Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
รักนี้อยู่ไม่ไกลถึงปลายฟ้า

รักนี้อยู่ไม่ไกลถึงปลายฟ้า

ลิลเอง

5.0
ความคิดเห็น
241
ชม
32
บท

เขาคือผู้ชายที่เพียบพร้อม มีความเสเพลในชีวิตส่วนตัวประสาหนุ่มโสด ผู้หญิงส่วนใหญ่ เห็นเขาเป็นเทพบุตรในฝัน ที่ต่างก้อยากครอบครอง จับจองเขาเป็นของตน แต่เขาก็เปรียวเกินกว่าจะมีสตรีใดจับติด กระทั่งได้เจอกับคู่อริในวัยเด็ก

บทที่ 1 Ep. 1

“ไม่นะคะพราหมณ์ขา อย่าทำอย่างนี้สิคะ ไหนว่ารักพิ้งก์ยังไงล่ะ?”

“ก็รักน่ะสิ ถึงได้...”

เสียงห้าวๆ หายไป เหลือเพียงเสียงฝ่ายหญิงอุทานอย่างตื่นๆ แต่เห็นจะไม่ใช่ตื่นตระหนกตกใจอย่างแน่ๆ สังเกตจากกิริยาบิดกายขนลุกชันออกยังงั้น

“อย่างนี้เขาไม่เรียกว่ารักหรอก อุ๊ย! ดูสิ ยิ่งว่ายิ่งยุ!”

“งั้นก็เลิกว่า ตามใจผมซะดีๆ แล้วผมจะทำให้พิ้งก์มีความสุขที่สุดอย่างที่ไม่เคยเจอะเจอมาก่อน”

“อย่ามาพูดดีเลย”

เสียงเง้างอด ชักจะแตกพร่า มีสาเหตุมาจาก ปาก จมูก และมือที่ไม่ยอมอยู่สุขของชายหนุ่ม

มือที่ดูจะช่ำชองในการสัมผัสปลุกเร้าอารมณ์สาว ยุ่มย่ามบนเนื้อตัวสาวเจ้าเสียยิ่งกว่าหนวดปลาหมึก พอเธอแกะตรงนี้ เขาก็เลื่อนไปแตะตรงนั้น พอยั้งตรงนั้น ก็ขยับมาที่ใหม่ ทำให้พิมลพรรณรู้สึกวาบหวิวเหมือนใจจะขาด

“พอพิ้งก์ยอม…”

เสียงสั่นพลิ้วผ่านริมฝีปากอวบอิ่ม ทั้งที่ใบหน้าแหงนหงายให้ใบหน้าสะอาดคมสันซุกไซ้ตามอำเภอใจ ตาทั้งคู่หลับพริ้มซ่อนแววรัญจวนป่วนจิต

“คุณคงว่าพิ้งก์ง่าย กลายเป็นดอกไม้ริมทาง”

“ใครจะคิดยังงั้นเล่า”

เสียงตอบงึมงำชิดติ่งหู ทำเอาหญิงสาวผู้พยายามเล่นบทสาวไม่เคยชาย ขนลุกเกรียว

“ผมไม่เคยดูถูกผู้หญิงคนไหนที่มีน้ำใจกับผมสักที มีแต่จะ... ซาบซึ้ง”

“ฮึ! คนที่ทำให้ซาบซึ้งคงมีเป็นพันล่ะสิท่า!”

เสียงสั่นพลิ้วหยกๆ ห้วนกริ๊บขึ้นมาทันทีทันใด เมื่อนึกไปว่า กี่ครั้ง และกับผู้หญิงสักเท่าไหร่แล้ว ที่เขาปฏิบัติเยี่ยงนี้ด้วย

“โธ่…พูดอะไรอย่างนั้น ขืนมีเป็นพัน ผมก็ตายเท่านั้น จะเอาเรี่ยวแรงจากไหนมาบริการ”

ชายหนุ่มทำเสียงออด นัยน์ตาคมหวานนั้นยิ่งแล้ว เพราะอ้อนเสียยิ่งกว่าวาจาเป็นสิบเท่า เมื่อหญิงสาวที่ทำท่าจะกลายเป็นหมูในอวยหยกๆ เริ่มปัดป้องจริงจัง เนื่องจากเกิดอาการงอนขึ้นมา

“อย่าเลย... อย่าคิดว่าพิ้งก์ไม่รู้นะว่าใครมั่งที่คุณผ่านมาแล้ว”

ภาวัสลอบถอนใจ เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ ... ‘ให้มันได้อย่างนี้สิน่า! ทำไมผู้หญิงจะต้องมีนิสัยชอบเหน็บแนม ขุดคุ้ยอดีตส่วนตัวของผู้ชายที่เข้ามาติดพันนักก็ไม่รู้ ช่างน่าเบื่อซะจริง!’

แต่ทั้งที่บอกตัวเองว่าน่าเบื่อ แต่สีหน้า รวมไปถึงแววตากรุ้มกริ่มฉายแววผู้ชายเจ้าชู้จัดๆ คนหนึ่ง ก็ไม่เปลี่ยนแปรใด ยังพริ้มพราย ออดอ้อน

“ปฏิเสธไม่ออกใช่ไหมล่ะ?”

เสียงถามแง่งอนหนักขึ้น

“เป็นอดีตไปแล้วน่า” เขาพยายามพูดเอาใจ

“อีกหน่อย พิงค์ก็คงจะกลายเป็นอดีตอีกคนในบัญชีหางว่าวของคุณล่ะสิ? ฮึ!”

“ไม่เอาน่า คนสวย เลิกพูดเรื่องที่จะเป็นบ่อนทำลายอารมณ์ความสุขดีกว่า นะ”

“คุณไม่ต้อง... พราหมณ์... อย่าค่ะโธ่ ! ไม่…นะคะ”

ภาวัสรู้ดีว่าเสียงห้ามปรามนั้นไม่จริงจัง ไม่งั้นก็คงปัดป้องมือ ปาก จมูก ของเขาบ้างหรอก ไม่ใช่เปิดที่เปิดทางให้เขาได้สัมผัส ได้ดอมดมสะดวกโยธินอย่างที่เป็นอยู่

“พราหมณ์…นี่มันห้องรับแขกนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า พิ้งก์ขายหน้าเขาตายเลย”

อย่างน้อยก็ยังมีสติเตือนเขา เมื่อมืออุ่นๆ ที่ยุ่มย่ามอยู่บนเนื้อตัว สอดผ่านชายเสื้อยืดตัวโคร่ง สำหรับสวมอยู่ในห้องส่วนตัวด้วยสบายๆ สัมผัสเนินเต้าอวบหยุ่น

ที่ต้องจำกัดเขตอยู่บ้าง ก็เพราะนอกจากเสื้อยืดตัวโคร่ง ชายยาวถึงต้นขาขาวนวลนี้แล้ว ทั้งเนื้อทั้งตัวของหญิงสาว ก็ไม่มีอาภรณ์ชิ้นน้อยใหญ่ใดๆ อีก ทั้งบนและล่าง

“ไหนว่าไม่มีใครอยู่บ้านไง?”

ริมฝีปากอุ่นซุกไซ้ลงมาตามซอกคอขาวๆ กระซิบถาม

“ถึงไม่มีใครอยู่ก็...อึ๋ย! พราหมณ์ ไป.. ไปห้องพิ้งก์กันดีกว่า”

มีหรือเขาจะไม่ตกลง

ภาวัสไม่ให้หญิงสาวต้องเดินเมื่อย

เขาย่อตัวลง สอดมือเข้าใต้ข้อพับเข่า แขนหนึ่งโอบรอบหัวไหล่ อุ้มตัวลอยเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบนพลาง หยุดเรียกอารมณ์วาบหวามไม่ให้เหือดหายด้วยจูบเร่าร้อนไปพลาง

“ห้องพิ้งก์... ไปทางไหน” เขากระซิบถาม เมื่อขึ้นมาถึงทางเดินชั้นบนของอาคารที่อยู่อาศัยสองชั้นหลังใหญ่

“ตรงไปเลี้ยวซ้าย อยู่ขวามือ ประตูสองค่ะ”

หลังจากได้รับคำตอบ ก็ไม่ยอมเสียเวลา ตรงดิ่งไปเลย

ร่างเพรียวบางตามสมัยนิยมของหญิงสาวยุคนี้ ถูกปล่อยลงยืนกับพื้นหน้าเตียงนอนขนาดห้าฟุต

ภาวัสไม่สนใจที่จะมองไปรอบๆ ห้อง เขารีบขจัดเสื้อผ้าของตัวเอง พาดไว้กับเก้าอี้กลมไม่มีพนักพิงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง

จากนั้นก็ปราดเจ้าหาหญิงสาวที่ยืนกระมิดกระเมี้ยน ทำหน้าขวยเขิน ขัดกับประกายที่ออกจะเจิดจ้า ขณะจับจ้องมองเนื้อตัวเปล่าเปลือยของเขา ที่นอกจากจะวาววับ ยังแฝงไว้ด้วยความกระหายหิวในเรือนกายของเขาอย่างเห็นได้ชัด

ภาวัสซ่อนความขบขันอยู่ลึกๆ นึกอยากรู้ว่า พิมลพรรณจะเล่นบทสาวไม่เคยชายกับเขาไปอีกนานแค่ไหน และจะยุติบทบาทสาวพรหมจรรย์ลงเช่นไร

ใช้เวลาไม่ถึงสองวินาทีด้วยซ้ำ ในการขจัดเสื้อยืดตัวโคร่งที่ห่อหุ้มกายสาว

พิมลพรรณคงลืมตัวไปว่า กำลังเล่นบทสาวบริสุทธิ์ ถึงได้เป็นฝ่ายรุกประชิดเขาก่อน หลังจากถูกเขาปอกเปลือกจนเหลือแต่ตัวล่อนจ้อน เข้ามาสอดประสานมือกับท้ายทอยเขา ขยับนิ้วเสยเข้าไปในเรือนผมดกหนาของเขา เหนี่ยวหน้าเขาลงมามาชิด

หล่อนจูบเขาก่อนอย่างดุดัน เรียกร้อง

ลมหายใจหนุ่มสาวร้อนระอุ มือทั้งสองข้างของชายหนุ่มไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้เปะปะไปทั่ว

ไม่ต้องให้ใครมารับประกันการันตี เขาก็รู้ด้วยตัวเองในบัดใจ ถึงความเป็นสาว “ฮอท” ของหญิงสาวที่เขากำลังเล่นคลุกวงใน

“ไปที่เตียงเถอะพราหมณ์ขา”

หล่อนกระซิบเสียงแทบจะไม่เป็นเสียง ปล่อยมือจากเขาชั่วคราว ขึ้นไปนอนรอการจู่โจมจากเขาบนเตียง แต่ก่อนเขาจะกระโจนตาม เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง ที่กองรวมกับเสื้อบนเก้าอี้กลมหน้าโต๊ะกระจก ก็ดังขึ้น

“ไม่ต้องรับนะคะ ปิดไปเลย”

พิมลพรรณสั่ง เพราะพร้อมเต็มที่จะให้เขาพาบุกน้ำลุยไฟ

ภาวัสเลิกคิ้ว เมื่อสายเรียกเข้ายุดลงชั่วขณะ แต่พักเดียวก็ส่งเสียงขึ้นมาอีก

“ปิดไปเลยค่ะ ปิดไปเลย!”

เสียงของหญิงสาวที่นอนรอบนเตียง เริ่มบอกความหงุดหงิด แต่เขาถอยหลังไปหยิบกางเกงขึ้นมา ล้วงกระเป๋าที่สอดโทรศัพท์เอาไว้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

พอเห็นเบอร์ที่โชว์ ก็เหลือบมองหน้างอๆ ของหญิงสาวแวบหนึ่ง

“สายนี้เห็นจะต้องรับ”

เขาพูด จากนั้นก็กดรับสาย

พิมลพรรณไม่รู่ว้าใครโทรมา พูดอะไรบ้าง เนื่องจากภาวัสนิ่งฟัง หล่อนหน้างอเกือบหัก เมื่อได้ยินเสียงเขารับปากรับคำ

“ครับ- ครับผม! จะไปเดี๋ยวนี้ครับ ... ใครจะกล้าขัดระเสาวนีย์ละคร๊าบ!”

ได้ยินเท่านั้น ก็ให้รู้สึกขัดอกขัดใจเสียเหลือแล้วละ หล่อนน่ะ!

“ผมต้องไปแล้ว คุณแม่โทรมา”

เขาบอกหล่อนหลังจากปิดโทรศัพท์ หยิบเสื้อผ้ามาสวมกลับ

“คุณแม่หรือแม่คุณคนไหนแน่คะ?”

พิมลพรรณถามเสียงไม่เชื่อ นัยน์ตาขุ่น ทั้งผิดหวัง ทั้งน้อยใจ และที่สำคัญยิ่ง เขาทำให้หล่อนอารมณ์ค้าง!

“คุณแม่จริงๆ สงสัยจะเพิ่งได้รับรายงาน เรื่องที่ผมไปอาละวาดที่มาร์ธาฮอร์น ผับ เมื่อคืนก่อน... ต้องขอโทษพิงค์ด้วยละกัน หวังว่าวันหน้าผมจะได้รับเกียรติอย่างวันนี้อีก”

“ไม่นะ! ถ้าคุณไป เราขาดกัน!”

พิมลพรรณทำเสียงอย่างที่เคยทำให้ผู้ชายบางคน ที่มีโอกาสผ่านเข้ามาในชีวิตหล่อนชั่วคราว ต้องยอมตามใจหล่อนมาแล้ว

แต่สำหรับภาวัส เขาแค่เลิกคิ้ว ตามด้วยเสียงพูดราบเรียบ ขณะนัยน์ตาคมจุดประกายขันวับ

“เอางั้นเลยเหรอ?”

“แน่ละ! ไม่เชื่อคุณก็ก้าวออกจากห้องพิ้งก์ไปสิ!”

“ถ้าอย่างนั้นก็... ผมคงต้องกล่าวลาพิ้งก์ซะแต่ตอนนี้สินะ?”

“พราหมณ์!”

“ลาละครับ พิ้งก์ หวังว่าจะหาเพื่อนชายถูกใจ แทนผมได้ใหม่ในเร็ววัน”

“พราหมณ์... ไม่นะ! พิ้งก์พูดเล่น กลับมาก่อน...”

พิมลพรรณฮึดฮัด ก่อนร้องกรี๊ดสุดเสียง เนื่องจากชายหนุ่มไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมามอง

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ลิลเอง

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ