Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
พยาบาทรักลวงใจ

พยาบาทรักลวงใจ

อัญญาณี

5.0
ความคิดเห็น
110.7K
ชม
295
บท

“จำใส่หัวของเธอเอาไว้ ฉันไม่เคยรักเธอเลย แม้แต่คิดก็ยังไม่เคย สิ่งที่ฉันทำ ลงไปทั้งหมดมันเป็นแผนการของฉันเอง แผนที่จะทำให้เธอรักเธอหลงฉันจนโงหัวไม่ขึ้น แล้วต่อจากนั้นฉันก็จะเขี่ยเธอออกไปจากชีวิตของฉัน เหมือนกับที่เธอเคยทำกับผู้ชาย หลายคนยังไงล่ะ ให้เธอเจ็บเจียนตาย ให้สาสมกับสิ่งที่เธอทำเอาไว้” คำพูดประโยคไร้ซึ่งความใยดีของเขา มันมีอานุภาพความเจ็บที่รุนแรงโหมซัด มันทิ่มแทงทะลุผิวเนื้อชั้นนอกแทรกซอนเข้าไปถึงเนื้อใน บริเวณหัวใจคือจุดที่เธอเจ็บช้ำ จากเข็มเหล่านี้มากที่สุด เจ็บลึกลงไปถึงขั้วหัวใจ ลมหายใจของเธอนั้นก็ไม่ต่างกันเลย วชิราภรณ์กำลังสูดความปวดร้าวความเสียใจเข้าไปในร่างกาย หล่อรวมกับเจ็บช้ำที่อัด แน่นในหัวใจ ไม่ต้องบอกเลยว่าตอนนี้เธอมีความรู้สึกอย่างไร ตรอมตรมเกินกว่าที่จะ หยั่งได้ว่ามากน้อยแค่ไหน

บทที่ 1 1

1

นอกกำแพงบ้านหลังใหญ่ที่มีความยาวเกือบหนึ่งร้อยเมตร ร่างเด็กหญิงวัยสิบห้าปียืนอยู่ติดกำแพง ดวงตาของเธอมองลอดผ่านรูอิฐบล็อกไปยังภาพครอบครัวแสนอบอุ่นของเจ้าของบ้าน ที่กำลังนั่งเล่นอยู่กลางสนามหญ้า

เธอน่าจะอยู่ตรงนั้น อยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกท่ามกลางความอบอุ่น มิใช่อยู่กันตามลำพังกับมารดาที่ถูกทิ้งขว้างอย่างไม่ใยดี มีแต่ความเจ็บปวดเท่านั้นที่เธอสัมผัสได้ตั้งแต่รู้ความจริง

น้ำตาเม็ดเล็กหยดไหลเป็นทางขณะที่เด็กหญิงมองภาพนั้น ภาพอันแสนเจ็บปวดใจ ยิ่งมองยิ่งเจ็บ แต่เธอก็เลือกที่จะยืนมองภาพนั้นให้ตอกย้ำความแค้นที่ฝังเข้าลิ่มเลือด ให้หยั่งลึกถึงความปวดร้าวของตนเอง เพื่อวันหนึ่งเธอจะถ่ายเทความรู้สึกที่ได้รับให้กับสองแม่ลูกที่พรากทุกอย่างไปจากตน

“พ่อจะรู้ไหมคะว่า มีหนูอยู่ในโลกนี้” วชิราภรณ์พูดเบาๆ กับตัวเอง พร้อมกับน้ำตาหลั่งไหลไม่ขาดสาย “แต่สักวันพ่อจะต้องรู้ หนูจะทำให้พ่อรู้ว่า พ่อมีลูกคนนี้อีกคน”

มือเล็กปาดน้ำตาทิ้ง หยุดการสะอื้นไห้ จ้องมองไปยังเด็กหญิงหน้าตาสะสวยอยู่ในอ้อมกอดของชายสูงวัยที่คงไม่รู้ว่า กำลังถูกพี่สาวต่างมารดาอาฆาตแค้น ย้ำบอกตนเองว่า สักวันหนึ่งจะพรากความสุขของน้องสาวมาเป็นของตน ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม

“ฉันโทรมาขอผู้ชายที่ชื่อวุฒิชัยกับเธอน่ะ เธอคงไม่ว่าอะไรนะเขมิกา ถึงจะว่าก็คงไม่ทันแล้วล่ะเพราะตอนนี้เขาอยู่บนเตียงกับฉัน อยากเห็นภาพไหมล่ะ ถ้าอยากเห็นเดี๋ยวฉันจะส่งไปให้ดูนะ”

ต้นสายตัดสายทิ้งเมื่อบอกจุดประสงค์ของตนเองจบ หันไปพยักหน้ากับผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ยืนอยู่ปลายเตียง ผู้หญิงคนนั้นถอดเสื้อตัวสวยพร้อมชุดชั้นในของตัวเองออกอย่างรู้งาน จากนั้นก็ก้าวขึ้นมาบนเตียงล้มตัวลงนอนข้างๆ กายวุฒิชัยที่ตอนนี้นอนหลับสนิทไม่รู้สึกตัว พลิกตะแคงกอดร่างหนาอิงซบใบหน้ากับอกเปล่าเปลือยอย่างแนบแน่นชนิดเนื้อแนบเนื้อ

วชิราภรณ์ใช้โทรศัพท์เครื่องเดิมถ่ายภาพวุฒิชัยที่นอนอยู่บนเตียงในสภาพท่อนบนเปลือยกาย ท่อนล่างของเขาและเธอไม่ได้แตะต้องมันเลยใช้ผ้าห่มปิดบังเอาไว้เท่านั้น วชิราภรณ์จัดฉากให้ดูเหมือนกับว่า วุฒิชัยกับเธอเพิ่งผ่านบทสวาทแสนเร่าร้อนกันอย่างเหนื่อยอ่อน ฝ่ายชายหลับสนิท ส่วนฝ่ายหญิงหันมายิ้มกับกล้องโดยใช้เส้นผมยาวสลวยปกปิดใบหน้าเอาไว้ เพื่อไม่ให้มองเห็นใบหน้าที่ชัดเจน

“แชะ” เสียงชัตเตอร์จากโทรศัพท์มือถือดังขึ้นหนึ่งครั้ง หลังจากที่วชิราภรณ์ถ่ายภาพที่ต้องการเสร็จเรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปก็คือ ส่งภาพที่ถ่ายไว้เมื่อครู่ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของเขมิกา น้องสาวต่างมารดาที่เธอทั้งแค้น อิจฉาริษยาและชิงชัง

“ป่านนี้คงกรี๊ดอกแตกตายอยู่แน่ๆ เลย สมน้ำหน้า”

คนเป็นพี่สาวแสยะปากยิ้มพูดกับโทรศัพท์ราคาแพงหลังจากที่จัดการส่งภาพบาดตาบาดใจให้กับเขมิกาเรียบร้อยแล้ว นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนมองไปยังร่างสูงโปร่งสลบเหมือดด้วยฤทธิ์ยานอนหลับอย่างสมเพช ผู้ชายใจโลเล จิตใจไม่หนักแน่น มีคนรักอยู่แล้วทั้งคน แต่พอถูกเธอยั่วยวนเข้าหน่อย ก็เทหัวใจมาให้เธอจนหมดทั้งดวง พร่ำพูดพร่ำบอกคำรักจนเธออยากจะอาเจียนวันละหลายๆ ครั้ง เจออย่างนี้มันถึงจะสาสม ไม่ได้ใครเลยสักคน ไม่ว่าจะเป็นเธอหรือเขมิกา

“ขอบคุณนะคะคุณวุฒิที่ให้ยืมโทรศัพท์ หลับให้สบายนะคะ แล้วเจอกันใหม่เมื่อฉันต้องการเจอคุณ”

วชิราภรณ์วางโทรศัพท์ของคนนอนหลับไม่รู้เรื่องลงบนโต๊ะหัวเตียง มองไปยังดวงดาวที่แต่งตัวเสร็จพอดี จากนั้นสองสาวจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องพักในโรงแรมชื่อดังกลางสี่แยกราชประสงค์ หลังจากภารกิจ ‘ชิงรักหักสวาท’ เสร็จสิ้น

“ค่าจ้างของเธอ” วชิราภรณ์ส่งเงินหนึ่งพันห้าร้อยบาทเป็นค่าจ้างวานให้กับดวงดาวขณะที่เดินเคียงคู่กันไปยังลิฟต์

“ขอบคุณพี่ผึ้ง มีงานอีกเรียกดวงนะพี่” ดวงตารับเงินด้วยรอยยิ้ม งานง่ายเงินดีอย่างนี้มีหรือที่เธอจะปฏิเสธ

“อืม รู้แล้ว” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่วชิราภรณ์กระทำเช่นนี้ มันเป็นครั้งที่เท่าไหร่หญิงสาวไม่สนใจ สนเพียงแต่ว่าจะทำอย่างไรให้น้องสาวต่างมารดาเจ็บเหมือนกับที่มารดาของเธอเจ็บ...

เจ็บจากการถูกแย่งชิงคนรักไปซึ่งๆ หน้า

เจ็บช้ำในทรวงเมื่อรู้ว่าคนที่ตัวเองรักปันใจให้หญิงอื่น

เจ็บที่ต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจที่เธอส่งไปให้ทุกครั้งที่เขมิกาถูกแย่งชิงคนรัก

ผลของความเจ็บปวดของเขมิกา คือความสะใจ ความสาสมใจและเป็นความสุขของวชิราภรณ์ นางมารร้ายประจำตัวของน้องสาวต่างมารดา เพราะเธอไม่มีทางปล่อยให้อีกฝ่ายมีความสุขกับชายคนรักหน้าไหนทั้งสิ้น ตราบที่พี่สาวคนนี้ยังมีชีวิตอยู่...อย่าได้หวัง

วชิราภรณ์เดินออกมาจากโรงแรมอย่างอารมณ์ดี สีหน้าเบิกบานใจเหมือนกับทุกครั้งที่ทำภารกิจเสร็จสิ้น วันนี้เธอตั้งใจว่าจะซื้อของกินอร่อยๆ ไปฝากมารดาเสียหน่อย ฉลองความสำเร็จของเธอ การกระทำทุกอย่างของวชิราภรณ์ กัญญาผู้เป็นมารดาไม่มีส่วนรับรู้หรือเกี่ยวข้องเลย ลูกสาวเก็บไว้เป็นความลับอย่างดี

“ผึ้งทำอย่างนี้อีกแล้วนะ เมื่อไหร่จะเลิกทำแบบนี้ซะที”

จิตใจเบิกบานอารมณ์ดีของคนที่เพิ่งเดินออกมาจากโรงแรมเหือดหายไปทันทีที่ได้ยินคำพูดของณัชญ์ รัตนาพิทักษ์กุลเพื่อนสนิทที่คิดกับวชิราภรณ์เกินกว่าคำว่าเพื่อน

“มันเรื่องของผึ้ง ณัชญ์ไม่ต้องมายุ่งได้ไหม...รำคาญ”

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ อัญญาณี

ข้อมูลเพิ่มเติม
สวาทรัก อสูรร้าย

สวาทรัก อสูรร้าย

มหาเศรษฐี

5.0

"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน

ชิงรัก

ชิงรัก

มหาเศรษฐี

5.0

ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน

ลิขิตรักพญามาร

ลิขิตรักพญามาร

มหาเศรษฐี

5.0

“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

สะใภ้สุดขั้ว แม่ผัวสุดขอบ

มหาเศรษฐี

5.0

จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ