Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
4.5
ความคิดเห็น
158.8K
ชม
96
บท

“อย่าบอกนะว่าเธอกำลังคิดเรื่องลามกอยู่ เธอนี่มันหื่นตัวแม่จริงๆ เดี๋ยวก็อ่อย เดี๋ยวก็ยั่ว ใจคอจะปล้ำฉันให้ได้เลยใช่ไหม” เขาว่าพลางส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะหันไปลอบยิ้มอีกทาง แม้ว่าลึกๆ ในใจ ‘สุดที่รัก’ จะอยากเป็นเจ้าสาวของ ‘เลโอนาร์ด แบร์นาร์ด’ มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลแห่งสเปนมากเพียงใด แต่เพราะมาดขรึมๆ กับหน้านิ่งๆ ของเขา มันเลยทำให้เธออยากรู้จริงๆ ว่าการหมั้นครั้งนี้เกิดจากความเต็มใจของเขารึเปล่า ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูน และเธอก็ไม่ได้ไร้เสน่ห์จนเกินเยียวยา เธอจึงต้องยั่ว ยั่วให้เขารู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอไม่ได้มีดีแค่ยั่วโมโห ถึงจะเป็นการยั่วระดับอนุบาลก็เถอะ แต่เชื่อเถอะว่าเธอจะทำให้เขาหวั่นไหวได้…มั้ง “หยุด ไม่ต้อง ฉันถอดเองได้” สุดที่รักบอกพลางรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองเร็วๆ ด้วยกลัวว่าเขาจะฉีกมันอีก “ทำอะไร” เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ก็มันเสียดาย คุณถอดเองทีไรมันกลายเป็นเศษผ้าทุกที เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ห้ามคุณถอดเสื้อผ้าฉันอีกเป็นอันขาด” สีหน้าจริงจังของเธอ ทำเอาเลโอนาร์ดถึงกับหลุดขำออกมา “เธอจะเป็นคนถอดเองทุกครั้งที่ฉันต้องการงั้นสิ” “อืม! เฮ้ย! ไม่ใช่ ถอดทุกครั้งที่คุณต้องการ ฉันก็แย่น่ะสิ” เธอรีบแก้ต่างเมื่อเผลอรับคำเขาไป “แล้วจะเอายังไง” “โอ๊ย! คนบ้านี่ฉันเจ็บนะ ก็ในเมื่อคุณไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่รัก ไม่หึง ไม่หวง แล้วคุณจะมาสนใจอีกทำไมว่าฉันจะคบจะคุยกับใคร นอกเสียจากว่าทั้งหมดที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ คุณจะยอมรับว่าคุณรักฉัน ไม่งั้นคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามไม่ว่าฉันจะคุยกับใคร” “อืม!” เฮ้อ! จะฟังคำว่ารักจากผู้ชายคนนี้มันช่างยากซะจริง

บทที่ 1 01

ในคืนวันแต่งงานของเพื่อนรักอย่างจิโอวาโน่ กับไอรดา แทนที่เขาจะได้อยู่ชื่นมื่นรื่นรมย์ในงาน แต่เลโอนาร์ดกลับต้องมาขลุกอยู่กับคนเมาอย่างสุดที่รัก แต่จะว่าไปที่เธอต้องเมาไม่ได้สติแบบนี้ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขานี่แหละ

“ยัยซื่อบื้อ ดื่มไม่เป็นก็ยังจะดื่มเข้าไป เป็นไงล่ะ เมาเหมือน…เฮ้อ ฉันเลยพลอยซวยไปด้วย ฮึ่ย! ยัยเมรีขี้เมา” เลโอนาร์ดบ่นกระปอดกระแปด เมื่อต้องรับหน้าที่ดูแลคนเมา แทนที่จะได้ไปร่วมสนุกในงานแต่งงานของเพื่อนอย่างที่ควรจะเป็น

“อืม! เสียงใครวะ หนวกหูชะมัด คนจะหลับจะนอนเห่าอยู่ได้” เขาถึงกับกัดฟันกรอด เมื่อจู่ๆ คนเมาก็ลุกขึ้นมาโวยวายหาว่าเขาเป็นหมา

“เธอนี่มัน ให้ตายสิ! ถือว่าเธอเมาหรอกนะ ไม่อย่างนั้นได้เห็นดีกันแน่” เขาได้แต่ขู่ฟ่อ เมื่อทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งเฝ้า

“คราย ครายเมา ฉานม่ายด้ายเมาสักหน่อย ไปเอาเหล้ามาอีกสิ เดี๋ยวแม่ดื่มโชว์ให้ดูเลย” สุดที่รักบอกเสียงอ้อแอ้พร้อมกับยกแขนขาปัดป่ายไปมาก่อนพยุงร่างเมาแอ๋ของตัวเองลุกขึ้นมา เดือดร้อนให้เขาต้องเข้าไปห้ามไว้อีก เพราะถ้าขืนปล่อยให้คนเมาลุกขึ้นมาเดินอย่างที่ต้องการแล้วล่ะก็ มีหวังได้ล้มหัวทิ่มกันบ้าง

“นี่อยู่นิ่งๆ ไม่ได้รึไงเล่า เมาแล้วก็นอนเฉยๆ สิ” เขาพยายามกดเธอให้นอนลงบนเตียงตามเดิม

“อื้อ! เหม็นชะมัด นี่เธอดื่มหรืออาบกันแน่ โว้ย! อยากจะบ้าตาย ทำไมต้องเป็นกูด้วยวะเนี่ย” เขาเอามือปิดจมูกทันทีที่ได้กลิ่นเหล้าเหม็นคละคลุ้งมาจากเสื้อผ้าที่เธอสวมอยู่

“เอาวะ ขืนปล่อยไว้แบบนี้ ยัยนี่ต้องเน่าแน่ๆ” เขาถอนหายใจหนักก่อนหันไปคว้าผ้าห่มผืนใหญ่ที่วางอยู่ข้างๆ มาคลุมตัวเธอไว้ จากนั้นก็สอดมือเข้าไปจัดการกับเสื้อผ้าของเธอ แต่ขณะที่เขากำลังง่วนและมุ่งมั่นกับการปลดปกระดุเสื้อให้เธออย่างยากลำบาก จู่ๆ เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

“โอ๊ย!” เขาร้องเสียงหลง เมื่อคนเมาดันยกขาขึ้นมาถีบที่หน้าอกเขาอย่างจัง ทำเอาคนไม่ทันตั้งตัวถึงกับล้มลงไปนอนกองอยู่กับพื้นด้วยความโมโห

“ฤทธิ์เยอะนักนะยัยตัวดี ดี! ในเมื่ออุตส่าห์หวังดีแต่เธอไม่ชอบ ก็ถอดมันทั้งอย่างนี้แหละ” เขากระชากผ้าห่มผืนเดิมทิ้งไปอย่างไม่ใยดี จากนั้นจึงพยายามปล้ำถอดชุดนั้นของเธอออกอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะแม่คุณดันไม่ให้ความร่วมมือ มิหนำซ้ำยังต่อต้านด้วยการดิ้นไปดิ้นมา สุดท้ายก็เลย…

แควก...! ชุดตัวสวยกลายเป็นผ้าขี้ริ้วไปในบัดดล แต่ก็ใช่ว่าเขาจะสน ยังคงตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับชุดสุดจะน่ารำคาญของเธอต่อ และกว่าที่ชุดนั้นจะถูกปลดเปลื้องออกไป ก็ทำเอาเขาถึงกับเหงื่อท่วม แล้วก็ยิ่งท่วมมากขึ้น เมื่อได้หยุดมองเธอชัดๆ

“เวรเอ๊ย! หาเรื่องใส่ตัวแล้วไหมล่ะ” เขาสบถเบาๆ พลางลอบกลืนน้ำลายกับภาพตรงหน้า ก็ทั้งเนื้อทั้งตัวแม่คุณเหลือแค่ชั้นในตัวจิ๋วแค่สองชิ้น อา…! ให้ตายสิ ชั้นในสีเข้มที่ตัดกับผิวขาวๆ ทำเอาเขาถึงกับเสียการอาการ จนต้องเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเองด้วยการหาผ้ากับน้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้ แต่ใครจะคิดว่า

และเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องกระวนกระวายจนไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาจำต้องดึงความสนใจออกไปจากภาพเย้ายวนนี้ซะ ชายหนุ่มรีบไปหาผ้ากับน้ำอุ่นๆ มาเช็ดเนื้อตัวของให้ แต่ทันทีที่เริ่มลูบไล้ เชื้อไฟที่กำลังจะมอดดับกลับรุกโหมกระพือขึ้นมา สายตาคู่คมกวาดมองไปทั่วนวลเนื้อโดยไม่รู้ตัว

“เฮ้ย!” เขาผุดลุกทันควันพร้อมกับสะบัดหน้าไปมาแรงๆ อย่างพยายามขับไล่ความฟุ้งซ่านก่อนหน้าให้มลายหายไป ก่อนจะตวัดผ้านวมผืนใหญ่มาคลุมร่างเกือบเปลือยของเธอไว้

“เฮ้อ!” ชายหนุ่มถึงกับถอนหายใจหนักๆ ขณะมองคนที่ทำให้เขาต้องเสียแรงไปตั้งเยอะ ดังนั้นจึงอยากนอนพักเอาแรงบ้าง แต่ยังไม่ทันจะได้หย่อนก้นบนโซฟา คนที่หลับไปแล้วในคราแรกทำให้เขาต้องเด้งตัวขึ้นมาอีกครั้ง

“เฮ้ย! นั่นเธอจะไปไหน ทำไมถึงได้วุ่นวายขนาดนี้วะ” เขารีบเข้าไปขวางเธอไว้ เมื่อเห็นว่าเธอลุกขึ้นจากเตียงด้วยท่าทางลนลาน จึงกลัวว่าเธอจะหกล้มจนได้รับอันตรายอีก

“อื้อๆๆ” แต่ดูเหมือนสุดที่รักจะไม่ยอมตอบอะไรนอกจากส่งเสียงอู้อี้ออกมา พร้อมกันนั้นก็ยังพยายามผลักเขาให้พ้นทางอีก แต่มีหรือที่เขาจะยอมให้เธอทำได้อย่างใจ นอกจากเขาจะไม่ยอมปล่อยแล้วเขายังกอดเธอเอาไว้แน่น เพื่อไม่ให้เธอก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นอีก แล้วแรงหญิงขี้เมาอย่างเธอหรือจะสู้แรงชายชาตรีอย่างเขาได้ และในเมื่อเธอไม่สามารถขยับไปไหนได้อีก สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ก็คือต้องปล่อยมันออกมาให้หมดนั่นเอง

อ๊วก...! ตูม...! สุดที่รักอาเจียนออกมาจนหมดเมื่อไม่สามารถเข้าห้องน้ำได้อย่างที่ต้องการ ยังผลให้ทั้งงเธอและเขาเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว ที่สำคัญกลิ่นของมันยังทำให้เขาทำท่าสะอิดสะเอียนจนอยากจะผลักเธอออกไปซะเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่กลัวว่าเธอจะหงายหลังล้มตึงแล้วก็เป็นภาระให้เขาในภายหลังอีกล่ะก็ เธอได้ลงไปนอนกองอยู่กับพื้นแน่ๆ งานนี้

“ฮึ่ย! เหม็นชะมัด เธอนี่มันตัวซวยจริงๆ ให้ตายสิ” เขาสบถพร้อมกับลากเธอให้เข้าไปในห้องน้ำพร้อมกัน จากนั้นจึงเปิดน้ำจากฝักบัวให้ชะล้างคราบอาเจียนที่เธอฝากเอาไว้ จนคนเมาที่ทำท่าจะสิ้นฤทธิ์ไปแล้วต้องงแผลงฤทธิ์ขึ้นมาด้วยการดิ้นขลุกขลักและพยายามจะเดินออกมาจากน้ำเย็นๆ นั้นให้ได้ แต่ก็ถูกเขารั้งเอาไว้พร้อมกับปลดชั้นในตัวน้อยทั้งสองชิ้นของเธอไปด้วย ทำเอาคนที่หนาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วถึงกับผวากอดเขาเอาไว้แน่นเพื่อหาความอบอุ่นทันที

“เธอเล่นกอดฉันแบบนี้ แล้ววันนี้จะได้อาบกันไหมเล่า” เขาว่าพร้อมกับดันตัวเธอให้ถอยออกห่าง เพื่อจัดการอาภรณ์ของตัวเองบ้าง จนกระทั่งทั้งคู่อยู่ในสภาพเดียวกันแล้วนั่นล่ะ เขาจึงจัดการกับความสกปรกของทั้งเธอและเขาไปพร้อมกันได้ ในขณะที่กำลังจัดการกับร่างกายตัวเอง แต่สายตากลับไม่ยอมละจากใบหน้าของเธอแม้แต่น้อย ยิ่งเห็นเธอยืนสั่นสะท้านพร้อมกับเสียงฟันที่กระทบกันดังกึกๆ ก็ยิ่งปลุกความปรารถนาในร่างกายของเขาให้พลุ่งพล่านมากขึ้นอีก และครั้งนี้เขาคงไม่อาจทำใจให้ปล่อยเธอไปเฉยๆ ได้อีก

เลโอนาร์ดกระชากร่างบางเข้าหาตัวเองแรงๆ พร้อมกับประทับริมฝีปากลงบนปากนุ่มๆ ของเธออย่างเรียกร้อง ความต้องการที่กำลังปะทุมากขึ้นทุกที เรียกร้องให้เขาต้องยื่นมือไปสัมผัสเนื้อตัวของเธอเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดของตัวเอง

“อือ...!” สุดที่รักครางเสียงแผ่วพร้อมกับลูบไล้สัมผัสเขาเช่นเดียวกับที่เขาสัมผัสเธอ ยังผลให้คนที่ฮึกเหิมอยู่แล้วยิ่งลำพองขึ้นอีก เพราะไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะฤทธิ์จากน้ำเมาหรือจิตใต้สำนึกของเธอกันแน่ ที่ทำให้เธอเร่าร้อนและตอบสนองทุกสัมผัสของเขาทั้งๆ ที่ไม่ประสาแบบนี้ แต่ให้ตายเถอะ เธอกำลังจะทำให้เขาหยุดตัวเองไม่ได้ซะแล้ว

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ผลิกา(เลอบัว)

ข้อมูลเพิ่มเติม
I'm yours ยกหัวใจให้คลั่งรักยัยเลขา

I'm yours ยกหัวใจให้คลั่งรักยัยเลขา

มหาเศรษฐี

5.0

เพราะอดีตทำให้ผูกพัน แต่ปัจจุบันทำให้รักหมดใจ พริบพราวพนักงานบัญชีตัวเล็กๆ ที่แทบไม่มีใครรู้จัก ต้องจับพลัดจับผลูกลายมาเลขาท่านประธานคนใหม่ ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะโชคชะตา หรือเพราะเขาเป็นคนกำหนดมาตั้งแต่แรกกันแน่ “ทำไมคุณถึงอยากให้ฉันมาอยู่ที่นี่คะ” “มันคงถึงเวลาแล้วมั้ง เวลาที่เธอควรกลับมาที่ที่เธอควรอยู่ เวลาที่ฉันจะทวงทุกอย่างของฉันคืน” เขาว่าพลางจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอให้หันมาประจันหน้ากัน “ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี หลายครั้งที่คุณไม่ยอมตอบคำถามฉัน หลายครั้งที่คุณเอาแต่พูดจากำกวม แล้วทุกครั้งคุณก็ทำให้ฉันสงสัย สุดท้ายฉันก็ยังไม่ได้คำตอบจากคุณ เฮ้อ! ใจคอคุณจะไม่ตอบอะไรฉันเลยใช่ไหมคะ” “ตอบสิ ฉันจะตอบทุกอย่างที่เธอสงสัยและอยากรู้ แต่…หลังจากที่เธอให้ในสิ่งที่ฉันต้องการแล้วเท่านั้น” เขาบอกพลางหยักยิ้มมุมปาก “แล้วคุณต้องการอะไร” “เธอไง” เขาโน้มลงมาบอกเสียงกระเส่า ทำเอาเธอถึงกับประหม่าจนต้องกัดเม้มริมฝีปากอย่างไม่รู้จะจัดการกับสถานการณ์ตอนนี้ยังไงดี โดยไม่รู้เลยว่าท่าทางของตัวเองกำลังปลุกเร้าบางอย่างในตัวเขาให้กระเจิดกระเจิง “ฉันชักอยากตอบเธอตอนนี้แล้วสิ เธออยากรู้อะไรพริบพราว” ใบหน้าเขาแดงก่ำ อีกทั้งเสียงทุ้มๆ ก็ยังแหบพร่า อา…! ดูเหมือนนี่จะเป็นสัญญาณอันตรายที่เธอควรหลบเลี่ยง แต่ให้ตายเถอะ! สองขาของเธอกลับไม่ขยับเขยื้อน ราวกับถูกตรึงไว้ กระทั่งใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้และสัมผัสไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มเบาๆ จากนั้นก็เลื่อนขึ้นมาสัมผัสดวงตาทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยน แล้วเลื่อนลงมาจูบที่จมูกอย่างอ้อยอิ่ง อา…! ร่างกายเขากำลังเรียกร้องรุนแรง จนหัวใจเขาไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป

พ่ายรักเล่ห์มาเฟีย(1)

พ่ายรักเล่ห์มาเฟีย(1)

มหาเศรษฐี

4.9

“หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้ไอรดา อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสา คิดเหรอว่าผมโง่จนดูไม่ออกว่าคุณกำลังเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่ประสา เพราะยังไงผมก็ไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่อยากได้สเปิร์มคนอื่นจนตัวสั่นอย่างคุณจะไม่สันทัดเรื่องพวกนี้ บางทีคุณอาจจะช่ำชองกว่าผมก็ได้ใครจะไปรู้ ทำไมไม่แสดงมันออกมาให้ผมดูล่ะ เผื่อว่าถ้าผมติดใจ อาจจะแบ่งสเปิร์มฝากไว้ในตัวคุณบ้างก็ได้” ใบหน้าแดงก่ำนัยน์ตาดุกร้าวของเขาบอกให้รู้ว่าตอนนี้เขากำลังไม่พอใจ ที่เธอพยายามดิ้นรนขัดขืน ทั้งที่ร่างกายของเธอกำลังตอบสนองต่อสัมผัสของเขา และมันยิ่งทำให้เขาขัดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อคิดว่าเธอเคยพลีกายให้ชายอื่นครอบครองมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน “อ๊าย! ไอ้บ้า ไอ้ยักษ์ปากเสีย ฉันไม่ใช่พวกสำส่อนอย่างคุณนี่ ที่เอะอะก็จะพากันขึ้นเตียงอย่างเดียว” ไอรดายังพยายามผลักไสทุบตีเขาเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยๆ ถ้าเธอจะเสียตัวอีกเป็นครั้งที่สอง เขาก็ควรเจ็บตัวเป็นการตอบแทนบ้าง “จะบอกว่าคุณยังซิงว่างั้นสิ” จิโอวาโน่ยังคงไมเชื่อ และเมื่อเธอพยักหน้าหงึกหงักเขาจึงพูดต่อ “งั้นคงต้องให้ผมพิสูจน์หน่อยแล้วล่ะ ว่าลีลาของผมพอจะทำให้คุณเผยธาตุแท้ออกมาได้บ้างรึเปล่า” สรุปว่าเขายังไม่เชื่ออยู่ดี “กรี๊ด...! อุ๊บ!” เธอกรีดร้องได้แค่นั้น เมื่อเขาทาบทับริมฝีปากลงไปอีกครั้ง และดูเหมือนครั้งนี้เขาจะพยายามหลอกล่อให้เธอตกหลุมพรางอย่างที่เขาว่าเอาไว้ด้วยสัมผัสหนักหน่วงและปลุกเร้าไปในคราวเดียวกัน หญิงที่ไม่ประสาอย่างเธอจึงได้แต่ครางอืออาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยกำลังสับสนมึนงงกับสัมผัสเรียกร้อง รุกเร้า โอ้โลมจากผู้ชายที่ชื่อจิโอวาโน่ และด้วยเสียงครางบวกกับการตอบสนองของเธอทำให้เขายิ้มมุมปากสมใจ คิดว่าคงถึงเวลาที่จะทำให้เธอดิ้นไม่หลุดยอมจำนนต่อหลักฐานว่าเธอมันก็แค่ผู้หญิงร่านรักและเคยผ่านผู้ชายมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นเอง “กรี๊ด...!” เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของไอรดา ทำให้จิโอวาโน่ถึงกับชะงักค้าง พลัน! หยุดการเคลื่อนทุกอย่างลง “นี่คุณยัง...”

บุพเพรัก กับดักมาเฟีย

บุพเพรัก กับดักมาเฟีย

มหาเศรษฐี

5.0

***“เธอรู้อะไรไหมแก้วตา ความจริงฉันหวั่นไหวตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเธอแล้ว แต่ฉันแค่ไม่อยากยอมรับ เพราะฉันยังไม่อยากมีครอบครัว คิดดูสิว่ามาเฟียเพลย์บอยอย่างฉัน จะต้องกลายเป็นผู้ชายกลัวเมีย ไม่อะ ฉันยอมรับไม่ได้ มันเสียเชิงชาย” ***ถึงเธอจะตบตาเขาว่าเป็นผู้ชาย แต่เชื่อเถอะว่าเขาจำเธอได้ตั้งแต่วันแรกที่เธอเหยียบเข้ามาในถิ่นเขาแล้ว ในเมื่อเข้ามาแล้วก็อย่าหวังว่าจะได้กลับออกไปง่ายๆ แล้วเธอจะได้รู้ว่าเขาเจ้าเล่ห์และเผด็จการกว่าที่เธอคิด ***เพราะความจำเป็นบีบบังคับ ทำให้แก้วมุกดาจำต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อขึ้นไปทำงานบนเรือสำราญลำหรู แต่ใครจะคิดว่าโลกจะกลมทำให้เธอได้พบกับผู้ชายร้ายกาจอย่างอเล็กซิสที่นี่ ที่สำคัญเขายังเป็นเจ้านายเธอด้วย ***อเล็กซิส มอนเตอโร เพลย์บอยและมหาเศรษฐีเจ้าเสน่ห์ ข้างกายเขาที่ไม่เคยขาดแคลนผู้หญิง ทำให้เขาถูกขนานนามว่า “คาสโนวาตัวพ่อ” เพราะเพียงแค่ขยิบตา ผู้หญิงมากมายก็พร้อมจะกระโดดขึ้นเตียง คงมีแต่เธอนี่แหละที่ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์เพทุบายถึงจะได้เชยชมความสดสาวแม่คุณ ***“ไอ้หื่น ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าฉันจะเลอะเลือนถึงขั้นข่มขืนคุณได้ ไม่อย่างนั้นฉันต้องรู้สึกอะไรบ้างสิ แต่นี่ฉันไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย ไม่เชื่อก็ดูนี่สิ อุ๊ย!” เธอเคยได้ยินมาว่าผู้หญิงที่เสียความบรสุทธิ์ครั้งแรกจะต้องรู้สึกผิดปกติอะไรบางอย่าง เธอจึงลองขยับตัวเพื่อพิสูจน์ กระทั่งรู้สึกร้าวระบมไปทั้งตัว ‘อย่าบอกนะว่าเราบ๊ะจ้ำบ๊ะกับอีตาหื่นนั่นแล้วจริงๆ ไม่! ฉันเสียตัวให้เขาแล้วจริงๆ’ เหมือนเธอจะอึ้งไปชั่วขณะ รู้สึกเหมือนโลกกำลังหยุดหมุน เหมือนมีคนเอาค้อนหนักๆ มาทุบที่หัวเข้าอย่างจัง ที่แรกก็คิดว่าเขาอำเพราะอยากแกล้งเธอเหมือนๆ กับในละครที่พระเอกอยากแก้แค้นนางเอกเลยจัดฉากให้ดูเหมือนว่าพวกเขาได้เสียกัน แต่ให้ตายสิ! ฉากที่เธอเจอกับตัวในวันนี้มันสมจริงยิ่งกว่านั้น เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะชัดเจนในความรู้สึกเธอ ‘ฉันเสียตัว ฉันเสียตัวแล้วจริงๆ ฉันเสียตัวให้กับผู้ชายคนนี้ ไม่.....’ ***“แล้วเมียไม่สงสารผัวบ้างเหรอ จะปล่อยให้ผัวนอนตัวแข็งแบบนี้ทั้งคืนจริงๆ อะเหรอ เมียก็เห็นว่าผัวไม่ได้แข็งแค่ตัว อย่างอื่นของผัวก็แข็ง สงสารผัวเถอะ ผัวขออีกแค่ประตูเดียวเอง ผัวจ๋ารักเมียจ๋านะ ผัวอยากมีลูกกับเมียจริงๆ”ให้ตายสิ เธอจะแพ้เสียงออดอ้อนกับคำว่ารักของผู้ชายคนนี้ทุกครั้งเลยรึไง

บทเรียนลับคลับชั้นสูง

บทเรียนลับคลับชั้นสูง

มหาเศรษฐี

5.0

ว่าแล้วเธอจำต้องยอมสวมบทเป็นนางทาสแต่งตัวให้นายท่านอย่างเขาด้วยความจำใจ แต่เธอก็มีวิธีที่จะไม่ต้องเห็นภาพบาดตานั่น ด้วยการปิดตามันดื้อๆ นี่แหละ รับรองไม่เห็นชัวร์ (เอ่อ! แต่ไอ้การปิดตาแบบนี้ ถึงมันจะไม่เห็นแต่มันก็ยังสัมผัสได้นี่) ยังไม่ทันขาดคำ ขณะที่เธอกำลังคุกเข่าเพื่อสวมอันเดอร์แวร์ให้เขาพร้อมกับปิดตาไปด้วย และไอ้การที่เธอกำลังปิดตานี่แหละที่ทำให้เธอทำอะไรไม่ค่อยสะดวก พยายามคลำโน่นคลำนี่เงอะงะไปหมด แน่นอนว่ามันอันตรายต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรของเขาด้วยเช่นกัน และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา เขาจึงพยายามเหวี่ยงตัวหลบมือเรียวของเธอ ในขณะที่เธอกลับพยายามไล่ตามจับมันอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน ให้ตายเถอะ! ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเธอกำลังคลำหาอะไร แล้วเธอมาไล่จับของเขาเพื่ออะไรเนี่ย เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก เขากับเธอยังคงเล่นไล่จับกันอย่างเสียวไส้ ด้วยการขยับเอวซ้ายขวาซ้าย เอ้าซ้ายขวาซ้าย ‘ซึ่งกูไม่เข้าใจเลยว่าทำไมกูต้องมายืนส่ายเอวอยู่แบบนี้ด้วย ให้ตายเถอะกูอยากถ่ายภาพนี้เก็บไว้จริงๆ เลย แม่คุณจะได้รู้ว่า ตัวเองกำลังตามล่าอะไรอยู่’ แต่เมื่อทำแบบนั้นไม่ได้ เขาจึงต้องส่ายเอวต่อไป เธอขยับมาทางซ้าย เขาจึงย้ายมาทางขวา เมื่อเธอไล่ตามมา เกือบจะคว้าได้แล้วเชียว เขารีบเบี่ยงตัวหลบ กลัวจะพบกับความเสียว ขยับเอวเพียงนิดเดียว เธอกลับเลี้ยวตามมาทัน (หมับ!!!) “ฮ่าๆๆ จับได้แล้ว” เธอหัวเราะชอบใจ เมื่อในที่สุดเธอก็คว้าหมับเข้ากับอะไรบางอย่างได้สำเร็จ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร เมื่อไม่รู้ก็ต้องดูให้เห็นกับตา “กรี๊ด...! ลามกจกเปรต ทุเรศที่สุด เอามันออกไป เอาออกไปเดี๋ยวนี้นะ” เธอโวยลั่นกับบางอย่างที่อยู่ในมือ แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ มือเธอที่กำลังขยับส่ายไปส่ายมาราวกับจับปลาชะโดตัวโต ทำเอาคนถูกจับถึงกับต้องรีบขยับตามแทบไม่ทัน ราวกับกลัวว่ามันจะหลุดติดมือเธอไป ให้ตายเถอะ! ไม่เข้าใจว่าแม่คุณจะส่ายไปส่ายมาเพื่ออะไร ‘ไม่ใช่ปลาช่อนนะเว้ยเฮ้ย! แล้วมันก็ดิ้นไม่ได้ เอ๊ะ! หรือว่าได้วะ’ “นี่! แม่คุณ ช่วยตั้งสติแล้วก้มมองหน่อยเถอะ ว่าไอ้ที่อยู่ในมือคุณน่ะ ผมไปบังคับให้คุณจับมันรึเปล่า อูว! ถ้าขืนคุณยังไม่หยุดขยับตั้งแต่ตอนนี้ล่ะก็ เกิดปลาที่อยู่ในมือคุณมันพ่นน้ำออกมาอย่าหาว่าผมไม่เตือน” คำเตือนของเขาทำเอาเธอถึงกับรีบปล่อยมือทันที อีโรติก

ลิขิตรักใต้ผืนทราย

ลิขิตรักใต้ผืนทราย

สมัยใหม่

4.7

ความวุ่นวายบังเกิดเมื่อเธอดันมีตาวิเศษ และเขาก็ดันมีหูทิพย์ คนนึงมองผ่านทะลุเสื้อผ้าไปเจอซิกแพ็ก ส่วนอีกคนก็ดันได้ยินความคิดหื่นๆ ชีคอัฟฟาน อับดุล ฮาหมัด คาริฟา เจ้าชายมาดนิ่ง นิ่งซะจนไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย ยกเว้นเธอ ไม่ยุ่งก็บ้าแล้ว ก็แหมทั้งหล่อล่ำกล้ามแน่นขนาดนั้น ใครจะไปอดใจไหว ถึงจะเป็นของหวงห้าม แต่ถ้าลวนลามทางความคิดก็คงไม่มีใครว่า พรสวรรค์ สาวแว่นสุดเนิร์ดที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ จริงๆ ก็ไม่ได้เนิร์ดหรอก แว่นที่ใส่ก็ใส่ไว้แค่พรางตาเฉยๆ ขืนไม่ใส่คงได้เป็นตากุ้งยิงทั้งปีทั้งชาติแน่ ไม่รู้ว่านี่เรียกว่าพรสวรรค์หรือฟ้ากลั่นแกล้งกันแน่ที่ประทานดวงตาที่สามารถมองผ่านทะลุเสื้อผ้าได้ นี่ถ้าไม่มีแว่นหนาๆ มาพลางไว้ล่ะก็ทั้งเมาคลีทั้งชีเปลือยนี่เดินกันให้ว่อน เห็นของผู้หญิงก็ดีหน่อย แต่เห็นของผู้ชายก็ดีกว่า เอ้อ! ไม่ใช่ๆ อืม! ใช่ก็ได้ เฮ้อ! ทีนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าเธอเนิร์ดหรือไม่เนิร์ด “นี่ก็เหมือนจริง” ไม่พูดเปล่า แต่แม่คุณยังพิสูจน์ด้วยการจับหมับลงไป ยังผลให้เจ้าของกล้ามสะดุ้ง ก่อนจะต้องกัดกรามกรอด เมื่อมือนั้นเริ่มขยับลูบไล้ไปมา “นี่ก็เหมือนจริง” เสียงเธอสูงขึ้นด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่มือเรียวกลับเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่กล้ามหน้าท้องที่เป็นลอนสวยงามตามอย่างบุรุษเพศผู้ดูแลตัวเอง ก่อนจะบีบขยำมันด้วยความกระหายใคร่รู้ ในตอนนั้นเองที่ทำให้เธอเหมือนจะมีสติรู้ตัวขึ้นมา “บ้าบอ! เธอเป็นผู้หญิงนะพรสวรรค์ ไปลวนลามบีบขยำร่างกายผู้ชายเหมือนผู้หญิงหิวโซแบบนั้นได้ยังไง มันไม่งาม” คนที่เพิ่งรู้ตัวรีบชักมือกลับราวกับต้องของร้อน “หืม! แต่นี่มันในความฝัน ฝันของฉัน...ฉันจะทำอะไรยังไงก็ได้ จะจับจะลูบยังไงก็ได้ จะขยำขยี้ยังไงก็ย่อมได้” หมับ! อีกครั้งที่กล้ามเนื้อหน้าอกและหน้าท้องของเขาถูกคุกคามด้วยมือของผู้หญิงหิวโซ เฮ้อ! กุลสตรีสามสิบวิจริงๆ ‘ให้ตายเถอะ! ยัยหื่นนี่ หื่นกว่าที่คิดซะอีก’ เขาคิดพลางครางฮือ เมื่อมือนั้นสร้างความปั่นป่วนให้เขามากขึ้นทุกที มากจนต้องสูดปากบรรเทาความเสียดเสียวที่กำลังหมุนเกลียวในช่องท้อง และบางครั้งก็ต้องกัดฟันสะกดกลั้นความหื่นกระหายภายในที่ใกล้จะปะทุออกมาเต็มที “หึๆ ก็แค่ความฝัน ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของเราสักหน่อย เพราะฉะนั้นเราจะย่ำยีผู้ชายคนนี้ยังไงก็ได้ ความฝันของเรา เราจะหื่นยังไงก็ได้” เธอย้ำอีกครั้ง พลางกดมือลงไปที่ขอบกางเกงของอีกฝ่ายอย่างย่ามใจ ครั้นพอจะเคลื่อนต่ำลงไปกว่านั้น ก็มีมือหนึ่งตะปบลงมาซะก่อน ยังผลให้คนทั้งคู่หันมาสบตากัน และดูเหมือนว่าคนที่ตกใจมากกว่าคือเธอ พรสวรรค์ทำหน้าเหลอหลาระคนตกใจ ทันใดนั้นเองเธอก็อุทานขึ้นมา

จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ

จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ

สมัยใหม่

5.0

ก็ในเมื่อเขาทั้งหล่อ ล่ำ อบอุ่น ใจดี แล้วยังมีนิสัยรวยอีกต่างหาก แล้วเรื่องอะไรเธอต้องปล่อยเขาไปด้วยล่ะ "คุณจะต้องเป็นของฉันคุณเจตต์" ทันทีที่มีนาหรือมัดหมี่ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะไม่ปล่อยให้เจตต์ หนุ่มหล่อสุดฮอตที่เปรียบเสมือนเกราะนิรภัยของเธอถูกสุนัขคาบไปรับประทาน ปฏิบัติการอ่อยจึงเริ่มขึ้น “แต่งงานกันไหม” จู่ๆ มีนาก็โพล่งออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย “ถ้าไม่สบายก็กลับไปนอน ฉันจะทำงาน ไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กแก่แดดอย่างเธอ” “นี่…ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ เรียนจบ มีงานทำ แล้วฉันก็อยากแต่งงานจริงๆ ไม่ได้คิดเล่นๆ อย่างที่คุณว่าด้วย” “รู้ใช่ไหมว่ากิจกรรมระหว่างผัวเมีย มันมากกว่าแค่นอนมองตากันเฉยๆ ดีไม่ดีบางคืนอาจจะไม่ได้นอนด้วยซ้ำ แล้วเด็กที่ต้องเข้านอนแต่หัวค่ำอย่างเธอจะไหวเหรอ” “คำก็เด็กสองคำก็เด็ก ก็บอกแล้วไงว่าไม่เด็ก ถึงฉันจะไม่มีประสบการณ์เรื่องอย่างว่าหรือผ่านโลกมาโชกโชนอย่างคุณ แต่ฉันก็ไม่ใช่กบที่หลบอยู่ในกะลา ถึงจะไม่รู้ว่ากิจกรรมอย่างว่าระหว่างผัวเมีย มันคืออะไร” “ไม่แต่ง จะไปไหนก็ไปไป ฉันจะทำงาน” เขาโบกมือไล่อีกครั้ง “ถ้าพูดดีๆ ไม่รู้เรื่อง งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน” “ตัวเท่าลูกหมาอย่างเธอจะทำอะไรฉันได้” “ถึงฉันจะทำอะไรคุณไม่ได้ แต่ฉัน…ก็อ่อยคุณได้แล้วกัน” “ไซส์อย่างกับหมากระเป๋า หุ่นก็เท่ากับเด็กอนุบาล อย่าว่าแต่จะอ่อยจะยั่ว ให้แก้ผ้าตรงหน้า ฉันยังคิดหนักเลย อย่างเธอน่ะถ้าจะยั่ว อย่างมากก็ทำได้แค่ยั่วโมโหเท่านั้นแหละ” “ในเมื่อเตือนแล้วไม่ฟัง งั้นก็อย่ามาร้องโอดครวญทีหลังแล้วกัน เพราะฉันเอาจริง จากนี้ไปฉันจะทั้งยั่วทั้งอ่อยให้คุณกระอัก จนคุณต้องรักฉันหัวปักหัวปำ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ได้เลย ยังไงชาตินี้คุณก็ต้องเป็นผัว เอ๊ย! เป็นของฉัน คอยดู”

หนังสือที่คุณอาจชอบ

The devil's Lover  เล่ห์รักยัยตัวร้าย

The devil's Lover เล่ห์รักยัยตัวร้าย

Me'JinJin
5.0

ภีม ภีมวัจน์ อภิรักษ์วัฒนกุล ทายาทรุ่นที่ 3 แห่ง AK Group นักธุรกิจหนุ่มที่ได้รับรางวัลผู้บริหารหน้าใหม่ไฟแรงถึง 4 ปีซ้อน อายุ 26 ปี หล่อ รวย รักสนุกแต่ไม่คิดจะหยุดที่ใคร ใบหน้าหล่อเหลาที่แสนเย็นชาคือเสน่ห์ที่ดึงดูดสาวๆให้เข้ามาพัวพันกับเขาอยู่เสมอ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจบลงเพียงชั่วข้ามคืนเพียงเพราะเขายังไม่เจอคนที่ ถูกใจ จนกระทั่งวันหนึ่งที่โชคชะตาเล่นตลกให้เขาได้พบกับเธอ แม่สาววันไนท์ที่ใช้ลิปสติกเขียนบนใบหน้าของเขาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย แถมยังเซ็นเช็คให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาทพร้อมยิ้มมุมปากบอกเขาว่าคือ ค่าตัว หลังจากวันนั้นเขาได้แต่ I told พระแม่ว่าขออย่าให้ได้พบ ได้เจอกับผู้หญิงคนนี้อีกเลยแต่ใครเลยจะรู้ว่าพระแม่ไม่แยแสต่อคำขอร้องของเขาด้วยซ้ำถึงได้ส่ง ตัวแม่ ตัวมัม มาล่อลวงหัวใจของ เขาให้สั่นไหวและตกหลุมรักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น กอหญ้า การต์รวี พิสิฐกุลวัตรดิลก / เกียรติมงคลรัตน อายุ 21 ปี ลูกสาวฝาแฝดคนเล็กของแก้มใส พิสิฐกุลวัตรดิลก สาวน้อยแสนแสบและแสนซน ใครดีมาเธอดีตอบ ใครร้ายมาเธอฟาดกลับคืนหมดไม่สนลูกใครหน้าไหนทั้งนั้น ตัวแม่ ตัวมัมเรื่องความใจกล้า เสียตัวแล้วเสียไปเธอไม่เสียใจแถมเธอยังใจดีเซ็นเช็คค่าตัวให้เขาถึงหนึ่งร้อยล้านบาท พร้อมภาวนาต่อพระแม่ว่าเธอ I told ผู้ชายคนนี้พียงคนเดียวเท่านั้น และใช่พระแม่เห็นใจและเข้าใจเธอถึงได้ส่งเธอให้มาเจอกับเขา ผู้ชายปากร้ายแต่หน้าตาหล่อเหลาที่ทำให้เธอหลงเสน่ห์ของเขาจนอยากจะชวนขึ้นเตียงวันละหลายหน จากความคิดที่เพียงแค่อยากเล่นสนุกกลับกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยากจะตัดใจและเธอเองก็ไม่เคยคิดที่จะตัดใจ ถ้าเธอล่อลวงหัวใจของเขามาเป็นของเธอไม่ได้ก็อย่ามาเรียกเธอว่าตัวแม่ตัวมัมอีกเลย คำเตือน ⚠️ Trigger Warning นิยายเรื่องนี้มีเนื่อหาการร่วมเพศอย่างชัดเจนรบกวนผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการเสพ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ