รักไม่ได้ถ้าไม่ร้ายแบบนี้

รักไม่ได้ถ้าไม่ร้ายแบบนี้

แหวนก้อย

5.0
ความคิดเห็น
73.4K
ชม
51
บท

คืนนั้นเตียงแทบลุกเป็นไฟเกินใครจะห้ามได้ เมื่อทั้งคู่ต่างโรมรันเข้าหากันอย่างถึงพริกถึงขิง เขา : ผมไม่คิดว่าผู้หญิงที่ผมลากขึ้นเตียงจะไม่ใช่เด็กไซด์ไลน์ที่ผู้ช่วยผมหามาให้ ผมไม่รู้ว่าเธอคือใคร เพราะเมื่อผมออกมาจากห้องน้ำเธอก็จากไป ทิ้งไว้เพียงแบงก์พันสามใบกับกางเกงในซีทรูไว้ให้ดูต่างหน้า เธอ : ด้วยความเมาเธอฝันว่าเธอลากผู้ชายขึ้นเตียงแล้วแซบกับเขาอย่างถึงพริกถึงขิง ตื่นขึ้นมาเธอจึงรู้ว่ามันไม่ใช่แค่ฝันแต่เธอลากผู้ชายขึ้นเตียงมาจริง ๆ เธอตัดสินใจรีบออกจากห้องไปโดยคิดว่าให้ทิปเป็นแบงก์พันสามใบก็คงน่าจะพอ

บทที่ 1 เด็กไซด์ไลน์

“ติ๊ด ติ๊ด”

เสียงคีย์การ์ดหน้าประตูห้องพักสุดหรูของโรงแรมห้าดาว ใจกลางเมืองกรุงดังขึ้น โชคดีจริง ๆ ที่คุณหญิงเตชิณีเมตตาอนุญาตให้เธอได้เข้าพักห้องนี้ เธอเลยไม่ต้องขับรถกลับคอนโดให้เสียเวลา มือเรียวเปิดประตูห้องพร้อมก้าวเข้าไปด้วยอาการซวนเซ

“เธอไม่น่าเมาเล๊ยยายปิ๊ง เธอรู้ม้าย เธออดดื่มด่ำกับบรรยากาศห้องพักสุดหรูเลยน้า เสียดายมาก เอิ๊ก แต่ตอนนี้ขอนอนก่อน ม่ายหวายยยย เอิ๊ก”

คนเมาบ่นพึมพำพลางถอดรองเท้าส้นเข็มสีดำพื้นแดง Christian Louboutin ออกจากเท้าเรียวอย่างไม่สนใจไยดี ก่อนจะเหลียวซ้ายแลขวาแล้วก้าวตรงไปยังโซฟาตัวที่ใกล้ที่สุด แล้วทิ้งตัวลงอย่างไม่รีรอ

เสียงเปิดประตูห้องและเสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามากระทบในโสตประสาท ทำให้คนที่นั่งจิบเบียร์ผ่อนคลายอารมณ์ พร้อมดื่มด่ำกับแสงสียามราตรีอยู่ตรงระเบียงห้องชุดสุดหรูต้องหันกลับไปมอง ก่อนเขาจะยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เรื่องหาผู้หญิงผู้ช่วยของเขาไม่เคยทำให้ผิดหวัง สั่งปุ๊บได้ปั๊บ ทำไมเวลาทำงานมันไม่ทำให้เร็วและดีแบบนี้บ้างนะ

คนร่างสูงยิ้มร้ายในตาเป็นประกาย ก่อนที่จะยกแก้วเบียร์ขึ้นจิบอีกครั้ง แล้วขายาว ๆ ก้าวเดินไปที่โซฟาในห้องรับแขก สิ่งที่เขาเห็นอยู่เบื้องหน้าคือผู้หญิงหน้าตาสะสวย น่ารัก คิ้วเข้ม ขนตาเรียงกันเป็นแพ ปากกระจับรับกับจมูกโด่งเชิดรั้น เธอหุ่นดี ผิวมีออร่า นั่งหลับตาอยู่บนโซฟาหนังสีดำ ซึ่งตัดกับผิวและชุดเกาะอกที่เธอใส่อย่างชัดเจน สาวชุดแดงเบอร์กันดีกำลังเอนกายหลับตาอยู่บนโซฟา ทุกครั้งที่เธอหายใจเข้าออกทำให้หน้าอกเธอขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจด้วย ตาคู่คมได้แต่มองจนเพลิดเพลิน ผู้ช่วยเขารู้ว่าเขาชอบผู้หญิงแบบไหน เขายิ้มน้อย ๆ ที่มุมปากอีกครั้งด้วยความพอใจ

“มาแล้วเหรอ เดี๋ยวคุณไปรอผมในห้องโน้นนะ ผมดื่มเบียร์แก้วนี้หมดแล้วจะตามเข้าไป”

เขาเอ่ยบอกสั้น ๆ ได้ใจความ ก่อนจะเดินกลับไปนั่งจิบเบียร์ต่อที่ระเบียงในทันที การดื่มเบียร์ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ช่วงนี้งานรัดตัวจนเขาแทบจะขยับตัวไปไหนไม่ได้ แม้แต่งานเลี้ยงฉลองแฟชั่นโชว์เครื่องเพชรคอลเลกชันล่าสุดของมารดา เขายังไม่สามารถไปร่วมงานได้ เพราะเขาติดลูกค้าคนสำคัญ กว่าจะปลีกตัวมาได้งานก็เลิกเสียแล้ว

ด้านคนเมาไวน์ที่นั่งสะลึมสะลืออยู่บนโซฟา เมื่อได้ยินสิ่งที่มีคนบอก กว่าเธอจะเรียกสติให้รับรู้ก็ใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เธอพยายามปรือตามองอย่างช้า ๆ สูดหายใจเข้าปอดแรง ๆ แล้วรวบรวมเรี่ยวแรงที่มีเพียงน้อยนิดหันไปมองตามมือที่เขาคนนั้นเคยชี้ไปเมื่อสักครู่ อ้อ ห้องนอนอยู่ตรงนั้นเองเหรอ เธอไม่รีรอที่จะพยุงตัวแล้วลุกเดินโซเซไปยังห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มในทันที

ระเบียงกว้างมีชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในเสื้อเชิ้ตสีขาวและกางเกงสแลคสีดำของแบรนด์หรู นั่งอ้อยอิ่งจิบเบียร์ไปอย่างช้า ๆ กระทั่งหมดแก้ว เขาจึงลุกขึ้นยืนเต็มความสูง พร้อมก้าวขายาว ๆ เข้าไปยังห้องนอนอย่างไม่รอช้า มือหนาค่อย ๆ แกะกระดุมเสื้อเชิ้ตทีละเม็ด เผยให้เห็นกล้ามอกอันแน่นหนั่น กล้ามท้องเรียงตัวสวยอย่างคนที่ดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ในขณะที่สายตาก็มองไปบนเตียงที่มีสาวชุดแดงเบอร์กันดีนอนอยู่ก่อนแล้ว เขาส่ายหน้าเบา ๆ ใช่ เขารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่ผู้ช่วยหาผู้หญิงที่เหมือนจะไม่ค่อยมีสตินักมาให้เขา เธอคงเมามานิดหน่อย แต่เมื่อเรียกมาแล้ว เมื่อเธอรับเงินไปแล้ว และเขาก็แค่อยากระบาย เขาก็คงต้องแก้ขัดไปก่อน เดี๋ยวค่อยไปจัดการกับผู้ช่วยทีหลัง งานดีงานไว แต่ขอแบบมีสติหน่อยได้ไหมวะ!!

เขาหายเข้าห้องน้ำไปเพียงไม่นานก็กลับออกมาพร้อมผ้าขนหนูผืนเดียวที่เกาะเกี่ยวหมิ่นเหม่อยู่รอบเอวสอบ หยดน้ำยังเกาะตามผิวกาย เขาแค่อยากอาบน้ำเรียกความสดชื่นและตอนนี้ก็รู้สึกดีขึ้นมากแล้ว ขายาวก้าวเดินไปยังเตียงนอน จ้องมองร่างระหงที่กำลังหลับใหลไม่ได้สติ ก่อนจะขยับกายเข้าไปใกล้เธอ แล้วเอนกายจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด งานดี ไม่สิไม่ใช่แค่ดี แต่เรียกว่าดีมาก ดีจนรู้สึกเสียดายที่เธอต้องมาทำอาชีพแบบนี้

“เมาเหรอ เมาแล้วรับงานทำไม หือ?”

เขาบ่นพึมพำเหมือนพูดกับตัวเองเสียมากกว่า เธอดูหน้าตาสะสวยน่ารัก หน้าหวานแต่ออกจะคมเข้ม เพราะคิ้วและขนตาชัด แถมยังมีผิวขาวนวลเนียนในแบบที่เขาชอบ แต่สำหรับเขาผู้หญิงก็เหมือนกันหมด มีไว้เพียงเพื่อเป็นที่ระบาย เขาไม่ได้คิดจะลงหลักปักฐานกับใคร นั่นเพราะประสบการณ์แย่ ๆ ที่ผ่านมาทำให้เขามองผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ดีนัก ผู้หญิงสมัยนี้มีแต่ร้าย ๆ ใช้เงินเป็นที่ตั้งมากกว่าความรักและความจริงใจ ดังนั้นการซื้อกินก็ไม่เลวเพราะมันไม่มีข้อผูกมัดอะไร ต่างคนต่างตอบแทนเพื่อผลประโยชน์ของกันและกัน ซึ่งมันเหมือนธุรกิจอย่างหนึ่ง เขายังไม่พร้อมจะเปิดใจกับใครอีก แต่ถ้าเกิดเจอคนถูกใจเข้าจริง ๆ ก็อาจจะเปิดใจก็เป็นได้ แต่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอไหม เวลานี้แค่งานการที่ต้องรับผิดชอบก็มากมายเหลือเกินแล้วสำหรับเขา ถ้าต้องให้คิดเรื่องผู้หญิงอีกบอกเลยว่ายังไม่มีเวลา

“อื้อ”

แรงบีบที่หน้าอกนุ่มหยุ่นทำให้ปารดารู้สึกเจ็บจนเผลอส่งเสียงร้องออกมา เธอคงฝันสินะ ดูสิมือนี่สาละวนอยู่กับหน้าอกของเธอไม่ได้หยุด เวลานี้เธอรู้สึกเจ็บไปหมด เธอหัวเราะในลำคอเบา ๆ นี่เธอเมาแล้วฝันลามกหรืออย่างไรกัน บ้าจริง ๆ เชียว

“ไอ้ปิ๊ง...ไอ้คนลามก คริคริ”

เธอบ่นพึมพำ พร้อมหัวเราะเบา ๆ ให้กับความลามกของตัวเอง ไหน ๆ ก็ฝันแล้วก็ไปให้สุดเลยแล้วกัน ปารดาพยายามปรือตามองคนที่กำลังนัวเนียกับหน้าอกของเธอ มือเขาบีบหน้าอก ส่วนปากก็ซอกไซ้ซอกคอไปทั่วจนเธอรู้สึกสยิวกิ้วไปหมด เธอพยายามเขม้นมองหน้าเขาแต่มันก็เบลอมาก ขนาดในฝันเธอยังเมาไวน์ไม่หายให้มันได้อย่างนี้สิ เสียดายชะมัด เธอเลยไม่ได้เห็นหน้าค่าตาของเขาเลย มือบางยื่นออกไปยังเบื้องหน้าเพื่อแตะสัมผัสกับคนตรงหน้า ก่อนที่จะต้องอ้าปากเหวอ เมื่อปากของเขางับลงมาตรงยอดอกสีอ่อนอย่างแรง แถมยังขบเม้มดูดดึงอย่างไม่ปรานี

“โอ้ย แรงเกินไปแล้วนะ อื้อ อ๊าย..”

เธอส่งเสียงร้องครวญคราญแทบไม่เป็นภาษา เล็บมือที่ตัดและดูแลมาอย่างดีจิกลงตรงไหล่หนาอย่างแรง เพื่อระบายความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามา จะว่าไปมันก็ไม่ได้แค่เจ็บแต่มันทำให้เธอรู้สึกวูบโหวงบริเวณท้องน้อยอย่างประหลาด เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบพานมาก่อนเลยในชีวิต จะบอกว่า ‘มันเจ็บแต่ดี’ ก็ว่าได้ เธอเริ่มแอ่นอกรับสัมผัสอันแปลกใหม่จากเขา รับรู้ถึงสัมผัสจากลิ้นสากที่โลมเลียจนยอดถันสีชมพูของเธอตั้งเป็นไต แถมยังเปียกชื้นไปหมด

มือหนาอาศัยจังหวะที่เธอแอ่นอก สอดมือเข้าไปใต้ร่างระหงก่อนจะรูดซิปที่รูดค้างคาไว้แค่ตรงเอวคอดกิ่วลงจนสุด แล้วดึงชุดออกจากร่างบางอย่างรวดเร็ว สิ่งที่เห็นตรงหน้าจัดว่าใช้ได้ ผิวขาวเนียนละเอียด นุ่มลื่น แถมกลิ่นกายเธอก็หอมกระตุ้นเลือดลมในกายชายให้สูบฉีดไปทั่วทั้งร่าง เขาสลัดผ้าขนหนูออกจากกายจนเปลือยเปล่า แล้วทิ้งตัวลงนอนแนบชิดเธออีกครั้ง มือก็เอื้อมไปดึงแพนตี้ซีทรูที่แทบจะปิดอะไรไม่มิดออกจากขาเรียวสวยอย่างง่ายดาย นิ้วเรียวยาวของเขาขยับไปสัมผัสกับกึ่งกลางกายสาวเบา ๆ เวลานี้เธอเปียกแฉะเล็กน้อย เขาขยับปลายนิ้วสัมผัสปุ่มกระสันสีชมพูที่เด่นตระหง่านอยู่กลางดอกไม้งามเพื่อกระตุ้นให้เธอพร้อมมากขึ้น เธอส่งเสียงร้องครวญครางไพเราะเสนาะหู จนทำให้มือเขาเร่งทำหน้าที่เป็นระวิง และเมื่อเห็นน้ำหล่อลื่นออกมามากมายพอแล้ว มือหนาจึงเปิดลิ้นชักหัวเตียงพร้อมหยิบเครื่องป้องกันออกมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว ก่อนจะขยับกายของตนไปอยู่ตรงกลางหว่างขาขาวของเธออย่างรวดเร็ว พร้อมจับเข่าเธอไว้ก่อนจะขยับให้ขาเรียวสวยตั้งชันเป็นรูปตัวเอ็ม แล้วส่งความเป็นชายที่ผงาดชูชันพร้อมออกรบเต็มทีเข้าไปยังช่องทางรักที่เต็มไปด้วยน้ำหล่อลื่นในคราวเดียวจนสุดลำ

“อื้อ..เจ็บ”

เธอร้องออกมาเสียงหลง แถมยังมีน้ำใส ๆ ไหลออกมาจากหางตาราวกับว่ารู้สึกเจ็บนักหนา หน้าอกเธอขยับขึ้นลง เสียงหายใจคล้ายคละเคล้าออกมากับเสียงสะอื้นไห้ก็ไม่ปาน นี่เธอเจ็บขนาดนั้นเลยเหรอ คนร่างสูงได้แต่มองเธอพร้อมหยุดชะงักนิ่ง เธอแกล้งรึเปล่าถึงเขาจะรู้สึกว่ามันฟิต ไม่สิมันฟิตมาก ฟิตกว่าครั้งไหน ๆ ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่น่าจะใช่ ‘มั้ง’ เขาชักจะเริ่มไม่แน่ใจ ดังนั้นเขาจึงก้มหน้าไปมองจุดเชื่อมประสานพร้อมค่อย ๆ ขยับแกนกายออกเล็กน้อย ทำให้คนใต้ร่างสูดปากเบา ๆ ด้วยความเจ็บ พร้อมบ่นพึมพำ แต่กระนั้นก็ยังเด้งสะโพกเข้าหาเขาไปด้วย

“ซี้ด เจ็บ”

เขาต้องก้มลงมองอีกครั้ง สิ่งที่เห็นคือเลือดสีแดงสดที่เปื้อนแกนกลางกายของเขา นั่นทำให้เขาตกใจไม่น้อย หรือว่าเธอจะเพิ่งรับงานนี้เป็นครั้งแรก แล้วเขาก็เป็นคนแรกของเธอเช่นนั้นหรือ โอ้ นี่เธอทำเขาประหลาดใจจริงๆ เซอร์ไพรส์สุด ๆ ก็วันนี้ เดี๋ยวเสร็จภารกิจแล้วเขาจะให้ผู้ช่วยให้ทิปเธอหนัก ๆ เลยทีเดียว เขาไม่คิดว่าจะเจอเด็กไซด์ไลน์ที่ยังสดและยังซิงแบบนี้ ถึงว่าทำไมเธอถึงฟิตอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน ร่างสูงยกยิ้มที่มุมปากพร้อมสายตาแพรวพราว เขาขยับสะโพกสอบเข้าหาร่างอรชรอย่างเนิบช้าและระมัดระวังยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะเร่งจังหวะแรงและเร็วมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่คนใต้ร่างก็เด้งสะโพกตอบรับเป็นอย่างดี มือบางจิกผ้าปูที่นอนไว้แน่น ส่วนเขาก็ได้แต่ขยับสะโพกสอบเข้าใส่ กระทั่งในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยสายธารขาวขุ่นออกมามากมายไว้ในเครื่องป้องกัน

“อ๊ะ”

เขาขยับกายออกห่างก่อนจะดึงเครื่องป้องกันออกจากลำกายอย่างระมัดระวัง เพราะเลือดสีแดงสดยังเปรอะเปื้อนติดมาด้วย ของสดใหม่มันให้ความรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง เขานึกในใจ ก่อนจะทิ้งเครื่องป้องกันลงถังขยะข้างเตียง แล้วทิ้งตัวลงนอนบนหมอน พร้อมชำเลืองสายตาไปมองคนที่นอนคุดคู้อยู่ข้าง ๆ กัน เขาเกิดคำถามในใจ ‘ต้องใจกล้าขนาดไหนถึงต้องยอมเสียครั้งแรกให้คนแปลกหน้า’

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ แหวนก้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม
ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

โรแมนติก

5.0

‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง

True Love รักแท้แค่เพียงเธอ

True Love รักแท้แค่เพียงเธอ

โรแมนติก

5.0

“นอนดูดาวด้วยกันนะครับ” แค่ได้ยินเท่านั้นสติของเธอก็แทบกระเจิง หัวใจของหญิงสาวก็เต้นเร่า ๆ คิดไปตามคำที่เขาเอ่ย หากคืนนี้เธอนอนดูดาวกับเขาแล้วมันจะเป็นเช่นไร เขาจะให้เธอดูดาวแบบไหน ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ หรือจะให้ดูดาวทั้งฟ้า แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน เธอสาบานว่าจะดู... +++++ วุ้นเส้น : สาวเนิร์ดร่างอวบประจำคณะสถาปัตย์ ผู้แอบรักหนุ่มหล่อเหลาดีกรีเดือนคณะมานานกว่าห้าปี เธอตั้้งใจจะแอบรักเขาไปเงียบ ๆ แต่ทว่าในคืนฉลองเรียนจบ กลับเกิดเหตุการแสนเร่าร้อนจนทำให้เธอได้มีโอกาสเปิดเผยความในใจที่มีต่อเขาอย่างใกล้ชิดชนิดเนื้อแนบเนื้อ และเมื่อการแอบรัก ไม่ใช่การแอบรักอีกต่อไป นั่นจึงเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นในการเรียนรู้เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ครั้งแรกของคนที่ไร้ประสบการณ์อย่างเธอ แน่นอนว่าเธอคาดหวังเสมอว่าจะได้เจอรักแท้เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ มาร่วมลุ้นไปด้วยกันค่ะว่า คนที่เธอแอบรักจะใช่รักแท้ของเธอหรือไม่ แล้วถ้าหากไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร? ติดตามอ่านได้ใน "True love รักแท้แค่เพียงเธอ"

ล้านักข้าจักเลิกรักคุณพี่

ล้านักข้าจักเลิกรักคุณพี่

โรแมนติก

5.0

อุตส่าห์ได้ออกเรือนกับคุณพี่ที่รักมาตั้งแต่เด็กทั้งที แต่มิมีที่คุณพี่ผู้เป็นผัวจักนอนร่วมเบาะเฉกเช่นผัวเมียพึงกระทำ ดังนั้นเธอจะทำทุกวิถีทางให้เขาร่วมเบาะนอนกับเธอให้ได้ 'มารยาที่มีเมียคนนี้จักใช้กับคุณพี่เจ้าค่ะ' --- เมื่อเห็นแผงอกแกร่งของผัวชัด ๆ แม่หญิงก็ให้กลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ สิบคนว่าฤๅจักเท่าตาเห็น สิบตาเห็นฤๅจักเท่ามือคลำ แล้วสิบมือคลำฤๅจักเท่านอนคุย แค่คิดแก้มนวลก็แดงดั่งลูกตำลึงสุกแล้ว -------- ในหอนอน แม่หญิงชบานั่งรอคุณพี่ผู้เป็นผัวขึ้นมาจากท่าด้วยท่าทางกระสับกระส่าย ในกบาลน้อย ๆ เฝ้าแต่คิดถึงสิ่งที่แม่ผัวสั่งแม่ผัวสอน “ฟังแม่หนาแม่ชบาลูก การเป็นผัวเมียมิใช่แค่การนอนหลับจับมือกันเพียงเท่านั้น” “แล้วลูกต้องทำสิ่งใดอีกเล่าเจ้าคะคุณแม่” “ผัวเมียนอกจากมีใจผูกสมัครรักใครกันแล้วไซร้ กายนั้นก็ต้องแนบชิดสนิทเสน่หา” “แนบชิดสนิทเสน่หารึเจ้าคะ ต้องทำเช่นไรรึเจ้าคะคุณแม่ ชบามิเคยทำดอกเจ้าค่ะ” “ก็รู้ว่ามิเคย แม่ถึงได้นั่งพร่ำสอนอยู่นี่อย่างไรเล่า แนบชิดสนิทเสน่หาก็คือใกล้ชิดกัน ตัวต่อตัว เนื้อแนบเนื้อ ผ้าเสื้อมิได้มาเกี่ยวมาข้อง” สิ้นคำนั้นแม่หญิงก็ให้อ้าปากค้าง ตั้งแต่เล็กแต่น้อย นางสนใจแต่การเล่นซน เพิ่งจะมาสนใจงานบ้านงานเรือนก็เมื่อปีที่แล้วด้วยโดนผู้เป็นแม่เอ็ดแลจักโดนลงหวาย แต่วันนี้เมื่อได้มาออกเรือนกับคุณพี่อย่างมิทันได้ตั้งตัว เธอเพิ่งรู้ว่าอิสตรีที่ออกเรือนนั้น นอกจากต้องดูเหย้าเฝ้าแลเรือนแล้วยังต้องปรนนิบัติพัดวีแบบเนื้อแนบเนื้อกับผัวด้วย

นายช่างใหญ่แห่งอโยธยาที่ข้าอยากได้

นายช่างใหญ่แห่งอโยธยาที่ข้าอยากได้

โรแมนติก

5.0

เมื่อยมทูตแห่งกาลเวลาส่งฉันย้อนเวลามาพบกับนายช่างใหญ่ผู้กร้าวใจ หล่อล่ำ แถมกล้ามแน่น แผนการอ่อยนายช่างของฉันจึงเกิดขึ้น “นายช่างใหญ่นี่ใหญ่สมชื่อนะเจ้าคะ” “พูดกระไรของเจ้า” “ข้าชมเจ้าค่ะ ใหญ่นักข้าชอบ แบบว่าประทับใจเจ้าค่ะ” “พูดจาอย่างคนวิปลาสหารู้ความไม่” ---- เมื่อต้องมาอยู่อโยธยา เมื่อเจอคนถูกตาต้องใจ เมื่อรู้สึกคลั่งรักเกินจะทนไหว เมื่อแม่บอกให้เชื่อใจ เมื่อพ่อไม่อยากให้ออกเรือน ฟ้ารดา มหานคร หญิงสาวทะลุมิติมายังอโยธยา ที่นี่เธอได้เจอกับนายช่างทองหลวงที่ถูกตาถูกใจ ก็ในเมื่อกลับไปไม่ได้ แผนการอ่อยนายช่างแบบเนียน ๆ จึงเกิดขึ้น นายช่างใหญ่ นายช่างทองหลวงผู้หล่อล่ำ กล้ามแน่น เขาจะต้านทานเสน่ห์ของแม่หญิงผู้ไม่เหมือนใครในอโยธยาได้หรือไม่ โปรดติดตามอ่านได้ใน "นายช่างใหญ่แห่งอโยธยาที่ข้าอยากได้"

พี่หมอเจ้าขาอย่าทำข้าหวั่นไหว

พี่หมอเจ้าขาอย่าทำข้าหวั่นไหว

โรแมนติก

5.0

​ เธอข้ามเวลามาพบเขา   เขารอเวลาเพื่อจะได้เจอเธอ  ------ คนอื่นทะลุมิติย้อนไปในอดีตที่พอจะรู้เรื่องราวที่ผ่านมาบ้าง แต่สำหรับแม่หญิงช่อฟ้าเธอกลับทะลุมิติมาในโลกปัจจุบันที่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลย เช่นนั้นเธอจะปรับตัวอยู่ในโลกแห่งนี้ได้ฤๅไม่ แล้วพี่หมอจะช่วยให้เธอผ่านวิกฤตในชีวิตได้อย่างไร ความรักของพวกเขาจะมีอุปสรรคแค่ไหน โปรดติดตามอ่านได้ใน "พี่หมอเจ้าขาอย่าทำข้าหวั่นไหว" โปรย จากแม่หญิงคนงามแห่งอโยธยา สู่กรุงเทพเมืองฟ้าอมร แม่หญิงหวังให้พี่หมอสั่งพี่หมอสอน จักว่านอนแลสอนง่ายด้วยตั้งใจ แต่พี่หมอกลับอ่อนโยนจนหวั่นไหว ทำหัวใจมิใคร่อยู่กับเนื้อตัว ดั่งแสงสว่างชี้ทางยามมืดมัว ที่เคยกลัวกลับมลายหายสิ้นไป ยิ่งนานวันรักรุกคืบสู่หัวใจ ฤๅชะตาไซร้ลิขิตให้เรามาพบพาน ดลบันดาลให้อยู่เคียงคู่กัน ถ้าเยี่ยงนั้นข้าจักอยู่เป็นคู่เคียง ….. แปรงปัดแก้มถูกบรรจงปัดไล้เบา ๆ ลงบนผิวแก้มขาวละเอียดลออของคนดวงหน้าหวานเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ช่างแต่งหน้าจะค่อย ๆ วางแปรงลง แล้วสำรวจผลงานตัวเองอีกครั้ง ใบหน้างดงามหมดจดสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ช่างแต่งหน้าไม่น้อย “เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณฟ้าชอบรึเปล่าคะ” “ฟ้าชอบค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” สิ้นคำนั้นช่างแต่งหน้าก็ค้อมศีรษะรับ ก่อนจะก้าวออกไปจากห้อง ปล่อยให้เจ้าของห้องนั่งอยู่หน้ากระจกเพียงลำพัง เจ้าของดวงตากลมโตจ้องมองตัวเองในกระจกนิ่ง ริมฝีปากรูปกระจับที่เคลือบด้วยลิปสติกสีโอลด์โรสค่อย ๆ คลี่ยิ้มเต็มใบหน้า แม้กระทั่งแววตาของเธอก็ยังเปล่งประกายทอแสงแห่งความสุข เรียวปากบางค่อย ๆ เผยอและขยับเขยื้อนเอื้อนเอ่ยกับตัวเองด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น “ฉันชื่อ ‘ฟ้ารดา มหานคร’ เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของคุณก้องเกียรติ และคุณรดาภา มหานคร เจ้าของห้างทองสี่สาขาในกรุงเทพฯ”  ​

รักไม่ได้ร้าย

รักไม่ได้ร้าย

โรแมนติก

5.0

โปรย : จู่ ๆ คู่หมั้นที่ทอดทิ้งไปนานถึงสี่ปี กล้าดีกลับมาสู่ขอ หึ! คนสติดีที่ไหนจะไปแต่งด้วย หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร เธอก็จะไม่แต่งกับเขาเป็นอันขาด ****** “พี่ไม่ดีตรงไหนคะ” “เมต้องตอบด้วยเหรอคะ ไว้พี่ภีมตอบคำถามตัวเองได้เมื่อไหร่ แสดงว่าคงเป็นคนดีขึ้นมากโขเมื่อนั้น” “ก็ได้ค่ะ ก็ได้” ร่างสูงเปลือยเปล่ายกมือขึ้นสองข้าง แสดงอาการยอมแพ้ เมลดาเบือนหน้าหนีภาพตรงหน้า คนหน้าไม่อาย ‘รู้ว่าใหญ่ แต่ไม่เห็นต้องยืนอวดขนาดนั้น’ เธอไม่โง่ กลับไปกินไส้กรอกที่มีเจ้าของแล้ว ให้มันเสียศักดิ์ศรีหรอก แม้จะกินไปแล้วครั้งหนึ่งก็เถอะ ก็ตอนนั้นเธอยังไม่รู้นี่

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

หย่าปุ๊บ แต่งงานใหม่ปั๊บ

Crimson Syntax
5.0

ทุกคนต่างรู้ดีว่าเจียงว่านหนิงรักเย่เชินมานานหลายปี เธอที่มักจะว่านอนสอนง่ายและน่ารักเสมอ ได้สักลายเพื่อเขาและยอมทนอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น เมื่อเธอถูกทุกคนใส่ร้ายจนโดนตำหนิ เขากลับนิ่งเฉยและยังถึงขั้นให้เธอคุกเข่าให้แฟนเก่าของเขาอีกด้วย เธอที่รู้สึกอับอาย ในที่สุดก็หมดหวัง หลังจากยกเลิกการหมั้น เธอก็หันไปแต่งงานกับทายาทพันล้านทันที คืนนั้นเอง ใบทะเบียนสมรสของทั้งคู่ก็กลายเป็นข่าวฮิตบนโลกออนไลน์ เย่เชินที่เคยคิดว่าตัวเองเก่งกาจที่สุดก็เริ่มวิตกและพูดออกมาด้วยความโกรธว่า "อย่าเพ้อฝันไปเลย นายคิดว่าเธอรักนายจริงๆ งั้นเหรอ เธอแค่ต้องการใช้พลังอำนาจของตระกูลฟู่เพื่อแก้แค้นฉันเท่านั้นเอง" ฟู่จิงเซินจูบหญิงสาวในอ้อมกอดและตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า "แล้วจะเป็นไรไปล่ะ ก็พอดีว่าฉันมีทั้งเงินและอำนาจนี่"

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

มาชาวีร์
5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

สะใภ้นอกทำเนียบ + ตอนพิเศษ

สะใภ้นอกทำเนียบ + ตอนพิเศษ

pimchan publication
4.9

เพียงข้ามคืนที่หล่อนต้องสูญเสียพรหมจรรย์เพราะเขาเดินเข้าผิดห้อง จากนั้นแล้วชีวิตหล่อนกับเขาก็ผูกพันกันยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง _________________________________________________________ “ไม่มีใครทำให้ผมกังวลที่สุดเท่าไอ้พีท สายตาที่คุณมองมันวันนั้น แล้วการที่มันโทรหาคุณค่ำๆ มืดๆ มันทำให้ผม...” เฟื่องฟ้าไม่อยากฟังคำตัดพ้อที่เด่นชัดทั้งปากทั้งตานั่นอีก เขายังพูดไม่ทันจบเพราะหล่อนขยับเข้าหาและกดริมฝีปากไว้กับปากของเขา... “ถ้าคุณจะให้ความมั่นใจผม คุณก็ไม่ควรหยุดแค่จูบ การปิดปากผมไห้หยุดพูดไม่ได้ทำให้ผมหายกังวลใจหรอกนะ” “ฉันทำอะไรมากกว่านี้ไม่เป็น คุณก็รู้ นี่ครั้งแรก ฉันจะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน” “ผมจะสอนเอง ผมอยากให้ผมเป็นผู้รับ ผมจะได้รู้ว่าผมไม่ได้ต้องการอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าผมทำ มันจะทำให้ผมรู้สึกว่าผมฝืนใจคุณ คุณไม่รู้หรือไงว่าเรื่องนี้มันกระทบจิตใจผมแค่ไหน” “แต่...” “ผมเสียขวัญมากเลยนะ คุณจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หรือไง” หล่อนชักเริ่มจะไม่คิดว่าเขากำลังกังวลใจเรื่องหล่อนกับหมอพีท แต่กำลังเจ้าเล่ห์ให้หล่อนทำอะไรที่หล่อนทำไม่เป็นแถมน่าอายสุดๆ อีกด้วย... อยากปฏิเสธแต่แล้วทำไมเขาต้องทำหน้าจริงจังปนเศร้าแบบนั้นด้วย... เฟื่องฟ้ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความรู้สึกซ่านซ่าแปลกๆ กับบางสิ่งที่ดุนดันหน้าท้อง คล้ายมันสั่นระริกเพียงแค่คิดถึงหล่อนก็แก้มแดงเห่อ... “ฉันต้องทำอะไรบ้าง” เสียงพูดและคำถามที่ไม่อยากจะเชื่อว่านั่นคือเสียงหล่อน อาชว์ดูเหมือนอารมณ์ดีขึ้นหากแต่ไม่ยอมยิ้ม เขาตอบหล่อนด้วยสีหน้าจริงจัง “เริ่มจากถอดเสื้อก่อนเป็นไง...” ครางอิดออดนิดเดียวหล่อนก็ยอมทำตามที่เขาบอก มือสั่นเทานิดๆ เมื่อแกะกระดุมเสื้อนอนปาจามาของเขาออกและแก้มเห่อร้อนยามเมื่อแหวกสาบเสื้อออก “ผมหมายถึงถอดเสื้อคุณ” “เอ๊ะ” หญิงสาวทำท่าจะถลึงตาใส่เขา แต่เขาก็ทำหน้านิ่งๆ แล้วก็ต้องถอนหายใจ ไม่รู้ว่าโกรธจริงหรือโกรธเล่นกันแน่ เห็นเขานอนมองหน้าเหมือนรอว่าหล่อนจะทำอะไรหล่อนก็จำต้องถอดผ้าตัวเองมือไม้สั่นไปหมด แกะกระดุมไปพลางเอ็ดตัวเองไปว่าทำไมต้องยอมเขาขนาดนั้นทั้งที่ไม่จำเป็นเลย เพียงแค่เห็นว่าเขาโกรธและเต็มไปด้วยความกังวลใจหล่อนก็ต้องรีบทำให้เขาสบายใจ เขาสำคัญขนาดนั้นกับหล่อนมากหรือไงกัน ถามไปก็ได้คำตอบอยู่ตรงหน้า... เสื้อนอนหล่อนถูกถอดออกด้วยฝีมือตัวเองเพียงเพราะไม่อยากเห็นเขามึนตึงใส่

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
รักไม่ได้ถ้าไม่ร้ายแบบนี้
1

บทที่ 1 เด็กไซด์ไลน์

23/11/2023

2

บทที่ 2 ผูกปิ่นโต

23/11/2023

3

บทที่ 3 ค่าตัว

23/11/2023

4

บทที่ 4 ไว้ดูต่างหน้า

23/11/2023

5

บทที่ 5 ปิ๊งไหน

23/11/2023

6

บทที่ 6 ตามฝัน

23/11/2023

7

บทที่ 7 สารภาพ

23/11/2023

8

บทที่ 8 หลักฐานมัดตัว

23/11/2023

9

บทที่ 9 เผชิญโลกกว้าง

23/11/2023

10

บทที่ 10 เสียดาย

23/11/2023

11

บทที่ 11 ไร้วาสนา

23/11/2023

12

บทที่ 12 มันดีกว่าที่คิด

23/11/2023

13

บทที่ 13 เมาปิ๊ง

23/11/2023

14

บทที่ 14 ผู้ชายในคืนนั้น

23/11/2023

15

บทที่ 15 อุบัติเหตุทางเพศสัมพันธ์

23/11/2023

16

บทที่ 16 เสนอตัว

23/11/2023

17

บทที่ 17 งานดีจริง ๆ

23/11/2023

18

บทที่ 18 จะอาบให้เหรอคะ

23/11/2023

19

บทที่ 19 ช่างเร่าร้อน

23/11/2023

20

บทที่ 20 ระหว่างเรามันคืออะไร

23/11/2023

21

บทที่ 21 ของขวัญ

23/11/2023

22

บทที่ 22 แมงหวี่แมงวัน

23/11/2023

23

บทที่ 23 หักคะแนน

23/11/2023

24

บทที่ 24 แค่เพื่อนครับพี่

23/11/2023

25

บทที่ 25 ทดลองใช้

23/11/2023

26

บทที่ 26 ใช้แล้วใช้อีก

23/11/2023

27

บทที่ 27 ความหวานที่ค้างคา

23/11/2023

28

บทที่ 28 ว่าที่น้องเขย

23/11/2023

29

บทที่ 29 ตั้งรับไม่ทัน

23/11/2023

30

บทที่ 30 ไวมากพ่อ

23/11/2023

31

บทที่ 31 ลองอีกสักครั้ง

23/11/2023

32

บทที่ 32 ไว้หน้ายายบ้าง

23/11/2023

33

บทที่ 33 ว่าที่คู่หมั้น

23/11/2023

34

บทที่ 34 ว่าที่ภรรยา

23/11/2023

35

บทที่ 35 สิบคะแนนเต็ม

23/11/2023

36

บทที่ 36 ฤกษ์สะดวก

23/11/2023

37

บทที่ 37 มันจะได้ไม่อับชื้น

23/11/2023

38

บทที่ 38 หลานเขยที่ดี

23/11/2023

39

บทที่ 39 ผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ

23/11/2023

40

บทที่ 40 ลูกจ๋า ปะป๋ารออยู่

23/11/2023