icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ทิวาโลมดาว

ทิวาโลมดาว

serenay

5.0
ความคิดเห็น
383
ชม
64
บท

อีกไม่กี่วันเธอก็จะบินไปเรียนต่อที่อังกฤษแล้ว ทว่าเหตุการณ์กลับพลิกผันในคืนเดียว นอกจากจะไม่ได้บินไปอังกฤษ ยังได้สามีมาหนึ่งคน เธอตั้งใจจะไปคลอดเสียที่อังกฤษ รอจนลูกโตสักหน่อยค่อยกลับมา ทว่าพ่อของลูกขัดขวางเธอตั้งแต่เธอยังไม่ทันก้าวพ้นประตูด้วยซ้ำ 'เรามาแต่งงานกัน' เขาใช้น้ำเสียงราวกับเจรจาตกลงเรื่องธุรกิจ นี่มิใช่การแต่งงานด้วยความรัก เขาเพียงต้องการลูก ส่วนเธอแต่งเพราะความจำเป็น ทว่าในใจส่วนลึกเธอรู้ดีว่าแท้จริงแล้วเธอยอมแต่งงานกับเขาเพราะเหตุผลเพียงอย่างเดียว

บทที่ 1 1

วังสการภิรมย์ เดือนมกราคม พ.ศ. ๒๔๘๓

ลมพัดโชยกรูผ่านหน้าต่างฉลุลายเข้ามาในห้องทางปีกซ้ายของเรือนชั้นเดียวสีขาวสะอาดตาหลังหนึ่ง กลิ่นดอกแก้วที่ปลูกไว้โดยรอบถูกลมพัดเข้ามาจนหอมฟุ้งอบอวลไปทั่วทั้งห้อง ชายผ้าม่านสีขาวบางพลิ้วไหวดั่งระลอกคลื่น เปิดรับแสงอรุณที่ส่องลอดร่มไม้ใบบังของต้นจามจุรีขนาดสามคนโอบเข้ามากระทบเตียงไม้สักขนาดคิงไซส์ที่ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเบาๆ ตามการขยับตัวของคนที่อยู่บนเตียง

ใต้ผ้าห่มนวมสีขาว ใครคนหนึ่งกำลังพลิกตัวจากนอนตะแคงมาอีกด้านหนึ่ง เรียวแขนกลมกลึงวาดไปด้านข้างหมายจะโอบกอดหมอนข้างนุ่มนิ่มเช่นที่ทำเป็นประจำจนเคยชิน ใบหน้างดงามซุกอยู่บนหมอนใบใหญ่ ปลายจมูกขยับเล็กน้อยเมื่อสูดเอากลิ่นที่ไม่เคยคุ้นเข้าไป

ที่ไหน...

กลิ่นหอมละมุนเจือกลิ่นอาฟเตอร์เชฟของบุรุษทำให้คนที่เพิ่งตื่นขมวดคิ้วด้วยความสงสัย อ้อมแขนที่กอดรัด ‘หมอนข้าง’ ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อสัมผัสถึงความอุ่นร้อนและแข็งแกร่งราวกับกำแพง

หม่อมราชวงศ์หญิงอรอนงค์ นาวายุทธ์ส่งเสียงอืออาในลำคอขณะลากไล้มือไปตามหมอนข้างที่ใช้มาเกือบสิบปี

...สัมผัสไม่คุ้นเคย ทั้งแข็ง ทั้งร้อนและยังขยับได้

ขยับได้?! อรอนงค์ใจกระตุกวูบ ผุดลุงนั่งทั้งๆ ที่ยังไม่หลับตา ผลจากการลุกนั่งเร็วเกินไปทำให้เตียงที่เธอนั่งอยู่ไหวโอนเอนราวกับจะถล่มได้ทุกเมื่อ หญิงสาวยกมือกุมขมับก่อนส่งเสียงครางอย่างทรมานเมื่อรู้สึกวิงเวียนจนอยากจะอาเจียน ศีรษะซีกซ้ายปวดตุบๆ จนต้องใช้มือทุบเบาๆ สองสามครั้ง ผมยาวดำขลับพันกันยุ่งเหยิง เส้นผมส่วนหนึ่งตกลงมาปรกหน้าจนมองไม่เห็นสิ่งใด เธอใช้มือปัดๆ มันออกอย่างลวกๆ ลมพัดผ่านเข้ามากระทบผิวกายจนขนลุกชัน เมื่อนั้นอรอนงค์จึงได้สติ รับรู้ว่าตนเองกำลังเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์คลุมกาย ก้มมองเห็นยอดปทุมถันแดงระเรื่อชูชันยามสัมผัสลมหนาวก็อุทานออกมาคำหนึ่งก่อนจะกระชากผ้าห่มขึ้นมาคลุมกาย ซ่อนทรวงงามไว้ข้างใต้

เกิดอะไรขึ้น?!

สติกลับมาเกินครึ่ง อรอนงค์จึงรับรู้ว่านี่ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เธอกะพริบตารัวเร็วเพื่อปรับสายตาที่พร่ามัวให้ชัดเจนขึ้น สิ่งแรกที่เห็นคือมือซีดขาวและผ้าห่มนวมผืนใหญ่ ยังไม่ทันได้ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เสียงทุ้มต่ำคุ้นหูของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหู

“เป็นอย่างไรอรอนงค์”

ลมร้อนๆ กระทบข้างหู อรอนงค์กระถดกายหนีอย่างตกใจ สองมือกอดตัวเองเอาไว้ขณะเงยหน้ามองคนพูด ใบหน้าคมสันที่เด่นชัดในคลองจักษุทำให้คนมองตัวแข็งค้างราวกับถูกแช่แข็งไปแล้ว

“ทะ...ท่านชาย” กลีบปากอิ่มเต็มแดงช้ำขยับเล็กน้อยพลอยทำให้ถ้อยคำที่เปล่งออกมาแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน แววตาของเธอระริกไหวตื่นกลัว ร่างแบบบางสั่นน้อยๆ ให้ความรู้สึกเหมือนกระต่ายน้อยที่กำลังตื่นกลัว ผิวที่เคยผุดผ่องยามนี้ปรากฏรอยแดงซ่านขึ้นเป็นริ้วจางๆ ทั้งบนแก้มนวล ซอกคอและลาดไหล่ คนมองหลุบสายตาลง...ทันเห็นรอยแดงระเรื่อบนเนินทรวงก่อนผู้เป็นเจ้าของจะดึงผ้าห่มคลุมไว้ทั้งตัว โผล่ให้เห็นเพียงดวงตาทั้งสองข้างที่สุกสกาวงดงาม

“กะ...เกิดอะไร...ทะ...ทำไม...” คนที่ไม่เคยพูดติดขัดมาก่อน วันนี้แทบพูดอะไรไม่ออก สมองมึนงงสับสนจนเรียบเรียงคำพูดไม่ได้ ดวงตาตื่นกลัวเหลือบมองไปทั่วห้อง เห็นชัดเจนด้วยตาตัวเองว่าที่แห่งนี้ไม่ใช่ห้องของเธอ แม้แต่บ้านหลังนี้ก็ไม่ใช่บ้านของเธอ อรอนงค์หวาดกลัวจนน้ำตาซึม เธอชันเข่าโอบกอดตัวเองพลางกระเถิบหนีผู้ร่วมห้องที่ไม่ได้สวมเสื้อผ้า อวดกายท่อนบนที่กำยำและเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ

...เขาคือหม่อมเจ้าทิทยุ สการภิรมย์ ปีนี้อายุย่างเข้า 43 แล้ว แต่ยังองอาจผึ่งผายทรงเสน่ห์ รูปร่างงดงามชวนมอง ไม่น่าเชื่อว่าอายุจะพ้นเลขสี่แล้ว

อรอนงค์ไม่คาดคิดว่าเธอจะตกอยู่ในสภาพอันน่าอับอายนี้ต่อหน้าพี่ชายของเพื่อน ทั้งยังไม่คิดว่าเหตุการณ์จะร้ายแรงถึงขั้นเธอและเขาเปลือยเปล่าบนเตียงเดียวกัน!

ถ้าเป็นกับคนอื่น...เธอคงไม่รู้สึกราวกับโลกจะถล่มทลายลงมาตรงหน้าเพียงนี้

แต่กับเขา ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีทางเป็นไปได้...เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!

“หน้าซีดแล้วนั่น” เขาเอ่ย เสียงทุ้มลึกสั่นสะเทือนในอกของเธอ อรอนงค์ก้มหน้างุดไม่กล้าสบตา ดวงตาของเธอเหลือบมองซ้ายขวา คิดในใจว่าจะใช้ผ้าห่มนี้คลุมกายแล้ววิ่งลงจากเตียงแล้วไปขอความช่วยเหลือจากท่านหญิงทัสดาผู้เป็นเพื่อนสนิท

...ท่านหญิงอยู่ที่ไหนหนอ ป่านนี้คงยังหลับไม่ตื่นกระมัง ดีแล้ว จากห้องนี้ไปถึงห้องบรรทมท่านหญิงคงไม่ไกลเท่าไร เสียเวลาหลบหลีกสายตาคนสวนและเด็กรับใช้นิดหน่อย ไม่ถึงห้านาทีเธอก็น่าจะได้พบท่านหญิงแล้ว ขณะที่กำลังจะขยับก้าวลงจากเตียงนั้น อรอนงค์ก็ถูกรวบไว้ในอ้อมแขนของท่านชายทิทยุพร้อมผ้าห่มที่คลุมเรือนร่างเอาไว้

“อาบน้ำก่อนค่อยพูดกัน”

“คะ?”

ไม่รอให้ตอบรับหรือปฏิเสธ ท่านชายก็อุ้มเธอทั้งๆ ที่ตนเองเปลือยเปล่าไปยังห้องน้ำ วางเธอลงข้างอ่างอาบน้ำ เปิดน้ำอุ่นให้ จากนั้นก็จับตัวเธอให้ลุกยืน จับชายผ้าห่มกำลังจะดึงออกแต่อรอนงค์รีบยื้อยุดไว้ทันควัน

“ดะ...เดี๋ยวเพคะ! อร...อรไม่ได้สวมเสื้อผ้า...”

คนตัวโตขมวดคิ้วน้อยๆ ใช้สายตาดุดันชนิดหนึ่งจ้องเธอก่อนจะยอมปล่อยมือ

“อย่าอาบน้ำนานนัก” เขาว่าพลางหยิบผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่บนชั้นข้างผนังให้กับเธอ “อาบเสร็จแล้วก็บอก ฉันจะเอาเสื้อผ้ามาให้”

อรอนงค์รับผ้าห่มไว้ พึมพำตอบรับเบาๆ รอกระทั่งท่านชายเดินออกไปแล้ว เธอจึงถอนใจเฮือก ทรุดฮวบลงกับพื้นอย่างสิ้นเรี่ยวแรง

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ serenay

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ