อาภรณ์พิษ ทรราชหลงรัก
เจ็บแต่ไม่ยอมปล่อยมือ
ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย
ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง
เมียผมน่ารักจัง
เป็นสุดที่รักของผู้เผด็จการ
โชคชะตาของพระชายา
ผู้บัญชาการรักซ้อนแค้น
รักใหม่พันล้าน
คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว
เสียงเครื่องบินลำใหญ่ ที่เวลานี้กำลังลงจอดยังสนามบินจังหวัดดังระงมไปทั่วบริเวณ กระทั่งจอดได้สนิทผู้โดยสารทั้งหมดจึงทยอยลงจากเครื่อง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือลดาหญิงสาวกำพร้าที่เกิดและเติบโตที่นี่ ก่อนที่เธอจะสอบได้ทุนไปศึกษายังต่างประเทศจนจบระดับปริญญาตรี พอเรียนจบก็ขอทำงานใช้ทุนต่อที่นั่น
แต่ทำงานได้แค่สองปีกว่า ลดากลับได้รับข่าวร้ายว่าผู้มีพระคุณที่ชุบเลี้ยงเธอมาตั้งแต่ผู้เป็นพ่อและแม่ของเธอเสียชีวิตไปกำลังป่วยหนักและไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ ทันทีที่รู้ข่าวร้ายนี้ ลดาก็รีบบินกลับมาเมืองไทยทันที
“ลดา” เสียงคุ้นหูที่ทักขึ้นในอาคารผู้โดยสารขาเข้า ทำให้ลดาหันไปมองก่อนจะเห็นว่าเป็นปรียา เธอเอ่ยเรียกพร้อมกับตรงเข้าไปสวมกอด
“อุ้ม”
“คิดถึงลดาจัง เดินทางข้ามโลกมาแบบนี้เหนื่อยไหม” เมื่อคลายอ้อมกอดออกปรียาก็เอ่ยถามขึ้น จะว่าไปเธอกับลดาก็เหมือนพี่น้อง เพราะตั้งแต่เล็กจนโตก็อยู่ด้วยกันมาโดยตลอด เพิ่งมาอยู่ห่างกันจริงๆ จังๆ ก็ตอนที่ลดาไปเรียนต่อที่ อื่น ซึ่งก็ตั้งเก้าปีเข้าไปแล้วนะ แต่เธอก็ยอมรับจริงๆ ว่าลดานั้นเก่ง ที่สามารถสอบชิงทุนไปเรียนต่อที่ต่างประเทศได้แบบนี้
แม่ของเธออุปการะเลี้ยงดูลดาในฐานะลูกสาวอีกคน เพราะครอบครัวของลดาเป็นคนงานในไร่ แต่ต้องมาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทั้งหมด ปล่อยให้ลดาที่ตอนนั้นอายุเพียงเจ็ดขวบอยู่ตามลำพัง แม่เธอสงสารปนเอ็นดูลดามาก เลยตัดสินใจรับมาอยู่ด้วย
ลดาในวัยเด็กนั้นน่ารัก ช่างพูดช่างคุย คอยช่วยงานในส่วนที่ทำได้ ไม่ได้เอาแต่ใจเกเรเหมือนใครบางคน แต่ดีหน่อยที่พอโตมาแล้วคนที่ว่านิสัยก็เปลี่ยน ส่วนลดาเองก็เปลี่ยนไปเหมือนกันจากที่ช่างพูดช่างคุยก็ดูจะพูดน้อยลง อาจเพราะต้นเหตุมาจากเรื่องนั้นตอนนั้นก็เป็นได้
“ไม่เหนื่อยเลย”
“หิวไหม กินอะไรก่อนหรือเปล่า” คำถามเป็นห่วงเป็นใยดังมาจากปรียา นั่นทำให้ลดารู้สึกตื้อๆ ในอก เพราะไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหน ปรียาก็ยังคงเป็นห่วงเป็นใยเธออยู่เสมอ
“ไม่หิว อุ้มล่ะ มารอรับลดานานหรือยัง หิวไหม”
“ไม่หิวเลย” ปรียาส่ายหน้าให้ เพราะระยะหลังๆ มานี้เธอแทบไม่อยากกินอะไรเลยด้วยซ้ำ ไม่ได้อยากไดเอท หรอกแค่ไม่รู้สึกอยากจะกินอะไรก็เท่านั้นเอง
“แล้วนี่คุณป้าเป็นยังไงบ้าง”
“ทรงกับทรุด” น้ำเสียงและสีหน้าของปรียานั้นไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ก็ยังฝืนยิ้มให้ลดาได้เห็น
“งั้นเรารีบกลับไร่กันดีกว่า มาลดาขับรถให้”
“ไม่ได้ นั่งเครื่องบินมาตั้งนานขืนมาขับรถอีกเดี๋ยวก็ได้ไหลลงเหว อุ้มขับให้ลดานั่งน่ะดีแล้ว กลับไร่กัน”
“จ้ะ” ลดาพยักหน้ารับ ปรียาเข้ามาช่วยเพื่อนถือข้าวถือของแล้วพากันเดินตรงไปยังรถที่จอดอยู่หน้าสนามบิน คนมารับอาสาเป็นคนขับรถให้ ระหว่างทางที่รถเคลื่อนตัวไปนั้น ลดานั่งหน้าเครียดแทบจะตลอดเวลาก็ว่าได้
“อุ้มรู้เรื่องอาการป่วยของคุณป้ามานานแล้วหรือยัง”
“ปีกว่าแล้ว”
“แล้วทำไมเพิ่งมาบอกกัน”
“ก็แม่ขอไว้น่ะสิ นี่คันปากอยากจะบอกลดาใจจะขาด กระทั่ง…อาการของแม่ทรุดจนแทบจะไม่รู้สึกตัว อุ้มเลยตัดสินใจบอกลดา” น้ำเสียงของปรียาค่อยๆ เบาลง
“ขอบใจมากนะอุ้ม ขอบใจที่ไม่ลืมลดา”