5.0
ความคิดเห็น
648
ชม
26
บท

“แกเมาแล้วใช่ไหม” “ยาง” น้ำเสียงที่ตอบกลับมานั้นมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะหลังจากดื่มเหล้าเพียวๆ อย่างเอาเป็นเอาตาย จนเหล้าหมดไปหนึ่งขวดครึ่ง พาขวัญก็ออกอาการ “เสียงยืดขนาดนี้ยังจะบอกไม่เมาอีก” คามินส่ายหน้าให้เธอ “ก็บอกแล้วไง ว่าฉันยังไม่มาว แกนี่” คนเมารีบปฏิเสธ “ไม่เมาก็ไม่เมา” คามินส่ายหน้าให้ ก่อนจะรีบเข้ามาพยุงพาขวัญที่เวลานี้ทำท่าเหมือนจะอาเจียนไปห้องน้ำ ซึ่งทันทีที่เธอไปถึงก็เกาะขอบชักโครกไว้แน่น จากนั้นก็โก่งคออาเจียนเอาทุกอย่างในท้องออกมาจนหมด โดยมีคามินคอยลูบหลังกับส่งน้ำให้บ้วนปากเป็นระยะๆ “ไหวไหม” “ไม่ไหว” คนเมายอมรับสารภาพ เธอหันมามองหน้าคามินแล้วเบะปากคล้ายคนกำลังจะร้องไห้ คามินหมายจะยกมือขึ้นไปปาดน้ำตาให้ แต่จู่ๆ พาขวัญกลับอาเจียนใส่ตัวชายหนุ่ม จนเลอะเทอะไปด้วยกันทั้งคู่ “แกนะแก หางานให้อีกจนได้” คามินส่ายหน้าให้คนเมา ก่อนจะลากตัวเธอไปนั่งใต้ฝักบัว จากนั้นก็เปิดน้ำจากฝักบัวเพื่อล้างคราบอาเจียนจากทั้งตัวเขาและเธอ แต่เพราะยังมีกลิ่นอยู่เขาจึงต้องใช้ครีมอาบน้ำเข้ามาช่วย “แกถูตัวด้วยนะ เดี๋ยวฉันขึ้นไปเอาผ้าขนหนูบนห้องให้ก่อน” “อืม” พาขวัญที่ยังพอมีสติเอ่ยรับ แต่มันก็ไม่ได้มากจนรู้ตัวว่ากำลังทำอะไร คามินปล่อยให้เธอนั่งในห้องน้ำไปก่อน โดยหวังว่าหลังจากเขากลับมาเธอจะถูตัวเองเสร็จแล้ว คามินเดินทั้งที่ตัวยังเปียกขึ้นไปบนห้องนอนของพาขวัญ รื้อหาผ้าขนหนูในตู้อยู่นานจนเจอ แต่เพราะตัวเขาเองก็เปียกจึงถอดเสื้อผ้าบนตัวออก จากนั้นก็มองหาเสื้อยืดตัวใหญ่สุดสักตัวในตู้เสื้อผ้าของพาขวัญ เพราะเขาเหมือนจะเคยเห็นเธอใส่เสื้อยืดแบบโอเวอร์ไซส์ “อยู่นี่เอง” คามินยิ้มออกมา เมื่อสายตามองเห็นเสื้อตัวที่ต้องการ ก่อนจะหยิบออกมาสวมแต่เสื้อโอเวอร์ไซส์ของพาขวัญก็ยังฟิตสำหรับเขาอยู่ดี ส่วนท่อนล่างนั้นชายหนุ่มตัดสินใจนุ่งแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวไว้ก่อน โดยผูกปมให้แน่นที่สุดเท่าที่จะแน่นได้ เพราะกลัวหลุดนั่นเอง “เอาวะ ดีกว่าไม่ได้ใส่อะไร” คามินบอกตัวเอง ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนใหญ่อีกสองสามผืนติดมือมาเพื่อจะเอาลงไปให้พาขวัญ แต่ทันทีที่เขามาถึงชายหนุ่มก็ถึงกับอุทานออกมา “ฉิบหายไอ้ฝัน แกจะถอดชุดออกทำไมวะเนี่ย”

บทที่ 1 ไม่ให้ความหวัง

“ถ้าคืนนี้พี่หนึ่งเขาขอฉันแต่งงาน แกว่าฉันควรจะตอบพี่เขายังไงดี” ประโยคที่ดังขึ้นจากเจ้าบ้านที่ชื่อว่าพาขวัญ ซึ่งอีกไม่กี่วันข้างหน้าเธอจะอายุครบยี่สิบแปดปีเต็มลอยมาเข้าหูคามินที่นั่งอยู่ไม่ไกล

นั่นทำเอาชายหนุ่มที่กำลังดื่มน้ำถึงกับสำลัก เพราะไม่คิดว่าการแวะมาหาเพื่อนสนิทที่คบหากันมาร่วมสิบปีวันนี้จะได้ยินเข้า

“มโน”

“ไอ้เอ นี่แกจะไม่ให้ความหวังฉันเลยหรือไง...หา อยากเห็นฉันขึ้นคานหรือไง” พาขวัญมองคามินตาขวาง นั่นทำให้ชายหนุ่มต้องรีบแก้ต่างให้ตัวเอง

“เปล่า”

“งั้นก็ช่วยทำหน้าแบบดีใจกับเพื่อนหน่อยสิ”

“ดีใจด้วย” แม้จะบอกว่าดีใจด้วย แต่น้ำเสียงเรียบๆ บวกกับสีหน้าตึงๆ ที่คามินแสดงออกมานั้นช่างตรงกันข้ามกับประโยคที่เขาพูด

“จริงใจสุดๆ” พาขวัญเบ้ปากใส่คนข้างๆ ที่วันนี้บอกจะแวะมากินข้าวด้วยแต่กลับมามือเปล่า คงหวังให้เธอเข้าครัวทำอะไรให้กินตามเคยสินะ...หึ๋ย

“ก็พี่หนึ่งเขายังไม่ได้ขอแกแต่งงาน แกจะรีบไปไหนเล่า”

“แต่คืนนี้พี่เขาชวนฉันไปดินเนอร์”

“ก็แค่ไปกินข้าวเหมือนทุกทีนั่นล่ะ” คามินสวมบทเป็นฝ่ายค้านชั่วคราว

“ไม่เหมือน”

“ยังไงที่บอกว่าไม่เหมือน” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น

“ก็วันนี้เป็นวันครบรอบสี่ปีที่เราคบกัน มันต้องพิเศษสิ”

“ผู้ชายเขาไม่จำเรื่องพวกนี้กันหรอก”

“ไม่จำก็ไม่เป็นไร เพราะฉันบอกพี่เขาไปทางไลน์แล้วว่าคืนนี้มันพิเศษยังไง เปอร์เซ็นต์ที่คืนนี้พี่เขาจะขอฉันแต่งงานมีสูงมากถึงมากที่สุด” พาขวัญยิ้มกริ่ม สมัยนี้บางอย่างมันก็ต้องบอกกันตรงๆ เพราะผู้ชายอาจจะลืมก็เป็นได้

“เพราะอะไรแกถึงมั่นใจแบบนั้น” น้ำเสียงและสีหน้าของคามินดูจริงจังไม่ได้ติดเล่นอย่างก่อนหน้านี้

“ก็ฉันกับเขาคบหากันมาสี่ปี พาไปแนะนำให้คนในครอบครัวอีกฝ่ายได้รู้จักกันมาแล้ว ธุรกิจพี่เขาก็กำลังไปได้สวย อีกไม่กี่เดือนฉันก็จะเรียนจบปริญญาโท จบออกไปแต่งงาน จากนั้นก็จะไปช่วยงานพี่เขาที่บริษัท แต่งงานสักสองปีค่อยมีลูกน่ารักๆ สักสองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ทุกอย่างเพอร์เฟค”

“เพ้อ”

“ไอ้เอ!” พาขวัญหันมาแว้ดใส่คามินอีกครั้ง ไม่รู้เป็นอะไรพักนี้ชายหนุ่มคอยแต่ขัดเธอเรื่องนี้ตลอด สงสัยอิจฉาเพราะเธอมีแฟนส่วนคามินโสดแน่ๆ

“เออๆ ขอโทษที ปากไวไปหน่อย แต่ฉันก็อยากให้แก...ช่างเถอะ” คามินเหมือนจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็เลือกที่จะไม่เอ่ยออกมา

“แกอยากให้ฉันทำอะไร” เพราะสงสัยทำให้พาขวัญเอ่ยถามออกไป คามินถอนหายใจออกมานิดหน่อยแล้วเอ่ยขึ้น

“เผื่อใจ”

“เผื่อใจ เรื่องที่พี่หนึ่งจะไม่ขอฉันแต่งงานคืนนี้นะเหรอ ฉันก็แอบเผื่ออยู่นะ แต่ไม่รู้สิ ฉันมั่นใจว่าคืนนี้พี่เขาจะพูดอะไรบางอย่าง ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว แกขยับมานี่สิ” เอ่ยจบพาขวัญก็ตบโซฟาข้างๆ ตัวสองสามครั้ง เพื่อส่งสัญญาณให้คามินเปลี่ยนที่นั่ง

“นั่งตรงนี้ดีแล้ว” คามินรีบปฏิเสธ นั่นเพราะรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยแปลกๆ จู่ๆ พาขวัญก็เปลี่ยนอารมณ์ไวแบบนี้ มันต้องมีอะไรแน่ๆ หรือเธอโกรธที่เขาบอกให้เผื่อใจ

“มานั่งตรงนี้ แล้วก็หยิบดอกไม้นั่นมาถือไว้ด้วย”

“หยิบดอกไม้ด้วยเหรอ”

“ใช่...ถ้าไม่ทำก็นู่นประตู กลับไปเลย”

“เออๆ ทำก็ทำ” ชายหนุ่มจำเป็นต้องเอ่ยรับอย่างขัดเสียไม่ได้ คามินคว้าดอกไม้ช่อสวยจากแจกันตรงหน้ามาถือไว้ในมือ จากนั้นก็ก้าวเข้าไปหาพาขวัญ แต่จังหวะที่จะทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้กลับถูกเธอยกมือห้าม

“อืม...นั่งคงไม่ได้งั้นแค่คุกเข่าสิ”

“หา” คนฟังอุทานออกมา

“แกลงไปนั่งคุกเข่า แล้วก็พูดว่า ฝันแต่งงานกับพี่นะครับ”

“อะไรนะ ให้ฉันขอแกแต่งงานเหรอ”

“ใครบอกว่าฉันให้แกขอแต่งงาน” พาขวัญถึงกับยกมือขึ้นเท้าสะเอว

“ก็เมื่อกี้ไงที่แกบอกให้ฉันพูดว่า ฝันแต่งงานกับพี่นะครับ ใช่ไหม”

“ใช่...แต่ฉันให้แกสวมบทเป็นพี่หนึ่ง ถือดอกไม้ไว้ในมือแล้วก็ลงไปนั่งคุกเข่าพร้อมพูดว่า ฝันแต่งงานกับพี่นะครับ ไม่ได้บอกให้แกพูดขอฉันแต่งงาน เข้าใจยัง”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ วรนิษฐา / Miss sexy

ข้อมูลเพิ่มเติม
ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

ปล้นรัก(ว่าที่)คุณสามี

มหาเศรษฐี

5.0

เธอคือ....นางโจร ส่วนเขาคือนายตำรวจ...มือหนึ่ง แต่พรหมลิขิตกลับชักพาให้นางโจรอย่างเธอปล้นความรักไปจากผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่าง...เขา +++++ “ผมบอกไปหรือยังว่าผมรักคุณ” “ยังค่ะ” มีนาเอ่ยตอบด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อคืนเหมือนเธอจะได้ยินเมฆาบอกรัก แต่มันก็แผ่วเบาเสียจนคิดว่าเธอคงฝันหรือไม่ก็เพ้อไปเองคนเดียว “โอเค...ผมรักคุณ” เมฆาบอกรักคนในอ้อมกอด มันคือคำว่ารักที่แสนเรียบง่ายแต่ทว่ากลับตราตรึงอยู่ในความรู้สึก ทั้งจากคนพูดและคนที่ได้ยิน เพราะหากไม่แน่ใจว่ารักเมฆาหรือจะพูดคำนี้ออกมา “ผู้ชายเขาบอกรักกันง่ายๆ แบบนี้เหรอคะ” “ใครบอกว่าง่าย เมื่อคืนกว่าผมจะบอกรักคุณมีนด้วยภาษากายได้ก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงเชียวนะ” “ทะลึ่ง” มีนามองค้อนมาให้ นั่นเพราะรู้ความหมายที่เมฆาเอ่ยว่าคืออะไร “ผมพูดเรื่องจริง” “แต่ฉันเป็นโจรที่เคยยกเค้าบ้านคุณนะคะ ถูกแจ้งจับอีก แบบนี้คุณยังจะรักฉันอย่างนั้นเหรอ” “มีกฎหมายข้อไหน ห้ามไม่ให้ตำรวจรักกับโจรบ้าง” “ก็...” คนฟังแย้งไม่ออก “ผมว่าความรักมันไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัว รักก็คือรัก” “แต่เราต่างกันเกินไป ฉันคิดว่า...” “โลกนี้ไม่มีคำว่าต่าง ต่อให้มีเราก็ค่อยๆ ปรับตัวเข้าหากันก็ได้นี่ครับ ผมขอแค่โอกาส” “ฉัน...” “ผมรักคุณมีน ต่อให้จะนอนคิดนั่งคิดหรือตีลังกาคิดก็ยังรัก” เมฆาเอ่ยคำว่ารักให้คนในอ้อมกอดได้ยินและได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเขาอีกครั้ง “แล้วถ้าฉันปฏิเสธละคะ คุณจะว่ายังไง” “ผมคงเสียใจหนักมากแน่” เมฆาเสียใจจริงๆ แต่เขาคงไม่ถอดในจากเธอด้วยเรื่องแค่นี้แน่ แต่ทว่าคำพูดหลังจากนั้นของมีนากลับทำให้คนฟังยิ้มกว้างออกมา “แต่ฉันไม่อยากเห็นคุณเสียใจ” “งั้นก็รับรักผม ได้ไหม” “เฮ้อ! ไหนๆ ฉันก็ได้คุณแล้วก็คงต้องแมนๆ รับผิดชอบ ฉันรับรักคุณก็ได้อะ คุณจะได้ไม่ร้องไห้เสียใจเพราะฉัน” มีนาพูดติดตลก นั่นเพราะไม่อยากให้บรรยากาศตอนนี้อึดอัด คำพูดของเธอทำให้เมฆาถึงกับหัวเราะ ก่อนจะรั้งผ้าห่มขึ้นมาห่มคลุมโปงทั้งเธอและเขา แล้วเริ่มปฏิบัติการยืนยันว่าแท้จริงแล้วใครได้ใครกันแน่ และใครต้องรับผิดชอบใคร

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

แวมไพร์มือใหม่หัวใจมังสวิรัติ

มนุษย์หมาป่า

5.0

‘เขาเป็นแวมไพร์ที่ปฏิเสธการดื่มเลือด แต่กลับไม่ปฏิเสธหากจะได้กลืนกินเธอ’ ------------ “วันนี้นายริทเป็นอะไร ดูเหม่อๆ” “นั่นนะสิ” คนงานอีกคนเห็นด้วย ก่อนจะหยุดการสนทนาใดๆ แล้วตัดดอกไม้ต่ออย่างขะมักเขม้น ส่วนคนที่พวกเขาเอ่ยถึงนั้น ตอนนี้ก็กำลังง่วนอยู่กับงานตรงหน้าเช่นเดียวกัน กระทั่งได้ดอกไม้ครบตามจำนวน เชโรมจึงเดินไปยังรถที่ตอนนี้มีดอกไม้แสนสวยอยู่ท้ายกระบะเต็มไปหมด แต่จังหวะนั้น สายตาของเชโรมกลับมองไปเห็นกระต่ายสีขาวที่เขาเลี้ยงไว้หลุดออกมาจากกรง จึงเดินไปอุ้มมันขึ้น ท่าทางเขาดูอ่อนโยนเสียจนมาศิตาที่ผ่านมาเห็น คิดว่าตัวเองตาฝาด จนต้องขยี้ตาแรงๆ สามสี่ครั้ง “ผู้ชายหน้าโหดกับกระต่ายสีขาว ดูยังไงก็ไม่เห็นจะเข้ากันสักนิด สงสัยจะเลี้ยงกระต่ายไว้กินแน่ๆ” “เลี้ยงไว้ดูจ้ะ นายริทชอบกระต่ายสีขาว ตรงนู่นเป็นกรงกระต่าย มีหลายสิบตัว” คนงานสาวคนหนึ่งเอ่ยแย้งให้ผู้เป็นเจ้านาย “ชีวิตดูมุ้งมิ้งกิงก่องแก้วขัดแย้งกับหน้าตาสุดๆ แวมไพร์ตนอื่นๆ มีแต่จะเลี้ยงกระต่ายไว้ดื่มเลือด นี่อะไร เลี้ยงไว้ดูเล่น โอ๊ย! พ่อมังสวิรัติ” มาศิตาบ่นคนเดียวอีกตามเคย ตามมาด้วยอีกประโยค “สอนแวมไพร์ให้ดื่มเลือด มันจะเหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำปะวะเนี่ย ของมันเป็น มันอยู่ในสายเลือด จะให้เรามาสอนเขาทำไม หืม” คนข้างๆ ที่เผลอได้ยินทั้งสองประโยคนี้เข้า กลับมีสีหน้างุนงงอย่างเห็นได้ชัด พอจะถามมาศิตาก็เดินตัวปลิวไปเสียแล้ว “ใครเป็นแวมไพร์หว่า หรือเราจะหูฝาดไป” คนงานสาวที่เพิ่งจะเอ่ยแก้ต่างเรื่องกระต่ายให้เชโรมไปเมื่อครู่ถึงกับคิ้วขมวด พูดกับตัวเองตามมาศิตาไปอีกคน ------------------ “แต่ศิตาไม่ยอมให้พี่ริทตายเด็ดขาด เพราะศิตารักพี่ริท” เอ่ยจบก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรม จูบที่ต่างฝ่ายต่างต้องการจากกันและกันมาโดยตลอด จูบที่ฝันว่าครั้งแรกมันต้องโรแมนติกและน่าจดจำ ไม่ใช่จูบที่ได้กลิ่นคาวเลือดจากริมฝีปากเขาเช่นนี้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้รังเกียจแต่อย่างใด เลือด! ใช่…เลือด คำๆ นี้ทำให้มาศิตานึกอะไรขึ้นมาได้ เธอคือผู้พิทักษ์ เลือดของเธอแวมไพร์ที่ยืนจ้องอยู่ตรงนั้นยังต้องการ แล้วทำไมเธอถึงไม่ให้เชโรมชิงดื่มเลือดของเธอเสีย ไม่แน่ว่า หากเขาได้ดื่มเลือดมนุษย์จริงๆ เชโรมอาจมีพลังขึ้นมาก็เป็นได้ มาศิตาถอนจูบออก แล้วแสร้งโอบกอดเชโรม ก่อนจะกระซิบให้เขาฝังคมเขี้ยวลงไปบนลำคอเพื่อจะได้ดื่มเลือดเธอ แต่เหมือนเชโรมกลับส่ายหน้าปฏิเสธกับแผนนี้ กระทั่งมาศิตาชิงลงมือก่อน เธอกัดริมฝีปากตัวเองสุดแรงจนเลือดไหล แม้จะเจ็บแต่ก็ยอมทน จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปจูบเชโรมอีกครั้ง ทันทีที่ได้สัมผัสเลือดของผู้พิทักษ์ นั่นทำให้เลือดในกายของแวมไพร์หนุ่ม ผู้ที่ไม่เคยลิ้มรสชาติของเลือดใดๆ มาก่อน พลันพลุ่งพล่านราวกับเปลวไฟ “เจ้าทำอะไร” แดนเองก็ได้กลิ่นเลือดของมาศิตาเช่นเดียวกัน รวมทั้งจ้องมองความผิดปกติของเชโรมอย่างไม่กะพริบตา เลือดเพียงหนึ่งหยด กลับทำให้นัยน์ตาที่เคยเป็นสีน้ำตาลอ่อนแปรเปลี่ยนมาเป็นสีแดงเพลิงในทันที ร่างกายที่เคยเจ็บปวดกลับค่อยๆ หาย และรู้สึกถึงพลังที่ไม่เคยสัมผัสได้มาก่อนวิ่งพล่านไปทั่วร่าง “แววตาแบบนั้น เจ้าเป็นใครกัน หรือว่า…”

เล่ห์รักฉบับ CEO

เล่ห์รักฉบับ CEO

มหาเศรษฐี

5.0

จูบแรกก็เป็นของเขา จูบครั้งที่สอง สาม สี่ ก็ยังคงเป็นของเขา แบบนี้โสภิตาจะหนีจาก CEO หนุ่มที่เธอบังเอิญผ่านไปช่วยชีวิตเขาไว้ได้อย่างไร ++++++++++++++++ **โปรย 1 “เท่าที่ได้คุยกันฉันว่านายเชนคนนี้นิสัยก็ใช้ได้” “อึนๆ มึนๆ นี่เหรอใช้ได้” โสภิตาอยากจะบอกเหลือเกินว่าบางครั้งราเชนก็กวนตีนเธอ “อื้อ...นายเชนเขาให้ความพิเศษกับแกนะ ขนาดปลายังแกะก้างออกให้ นี่ถามจริงๆ แกไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ” “ก็...” โสภิตาอ้ำๆ อึ้งๆ เธอนั้นไม่มีประสบการณ์เรื่องความรัก เรียกได้ว่าชั่วโมงบินน้อยมากๆ ใครมาดีหรือมาร้ายบางครั้งก็มองไม่ออกอย่างทะลุปรุโปร่ง อาศัยเพียงแค่สัญชาตญาณของตัวเองซึ่งบางครั้งมันอาจผิดพลาด “หรือคิดมากเรื่องฐานะที่นายเชนมีน้อยกว่าแก” “ไม่ใช่เรื่องนั้น ถามว่าฉันรู้สึกดีกับเขาไหมก็...อื้ม บางครั้งเวลาฉันอยู่กับเขาแล้วเหมือนตัวเองเป็นง่อย จากที่ทำอะไรได้เองก็เริ่มอยากให้เขาทำให้ อยากให้เขาช่วย” นั่นคือความเปลี่ยนแปลงที่โสภิตารู้ตัวเองดี “ไม่แปลกหรอก เพราะผู้หญิงเราต่อให้แข็งแกร่งยังไงลึกๆ ในหัวใจก็อยากมีใครสักคนมาดูแล” “แกก็เป็นเหรอ” “เป็นสิ บางครั้งฉันยังงอแงให้บอสจับแมลงสาบเลย ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนเห็นตอนไหนฉันกระโดดกระทืบตอนนั้น” คำพูดของรติชาทำให้โสภิตาหัวเราะออกมาเพราะนึกภาพออกทันที เวลานั้นปิลันธน์คงทั้งกลัวทั้งอยากกำจัดให้คนรักส่วนรติชาก็คงหัวเราะชอบใจแน่ๆ “นึกว่าฉันเป็นอยู่คนเดียว” “แกนะเข้มแข็งมากนะหวาน เป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นหัวหน้าคนงาน รับผิดชอบเรื่องนั้นเรื่องนี้มากมาย ที่ผ่านมาอาจเพราะแกยังไม่เจอใครที่สามารถฝากชีวิตเอาไว้ได้แกเลยไม่เปิดใจ แต่ถ้าตอนนี้แกเจอคนคนนั้นแล้วฉันแนะนำว่าแกควรฟังเสียงหัวใจของตัวเองให้มาก ว่าอยากอยู่แบบที่ผ่านๆ มาหรืออยากจับมือกับใครสักคนไปจนวันตาย” นั่นคือคำแนะนำจากใจของรติชาเพราะเธอเคยลังเลแบบนี้มาแล้ว หากเวลานั้นตัดสินใจผิดตอนนี้เธออาจโกนหัวบวชชีที่วัดป่าที่ไหนสักแห่ง “ฉันอยากจับมือใครสักคน” ++++++++++++++++ ***โปรย 2 “ฉันเกลียดที่สุดคือคนโกหก ที่ผ่านมาฉันรู้สึกดีกับนายเพราะเข้าใจมาตลอดมานั่นคือนาย แต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายตรงหน้าเป็นใครกันแน่ นายจะโกหกอะไรฉันอีกไหม ฉันต้องโง่ไปอีกกี่ครั้ง” น้ำเสียงของโสภิตานั้นสั่นเครือ “ผมสัญญาว่าจะไม่โกหกอะไรคุณอีกแล้ว สาบานให้ตาย...” จังหวะที่ราเชนกำลังจะสาบานให้ตัวเองตาย โสภิตาก็ยกมือขึ้นมาปิดปากของเขาไว้เสียก่อน “ลองตายดูสิ ฉันจะลากตัวนายขึ้นมาแล้วสับๆ” ราเชนอึ้งกับประโยคที่ได้ยินก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อรู้ว่าโสภิตาไม่ยอมให้เขาตายง่ายๆ สินะ “โอเคๆ ผมไม่ตายแล้วก็ได้ ยกโทษให้ผมเถอะนะคุณหวาน ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” “นายนี่มัน ทำฉันทั้งสุขทั้งทุกข์เหมือนคนเป็นไบโพลาร์แบบนี้ได้ยังไง รับผิดชอบสติฉันมาเลย” “ถ้าผมรับผิดชอบจริงๆ คุณหวานจะตอบตกลงไหมครับ” “อื้อ” “จริงๆ นะ” ราเชนถามย้ำ ส่วนคนที่ตามความเจ้าเล่ห์ของเขาไม่ทันก็ไม่ได้เอะใจอะไรแม้แต่น้อยเช่นกัน “จะรับผิดชอบอะไรว่ามา” “แต่งงานกันไหม”

รักร้อนซ่อนใจรัก

รักร้อนซ่อนใจรัก

โรแมนติก

5.0

เขาคือพระเอกดาวค้างฟ้า เล่นละครเรื่องไหนเรตติ้งพุ่งแรงเสมอ ในขณะที่เธอก็เป็นแค่เอ็กตร้าในกองถ่าย ที่เอ๋อๆ เด๋อๆ เพราะไม่ได้เป็นแฟนคลับของเขาเธอจึงไม่ได้แสดงออกว่าปลื้ม แต่ยิ่งเธอเฉยเขายิ่งสนใจ กระทั่งมีเหตุการณ์ให้ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกัน จูบแรกของทั้งคู่เกิดขึ้นก็เพราะงาน แต่หัวใจของเธอกลับถูกริมฝีปากนุ่มและแสนร้ายกาจของพระเอกกระชากจนหลุดลอยและมันมักจะลอยไปหาเขาโดยที่ตัวเธอเองก็ไม่รู้ตัวเช่นกัน ของขวัญวันเกิดปีนี้ของเธอก็ยังเป็นจูบจากเขา จูบที่ทำให้ใจสาวหวั่นไหวและยากจะต้านทาน หัวใจเธอถูกเขาไล่ต้อนจนมุม ทางเดียวที่จะรับมือคือพุ่งเข้าชนแล้วเอาหัวใจเป็นเดิมพัน

หัวใจแพ้ทางรัก

หัวใจแพ้ทางรัก

โรแมนติก

5.0

ถึงอาดิน เรารู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้วนะคะ เป็นสิบปีที่มิลค์มีความสุขมาก ตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักจนถึงวันนี้ ไม่มีวันไหนที่มิลค์จะหยุดรักอาดินได้เลย นอกจากจะหยุดรักไม่ได้แล้ว ยังรักมากขึ้นๆ ทุกๆ วัน สิบปีมานี้มิลค์ได้บอกรักอาดินไปหลายครั้ง ทุกๆ ครั้งที่บอกไปมิลค์มีความสุขมากค่ะ ถึงแม้อาดินจะไม่ตอบรับมันเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่มิลค์ก็ยังพยายามต่อ เพราะหวังว่าสักวันอาดินจะหันมามองเห็นความรักที่มิลค์มีให้และรับมันไป แต่ว่า...มันคงไม่มีวันนั้นแล้วจริงๆ มิลค์ขอโทษนะคะที่เอาแต่ใจ ที่ตามกวนใจอาดิน หลังจากนี้เราคงไม่ได้เจอกันสักพัก มิลค์ขอให้อาดินเจอคนที่ใช่ คนที่อาดินรัก ส่วนมิลค์จะขอเฝ้ามองอาดินอยู่ห่างๆ แทน ลาก่อนค่ะ มิลค์

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณหมอที่รัก NC18++

คุณหมอที่รัก NC18++

Me'JinJin
4.4

กฤษฎิ์ พิสิฐกุลวัตรดิลก "อาหมอกฤษฎิ์" หนุ่มใหญ่วัย 34 ปี มาเฟียในคราบคุณหมอสูตินรีเวชแห่งโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศ โหด เหี้ยม รักใครไม่เป็น เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น สำหรับเขารักแท้ไม่เคยมีรักดีๆ ก็มีให้ใครไม่ได้ แต่สุดท้ายดันมาตกหลุมรักแม่ของลูกอย่างถอนตัวไม่ขึ้น❤️ "เฟียร์สตีนอยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีก็มีลูกสาววัย4ขวบแล้วอ่ะครับ แถมแม่ของลูกทำเอาใจเต้นแรงไม่หยุดเลยนี่เรียกว่าตกหลุมรักใช่ไหมครับ" นลินนิภา อารีย์รักษ์ "ที่รัก" สาวน้อยวัยแรกแย้มบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฐานะยากจนสู้ชีวิต เพราะความจำเป็นทำให้เธอต้องตกเป็นของเขา คนนั้นด้วยความเต็มใจ จนทำให้เธอต้องกลายมาเป็นคุณแม่ยังสาวด้วยวัยเพียง 18 ปี แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกเหวี่ยงให้เธอกลับมาพบกับเขาคนนั้นอีกครั้ง พ่อของลูกคนที่เธอถวิลหาไม่เคยลืม ❤️ "ตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรก ห่างกันไกลแค่ไหนใจยังคงคิดถึงเธอเสมอ ❤️พ่อของลูก" หนูน้อยแก้มใส กมลชนก อารีย์รักษ์ สาวน้อยวัย 4 ขวบ สดใสร่าเริง ฉลาดมาก ซนมาก แสบมาก เซี้ยวมาก เฟียสมาก ใครเห็นเป็นต้องหลงรักในความช่างพูดและขี้อ้อนของน้อง "ลุงหมอเป็นพ่อขาของแก้มใสเหรอคะ" หนูเป็นลูกของคุณพ่อกฤษฎิ์กับคุณแม่ที่รักค่ะ หนูจะเป็นกามเทพตัวจิ๋วที่จะมาแผลงศรให้คุณพ่อกับคุณแม่รักกัน❤️มาเอาใจช่วยหนูกันด้วยนะคะ

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ท่านแม่ทัพข้าคือศรีภรรยา NC25+

ซีไซต์
5.0

องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้

คุณนายฟู่ กรุณาเซ็นต์หย่า

คุณนายฟู่ กรุณาเซ็นต์หย่า

Harper
5.0

ความรักที่ซ่อนเร้นของสาวน้อยเริ่มต้นในวันที่ทั้งสองได้พบกันในการพบกันที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนาน ทว่าเด็กสาวที่ครอบครัวรับมาเลี้ยงกลับแย่งชิงครอบครัวและเด็กหนุ่มไปโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว เมื่อโตขึ้น เธอใช้โอกาสการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์เพื่อแย่งชิงตำแหน่งภรรยาของชายคนนั้น ไม่ยอมถอยแม้แต่นิดเดียว ฟู่เป่ยชวนกอดพี่สาวของเธอไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน” ซูชิงเฉินรู้สึกปวดท้องเหมือนมีบางอย่างในร่างกายของเธอค่อยๆ เลือนหายไป เธอยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงแน่วแน่ “แน่นอน ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือ ถึงจะต้องตายก็ตาม” ไม่นานนัก ซูชิงเฉินก็เหมือนจะหายไปจริงๆ จากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในยามค่ำคืน ฟู่เป่ยชวนมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “ถ้าฉันไม่เคยรักเธอเลยก็คงจะดี” ห้าปีต่อมา ซูชิงเฉินกลับมาพร้อมกับเด็กคนหนึ่ง กลับมาในสายตาของคนทั่วไปอีกครั้ง ...

ทางใหม่ เริ่มใหม่

ทางใหม่ เริ่มใหม่

Beckett Grey
4.5

ซ่งจิ่งถังรักฮั่วอวิ๋นเซินอย่างลึกซึ้งนานถึงสิบห้าปี แต่ในวันที่เธอคลอดลูกกลับตกอยู่ในอาการโคม่า ขณะที่ฮั่วอวิ๋นเซินกระซิบข้างหูเธออย่างอ่อนโยนว่า "ถังถัง อย่าฟื้นขึ้นมาอีกเลย สำหรับฉัน เธอไม่มีค่าอะไรอีกแล้ว" ซ่งจิ่งถังเคยคิดว่าสามีของเธอเป็นคนอ่อนโยนและรักใคร่ตัวเอง แต่จริงๆ แล้วเขามีแต่ความเกลียดชังและใช้ประโยชน์จากเธอเท่านั้น และลูกๆ ที่เธอเสี่ยงชีวิตให้กำเนิด กลับเรียกหญิงสาวคนอื่นว่า 'แม่' ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนต่อหน้าที่เตียงคนไข้ของเธอ เมื่อซ่งจิ่งถังฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่เธอทำคือการตัดสินใจหย่าขาดอย่างเด็ดขาด! แต่หลังจากหย่าแล้ว ฮั่วอวิ๋นเซินจึงเริ่มตระหนักว่า ชีวิตที่ผ่านมาของเขาเต็มไปด้วยเงาของซ่งจิ่งถัง หญิงคนนี้กลายเป็นความเคยชินของเขา เมื่อพบกันอีกครั้ง ซ่งจิ่งถังปรากฏตัวในที่ประชุมในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ เธอเปล่งประกายจนทุกคนต้องหันมามอง หญิงคนนี้ที่เคยมีแต่เขาในใจ บัดนี้กลับไม่แม้แต่จะมองเขาอีก ฮั่วอวิ๋นเซินคิดว่าเธอแค่ยังโกรธอยู่ ถ้าเขาเอ่ยปากพูดนิดหน่อย ซ่งจิ่งถังจะต้องกลับไปหาเขาแน่นอน เพราะเธอรักเขาหมดหัวใจ แต่ต่อมา ในงานหมั้นของผู้นำคนใหม่ของตระกูลเพ่ย เขาเห็นซ่งจิ่งถังสวมชุดแต่งงานหรูหรา ยิ้มอย่างเปี่ยมสุขและกอดแน่นเพ่ยตู้พร้อมสายตาที่เต็มไปด้วยความรักใคร่ ฮั่วอวิ๋นเซินอิจฉาจนแทบคลั่ง เขาตาแดงก่ำและบีบแก้วจนแตก เลือดไหลไม่หยุด...

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ระยะทดลองรัก
1

บทที่ 1 ไม่ให้ความหวัง

21/12/2022

2

บทที่ 2 ยิ้มกริ่มชอบใจ  

21/12/2022

3

บทที่ 3 คุกเข่าขอแต่งงาน

21/12/2022

4

บทที่ 4 พี่หรือเพื่อน

21/12/2022

5

บทที่ 5 ผู้ชายเฮงซวย

21/12/2022

6

บทที่ 6 อกหักแบบไม่ทันตั้งตัว

21/12/2022

7

บทที่ 7 อกหักแบบไม่ทันตั้งตัว 2

21/12/2022

8

บทที่ 8 นายต้องเสียใจ

21/12/2022

9

บทที่ 9 อยากให้ฉันไป ฉันก็จะไป

21/12/2022

10

บทที่ 10 แค่อกหักไม่ถึงกับตาย

21/12/2022

11

บทที่ 11 โยนมันทิ้ง

21/12/2022

12

บทที่ 12 ตาถั่วมองไม่เห็น

21/12/2022

13

บทที่ 13 ขอจูบแกหน่อยสิ

21/12/2022

14

บทที่ 14 เหมือนทุกครั้ง

21/12/2022

15

บทที่ 15 พยายามไม่เคยสำเร็จ

21/12/2022

16

บทที่ 16 มันเป็นไปไม่ได้

21/12/2022

17

บทที่ 17 แท่งตรวจครรภ์

21/12/2022

18

บทที่ 18 มีน้ำมีนวล

21/12/2022

19

บทที่ 19 อย่ามาโกหก

21/12/2022

20

บทที่ 20 จูบฉันหน่อยสิ

21/12/2022

21

บทที่ 21 ลิมิต

21/12/2022

22

บทที่ 22 อารมณ์คนท้อง

21/12/2022

23

บทที่ 23 ทะลึ่ง

21/12/2022

24

บทที่ 24 คนแพ้ท้อง

21/12/2022

25

บทที่ 25 อธิบายขยายความ

21/12/2022

26

บทที่ 26 ความรักอันบริสุทธิ์ (จบ)

21/12/2022