงดังกุกกักดังราวกับมีคนกำลังรื้อสิ่งของมาจากห้องโถงใหญ่ที่อรรวินทร์กำลังเดินผ่าน

ปลายเท้าเรียวขาวสะอาดอดหยุดอยู่นิ่งไม่ได้ยามเมื่อสายตาคู่คมปลาบของหญิงสาวกวาดสายตามองรอบคฤหาสน์ที่เวลานี้มีเจ้าหนูสีดำสนิทแปลกประหลาดมาเป็นอาคันตุกะในเคหาสน์หลังโตแห่งนี้

“ฉันว่าแล้วว่าเป็นแก...ไอ้หนูท่อ” อรรวินทร์กล่าวอย่างคับแค้นใจ

เมื่อไม่กี่วันก่อนสายอินเตอร์เน็ตในเคหาสน์ของหญิงสาวถูกกัดขาดด้วยฝีมือของเจ้าหนูท่อ

มาเวลานี้เจ้าหนูท่อกลับทำตาแป๋วใส่อรรวินทร์หมายจะให้หญิงสาวละเว้นชีวิตมัน

กระนั้นหรืออรรวินทร์กลับคว้าไม้กวาดขนาดเขื่องมาไล่ทุบหนูอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเจ้าหนูท่อเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็วที่สุดในเวลานี้

‘เจ้าหนูท่อ’ เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วตามสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิต สองขาหน้าของเจ้าหนูท่อปกคลุมด้วยขนหนาเตอะเกรอะกรังทว่าการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและรุนแรงทำให้หางของมันติดกับกาวดักหนูอย่างรวดเร็ว

‘เจ้าหนูท่อ’ ส่งเสียงร้องอย่างน่าสงสาร อรรวินทร์อดรู้สึกผิดไม่ได้ที่เวลานี้เธอกำลังเป็นมัจจุราชหมายจะคร่าชีวิตหนูท่อที่เข้ามากัดข้าวของของเธอ

อรรวินทร์เงื้อไม้กวาดขึ้นทำมุมสี่สิบห้าองศาเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เสียงร้องโหวกเหวกดังขึ้นมาจากหลังเคหาสน์ของเธอ

หญิงสาวตัดสินใจปล่อยหนูท่อขนดำไป ปลายเท้าเรียวขาวสะอาดจึงสาวเท้าผ่านห้องโถงนั้นไปยังหลังเคหาสน์

บรรยากาศยามค่ำคืนเงียบสงัด ท้องคคนานต์ในยามนี้ถูกความมืดมิดปกคุลมไปทั่ว รองเท้ากีฬาคู่โปรดของอรรวินทร์สาวเท้าไปยังต้นเสียงพร้อมกับไม้กวาดด้ามยาวที่ถือติดมือมาด้วย

หญิงสาวเดินผ่านไม้สุมพุ่มหญ้าขนาดใหญ่ ลัดเลาะไปตามทางที่แสงจันทราสาดส่องไปทั่วอาณาบริเวณ

รัศมีจันทราสาดอาบไล้ไปยังต้นไม้แห่งหนึ่งทว่าภาพที่อยู่เบื้องหน้าของหญิงสาวทำให้อรรวินทร์เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตา

บุรุษหนุ่มรูปงามคนหนึ่งสวมแจ็กเกตสีน้ำเงินคล้ายผ้าเดนิม ทว่าหากคะเนด้วยสายตาอันเฉียบคมของหญิงสาว อรรวินทร์คิดว่ามันหนามากกว่า ผ้าเดนิมที่เราเห็นกันในศตวรรษที่ 21 เสียอีก

อรรวินทร์รีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปยังบริเวณพุ่มไม้ที่ชายวัยกลางคนนอนสลบอยู่ในอาณาบริเวณนั้น

ภาพที่ปรากฎชัดเจนแก่สายตาของติวเตอร์สาวเป็นภาพที่หาดูได้ยากยิ่ง ชายหนุ่มตรงหน้าของอรรวินทร์จัดได้ว่าเข้าขั้นหล่อแบบผู้ดีชาวฝรั่งเศสเลยทีเดียว

เขามีผิวขาวนวลแม้จะไม่ละเอียดมากแต่ก็ไม่หยาบเกินไป คิ้วสีน้ำตาลเข้มเป็นเส้นตรง เวลานี้ดวงตาของเขาปิดพริ้มราวกับว่ากำลังเข้าสู่ห้วงนิทรารมณ์

จมูกของอาคันตุกะผู้มาเยือนเคหาสน์ของอรรวินทร์นั้นเชิดขึ้นราวกับพ่อมด หากหญิงสาวเดาไม่ผิดหมอนี่อาจจะเป็นลูกครึ่งหรือลูกเสี้ยวของชาวฝั่งยุโรปเป็นแน่

ริมฝีปากของชายหนุ่มปิดสนิท เปลวรัศมีจันทราสาดประกายจนเห็นเรียวปากอิ่มสีซีด หากแต่เวลานี้อรรวินทร์คาดการณ์ว่าชายหนุ่มอาจจะประสบอุบัติเหตุมา...เธอจำต้องพาเขาไปโรงพยาบาล แต่ทว่าโรงพยาบาลห่างไกลจากที่เคหาสน์มรดกของคุณย่าของเธอมากนัก และเวลานี้คุณพ่อและคุณแม่ต่างก็บินลัดฟ้าไปเที่ยวรอบโลกเสียด้วย

“โอ๊ย...นี่มันวันอะไรเนี่ย” ติวเตอร์วิทยาศาสตร์สาวกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์มากนัก

“คุณหนูเล็ก” เสียงเรียกของชายวัยกลางคนเอ่ยทักอรรวินทร์ที่หันรีหันขวางอยู่ในขณะนั้น

“อ้าว พี่เจมส์” อรรวินทร์กล่าวเสียงสูงกับพี่ชายบุญธรรมที่พ่อเธอรับมาเลี้ยงดูปูเสื่อด้วยความสงสาร

“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” เจมส์เอ่ยถามหญิงสาวอย่างรวดเร็วขณะดวงตาคู่คมของชายหนุ่มกวาดสายตาไปมองยังจุดที่ปลายสายตาของ ‘คุณหนู’ของคฤหาสน์หลังนี้หยุดอยู่

“พี่มาช่วยกันหน่อย” เสียงหวานใสของอรรวินทร์เอ่ยกับ

ชายหนุ่มผู้มีศักดิ์ได้ชื่อว่า พี่ชายบุญธรรมของหญิงสาว

“มา...พี่ช่วย” เสียงของพี่ชายต่างบิดามารดาของอรรวินทร์กล่าวพลางพยุงร่างของชายปริศนาที่แต่งตัวด้วยเสื้อยีนส์และกางเกงยีนส์ออกไปจากคฤหาสน์หลังโตที่อรรวินทร์ได้เป็นผู้รับมรดกแต่เพียงผู้เดียวในเคหาสน์โออ่าหลังโตหลังนี้

+++

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ สรีสามัญ

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ