เขาคือเพื่อนพี่ชายที่แอบหลงรักน้องสาวของเพื่อนโดยไม่รู้ตัว ส่วนเธอคือเด็กสาวที่เอาแต่แอบหลงรักรุ่นพี่! โดยมองข้ามใครบางคนไปเช่นกัน เรื่องชุลมุนของคนแอบรักจึงเริ่มต้นขึ้น -------------------------------------- สามเดือน! คือเวลาที่ฉันอยากมาอยู่ใกล้กับเขาก่อนจะห่างกันไป สามเดือน! คือเวลาที่มันสั้นมากสำหรับฉัน แต่เพราะไม่อาจปลอมตัวไปเป็นคนรับใช้เหมือนในละคร นั่นเพราะเป้าหมายอยู่คอนโดมิเนียม จะไปสมัครเป็นแม่บ้านก็เต็ม ถามย้ำกี่ทีนิติบุคคลก็ยังไม่รับเพิ่ม ยามรักษาความปลอดภัยเองก็ด้วย จะไปซื้อห้องอยู่ข้างๆ หรือชั้นเดียวกันเพื่อส่งสายตาปิ๊งๆ หรือหาจังหวะขอความช่วยเหลือห้องก็เต็มอีก…เฮ้อ! รักครั้งนี้ของฉันมันช่างมีอุปสรรคเหลือเกิน ทางออกเดียวที่คิดได้ในตอนนั้นคือมาใกล้ชิดกับพลังงานลึกลับที่มีอิทธิพลต่อใจฉันที่ทำงานมันเสียเลย ถึงขนาดไปบนบานศาลกล่าวก็ยอม นี่คงต้องหาเวลาไปวิ่งแก้บนสักวัน...อิอิ เนื่องจากมีเวลาแค่สามเดือน ฉันจึงต้องทำทุกวันให้มีค่ามากที่สุด ฉันเริ่มวางแผนอันชั่วร้ายในหัว คิดไปคิดมาจึงเตะปลั๊กพ่วงและนั่นทำให้คอมพิวเตอร์ฉันดับสนิททันที “พี่อ้อยคะ คอมหนูพังจะติดต่อฝ่ายไอทีได้ที่เบอร์ไหนบ้างคะ” สีหน้าและแววตาของฉันใสซื่อสุดๆ แต่ในใจนั้นลิงโลด เพราะฉันจะได้เจอคนที่อยากเจอแบบใกล้ๆ ได้สบตา ได้คุย ได้บอกว่าฉันก็ทำงานที่นี่เหมือนกัน อยากรู้จังว่าถ้าเขารู้จะทำหน้ายังไงนะ -------------------------------------- ผมจงใจมอมเหล้าจิณณ์ ใช่แล้วครับ คุณอ่านไม่ผิดหรอก นั่นก็เพราะผมมีอะไรจะสารภาพแต่กลับไม่กล้าพอที่จะพูดออกไปตรงๆ เหล้าที่มีก็ร่อยหรอ เพิ่งรู้ว่าจิณณ์ก็คอทองแดงเหมือนกัน ส่วนสันต์นั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะต่อให้ขนเหล้ามาทั้งโรงงานก็มอมมันไม่ได้ นั่งดื่มกันไปมา โดยผมแอบเทเหล้าทิ้งเสียเป็นส่วนใหญ่ นั่นเพราะกลัวจะเป็นฝ่ายเมาเสียเอง กระทั่งเห็นว่าจิณณ์เริ่มกรึ่มๆ ครึ่งเมาครึ่งมีสติ ผมรีบยกเหล้าในแก้วขึ้นดื่มเพื่อดึงความกล้าชนิดรวดเดียวหมด “จิณณ์ ข้ามีอะไรจะสารภาพว่ะ” “อะไร” “ข้าคิดว่าข้าคิดไม่ซื่อกับน้องสาวเอ็ง” “ยังไงที่ว่าคิดไม่ซื่อ” “ข้าชอบปาย” “อืมม์…ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เดี๋ยวๆ ตะกี้เอ็งว่าอะไรนะไอ้ลม” จิณณ์มันหันมามองหน้าผมนิ่ง แววตาของมันราบเรียบไม่โกรธไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ แบบนี้มันยิ่งน่ากลัว แต่ผมมาถึงขั้นนี้แล้ว เป็นไงเป็นกัน “ข้าบอกว่า ข้าชอบปาย น้องสาวเอ็ง” “ไอ้เพื่อนสารเลว นี่เอ็งคิดจะกินบนเรือนขี้รดบนหลังคาบ้านข้าเหรอวะ ปายคือน้องสาวข้าเป็นเหมือนน้องสาวเอ็งนะเว้ย” จิณณ์โถมตัวเข้าหาผมทันที ขนาดมันเมาแรงยังเยอะราวกับช้างตกมัน “น้องสาวเอ็งคนเดียวไม่เกี่ยวกับข้า” “อ้าว! ไอ้นี่”
“บอสขาบอส”
“บอส”
“บอสขา เจ้านายขา เจ้านายคะ อย่างหลังเข้ากว่ากันตั้งเยอะ เรียกพี่เขาว่าเจ้านายแล้วกัน จะเติมคะ เติมขาก็ปล่อยไปตามสถานการณ์ ถึงตอนนี้จะยังไม่ชินปาก แต่อีกหน่อยก็คงชินไปเองเนอะ” ฉันพูดเองเออเองอยู่ภายในลิฟต์ของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการนำเข้าส่งออก บริษัทที่มีพลังงานลึกลับบางสิ่งบางอย่างดึงดูดให้ฉันสมัครเข้ามาทำงานด้วย
มาทำงานวันแรกก็นินทาเจ้าของบริษัทซะแล้ว ท่าทางอนาคตฉันจะรุ่งริ่งแทนรุ่งเรืองแน่นอน อันที่จริงช่วงนี้ฉันยุ่งพอสมควร เพราะเหลือเวลาอีกแค่สามเดือน ฉันก็ต้องบินไปเรียนต่อที่ต่างประเทศแล้ว แต่ก็เซ้าซี้ขอผู้มีอุปการะคุณว่าฉันอยากทำงานมากถึงมากที่สุด โดยหยิบยกเหตุผลที่แสนจะน่าฟังว่าทำงานเพื่อหาประสบการณ์ แต่ถ้าผู้มีอุปการะคุณรู้เหตุผลที่แท้จริง อาจกระโดดตัวลอยแล้วถีบสองขาคู่ฉันเอาได้ง่ายๆ เหมือนกับที่เพื่อนรักฉันได้ทำมาแล้ว
“โอ๊ย! นี่แกถีบฉันจริงๆ เหรอไอ้พุฒิ”
“เออดิ ก็แกมันโง่งมงาย คิดว่ารักมันสวยงามเหมือนในนิยายหรือไง...ฮะ”
“ก็เปล่าคิดแบบนั้น แต่ฉันแค่อยากอยู่ใกล้พี่เขาก่อนจะบินไปเรียนต่อเท่านั้นจริงๆ”
“อยากอยู่ใกล้แล้วแกจะทำอะไรได้ ขนาดอยู่ใกล้มาตั้งสามปี แกยังได้แค่เฉียด ไม่สิ ได้แค่มองเอง”
“เอาน่า ฉันรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่”
“เออๆ ในเมื่อแกตัดสินใจแล้วก็ตามนั้นล่ะ งั้นแค่นี้นะ พาสามีไปฟิตเนสก่อน”
“ย่ะ”
คิดถึงบทสนทนาระหว่างฉันกับเพื่อนสนิทที่นิยมชมชอบไม้ป่าเดียวกันก็ถึงกับเบ้ปากให้ตัวเองในกระจกที่ติดตั้งอยู่ภายในตัวลิฟต์
แม้พุฒิชัยจะมีคำนำหน้าชื่อว่านาย แต่จิตใจกลับสวนทาง ถึงอย่างนั้นพุฒิชัยคือเพื่อนแท้ของเธอคนหนึ่งก็ว่าได้ เพราะเป็นเพื่อนกันตั้งแต่อนุบาลถึงตอนนี้ เพื่อนแท้ขนาดกระโดดถีบกันมาตั้งแต่เพิ่งรู้จักกันจนถึงตอนนี้และคงเป็นเช่นนี้ไปอีกนาน
ฉันหยุดคิดเรื่องในหัว ก่อนจะมองสำรวจความเรียบร้อยของเสื้อผ้าหน้าผมเสียหน่อย ที่นี่มีชุดยูนิฟอร์มให้พนักงานแม้จะยังไม่ผ่านการทดลองงานก็ใส่ได้ ฉันก็เลยสะดวกไม่ต้องมานั่งคิดนอนคิดว่าทำงานแต่ละวันต้องใส่ชุดอะไร ยังไง แบบไหน สะดวกและประหยัดไปอีกแบบ
สายสีน้ำเงินที่คล้องอยู่บนคอคือสายที่คล้องติดกับบัตรพนักงาน บนบัตรมีรูปสองนิ้วของฉันหนึ่งใบติดอยู่ ใต้รูประบุชื่อและนามสกุล วันเดือนปีที่เข้าทำงานรวมทั้งรหัสพนักงานพร้อม
เภตรา บุตราภา คือชื่อของฉันเอง ส่วนวันนี้คือวันที่ฉันเข้ามาทำงานวันแรก ถึงแม้ฉันจะรู้จักกับผู้บริหารของที่นี่เป็นการส่วนตัว แต่ทำไม๊ทำไมถึงไม่ค่อยอยากเจอพี่เขาเอาเสียเลยก็ไม่รู้ เพราะเจอกันทีไรชอบทำหน้าดุใส่ฉันตลอด จนอยากถามว่าปีทั้งปีพี่เขายิ้มกี่ครั้ง
“หรือจะยิ้มวันที่หนึ่งกับสิบหกเหมือนเรา...ฮ่าๆ” ฉันหัวเราะกับตัวเอง แต่พักหลังๆ วันที่หนึ่งกับสิบหกดูเหมือนจะเป็นวันน้ำตาตกในสำหรับฉันเสียมากกว่า เพราะมันมักจะเสียมากกว่าได้นี่สิ สงสัยฟ้าจะไม่อยากให้ฉันรวยทางนี้
ตึ๊ง!
เสียงลิฟต์ดังขึ้นตามด้วยประตูลิฟต์ที่กำลังเปิดออกเพื่อให้คนที่ยืนรออยู่ด้านนอกเข้ามา ฉันเงยหน้าขึ้นมองจึงรู้ว่านี่คือชั้นสี่ของตึกที่มีทั้งหมดสิบชั้น และคนที่ฉันไม่ค่อยอยากเจอก็ยืนอยู่ตรงหน้า
“พี่ลม” ฉันอุทานชื่อเขาออกมาเบาๆ อย่างลืมตัว เพราะเพิ่งจะนินทาเจ้าของชื่อไปหยกๆ จู่ๆ ก็โผล่พรวดมาแบบนี้ใครจะไม่ตกใจ ไม่เอาข้าวสารเสกปาให้ก็บุญเท่าไหร่แล้ว
อ้อ...ใช่แล้วค่ะ ผู้ชายตรงหน้าฉันคือพี่ลมหรือวายุ เป็นเจ้าของบริษัทแห่งนี้ แถมยังรั้งตำแหน่งเพื่อนสนิทของพี่ชายฉันอีกด้วย อะไรมันจะเจอกันตั้งแต่วันแรกที่มาทำงานแบบนี้ ทำไมฉันถึงไม่เจอคนที่อยากเจอ...หืม
แต่พอรู้ตัวว่าฉันเอ่ยชื่อที่ไม่ควรเอ่ยออกไป นั่นทำให้ฉันรีบเปลี่ยนท่าทีมาเอ่ยเรียกคำที่ฟังดูเหมาะสมกว่า รวมทั้งยกมือไหว้ด้วย
“สวัสดีค่ะบอส” พูดไปแล้วฉันก็อยากเขกกระบาลตัวเอง ไหนบอกจะเรียกพี่เขาว่าเจ้านาย ไหงมาลงได้ที่คำว่าบอส แต่บอสก็บอสอ่ะ ความหมายมันก็เหมือนๆ กันนั่นแหละ
“บอส!” สีหน้าพี่เขาดูแปลกใจที่ฉันเอ่ยเรียกแบบนี้ เอ้!...หรือฉันพูดอะไรผิด
“ค่ะ…บอส”
“อืมม์” พี่เขาเอ่ยรับแค่นั้นแล้วก็ก้าวเข้ามายืนในลิฟต์ที่เวลานี้ไม่มีใครนอกจากเราสองคน บรรยากาศมันชวนอึดอัดแปลกๆ จนฉันอยากเดินออกไปจากลิฟต์เสียตอนนี้ แต่หากทำมันคงเสียมารยาทเกินไป สิ่งที่ฉันทำได้คือขยับไปยืนตัวลีบอยู่ข้างๆ ผนังลิฟต์ ทั้งๆ ที่เหลือพื้นที่ตั้งมากมาย
แต่จู่ๆ ฉันก็ต้องสะดุ้งเมื่อรับรู้ว่ามือยาวๆ ของพี่ลมเอื้อมมากดลิฟต์ชั้นที่สิบ ซึ่งฉันเดาว่าต้องเป็นชั้นที่พี่เขานั่งทำงานแน่นอน ฉันชอบกลิ่นน้ำหอมผู้ชายหรืออะไรก็ตามที่โชยมาเตะจมูกเมื่อครู่นี้จัง กลิ่นมันสดชื่นน่าซบเอ้ย! น่าซื้อให้ใครบางคนได้ใช้บ้าง
ตึ๊ง!
เสียงตึ๊งที่ดังขึ้นช่วยดึงสติของฉันกลับมา แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมองอยู่ดี กระทั่งเสียงคนที่ยืนอยู่ในลิฟต์ดังขึ้น
“ฝ่ายจัดซื้อภายในองค์กรอยู่ชั้นนี้”
“อ้อ…ค่ะ” ฉันเอ่ยรับงงๆ พอเงยหน้าจากพื้นขึ้นก็มองเห็นว่าเป็นชั้นที่ฉันต้องลง ฉันหันมาโค้งให้พี่ลมที่ยืนหล่อเต็มยศด้วยชุดสูทเร็วๆ แล้วรีบจ้ำออกไปจากลิฟต์ทันที
เมื่อประตูลิฟต์ปิดลง คำถามหนึ่งก็พุ่งเข้ามาในหัวของฉันว่าพี่ลมรู้ได้ยังไงว่าฉันทำงานแผนกอะไร แต่ไม่รู้สิแปลกเพราะพี่เขาเป็นถึงเจ้าของบริษัท จะรับใครเข้าทำงานต้องเซ็นรับรอง แต่ที่นี่เดือนๆ หนึ่งรับคนเข้าทำงานก็ใช่ว่ามีแค่คนสองคน แล้วจะมาจำข้อมูลฉันทำไมหรือพี่เขาจำข้อมูลได้หมด
“ฟุ้งซ่าน” ฉันเขกหัวตัวเองแรงๆ เพื่อให้เลิกคิดเองเออเองเสียที แล้วตัดสินใจเดินเข้าแผนกตรงไปรายงานตัวกับผู้จัดการ ซึ่งก็คือคนที่รับฉันเข้ามาทำงาน จากนั้นผู้จัดการก็พาฉันไปแนะนำกับพี่ๆ ฝ่ายจัดซื้อภายในองค์กร ฉันสัมผัสได้ว่าพี่ๆ ทุกคนดูเป็นกันเองมาก
พี่ๆ ใจดีพาฉันไปดูจุดนั้นจุดนี้ว่ามีอะไรในชั้นนี้บ้าง ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องถ่ายเอกสารอยู่มุมไหน ใครนั่งโต๊ะไหนมีหน้าที่อย่างไร แต่ที่ทำให้ใจฉันเต้นแรงคือการได้รู้ว่าที่ชั้นนี้นอกจากมีฝ่ายจัดซื้อภายในองค์กรแล้วยังมีฝ่ายไอทีรวมอยู่ด้วย
“ฝ่ายไอที!” ฉันรำพึงรำพันประโยคนี้อยู่ในหัวจนแทบไม่มีสมาธิคิดเรื่องอื่น เมื่อครู่ที่เดินสำรวจถึงได้รู้ว่าโต๊ะที่ฉันนั่งคือโต๊ะทางเดินกลางที่ใครจะเข้าหรือออกในฝ่ายไอทีต้องผ่านโต๊ะฉันก่อนเสมอ
เพราะฉะนั้นถ้าเป้าหมายฉันเดินผ่านไปผ่านมา ฉันก็ต้องมองเห็นหรือไม่เขาก็ต้องมองเห็นฉันด้วยเช่นเดียวกัน...อ๊ากกก แค่คิดใจฉันก็เต้นรัว มือไม้เย็นเฉียบด้วยความตื่นเต้น กระทั่งประโยคของพี่ในแผนกดังขึ้น
“น้องปายคะ อีกห้านาทีหนูต้องไปปฐมนิเทศพนักงานใหม่ที่ห้องประชุมใหญ่นะคะ เดี๋ยวพี่พาไปจ้ะ”
“ขอบคุณค่ะพี่สวย” ฉันยิ้มให้พี่สวยหรือพี่อรอนงค์ รุ่นพี่ในแผนกที่ฉันสัมผัสได้ว่าพี่เขาใจดีมาก สวยแล้วยังใจดีแบบนี้น่าแนะนำให้พี่จิณณ์รู้จักจังเลย แต่…ขืนทำแบบนั้น ฉันอาจถูกเขกหัวจนโนเอาได้แน่ๆ
ห้านาทีไม่ขาดไม่เกิน พี่สวยก็พาฉันไปห้องประชุมใหญ่ที่อยู่ชั้นแปด พอเปิดประตูเข้าไปฉันก็เห็นพนักงานชายหญิงนั่งอยู่ก่อนแล้วสิบกว่าคนได้ ถามไถ่กันไปมาถึงรู้ว่านี่คือพนักงานใหม่ที่เริ่มงานวันนี้ทั้งหมด ทุกคนขึ้นมาที่นี่เพื่อปฐมนิเทศและกล่าวต้อนรับโดยตรงจากผู้บริหารที่ชื่อว่า…วายุ
บทที่ 1 พนักงานใหม่
28/02/2023
บทที่ 2 เจอคนที่อยากเจอ
28/02/2023
บทที่ 3 ความหวังดีล้วนๆ
28/02/2023
บทที่ 4 ชายในฝันที่แท้จริง
28/02/2023
บทที่ 5 จัดหนักจัดเต็มกันหน่อยสิ!
28/02/2023
บทที่ 6 ความรู้สึกบางอย่าง
28/02/2023
บทที่ 7 เรียนรู้หลายอย่าง
28/02/2023
บทที่ 8 ขืนดีกว่านี้คงได้ขึ้นหิ้ง
28/02/2023
บทที่ 9 ระแวงตลอดเวลา
28/02/2023
บทที่ 10 ทำหน้าที่เลขาส่วนตัว
28/02/2023
บทที่ 11 พลังแห่งความดุ
28/02/2023
บทที่ 12 อันตราย
28/02/2023
บทที่ 13 เพื่อความสบายใจ
28/02/2023
บทที่ 14 พูดอะไรมากเกินไป
28/02/2023
บทที่ 15 คุยฆ่าเวลา
28/02/2023
บทที่ 16 ถูกปฏิเสธ
28/02/2023
บทที่ 17 ไม่ใช่เรื่องแปลก
28/02/2023
บทที่ 18 เข้าไปหาอย่างไม่ลังเล
28/02/2023
บทที่ 19 มีแต่สาวๆ กรี๊ด
28/02/2023
บทที่ 20 Busy
28/02/2023
บทที่ 21 อยากจะร้องไห้
28/02/2023
บทที่ 22 บอสไม่รับแขก
28/02/2023
บทที่ 23 คว้าน้ำเหลว
28/02/2023
บทที่ 24 เห็นแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด
28/02/2023
บทที่ 25 ตัวก็เท่านี้ริจะมาเป็นโจร
28/02/2023
บทที่ 26 กระตือรือร้นเป็นพิเศษ
28/02/2023
บทที่ 27 ปล่อยให้เรื่องวุ่นวาย
28/02/2023
บทที่ 28 เต็มไปด้วยความสงสัย
28/02/2023
บทที่ 29 ลมหายใจแห่งวายุ
28/02/2023
บทที่ 30 ลมหายใจแห่งวายุ
28/02/2023
บทที่ 31 ลมหายใจแห่งวายุ
28/02/2023
บทที่ 32 ลมหายใจแห่งวายุ
28/02/2023
บทที่ 33 รักไปจนวันตาย
28/02/2023
บทที่ 34 ลมหายใจแห่งวายุ
28/02/2023
บทที่ 35 ลมหายใจแห่งวายุ
28/02/2023
บทที่ 36 ลมหายใจแห่งวายุ
28/02/2023
บทที่ 37 ลมหายใจแห่งวายุ
28/02/2023
บทที่ 38 ลมหายใจแห่งวายุ
28/02/2023
บทที่ 39 ลมหายใจแห่งวายุ
28/02/2023
บทที่ 40 ลมหายใจแห่งวายุ
28/02/2023
หนังสืออื่นๆ ของ วรนิษฐา / Miss sexy
ข้อมูลเพิ่มเติม