Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ร้อนรักคุณภรรยาข้ามวัน

ร้อนรักคุณภรรยาข้ามวัน

สรีสามัญ

5.0
ความคิดเห็น
85
ชม
12
บท

ชวนนักอ่านทุกท่านมาพบกับ “ร้อนรักคุณภรรยา (ข้ามวัน) ” นิยายเล่มเล็กฟินจิ้นกระจายกับพระเอกปากแจ๋วอย่างเฮียนนท์ กับ สุรางค์รัตน์นางเอกหน้าสวยจอมยั่วประสาทเขาได้กลายมาเป็นคุณภรรยาข้ามคืนของเขาเสียนี่ เมื่อโลกใบกว้าง เหวี่ยงคนขั้วเดียวกันให้มาพบกันเรื่องราวความรักร้อน ๆ จึงเกิดขึ้นโดยที่หญิงสาวไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวว่าไปตกหลุมรักผู้ชายปากร้าย หน้าหล่อ นิสัยกวนประสาท แถมขี้หึงเป็นบ้า ตรงไหนเช่นกัน มาติดตามเรื่องราวความหวานปนความแซ่บ ผ่านนิยายฟินจิกหมอนเรื่องนี้ “ร้อนรักคุณภรรยา (ข้ามวัน) ” กันได้แล้ว นิยายพาฝันเบา ๆ แต่ฟินเหมือนลอยตัวอยู่นอกจักรวาลทางช้างเผือก โปรยปราย เขาก้าวขึ้นมาบนรถข้างที่นั่งคนขับข้างหญิงสาว เรียวปาก บางเอ่ยเรียกหญิงสาวแกมสั่ง “คาดเข็มขัดสิ” ธนนนท์เอ่ยขึ้น “คาดก็ได้” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม สุรางค์รัตน์อด นึกโมโหในใจไม่ได้ ไวเพียงชั่วขณะความคิด ดวงหน้าคมคายโน้มเข้ามาใกล้ใบหน้าสวยชายหนุ่มเผลอสบสายตากับหญิงสาวอย่างไม่ทันตั้งตัว อารามตกใจทำให้ธนนนท์เบือนหน้าหนีทันที “นายเป็นอะไร” สุรางค์รัตน์ที่เพิ่งอายุครบ 22 ปีบริบูรณ์เอ่ย ถามเขาอย่างไม่เข้าใจ “ต่อไปนี้เรียกฉันว่าเฮียนนท์” เสียงเข้มของธนนนท์เอ่ย กำชับเธอด้วยใบหูแดงเรื่อ “ทำไมต้องให้เรียกเฮียด้วย” สุรางค์รัตน์เอ่ยถามอย่างสงสัย “ก็ฉันอยากให้เธอเรียก” ธนนนท์เอ่ยขึ้น พลางยักคิ้วข้าง หนึ่งอย่างยั่วอารมณ์ของหญิงสาว “ก็ได้” สุรางค์รัตน์เอ่ยเสียงห้วนกว่าเดิม รถคันหรูแล่นทะยานออกไปแล้ว หากแต่เวลานี้สุรางค์รัตน์ ยังคงนั่งอารมณ์เสียข้างคนขับรถผู้หล่อเหลาราวเทพบุตร “เป็นอะไรนั่งหน้าบูด” เสียงเข้มของธนนนท์เอ่ยขึ้นขณะขับ รถยนต์คันหรูให้หญิงสาวนั่ง “เปล่า” สุรางค์รัตน์ตอบเขาเสียงเข้ม “เหรอ” ธนนท์เอ่ยถามอย่างเลียนเสียงของเธอ “ค่ะ” สุรางค์รัตน์กระแทกเสียงใส่ชายหนุ่ม “ถามดี ๆ ก็ตอบดี ๆ ซิครับ” ธนนนท์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียง ไม่พอใจหญิงสาวเล็กน้อย “ต่อไปนี้เธอต้องมาอยู่กับฉันที่บ้านใหม่” มาเฟียหน้าหล่อ เอ่ยขึ้น ท้ายประโยคชายหนุ่มแสร้งเอ่ยเสียงดุ

บทที่ 1 จับตัว

ชิงช้าสวรรค์ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของหญิงสาว ดวงตาคู่กลมโตของสุรางค์รัตน์เบิกกว้างยามเมื่อเห็นเครื่องจักรหมุนด้วยแรงของมือมนุษย์กำลังหมุนอย่างเชื่องช้า

“ออยดูอะไรอยู่ลูก” อมรเดช เอ่ยถามบุตรสาวเพียงคนเดียวของเขา

“เปล่าค่ะพ่อ…ออยว่าจะไปดูร้านกิ๊บติดผมค่ะ” สุรางค์รัตน์เอ่ยบอกบิดาของตนเอง

“งั้นเดี๋ยวพ่อเดินไปเป็นเพื่อน” อมรเดชกล่าวพลางเดินจูงมือบุตรสาวไปยังร้านขายอุปกรณ์ทำผมที่สุรางค์รัตน์ชอบไป

“ได้มาเดินงานวัดแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะออย” ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้นพลางหันมามองบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนเอง

เด็กสาวตากลมโตแป๋วในวันวานถูกกาลเวลาเปลี่ยนผ่านให้เป็นหญิงสาวอายุครบยี่สิบสองปีบริบูรณ์ ผู้เป็นพ่อได้แต่ปลื้มใจอยู่ไม่น้อยที่เขาสามารถเลี้ยงสุรางค์รัตน์ให้เติบใหญ่มาได้คนเดียว

ภรรยาของเขาจากไปตั้งแต่ลูกสาวของเขาเพิ่งเข้าโรงเรียนไปได้ไม่นาน แม้กระนั้นเขาจำได้ดี สุรางค์รัตน์มักถูกล้ออยู่เป็นประจำที่ไม่มีมารดาเหมือนคนอื่นเขา

สองข้างทางเป็นร้านค้าขายหอยทอดกลิ่นควันหอมคลุ้งของอาหารจานโปรดลอยมาแตะจมูกของอมรเดช

“ออยกินหอยทอดไหมลูก” อมรเดชเสนอ

“เอาสองห่อค่ะ” สุรางค์รัตน์เอ่ยขึ้น

ไม่นานนักก็มีรถมาจอดข้างหลังของสองพ่อลูก รถยนต์สีดำคันหรูทว่าอมรเดชที่หันไปเห็นทะเบียนของรถยนต์คันนั้นพอดี ทำให้เขาตัดสินใจจับมือบุตรสาววิ่งหนีฝ่าฝูงชนเข้าไปทันที

อากัปกิริยาเมื่อครู่ทำให้ร่างสูงโปร่งที่ลอบมองกิริยาของสองพ่อลูกผ่านแว่นกันแดดสีดำยกยิ้มที่มุมปากบางอย่างสมใจ

“มันหนีไปแล้วครับนาย” เสียงเข้มของบุรุษหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างกังวลใจ

มือหนาของธนนนท์ยกขึ้นปรามลูกน้องด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก เรียวปากบางขยับเป็นคำพูดสองคำ

“จับมัน” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น

สุรางค์รัตน์กวาดสายตาไปมองรอบด้านอย่างหวาดกลัว เวลานี้เธอและพ่อของเธอถูกโจรชั่วจับตัวมา

บรรยากาศในห้องค่อนข้างอับ หญิงสาวได้กลิ่นสีที่ทายังไม่เสร็จดีลอยปะทะจมูก บนฝ้าเพดานห้องมีโคมไฟเก่าคร่ำคร่าที่ปลายโคมไฟมีหยากไย่เกาะเสียจนรกรุงรัง

“ปล่อยผมนะ ผมไม่รู้เรื่อง” เสียงเข้มของอมรเดช ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่างโวยวายขณะนั่งอยู่อีกฟากของฝาห้องเดียวกันกับสุรางค์รัตน์

หากสุรางค์รัตน์คาดคะเนไม่ผิดเธอเชื่อว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่สวมหมวกคลุมหน้าที่จับพวกเธอมาคงเป็นผู้ทรงอิทธิพลของบิดาของเธอเป็นแน่

“เอาตัวมันมา” เสียงเข้มดังขึ้นนอกห้องของที่หญิงสาวอยู่

ประตูบานใหญ่เปิดผาง ไม่นานนักกลุ่มชายสวมโม่งก็กรูกันเข้ามาจับชายวัยกลางคนและบุตรสาวของเขา

“คุณพ่อ” เสียงของหญิงสาวเอ่ยด้วยความหวาดกลัว เวลาในหัวใจของสุรางค์รัตน์หล่นวูบไปถึงตาตุ่ม ความเย็นเหยียบแทรกผ่านหัวใจของเธอยามเมื่อได้ยินเสียงของบิดาเธอ

“ออย” อมรเดชเอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวที่ร้องเรียกหาเขาด้วยความตกใจ

กลุ่มชายสวมโม่งสวมชุดสีดำสนิทจับสุรางค์รัตน์แยกออกจากอมรเดชได้สำเร็จ

“เดินไป” เสียงของชายในชุดสีดำสนิทเอ่ยขึ้นพลางดันหลังให้ชายวัยกลางคนเดินไปก่อน

ชายวัยกลางคนจำต้องเดินไปอย่างเสียไม่ได้ อีกใจของเขาเป็นห่วงบุตรสาวเพียงคนเดียวไม่น้อย

สุรางค์รัตน์เดินตามหลังบิดาอย่างห่าง ๆ ไปตามทางแคบเล็กอย่างจำนน ด้วยความหวาดกลัวในปืนของชายสวมโม่งที่จ่อด้านหลังของเธอ

“นั่งลง” เสียงเข้มเอ่ยบอกชายวัยกลางคนพลางหันมาทางสุรางค์รัตน์อย่างพยักพเยิดให้หญิงสาวรับรู้

หญิงสาวจำต้องนั่งลงอย่างเสียไม่ได้ สุรางค์รัตน์มองบรรยากาศรอบ ๆ ห้องอย่างตื่นตะลึง

โซฟาสีแดงขนสัตว์นุ่มฟูที่เธอกำลังนั่งอยู่นี้ หากหญิงสาวคะเนไม่ผิดนัก โซฟาตัวนี้น่าจะทำจากขนสัตว์ทั้งตัว ใครหนอช่างใจร้ายอำมหิตใจดำกับเหล่าสัตว์ที่แสนน่ารักได้มากถึงเพียงนี้

เธอชักอยากเห็นใบหน้าของคนสั่งซื้อเสียแล้วซิยังไม่ทันที่ สุรางค์รัตน์จะได้คิดอะไรต่อ ประตูบานใหญ่สลักลายวิจิตรพลันเปิดออกกว้างตามด้วยร่างสูงโปร่งที่สาวเท้าเข้ามาแล้วนั่งลงตรงหน้าอมรเดชเละสุรางค์รัตน์

สุรางค์รัตน์เงยหน้ามองไปรอบ ๆห้องที่ใหญ่โตโอ่งโถงด้วยอารมณ์สงสัยใคร่รู้ไปเสียหมด

“อะเเฮ่ม” ชายหนุ่มกระเเอมไอเพื่อเรียกสติของหญิงสาวตรงหน้าให้หันมาสบสายตาของเขา

หญิงสาวเบือนหน้ากลับมาทางเดิมพลันต้องตกใจสุดขีด ยามเมื่อเวลานี้ใบหน้าของเทพบุตรหนุ่มอยู่ใกล้เธอแค่คืบ

“ว้าย” สุรางค์รัตน์กรีดเสียงดังลั่นพลางถอยกรูดจนไปชิดพนักของโซฟาสีแดงหนานุ่มที่เธอนั่งอยู่

“นี่นะเหรอลูกสาวนาย” เสียงเข้มของชายหนุ่มหันมามองดวงหน้าหวานของหญิงสาวอย่างพินิจพิเคราะห์

“ฉันเป็นลูกสาวของเขาแล้วยังไงล่ะลุง” สุรางค์รัตน์เหลืออดในการกระทำของชายหนุ่มตรงหน้าเธอ หญิงสาวเลิกคิ้วตามประสาคนเลือดร้อนอย่างยียวน

ตั้งแต่เกิดมาธนนนท์ไม่เคยเห็นสตรีคนไหนมีกิริยาหยาบกระด้างเช่นเธอมาก่อน แม้แต่เส้นผมของหญิงสาวยังยุ่งเหยิงฟูฟ่องเสียจนธนนนท์แอบถอนหายใจ

“เธอเรียกใครว่าลุงหะ” เสียงเข้มของธนนนท์เอ่ยขึ้นอย่างฉุนเฉียว

“หมาละมั้ง” สุรางค์รัตน์เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหวว

“ไหนหมา” ธนนนท์เหลืออด ชายหนุ่มเถียงหญิงสาวกลับอย่างไม่ยอมแพ้

“ก็นายไง” หญิงสาวยกมือเท้าสะเอวพลางพยักเพยิกดวงหน้าง้ำไปทางชายหนุ่ม

ธนนนท์ ชายวัยกลางคนก้มลงมองตนเองอย่างไม่เชื่อสายตาว่าลูกสาวของลูกหนี้จะปากคอเราะร้ายได้มากมายขนาดนี้ เขากัดฟันกรอดอย่างลืมตัว

ดวงหน้าของหญิงสาวในเวลานี้ไร้ซึ่งการแต่งแต้มสีสันฉูดฉาดเสมือนสตรีคนอื่น ๆ ที่เขาเคยได้เจอ

ธนนนท์ลอบมองริมฝีปากของหญิงสาวชวนหลงใหลอย่างกรุ่นไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด

“หนี้ที่คุณติดผมไว้ คุณยังไม่จ่ายผม” เสียงเข้มของชายหนุ่มตรงหน้ากดลงต่ำสุด ดวงตาของเขาทอดมองไปยังชายวัยกลางคนอย่างเหี้ยม

หญิงสาวอดรู้สึกถึงรังสีอำมหิตของเขาแผ่ซ่านออกมาไม่ได้ ทว่าเขาไม่ได้มีควันสีดำเหมือนในภาพยนตร์ สุรางค์รัตน์กลับจับ ออร่าของชายหนุ่มผู้นี้ได้

สีหน้าของหญิงสาวเมื่อครู่ไม่อาจทำให้เขาสงบลงได้เลย แววตาของสุรางค์รัตน์บ่งบอกว่าหวาดกลัวเขาถึงที่สุด

“ส่วนหนี้ที่ก่อเพิ่มก็ยังไม่ได้ชำระ” ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าเป็นเรื่องปกติท้ายประโยคเขาเน้นเสียงต่ำกว่าเดิม

“ผมเคยให้เวลาคุณมานานแล้วนะอมรเดช” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังพลางโบกมือขึ้นเป็นสัญญาณบางอย่าง

ภาพที่ปรากฏตรงหน้าสุรางค์รัตน์ชวนให้อารมณ์ของหญิงสาวเกรี้ยวกราดถึงขีดสุด หญิงสาวกระโดดพรวดเข้าขวางการกระทำของชายหนุ่มที่จะเดินมาถึงบิดาของเธอพอดิบพอดี

“หยุดถ้านายแตะต้องพ่อฉัน ฉันจะเรียกตำรวจ” สุรางค์รัตน์เอ่ยขึ้นอย่างไม่รอรี

ร่างสูงโปร่งเหลียวมองสตรีร่างเล็กที่เข้าขวางทางกระสุนอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเกรงกลัวในอิทธิพลของเขาเลยสักนิด

ปืนกระบอกหนึ่งถูกดึงขึ้นจากด้านหลังเล็งมายังศีรษะของ สุรางค์รัตน์อย่างรวดเร็ว บอดี้การ์ดของธนนนท์เล็งปืนหมายจะยิงทิ้ง

“ไม่ต้อง” เสียงเข้มของธนนนท์เอ่ยเกรี้ยวกราดใส่บอดี้การ์ดหนุ่มที่ต้องการจะปลิดชีวิตหญิงสาวที่เข้าขวางทางการกระทำของเขา

“แต่นังนี่…” บอดี้การ์ดเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีตกใจกว่าเดิมเมื่อเห็นสีหน้าของธนนนท์

“ปล่อยเธอซะ” เสียงเข้มของธนนท์ดังขึ้นเป็นอีกหนึ่งคำรบใหญ่ ทั่วทั้งห้องโอ่งโถงเงียบกริบจนสุรางค์รัตน์ได้ยินเสียงของลมหายใจตนเอง

ปืนด้ามที่ถูกขึ้นนกเพื่อยิงปลดล็อคกระสุนให้ลูกระสุนร่วงหล่นลงมาอย่างเชื่องช้า

เสียงของลูกกระสุนที่ร่วงหล่นทำให้หญิงสาวตัวสั่นอยู่ไม่น้อย ทว่าวินาทีนี้เธอยังต้องรักษาชีวิตครอบครัวของเธอเอาไว้

แม้จะมีบิดาที่ไม่เอาไหน แต่บิดาก็คือบิดา เช่นนั้นสุรางค์รัตน์จึงคิดหาคำตอบอย่างรวดเร็วในสมองของหญิงสาวประมวลผลอย่างหนัก หากเธอไม่ทำอะไรสักอย่างบิดาของเธอจะต้องแย่แน่ ๆ

“ฉันขอถาม” เรียวปากอวบอิ่มขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ว่ามา” เจ้าหนี้หนุ่มกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึงสุดขีด เวลานี้เขาเริ่มจะหมดความอดทนกับหญิงสาวเสียแล้ว

“พ่อฉันติดหนี้คุณอยู่เท่าไหร่” สุรางค์รัตน์เอ่ยถามเขาในสิ่งที่ค้างคาใจหล่อนมานานแสนนาน

“ยี่สิบล้าน” เสียงเข้มของธนนท์เอ่ยชัดถ้อยชัดคำแต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้มือเรียวบางของคนตัวเล็กสั่นระรัวไม่ได้

“ฉันต้องการแลกตัวฉันกับเงินยี่สิบล้าน” สุรางค์รัตน์เอ่ยขึ้นอย่างจนมุมในการกระทำบิดาของเธอ

“คุณหมายความว่าอย่างไร” ธนนท์เอ่ยถามเสียงแผ่วเบา เขาพยายามสงบสติอารมณ์ของเขาต่อหญิงสาวสวยตรงหน้า

“ในเมื่อคุณจับฉันมาด้วยนั่นหมายถึงฉันย่อมมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบในการกระทำครั้งนี้ของพ่อฉันด้วย” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงฉะฉาน

“แต่คนก่อหนี้ไม่ใช่เธอ” ชายหนุ่มพูดราวกับว่าเขาเป็นเครื่องจักรยนต์ที่ไร้ชีวิตและจิตวิญญาณ

ดวงตาของสุรางค์รัตน์เปล่งประกายวาววับทอประกายกล้า ทว่าเวลานี้เธอยังต้องหาข้อเสนอที่คุ้มค่าเพื่อแลกบางสิ่งกับเขา

“ต่อให้คุณฆ่าพ่อฉันตาย คุณก็ไม่ได้เงินคืนอยู่ดี” สุรางค์รัตน์เอ่ยอย่างเหลืออด เรียวปากอวบอิ่มยังขยับเอ่ยประโยคต่อไป

“แต่ถ้าคุณเลือกฉันฉันก็ยังหาเงินให้คุณได้” หญิงสาวเอ่ยด้วยไพ่ใบสุดท้ายที่เธอมั่นใจว่าถือเหนือกว่า

ดวงตาของชายหนุ่มเปล่งประกายวิบวับ ยามเมื่อธนนนท์ได้ยินข้อเสนอสุดแสนจะแปลกประหลาดของหญิงสาว

‘ยัยนี่ ถ้าจะเพี้ยนแต่ก็อาจจะจริงของยัยนี่’ ธนนท์คิดในใจ

“ตกลง…แต่เธอจะต้องลงลายเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยการจดทะเบียนสมรสกับฉัน” ธนนนท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มจนเกือบจะตวาดหญิงสาวตรงหน้าของเขา

“ฉันตกลง” สุรางค์รัตน์เอ่ยด้วยแววตาเป็นประกายอย่างสมใจ

“ปล่อยตัวพวกเขาได้” เสียงเข้มเกือบคำรามของชายหนุ่มทำให้ลูกน้องของเขาถอยกลับไปยืนตามเดิม

“ออยทำไมทำแบบนี้ล่ะลูก” บิดาของออยเอ่ยถามเสียงอ่อน

“ออยต้องถามพ่อมากกว่าเมื่อไหร่จะหยุดสร้างปัญหาให้ครอบครัวเราสักทีคะ พ่อไม่ต้องพูดแล้วค่ะ กลับบ้านค่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” สุรางค์รัตน์กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

มือเรียวขาวนวลละเอียดของหญิงสาวลากบิดาของตนเองออกจากห้องนั้นอย่างทุลักทุเล

ประตูบานกว้างปิดลงไปแล้ว หากแต่ชายหนุ่มยังกรุ่นด้วยอารมณ์โกรธเมื่อครู่อยู่

“เงินก็ไม่ได้แต่กลับได้จดทะเบียนสมรสแทน โธ่เว้ย” ธนนนท์เอ่ยขึ้นพลางปัดเอกสารหล่นกระจายเต็มพื้นห้อง

มือหนาของชายหนุ่มหยิบสัญญามากำไว้แน่นพลางเขวี้ยงทิ้งอย่างอารมณ์เสียแล้วทุบโต๊ะปังใหญ่สามครั้ง แววตาของฉายหนุ่มวาวโรจน์กว่าเดิมเป็นพันทวี

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ สรีสามัญ

ข้อมูลเพิ่มเติม
หวานรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว SET คุณพ่อลูกติด

หวานรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว SET คุณพ่อลูกติด

โรแมนติก

5.0

"หวานรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว SET คุณพ่อลูกติด" นิยายรักพาฝันที่จะพาทุกคนมารู้จักพวกเขา ผลงานจากปลายปากกาของสรีสามัญ เมื่อดณิชา (เดย์) เป็นหนี้ท่วมหัว หญิงสาวกู้หนี้ยืมสินไปทั่วงานนี้เธอจึงต้องเอาตัวเข้าแลกด้วยการเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ให้กับมิกซ์ มาริค ชายหนุ่มที่เธอไม่ชอบหมอนี่ตั้งแต่แรกเห็น ร่วมพิสูจน์ความน่ารักของพวกเขาทั้งสามคนได้ในหนังสือเล่มนี้กับ "หวานรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว SET คุณพ่อลูกติด" นิยายเล่มนี้สรีสามัญได้จับมือกับนักเขียนมากความสามารถหลายท่านเลยค่ะ ซึ่งนิยาย "หวานรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว" นี้จะอยู่ใน SET คุณพ่อลูกติด โดยมีนิยายเรื่อง 1.) จีบได้ครับคุณพ่อของผมโสด #ญาธิดา 2.) ลุ้นรักแด๊ดดี๊เลี้ยงเดี่ยว #พิมรภัค 3.) หวานรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว #สรีสามัญ 4.) คุณพ่อหนูโสดโปรดจีบเถอะค่ะ #ณชามา 5.) รักวุ่นวายของปะป๊า(แวนไพร์)เลี้ยงเดี่ยว #เพชรวิฬาร์ 6.) หยอดรักคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว #cnkmidmile 7.) คุณน้าขา...คุณพ่อหนูเป็นประธานบริษัท #อรอินทุ์ 8.) คนนี้มามี้หนู #รณิชา 9.) ปะป๊าหนูโสด อยู่ในโหมดอยากได้แม่ใหม่ #Reenrin 10.) แฟนเก่าแด๊ดดี๊ คือมามี้คนใหม่ของหนู #พิมพ์พิรดา +++++++++++++++++++++++++++ โปรย ดวงตาสุกใสกลมโตเปล่งประกายระยับยามเมื่อเวลานี้เดย์กำลังมองเห็นสิ่งที่หล่อนต้องการอยู่เบื้องหน้าของเธอเอง มือเรียวยาวของเดย์เอื้อมหมายจะหยิบหนังสือท่องเที่ยวภาษาอังกฤษเล่มหนึ่งขึ้น ทว่ามืออีกข้างที่ไวกว่าของคนข้าง ๆ กับฉวยหยิบหนังสือเล่มนั้นไปเสียก่อน หญิงสาวอดรู้สึกไม่ได้ว่า ชายผู้ที่หยิบหนังสือไปต่อหน้าต่อตาของเธอนั้นช่างไร้มารยาทสิ้นดี ดวงตาสองข้างของหญิงสาวกวาดสายตามองบุรุษข้าง ๆ ที่สวมเสื้อโค้ทยาวคลุมตัว บนศีรษะของชายหนุ่มสวมหมวกปีกกว้างใบโตใบใหญ่สำหรับผู้ชาย ผู้ชายคนนี้แต่งตัวราวกับว่าหลุดออกมาจากแฟชั่นอีแมกกาซีน ออนไลน์ก็ไม่ปาน ใบหน้าของชายผู้นี้คมเข้ม คิ้วเรียวเรียงกันเป็นเส้นโค้ง จมูกของเขาโด่งรั้น เชิดขึ้นคล้ายกับลูกเสี้ยวชาวต่างชาติ ริมฝีปากของนายนั่นบางเฉียบแถมยังมีสีหวานอมชมพู ดูรวม ๆ แล้ว ชายหนุ่มคนนี้จัดได้ว่าหล่อเหลาปานวัวตายควายล้มได้เลย ติดก็แต่มารยาทนี่แหละที่ทรามที่สุด อย่างเดย์ไม่เคยเห็นใครเป็นมาก่อนในชีวิตนี้ "นี่คุณเล่มนี้ฉันเห็นก่อนนะ" เดย์เอ่ยท้วงเขาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจอย่างมาก "แต่ผมว่าผมเห็นเล่มนี้ก่อนคุณนะครับ คุณผู้หญิง" เสียงเข้มกล่าวโต้ตอบอย่างไม่พอใจที่หญิงสาวตรงหน้าแสดงความเป็นเจ้าของหนังสือเล่มที่เขาจองเอาไว้มานานแล้ว "นี่คุณหมายความว่ายังไง" เดย์เอ่ยถามเขาพลางยกมือขึ้นยืนเท้าสะเอวขึ้นมาอย่างนึกฉุน "ใจเย็น ๆ กันก่อนนะคะคุณลูกค้า" พนักงานสาวแคชเชียร์ที่ยืนคิดเงินเอ่ยเสียงดังขึ้นทะลุกลางปล้อง "คุณผู้หญิงรับเล่มอื่นเถอะนะคะ พอดีเล่มนี้คุณผู้ชายเขาจองไว้ตั้งแต่เดือนที่แล้วค่ะ" พนักงานสาวสวยแคชเชียร์ที่ทำหน้าที่ยืนเครื่องคิดเงินกล่าว "แต่หนังสือมีตั้งหลายเล่มนะคะ" เดย์กล่าวอย่างชี้แจงอย่างไรเธอมาก่อน เธอเห็นมันก่อนและหญิงสาวควรจะได้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้ก่อนชายสวมโค้ทผู้นี้ซิ มันถึงจะถูกต้อง! "ขออภัยค่ะคุณผู้หญิงแต่คุณผู้ชายเขาต้องการหนังสือเล่มที่มีหมายเลขสิบสามเท่านั้นค่ะ" พนักงานแคชเชียร์เอ่ยด้วยเสียงสั่นพร่า เดย์ชะงักทันทีที่เห็นหมายเลขบนหนังสือนิตยสารท่องเที่ยวประเทศแอฟริกาใต้ เคปทาวน์ที่หล่อนกำลังหามาอ่านเพื่อเสริมความรู้นั้นมีหมายเลขระบุกำกับไว้เป็นเลขหนึ่งนำหน้า และเลขสามตามท้าย หญิงสาวรู้สึกเหมือนว่าโลกจะถล่ม ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นผู้ชายบ้าบออะไรจองแม้กระทั่งเลขระบุตรงหน้าหนังสือ "ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเอาเล่มอื่นก็ได้ค่ะ ถ้าเล่มนี้มีคนจองแล้ว" เดย์กล่าวอย่างตัดบทเมื่อเห็นสายตาดุคมทอดมองมายังเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า "ขออภัยจริง ๆ นะคะ คุณผู้หญิง" หญิงสาวแคชเชียร์กล่าวพลางโค้งให้กับเดย์อย่างสุภาพ "ทางด้านคุณผู้ชายรับเพียงเล่มเดียวใช่ไหมคะ" พนักงานในร้านหนังสือชื่อดังเอ่ยถาม "อ๋อ ถ้าไม่รังเกียจผมขอเหมาทุกเล่มในชั้นนี้เลยครับ" ชายหนุ่มตรงหน้ากล่าวอย่างไม่รอรี ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ขอบคุณจากหัวใจ ดวงดาหลา นักเขียน ติดต่อนักเขียน : เพจ Agif ดวงดาหลา สรีสามัญ รติธร หรือ Facebook : Anchittha Riabroi [เเวะมาคอมเม้นพูดคุยกันได้นะคะ]

พลอยมลทิน

พลอยมลทิน

โรแมนติก

5.0

“ก็พลอยเอกละครนี่นา” ดุจพลอยกล่าวอย่างไร้สามัญสำนึก “เสี้ยวเพชรไม่น่าจะเอะใจ ผมคิดว่านะ” วิชญ์กล่าวด้วยเสียงคำรามต่ำกว่าเดิม “แหมพี่วิชญ์ก็...รู้ใจดุจพลอยจังค่ะ” ดุจพลอยเอ่ยเสียงกระเส่ายามเมื่อวิชญ์แทรกแก่นกำยำเข้าสู่ช่องทางสวรรค์ของเธอ มือหนาลากไล้หน้าท้องแบนราบของดุจพลอยนางแบบสาวอย่างกระหาย เวลานี้วิชญ์ถูกความกำหนัดครอบครองเสียแล้ว ชายหนุ่มไม่เคยเห็นหญิงสาววัยยี่สิบต้นๆ คนไหน ขาวโพลนขนาดนี้มาก่อน ในใจของวิชญ์เต้นระรัวไม่เป็นส่ำ เขาแอบหลงรักดุจพลอยมาก่อนที่จะเข้าพิธีหมั้นหมายกับเสี้ยวเพชร เวลานั้นดุจพลอยยังคงเป็นสาวแรกรุ่น เธอมักชอบใส่กระโปรงสั้นและทอดสายตามองมายังเขาเสมอ วิชญ์รู้ดีว่าดุจพลอยเพียงแค่อยากบริหารเสน่ห์ทว่าเขาที่เป็นผู้ชายทั้งแท่งมีหรือจะไม่อยากได้เธอสักวัน และวันนี้ก็เป็นวันที่เขาสมปรารถนาสักที… ++++++++++++++++ ...นี่สิที่เธอต้องการ...เธอได้กินวิชญ์คู่หมั้นของเสี้ยวเพชร ญาติผู้พี่ที่ดุจพลอยรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าเป็นที่สุด เสี้ยวเพชรคงกระอักหากรู้ว่าคนที่เธอจะแต่งงานด้วย ปรารถนาน้องสาวไม่แท้ของตนเองมากจนยอมทำทุกอย่างเพื่อดุจพลอยเพียงคนเดียว

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ

ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ

โรแมนติก

5.0

“อันตัวข้า มีนามว่าไป๋ฟางเซียน” ปกติคนอื่นข้ามเวลาคงได้รับมิติ พลังวิเศษ ความเทพทรูต่าง ๆ แล้วนางเล่า ไม่เห็นเป็นเหมือนในนิยายที่เคยอ่านบ้าง เท่านั้นยังไม่พอ! นางยังเข้ามาอยู่ในร่างสาวงามอันดับหนึ่ง มีสถานะเป็นถึงภรรยาของท่านแม่ทัพ ที่สามีหาได้รักใคร่ชมชอบไม่ ออกจะเกลียดแสนเกลียดเสียด้วยซ้ำไป หนำซ้ำสามีหน้าตายผู้นั้นดันมีคนที่ตนพึงใจอยู่แล้ว เช่นนี้นางจะเอาตัวรอดต่อไปในโลกที่ไม่รู้จักได้อย่างไร นอกจากจะต้องปรับตัวอย่างมากแล้ว นางต้องคิดหาวิธีรับมือกับบุรุษผู้เป็นสามีที่จ้องแต่จะกินหัวนางอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอีกด้วย! โอ สวรรค์ ท่านเกลียดชังอะไรข้านักหนา เหตุใดถึงให้ข้าเผชิญชะตากรรมเช่นนี้ ชีวิตสงบสุขที่ใฝ่ฝัน คงได้จบสิ้นกันแล้ว แต่ช่างเถอะ ในเมื่อมันเป็นสิ่งที่ต้องเจอ ไม่สามารถหลีกหนีได้ นาง! ไป๋ฟางเซียนผู้นี้! จะขอร่วมลงประชันสนามอารมณ์กับเขาเอง! ให้มันรู้กันไปเลยว่า ภรรยาอย่างนาง จะเอาชนะสามีอย่างเขา... ไม่ได้!

ฉันนี่แหละเศรษฐี

ฉันนี่แหละเศรษฐี

สมัยใหม่

5.0

ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี

ต้องมนต์บุปผา

ต้องมนต์บุปผา

โรแมนติก

5.0

หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

โรแมนติก

5.0

"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด “ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้” ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ