โปรย : จู่ ๆ คู่หมั้นที่ทอดทิ้งไปนานถึงสี่ปี กล้าดีกลับมาสู่ขอ หึ! คนสติดีที่ไหนจะไปแต่งด้วย หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร เธอก็จะไม่แต่งกับเขาเป็นอันขาด ****** “พี่ไม่ดีตรงไหนคะ” “เมต้องตอบด้วยเหรอคะ ไว้พี่ภีมตอบคำถามตัวเองได้เมื่อไหร่ แสดงว่าคงเป็นคนดีขึ้นมากโขเมื่อนั้น” “ก็ได้ค่ะ ก็ได้” ร่างสูงเปลือยเปล่ายกมือขึ้นสองข้าง แสดงอาการยอมแพ้ เมลดาเบือนหน้าหนีภาพตรงหน้า คนหน้าไม่อาย ‘รู้ว่าใหญ่ แต่ไม่เห็นต้องยืนอวดขนาดนั้น’ เธอไม่โง่ กลับไปกินไส้กรอกที่มีเจ้าของแล้ว ให้มันเสียศักดิ์ศรีหรอก แม้จะกินไปแล้วครั้งหนึ่งก็เถอะ ก็ตอนนั้นเธอยังไม่รู้นี่
ท่ามกลางความมืด ดวงตาสีสนิมเบิกโพลง นัยน์แววตาไหวระริก มันแฝงไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด หัวใจแกร่งกำลังสั่นไหว เพราะภาพฝันซ้ำ ๆ ที่เขาไม่อาจลบเลือนไปจากใจ เม็ดเหงื่อซึมออกมาทั่วกรอบหน้าอันหล่อเหลา เขาหลับตาลงอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติดังเดิม ปากหยักเอ่ยเสียงแผ่วเบาแหบพร่า ‘มันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีก พี่สัญญา’
สี่ปีที่แล้ว
รถสปอร์ตคันหรูจอดลงตรงหน้าคอนโดใจกลางเมือง ดวงตาสีสนิมมองไปยังประตูทางออกของโถงคอนโดไม่วางตา เขากำลังรอใครบางคน เพียงไม่นานร่างระหงของหญิงสาวซึ่งเป็นคู่หมั้นก็ค่อย ๆ เยื้องย่างออกมา พาให้ริมฝีปากหยักยกยิ้มเต็มใบหน้า
คู่หมั้นของเขาเพิ่งเรียนจบ เมลดา และเพื่อน ๆ ของเธอนัดประชุมกับผู้ออกแบบที่จะมาช่วยออกแบบห้องเสื้อที่พวกเธอกำลังก่อตั้งขึ้นในเร็ววันนี้ และกำลังจะก้าวสู่เส้นทางสายอาชีพที่เธอใฝ่ฝัน และเขาก็รู้สึกภูมิใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก
ภีมออกไปทำงานแล้ว แต่เขากลับเข้ามายังคอนโดอีกครั้ง เพียงเพราะเขาอยากจะไปส่งคู่หมั้นสาวด้วยตัวเอง แม้เธอจะปฏิเสธ อีกทั้งยังยืนกรานว่าสามารถเดินทางไปเองได้ แต่เขากลับไม่ยอม เพียงเพราะเขาอยากดูแลเธอ
ภีมก้าวขาลงจากรถ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเมลดา มือแกร่งเอื้อมไปจับมือบาง แล้วจูงมือเธอไปยังรถที่จอดติดเครื่องรออยู่
“พี่ภีมไม่เห็นต้องไปส่งเมเลย เมบอกแล้วว่าไปเองได้”
เมลดาบ่นอุบ เพราะเธอเกรงใจเขา ตอนนี้ภีมมีงานค่อนข้างเยอะ เธอไม่อยากรบกวนเขาเลยจริง ๆ
“ไม่เป็นไรค่ะพี่อยากไปส่ง”
“อุ๊ย” หญิงสาวอุทานเบา ๆ เมื่อทำแว่นกันแดดตกลงยังพื้น
ภีมส่ายหน้าแล้วยิ้ม คนสวยมักซุ่มซ่ามเขาเข้าใจ ร่างสูงค่อย ๆ ก้มลงไปหยิบแว่นอันนั้นขึ้นมาให้เธอ
ปัง! เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด เสียงผู้คนบริเวณนั้นกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ ต่างวิ่งหลบหนีกันจ้าละหวั่น ในขณะที่ร่างบอบบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาค่อย ๆ ทรุดตัวลงมาอย่างช้า ๆ สองแขนแกร่งรับร่างไร้สติไว้ในอ้อมแขน เลือดสีแดงฉานค่อย ๆ ไหลออกมาจากร่างระหง หัวใจชายหนุ่มกระตุกวูบ และบีบรัดตัวอย่างรุนแรง เขาแทบลืมหายใจ ภีมขบกรามแน่น แม้ไม่เห็นที่มาของกระสุน แต่เขารู้ดีว่าเป็นฝีมือใคร สาบานว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่พวกมันจะทำอะไรได้ตามอำเภอใจแบบนี้…
ณ โรงพยาบาล
สายตาคมกริบจ้องมองไปยังร่างบางที่เพิ่งจะออกจากห้องผ่าตัด ภีมขบกำหมัดแน่น จนเห็นข้อนิ้วเป็นสีขาว
“น้องปลอดภัยแล้วครับ กระสุนแค่เฉี่ยวที่ต้นขา ไม่ได้โดนอวัยวะสำคัญ พี่ภีมไม่ต้องกังวลนะครับ” ภูบดีบอกพร้อมตบไหล่พี่ชายเบา ๆ
“ไม่กังวลได้เหรอวะ แค่เฉี่ยวก็ไม่ได้แล้วไหม?” ภีมมองภาพเมลดาที่ยังนอนหลับใหลด้วยดวงตาแดงก่ำ เขาขบกรามแน่นจนขึ้นสันนูน ก่อนจะเอ่ยบอกน้องชาย “ภู พี่ฝากน้องสักครู่ เดี๋ยวพี่มา”
“พี่จะไปไหน ถ้าน้องฟื้นขึ้นมาน้องคงอยากเจอพี่เป็นคนแรก” คนเป็นน้องเอ่ยถาม
“พี่จะไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย สัญญาว่าไปไม่นาน” ภีมบอกแล้วเดินจากไป
ภูบดีได้แต่มองตามหลังพี่ชายไปจนลับตา ก่อนจะหันไปมองน้องสาวต่างสายเลือดที่ยังนอนสลบไสลไม่ได้สติ
สามชั่วโมงต่อมา เมลดาถูกย้ายมายังห้องพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว พลอยชมพู แทนไท และปารดาเดินทางมาเยี่ยมทันทีที่ทราบข่าว เพื่อน ๆ ทุกคนต่างตกใจ และเป็นห่วงเมลดามาก จู่ ๆ เมลดาก็ไม่มาตามนัด แถมยังติดต่อไม่ได้ พอทราบข่าวอีกที เมลดาก็ได้รับบาดเจ็บอย่างที่เห็น ทั้งสามอยู่เป็นเพื่อนเฝ้าเมลดากระทั่งนภา และปีเตอร์เดินทางมาถึง บรรดาเพื่อน ๆ จึงหลบไปนั่งอยู่ห่าง ๆ เพราะอยากให้ครอบครัวได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัว
“ภูน้องเป็นยังไงบ้าง” นภาเอ่ยถามอาการของคนเจ็บทันทีที่เห็นหน้าลูกชายซึ่งเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้
“น้องปลอดภัยแล้วครับแม่ ฟื้นขึ้นมาแล้วรอบหนึ่งแต่ก็หลับต่อเพราะฤทธิ์ยา แม่อย่าร้องไห้เลยนะครับ” คุณหมอหนุ่มเอ่ยปลอบมารดา
“มันเกิดขึ้นได้ยังไงอ่ะภู รู้ไหมใครเป็นคนทำน้อง” คนเป็นแม่เอ่ยถามทั้งน้ำตา เพราะรู้สึกสงสารเมลดาจับใจ นางไม่อยากจะเชื่อว่าเมลดาจะถูกยิง เมลดาไม่ได้มีศัตรูที่ไหน ตอนนี้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร คงต้องรอทางตำรวจสืบหาคนร้ายให้ได้
“พี่พีท พี่พีทต้องช่วยติดตามเรื่องนี้นะคะ การที่เมเปิ้ลโดนยิงมันต้องไม่ใช่เรื่องปกติ บางครั้งอาจจะเกิดจากการยิงผิดตัวก็ได้นะคะ คอยดูเถอะนภาจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” นภาเอ่ยบอกปีเตอร์ผู้เป็นสามี
“นภาไม่ต้องกังวลนะครับ พี่จะช่วยให้ถึงที่สุด พี่สัญญา” เพียงแค่สามีรับปาก นภาก็รู้สึกดีขึ้นมาก
“ภู แล้วภีมล่ะ ภีมไปไหน” นภาเริ่มสงสัย เพราะตั้งแต่นางเข้ามายังไม่เห็นลูกชายคนโตแม้แต่เงา
“พี่ภีมกำลังไปติดตามเรื่องนี้อยู่ครับแม่” ภูบดีเอ่ยตอบ ก่อนจะหันไปสบตากับผู้เป็นพ่อ
รุ่งเช้าของอีกวัน
เมลดารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเต็มตา เธอรู้สึกเจ็บและตึงที่ต้นขาเป็นอย่างมาก ใบหน้าจิ้มลิ้มที่เคยสดใส กลับซีดเซียวไร้สีเลือด เธอรู้สึกคอแห้งผาก เพียงขยับตัวก็รู้สึกเจ็บแปลบบริเวณต้นขาจนต้องร้องออกมาเบา ๆ
“โอ๊ย”
เสียงร้องของคนเจ็บ ทำให้เพื่อนทั้งสามที่กำลังเฝ้าเธออยู่ตางกรูเข้าไปหาคนที่ยังนอนอยู่บนเตียง
“เม ตื่นแล้วเหรอ” ทั้งสามเอ่ยถามออกมาเป็นเสียงเดียว
“พลอย ปิ๊ง แทน นี่อยู่ด้วยกันหมดเลยเหรอ”
“อือ เป็นห่วงแทบแย่” เพื่อนทั้งสามเข้ามาสวมกอด พร้อมลูบเนื้อลูบตัวด้วยความเป็นห่วง นั่นทำให้เมลดาถึงกับน้ำตารื้น
“ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง” เมลดารู้สึกซึ้งใจที่ยามนี้เพื่อนสนิทมาอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้า เธออยู่กับเพื่อน ๆ ไปพักใหญ่ แต่เธอก็ยังไม่เห็นหน้าคู่หมั้นของเธอสักที เมลดาจึงเอ่ยถาม
“ไม่เห็นพี่ภีมเลย ใครเห็นพี่ภีมบ้าง” สิ้นคำนั้น เพื่อน ๆ ต่างส่ายหน้า ตั้งแต่เมื่อวานทุกคนก็ไม่เห็นภีมเช่นกัน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาหายไปไหน ทุกคนต่างคิดว่าเขาน่าจะไปจัดการเรื่องคดีความให้เมลดา
“ไง ฟื้นแล้วเหรอ” เสียงเอ่ยทักทาย มาพร้อมภูบดีที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา ภูบดีซึ่งทำหน้าที่แพทย์ฝึกหัดอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้แวะมาเยี่ยมเมลดาแต่เช้า
“พี่ภู”
“เป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหม เจ็บแผลรึเปล่า” คุณหมอหนุ่มถามเป็นชุด
“เจ็บค่ะ ตึงแผลด้วย พี่ภูคะ พี่ภีมล่ะ เมยังไม่เห็นหน้าพี่ภีมเลย”
สิ้นคำนั้นภูบดีได้แต่ยิ้มเจื่อน เขาลูบศีรษะเมลดาเบา ๆ เวลานี้ในใจของเขาเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง แต่เขายังฝืนยิ้ม ก่อนจะเอ่ยบอก “พี่ภีมมีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศด่วนน่ะ”
“คะ?” เมลดารู้สึกงงงัน เธอเงียบไป มองสบตาพี่ชายนิ่งเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าภีมมีธุระด่วนต้องเดินทาง แต่เขาต้องเดินทางในเวลาที่เธอบาดเจ็บขนาดนี้ด้วยเหรอ ในใจเธอเต็มไปด้วยคำถาม
“เมพักผ่อนเยอะ ๆ นะ จะได้หายไว ๆ”
“ค่ะ แล้วพี่ภูทราบไหมคะว่าพี่ภีมจะกลับมาเมื่อไร?”
“พี่ยังไม่ทราบเลย”
“หมายความว่าไงคะ พี่ภีมไม่ได้บอกไว้เหรอคะ?” คนเจ็บเอ่ยถาม ในขณะที่น้ำตากำลังเอ่อคลอเบ้าตา
“มันเป็นความจำเป็นจริง ๆ พี่ภีมฝากขอโทษเมด้วย ที่อยู่ดูแลไม่ได้ แต่เมไม่ต้องเสียใจนะ พี่และทุกคนอยู่กับเมตรงนี้แล้ว พี่สัญญาว่าจะดูแลเมอย่างดี”
เมื่อภูบดีพูดจบ เมลดาก็น้ำตาร่วงเผาะ ในช่วงเวลาแบบนี้ทำไมภีมถึงทิ้งเธอได้ลงคอ ภูบดีเฝ้าเช็ดน้ำตาให้คนเจ็บ กระทั่งถึงเวลาที่เขาต้องออกตรวจ เขาฝากเพื่อน ๆ ทั้งสามให้ดูแลเมลดา ก่อนจะออกไปทำหน้าที่ของตน
เมลดาร้องไห้อยู่นาน ความรู้สึกมันบอกเธอว่าการจากไปของภีมในครั้งนี้ มันไม่ควรเกิดขึ้น มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ ๆ แล้วมีเหตุผลอะไรเขาถึงจากไปโดยไม่ลากันสักคำ
เมลดาเฝ้ารอการติดต่อจากคู่หมั้นมาหลายวัน แต่ก็ไม่เป็นผลเขาไม่ติดต่อกลับมาสักครั้ง เธอไม่กล้าบอกคุณยายนิ่มด้วยซ้ำว่าเธอถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แถมยังกำชับครอบครัวโดเรนสันทุกคนให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย เพราะไม่อยากให้คุณยายนิ่มเป็นห่วง แม้แต่พริษาพี่สาวคนสนิทที่อยู่เมืองนอก ก็ยังไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ
ผ่านไปเกือบสัปดาห์ กระทั่งเมลดาได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล ภีมก็ยังไม่ติดต่อกลับมา เธอพยายามติดต่อหาเขาเกือบทุกวันแต่ก็ยังติดต่อไม่ได้เหมือนเดิม ถามครอบครัวโดเรนสันก็ได้คำตอบเดียวกันคือเขาน่าจะยุ่งกับการช่วยงานปู่ นภาเองก็ทำหน้าเศร้าสร้อย คงติดต่อลูกชายไม่ได้เหมือนกัน นั่นทำให้เมลดาไม่กล้าเอ่ยปากถามผู้เป็นป้า
คนเจ็บได้แต่เก็บทุกอย่างไว้ในใจ ทั้ง ๆ ที่เธอบาดเจ็บขนาดนี้ เธอไม่เข้าใจว่าเขายุ่งขนาดไหนถึงติดต่อไม่ได้ แถมเขายังไม่ติดต่อมากลับมาสักครั้ง เขาทำราวกับเธอไม่ใช่คู่หมั้นของเขา หรือที่ผ่านมาเขาแค่นึกสนุก หลอกฟันเธอเล่น ๆ จริง ๆ แล้วเขายังฝันจะไปใช้ชีวิตกับใครสักคนที่เขารักที่เมืองนอก แล้วจะไม่กลับมาอีกอย่างที่เขาเคยบอก แค่คิดเมลดาก็รู้สึกปวดหนึบในหัวใจ ร่างบางค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้บนที่นอน มือบางที่กำลังจับโทรศัพท์มือถืออยู่ค่อย ๆ ปล่อยมันลงไปอย่างหมดเรี่ยวแรง สองมือกอดเข่าทั้งสองข้างไว้ น้ำตายังไหลอาบสองแก้ม เสียงสะอึกสะอื้นเริ่มดังขึ้น หากใครได้ยินคงคิดว่าใครทำอะไรให้เธอเสียใจนักหนา เวลานี้เธอรู้สึกเสียใจเป็นที่สุด ภีมช่างใจดำกับเธอเหลือเกิน เธอเจ็บขนาดนี้ ทิ้งไปได้ยังไง ในเมื่อเขาใจดำกับเธอนัก เธอก็ไม่ควรจะสนใจไยดีเขาเช่นกัน นับจากวันนี้เป็นต้นไป เธอจะไม่ติดต่อหาเขา และจะไม่ถามถึงเขากับสมาชิกในครอบครัวโดเรนสันอีกแล้ว
จากวันนั้นล่วงเลยมาถึงวันนี้ก็เป็นเวลาสี่ปีเต็มแล้ว ที่เมลดาไม่ถามถึงภีมกับใครอีก แม้เธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทิ้งเธอไปได้ลงคอในสภาพแบบนั้น แต่ในเมื่อคำถามมันไร้คำตอบ เธอจึงไม่อยากถามอีก ชีวิตเธอยังต้องดำเนินต่อไป และเธอหวังว่าเธอจะได้รับคำตอบเมื่อเขาพร้อมจะกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง
บทที่ 1 ทิ้ง
24/11/2023
บทที่ 2 เหงา
24/11/2023
บทที่ 3 คนสารเลว
24/11/2023
บทที่ 4 คลื่นที่ซัดสาด
24/11/2023
บทที่ 5 น้ำผึ้งอาบยาพิษ
24/11/2023
บทที่ 6 คนเจ้าเนื้อ
24/11/2023
บทที่ 7 ครอบครัวโดเรนสัน
24/11/2023
บทที่ 8 เมียน้อย
24/11/2023
บทที่ 9 ยางหวาย
24/11/2023
บทที่ 10 หม่ามี๊
24/11/2023
บทที่ 11 ไม่อยากจะเชื่อ
24/11/2023
บทที่ 12 ฝากเลี้ยง
24/11/2023
บทที่ 13 คนเจ้าชู้
24/11/2023
บทที่ 14 ยิงปืนนัดเดียวได้นกกี่ตัว
24/11/2023
บทที่ 15 ของถูกใจ
24/11/2023
บทที่ 16 จูบแรกของเมเปิ้ล
24/11/2023
บทที่ 17 ของขาด
24/11/2023
บทที่ 18 ถอนหมั้น
24/11/2023
บทที่ 19 คัพซีเป็นเหตุ
24/11/2023
บทที่ 20 จูบสั่งลา
24/11/2023
บทที่ 21 ํYou're mine.
24/11/2023
บทที่ 22 ตีตราจอง
24/11/2023
บทที่ 23 เก็บดอกบัว
24/11/2023
บทที่ 24 อย่าเกร็งนะคะ
24/11/2023
บทที่ 25 บันทึกของพ่อ
24/11/2023
บทที่ 26 กินซ้ำ ๆ
24/11/2023
บทที่ 27 หวง
24/11/2023
บทที่ 28 คนในอ้อมกอด
24/11/2023
บทที่ 29 สามคนผัวเมีย
24/11/2023
บทที่ 30 เพราะรัก
24/11/2023
บทที่ 31 เคลียร์ใจ
24/11/2023
บทที่ 32 อดอยากปากแห้ง
24/11/2023
บทที่ 33 ชดเชย
24/11/2023
บทที่ 34 มันใช่เหรอ
24/11/2023
บทที่ 35 รอให้โตก่อน
24/11/2023
บทที่ 36 งอนย้อนหลัง
24/11/2023
บทที่ 37 พูดดีไหม
24/11/2023
บทที่ 38 จูบแรกของภีม
24/11/2023
บทที่ 39 ตามคำขอ
24/11/2023
บทที่ 40 ตอนพิเศษ 1 คัพซีนี้พี่หวง
24/11/2023
หนังสืออื่นๆ ของ แหวนก้อย
ข้อมูลเพิ่มเติม