ร้อนรักคุณภรรยาข้ามวัน

ร้อนรักคุณภรรยาข้ามวัน

สรีสามัญ ดวงดาหลา

5.0
ความคิดเห็น
177
ชม
12
บท

ชวนนักอ่านทุกท่านมาพบกับ “ร้อนรักคุณภรรยา (ข้ามวัน) ” นิยายเล่มเล็กฟินจิ้นกระจายกับพระเอกปากแจ๋วอย่างเฮียนนท์ กับ สุรางค์รัตน์นางเอกหน้าสวยจอมยั่วประสาทเขาได้กลายมาเป็นคุณภรรยาข้ามคืนของเขาเสียนี่ เมื่อโลกใบกว้าง เหวี่ยงคนขั้วเดียวกันให้มาพบกันเรื่องราวความรักร้อน ๆ จึงเกิดขึ้นโดยที่หญิงสาวไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวว่าไปตกหลุมรักผู้ชายปากร้าย หน้าหล่อ นิสัยกวนประสาท แถมขี้หึงเป็นบ้า ตรงไหนเช่นกัน มาติดตามเรื่องราวความหวานปนความแซ่บ ผ่านนิยายฟินจิกหมอนเรื่องนี้ “ร้อนรักคุณภรรยา (ข้ามวัน) ” กันได้แล้ว นิยายพาฝันเบา ๆ แต่ฟินเหมือนลอยตัวอยู่นอกจักรวาลทางช้างเผือก โปรยปราย เขาก้าวขึ้นมาบนรถข้างที่นั่งคนขับข้างหญิงสาว เรียวปาก บางเอ่ยเรียกหญิงสาวแกมสั่ง “คาดเข็มขัดสิ” ธนนนท์เอ่ยขึ้น “คาดก็ได้” หญิงสาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม สุรางค์รัตน์อด นึกโมโหในใจไม่ได้ ไวเพียงชั่วขณะความคิด ดวงหน้าคมคายโน้มเข้ามาใกล้ใบหน้าสวยชายหนุ่มเผลอสบสายตากับหญิงสาวอย่างไม่ทันตั้งตัว อารามตกใจทำให้ธนนนท์เบือนหน้าหนีทันที “นายเป็นอะไร” สุรางค์รัตน์ที่เพิ่งอายุครบ 22 ปีบริบูรณ์เอ่ย ถามเขาอย่างไม่เข้าใจ “ต่อไปนี้เรียกฉันว่าเฮียนนท์” เสียงเข้มของธนนนท์เอ่ย กำชับเธอด้วยใบหูแดงเรื่อ “ทำไมต้องให้เรียกเฮียด้วย” สุรางค์รัตน์เอ่ยถามอย่างสงสัย “ก็ฉันอยากให้เธอเรียก” ธนนนท์เอ่ยขึ้น พลางยักคิ้วข้าง หนึ่งอย่างยั่วอารมณ์ของหญิงสาว “ก็ได้” สุรางค์รัตน์เอ่ยเสียงห้วนกว่าเดิม รถคันหรูแล่นทะยานออกไปแล้ว หากแต่เวลานี้สุรางค์รัตน์ ยังคงนั่งอารมณ์เสียข้างคนขับรถผู้หล่อเหลาราวเทพบุตร “เป็นอะไรนั่งหน้าบูด” เสียงเข้มของธนนนท์เอ่ยขึ้นขณะขับ รถยนต์คันหรูให้หญิงสาวนั่ง “เปล่า” สุรางค์รัตน์ตอบเขาเสียงเข้ม “เหรอ” ธนนท์เอ่ยถามอย่างเลียนเสียงของเธอ “ค่ะ” สุรางค์รัตน์กระแทกเสียงใส่ชายหนุ่ม “ถามดี ๆ ก็ตอบดี ๆ ซิครับ” ธนนนท์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียง ไม่พอใจหญิงสาวเล็กน้อย “ต่อไปนี้เธอต้องมาอยู่กับฉันที่บ้านใหม่” มาเฟียหน้าหล่อ เอ่ยขึ้น ท้ายประโยคชายหนุ่มแสร้งเอ่ยเสียงดุ

บทที่ 1 จับตัว

ชิงช้าสวรรค์ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าของหญิงสาว ดวงตาคู่กลมโตของสุรางค์รัตน์เบิกกว้างยามเมื่อเห็นเครื่องจักรหมุนด้วยแรงของมือมนุษย์กำลังหมุนอย่างเชื่องช้า

“ออยดูอะไรอยู่ลูก” อมรเดช เอ่ยถามบุตรสาวเพียงคนเดียวของเขา

“เปล่าค่ะพ่อ…ออยว่าจะไปดูร้านกิ๊บติดผมค่ะ” สุรางค์รัตน์เอ่ยบอกบิดาของตนเอง

“งั้นเดี๋ยวพ่อเดินไปเป็นเพื่อน” อมรเดชกล่าวพลางเดินจูงมือบุตรสาวไปยังร้านขายอุปกรณ์ทำผมที่สุรางค์รัตน์ชอบไป

“ได้มาเดินงานวัดแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะออย” ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้นพลางหันมามองบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของตนเอง

เด็กสาวตากลมโตแป๋วในวันวานถูกกาลเวลาเปลี่ยนผ่านให้เป็นหญิงสาวอายุครบยี่สิบสองปีบริบูรณ์ ผู้เป็นพ่อได้แต่ปลื้มใจอยู่ไม่น้อยที่เขาสามารถเลี้ยงสุรางค์รัตน์ให้เติบใหญ่มาได้คนเดียว

ภรรยาของเขาจากไปตั้งแต่ลูกสาวของเขาเพิ่งเข้าโรงเรียนไปได้ไม่นาน แม้กระนั้นเขาจำได้ดี สุรางค์รัตน์มักถูกล้ออยู่เป็นประจำที่ไม่มีมารดาเหมือนคนอื่นเขา

สองข้างทางเป็นร้านค้าขายหอยทอดกลิ่นควันหอมคลุ้งของอาหารจานโปรดลอยมาแตะจมูกของอมรเดช

“ออยกินหอยทอดไหมลูก” อมรเดชเสนอ

“เอาสองห่อค่ะ” สุรางค์รัตน์เอ่ยขึ้น

ไม่นานนักก็มีรถมาจอดข้างหลังของสองพ่อลูก รถยนต์สีดำคันหรูทว่าอมรเดชที่หันไปเห็นทะเบียนของรถยนต์คันนั้นพอดี ทำให้เขาตัดสินใจจับมือบุตรสาววิ่งหนีฝ่าฝูงชนเข้าไปทันที

อากัปกิริยาเมื่อครู่ทำให้ร่างสูงโปร่งที่ลอบมองกิริยาของสองพ่อลูกผ่านแว่นกันแดดสีดำยกยิ้มที่มุมปากบางอย่างสมใจ

“มันหนีไปแล้วครับนาย” เสียงเข้มของบุรุษหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างกังวลใจ

มือหนาของธนนนท์ยกขึ้นปรามลูกน้องด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก เรียวปากบางขยับเป็นคำพูดสองคำ

“จับมัน” เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างใจเย็น

สุรางค์รัตน์กวาดสายตาไปมองรอบด้านอย่างหวาดกลัว เวลานี้เธอและพ่อของเธอถูกโจรชั่วจับตัวมา

บรรยากาศในห้องค่อนข้างอับ หญิงสาวได้กลิ่นสีที่ทายังไม่เสร็จดีลอยปะทะจมูก บนฝ้าเพดานห้องมีโคมไฟเก่าคร่ำคร่าที่ปลายโคมไฟมีหยากไย่เกาะเสียจนรกรุงรัง

“ปล่อยผมนะ ผมไม่รู้เรื่อง” เสียงเข้มของอมรเดช ชายวัยกลางคนเอ่ยขึ้นอย่างโวยวายขณะนั่งอยู่อีกฟากของฝาห้องเดียวกันกับสุรางค์รัตน์

หากสุรางค์รัตน์คาดคะเนไม่ผิดเธอเชื่อว่ากลุ่มชายฉกรรจ์ที่สวมหมวกคลุมหน้าที่จับพวกเธอมาคงเป็นผู้ทรงอิทธิพลของบิดาของเธอเป็นแน่

“เอาตัวมันมา” เสียงเข้มดังขึ้นนอกห้องของที่หญิงสาวอยู่

ประตูบานใหญ่เปิดผาง ไม่นานนักกลุ่มชายสวมโม่งก็กรูกันเข้ามาจับชายวัยกลางคนและบุตรสาวของเขา

“คุณพ่อ” เสียงของหญิงสาวเอ่ยด้วยความหวาดกลัว เวลาในหัวใจของสุรางค์รัตน์หล่นวูบไปถึงตาตุ่ม ความเย็นเหยียบแทรกผ่านหัวใจของเธอยามเมื่อได้ยินเสียงของบิดาเธอ

“ออย” อมรเดชเอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวที่ร้องเรียกหาเขาด้วยความตกใจ

กลุ่มชายสวมโม่งสวมชุดสีดำสนิทจับสุรางค์รัตน์แยกออกจากอมรเดชได้สำเร็จ

“เดินไป” เสียงของชายในชุดสีดำสนิทเอ่ยขึ้นพลางดันหลังให้ชายวัยกลางคนเดินไปก่อน

ชายวัยกลางคนจำต้องเดินไปอย่างเสียไม่ได้ อีกใจของเขาเป็นห่วงบุตรสาวเพียงคนเดียวไม่น้อย

สุรางค์รัตน์เดินตามหลังบิดาอย่างห่าง ๆ ไปตามทางแคบเล็กอย่างจำนน ด้วยความหวาดกลัวในปืนของชายสวมโม่งที่จ่อด้านหลังของเธอ

“นั่งลง” เสียงเข้มเอ่ยบอกชายวัยกลางคนพลางหันมาทางสุรางค์รัตน์อย่างพยักพเยิดให้หญิงสาวรับรู้

หญิงสาวจำต้องนั่งลงอย่างเสียไม่ได้ สุรางค์รัตน์มองบรรยากาศรอบ ๆ ห้องอย่างตื่นตะลึง

โซฟาสีแดงขนสัตว์นุ่มฟูที่เธอกำลังนั่งอยู่นี้ หากหญิงสาวคะเนไม่ผิดนัก โซฟาตัวนี้น่าจะทำจากขนสัตว์ทั้งตัว ใครหนอช่างใจร้ายอำมหิตใจดำกับเหล่าสัตว์ที่แสนน่ารักได้มากถึงเพียงนี้

เธอชักอยากเห็นใบหน้าของคนสั่งซื้อเสียแล้วซิยังไม่ทันที่ สุรางค์รัตน์จะได้คิดอะไรต่อ ประตูบานใหญ่สลักลายวิจิตรพลันเปิดออกกว้างตามด้วยร่างสูงโปร่งที่สาวเท้าเข้ามาแล้วนั่งลงตรงหน้าอมรเดชเละสุรางค์รัตน์

สุรางค์รัตน์เงยหน้ามองไปรอบ ๆห้องที่ใหญ่โตโอ่งโถงด้วยอารมณ์สงสัยใคร่รู้ไปเสียหมด

“อะเเฮ่ม” ชายหนุ่มกระเเอมไอเพื่อเรียกสติของหญิงสาวตรงหน้าให้หันมาสบสายตาของเขา

หญิงสาวเบือนหน้ากลับมาทางเดิมพลันต้องตกใจสุดขีด ยามเมื่อเวลานี้ใบหน้าของเทพบุตรหนุ่มอยู่ใกล้เธอแค่คืบ

“ว้าย” สุรางค์รัตน์กรีดเสียงดังลั่นพลางถอยกรูดจนไปชิดพนักของโซฟาสีแดงหนานุ่มที่เธอนั่งอยู่

“นี่นะเหรอลูกสาวนาย” เสียงเข้มของชายหนุ่มหันมามองดวงหน้าหวานของหญิงสาวอย่างพินิจพิเคราะห์

“ฉันเป็นลูกสาวของเขาแล้วยังไงล่ะลุง” สุรางค์รัตน์เหลืออดในการกระทำของชายหนุ่มตรงหน้าเธอ หญิงสาวเลิกคิ้วตามประสาคนเลือดร้อนอย่างยียวน

ตั้งแต่เกิดมาธนนนท์ไม่เคยเห็นสตรีคนไหนมีกิริยาหยาบกระด้างเช่นเธอมาก่อน แม้แต่เส้นผมของหญิงสาวยังยุ่งเหยิงฟูฟ่องเสียจนธนนนท์แอบถอนหายใจ

“เธอเรียกใครว่าลุงหะ” เสียงเข้มของธนนนท์เอ่ยขึ้นอย่างฉุนเฉียว

“หมาละมั้ง” สุรางค์รัตน์เอ่ยขึ้นด้วยเสียงแหวว

“ไหนหมา” ธนนนท์เหลืออด ชายหนุ่มเถียงหญิงสาวกลับอย่างไม่ยอมแพ้

“ก็นายไง” หญิงสาวยกมือเท้าสะเอวพลางพยักเพยิกดวงหน้าง้ำไปทางชายหนุ่ม

ธนนนท์ ชายวัยกลางคนก้มลงมองตนเองอย่างไม่เชื่อสายตาว่าลูกสาวของลูกหนี้จะปากคอเราะร้ายได้มากมายขนาดนี้ เขากัดฟันกรอดอย่างลืมตัว

ดวงหน้าของหญิงสาวในเวลานี้ไร้ซึ่งการแต่งแต้มสีสันฉูดฉาดเสมือนสตรีคนอื่น ๆ ที่เขาเคยได้เจอ

ธนนนท์ลอบมองริมฝีปากของหญิงสาวชวนหลงใหลอย่างกรุ่นไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด

“หนี้ที่คุณติดผมไว้ คุณยังไม่จ่ายผม” เสียงเข้มของชายหนุ่มตรงหน้ากดลงต่ำสุด ดวงตาของเขาทอดมองไปยังชายวัยกลางคนอย่างเหี้ยม

หญิงสาวอดรู้สึกถึงรังสีอำมหิตของเขาแผ่ซ่านออกมาไม่ได้ ทว่าเขาไม่ได้มีควันสีดำเหมือนในภาพยนตร์ สุรางค์รัตน์กลับจับ ออร่าของชายหนุ่มผู้นี้ได้

สีหน้าของหญิงสาวเมื่อครู่ไม่อาจทำให้เขาสงบลงได้เลย แววตาของสุรางค์รัตน์บ่งบอกว่าหวาดกลัวเขาถึงที่สุด

“ส่วนหนี้ที่ก่อเพิ่มก็ยังไม่ได้ชำระ” ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าเป็นเรื่องปกติท้ายประโยคเขาเน้นเสียงต่ำกว่าเดิม

“ผมเคยให้เวลาคุณมานานแล้วนะอมรเดช” ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังพลางโบกมือขึ้นเป็นสัญญาณบางอย่าง

ภาพที่ปรากฏตรงหน้าสุรางค์รัตน์ชวนให้อารมณ์ของหญิงสาวเกรี้ยวกราดถึงขีดสุด หญิงสาวกระโดดพรวดเข้าขวางการกระทำของชายหนุ่มที่จะเดินมาถึงบิดาของเธอพอดิบพอดี

“หยุดถ้านายแตะต้องพ่อฉัน ฉันจะเรียกตำรวจ” สุรางค์รัตน์เอ่ยขึ้นอย่างไม่รอรี

ร่างสูงโปร่งเหลียวมองสตรีร่างเล็กที่เข้าขวางทางกระสุนอย่างไม่มีทีท่าว่าจะเกรงกลัวในอิทธิพลของเขาเลยสักนิด

ปืนกระบอกหนึ่งถูกดึงขึ้นจากด้านหลังเล็งมายังศีรษะของ สุรางค์รัตน์อย่างรวดเร็ว บอดี้การ์ดของธนนนท์เล็งปืนหมายจะยิงทิ้ง

“ไม่ต้อง” เสียงเข้มของธนนนท์เอ่ยเกรี้ยวกราดใส่บอดี้การ์ดหนุ่มที่ต้องการจะปลิดชีวิตหญิงสาวที่เข้าขวางทางการกระทำของเขา

“แต่นังนี่…” บอดี้การ์ดเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีตกใจกว่าเดิมเมื่อเห็นสีหน้าของธนนนท์

“ปล่อยเธอซะ” เสียงเข้มของธนนท์ดังขึ้นเป็นอีกหนึ่งคำรบใหญ่ ทั่วทั้งห้องโอ่งโถงเงียบกริบจนสุรางค์รัตน์ได้ยินเสียงของลมหายใจตนเอง

ปืนด้ามที่ถูกขึ้นนกเพื่อยิงปลดล็อคกระสุนให้ลูกระสุนร่วงหล่นลงมาอย่างเชื่องช้า

เสียงของลูกกระสุนที่ร่วงหล่นทำให้หญิงสาวตัวสั่นอยู่ไม่น้อย ทว่าวินาทีนี้เธอยังต้องรักษาชีวิตครอบครัวของเธอเอาไว้

แม้จะมีบิดาที่ไม่เอาไหน แต่บิดาก็คือบิดา เช่นนั้นสุรางค์รัตน์จึงคิดหาคำตอบอย่างรวดเร็วในสมองของหญิงสาวประมวลผลอย่างหนัก หากเธอไม่ทำอะไรสักอย่างบิดาของเธอจะต้องแย่แน่ ๆ

“ฉันขอถาม” เรียวปากอวบอิ่มขยับขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ว่ามา” เจ้าหนี้หนุ่มกล่าวด้วยสีหน้าบึ้งตึงสุดขีด เวลานี้เขาเริ่มจะหมดความอดทนกับหญิงสาวเสียแล้ว

“พ่อฉันติดหนี้คุณอยู่เท่าไหร่” สุรางค์รัตน์เอ่ยถามเขาในสิ่งที่ค้างคาใจหล่อนมานานแสนนาน

“ยี่สิบล้าน” เสียงเข้มของธนนท์เอ่ยชัดถ้อยชัดคำแต่นั่นก็มากพอที่จะทำให้มือเรียวบางของคนตัวเล็กสั่นระรัวไม่ได้

“ฉันต้องการแลกตัวฉันกับเงินยี่สิบล้าน” สุรางค์รัตน์เอ่ยขึ้นอย่างจนมุมในการกระทำบิดาของเธอ

“คุณหมายความว่าอย่างไร” ธนนท์เอ่ยถามเสียงแผ่วเบา เขาพยายามสงบสติอารมณ์ของเขาต่อหญิงสาวสวยตรงหน้า

“ในเมื่อคุณจับฉันมาด้วยนั่นหมายถึงฉันย่อมมีส่วนที่ต้องรับผิดชอบในการกระทำครั้งนี้ของพ่อฉันด้วย” หญิงสาวกล่าวด้วยน้ำเสียงฉะฉาน

“แต่คนก่อหนี้ไม่ใช่เธอ” ชายหนุ่มพูดราวกับว่าเขาเป็นเครื่องจักรยนต์ที่ไร้ชีวิตและจิตวิญญาณ

ดวงตาของสุรางค์รัตน์เปล่งประกายวาววับทอประกายกล้า ทว่าเวลานี้เธอยังต้องหาข้อเสนอที่คุ้มค่าเพื่อแลกบางสิ่งกับเขา

“ต่อให้คุณฆ่าพ่อฉันตาย คุณก็ไม่ได้เงินคืนอยู่ดี” สุรางค์รัตน์เอ่ยอย่างเหลืออด เรียวปากอวบอิ่มยังขยับเอ่ยประโยคต่อไป

“แต่ถ้าคุณเลือกฉันฉันก็ยังหาเงินให้คุณได้” หญิงสาวเอ่ยด้วยไพ่ใบสุดท้ายที่เธอมั่นใจว่าถือเหนือกว่า

ดวงตาของชายหนุ่มเปล่งประกายวิบวับ ยามเมื่อธนนนท์ได้ยินข้อเสนอสุดแสนจะแปลกประหลาดของหญิงสาว

‘ยัยนี่ ถ้าจะเพี้ยนแต่ก็อาจจะจริงของยัยนี่’ ธนนท์คิดในใจ

“ตกลง…แต่เธอจะต้องลงลายเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยการจดทะเบียนสมรสกับฉัน” ธนนนท์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มจนเกือบจะตวาดหญิงสาวตรงหน้าของเขา

“ฉันตกลง” สุรางค์รัตน์เอ่ยด้วยแววตาเป็นประกายอย่างสมใจ

“ปล่อยตัวพวกเขาได้” เสียงเข้มเกือบคำรามของชายหนุ่มทำให้ลูกน้องของเขาถอยกลับไปยืนตามเดิม

“ออยทำไมทำแบบนี้ล่ะลูก” บิดาของออยเอ่ยถามเสียงอ่อน

“ออยต้องถามพ่อมากกว่าเมื่อไหร่จะหยุดสร้างปัญหาให้ครอบครัวเราสักทีคะ พ่อไม่ต้องพูดแล้วค่ะ กลับบ้านค่ะ เรามีเรื่องต้องคุยกัน” สุรางค์รัตน์กล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง

มือเรียวขาวนวลละเอียดของหญิงสาวลากบิดาของตนเองออกจากห้องนั้นอย่างทุลักทุเล

ประตูบานกว้างปิดลงไปแล้ว หากแต่ชายหนุ่มยังกรุ่นด้วยอารมณ์โกรธเมื่อครู่อยู่

“เงินก็ไม่ได้แต่กลับได้จดทะเบียนสมรสแทน โธ่เว้ย” ธนนนท์เอ่ยขึ้นพลางปัดเอกสารหล่นกระจายเต็มพื้นห้อง

มือหนาของชายหนุ่มหยิบสัญญามากำไว้แน่นพลางเขวี้ยงทิ้งอย่างอารมณ์เสียแล้วทุบโต๊ะปังใหญ่สามครั้ง แววตาของฉายหนุ่มวาวโรจน์กว่าเดิมเป็นพันทวี

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ สรีสามัญ ดวงดาหลา

ข้อมูลเพิ่มเติม
จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม  1  บัลลังก์สราเนีย

จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนีย

โรแมนติก

5.0

นิยายจอมใจฮิปปาเรียนี้จะถูกเรียกว่าหนังสือชุด #อาณาจักรฮิปปาเรีย ค่ะ โดยซีรีส์อาณาจักรฮิปปาเรียมีนิยายทั้งหมด 10 เล่ม ดังต่อไปนี้ 1.จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนีย 2. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 2 ผจญภัยป่าดงดิบฮานาบี 3. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 1 กำเนิดรัชทายาทฮิปปาเรีย 4. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 2 เล่ม 2 นางบรรณาการแคว้นดิมาเรีย 5. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ปราบกบฎบัลลังก์สราเนีย 6. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 3 เล่ม 1 ห้าเจ้าหญิงผู้นำทางปริศนา 7. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 1 หนึ่งเดียวในหทัย 8. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 4 เล่ม 2 อาณาจักรฮิปปาเรีย 9. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 1 เจ็ดขุนนางผู้พิทักษ์ 10. จอมใจฮิปปาเรีย ภาค พิเศษ เล่ม 2 ราชอาณาจักรฮิปปาเรีย นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดจาก จินตนาการของ "ดวงดาหลา" เองค่ะ ดินแดนฮิปปาเรียเป็นดินแดนสมมติที่ผู้เขียนเฝ้าฝันถึง จอมใจฮิปปาเรีย มีสี่ภาค แต่ละภาคแบ่งเป็น 2 เล่มค่ะ รับรองค่ะว่า เข้มข้น หวานซึ้ง ตรึงใจทุกคนแน่นอนค่ะ เนื้อเรื่องจะสนุกขนาดไหน ขอเชิญนักอ่านทุกท่านเพลิดเพลินไปกับ จอมใจฮิปปาเรีย ภาค 1 เล่ม 1 บัลลังก์สราเนียได้แล้ว ณ บัดนี้ Duangdala Talk ดวงดาหลากลับมาเเล้วค่ะ หลังจากติดภารกิจมานาน รี้ดทุกคนสามารถคอมเม้น หรือกดใจทั้ง 5 ให้ดวงดาหลาได้นะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ #ดวงดาหลา ป.ล. นักอ่านท่านใด หรือ ใครอ่านเเล้วมารีวิว มาเม้นมาพูดคุยกันกับดวงดาหลา ได้น้า

วันดับนางริษยา

วันดับนางริษยา

โรแมนติก

5.0

ความจริงใดกันแน่ที่หลบซ่อนในเคหาสน์สถานแห่งนี้ หรือมันอาจจะเป็นกลลวงของใครบางคนที่กำลังมุ่งหมายจะทำลายพวกเขา เจ้าหล่อนจะทำเช่นไรในเกมล้างเกมผลาญชีวิตเช่นนี้ จุดเริ่มต้นความน่าสะพรึงกลัวของทุกสิ่งที่จารีย์ได้เจอนั้นมาจากคฤหาสน์หลังโตโอ่อ่าแห่งนี้ ภายนอกงดงามหากแต่ภายในกลับรกร้างราวกับไม่เคยมีใครอาศัยอยู่มาก่อน แรงแค้น แรงพยาบาท แรงอาฆาต ของสิ่งลี้ลับยังคงวนเวียนตามจองกรรมทวงถามความเป็นธรรมอย่างที่พวกมันรอคอยตลอดมา! +++ นรีกุลรับรู้ถึงอุณหภูมิที่กำลังทวีความคุกรุ่นในเรือนกายของหล่อน เรียวปากบางของเขาซอนไซ้ไปยังใบหูของนรีกุลจนหญิงสาวเผลอไผลร้องซี้ดปากด้วยความสุขใจ มือหนาของชายหนุ่มเอื้อมปลดตะขอชุดที่นรีกุลสวมใส่อยู่ เขาแนบเรือนกายของหล่อนให้ผสานกับเขาอย่างลุ่มหลงในตัวของนรีกุล หญิงสาวปิดเปลือกตาของหล่อนลงอย่างพลั้งเผลอ ความหวามไหวแทรกไปทั่วอณูของนรีกุล ภรรยาของนัฐธวีร์ปิดเปลือกตาลงไปแล้ว หากแต่เวลานี้ดวงวิญญาณร้ายของกรวีร์ยังคงทำงานตามคำสั่งของเดรัจฉานต่อไป นิ้วเรียวของวิญญาณร้ายซอนไซ้เข้าไปยังปากถ้ำสวรรค์ของหญิงสาว นรีกุลบิดตัวแล้วครวญเสียงหวานจนนัฐธวีร์สะดุ้งเล็กน้อยทว่าความอ่อนเพลียจากการเดินทางในระยะเวลานานทำให้เขาฟุบหลับไป หนุ่มสาวสองคนหารู้ไม่ว่าเวลานี้ดวงวิญญาณของกรวีร์ได้เสพสมเรือนกายของนรีกุลอย่างอุกอาจ และดวงจิตของนัฐธวีร์ได้ถูกเรียกจิตไปโดยสัตว์ร้ายในคราบของสาวงามเสียแล้ว!

วันดับนางริษยา เล่ม 1

วันดับนางริษยา เล่ม 1

โรแมนติก

5.0

"วันดับนางริษยา" นิยายสยองขวัญกระตุกประสาท #ดวงดาหลา ที่จะพาเขย่าขวัญทุกคนให้กระเจิง เมื่อรักไม่อาจแบ่งใจนรีกุลจึงต้องแบกรับทั้ง นัฐธวีร์ คนเป็น และคนตายในคราเดียวกัน นรีกุลจะทำเช่นไรต่อไป...ความรัก แรงอาฆาตเปลวพยาบาทของพวกเขาจะเผาหญิงสาวให้ตายทั้งเป็นหรือไม่! มาร่วมค้นหาคำตอบในนิยายเล่มนี้กันค่ะ ++++++++++++ โปรปราย เวลานี้นรีกุลอดรู้สึกไม่ได้ว่าร่างกายของตนขยับไม่ได้อีกแล้วหากแต่ท้องของหล่อนกับปวดมากราวกับเป็นไส้ติ่งอักเสบ หญิงสาวพยายามดีดดิ้นให้รอดพ้นจากการเกาะกุมของวิญญาณร้ายที่เธอเชื่อว่าติดตามมา หญิงสาวเปิดตามองไปยังด้านบนก็พบว่าเธฮนอนใกล้คาน ไม่นานนักหญิงสาวก็ต้องหวีดร้องสุดเสียงอีกครั้ง ยามเมื่อเวลานี้มีวิญญาณร้ายนั่งอยู่บนคานสูงเหนือหัวของเธอ วิญญาณร้ายที่นั่งแกว่งขาไป,kอยู่นั้นราวกับว่าจะเห็นเธอ หญิงสาวรีบปิดเปลือกตาลงอย่างรวดเร็ว กลิ่นเหม็นเน่าโชยไปเข้าจมูกของหญิงสาวอย่างจัง จนเธอต้องลืมตาขึ้นมามอง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าหล่อนทำให้หญิงสาวช็อคสุดขีดเมื่อเวลานี้ศีรษะของวิญญาณร้ายค่อยๆห้อยลงมาจรดยังจมูกของเธอ นรีกุลหวีดร้องอย่างดังลั่นพลางออกปากไล่อย่างตระหนกสุดขีด หญิงสาวพยายามยกมือขึ้นสวดอ้อนวอนแต่ก็ไร้ผล เธอกลับยกมือไม่ขึ้นราวกับว่าเธอถูกผีอำอย่างไรอย่างนั้น ยังไม่ทันธรรมดาหญิงสาวจะสวดมนต์จบเธอก็ได้ยินเสียงข้างหูพูดขึ้นมาว่า

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

หลังหย่าเธอกลายเป็นมหาเศรษฐี

Lewie Parenti
5.0

"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ

ผัวท่านประธาน ปล่อยฉันเถอะ!

ผัวท่านประธาน ปล่อยฉันเถอะ!

นันทฉัตร ไชยวัฒนา
4.7

ในคืนวันเกิดอายุยี่สิบสองปี ลี่เฉี่ยนโลว่ถูกแฟนหนุ่มวางยา และไปมีอะไรกันกับซือจิ้นเหิง ผู้ชายลึกลับคนหนึ่งตลอดทั้งคืน วันรุ่งขึ้นเธอพบว่าครอบครัวเธอถูกทำลายจนไม่มีอะไรเหลือ เธอแต่งงานกับจิ้นเหิง ได้รับการคุ้มครองจากเขา และใช้เขาเพื่อแก้แค้น "ฉันเป็นภรรยาที่ถูกกฎหมายของเขา" แม้ว่าแม่สามีของเธอจะไม่ยอมรับ แม้ว่าแฟนสาวที่เป็นซุปเปอร์สตาร์ของเขาจะตามมาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยังคงยืนยันอยู่อย่างนั้น เธอแท้งโดยบังเอิญ แต่เขากลับเข้าใจผิดว่าเธอไม่อยากมีลูกกับเขา และด้วยความเข้าใจผิดต่าง ๆ อีกหลายหย่าง เธอเลือกที่จะกระโดดลงทะเลเพื่อฆ่าตัวตาย หลายปีต่อมา เมื่อเธอกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง เขาถึงกับตกตะลึง ชายคนนี้ได้สิ่งที่ต้องการจากเธอแล้ว แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยังรังควานและทรมานเธอต่อไป

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ