Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
อุ้มรักนางบำเรอนอกหัวใจ

อุ้มรักนางบำเรอนอกหัวใจ

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
235.8K
ชม
88
บท

ความทรงจำอันเลวร้ายในอดีต เธอจำฝังใจ และเมื่อเขากลับเข้ามาในชีวิต หญิงสาวที่เคยอ่อนแอ ยอมจำนนทุกอย่าง ลุกขึ้นสู้ชายใจร้าย ใจดำ ให้รู้ว่า เธอไม่ได้อ่อนแอ ไม่ได้เป็นเบี้ยล่างเขาอีกต่อไป เขาต่างหาก ที่ต้องสิโรราบ หมอบกราบแทบเท้าตน ...................... "ได้โปรด...อย่าทำเอย เอยกลัวแล้วค่ะคุณยักษ์" ณศรินทร์ ยกมือไหว้ขอความเมตตา กระเถิบตัวหนีร่างสูงใหญ่ที่กำลังถอดเสื้อผ้า นัยน์ตาเขาไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย พร้อมฆ่าเธอได้ทุกเมื่อ "เธอร่านไม่ใช่เหรอ ฉันคงทำให้เธอไม่อิ่ม เธอถึงได้เที่ยวร่านไปแบให้ใครต่อใคร วันนี้ฉันจะทำให้เธอกระอักอิ่มไปหลายวัน" ............... "ต่อให้คุณกราบเท้าฉัน ขอร้องอ้อนวอนฉัน ทำดีกับฉันต่างๆ นานา เพื่อให้ฉันอภัยคุณ บอกไว้นะว่า ต่อให้คุณกราบเท้าฉันจนมือทะลุลงไปใต้ภิภพ ทำดีกับฉันจนตัวตาย ฉันก็ไม่มีวันยกโทษ คุณต้องได้รับโทษที่ทำไว้กับฉัน ฉันจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนหมาข้างถนน ที่ไม่มีใครต้องการ" ณศรินทร์กล่าวไว้

บทที่ 1 1

1

หนึ่งปีแล้ว...

หนึ่งปีที่เขาทำตัวเหมือนหมา เป็นสุนัขรับใช้ เป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ คอยเฝ้า คอยดูแลหล่อนกับลูกอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่มีสิทธิ์พูดคุย หรือก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเหมือนอดีต ได้แต่มองดูหล่อนมีความรักครั้งใหม่ด้วยใจชอกช้ำ

หัวใจกรชวิลไม่ต่างกับต้นไม้ ที่ถูกมือหล่อนปลิดใบไม้ออกจากลำต้น จนตอนนี้ไร้ใบไม้สักใบ กำลังกลายเป็นต้นไม้แห้งตายในไม่ช้า

ตอนนี้กรชวิลยังไม่ตาย เขามีลมหายใจ และกำลังเผชิญอยู่กับความเจ็บปวดรวดร้าว อย่างแสนสาหัส ความรู้สึกนี้น้อยกว่าที่หล่อนได้รับจากเขา คล้ายกับว่า ชายหนุ่มกรรมตามสนอง เคยทำอะไรไว้กับณศรินทร์ เวลานี้ย้อนกลับมาหาตัว ชนิดที่ว่า เอาคืนกลับสิบเท่า

หากอดีตกรชวิลไม่ใจร้ายใจดำ ไม่ทำร้ายจิตใจหล่อน และยอมรับความรู้สึกตัวเอง เขาคงไม่ทรมานใจและกายเช่นนี้

แสงแดดยามเช้าส่องเข้ามาในห้องนอน บอกให้รู้ว่า ชีวิตประจำวันเริ่มต้นขึ้นแล้ว หลายคนออกจากบ้านไปทำกิจวัตรของตัวเอง แต่สำหรับณศรินทร์ หล่อนทำเช่นคนอื่นไม่ได้ เพราะตอนนี้หน้าที่ลับๆ ของหล่อนยังไม่เสร็จสิ้น หญิงสาวปล่อยตัว ปล่อยใจให้ชายใจร้ายที่ไม่มีวันได้ความรู้สึกดีดีกลับมาเชยชม

กรชวิลกลับมาถึงบ้านเกือบเช้ามืด มาถึงเขาตรงดิ่งมายังห้องนอนณศรินทร์ ไม่ว่าเวลาไหน สถานที่ใด หากร่างกายเขาพล่านไปด้วยแรงปรารถนา และต้องการปลดปล่อย หล่อนก็ต้องพร้อมรับพายุอารมณ์อย่างไม่เกี่ยงงอน

อารมณ์เขาในแต่ละครั้งต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาวะอารมณ์เขา ณ เวลานั้น แต่ที่หนักและรุนแรงสุดคือ ยามเขาโกรธใครมา ร่างกายณศรินทร์คือที่ระบายอารมณ์

ภารกิจสวาทจบลงในเวลาหกนาฬิกานาที กรชวิลเอนตัวลงนอนข้างณศรินทร์ที่หอบหายใจเหนื่อยอ่อน ต่างกับเขาที่ขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยท่าทางปกติ แม้เพิ่งผ่านกิจกรรมใช้แรงมาหมาดๆ ดึงเครื่องป้องกันออกจากกายชาย โยนทิ้งลงไปในถังขยะ

“ห้องของออยเสร็จหรือยัง” เขาถามขณะลุกขึ้นนั่งริมเตียง หยิบกางเกงยีนส์และบ็อกเซอร์บนพื้นขึ้นมาสวมใส่

“เรียบร้อยแล้วค่ะ” หล่อนตอบเสียงเบา

“วันนี้ตอนเที่ยงเอาดอกคาร์เนชั่นไปไว้ที่ห้องออยด้วยล่ะ อ้อ...เอาแต่สีชมพูนะ ออยชอบสีนี้ที่สุด” ช่างรู้ใจกันเหลือเกิน ฟังแล้วน้ำตาณศรินทร์ตกใน เป็นความเศร้าเสียใจที่หล่อนเปิดเผยให้ชายใจร้ายใจดำรู้ไม่ได้ “ทำไมไม่ตอบรับ ไม่ได้ยินที่ฉันสั่งหรือไง”

เสียงตวาดดังลั่น ณศรินทร์ช้อนตามองผู้พูด ที่ชักสีหน้าไม่พอใจ

“ค่ะ” น้ำเสียงแผ่วเบาตอบกลับ “เอยจะทำตามคำสั่งพี่ยักษ์ค่ะ”

กรชวิลพอใจกับคำตอบ เขาลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทันทีที่สวมใส่เสื้อผ้าเสร็จ ณศรินทร์มองร่างสูงใหญ่ที่ปักใจรักเขาแน่นมาก ถึงได้ยอมเจ็บช้ำระกำทรวง เป็นนางบำเรอมอบความสุขให้เขามานานร่วมหนึ่งปีครึ่ง โดยไม่สนใจว่า ตัวเองร้าวรานใจมากแค่ไหน

รักคนอื่นได้ แต่ลืมรักตัวเอง...

อาณาจักรไร่ชวนชมไม่ใช่น้อยๆ มีพื้นที่กว่าหนึ่งพันไร่ พื้นที่แบ่งออกเป็นสามส่วน ไร่ดอกไม้นานาพันธ์ ที่มีดอกไม้มากกว่าหนึ่งร้อยชนิด ไร่กาแฟขี้ชะมด รายได้หลักของเจ้าของสถานที่ และในส่วนรีสอร์ทที่สร้างบนเนินเขาลูกเตี้ยมีห้องพักราวหกสิบห้อง มีทั้งแบบบ้านเป็นหลัง และในตัวอาคาร ที่ทุกห้องมองเห็นวิวในไร่ รวมถึงโดยรอบได้แบบถนัดตา

ฤดูเหมันต์มาเยือนครั้งใด ไร่ชวนชมมีนักท่องเที่ยวหนาตากว่าทุกฤดู ที่พักถูกจองเต็มจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ยังมีกองถ่ายโฆษณาและละครจองคิวมาถ่ายทำหลายกอง ในส่วนสวนดอกไม้ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะช่วงฤดูนี้ ดอกไม้บานสะพรั่ง แข่งกันเบ่งบาน เหมาะกับการถ่ายรูปและชื่นชมธรรมชาติอันงดงาม

ความที่วันนี้นักท่องเที่ยวมากกว่าทุกวัน เพราะเป็นวันเสาร์ พนักงานและคนงานในไร่ต่างพากันยุ่ง ณศรินทร์ที่ต้องจัดดอกไม้ใส่แจกันไปวางไว้ในห้องนอนอรัญญา น้องสาวต่างบิดา จึงไปเอาดอกไม้ดอกคาร์เนชั่นสีชมพูที่สั่งให้คนงานตัดเตรียมรอไว้เอง

แต่ก่อนไปเอาดอกไม้ ณศรินทร์จัดเตรียมของว่างให้เจ้าของบ้าน ของว่างยามสายวันนี้คือ แซนวิชทูน่ากับชาร้อนกลิ่นมะลิ ขณะกำลังวางทั้งหมดลงบนถาด อ้นกับเภาสองสาวใช้เดินเข้ามาในครัว ในมือแต่ละคนถือถุงอาหารสดและแห้งมาเต็มมือ ทั้งสองวางของลงบนโต๊ะจัดเตรียมอาหาร ก่อนช่วยกันลำเลียงเข้าตู้เย็น

“คุณป้าจะทำอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าอ้น ซื้อของมาเยอะเชียว” ณศรินทร์ถามอ้น

“ไม่รู้” อ้นตอบเสียงห้วน ไม่มองหน้าคนถาม คล้ายไม่อยากเสวนาด้วย

“ที่อ้นตอบว่าไม่รู้ เพราะคนที่สั่งให้ซื้อของพวกนี้มาคือคุณยักษ์ค่ะ คุณยักษ์จะทำอาหารต้อนรับคุณออยค่ะ” คนให้คำตอบแบบชัดเจนคือเภา ที่ดูเป็นมิตรกับณศรินทร์ที่สุด คนถามยิ้มอ่อน ซ่อนความเจ็บปวดไว้ในใจเต็มกำลัง

“ฉันดีใจมากๆ เลยที่คุณออยกลับบ้าน ไม่ได้กลับมาตั้งหลายเดือน คิดถึงที่สุดด้วย” อ้นจงใจพูดให้ณศรินทร์ได้ยิน “คนสำคัญของบ้านก็งี้แหละ มีแต่คนอยากให้กลับมา ต่างกับอีกคนที่อยากให้ออกไป แต่ก็ไม่ออกไปสักที”

เภามองหน้าคนพูด ตีแขนเพื่อนเบาๆ เชิงปราม เสมองณศรินทร์ที่หน้าเศร้าลงกว่าเมื่อครู่ ณศรินทร์ไม่พูดคำใด แม้วาจาอ้นเสียดทานความรู้สึกตัวเองมาก หล่อนอดกลั้นน้ำตาไว้สุดฤทธิ์ เดินถือถาดของว่างออกจากห้องครัว

“อ้น แกนี่จะร้ายเกินไปแล้วนะ พูดอย่างนี้ต่อหน้าคุณเอยได้ไง รู้ไหมว่าเธอเสียใจน่ะ” เภาตำหนิเพื่อน “คนเราน่ะ ไม่ต้องเปิดเผยความรู้สึกที่มีต่ออีกคนมากก็ได้ แค่คนในบ้านเย็นชากับคุณเอยก็พอแล้ว อย่าให้ลามมาถึงคนรับใช้อย่างเราเลย ฉันสงสารคุณเอย”

“ฉันพูดความจริงนี่ พวกคุณๆ ไม่ชอบคุณเอย เพราะเป็นลูกเมียน้อย ที่สร้างความร้าวฉานให้ครอบครัวคุณออย บุญหัวเท่าไหร่แล้วที่คุณท่านเลี้ยงดู ส่งเสียให้เรียน ให้อยู่ร่วมบ้านด้วย เป็นฉันล่ะก็ ไม่สนใจหรอก จะส่งไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าด้วยซ้ำไป” อ้นเหมือนนายว่าขี้ข้าพลอย “เลิกพูดถึงคุณเอยดีกว่า ไม่อยากอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ ช่วยกันเตรียมของให้คุณยักษ์เถอะ คุณยักษ์มาจะได้ช่วยกันทำกับข้าวรับคุณออยกลับบ้าน”

อ้นให้ความสนใจของสดที่ซื้อมา มากกว่าคนที่ตนเอ่ยถึง เภาถอนหายใจเบาๆ ไม่เข้าใจว่า เหตุใดเจ้านายทั้งสามคนถึงแยกแยะไม่ได้ว่า ณศรินทร์ไม่มีความผิดสักนิดเดียว ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของผู้ใหญ่ ที่เคราะห์กรรมมาตกที่คนเป็นลูก

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

พิศวาสทาสเสน่หา

พิศวาสทาสเสน่หา

มหาเศรษฐี

5.0

“บ้าอำนาจชะมัด” หญิงสาวแอบบ่น กระแทกตัวลงนั่งริมสุดของขอบโซฟา ทิ้งระยะห่างจากเขาให้มากที่สุด “นี่แม่คุณ มานั่งใกล้หน่อยสิ นั่งไกลอย่างนั้นแล้วจะบริการฉันได้ยังไง ไม่เห็นเหรออาหารหมดถ้วยแล้ว” ถ้ารู้มาก่อนว่าคนที่จองห้องวีไอพีคือเขาคนนี้ เธอไม่ยอมเป็นพนักงานเสิร์ฟจำเป็นแน่นอน หญิงสาวเขยิบร่างกายเข้ามาอีกนิด ตักอาหารใส่ถ้วย ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าเขาเหมือนเดิม “ป้อนด้วยสิ” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี “ดิฉันมีหน้าที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ตามที่เห็นสมควรนะคะ การป้อนอาหารเป็นนอกหน้าที่ของดิฉัน” สร้อยระย้าพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเข้ม จ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มกับท่าทีแสนพยศของเธอ ขยับร่างกายเข้ามาประชิดร่างบางอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว “ว้าย!!..ปล่อยนะ” หญิงสาวร้องเสียงหลง ผลักร่างหนาให้ออกห่าง แกะมือใหญ่ที่รัดเอวของเธอไว้แน่น แต่ยิ่งพยายามเอวของเธอก็ต้องถูกรัดแน่นมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นร่างงามลอยขึ้นเหนือเบาะ เนื่องจากเขาอุ้มร่างของเธอมานั่งบนตัก “พยศนักนะ” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขามาก่อน เห็นจะมีเพียงผู้หญิงกลิ่นกายเย้ายวนใจคนนี้ ยิ่งชิดใกล้เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน ความต้องการปะทุขึ้นมาทันที เรียวปากใหญ่ปิดสนิทปากนุ่มที่กำลังจะอ้าปากต่อว่า ทำให้เขาสอดแทรกลิ้นร้อนชื้นเข้าไปภายในโพรงปากอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นหนาตวัดพัดโบกกับลิ้นนุ่มที่ตื่นกลัวทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากจูบนี้เป็นจูบแรกของชีวิตสาว สมองของเธอนั้นเริ่มมีกลุ่มหมอกควันสีขาวเข้ามาปกคลุม ความว่างเปล่ากำลังเข้ามาแทนที่ ไม่มีสตินึกคิด ความหวานนุ่มชวนหอมหวานที่เขาได้สัมผัส กระตุ้นความเป็นชายของเขาให้ตื่นจากการหลับใหล เสียงครางที่ดังทักท้วงในลำคอสาว เสมือนยากระตุ้นให้ความดันโลหิตของเขาเสียดทานกับความต้องการทางเพศ ร้อนรุ่มไปทั้งกาย มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางไปมา ก่อนจะวกมากอบกุมทรวงอกขนาดพอเหมาะกับฝ่ามือของเขา ไม่ใหญ่มากเกินไปจนล้นมือและไม่เล็กจนเสียอารมณ์

รักร้อนเพลิงพิศวาส

รักร้อนเพลิงพิศวาส

มหาเศรษฐี

5.0

“ไม่นะ อย่านะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คุณได้พระคืนไปแล้วนี่ ปล่อยฉันไปเถอะ ฮือ...อย่าทำอะไรฉันเลย อย่าทำฉันเลย” หมอนวดสาวยังคงอ้อนวอนไม่หยุด มีหรือที่รัฐภูมิจะใจอ่อน เมตตาสาวตรงหน้าง่ายๆ เขาปล่อยเธอแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้และเวลานี้ สิบแปดมงกุฎอย่างจันยาวีร์ต้องเจอคนอย่างเขา ร้ายมาร้ายกลับและเพิ่มความร้ายมากเป็นร้อยเท่า เท้าเล็กพยายามถีบ กระแทกไปที่ร่างหนาดูเหมือนว่าจะถีบลมมากกว่า มันไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆ เพราะตอนนี้เขาขึ้นมานั่งคร่อมร่างเธออีกครั้งหนึ่งแล้ว “ยานี้จะทำให้ร้อนรุ่มอย่างมากมาย เลือดในกายเธอจะสูบฉีดจนเธอกระสับกระส่าย กระหายไปด้วยความใคร่แบบสุดๆ เธออยากจนแทบจะถ่างขารอให้ผู้ชายมากระทุ้ง ขอให้มีความสุขกับความร่านที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอนะ ยาออกฤทธิ์เต็มที่เมื่อไหร่ ฉันจะมาสนองตอบความอยากให้เธอเอง รับรองถึงอกถึงใจไปสามโลก หมอนวดอย่างเธอคงผ่านศึกมาไม่ใช่น้อย คงมีวิธีบังคับความร่านของตัวเองนะ ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อน แล้วเจอกันนะแป้ง” จันยาวีร์เม้มปากเป็นเส้นตรงแน่น เพื่อไม่ให้เขานำยานั้นใส่เข้าไปในปากของเธอ ทว่ามันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลยที่จะทำให้ปากของเธอเปิดอ้าออก เพียงแค่รัฐภูมิใช้ฝ่ามือบีบไปบนแก้มของเธอทั้งซ้ายขวาอย่างแรง หญิงสาวระบมปวดแก้มไปหมด แรงบีบที่มากมายทำให้ปากที่เม้มค่อยๆ คลายตัวออก จนในที่สุดปากของเธอก็อ้าออก ชายหนุ่มหน้าดุรีบใส่ยาปลุกเซ็กส์เข้าไปในช่องปากสาวบังคับให้เธอกลืนมันลงไปด้วยการนำฝ่ามือใหญ่มาปิดทับที่ริมฝีปาก ยาที่อยู่ในปากไม่ได้ถูกกลืนลงไปในลำคอ แต่มันละลายเมื่อสัมผัสโดนความชื้นของน้ำลายที่อยู่ภายใน ความขมของเม็ดยาที่เริ่มละลายในปาก ทำให้สาวเจ้าร้องไห้ออกมาทันที คิดในใจว่าเธอจะต่อต้านยาประเภทนี้ได้อย่างไร รัฐภูมิกระตุกยิ้มอย่างพอใจ ขยับร่างกายลงมายืนอยู่ริมเตียง มองดูร่างสาวที่ร้องไห้ตัวโยนด้วยความสะใจ เจอแค่นี้มันยังน้อยไป ริอาจเข้ามากระตุกหนวดเสือถึงที่ ไม่ถูกเสือขย้ำกินก็คงเป็นไม่ได้ เสืออย่างเขาฆ่าได้หยามไม่ได้อยู่แล้ว เขาหมุนตัวก่อนจะขยับร่างกายเดินไปยังห้องน้ำ อาบน้ำอย่างสบายใจ ผิวปากอย่างอารมณ์ดี ยาเซ็กส์ชนิดนี้เขาซื้อมาจากตลาดมืดแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส เป็นยาปลุกเซ็กส์ชนิดใหม่ล่าสุดที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ สาเหตุที่เขาซื้อยาชนิดนี้มาไม่ใช่ว่าเขาจะใช้เอง พันกรเพื่อนสนิทของเขาเป็นคนฝากซื้อ เพื่อจะนำไปให้พี่เขยที่มีอาการนกเขาไม่ขัน ต้องพึ่งยาปลุกเซ็กส์ขณะที่ดำเนินกิจกรรมทางเพศ ห้านาทีต่อมาหลังจากที่ยาปลุกเซ็กส์เริ่มละลายในปากและตัวยาไหลเข้าไปในลำคอสาว อาการแปลกๆ ก็เกิดขึ้นกับจันยาวีร์ คลื่นความร้อนบางอย่างแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอ แทรกลึกไหลซึมเข้าไปตามเซลล์ต่างๆ เม็ดเลือด ลุกลามลึกเข้าไปถึงกระแสเลือดที่เร่งสูบฉีดด้วยอัตราที่เร็วกว่าปกติ จันยาวีร์รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ความร้อนที่ได้รับทำให้เธอต้องการที่จะถอดเสื้อผ้าออก ความปรารถนาทางอารมณ์ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนกำลังกระจายอาบไปทั่วร่าง ความเป็นอิสตรีเพศกระตุกและเต้นเร่าอยู่ตลอดเวลา เธอมีความรู้สึกว่าต้องการร่วมเพศกับผู้ชายสักคน เพื่อมาบำบัดอาการที่เป็นอยู่นี้ให้ดีขึ้น ต้องการให้เขานำปาก ลิ้นประโลมจูบไปทั่วร่างสาว และต้องการฝ่ามือของเขาลูบไล้นวดเฟ้นไปตามผิวกายของเธอ และความปรารถนามากที่สุดก็คือ ต้องการให้เขาฝังกายลึกเข้าไปในกลีบสาว ขยับเขยื้อนกายด้วยความรุนแรง กระแทกกระทั้นให้ถึงอกถึงใจ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

ฉันไม่มีทางยอมแพ้

โรแมนติก

5.0

เมื่อเธออายุยี่สิบ ชิงฉือได้รู้ว่าตนเองไม่ใช่ลูกโดยกำเนิดของตระกูลต้วน เธอถูกลูกสาวที่แท้จริงของตระกูลต้วนล้อมกรอบ จนถูกพ่อแม่บุญธรรมไล่ออกจากบ้านและกลายเป็นตัวตลกในเมือง เมื่อเธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนา จากนั้นก็พบว่าบิดาผู้ให้กำเนิดของเธอเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองเจียงเฉิงส่วนพี่ชายของตนเองเป็นอัจฉริยะในแวดวงต่างๆ ทุกคนมองดูเด็กสาวตัวเล็กคนนี้ด้วยความเห็นใจและถือว่าเธอเป็นสมบัติล้ำค่า แต่ค่อยๆ พบว่า... ที่แท้ว่าน้องสาวเป็นคนมากความสามารถ? อดีตแฟนหนุ่มผู้น่ารังเกียจหัวเราะเยาะ "อย่ามาตามเซ้าซี้ไม่เลิก ฉันมีแต่เมียนเมียนอยู่ในใจ!" คนใหญ่แห่งเมืองหลวงปรากฏตัว "เมียฉันจะเห็นหัวนายเหรอ?"

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

โรแมนติก

4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า “ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?” เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า “ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว...” ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา “เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ประวัติศาสตร์

4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

โรแมนติก

5.0

“คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?” ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ