Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
พ่ายรักเล่ห์มาเฟีย(1)

พ่ายรักเล่ห์มาเฟีย(1)

ผลิกา(เลอบัว)

4.9
ความคิดเห็น
140.2K
ชม
109
บท

“หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้ไอรดา อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสา คิดเหรอว่าผมโง่จนดูไม่ออกว่าคุณกำลังเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่ประสา เพราะยังไงผมก็ไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่อยากได้สเปิร์มคนอื่นจนตัวสั่นอย่างคุณจะไม่สันทัดเรื่องพวกนี้ บางทีคุณอาจจะช่ำชองกว่าผมก็ได้ใครจะไปรู้ ทำไมไม่แสดงมันออกมาให้ผมดูล่ะ เผื่อว่าถ้าผมติดใจ อาจจะแบ่งสเปิร์มฝากไว้ในตัวคุณบ้างก็ได้” ใบหน้าแดงก่ำนัยน์ตาดุกร้าวของเขาบอกให้รู้ว่าตอนนี้เขากำลังไม่พอใจ ที่เธอพยายามดิ้นรนขัดขืน ทั้งที่ร่างกายของเธอกำลังตอบสนองต่อสัมผัสของเขา และมันยิ่งทำให้เขาขัดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อคิดว่าเธอเคยพลีกายให้ชายอื่นครอบครองมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน “อ๊าย! ไอ้บ้า ไอ้ยักษ์ปากเสีย ฉันไม่ใช่พวกสำส่อนอย่างคุณนี่ ที่เอะอะก็จะพากันขึ้นเตียงอย่างเดียว” ไอรดายังพยายามผลักไสทุบตีเขาเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยๆ ถ้าเธอจะเสียตัวอีกเป็นครั้งที่สอง เขาก็ควรเจ็บตัวเป็นการตอบแทนบ้าง “จะบอกว่าคุณยังซิงว่างั้นสิ” จิโอวาโน่ยังคงไมเชื่อ และเมื่อเธอพยักหน้าหงึกหงักเขาจึงพูดต่อ “งั้นคงต้องให้ผมพิสูจน์หน่อยแล้วล่ะ ว่าลีลาของผมพอจะทำให้คุณเผยธาตุแท้ออกมาได้บ้างรึเปล่า” สรุปว่าเขายังไม่เชื่ออยู่ดี “กรี๊ด...! อุ๊บ!” เธอกรีดร้องได้แค่นั้น เมื่อเขาทาบทับริมฝีปากลงไปอีกครั้ง และดูเหมือนครั้งนี้เขาจะพยายามหลอกล่อให้เธอตกหลุมพรางอย่างที่เขาว่าเอาไว้ด้วยสัมผัสหนักหน่วงและปลุกเร้าไปในคราวเดียวกัน หญิงที่ไม่ประสาอย่างเธอจึงได้แต่ครางอืออาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยกำลังสับสนมึนงงกับสัมผัสเรียกร้อง รุกเร้า โอ้โลมจากผู้ชายที่ชื่อจิโอวาโน่ และด้วยเสียงครางบวกกับการตอบสนองของเธอทำให้เขายิ้มมุมปากสมใจ คิดว่าคงถึงเวลาที่จะทำให้เธอดิ้นไม่หลุดยอมจำนนต่อหลักฐานว่าเธอมันก็แค่ผู้หญิงร่านรักและเคยผ่านผู้ชายมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นเอง “กรี๊ด...!” เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของไอรดา ทำให้จิโอวาโน่ถึงกับชะงักค้าง พลัน! หยุดการเคลื่อนทุกอย่างลง “นี่คุณยัง...”

บทที่ 1 01

“ฮือๆๆ คุณตา ทำไมคุณตาถึงปล่อยให้สุขภาพตัวเองย่ำแย่ขนาดนี้ล่ะคะ ไม่มีใครดูแลคุณตาเลยรึไง” คุณหนูไอรดา เอลล่า ชาร์ตัน ทายาทคนเดียวของตระกูลกำลังร่ำไห้ หลังจากที่รีบบินตรงมาจากรัสเซีย เพื่อเยี่ยมมคุณตาสุดที่รักเพียงคนเดียวที่เมืองไทย

“แค่กๆๆ อย่าไปว่าใครเลยหลาน คนแก่ก็อย่างนี้แหละ จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่มีใครรู้หรอก จะให้แข็งแรงเหมือนหนุ่มๆ สาวๆ คงเป็นไปไม่ได้ เรื่องเกิด แก่ เจ็บ ตาย มันเป็นเรื่องธรรมชาติ” เทพ เดชดำรง ตระกูลใหญ่อันดับต้นๆ ของเมืองไทยพูดปลอบหลานสาวเพียงคนเดียว

“ไม่เอาค่ะคุณตา ไม่พูดอย่างนี้ รู้ไหมไอด้าใจไม่ดี คุณตาต้องอยู่กับไอด้านานๆ สิคะ ถ้าคุณตาทิ้งไอด้าไปอีกคน ไอด้าจะอยู่ยังไงล่ะ ฮือๆ หรือคุณตาไม่รัก ไม่อยากอยู่กับไอด้าแล้ว ถึงได้คิดตัดช่องน้อยแต่พอตัว” ดู๊ดูแม่คุณช่างพูดมาได้ คนแก่ฟังแล้วอยากจะขำจริงๆ นี่แม่หลานสุดที่รัก คิดว่าเรื่องเป็นเรื่องตาย เป็นเรื่องของการเอาตัวรอดอย่างนั้นเหรอ ฮ่าๆ อยากจะบ้าตาย

“ใช่ว่าตาเองอยากจะตายซะเมื่อไหร่ล่ะ แต่ของแบบนี้มันห้ามกันได้ซะที่ไหน อีกอย่างตาเองก็ใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้มานานจนคุ้มแล้วนี่ แต่ก่อนตายตาอยากจะขออะไรจากหลานสักอย่าง ไม่รู้ว่าหลานจะทำให้ตาสมหวังได้รึเปล่า”

“อะไรคะ บอกไอด้ามาสิ ไม่ว่าจะยากเย็นแค่ไหนไอด้าก็จะทำให้” คนเป็นหลานพูดด้วยสายตามุ่งมั่น

“ตามีไอด้าเป็นหลานเพียงคนเดียว กิจการทั้งหมดของตาก็จะต้องยกให้เราเป็นคนดูแลทั้งหมด แต่ตาก็รู้ว่าเราเองก็เหนื่อย ไหนจะต้องดูแลกิจการทั้งหมดของชาร์ตัน แทนดี่ดี๊ของเรา แล้วยังจะต้องมาดูแลกิจการในตระกูลเดชดำรงของตาอีก ซึ่งมันไม่ใช่น้อยๆ เลย ตากลัวว่าเราจะรับไม่ไหว” คุณตาเทพวัยเจ็ดสิบรู้สึกสงสารหลานสาวเพียงคนเดียวที่ต้องแบกภาระมากมายเช่นนี้ ซึ่งเธอต้องเข้ามาศึกษางานทุกอย่างของครอบครัวตั้งแต่อายุยังน้อย ทุกวันของเธอจึงมีแต่งานกับงานเท่านั้น

“โธ่ เรื่องนั้นคุณตาไม่ต้องห่วงนะคะ ไอด้าชินแล้ว ไอด้าจะพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อครอบครัวของเรานะคะ” ไอรดาพูดอย่างเต็มภาคภูมิ ทุกวันนี้เธอสามารถพูดได้เต็มปากว่า ความสามารถของเธอก็ดีไม่แพ้ผู้ชายอกสามศอกแน่ อาจจะเก่งกว่าบางคนด้วยซ้ำไป

“แต่ตาก็ยังวางใจไม่ได้อยู่ดี บอกตรงๆ ถ้าตาย ตาก็คงตายตาไม่หลับ” คุณตาเทพพูดด้วยสีหน้าเศร้าๆ ที่ไอรดาเห็นแล้วใจคอไมดี

“ถ้างั้น คุณตาอยากให้ไอด้าทำยังไงคะ คุณตาถึงจะสบายใจ” ไอรดาบอกด้วยความกตัญญู

“ก่อนตาย ตาอยากเห็นหน้าเหลน ไอด้ามีเหลนให้ตาจะได้ไหม ตาจะได้วางใจว่ากิจการที่ตาสร้างมากับมือจะมีคนมาสืบทอดและสานต่อมันได้ ตาจะได้ไปอย่างหมดห่วง” เป็นเพราะอยากเห็นหลานสาวเป็นฝั่งเป็นฝามีคนคอยดูแลกับเขาสักที อีกทั้งกิจการของตัวเองก็จะได้มีคนสืบทอด คุณตาจึงบอกหลานสาวไปแบบนี้

“ห๊า! คุณตาอยากได้เหลนเนี่ยนะ แล้วจะให้ไอด้าไปหามาจากที่ไหนล่ะคะ ของแบบนี้ไม่ได้หากันง่ายๆ ตามกระบอกไม้ไผ่สักหน่อย” ไอรดาทำหน้าเหวอ ด้วยไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน ทุกวันนี้ก็มีแต่งานและครอบครัวที่ต้องดูแลจึงไม่มีเวลาสนใจเรื่องแบบนั้น

“บ๊ะ! เรานี่พูดเป็นเล่นไปได้ เด็กที่ไหนจะเกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่กันเล่า คงไม่ต้องให้ตาบอกหรอกนะว่าเขาทำกันยังไงน่ะ” คุณตาเทพเอ็ดเสียงดัง

“แหะๆ ไม่ต้องหรอกค่ะ เรื่องแบบนั้นน่ะไอด้าคิดว่าไอด้าน่าจะพอทำได้ แต่ติดอยู่เรื่องเดียวนี่ล่ะค่ะ” ไอรดาบอกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ซึ่งคุณตาเองก็กำลังตั้งใจฟัง

“หืม! เรื่องอะไรล่ะ” คุณตาเทพถามด้วยความสงสัย เมื่อเห็นสีหน้าจริงจังของหลานสาว

“ก็เรื่องที่ไอด้าไม่รู้ว่าไอด้าจะไปทำกับใครนี่ล่ะค่ะ เรื่องใหญ่เลย” คำพูดของเธอ ทำเอาคุณตาเทพแทบสำลักน้ำลายตัวเอง “แต่คุณตาไม่ต้องห่วงนะคะ ไอด้าจะพยายามควานหาคนๆ นั้นมาให้ได้ค่ะ” แววตาเด็ดเดี่ยวและท่าทางมุ่งมั่นของเธอ ทำเอาคนแก่แทบอยากจะถอนคำพูด ไม่รู้ว่าตัวเองคิดถูกหรือผิดกันแน่ที่เอาเรื่องแบบนี้มาพูดกับแม่หลานสาวสุดที่รักคนนี้ แต่เรื่องแบบนี้เห็นทีคงต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามพรหมลิขิตนั่นล่ะ

“มาเรีย รามาน อิล พวกนายว่าฉันควรจะไปหาผู้ชายที่ไหนมาทำพ่อของลูกดีอ่ะ” หลังจากที่แยกกันกับคุณตาเทพ จู่ๆ ไอรดาคุณหนูผู้น่ารักของทุกคนก็โพล่งถามออกมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ระหว่างที่กำลังเดินทางกลับรัสเซีย

“เอ่อ คือ เอ่อ ผมว่าคุณหนูใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด เอ่อ ค่อยๆ หากันไปจะดีกว่านะครับ” ก็เรื่องแบบนี้จะให้รีบได้ไงล่ะ ไม่ใช่ผักใช่ปลาในตลาดสักหน่อย ที่อยากกินก็ไปซื้อเอาได้ ที่คุณหนูกำลังหาน่ะ มันพ่อของลูกนะ อิล หนึ่งในบอดี้การ์ดคนสนิทอดรู้สึกกระดากแทนไม่ได้

“นายก็เห็นแล้วนี่อิล ว่าคุณตาท่านคาดหวังกับเรื่องนี้มากแค่ไหน แล้วฉันก็ไม่อยากให้ท่านต้องผิดหวังด้วย แบบนี้ยังจะให้ฉันใจเย็นอยู่อีกเหรอ ฉันไม่อยากเป็นหลานอกตัญญูนะ” อิลได้ฟังถึงกับหลับตาแน่นยังจนใจ ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอจะยกเหตุผลนี้ขึ้นมา

“งั้นเอาอย่างนี้สิคะ คุณหนูลองกลับไปพิจารณาพวกที่เคยมีทีท่าว่าจะมาจีบคุณหนูดูสิคะ เผื่อจะมีสักคนที่ถูกใจ” มาเรียที่เป็นทั้งเลขาและเพื่อนคนสนิทลองเสนอความคิดดูบ้าง

“ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ” ไอรดาทำท่าโอดครวญ แค่คิดว่าต้องเจอกับผู้ชายพวกนั้นอีก เธอก็ทำใจไม่ได้แล้ว “แล้วถ้าลองแล้วยังไม่มีใครผ่านเกณฑ์เลยล่ะ” เธอจำเป็นต้องถาม เพราะดูจากแนวโน้มแล้วมีความเป็นไปได้สูง

“ความจริงเรื่องนี้ไม่เห็นต้องคิดอะไรให้วุ่นวายเลยนี่ครับ สิ่งที่คุณหนูอยากได้คือลูกไม่ใช่สามี ไม่จำเป็นต้องแต่งงานอยู่กินกันฉันสามีภรรยาก็ได้ ที่นี้เรื่องเกณฑ์อะไรนั่นก็ตัดทิ้งไปได้เลย เหลือก็แค่รูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ ที่ส่งผลโดยตรงกับเด็กที่จะเกิดมาก็พอ” รามานหนึ่งในคนสนิทอีกคนที่ความคิดค่อนข้างผ่าเหล่ากว่าใครเพื่อน เสนอขึ้นบ้าง แต่ดูเหมือนความคิดนี้จะไม่ได้รับการยอมรับจากคนรอบข้างเอาซะเลย

“รามาน!” อิล และมาเรีย อุทานเสียงดัง ที่รามานเสนอความคิดพิลึกพิลั่นให้เจ้านายออกไปแบบนั้น

“ฉันพูดอะไรผิดเหรอ” ดูเหมือนรามานจะยังไม่รู้ตัว

“เออ นั่นสิ คุณตาบอกว่าอยากได้เหลน ไม่ได้บอกว่าอยากได้พ่อของเหลนสักหน่อยนี่เนอะ” และแล้วความคิดพิลึกพิลั่นที่ว่านั่นก็ดันถูกใจคุณหนูไอรดาเข้าจนได้

“คุณหนู!” เป็นอีกครั้งที่อิล และมาเรียอุทานเสียงดังพร้อมกัน เพราะไม่เห็นด้วยเอาซะเลย แต่ดูเหมือนคนที่เห็นด้วยอย่างไอรดาจะไม่ฟังเสียงทัดทานของใครอีกแล้วในตอนนี้

“แล้วฉันต้องทำยังไงบ้างล่ะ ดักฉุดแบบในหนังเลยดีไหม อย่างพวกดักทุบหัว ลากเข้าห้อง จากนั้นก็จับปล้ำเลยเป็นไง ดีนะเนี่ยที่ฉันเคยดูหนังแนวนี้มาบ้าง ไม่อย่างนั้นคงมืดแปดด้านเลย” ไอรดาทำหน้าภาคภูมิใจกับความคิดของตัวเองเป็นที่สุด ตรงกันข้ามกับคนสนิททั้งสาม ที่ตอนนี้กำลังทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก กับวิธีหาสามีของเธอ

“คุณหนู” ทั้งสามจึงได้แต่ครางเสียงสั่น ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณหนูของพวกเขาจะเป็นไปได้ถึงเพียงนี้

“แล้วครั้งเดียวจะท้องไหมล่ะ แล้วถ้าไม่ท้อง ฉันไม่ต้องขังผู้ชายคนนั้นเอาไว้แต่ในห้องแบบพวกผู้ชายบำเรออะไรทำนองนั้นเลยรึไง อ๊าย! นี่มันเรื่องจำเลยรักชัดๆ เลยนี่ ละครไทยเรื่องนี้ฉันชอบสุดๆ ยิ่งตอนที่พระเอกจับนางเอกไปขังเอาไว้นะเป็นตอนที่ชอบมากๆ เลย มันเป็นอะไรที่โรแมนติกที่สุดเลยอ่ะ” ไอรดาทำท่าเคลิ้มฝัน เมื่อพูดถึงฉากสุดปลื้มฉากนั้น ทำเอาทั้งสามเห็นแล้วผวาพากันถอยหลังพร้อมกันด้วยความกลัว อ๊าก! คุณหนูเป็นพวกโรคจิตไปแล้ว พระเอกทรมานนางเอกเนี่ยนะโรแมนติก แบบนี้มันซาดิสม์ชัดๆ รามานคิดด้วยความสยอง ที่สำคัญละครเรื่องนั้นมันก็ไม่เหมือนกับเรื่องที่เธอจะทำเลยนี่ เพราะเธอเป็นผู้หญิงนะ

“เอ่อ คุณหนูครับ เดี๋ยวนี้วิวัฒนาการทางการแพทย์ก้าวหน้าไปมากแล้วนะครับ เราให้หมอช่วยทำกิฟท์ให้ก็ได้ เอาแค่สเปิร์มของผู้ชาย แล้วคุณหนูก็ไม่ต้องลงมือปล้ำ หรือจับผู้ชายมากักขังให้เสียเวลา มันจะเป็นการเจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไปซะเปล่าๆ” รามานเสนอความคิดอย่างกล้าๆ กลัวๆ แต่ก็ยังไม่วายล้อเล่นอีกจนได้

“เหรอ แล้วถ้าไม่ปล้ำ ฉันจะเอาสเปิร์มมาได้ยังไงล่ะ” รามานถึงกับอึ้ง เมื่อเจอคำถามนี้เข้าไป ใจคอจะให้เขาอธิบายจนละเอียดเลยรึยังไง ฮือ! กูอยากตาย กูกำลังตกอยู่ในสภาวะกดดันใช่ไหม รามานถึงกับครวญในใจ

“คุณหนู เรื่องทำกิฟท์อะไรนั่น เราเอาไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายดีไหมคะ ลองวิธีแรกกันก่อน ถ้าไม่ได้ผล เราค่อยมาคิดกันดูอีกทีว่าจะเอายังไง เชื่อมาเรียนะคะ” และแล้วมาเรียก็มาช่วยรามานเอาไว้ได้ทัน ไม่อย่างนั้นรามานคงต้องเส้นเลือดในสมองแตกตาย เพราะตกอยู่ในสภาวะความกดดันแน่ๆ

“ก็ได้” ทุกคนถึงกับยิ้มออก เมื่อไอรดายอมเชื่อฟังง่ายๆ แต่ “ถ้างั้นกลับไปเนี่ย ช่วยหาจำเลยรักมาให้ฉันคัดตัวโดยด่วนเลยนะ” อ๊าก! ยังไม่จบ รามานมองคนพูดตาโต

และแล้ววันแรกของการปฏิบัติการตามล่าหาจำเลยรักก็เกิดขึ้น ท่ามกลางความลุ้นระทึกของทุกคน

“เป็นเกียรติมากเลยครับที่คุณเอลล่าชวนผมออกมาทานข้าวด้วยกันวันนี้ ผมยินดีมากสำหรับมิตรภาพในวันนี้” โยชิ นักธุรกิจหนุ่มชาวญี่ปุ่นที่มาเรียเป็นคนจัดการนัดมาให้ กำลังเป็นปลื้มที่จู่ๆ ดอกฟ้าก็โน้มกิ่งลงมาหา ซึ่งมันตรงกันข้ามกับความคิดของไอรดาโดยสิ้นเชิง แต่ฉันกำลังเสียใจย่ะที่ให้มาเรียนัดนายมา

เมื่อไอรดาคิดไม่ตกว่าจะทำยังไงกับนักธุรกิจหนุ่มคนนี้ดี เธอจึงหันไปปรึกษากับเหล่าบรรดาคนสนิทที่ยืนอยู่ไม่ห่างด้วยภาษาไทย เพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงฟังไม่ออกเป็นแน่ ส่วนพวกเขาน่ะเหรอพูดได้คล่องราวกับภาษาบ้านเกิดนั่นแหละ ก็เรียนภาษาไทยมาพอๆ กับภาษารัสเซียตั้งแต่จำความได้แล้ว เพราะพวกเขาถูกเลี้ยงมาด้วยกันตั้งแต่สมัยเด็กๆ เลย

“นี่ จะให้ฉันนั่งกินข้าวกับคุณจระเข้สำลักน้ำนี่จริงๆ น่ะเหรอ สงสารฉันเถอะ ฉันกินไม่ลงอ่ะ หน้าว่าแย่แล้ว คำพูดยังเลี่ยนอีก ไม่ไหวๆ หรือจะเรียกเจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์ป่ามาจับไปก็ได้นะ อย่าให้ฉันต้องกลายเป็นตะเภาทองเลย” ไอรดาทำหน้าเหมือนอยากจะร้องขึ้นมาจริงๆ เพื่อเรียกคะแนนสงสารจากทั้งสามคน แต่

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ผลิกา(เลอบัว)

ข้อมูลเพิ่มเติม
I'm yours ยกหัวใจให้คลั่งรักยัยเลขา

I'm yours ยกหัวใจให้คลั่งรักยัยเลขา

มหาเศรษฐี

5.0

เพราะอดีตทำให้ผูกพัน แต่ปัจจุบันทำให้รักหมดใจ พริบพราวพนักงานบัญชีตัวเล็กๆ ที่แทบไม่มีใครรู้จัก ต้องจับพลัดจับผลูกลายมาเลขาท่านประธานคนใหม่ ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะโชคชะตา หรือเพราะเขาเป็นคนกำหนดมาตั้งแต่แรกกันแน่ “ทำไมคุณถึงอยากให้ฉันมาอยู่ที่นี่คะ” “มันคงถึงเวลาแล้วมั้ง เวลาที่เธอควรกลับมาที่ที่เธอควรอยู่ เวลาที่ฉันจะทวงทุกอย่างของฉันคืน” เขาว่าพลางจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอให้หันมาประจันหน้ากัน “ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี หลายครั้งที่คุณไม่ยอมตอบคำถามฉัน หลายครั้งที่คุณเอาแต่พูดจากำกวม แล้วทุกครั้งคุณก็ทำให้ฉันสงสัย สุดท้ายฉันก็ยังไม่ได้คำตอบจากคุณ เฮ้อ! ใจคอคุณจะไม่ตอบอะไรฉันเลยใช่ไหมคะ” “ตอบสิ ฉันจะตอบทุกอย่างที่เธอสงสัยและอยากรู้ แต่…หลังจากที่เธอให้ในสิ่งที่ฉันต้องการแล้วเท่านั้น” เขาบอกพลางหยักยิ้มมุมปาก “แล้วคุณต้องการอะไร” “เธอไง” เขาโน้มลงมาบอกเสียงกระเส่า ทำเอาเธอถึงกับประหม่าจนต้องกัดเม้มริมฝีปากอย่างไม่รู้จะจัดการกับสถานการณ์ตอนนี้ยังไงดี โดยไม่รู้เลยว่าท่าทางของตัวเองกำลังปลุกเร้าบางอย่างในตัวเขาให้กระเจิดกระเจิง “ฉันชักอยากตอบเธอตอนนี้แล้วสิ เธออยากรู้อะไรพริบพราว” ใบหน้าเขาแดงก่ำ อีกทั้งเสียงทุ้มๆ ก็ยังแหบพร่า อา…! ดูเหมือนนี่จะเป็นสัญญาณอันตรายที่เธอควรหลบเลี่ยง แต่ให้ตายเถอะ! สองขาของเธอกลับไม่ขยับเขยื้อน ราวกับถูกตรึงไว้ กระทั่งใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้และสัมผัสไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มเบาๆ จากนั้นก็เลื่อนขึ้นมาสัมผัสดวงตาทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยน แล้วเลื่อนลงมาจูบที่จมูกอย่างอ้อยอิ่ง อา…! ร่างกายเขากำลังเรียกร้องรุนแรง จนหัวใจเขาไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป

บุพเพรัก กับดักมาเฟีย

บุพเพรัก กับดักมาเฟีย

มหาเศรษฐี

5.0

***“เธอรู้อะไรไหมแก้วตา ความจริงฉันหวั่นไหวตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเธอแล้ว แต่ฉันแค่ไม่อยากยอมรับ เพราะฉันยังไม่อยากมีครอบครัว คิดดูสิว่ามาเฟียเพลย์บอยอย่างฉัน จะต้องกลายเป็นผู้ชายกลัวเมีย ไม่อะ ฉันยอมรับไม่ได้ มันเสียเชิงชาย” ***ถึงเธอจะตบตาเขาว่าเป็นผู้ชาย แต่เชื่อเถอะว่าเขาจำเธอได้ตั้งแต่วันแรกที่เธอเหยียบเข้ามาในถิ่นเขาแล้ว ในเมื่อเข้ามาแล้วก็อย่าหวังว่าจะได้กลับออกไปง่ายๆ แล้วเธอจะได้รู้ว่าเขาเจ้าเล่ห์และเผด็จการกว่าที่เธอคิด ***เพราะความจำเป็นบีบบังคับ ทำให้แก้วมุกดาจำต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อขึ้นไปทำงานบนเรือสำราญลำหรู แต่ใครจะคิดว่าโลกจะกลมทำให้เธอได้พบกับผู้ชายร้ายกาจอย่างอเล็กซิสที่นี่ ที่สำคัญเขายังเป็นเจ้านายเธอด้วย ***อเล็กซิส มอนเตอโร เพลย์บอยและมหาเศรษฐีเจ้าเสน่ห์ ข้างกายเขาที่ไม่เคยขาดแคลนผู้หญิง ทำให้เขาถูกขนานนามว่า “คาสโนวาตัวพ่อ” เพราะเพียงแค่ขยิบตา ผู้หญิงมากมายก็พร้อมจะกระโดดขึ้นเตียง คงมีแต่เธอนี่แหละที่ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์เพทุบายถึงจะได้เชยชมความสดสาวแม่คุณ ***“ไอ้หื่น ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าฉันจะเลอะเลือนถึงขั้นข่มขืนคุณได้ ไม่อย่างนั้นฉันต้องรู้สึกอะไรบ้างสิ แต่นี่ฉันไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย ไม่เชื่อก็ดูนี่สิ อุ๊ย!” เธอเคยได้ยินมาว่าผู้หญิงที่เสียความบรสุทธิ์ครั้งแรกจะต้องรู้สึกผิดปกติอะไรบางอย่าง เธอจึงลองขยับตัวเพื่อพิสูจน์ กระทั่งรู้สึกร้าวระบมไปทั้งตัว ‘อย่าบอกนะว่าเราบ๊ะจ้ำบ๊ะกับอีตาหื่นนั่นแล้วจริงๆ ไม่! ฉันเสียตัวให้เขาแล้วจริงๆ’ เหมือนเธอจะอึ้งไปชั่วขณะ รู้สึกเหมือนโลกกำลังหยุดหมุน เหมือนมีคนเอาค้อนหนักๆ มาทุบที่หัวเข้าอย่างจัง ที่แรกก็คิดว่าเขาอำเพราะอยากแกล้งเธอเหมือนๆ กับในละครที่พระเอกอยากแก้แค้นนางเอกเลยจัดฉากให้ดูเหมือนว่าพวกเขาได้เสียกัน แต่ให้ตายสิ! ฉากที่เธอเจอกับตัวในวันนี้มันสมจริงยิ่งกว่านั้น เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะชัดเจนในความรู้สึกเธอ ‘ฉันเสียตัว ฉันเสียตัวแล้วจริงๆ ฉันเสียตัวให้กับผู้ชายคนนี้ ไม่.....’ ***“แล้วเมียไม่สงสารผัวบ้างเหรอ จะปล่อยให้ผัวนอนตัวแข็งแบบนี้ทั้งคืนจริงๆ อะเหรอ เมียก็เห็นว่าผัวไม่ได้แข็งแค่ตัว อย่างอื่นของผัวก็แข็ง สงสารผัวเถอะ ผัวขออีกแค่ประตูเดียวเอง ผัวจ๋ารักเมียจ๋านะ ผัวอยากมีลูกกับเมียจริงๆ”ให้ตายสิ เธอจะแพ้เสียงออดอ้อนกับคำว่ารักของผู้ชายคนนี้ทุกครั้งเลยรึไง

บทเรียนลับคลับชั้นสูง

บทเรียนลับคลับชั้นสูง

มหาเศรษฐี

5.0

ว่าแล้วเธอจำต้องยอมสวมบทเป็นนางทาสแต่งตัวให้นายท่านอย่างเขาด้วยความจำใจ แต่เธอก็มีวิธีที่จะไม่ต้องเห็นภาพบาดตานั่น ด้วยการปิดตามันดื้อๆ นี่แหละ รับรองไม่เห็นชัวร์ (เอ่อ! แต่ไอ้การปิดตาแบบนี้ ถึงมันจะไม่เห็นแต่มันก็ยังสัมผัสได้นี่) ยังไม่ทันขาดคำ ขณะที่เธอกำลังคุกเข่าเพื่อสวมอันเดอร์แวร์ให้เขาพร้อมกับปิดตาไปด้วย และไอ้การที่เธอกำลังปิดตานี่แหละที่ทำให้เธอทำอะไรไม่ค่อยสะดวก พยายามคลำโน่นคลำนี่เงอะงะไปหมด แน่นอนว่ามันอันตรายต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรของเขาด้วยเช่นกัน และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา เขาจึงพยายามเหวี่ยงตัวหลบมือเรียวของเธอ ในขณะที่เธอกลับพยายามไล่ตามจับมันอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน ให้ตายเถอะ! ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเธอกำลังคลำหาอะไร แล้วเธอมาไล่จับของเขาเพื่ออะไรเนี่ย เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก เขากับเธอยังคงเล่นไล่จับกันอย่างเสียวไส้ ด้วยการขยับเอวซ้ายขวาซ้าย เอ้าซ้ายขวาซ้าย ‘ซึ่งกูไม่เข้าใจเลยว่าทำไมกูต้องมายืนส่ายเอวอยู่แบบนี้ด้วย ให้ตายเถอะกูอยากถ่ายภาพนี้เก็บไว้จริงๆ เลย แม่คุณจะได้รู้ว่า ตัวเองกำลังตามล่าอะไรอยู่’ แต่เมื่อทำแบบนั้นไม่ได้ เขาจึงต้องส่ายเอวต่อไป เธอขยับมาทางซ้าย เขาจึงย้ายมาทางขวา เมื่อเธอไล่ตามมา เกือบจะคว้าได้แล้วเชียว เขารีบเบี่ยงตัวหลบ กลัวจะพบกับความเสียว ขยับเอวเพียงนิดเดียว เธอกลับเลี้ยวตามมาทัน (หมับ!!!) “ฮ่าๆๆ จับได้แล้ว” เธอหัวเราะชอบใจ เมื่อในที่สุดเธอก็คว้าหมับเข้ากับอะไรบางอย่างได้สำเร็จ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร เมื่อไม่รู้ก็ต้องดูให้เห็นกับตา “กรี๊ด...! ลามกจกเปรต ทุเรศที่สุด เอามันออกไป เอาออกไปเดี๋ยวนี้นะ” เธอโวยลั่นกับบางอย่างที่อยู่ในมือ แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ มือเธอที่กำลังขยับส่ายไปส่ายมาราวกับจับปลาชะโดตัวโต ทำเอาคนถูกจับถึงกับต้องรีบขยับตามแทบไม่ทัน ราวกับกลัวว่ามันจะหลุดติดมือเธอไป ให้ตายเถอะ! ไม่เข้าใจว่าแม่คุณจะส่ายไปส่ายมาเพื่ออะไร ‘ไม่ใช่ปลาช่อนนะเว้ยเฮ้ย! แล้วมันก็ดิ้นไม่ได้ เอ๊ะ! หรือว่าได้วะ’ “นี่! แม่คุณ ช่วยตั้งสติแล้วก้มมองหน่อยเถอะ ว่าไอ้ที่อยู่ในมือคุณน่ะ ผมไปบังคับให้คุณจับมันรึเปล่า อูว! ถ้าขืนคุณยังไม่หยุดขยับตั้งแต่ตอนนี้ล่ะก็ เกิดปลาที่อยู่ในมือคุณมันพ่นน้ำออกมาอย่าหาว่าผมไม่เตือน” คำเตือนของเขาทำเอาเธอถึงกับรีบปล่อยมือทันที อีโรติก

ลิขิตรักใต้ผืนทราย

ลิขิตรักใต้ผืนทราย

สมัยใหม่

4.7

ความวุ่นวายบังเกิดเมื่อเธอดันมีตาวิเศษ และเขาก็ดันมีหูทิพย์ คนนึงมองผ่านทะลุเสื้อผ้าไปเจอซิกแพ็ก ส่วนอีกคนก็ดันได้ยินความคิดหื่นๆ ชีคอัฟฟาน อับดุล ฮาหมัด คาริฟา เจ้าชายมาดนิ่ง นิ่งซะจนไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย ยกเว้นเธอ ไม่ยุ่งก็บ้าแล้ว ก็แหมทั้งหล่อล่ำกล้ามแน่นขนาดนั้น ใครจะไปอดใจไหว ถึงจะเป็นของหวงห้าม แต่ถ้าลวนลามทางความคิดก็คงไม่มีใครว่า พรสวรรค์ สาวแว่นสุดเนิร์ดที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ จริงๆ ก็ไม่ได้เนิร์ดหรอก แว่นที่ใส่ก็ใส่ไว้แค่พรางตาเฉยๆ ขืนไม่ใส่คงได้เป็นตากุ้งยิงทั้งปีทั้งชาติแน่ ไม่รู้ว่านี่เรียกว่าพรสวรรค์หรือฟ้ากลั่นแกล้งกันแน่ที่ประทานดวงตาที่สามารถมองผ่านทะลุเสื้อผ้าได้ นี่ถ้าไม่มีแว่นหนาๆ มาพลางไว้ล่ะก็ทั้งเมาคลีทั้งชีเปลือยนี่เดินกันให้ว่อน เห็นของผู้หญิงก็ดีหน่อย แต่เห็นของผู้ชายก็ดีกว่า เอ้อ! ไม่ใช่ๆ อืม! ใช่ก็ได้ เฮ้อ! ทีนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าเธอเนิร์ดหรือไม่เนิร์ด “นี่ก็เหมือนจริง” ไม่พูดเปล่า แต่แม่คุณยังพิสูจน์ด้วยการจับหมับลงไป ยังผลให้เจ้าของกล้ามสะดุ้ง ก่อนจะต้องกัดกรามกรอด เมื่อมือนั้นเริ่มขยับลูบไล้ไปมา “นี่ก็เหมือนจริง” เสียงเธอสูงขึ้นด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่มือเรียวกลับเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่กล้ามหน้าท้องที่เป็นลอนสวยงามตามอย่างบุรุษเพศผู้ดูแลตัวเอง ก่อนจะบีบขยำมันด้วยความกระหายใคร่รู้ ในตอนนั้นเองที่ทำให้เธอเหมือนจะมีสติรู้ตัวขึ้นมา “บ้าบอ! เธอเป็นผู้หญิงนะพรสวรรค์ ไปลวนลามบีบขยำร่างกายผู้ชายเหมือนผู้หญิงหิวโซแบบนั้นได้ยังไง มันไม่งาม” คนที่เพิ่งรู้ตัวรีบชักมือกลับราวกับต้องของร้อน “หืม! แต่นี่มันในความฝัน ฝันของฉัน...ฉันจะทำอะไรยังไงก็ได้ จะจับจะลูบยังไงก็ได้ จะขยำขยี้ยังไงก็ย่อมได้” หมับ! อีกครั้งที่กล้ามเนื้อหน้าอกและหน้าท้องของเขาถูกคุกคามด้วยมือของผู้หญิงหิวโซ เฮ้อ! กุลสตรีสามสิบวิจริงๆ ‘ให้ตายเถอะ! ยัยหื่นนี่ หื่นกว่าที่คิดซะอีก’ เขาคิดพลางครางฮือ เมื่อมือนั้นสร้างความปั่นป่วนให้เขามากขึ้นทุกที มากจนต้องสูดปากบรรเทาความเสียดเสียวที่กำลังหมุนเกลียวในช่องท้อง และบางครั้งก็ต้องกัดฟันสะกดกลั้นความหื่นกระหายภายในที่ใกล้จะปะทุออกมาเต็มที “หึๆ ก็แค่ความฝัน ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของเราสักหน่อย เพราะฉะนั้นเราจะย่ำยีผู้ชายคนนี้ยังไงก็ได้ ความฝันของเรา เราจะหื่นยังไงก็ได้” เธอย้ำอีกครั้ง พลางกดมือลงไปที่ขอบกางเกงของอีกฝ่ายอย่างย่ามใจ ครั้นพอจะเคลื่อนต่ำลงไปกว่านั้น ก็มีมือหนึ่งตะปบลงมาซะก่อน ยังผลให้คนทั้งคู่หันมาสบตากัน และดูเหมือนว่าคนที่ตกใจมากกว่าคือเธอ พรสวรรค์ทำหน้าเหลอหลาระคนตกใจ ทันใดนั้นเองเธอก็อุทานขึ้นมา

จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ

จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ

สมัยใหม่

5.0

ก็ในเมื่อเขาทั้งหล่อ ล่ำ อบอุ่น ใจดี แล้วยังมีนิสัยรวยอีกต่างหาก แล้วเรื่องอะไรเธอต้องปล่อยเขาไปด้วยล่ะ "คุณจะต้องเป็นของฉันคุณเจตต์" ทันทีที่มีนาหรือมัดหมี่ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะไม่ปล่อยให้เจตต์ หนุ่มหล่อสุดฮอตที่เปรียบเสมือนเกราะนิรภัยของเธอถูกสุนัขคาบไปรับประทาน ปฏิบัติการอ่อยจึงเริ่มขึ้น “แต่งงานกันไหม” จู่ๆ มีนาก็โพล่งออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย “ถ้าไม่สบายก็กลับไปนอน ฉันจะทำงาน ไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กแก่แดดอย่างเธอ” “นี่…ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ เรียนจบ มีงานทำ แล้วฉันก็อยากแต่งงานจริงๆ ไม่ได้คิดเล่นๆ อย่างที่คุณว่าด้วย” “รู้ใช่ไหมว่ากิจกรรมระหว่างผัวเมีย มันมากกว่าแค่นอนมองตากันเฉยๆ ดีไม่ดีบางคืนอาจจะไม่ได้นอนด้วยซ้ำ แล้วเด็กที่ต้องเข้านอนแต่หัวค่ำอย่างเธอจะไหวเหรอ” “คำก็เด็กสองคำก็เด็ก ก็บอกแล้วไงว่าไม่เด็ก ถึงฉันจะไม่มีประสบการณ์เรื่องอย่างว่าหรือผ่านโลกมาโชกโชนอย่างคุณ แต่ฉันก็ไม่ใช่กบที่หลบอยู่ในกะลา ถึงจะไม่รู้ว่ากิจกรรมอย่างว่าระหว่างผัวเมีย มันคืออะไร” “ไม่แต่ง จะไปไหนก็ไปไป ฉันจะทำงาน” เขาโบกมือไล่อีกครั้ง “ถ้าพูดดีๆ ไม่รู้เรื่อง งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน” “ตัวเท่าลูกหมาอย่างเธอจะทำอะไรฉันได้” “ถึงฉันจะทำอะไรคุณไม่ได้ แต่ฉัน…ก็อ่อยคุณได้แล้วกัน” “ไซส์อย่างกับหมากระเป๋า หุ่นก็เท่ากับเด็กอนุบาล อย่าว่าแต่จะอ่อยจะยั่ว ให้แก้ผ้าตรงหน้า ฉันยังคิดหนักเลย อย่างเธอน่ะถ้าจะยั่ว อย่างมากก็ทำได้แค่ยั่วโมโหเท่านั้นแหละ” “ในเมื่อเตือนแล้วไม่ฟัง งั้นก็อย่ามาร้องโอดครวญทีหลังแล้วกัน เพราะฉันเอาจริง จากนี้ไปฉันจะทั้งยั่วทั้งอ่อยให้คุณกระอัก จนคุณต้องรักฉันหัวปักหัวปำ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ได้เลย ยังไงชาตินี้คุณก็ต้องเป็นผัว เอ๊ย! เป็นของฉัน คอยดู”

ยั่วรักมาเฟีย

ยั่วรักมาเฟีย

สมัยใหม่

4.5

“อย่าบอกนะว่าเธอกำลังคิดเรื่องลามกอยู่ เธอนี่มันหื่นตัวแม่จริงๆ เดี๋ยวก็อ่อย เดี๋ยวก็ยั่ว ใจคอจะปล้ำฉันให้ได้เลยใช่ไหม” เขาว่าพลางส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะหันไปลอบยิ้มอีกทาง แม้ว่าลึกๆ ในใจ ‘สุดที่รัก’ จะอยากเป็นเจ้าสาวของ ‘เลโอนาร์ด แบร์นาร์ด’ มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลแห่งสเปนมากเพียงใด แต่เพราะมาดขรึมๆ กับหน้านิ่งๆ ของเขา มันเลยทำให้เธออยากรู้จริงๆ ว่าการหมั้นครั้งนี้เกิดจากความเต็มใจของเขารึเปล่า ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูน และเธอก็ไม่ได้ไร้เสน่ห์จนเกินเยียวยา เธอจึงต้องยั่ว ยั่วให้เขารู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอไม่ได้มีดีแค่ยั่วโมโห ถึงจะเป็นการยั่วระดับอนุบาลก็เถอะ แต่เชื่อเถอะว่าเธอจะทำให้เขาหวั่นไหวได้…มั้ง “หยุด ไม่ต้อง ฉันถอดเองได้” สุดที่รักบอกพลางรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองเร็วๆ ด้วยกลัวว่าเขาจะฉีกมันอีก “ทำอะไร” เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ก็มันเสียดาย คุณถอดเองทีไรมันกลายเป็นเศษผ้าทุกที เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ห้ามคุณถอดเสื้อผ้าฉันอีกเป็นอันขาด” สีหน้าจริงจังของเธอ ทำเอาเลโอนาร์ดถึงกับหลุดขำออกมา “เธอจะเป็นคนถอดเองทุกครั้งที่ฉันต้องการงั้นสิ” “อืม! เฮ้ย! ไม่ใช่ ถอดทุกครั้งที่คุณต้องการ ฉันก็แย่น่ะสิ” เธอรีบแก้ต่างเมื่อเผลอรับคำเขาไป “แล้วจะเอายังไง” “โอ๊ย! คนบ้านี่ฉันเจ็บนะ ก็ในเมื่อคุณไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่รัก ไม่หึง ไม่หวง แล้วคุณจะมาสนใจอีกทำไมว่าฉันจะคบจะคุยกับใคร นอกเสียจากว่าทั้งหมดที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ คุณจะยอมรับว่าคุณรักฉัน ไม่งั้นคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามไม่ว่าฉันจะคุยกับใคร” “อืม!” เฮ้อ! จะฟังคำว่ารักจากผู้ชายคนนี้มันช่างยากซะจริง

หนังสือที่คุณอาจชอบ

คุณหมอ...อย่าใจร้าย

คุณหมอ...อย่าใจร้าย

อัญญาณี
4.9

วามสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า ทำให้เธอ...ท้องไม่มีพ่อ .................... “คูน...คุณ” ชมพลอยทรุดตัวนั่งใกล้ร่างหนาที่หันมองเธอด้วยสายตาแปลกใจ เธอทักทายเขาด้วยภาษาสากล “คูณนอนกับช้านม้าย ฉันซิงนะ” บุรุษที่ชมพลอยเข้าไปทักคือ ภาคินทร์ ภักดีธำรง หรือหมอธาม ในวัยสามสิบปีที่มาเรียนแพทย์เฉพาะทางเพิ่มเติมในประเทศเยอรมัน เขายังคงมองหน้าคนเสนอตัวให้ด้วยสายตาตกใจปนประหลาดใจ เขาพบเจอผู้หญิงที่ชวนไปหลับนอนหลายคน ทว่ากลับไม่มีใครสักคนที่บอกให้รู้ว่า ครองพรหมจรรย์ ในตอนนั้นภาคินทร์คิดว่า สาวสวยตรงหน้าเมาจึงพูดในเรื่องตรงกันข้ามกับการกระทำ ผู้หญิงบริสุทธิ์คงไม่ชวนผู้ชายหลับนอนด้วย “วันไนท์สแตนด์งาย...สนใจไหม” “ได้สิ” ภาคินทร์ยิ้มและตอบรับทันที อาจเป็นเพราะเขาถูกใจในความสวยงามบนใบหน้า ผิวขาวลออตา และรูปร่างที่น่าฟัดอย่าบอกใคร ภาคินทร์เหมือนผู้ชายทั่วๆ ไป กิเลสตัณหาเกิดขึ้นได้หากเจอคนถูกใจ

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

พายุรักจอมใจมาเฟีย

พายุรักจอมใจมาเฟีย

หลิ่งฟาง//พิมพ์สีทอง
5.0

ตลอดเวลาที่ผ่านมา "น้ำฟ้า" ใช้ชีวิตอย่างผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งซึ่งมีพร้อมในทุกอย่าง หากการตัดสินใจหนีครอบครัวมาท่องเที่ยวยังประเทศอิตาลีตามลำพัง กลับเป็นต้นเหตุให้เธอต้องมาพัวพันกับเรื่องเสื่อมเสียและอันตราย แถมยังสูญเสียอิสรภาพ...กลายเป็น "จำเลย" ที่ถูกควบคุมตัวอย่างเข้มงวดจากมาเฟียอันดับหนึ่งของแคว้นลอมบาร์เดีย! "เซเลโน่ อัลซาโก" คือหัวหน้ามาเฟียผู้เฉียบคม เก่งกาจ และทรงอิทธิพลที่สุดในยุโรป ในด้านธุรกิจ... เขาไร้ซึ่งความปรานี เป็นที่ยำเกรงของทั้งมิตรและศัตรู ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกมืดนอกกฎหมายด้วยการบริหารงานที่ใช้ทั้งอำนาจและบารมี หากในด้านอารมณ์... เขากลับแยกตัวเองจากความสัมพันธ์ทุกประเภท ทิ้งระยะห่างจากทุกคน และไม่มีใครที่จะสัมผัสถึงหัวใจของเขาได้... จนกระทั่งได้พบเธอ...เพราะน้ำฟ้าถูกกลุ่มคนลึกลับตามล่า จึงทำให้มาเฟียหนุ่มหล่อ "ลักพาตัวเธอ" ไปด้วยเหตุผลบางอย่าง! เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร? ติดตามพร้อมกันได้แล้วในเล่ม! “แล้วคุณจะให้ฉันนอนที่ไหนคะ?” เอ่ยถามเสียงเบา เซเลโน่มองหญิงสาวร่างบางที่ดูสวยเย้ายวนไปทั้งตัว เขาแน่ใจว่าเธอไม่ได้สวมชุดชั้นในแน่นอน สายตาคมที่มองหน้าอกของเธอทำให้น้ำฟ้ากอดอกเข้าหากันทันที ใบหน้าสวยแดงระเรื่อเมื่อคิดว่าเขาคงเห็นหมดแล้ว “นอนกับฉัน” เซโลโน่ตอบรับสั้นๆ

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

หงส์ขย่มมังกร(นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่)

ซีไซต์
5.0

รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

ซีอีโอผู้อ่อนแอต้องง้อเธอทุกวัน

Elsworth Underwood
5.0

เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"

ประกาศหาแฟน

ประกาศหาแฟน

Mathe Hackett
5.0

คู่หมั้นของเธอนอกใจแม่เลี้ยงของเธอ และทั้งสองก็ร่วมมือกันวางแผนหลอกลวงทรัพย์สินของครอบครัวเธอ และวางกับดักให้เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง เพื่อที่จะแก้แค้น เหวินหญ่าจึงตัดสินใจหาผู้ชายคนหนึ่งมาก่อเรื่องที่ที่งานหมั้นและฉีกหน้าพวกเขาทั้งคู่ โดยไม่คาดคิดหลังจาก "ประกาศหาแฟนโดยจ่ายค่าตอบแทนสูง"แล้ว เธอก็ได้หนุ่มสุดหล่อมาจริงๆ! เหวินหญ่าคิดว่าอีกฝ่ายเป็นเด็กยากจนที่เพื่อเงินเท่านั้น แต่หลังจากอยู่กับเขา โชคของเธอก็ดีขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูก เดินนเล่นในห้างสรรพสินค้าใดก็ได้รับคูปองสำหรับแบรนด์หรูที่ซื้อฟรีและได้ชุดมูลค่านับแสนฟรี! ในงานหมั้น เขาออกงานอย่างยิ่งใหญ่ ทำให้ทุกคนนั้นตกตะลึงและประกาศอย่างเปิดเผยว่าเธอคือผู้หญิงของเขา! เดิมทีคิดว่าพวกเขาจะแยกทางกันหลังจากเรื่องนี้จบลง แต่เขากลับติดตัวเธอไม่ยอมไปไหนอีก "เราเพิ่งหมั้นกัน ตอนนี้ผมเป็นคู่หมั้นของคุณแล้ว" เหวินหญ่าหัวเราะเบา ๆ "คุณหมิ่น คุณคงไม่ใช่คิดว่าฉันรวยก็เลยไม่ยอมปล่อยฉันมั้ง?" หมิ่นซือหางยิ้ม เขาเป็นหลานชายของตระกูลใหญ่ ตระกูลหมิ่น เป็นซีอีโอของฮั้วเชง กรุ๊ป และเป็นถึงเจ้านายเบื้องหลังที่ควบคุมเส้นชีวิตทางเศรษฐกิจของเมืองไฮทั้งหมด เขาต้องมาสนใจเงินเล็กน้อยของเธอเหรอ? ต่อมาเหวินหญ่ารู้ว่าเขาคือคนที่เอาครั้งแรกของเธอไปในคืนนั้น!

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ