icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
บัลลังก์แรเงา

บัลลังก์แรเงา

Mookreang

5.0
ความคิดเห็น
15.6K
ชม
182
บท

บัลลังก์สีชาดแห่งสินทูรถึงคราผลัดแผ่นดิน เมื่อเจ้าหลวงสิ้นพระชนม์ แต่ เจ้าฟ้ารัชทายาททรงพระเยาว์ ซ้ำยังถูกตราหน้าว่าเป็นลูกชู้ มีเพียงพระธำมรงค์วงน้อยจากพระหัตถ์พระบิดา ที่ตรึงตำแหน่งรัชทายาทเอาไว้แม่นมั่น เมื่อเติบใหญ่ เจ้าหลวงพระองค์ใหม่จะพิสูจน์ความจริงเรื่องชาติกำเนิดของพระองค์ได้อย่างไร และหญิงสาวที่เฝ้าติดตามถวายดอกแก้วและอารักขานั้น มีส่วนคลี่คลายปริศนา หรือตอกย้ำว่าพระองค์เป็นแค่ “เงา” หรือเจ้าของบัลลังก์ที่แท้จริง

บทที่ 1 บัลลังก์แรเงา

บัลลังก์แรเงา

บทที่๑

หน้าตะแลงแกงที่ยกพื้นขึ้นสูงประหนึ่งต้องการให้คนเบื้องล่างรับชมภาพ ‘การประหาร’ ได้ถนัดชัดตา สตรีสูงศักดิ์ในเครื่องทรงสวยงามล้ำค่า ฉลองพระองค์เข้ารูปสีครีม ปักลายดอกไม้พันเกี่ยวด้วยเส้นไหมสีทองยาวลงไปถึงช่วงพระโสณี ซึ่งเป็นรอยตะเข็บตัดต่ออย่างประณีต ท่อนล่างเป็นกระโปรงยาวกรอมพระบาทรูดพองเล็กน้อย เส้นพระเกศาสีดำขลับเกล้ามวยสูง บางส่วนที่รุ่ยลงมาระต้นพระศอสลวยแวววาวดุจเส้นไหมสีดำเนื้อดี ทรงมงกุฎเพชรล้ำค่าส่องประกายสะท้อนรับกับแสงอาทิตย์เพลาเที่ยงวัน

ดวงพักตร์สงบนิ่งบ่งบอกถึงความสงบในจิตใจ แม้คนเบื้องล่างจะดังอึงมี่ หากแต่วรองค์บนนั้น ที่กำลังหยุดยืนกวาดสายพระเนตรเย็นชาทอดพระเนตรไปโดยรอบ วางพักตร์เฉย แค่เพียงภาพเด็กชายวัยแปดขวบปรากฏในจอรับภาพ สายพระเนตรที่ไม่สะท้อนพระอารมณ์ใด ๆ เมื่อครู่กลับฉายแววระริก ห่วงหา เจ็บปวด และทุกข์ทรมานยิ่ง

“สุริยการ...”

พระสุรเสียงที่เปล่งออกอย่างตื่นเต้นหากแผ่วเบา แม้อยากถลาเข้าไปสวมกอดเด็กชายผิวขาว ผมหยักศกสีดำของเด็กน้อยอยู่ภายใต้เครื่องประดับศีรษะแวววาวล้ำค่า แต่ทรงทำได้แค่เพียงคิด ด้วยเวลานี้มีชายฉกรรจ์หน้าตาดุดัน ถืออาวุธคมกริบยาวนับวาจับจ้องด้วยอาการระแวดระวัง และดูเหมือนพร้อมจะวาดคมอาวุธนั้นลงมาทันทีที่ นาฬิกาแดดบอกเวลา ‘เที่ยงตรง’

เด็กชายที่ยืนมองอยู่เบื้องล่างท่ามกลางฝูงชนมากมาย แม้มิได้แสดงอาการใด ๆ แต่ดวงตาที่เคยฉายแววไร้เดียงสานั้นทอประกายปวดร้าวยิ่ง หากแต่มิได้ปวดร้าวที่จะได้เห็น ‘ทูลหม่อมแม่’ ถูกคมขวานบั่นพระศอ แต่ปวดร้าวกับพระราชอาญาที่พระมารดาทรงได้รับต่างหาก

‘เหล่าคณะผู้พิพากษาคดีลงความเห็นแล้วว่า ทรงกระทำผิดต่อองค์เจ้าหลวง ด้วยการลักลอบเป็นชู้กับชายมากหน้าหลายตา ต่างกรรมต่างวาระ และการกระทำที่ทำให้เจ้าหลวงทรงเสื่อมเสียที่สุดคือ พระราชินีทรงร่วมประเวณีกับองครักษ์ประจำพระองค์ของเจ้าหลวง คณะผู้พิพากษาจึงมีมติให้ปลดออกจากตำแหน่งราชินี และประหารด้วยการตัดพระศอ’

‘ไม่จริง ใส่ความทั้งเพ เราไม่เคยทำผิดประเวณี ไม่เคยทรยศต่อพระสวามี ไม่เคย !’

รับสั่งสุดท้ายนั้นโหยหวน ก่อนจะมาประทับสงบนิ่งบนตะแลงแกงยามรับรู้พระชะตากรรม ไม่ว่าจะทรงร่ำร้อง ทรงอ้อนวอน หรือทรงกระทำสิ่งใด ก็ไม่มีทางจะลบล้างความผิดและโทษทัณฑ์ที่พระองค์มิได้ก่อขึ้นได้ และดูเหมือนพระสวามีจักไม่ทรงสนพระราชหทัยไต่ถาม ทรงหลบพระพักตร์ไปตั้งแต่วันนั้น วันที่ทหารกรูเข้าไปจับพระองค์เชิญไปที่ ‘ตำหนักนิทรา’ ตำหนักในพระราชฐานชั้นใน ตำหนักที่ใช้ควบคุมตัวนักโทษสูงศักดิ์ ซึ่งเป็นนางห้าม นางใน รวมถึงพระบรมวงศานุวงศ์ที่เป็นผู้หญิง

‘ประทับที่นี่รอคำพิพากษา’

นายทหารยศสูงกล่าวด้วยความนอบน้อม และดูเหมือนเขาจะเป็นคนเดียวในเพลานี้ ที่แสดงท่าทีต่อหน้าพระพักตร์เช่นนี้ ทหารนายอื่นนั้นเล่า เมื่อเห็นว่าพระองค์ต้องพระราชอาญา ก็มีท่าทีกระด้างกระเดื่องขึ้นมาฉับพลัน คงหันไปประจบ...มเหสีรองสิท่า แน่นอนแล้ว ถ้าพระองค์ต้องพระราชอาญา พระโอรสผู้ดำรงตำแหน่งรัชทายาทบัลลังก์คงร้อนเป็นแน่ พวกมันคงหาทางเขย่าบัลลังก์ของ ‘สุริยการ’ ในอนาคตหรืออาจจะในทันทีที่เราหัวหลุดจากบ่า กับพระราชอาญาที่น่าขันนัก แค่การที่นายทหารคนสนิทของพระเจ้าอยู่หัว หิ้วฉลองพระบาทให้พระราชินีก็มีความผิดฐานคบชู้ผิดประเวณีแล้ว แล้วต่อไปใครจะกล้าทำสิ่งใดถวาย

“ได้เวลาประหารแล้ว” เสียงผู้ควบคุมการประหารดังขึ้น พร้อมหัวใจของผู้คนที่เฝ้ารอ และพระหทัยที่แหลกละเอียดของพระราชินีนอกบัลลังก์ ที่ทอดพระเนตรพระโอรสซึ่งยืนสงบนิ่งอยู่ท่ามกลางฝูงชน แววตาลูกน้อยที่ทอดมองพระองค์แปลกไป ไม่เหลือเยื่อใยแม้แต่นิดเดียว

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ Mookreang

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ