Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
I'm yours ยกหัวใจให้คลั่งรักยัยเลขา

I'm yours ยกหัวใจให้คลั่งรักยัยเลขา

ผลิกา(เลอบัว)

5.0
ความคิดเห็น
265.1K
ชม
69
บท

เพราะอดีตทำให้ผูกพัน แต่ปัจจุบันทำให้รักหมดใจ พริบพราวพนักงานบัญชีตัวเล็กๆ ที่แทบไม่มีใครรู้จัก ต้องจับพลัดจับผลูกลายมาเลขาท่านประธานคนใหม่ ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะโชคชะตา หรือเพราะเขาเป็นคนกำหนดมาตั้งแต่แรกกันแน่ “ทำไมคุณถึงอยากให้ฉันมาอยู่ที่นี่คะ” “มันคงถึงเวลาแล้วมั้ง เวลาที่เธอควรกลับมาที่ที่เธอควรอยู่ เวลาที่ฉันจะทวงทุกอย่างของฉันคืน” เขาว่าพลางจับไหล่ทั้งสองข้างของเธอให้หันมาประจันหน้ากัน “ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี หลายครั้งที่คุณไม่ยอมตอบคำถามฉัน หลายครั้งที่คุณเอาแต่พูดจากำกวม แล้วทุกครั้งคุณก็ทำให้ฉันสงสัย สุดท้ายฉันก็ยังไม่ได้คำตอบจากคุณ เฮ้อ! ใจคอคุณจะไม่ตอบอะไรฉันเลยใช่ไหมคะ” “ตอบสิ ฉันจะตอบทุกอย่างที่เธอสงสัยและอยากรู้ แต่…หลังจากที่เธอให้ในสิ่งที่ฉันต้องการแล้วเท่านั้น” เขาบอกพลางหยักยิ้มมุมปาก “แล้วคุณต้องการอะไร” “เธอไง” เขาโน้มลงมาบอกเสียงกระเส่า ทำเอาเธอถึงกับประหม่าจนต้องกัดเม้มริมฝีปากอย่างไม่รู้จะจัดการกับสถานการณ์ตอนนี้ยังไงดี โดยไม่รู้เลยว่าท่าทางของตัวเองกำลังปลุกเร้าบางอย่างในตัวเขาให้กระเจิดกระเจิง “ฉันชักอยากตอบเธอตอนนี้แล้วสิ เธออยากรู้อะไรพริบพราว” ใบหน้าเขาแดงก่ำ อีกทั้งเสียงทุ้มๆ ก็ยังแหบพร่า อา…! ดูเหมือนนี่จะเป็นสัญญาณอันตรายที่เธอควรหลบเลี่ยง แต่ให้ตายเถอะ! สองขาของเธอกลับไม่ขยับเขยื้อน ราวกับถูกตรึงไว้ กระทั่งใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้และสัมผัสไปที่ริมฝีปากอวบอิ่มเบาๆ จากนั้นก็เลื่อนขึ้นมาสัมผัสดวงตาทั้งสองข้างอย่างอ่อนโยน แล้วเลื่อนลงมาจูบที่จมูกอย่างอ้อยอิ่ง อา…! ร่างกายเขากำลังเรียกร้องรุนแรง จนหัวใจเขาไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป

บทที่ 1 01

“โอย...” พริบพราวครางเบาๆ พร้อมสะบัดหน้าแรงๆ อย่างพยายามเรียกสติของตัวเองกลับคืนมา ขณะกำลังเดินโซเซไปเข้าห้องน้ำ

แต่เหมือนมันจะไม่ได้ช่วยอะไร เมื่อเธอยังคงรู้สึกประคองสติไม่ได้ ทั้งๆ ที่ดื่มไปแค่แก้วเดียว เหตุใดจึงกลับรู้สึกหนักอึ้งราวกับดื่มเข้าไปทั้งขวด อีกทั้งยังรู้สึกร้อนมากขึ้นทุกขณะ เธอจึงรีบก้าวยาวๆ หวังใช้น้ำเย็นๆ ดับร้อนที่มันกำลังปะทุอยู่ข้างใน หญิงสาวผลักประตูที่อยู่เบื้องหน้าและเดินเข้าไปด้านในอย่างรีบเร่ง

“เฮือก!” เธอผงะตาโตด้วยความตกตะลึง เมื่อพบว่าในนี้ไม่มีชักโครกหรือแม้แต่อ่างล้างหน้า มีเพียงชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังโอ้โลมกันอยู่ ไม่สิ! ผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่พยายามโอ้โลมเอาอกเอาใจด้วยการนั่งคุกเข่าอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของผู้ชายซึ่งนั่งเอกเขนกอยู่บนโซฟา ท่วงท่าน่าหวาดเสียวของหญิงสาวคนดังกล่าวที่กำลังกระเหี้ยนกระหือรือที่จะปลดตะขอกางเกงของผู้ชายคนนั้น ทำเธอถึงกับต้องกลืนน้ำลาย กระทั่งเขาหันขวับมา นั่นเองที่ทำให้เธอนึกขึ้นได้ว่าที่นี่ไม่ใช่...ห้องน้ำ และเธอก็กำลังมองภาพอุจาดตานี้นานเกินไปแล้ว

สายตาคมกล้านั้นราวกับตรึงขาทั้งสองข้างของเธอไว้ไม่ให้ขยับ สติสัมปชัญญะที่เคยมีก็ค่อยๆ หดหายไปทีละน้อย กระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างๆ หู

“จะเข้ามาสนุกด้วยกันไหมล่ะ”

“เฮือก!” เสียงทุ้มๆ ของเพลิง นักธุรกิจหนุ่มชื่อดังทำเธอสะดุ้งโหยงอีกครั้ง แล้วจึงรีบหันหนีไปอีกทาง เธอสะบัดหน้าแรงๆ อย่างพยายามเรียกสติที่กำลังหลุดลอยไปไกล ก่อนจะพาตัวเองออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด แต่แล้วพริบพราวก็ต้องชะงักเพราะเสียงของเขา

“จะรีบไปไหนล่ะ” ความตกใจทำให้เธอหันขวับไปยังต้นเสียง

“อุ๊ย!” จมูกเธอชนแก้มเขาโดยไม่ตั้งใจ ทำให้พริบพราวผงะถอยพร้อมกับเอามือกุมจมูกด้วยความประดักประเดิด ต่างกับเขาที่ยังคงทำหน้านิ่งไร้ความรู้สึก

“ฉะ... ฉัน...” เธอพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ให้ตายเถอะ! สายตาเขามันทำให้พูดไม่ออก สุดท้ายจึงตัดสินใจเดินหนีออกไปดื้อๆ แต่ก็ยังช้ากว่าเขาที่ยื่นมือมากระชากแขนหญิงสาวกลับไปแรงๆ

“อุ๊ย!” เธออุทานหน้าตื่นเมื่อแรงกระชากทำให้เซมาปะทะที่อกเขาอย่างจัง ด้วยความสูงที่ต่างกันทำให้ใบหน้าเธอแทบจมอยู่กับอกแกร่ง ความอุ่นซ่านกอปรกับกลิ่นหอมจางๆ ทำเธอสะท้านไปทั้งตัว อีกทั้งใจก็เต้นไม่เป็นส่ำ หญิงสาวค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมอง แต่ทันทีที่ได้สบกับดวงตาคู่คมนั้น เธอก็รีบผละถอยด้วยความตื่นตระหนก แต่ก็ใช่ว่าเขาจะยอมปล่อย

ทว่าทันใดนั้นเอง พริบพราวก็ได้ยินเสียงกรี๊ดดังขึ้นมา ตามด้วยถ้อยคำก่นด่าเธอ

“นังหน้าด้าน! อยู่ๆ จะมาชุบมือเปิบ อย่าคิดนะว่าฉันจะยอม” ดาราสาวหน้าสวยอย่างชลธิชาเดินดุ่มๆ เข้ามาหมายจะกระชากเธอออกไปให้ไกล แต่...

“ออกไป” เสียงราบเรียบแต่นัยน์ตาดุกร้าวของเพลิงเอามือของชลธิชาที่ยื่นมาชะงักค้าง แต่ก็ใช่ว่าผู้หญิงที่ทะเยอทะยานอย่างเธอจะยอมแพ้ง่ายๆ

“คุณทำแบบนี้หมายความว่าไง ทั้งๆ ที่ชลลี่มากับคุณ แต่คุณกลับสนใจผู้หญิงหน้าไม่อายที่ไหนก็ไม่รู้ ชลลี่ไม่ยอม” ชลธิชาทำท่ากระเง้ากระงอดเรียกร้องความสนใจ เพราะถึงแม้การจับพลัดจับผลูได้มากับเขาจะเหมือนส้มหล่น แต่เธอก็จะไม่ยอมปล่อยให้โอกาสดีๆ แบบนี้หลุดลอยไป ต่อให้จะต้องงัดวิชาการแสดงทั้งหมดที่มีออกมา ดาราสาวมากฝีมืออย่างเธอก็จะทำ

“ดูเหมือนเธอจะลืมข้อตกลงระหว่างเรา ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้เสียเวลา กลับไปซะ แล้วอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก”

“ชลลี่ไม่ได้จะผูกมัดคุณ ชลลี่แค่หึงคุณมากไปหน่อย แต่ทั้งหมดก็เป็นเพราะชลลี่ชอบคุณ อยากอยู่กับคุณ อยากให้เราได้ใช้เวลาด้วยกัน ชลลี่แค่อยากให้เราได้รู้จักกันลึกซึ้งมากกว่านี้ แต่ถ้าคุณไม่ชอบ_ชลลี่ก็ขอโทษ ให้โอกาสชลลี่สักครั้งนะคะ สัญญาว่าต่อไปชลลี่จะไม่ล้ำเส้นคุณอีก นะคะคุณเพลิง” ชลธิชาแทบจะขอร้องอ้อนวอน เมื่อเห็นว่าโอกาสนั้นกำลังจะหลุดลอยไป

“เธอก็รู้ว่าระหว่างเรามันก็แค่เซ็กส์ แค่ความต้องการทางกายที่แลกมาด้วยเงิน เธอพอใจ ฉันพอใจ ทุกอย่างก็จบ ความสัมพันธ์ของเรายังห่างไกลจากคำว่าชอบ เพราะฉะนั้นอย่ามาเรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเธอจะไม่มีวันได้ในสิ่งที่เธอต้องการ หยิบเช็คนั่นแล้วออกไปซะ” ชลธิชาได้แต่กำหมัดแน่น รู้สึกเหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่

“คุณจะต้องเสียใจที่ทำแบบนี้ ชลลี่ไม่ยอมจบง่ายๆ แน่” ความเจ็บใจอีกทั้งเสียหน้าทำให้ชลธิชาสะบัดหน้าพรึ่ด แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะเดินไปหยิบเช็คก่อนวิ่งออกไป

“เกิดอะไรขึ้นครับนาย” มาวินที่เฝ้าอยู่หน้าห้องเห็นชลธิชาวิ่งออกไปอย่างฉุนเฉียว ก็รีบเข้ามาถาม แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าในอ้อมกอดของนายหนุ่มยังมีผู้หญิงอีกคน แน่นอนว่าบอดีการ์ดหนุ่มแทบไม่รู้เลยว่า ผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของเจ้านาย เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ด้วยก่อนนั้นตนต้องไปจัดการธุระแทนเจ้านาย ใครจะคิดว่าเวลาเพียงสั้นๆ ที่เดินออกไป จะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น เขาอดคิดไม่ได้ว่าถ้าไม่ใช่ผู้หญิงคนนี้ แต่เป็นศัตรู จะเกิดเรื่องอะไรที่ใหญ่โตกว่านี้ขึ้นบ้าง

“ขอโทษครับนาย ให้ผมพาผู้หญิงคนนี้ออกไปไหมครับ” หลังคิดได้ว่าทั้งหมดเป็นความบกพร่องของตน มาวินจึงพยายามแก้ไขด้วยการยื่นมือมาหมายจะคว้าตัวผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมกอดของเจ้านายออกมา

“ไม่ต้อง จะไปไหนก็ไป” เขาดึงคนในอ้อมกอดหลบก่อนจะกระชากเสียงใส่ด้วยสีหน้าเอาเรื่อง ทำเอาบอดีการ์ดหนุ่มถึงกับทำหน้างง ก่อนจะกลายเป็นตกตะลึงเมื่อได้เห็นใบหน้าผู้หญิงคนนี้ชัดๆ แน่นอนว่าตอนนี้เขาดูจะเข้าใจความคิดของเจ้านายมากขึ้น จึงเดินออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรอีก

“เธอจะรับผิดชอบเรื่องนี้ยังไงว่ามา” เพลิงดันตัวเธอออกมาแล้วแสร้งถาม แต่ก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นใบหน้าแดงๆ ของเธอ

“ฉันร้อน” เธอครางเสียงแผ่วพลางช้อนตามองเขาด้วยนัยน์ตาหยาดเยิ้ม ใบหน้าแดงก่ำ และที่น่าตกใจคือมือที่กำลังลูบไล้บนอกแกร่งของเขา

“จะทำอะไร” เขาจับมือซุกซนนั้นไว้ ในขณะที่เธอกลับยังพูดประโยคเดิม

“ฉันร้อน” สีหน้าท่าทางของเธอตอนนี้ทำเส้นเลือดบนขมับเขาปูดโปน ก่อนจะสบถออกมา

“บัดซบ!” แน่นอนว่าเขาพอจะเดาได้ว่ามันเกิดจากอะไร จึงลากเธอเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับเปิดน้ำหวังดับร้อนให้

“กรี๊ด…!” เธอร้องลั่นพร้อมกับโผเข้ากอดเขาไว้แน่น จากที่คิดว่าจะดับร้อนให้ กลายเป็นเขาที่เป็นฝ่ายร้อนขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ เมื่อเธอเอาแต่บดเบียดเนื้อตัวเข้าหา อีกทั้งเสื้อผ้าที่เปียกปอนก็แนบเนื้อจนอวดส่วนเว้าส่วนโค้งก็ดูจะอันตรายเกินไปสำหรับคนความอดทนต่ำอย่างเขา

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ผลิกา(เลอบัว)

ข้อมูลเพิ่มเติม
พ่ายรักเล่ห์มาเฟีย(1)

พ่ายรักเล่ห์มาเฟีย(1)

มหาเศรษฐี

4.9

“หยุดดิ้นเดี๋ยวนี้ไอรดา อย่ามาทำเป็นไร้เดียงสา คิดเหรอว่าผมโง่จนดูไม่ออกว่าคุณกำลังเสแสร้งแกล้งทำเป็นไม่ประสา เพราะยังไงผมก็ไม่เชื่อว่าผู้หญิงที่อยากได้สเปิร์มคนอื่นจนตัวสั่นอย่างคุณจะไม่สันทัดเรื่องพวกนี้ บางทีคุณอาจจะช่ำชองกว่าผมก็ได้ใครจะไปรู้ ทำไมไม่แสดงมันออกมาให้ผมดูล่ะ เผื่อว่าถ้าผมติดใจ อาจจะแบ่งสเปิร์มฝากไว้ในตัวคุณบ้างก็ได้” ใบหน้าแดงก่ำนัยน์ตาดุกร้าวของเขาบอกให้รู้ว่าตอนนี้เขากำลังไม่พอใจ ที่เธอพยายามดิ้นรนขัดขืน ทั้งที่ร่างกายของเธอกำลังตอบสนองต่อสัมผัสของเขา และมันยิ่งทำให้เขาขัดใจมากยิ่งขึ้นเมื่อคิดว่าเธอเคยพลีกายให้ชายอื่นครอบครองมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน “อ๊าย! ไอ้บ้า ไอ้ยักษ์ปากเสีย ฉันไม่ใช่พวกสำส่อนอย่างคุณนี่ ที่เอะอะก็จะพากันขึ้นเตียงอย่างเดียว” ไอรดายังพยายามผลักไสทุบตีเขาเท่าที่จะทำได้ อย่างน้อยๆ ถ้าเธอจะเสียตัวอีกเป็นครั้งที่สอง เขาก็ควรเจ็บตัวเป็นการตอบแทนบ้าง “จะบอกว่าคุณยังซิงว่างั้นสิ” จิโอวาโน่ยังคงไมเชื่อ และเมื่อเธอพยักหน้าหงึกหงักเขาจึงพูดต่อ “งั้นคงต้องให้ผมพิสูจน์หน่อยแล้วล่ะ ว่าลีลาของผมพอจะทำให้คุณเผยธาตุแท้ออกมาได้บ้างรึเปล่า” สรุปว่าเขายังไม่เชื่ออยู่ดี “กรี๊ด...! อุ๊บ!” เธอกรีดร้องได้แค่นั้น เมื่อเขาทาบทับริมฝีปากลงไปอีกครั้ง และดูเหมือนครั้งนี้เขาจะพยายามหลอกล่อให้เธอตกหลุมพรางอย่างที่เขาว่าเอาไว้ด้วยสัมผัสหนักหน่วงและปลุกเร้าไปในคราวเดียวกัน หญิงที่ไม่ประสาอย่างเธอจึงได้แต่ครางอืออาครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยกำลังสับสนมึนงงกับสัมผัสเรียกร้อง รุกเร้า โอ้โลมจากผู้ชายที่ชื่อจิโอวาโน่ และด้วยเสียงครางบวกกับการตอบสนองของเธอทำให้เขายิ้มมุมปากสมใจ คิดว่าคงถึงเวลาที่จะทำให้เธอดิ้นไม่หลุดยอมจำนนต่อหลักฐานว่าเธอมันก็แค่ผู้หญิงร่านรักและเคยผ่านผู้ชายมานับครั้งไม่ถ้วนเท่านั้นเอง “กรี๊ด...!” เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของไอรดา ทำให้จิโอวาโน่ถึงกับชะงักค้าง พลัน! หยุดการเคลื่อนทุกอย่างลง “นี่คุณยัง...”

บุพเพรัก กับดักมาเฟีย

บุพเพรัก กับดักมาเฟีย

มหาเศรษฐี

5.0

***“เธอรู้อะไรไหมแก้วตา ความจริงฉันหวั่นไหวตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเธอแล้ว แต่ฉันแค่ไม่อยากยอมรับ เพราะฉันยังไม่อยากมีครอบครัว คิดดูสิว่ามาเฟียเพลย์บอยอย่างฉัน จะต้องกลายเป็นผู้ชายกลัวเมีย ไม่อะ ฉันยอมรับไม่ได้ มันเสียเชิงชาย” ***ถึงเธอจะตบตาเขาว่าเป็นผู้ชาย แต่เชื่อเถอะว่าเขาจำเธอได้ตั้งแต่วันแรกที่เธอเหยียบเข้ามาในถิ่นเขาแล้ว ในเมื่อเข้ามาแล้วก็อย่าหวังว่าจะได้กลับออกไปง่ายๆ แล้วเธอจะได้รู้ว่าเขาเจ้าเล่ห์และเผด็จการกว่าที่เธอคิด ***เพราะความจำเป็นบีบบังคับ ทำให้แก้วมุกดาจำต้องปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อขึ้นไปทำงานบนเรือสำราญลำหรู แต่ใครจะคิดว่าโลกจะกลมทำให้เธอได้พบกับผู้ชายร้ายกาจอย่างอเล็กซิสที่นี่ ที่สำคัญเขายังเป็นเจ้านายเธอด้วย ***อเล็กซิส มอนเตอโร เพลย์บอยและมหาเศรษฐีเจ้าเสน่ห์ ข้างกายเขาที่ไม่เคยขาดแคลนผู้หญิง ทำให้เขาถูกขนานนามว่า “คาสโนวาตัวพ่อ” เพราะเพียงแค่ขยิบตา ผู้หญิงมากมายก็พร้อมจะกระโดดขึ้นเตียง คงมีแต่เธอนี่แหละที่ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์เพทุบายถึงจะได้เชยชมความสดสาวแม่คุณ ***“ไอ้หื่น ฉันไม่เชื่อหรอกนะว่าฉันจะเลอะเลือนถึงขั้นข่มขืนคุณได้ ไม่อย่างนั้นฉันต้องรู้สึกอะไรบ้างสิ แต่นี่ฉันไม่เห็นรู้สึกอะไรเลย ไม่เชื่อก็ดูนี่สิ อุ๊ย!” เธอเคยได้ยินมาว่าผู้หญิงที่เสียความบรสุทธิ์ครั้งแรกจะต้องรู้สึกผิดปกติอะไรบางอย่าง เธอจึงลองขยับตัวเพื่อพิสูจน์ กระทั่งรู้สึกร้าวระบมไปทั้งตัว ‘อย่าบอกนะว่าเราบ๊ะจ้ำบ๊ะกับอีตาหื่นนั่นแล้วจริงๆ ไม่! ฉันเสียตัวให้เขาแล้วจริงๆ’ เหมือนเธอจะอึ้งไปชั่วขณะ รู้สึกเหมือนโลกกำลังหยุดหมุน เหมือนมีคนเอาค้อนหนักๆ มาทุบที่หัวเข้าอย่างจัง ที่แรกก็คิดว่าเขาอำเพราะอยากแกล้งเธอเหมือนๆ กับในละครที่พระเอกอยากแก้แค้นนางเอกเลยจัดฉากให้ดูเหมือนว่าพวกเขาได้เสียกัน แต่ให้ตายสิ! ฉากที่เธอเจอกับตัวในวันนี้มันสมจริงยิ่งกว่านั้น เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะชัดเจนในความรู้สึกเธอ ‘ฉันเสียตัว ฉันเสียตัวแล้วจริงๆ ฉันเสียตัวให้กับผู้ชายคนนี้ ไม่.....’ ***“แล้วเมียไม่สงสารผัวบ้างเหรอ จะปล่อยให้ผัวนอนตัวแข็งแบบนี้ทั้งคืนจริงๆ อะเหรอ เมียก็เห็นว่าผัวไม่ได้แข็งแค่ตัว อย่างอื่นของผัวก็แข็ง สงสารผัวเถอะ ผัวขออีกแค่ประตูเดียวเอง ผัวจ๋ารักเมียจ๋านะ ผัวอยากมีลูกกับเมียจริงๆ”ให้ตายสิ เธอจะแพ้เสียงออดอ้อนกับคำว่ารักของผู้ชายคนนี้ทุกครั้งเลยรึไง

บทเรียนลับคลับชั้นสูง

บทเรียนลับคลับชั้นสูง

มหาเศรษฐี

5.0

ว่าแล้วเธอจำต้องยอมสวมบทเป็นนางทาสแต่งตัวให้นายท่านอย่างเขาด้วยความจำใจ แต่เธอก็มีวิธีที่จะไม่ต้องเห็นภาพบาดตานั่น ด้วยการปิดตามันดื้อๆ นี่แหละ รับรองไม่เห็นชัวร์ (เอ่อ! แต่ไอ้การปิดตาแบบนี้ ถึงมันจะไม่เห็นแต่มันก็ยังสัมผัสได้นี่) ยังไม่ทันขาดคำ ขณะที่เธอกำลังคุกเข่าเพื่อสวมอันเดอร์แวร์ให้เขาพร้อมกับปิดตาไปด้วย และไอ้การที่เธอกำลังปิดตานี่แหละที่ทำให้เธอทำอะไรไม่ค่อยสะดวก พยายามคลำโน่นคลำนี่เงอะงะไปหมด แน่นอนว่ามันอันตรายต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรของเขาด้วยเช่นกัน และเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา เขาจึงพยายามเหวี่ยงตัวหลบมือเรียวของเธอ ในขณะที่เธอกลับพยายามไล่ตามจับมันอย่างไม่ยอมแพ้เช่นกัน ให้ตายเถอะ! ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเธอกำลังคลำหาอะไร แล้วเธอมาไล่จับของเขาเพื่ออะไรเนี่ย เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก เขากับเธอยังคงเล่นไล่จับกันอย่างเสียวไส้ ด้วยการขยับเอวซ้ายขวาซ้าย เอ้าซ้ายขวาซ้าย ‘ซึ่งกูไม่เข้าใจเลยว่าทำไมกูต้องมายืนส่ายเอวอยู่แบบนี้ด้วย ให้ตายเถอะกูอยากถ่ายภาพนี้เก็บไว้จริงๆ เลย แม่คุณจะได้รู้ว่า ตัวเองกำลังตามล่าอะไรอยู่’ แต่เมื่อทำแบบนั้นไม่ได้ เขาจึงต้องส่ายเอวต่อไป เธอขยับมาทางซ้าย เขาจึงย้ายมาทางขวา เมื่อเธอไล่ตามมา เกือบจะคว้าได้แล้วเชียว เขารีบเบี่ยงตัวหลบ กลัวจะพบกับความเสียว ขยับเอวเพียงนิดเดียว เธอกลับเลี้ยวตามมาทัน (หมับ!!!) “ฮ่าๆๆ จับได้แล้ว” เธอหัวเราะชอบใจ เมื่อในที่สุดเธอก็คว้าหมับเข้ากับอะไรบางอย่างได้สำเร็จ โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร เมื่อไม่รู้ก็ต้องดูให้เห็นกับตา “กรี๊ด...! ลามกจกเปรต ทุเรศที่สุด เอามันออกไป เอาออกไปเดี๋ยวนี้นะ” เธอโวยลั่นกับบางอย่างที่อยู่ในมือ แต่ที่น่ากลัวไปกว่านั้นคือ มือเธอที่กำลังขยับส่ายไปส่ายมาราวกับจับปลาชะโดตัวโต ทำเอาคนถูกจับถึงกับต้องรีบขยับตามแทบไม่ทัน ราวกับกลัวว่ามันจะหลุดติดมือเธอไป ให้ตายเถอะ! ไม่เข้าใจว่าแม่คุณจะส่ายไปส่ายมาเพื่ออะไร ‘ไม่ใช่ปลาช่อนนะเว้ยเฮ้ย! แล้วมันก็ดิ้นไม่ได้ เอ๊ะ! หรือว่าได้วะ’ “นี่! แม่คุณ ช่วยตั้งสติแล้วก้มมองหน่อยเถอะ ว่าไอ้ที่อยู่ในมือคุณน่ะ ผมไปบังคับให้คุณจับมันรึเปล่า อูว! ถ้าขืนคุณยังไม่หยุดขยับตั้งแต่ตอนนี้ล่ะก็ เกิดปลาที่อยู่ในมือคุณมันพ่นน้ำออกมาอย่าหาว่าผมไม่เตือน” คำเตือนของเขาทำเอาเธอถึงกับรีบปล่อยมือทันที อีโรติก

ลิขิตรักใต้ผืนทราย

ลิขิตรักใต้ผืนทราย

สมัยใหม่

4.7

ความวุ่นวายบังเกิดเมื่อเธอดันมีตาวิเศษ และเขาก็ดันมีหูทิพย์ คนนึงมองผ่านทะลุเสื้อผ้าไปเจอซิกแพ็ก ส่วนอีกคนก็ดันได้ยินความคิดหื่นๆ ชีคอัฟฟาน อับดุล ฮาหมัด คาริฟา เจ้าชายมาดนิ่ง นิ่งซะจนไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย ยกเว้นเธอ ไม่ยุ่งก็บ้าแล้ว ก็แหมทั้งหล่อล่ำกล้ามแน่นขนาดนั้น ใครจะไปอดใจไหว ถึงจะเป็นของหวงห้าม แต่ถ้าลวนลามทางความคิดก็คงไม่มีใครว่า พรสวรรค์ สาวแว่นสุดเนิร์ดที่เกิดมาพร้อมพรสวรรค์ จริงๆ ก็ไม่ได้เนิร์ดหรอก แว่นที่ใส่ก็ใส่ไว้แค่พรางตาเฉยๆ ขืนไม่ใส่คงได้เป็นตากุ้งยิงทั้งปีทั้งชาติแน่ ไม่รู้ว่านี่เรียกว่าพรสวรรค์หรือฟ้ากลั่นแกล้งกันแน่ที่ประทานดวงตาที่สามารถมองผ่านทะลุเสื้อผ้าได้ นี่ถ้าไม่มีแว่นหนาๆ มาพลางไว้ล่ะก็ทั้งเมาคลีทั้งชีเปลือยนี่เดินกันให้ว่อน เห็นของผู้หญิงก็ดีหน่อย แต่เห็นของผู้ชายก็ดีกว่า เอ้อ! ไม่ใช่ๆ อืม! ใช่ก็ได้ เฮ้อ! ทีนี้ก็รู้แล้วใช่ไหมว่าเธอเนิร์ดหรือไม่เนิร์ด “นี่ก็เหมือนจริง” ไม่พูดเปล่า แต่แม่คุณยังพิสูจน์ด้วยการจับหมับลงไป ยังผลให้เจ้าของกล้ามสะดุ้ง ก่อนจะต้องกัดกรามกรอด เมื่อมือนั้นเริ่มขยับลูบไล้ไปมา “นี่ก็เหมือนจริง” เสียงเธอสูงขึ้นด้วยความตื่นเต้น ในขณะที่มือเรียวกลับเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่กล้ามหน้าท้องที่เป็นลอนสวยงามตามอย่างบุรุษเพศผู้ดูแลตัวเอง ก่อนจะบีบขยำมันด้วยความกระหายใคร่รู้ ในตอนนั้นเองที่ทำให้เธอเหมือนจะมีสติรู้ตัวขึ้นมา “บ้าบอ! เธอเป็นผู้หญิงนะพรสวรรค์ ไปลวนลามบีบขยำร่างกายผู้ชายเหมือนผู้หญิงหิวโซแบบนั้นได้ยังไง มันไม่งาม” คนที่เพิ่งรู้ตัวรีบชักมือกลับราวกับต้องของร้อน “หืม! แต่นี่มันในความฝัน ฝันของฉัน...ฉันจะทำอะไรยังไงก็ได้ จะจับจะลูบยังไงก็ได้ จะขยำขยี้ยังไงก็ย่อมได้” หมับ! อีกครั้งที่กล้ามเนื้อหน้าอกและหน้าท้องของเขาถูกคุกคามด้วยมือของผู้หญิงหิวโซ เฮ้อ! กุลสตรีสามสิบวิจริงๆ ‘ให้ตายเถอะ! ยัยหื่นนี่ หื่นกว่าที่คิดซะอีก’ เขาคิดพลางครางฮือ เมื่อมือนั้นสร้างความปั่นป่วนให้เขามากขึ้นทุกที มากจนต้องสูดปากบรรเทาความเสียดเสียวที่กำลังหมุนเกลียวในช่องท้อง และบางครั้งก็ต้องกัดฟันสะกดกลั้นความหื่นกระหายภายในที่ใกล้จะปะทุออกมาเต็มที “หึๆ ก็แค่ความฝัน ไม่ใช่ตัวตนจริงๆ ของเราสักหน่อย เพราะฉะนั้นเราจะย่ำยีผู้ชายคนนี้ยังไงก็ได้ ความฝันของเรา เราจะหื่นยังไงก็ได้” เธอย้ำอีกครั้ง พลางกดมือลงไปที่ขอบกางเกงของอีกฝ่ายอย่างย่ามใจ ครั้นพอจะเคลื่อนต่ำลงไปกว่านั้น ก็มีมือหนึ่งตะปบลงมาซะก่อน ยังผลให้คนทั้งคู่หันมาสบตากัน และดูเหมือนว่าคนที่ตกใจมากกว่าคือเธอ พรสวรรค์ทำหน้าเหลอหลาระคนตกใจ ทันใดนั้นเองเธอก็อุทานขึ้นมา

จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ

จะอ่อยให้คุณรักหัวปักหัวปำ

สมัยใหม่

5.0

ก็ในเมื่อเขาทั้งหล่อ ล่ำ อบอุ่น ใจดี แล้วยังมีนิสัยรวยอีกต่างหาก แล้วเรื่องอะไรเธอต้องปล่อยเขาไปด้วยล่ะ "คุณจะต้องเป็นของฉันคุณเจตต์" ทันทีที่มีนาหรือมัดหมี่ตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะไม่ปล่อยให้เจตต์ หนุ่มหล่อสุดฮอตที่เปรียบเสมือนเกราะนิรภัยของเธอถูกสุนัขคาบไปรับประทาน ปฏิบัติการอ่อยจึงเริ่มขึ้น “แต่งงานกันไหม” จู่ๆ มีนาก็โพล่งออกมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย “ถ้าไม่สบายก็กลับไปนอน ฉันจะทำงาน ไม่มีเวลามาเล่นกับเด็กแก่แดดอย่างเธอ” “นี่…ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ เรียนจบ มีงานทำ แล้วฉันก็อยากแต่งงานจริงๆ ไม่ได้คิดเล่นๆ อย่างที่คุณว่าด้วย” “รู้ใช่ไหมว่ากิจกรรมระหว่างผัวเมีย มันมากกว่าแค่นอนมองตากันเฉยๆ ดีไม่ดีบางคืนอาจจะไม่ได้นอนด้วยซ้ำ แล้วเด็กที่ต้องเข้านอนแต่หัวค่ำอย่างเธอจะไหวเหรอ” “คำก็เด็กสองคำก็เด็ก ก็บอกแล้วไงว่าไม่เด็ก ถึงฉันจะไม่มีประสบการณ์เรื่องอย่างว่าหรือผ่านโลกมาโชกโชนอย่างคุณ แต่ฉันก็ไม่ใช่กบที่หลบอยู่ในกะลา ถึงจะไม่รู้ว่ากิจกรรมอย่างว่าระหว่างผัวเมีย มันคืออะไร” “ไม่แต่ง จะไปไหนก็ไปไป ฉันจะทำงาน” เขาโบกมือไล่อีกครั้ง “ถ้าพูดดีๆ ไม่รู้เรื่อง งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน” “ตัวเท่าลูกหมาอย่างเธอจะทำอะไรฉันได้” “ถึงฉันจะทำอะไรคุณไม่ได้ แต่ฉัน…ก็อ่อยคุณได้แล้วกัน” “ไซส์อย่างกับหมากระเป๋า หุ่นก็เท่ากับเด็กอนุบาล อย่าว่าแต่จะอ่อยจะยั่ว ให้แก้ผ้าตรงหน้า ฉันยังคิดหนักเลย อย่างเธอน่ะถ้าจะยั่ว อย่างมากก็ทำได้แค่ยั่วโมโหเท่านั้นแหละ” “ในเมื่อเตือนแล้วไม่ฟัง งั้นก็อย่ามาร้องโอดครวญทีหลังแล้วกัน เพราะฉันเอาจริง จากนี้ไปฉันจะทั้งยั่วทั้งอ่อยให้คุณกระอัก จนคุณต้องรักฉันหัวปักหัวปำ เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ได้เลย ยังไงชาตินี้คุณก็ต้องเป็นผัว เอ๊ย! เป็นของฉัน คอยดู”

ยั่วรักมาเฟีย

ยั่วรักมาเฟีย

สมัยใหม่

4.5

“อย่าบอกนะว่าเธอกำลังคิดเรื่องลามกอยู่ เธอนี่มันหื่นตัวแม่จริงๆ เดี๋ยวก็อ่อย เดี๋ยวก็ยั่ว ใจคอจะปล้ำฉันให้ได้เลยใช่ไหม” เขาว่าพลางส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะหันไปลอบยิ้มอีกทาง แม้ว่าลึกๆ ในใจ ‘สุดที่รัก’ จะอยากเป็นเจ้าสาวของ ‘เลโอนาร์ด แบร์นาร์ด’ มาเฟียผู้ทรงอิทธิพลแห่งสเปนมากเพียงใด แต่เพราะมาดขรึมๆ กับหน้านิ่งๆ ของเขา มันเลยทำให้เธออยากรู้จริงๆ ว่าการหมั้นครั้งนี้เกิดจากความเต็มใจของเขารึเปล่า ดังนั้นเพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูน และเธอก็ไม่ได้ไร้เสน่ห์จนเกินเยียวยา เธอจึงต้องยั่ว ยั่วให้เขารู้ว่าผู้หญิงอย่างเธอไม่ได้มีดีแค่ยั่วโมโห ถึงจะเป็นการยั่วระดับอนุบาลก็เถอะ แต่เชื่อเถอะว่าเธอจะทำให้เขาหวั่นไหวได้…มั้ง “หยุด ไม่ต้อง ฉันถอดเองได้” สุดที่รักบอกพลางรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองเร็วๆ ด้วยกลัวว่าเขาจะฉีกมันอีก “ทำอะไร” เขาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย “ก็มันเสียดาย คุณถอดเองทีไรมันกลายเป็นเศษผ้าทุกที เพราะฉะนั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ห้ามคุณถอดเสื้อผ้าฉันอีกเป็นอันขาด” สีหน้าจริงจังของเธอ ทำเอาเลโอนาร์ดถึงกับหลุดขำออกมา “เธอจะเป็นคนถอดเองทุกครั้งที่ฉันต้องการงั้นสิ” “อืม! เฮ้ย! ไม่ใช่ ถอดทุกครั้งที่คุณต้องการ ฉันก็แย่น่ะสิ” เธอรีบแก้ต่างเมื่อเผลอรับคำเขาไป “แล้วจะเอายังไง” “โอ๊ย! คนบ้านี่ฉันเจ็บนะ ก็ในเมื่อคุณไม่ได้รู้สึกอะไร ไม่รัก ไม่หึง ไม่หวง แล้วคุณจะมาสนใจอีกทำไมว่าฉันจะคบจะคุยกับใคร นอกเสียจากว่าทั้งหมดที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้ คุณจะยอมรับว่าคุณรักฉัน ไม่งั้นคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามไม่ว่าฉันจะคุยกับใคร” “อืม!” เฮ้อ! จะฟังคำว่ารักจากผู้ชายคนนี้มันช่างยากซะจริง

หนังสือที่คุณอาจชอบ

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

จิตวิญญาณข้าถูกผนึก

โรแมนติก

5.0

อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน

ฮัวฟู่หรง ฮูหยินร้ายแม่ทัพทมิฬ

ฮัวฟู่หรง ฮูหยินร้ายแม่ทัพทมิฬ

โรแมนติก

4.9

เมื่อฮัวฟู่หรงถูกวางแผนฆาตกรรมให้จบชีวิตลงบนสะพานข้ามแม่น้ำเฉียนถัง สาเหตุเพราะได้รับบทฮูหยินฮัวของแม่ทัพอินลี่ซานผู้เลื่องลือแห่งต้าฉิน ที่นำมาทำละครฟอร์มยักษ์แห่งปี ซึ่งบทดังกล่าวตกมาเป็นของฮัวฟู่หรง ดาราสาวน้องใหม่ที่กำลังมาแรงในวงการบันเทิงจีน และมีชื่อแซ่ที่ดันไปตรงกับตัวละคร ครั้นหญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตัวเองมาอยู่ในอดีตยุคของขุนพลเทพแห่งต้าฉิน ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือแม่ทัพทมิฬอินลี่ซานที่กำลังพลิกแผ่นดินตามล่าค้นหาฮูหยินที่หายสาบสูญไป และเธอก็คือฮูหยินฮัวที่หายสาบสูญไปของแม่ทัพทมิฬ ที่สตรีทั่วหล้าต่างพากันริษยา หากแต่การกลับมาครั้งนี้ของฮัวฟู่หรง ดารา่สาวชื่อดังเธอไม่ได้ไร้เดียงสาดั่งเช่นในอดีตอีกต่อไป แต่เธอร้ายและก็ถือสากับทุกๆ คนที่ทำให้คนรอบข้างที่เธอรักต้องเจ็บและตายจากอย่างไม่หวนคืน ร้ายรักให้ถึงที่สุด ร้ายลึกทะลุไปจนสุดขั้วหัวใจ แต่ถึงร้ายอย่างไรก็เป็นหนึ่งในหัวใจของแม่ทัพทมิฬ เพราะแม่ทัพผู้กล้ารักมั่นต่อสตรีร้ายกาจนางนี้ยิ่งนัก

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ประวัติศาสตร์

4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

สามี ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง

เมืองแฟนตาซี

5.0

หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

ชายาข้าเป็นหมอนิติเวช

โรแมนติก

4.9

วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

คุณท่าน คุณนายมาหาอีกแล้ว

โรแมนติก

5.0

ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ