Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
บ่วงรักเฑียรฆชาติ

บ่วงรักเฑียรฆชาติ

SHASHAwriter

5.0
ความคิดเห็น
282
ชม
27
บท

นาคี วีรัง อาฆาตุคุเนติ เสียงสาปนี้ดังก้องทั่วท้องนที ทั้งมหาสมุทร ท้องแม่น้ำ ลำคลอง บึง สระ หรือแอ่งน้ำเล็ก ๆ นั่นก็ยังได้รับผลจากคำสาปนี้ เนื่องด้วยเจ้าแห่งท้องนทีถูกลอบปลงชีพจากเมียรัก นางแทงกริชเล่มเล็กเอาชีวิตสวามี ก่อความอาฆาตพยาบาทและแคลงใจมาจนถึงภพชาติปัจจุบัน ปทุมมารู้สึกสะอิดสะเอียนพะอืดพะอมทุกครั้งที่ได้ยินตำนานเรื่องนี้ เธอไม่เชื่อตำนานนี้อย่างเด็ดขาด จนวันที่ย้ายไปเป็นแม่บ้านที่อาคารแห่งหนึ่ง ก็ทำให้เธอพบว่า ศาตราจารย์เธียร ชายคนนี้ทำให้เธอนึกถึงท่านพญานาคราชขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ และเขาไม่ได้อบอุ่นอย่างที่คนอื่น ๆ เห็น ภายใต้บุคลิกเรียบเงียบขรึม เธอดูออกหรอกน่าว่าเขาน่ะเอาแต่ใจและชอบจับผิดเธออีกด้วย แล้วทำไมจะต้องคอบจับผิดแต่เธอก็ไม่รู้ อย่างกับว่าชาติก่อน เธอเคยทำร้ายเขาจนเจ็บปางตายอย่างนั้นแหละ

บทที่ 1 เริ่มเรื่อง

นาคี วีรัง อาฆาตุคุเนติ

เสียงสาปดังก้องทั้งนที ไม่ว่าจะเป็นมหาสมุทร แม่น้ำ ลำคลอง บึง สระ หรือแอ่งน้ำเล็ก ๆ ก็ด้วย และนั่นคือเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่เกือบปลิดชีพชั่วกัปชั่วกัลป์ของเจ้าแห่งท้องนที จนทำให้พญาเฑียรฆชาติจมอยู่กับความแค้นมาตลอด

ว่ากันว่าคลื่นยักษ์ในมหาสมุทรพร้อมกับน้ำล้นในแม่น้ำลำคลองสั่นสะเทือนเลือนลั่นเป็นนานแท้จริงมาจากในเมืองบาดาลนี่เอง เมื่อพญาเฑียรฆนาคราชถูกทิ่มแทงด้วยกริชเล่มเล็กหวังปลิดชีพจนชีพวางวายด้วยเมียชั่วช้า ที่กล้าคบชู้แล้วยังลอบขโมยดวงแก้วแห่งท้องบาดาลหวังให้ชู้รักและตนได้เป็นใหญ่ในเมืองบาดาล

ทุกครั้งที่ฟังตำนานนี้ปทุมมาจะรู้สึกพะอืดพะอมแล้วก็อยากจะร้องค้านออกไปว่ามันไม่น่าจะใช่เรื่องจริง เรื่องเล่าที่ว่านั้นดูปั้นแต่งจนเกินไป และเชิดชูท่านเทียน ๆ ชาติ ๆ อะไรนั่นมากเกินไปหน่อยหรือเปล่า แล้วทำไมผู้หญิงคนนั้นจะต้องหาทางฆ่าสามีอย่างท่านเทียน ๆ ชาติ ๆ อะไรด้วยล่ะ

เพียงเพราะอยากให้ตัวเองและชู้เป็นใหญ่ในเมืองบาดาลอย่างนั้นหรือ จะทำแบบนั้นไปทำไมก็ในเมื่อนางเองกำลังตั้งท้อง แล้วก็ยังถูกขังในตำหนัก นางไม่มีลูกสมุน ไม่มีพรรคพวก ไม่มีบริวารที่จงรักภักดีเลยไม่ใช่หรือ แล้วชู้ที่ว่านั่นใคร ไม่เห็นพูดถึงกัน แล้วจะขึ้นเป็นที่หนึ่งด้วยลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ลูกเดียว ที่ไม่รู้ว่าได้มาครอบครองแล้วจะเป็นที่หนึ่งจริงหรือเปล่า แค่นั้น อย่างนั้นเลยหรือ

ปทุมมาไม่เห็นด้วยเลย และเธอก็เคยได้ยินเรื่องราวนี้ในอีกมุมจากตาทองอยู่และปู่ทองดีของเธอมาแล้วด้วย ท่านเล่าตำนานนี้ให้ฟังบอกว่านี่ต่างหากที่เป็นเรื่องจริง

ครั้งนั้นมีมือที่สามคิดปลิดชีพท่านพญานาคราชอะไรนั่น และคนร้ายก็คือคนในเมืองบาดาลนั่นแหละ ที่นอกจากจะคิดฆ่าท่านพญานาคราชแล้วก็ยังคิดกำจัดผู้หญิงคนละตระกูลกับทางท่านพญานาคราชที่ท่านตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอ เหตุเพราะคนในกลุ่มนั้นหวั่นใจ กลัวว่าหญิงผู้นั้นจะกลายมาเป็นอัครมเหสีของท่านพญานาคราชจึงรวมหัวกันคิดแผนร้ายด้วยการป้ายความผิดให้หญิงผู้นั้น

ได้ยินแล้วปทุมมาค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อยแล้วเธอก็อยากเชื่อเรื่องเล่าของตาและปู่มากกว่าตำนานที่คนอื่นเอามาบอกต่อกันมา แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาเหตุผลอะไรไปค้านเพราะตาและปู่ของเธอเป็นเพียงชายแก่ สองคนที่ใช้ชีวิตทำสวนทำไร่ทำนาที่ต่างจังหวัดเท่านั้น

ถอนลมหายใจบอกตัวเองว่าไม่ใช่เรื่องจะต้องเอามาขบคิดเลย แล้วลุกไปยังห้องเก็บของด้านหลังเพื่อเอารถเข็นเครื่องมือทำความสะอาดของตัวเองไปทำงานที่ชั้นล่างในช่วงบ่าย

ขนุนหนัง แม่บ้านรุ่นพี่ที่รับผิดชอบงานดูแลทำความสะอาดชั้นเดียวกันกับเธอยังคงจ้องมองคลิปเรื่องดังในตำนานอย่างตั้งอกตั้งใจ น่าจะเป็นเพราะเสียงเล่าใส่อารมณ์กระแทกกระทั้นนั่นเอง เธออยากถามว่าตอนเข้าอบรมแม่บ้านตั้งใจฟังขนาดนี้ไหมก็อมยิ้มไว้ไม่กล้าแซวกลัวอีกฝ่ายจะงอนเอา

พอหัวหน้าแม่บ้านเดินผ่านประตูมาทางนี้เจ้าตัวก็ลนลานรีบปิดคลิป รอจนทางนั้นเดินจากไปค่อยหันมาคุยกับเธอ

“เป็นพี่หน่อยไม่ได้นะบัวเอ๊ย พี่จะใช้มารยาของพี่บวกคูณกับเสน่ห์ร้อยล้านเล่มเกวียนของพี่ล่อลวงให้ผัวรักผัวหลง ลำพังผัวตัวนั่นก็ที่หนึ่งในเมืองบาดาลอยู่แล้ว ชู้เป็นแค่ลูกเมียน้อยของพ่อผัว ไปเอาทำไมกันวะ นังผู้หญิงคนนี้นี่ตาต่ำชะมัดเลย”

อ้อ ที่แท้ชายชู้ที่ถูกโยงเข้ามาเอี่ยวด้วยเป็นลูกของภรรยาอีกคนของนาคราชเทียน ๆ อะไรนี่เอง แบบนี้ละมั้งก็เลยแค้นกันไปมา ปทุมมาคิดตามเรื่องที่ขนุนหนังเล่า ก่อนจะได้ยินขนุนเรียกเสียงอ่อย ๆ “บัว”

เธอไม่ได้ขานรับแต่ถึงอย่างนั้นก็หันไปมองสบตาด้วย ขนุนหนังรีบลดเสียงลงแล้วเอ่ยว่า “วันอาทิตย์มาทำงานแทนพี่หน่อยนะ”

“ได้พี่” ปทุมมาตอบรับเสียงแข็งขัน วันหยุดค่าแรงสามเท่าท่องเอาไว้ ไม่ขยัน เหงื่อไม่ออก ไม่ได้เงินหรอกบัว เธอบอกตัวเองแบบนี้เสมอ

หัวหน้าแม่บ้านเดินกลับเข้ามาอีกครั้ง ตรงมาหาเธอพร้อมเรียกด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมจึงรีบตอบรับแกกลับไปเพราะรู้ว่าถ้ามาลักษณะนี้คือมาสั่งงานอย่างแน่นอน

“บ่ายนี้ บัวขึ้นไปเก็บของที่มันเกะกะทางเดินแล้วก็พวกของที่ไม่ใช่แล้วตรงชั้นบนให้พี่หน่อยนะ”

“ชั้นบนไหนคะ”

“บนสุดนั่นแหละ”

“ชั้นที่ปิดเอาไว้ไม่ให้ขึ้นนั่นน่ะหรือคะ”

“ใช่จ้ะ เห็นทางงานบริหารเขาโทรมาว่าให้ขอจัดห้องทำงานใหม่ เขาจะเอาชั้นนั้นทั้งชั้นให้ท่านดอกเตอร์อะไรนี่แหละ ไม่ต้องรีบทำหรอก คุณแกก็ไม่รู้จะมาจริงหรือเปล่า ที่นี่ออกจะกันดาร ใครเขาอยากมากัน เหมือนพวกเราไง เมื่อตอนที่เราเพิ่งย้ายกันมา ที่คุย ๆ กันว่าจะมีผู้บริหารมาประจำที่นี่น่ะจำได้ไหม” คนพูดหยุดหน่อยหนึ่งเพื่อให้เธอกับขนุนหนังนึกตาม พอจะจำได้บ้างจึงพยักหน้าอือออตามแกไป แล้วคนเล่าจึงเล่าต่อ “นั่นแหละแล้วแกก็ไม่มา รอบนี้ก็คงอีหร็อบเดิม รับปากไปงั้น แล้วก็คงจะไม่มาอีก”

ขนุนหนังถามขัด เพราะหากว่าเธอขึ้นไปทำตามสั่ง ตนก็ต้องทำงานหนักอยู่คนเดียวที่ชั้นล่างนี้น่ะสิ

“แล้วอย่างนั้นจะให้บัวมันขึ้นไปทำทำไมล่ะคะ”

“ก็ต้องไปหน่อย เดี๋ยวได้มาหาเรื่องว่าเราอีก ว่าไม่ใช่พนักงานประจำ เป็นOutsourceเดี๋ยวด๋าวก็ย้ายไปที่อื่นอย่างเราน่ะดื้อด้าน ไม่ทำตามคำสั่งของเขายังไงล่ะ”

“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหาเลย เดี๋ยวบัวขึ้นไปทำตอนนี้ค่ะ”

ส้มป่อยมองเธอด้วยสายตาเอ็นดู “ดีจ้ะ”

ปทุมมารับคำสั่งแล้วจึงเข็นรถเข้าลิฟต์ตรงไปยังชั้นบนสุดที่ว่านั่นทันที

ร่างสูงใหญ่ลงจากรถหรูสีดำเป็นมันวาวทั้งคันที่มองผ่านเพียงผิวเผินคนจิตอ่อนบางคนมองเห็นว่ายานพาหนะคันนี้คล้ายมีเกล็ดประดับโดยรอบ

เขาพารถจอดลงที่ด้านหลังอาคารสำนักงานสาขาต่างจังหวัด ที่ซึ่งเป็นสาขาที่ไม่เคยเป็นหน้าเป็นตาให้เครือเลยสักครั้ง แม้ไม่เคยทำกำไรให้กับ NAGARA Bev. แต่ก็ไม่เคยขาดทุน คณะทำงานและทีมผู้บริหารจึงยังไม่คิดที่จะยุบสาขานี้ จะว่าไปแล้วการตัดสินใจทั้งหมดว่าจะยุบที่ไหนก็ล้วนแล้วแต่เป็นความคิดของเขาแทบทั้งสิ้น

ชายหนุ่มพาตัวเองเดินเข้าประตูอาคารสำนักงานที่พนักงานรักษาความปลอดภัยหละหลวมไม่มีใครมายืนเฝ้าประตูนี้เลยสักคน ตรงเข้าลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นบนสุดของตัวอาคาร

ครั้งนี้เขาเข้ามาโดยไม่ได้บอกกล่าวให้ใครรู้เพราะอยากมาดูว่าที่นี่เรียบร้อยดีอย่างที่พี่ชายของเขาบอกจริงหรือไม่และอีกเหตุผลที่เขามา คิดพร้อมหัวคิ้วขมวดเข้าหากันก่อนคลายออกช้า ๆ แรงกระตุ้นนั้นเด่นชัดมากยิ่งขึ้น ทันทีที่กล่องเหล็กกลางเก่ากลางใหม่พาขึ้นไปยังชั้นบนสุดแล้วและเปิดออกกว้างให้เขาเดินออกไป ก็พบว่าข้าวของกองระเกะระกะอยู่ตรงทางเดินเต็มไปหมด อีกทั้งยังมีเสียงกุก ๆ กัก ๆ ดังมาจากด้านในอีกด้วย

เธียรเดินเข้าไปจนสุดทาง มองเข้าไปด้านใน เห็นแม่บ้านร่างผอมแกนไม่สูงมากนักกำลังรื้อของที่บนโต๊ะของเขาอยู่

“ทำอะไร”

เสียงเข้มขรึมส่งออกไปถาม สายตาเรียบเฉียบคมมองจ้องหญิงคนนั้นนิ่ง และเมื่อเห็นเต็มสองตาว่ากำลังหยิบแท่นหินของวงศ์ตระกูลที่เขาไม่รู้ว่ามันมาอยู่ที่นี่เมื่อไร ก็สั่งเสียงเรียบแต่ก็ฟังแล้วเปี่ยมไปด้วยอำนาจบารมีอยู่ไม่น้อยกับหญิงผู้นั้นอีกครั้ง

“วางของนั่นลง”

มือเล็กแบบเดียวกับรูปร่างรีบวางหินหนาใหญ่แท่งนั้นลงในทันทีเพราะเข้าใจว่าคงเป็นของเก่าเก็บมีราคาที่คงจะเป็นของของชายผู้นี้

ปทุมมายิ้มอย่างที่หัวหน้าสอนให้ยิ้มเวลาพบสีหน้าไม่พอใจของผู้บริหาร แล้วรีบบอกเขาเพื่อไม่ให้เข้าใจผิดว่าเธอเข้ามาโดยพลการหรือเข้าขโมยของของเขา

"ฉันเป็นแม่บ้านค่ะ กำลังเก็บของทำความสะอาดให้น่ะค่ะ”

“ใครอนุญาตให้ขึ้นมาบนนี้”

ปทุมมาคิดเล็กน้อยก่อนตอบไปว่า “งานบริหารค่ะ เขาให้ขึ้นมาทำความสะอาดรอผู้บริหารมา...” เธอยังตอบเขาไม่จบความดีเลยด้วยซ้ำ เสียงสั่งทรงอำนาจเอ่ยไล่อย่างสุภาพทว่ากดดันอยู่ไม่น้อย

“หากต้องการแม่บ้าน จะให้คนแจ้งไปอีกที”

ปทุมมามองของที่ยังเก็บไม่เรียบร้อยดีเลยด้วยซ้ำด้วยสายตาเสียดาย “ขอเก็บของตรงนี้ให้เสร็จก่อนได้ไหมคะ”

ไม่มีเสียงสั่งกำชับของเขาที่ฟังดูเข้มงวดเผด็จการน่าเกรงขามอย่างเมื่อครู่ มีเพียงแววตาเรียบนิ่งมองตอบกลับมาเท่านั้น ปทุมมามองตอบสายตาของเขาแล้วก็เลื่อนสายตาไปมองที่ของที่ยังเก็บไม่เสร็จเรียบร้อยอีกครั้ง เพราะเธอไม่เคยทำงานค้าง ๆ คา ๆ ครึ่ง ๆ กลาง ๆ แบบนี้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าชายคนนี้เป็นใครมาจากไหน แต่การขึ้นมาบนชั้นนี้ได้ก็คงเป็นคนของบริษัทที่สำคัญคนหนึ่งละมัง ว่าแล้วก็รีบเก็บเช็ดซ้ำอีกทีเท่าที่พอทำได้ ค่อยลากรถเข็นออกไปที่ด้านนอกห้อง รีบเข็นรถตรงเข้าลิฟต์ลงมาที่ชั้นล่างอย่างเดิม หัวหน้าของปทุมมาวางสายลงพอดี เห็นเธอลงมาไวก็มุ่นคิ้วสงสัย

“เสร็จแล้วหรือ ทำไมไวจัง”

“ใครก็ไม่รู้ขึ้นไปชั้นผู้บริหารค่ะ เขาบอกให้บัวลงมา ไม่ให้ไปยุ่มย่ามบนนั้น”

“ใครจะขึ้นไปบนนั้นได้นอกจากผู้บริหาร นี่อย่าบอกนะว่ามาแล้วน่ะ”

ปทุมมามองแล้วยิ้มอย่างไม่รู้จะตอบไปว่าอย่างไรดีเพราะเธอไม่รู้ว่าหัวหน้ากำลังพูดถึงใคร แล้วใครหรืออะไรที่ว่านั่นน่ะมาแล้วจริงไหม แต่ก็น่าจะเป็นชายหนุ่มหน้าขรึมเข้มคนนั้นที่ชั้นบนของผู้บริหารเป็นแน่ที่อีกฝ่ายกล่าวถึง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ SHASHAwriter

ข้อมูลเพิ่มเติม
ห้องลับของคุณรัชญ์

ห้องลับของคุณรัชญ์

โรแมนติก

5.0

"ถอดชุดบนตัวเธอออกมาเดี๋ยวนี้!" "หนูทำไม่ได้..." ขวัญลดายังพูดไม่จบดีเลยว่าเธอถอดชุดที่ใส่บนตัวออกไม่ได้เพราะมันรัดมาก ๆ นี่ก็นัดกับออยลี่ ลูกของป้าเนืองไว้แล้วให้มาช่วยถอดชุด ไม่รู้น้องคนที่วานให้ช่วยเหลือจะหลับไปแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นเธอคงต้องฉีกมันออกแทนการถอด แต่เจ้าของห้องลับที่ใคร ๆ พูดปากต่อปากกันว่า ห้องนี้ใครเข้ามาแล้วต้องเสว ก็ปราดเข้ามาปล้ำถอดชุดของเธอออกจนหมด แต่เพราะชุดมันรัดมาก ๆ ดลวรัชญ์ลงมือถอดไปก็สบถไปพลางด้วยอาการหัวเสีย "แต่งตัวเชี่ยอะไรวะ รู้ไหมว่ามันรัดหน้าอก รัดโหนกจนเห็นเป็นเนินนูน นึกว่าลานจอดฮอ" พอชุดถูกถอดออกจนหมด ขวัญลดาค่อยหายใจได้ลึกขึ้นจากเดิม นึกขอบคุณที่เขาช่วยเหลือเธอในครั้งนี้ แม้จะดูเป็นการช่วยที่ไม่ปกตินักก็ตามที "หนูรู้ค่ะ" "รู้แต่ก็ยังใส่" "คุณป้าบอกว่ามันมีชุดเดียว ชุดนี้เมื่อก่อนท่านตัดไว้ให้พี่โรส แต่คุณเล่นพาพี่โรสมานอน หนูก็เลย..." "หึง?" เสียงเข้มถามขัดคำตอบของเธอ ขวัญลดามองเขาแล้วได้แต่ส่ายหน้า เธอยังไม่รู้จักเลยว่า หึง อาการเป็นอย่างไร "ไม่ใช่ค่ะ หนูกำลังอธิบายเรื่องที่ว่าทำไมต้องใส่ชุดนี้" "เธอหึง" คนชอบให้ทุกอย่างหมุนรอบตัวเองอย่างดลวรัชญ์สรุปในสิ่งที่ตัวเองคิดได้ พร้อมด้วยมุมปากที่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะเกร็งมันไว้ให้เหยียดตรงดังเดิม "และเธอเบี่ยงประเด็นนะลดา" "แล้วแต่คุณเลยค่ะ" ขวัญลดาบอกอย่างยอมแพ้ ++++++ เนื้อหานิยายเน้นอ่านเพลิน ๆ ย่อยง่าย ๆ และจบดี แฮปปี้ค่ะ

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

ตราบาปรัก ผู้ชายใจร้าย

โรแมนติก

5.0

คำโปรย ปริญญ์เคยบอกว่ารักเธอ แต่เมื่อมีเหตการณ์บางอย่างทำให้ต้องเลิกรากันไป เขาย้อนกลับมาทำดีด้วย และขอเธอแต่งงาน หลังแต่งงานกับจินดาพรรณมาสี่ปี ปริญญ์เที่ยวคบหาผู้หญิงคนใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้เธออับอาย ... นี่น่ะหรือความรักของเขา ตัวอย่างเนื้อหา "เดี๋ยวดา เรื่องที่เราคุยกันไว้ ดาต้องทบทวนดี ๆ ก่อน..." "พรุ่งนี้เลยปิน พรุ่งนี้ไปเจอกันตามที่ตกลงไว้ได้เลย" ปริญญ์มองเธอนิ่งอยู่เป็นนานสองนาน กว่าจะพูดอะไรได้สักคำหนึ่ง ก็ยากเย็นเต็มที "หรือไม่ ปินว่าเราลอง..." "อย่าเอาแต่พูดหลอกล่อกันแบบนี้อยู่อีกเลยปิน เราสองคนจบกันเท่านี้เถอะ ทิ้งทุกอย่างเอาไว้แค่นี้ ขอให้เลิกแล้วต่อกัน เราจะได้ไม่เกลียดกันมากไปกว่านี้ หรือปินอยากให้ดาเกลียด จนไม่ไปเผาผีกันเลย ก็ได้นะปิน" ได้ยินและได้รู้ถึงความคิดของจินดาพรรณแล้ว ในใจของปริญญ์ปวดแปลบ เสียดและเสียวไปทั้งทรวงอก เขาอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก คิดได้ในตอนนั้นเองว่านี่เขาทำอะไรต่อมิอะไรลงไปนั้น มันแย่มาก จินดาพรรณถึงได้บอกว่าเกลียดเขาถึงขนาดนี้ ปริญญ์รู้สึกได้ถึงก้อนขม ๆ ในคอ เขาฝืนที่จะกล้ำกลืนมันลงไป แล้วขยับเท้าเพื่อถอยหลังออกมา มาได้เพียงครึ่งก้าวแล้วก็ทำอะไรไม่ถูก สายตาเจ็บปวดของเขายังคงมองไปยังจินดาพรรณ เปิดปากเพื่อจะพูดบางประโยคออกไป "แต่ดา...ปินระ...ปินรั" จินดาพรรณหมุนตัว เพื่อกลับเข้าห้อง เธอไม่อยากฟังสิ่งที่เขากำลังจะพูด แต่กลับโดนดึงตัวเข้าไปกอดเอาไว้แนบแน่น เธอไม่ได้ออกแรงดิ้น ทำเพียงปิดตาลง ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้ข้างในลึก ๆ บอกตัวเองว่าอย่าได้ถลำตัวและหัวใจไปกับภาพลวงตาของปริญญ์ อย่าได้หลงคารมของเขาอีกเป็นอันขาด บทจะหวาน ปริญญ์ก็ทำให้เชื่อได้ทั้งนั้น และเขาก็ทำเพียงเพราะต้องการให้เธอหลงเชื่อ เขาหลอกเธอซ้ำ ๆ แล้วทิ่มแทงเธอให้ผิดหวัง เจ็บปวดและเสียใจ ครั้งนี้ก็คงเหมือนกัน ปริญญ์สูดดมกลิ่นของภรรยาเข้าจมูกจนลึกสุดปอด ถูไถใบหน้าไปมาอย่างที่โหยหามาโดยตลอด พร้อมกับพึมพำที่ข้างหูของเธอ "ปินให้เวลาดาคิดอีกสามวัน ระหว่างนี้ถ้าดาเปลี่ยนใจ ก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าดายังคิดแบบเดิม วันนั้นเราค่อยไปเจอที่บริษัทตามที่คุยไว้ แต่ระหว่างนี้ ดาต้องคิดดูดี ๆ ก่อนนะ อย่าใช้อารมณ์ตัดสินใจเด็ดขาด" จินดาพรรณถอนลมหายใจของตัวเองออกยาว ๆ เธอนี่หรือใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ตลอดมามีแต่ปริญญ์ที่ทำแบบนั้น และเธอไม่ต้องการเป็นที่รองรับอารมณ์ของเขาอีกแล้ว คิดได้แบบนั้นค่อยเปิดตาขึ้น แล้วออกแรงดันตัวเองจากอ้อมกอดของเขา หันมามองที่เขาด้วยสายตาว่างเปล่า บอกออกไปตามอย่างที่ตัดสินใจเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ "ดาไม่ต้องคิด ไม่ต้องตัดสินใจอะไรอีกแล้วล่ะปิน ถ้าปินว่างพอ พรุ่งนี้เราก็ไปจัดการเรื่องหย่าให้เรียบร้อยได้เลย" ****************************** แนวพระเอกโบ้ ไม่ได้นอกใจ จบดีและไม่มีใครตุยค่ะ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

อย่าไปยุ่งกับทายาทสาวลึกลับ

Tripp Zakarison
5.0

อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

พระชายาของข้าคนเดียว

พระชายาของข้าคนเดียว

Daryl Tudge
5.0

เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

ห้ามหย่า

ห้ามหย่า

Bronson Heiss
5.0

ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ