รักไม่ได้ร้าย

รักไม่ได้ร้าย

แหวนก้อย

5.0
ความคิดเห็น
66.5K
ชม
43
บท

โปรย : จู่ ๆ คู่หมั้นที่ทอดทิ้งไปนานถึงสี่ปี กล้าดีกลับมาสู่ขอ หึ! คนสติดีที่ไหนจะไปแต่งด้วย หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร เธอก็จะไม่แต่งกับเขาเป็นอันขาด ****** “พี่ไม่ดีตรงไหนคะ” “เมต้องตอบด้วยเหรอคะ ไว้พี่ภีมตอบคำถามตัวเองได้เมื่อไหร่ แสดงว่าคงเป็นคนดีขึ้นมากโขเมื่อนั้น” “ก็ได้ค่ะ ก็ได้” ร่างสูงเปลือยเปล่ายกมือขึ้นสองข้าง แสดงอาการยอมแพ้ เมลดาเบือนหน้าหนีภาพตรงหน้า คนหน้าไม่อาย ‘รู้ว่าใหญ่ แต่ไม่เห็นต้องยืนอวดขนาดนั้น’ เธอไม่โง่ กลับไปกินไส้กรอกที่มีเจ้าของแล้ว ให้มันเสียศักดิ์ศรีหรอก แม้จะกินไปแล้วครั้งหนึ่งก็เถอะ ก็ตอนนั้นเธอยังไม่รู้นี่

บทที่ 1 ทิ้ง

ท่ามกลางความมืด ดวงตาสีสนิมเบิกโพลง นัยน์แววตาไหวระริก มันแฝงไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวด หัวใจแกร่งกำลังสั่นไหว เพราะภาพฝันซ้ำ ๆ ที่เขาไม่อาจลบเลือนไปจากใจ เม็ดเหงื่อซึมออกมาทั่วกรอบหน้าอันหล่อเหลา เขาหลับตาลงอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติดังเดิม ปากหยักเอ่ยเสียงแผ่วเบาแหบพร่า ‘มันจะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีก พี่สัญญา’

สี่ปีที่แล้ว

รถสปอร์ตคันหรูจอดลงตรงหน้าคอนโดใจกลางเมือง ดวงตาสีสนิมมองไปยังประตูทางออกของโถงคอนโดไม่วางตา เขากำลังรอใครบางคน เพียงไม่นานร่างระหงของหญิงสาวซึ่งเป็นคู่หมั้นก็ค่อย ๆ เยื้องย่างออกมา พาให้ริมฝีปากหยักยกยิ้มเต็มใบหน้า

คู่หมั้นของเขาเพิ่งเรียนจบ เมลดา และเพื่อน ๆ ของเธอนัดประชุมกับผู้ออกแบบที่จะมาช่วยออกแบบห้องเสื้อที่พวกเธอกำลังก่อตั้งขึ้นในเร็ววันนี้ และกำลังจะก้าวสู่เส้นทางสายอาชีพที่เธอใฝ่ฝัน และเขาก็รู้สึกภูมิใจในตัวเธอเป็นอย่างมาก

ภีมออกไปทำงานแล้ว แต่เขากลับเข้ามายังคอนโดอีกครั้ง เพียงเพราะเขาอยากจะไปส่งคู่หมั้นสาวด้วยตัวเอง แม้เธอจะปฏิเสธ อีกทั้งยังยืนกรานว่าสามารถเดินทางไปเองได้ แต่เขากลับไม่ยอม เพียงเพราะเขาอยากดูแลเธอ

ภีมก้าวขาลงจากรถ ก่อนจะเดินเข้าไปหาเมลดา มือแกร่งเอื้อมไปจับมือบาง แล้วจูงมือเธอไปยังรถที่จอดติดเครื่องรออยู่

“พี่ภีมไม่เห็นต้องไปส่งเมเลย เมบอกแล้วว่าไปเองได้”

เมลดาบ่นอุบ เพราะเธอเกรงใจเขา ตอนนี้ภีมมีงานค่อนข้างเยอะ เธอไม่อยากรบกวนเขาเลยจริง ๆ

“ไม่เป็นไรค่ะพี่อยากไปส่ง”

“อุ๊ย” หญิงสาวอุทานเบา ๆ เมื่อทำแว่นกันแดดตกลงยังพื้น

ภีมส่ายหน้าแล้วยิ้ม คนสวยมักซุ่มซ่ามเขาเข้าใจ ร่างสูงค่อย ๆ ก้มลงไปหยิบแว่นอันนั้นขึ้นมาให้เธอ

ปัง! เสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด เสียงผู้คนบริเวณนั้นกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ ต่างวิ่งหลบหนีกันจ้าละหวั่น ในขณะที่ร่างบอบบางที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาค่อย ๆ ทรุดตัวลงมาอย่างช้า ๆ สองแขนแกร่งรับร่างไร้สติไว้ในอ้อมแขน เลือดสีแดงฉานค่อย ๆ ไหลออกมาจากร่างระหง หัวใจชายหนุ่มกระตุกวูบ และบีบรัดตัวอย่างรุนแรง เขาแทบลืมหายใจ ภีมขบกรามแน่น แม้ไม่เห็นที่มาของกระสุน แต่เขารู้ดีว่าเป็นฝีมือใคร สาบานว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่พวกมันจะทำอะไรได้ตามอำเภอใจแบบนี้…

ณ โรงพยาบาล

สายตาคมกริบจ้องมองไปยังร่างบางที่เพิ่งจะออกจากห้องผ่าตัด ภีมขบกำหมัดแน่น จนเห็นข้อนิ้วเป็นสีขาว

“น้องปลอดภัยแล้วครับ กระสุนแค่เฉี่ยวที่ต้นขา ไม่ได้โดนอวัยวะสำคัญ พี่ภีมไม่ต้องกังวลนะครับ” ภูบดีบอกพร้อมตบไหล่พี่ชายเบา ๆ

“ไม่กังวลได้เหรอวะ แค่เฉี่ยวก็ไม่ได้แล้วไหม?” ภีมมองภาพเมลดาที่ยังนอนหลับใหลด้วยดวงตาแดงก่ำ เขาขบกรามแน่นจนขึ้นสันนูน ก่อนจะเอ่ยบอกน้องชาย “ภู พี่ฝากน้องสักครู่ เดี๋ยวพี่มา”

“พี่จะไปไหน ถ้าน้องฟื้นขึ้นมาน้องคงอยากเจอพี่เป็นคนแรก” คนเป็นน้องเอ่ยถาม

“พี่จะไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย สัญญาว่าไปไม่นาน” ภีมบอกแล้วเดินจากไป

ภูบดีได้แต่มองตามหลังพี่ชายไปจนลับตา ก่อนจะหันไปมองน้องสาวต่างสายเลือดที่ยังนอนสลบไสลไม่ได้สติ

สามชั่วโมงต่อมา เมลดาถูกย้ายมายังห้องพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว พลอยชมพู แทนไท และปารดาเดินทางมาเยี่ยมทันทีที่ทราบข่าว เพื่อน ๆ ทุกคนต่างตกใจ และเป็นห่วงเมลดามาก จู่ ๆ เมลดาก็ไม่มาตามนัด แถมยังติดต่อไม่ได้ พอทราบข่าวอีกที เมลดาก็ได้รับบาดเจ็บอย่างที่เห็น ทั้งสามอยู่เป็นเพื่อนเฝ้าเมลดากระทั่งนภา และปีเตอร์เดินทางมาถึง บรรดาเพื่อน ๆ จึงหลบไปนั่งอยู่ห่าง ๆ เพราะอยากให้ครอบครัวได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัว

“ภูน้องเป็นยังไงบ้าง” นภาเอ่ยถามอาการของคนเจ็บทันทีที่เห็นหน้าลูกชายซึ่งเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้

“น้องปลอดภัยแล้วครับแม่ ฟื้นขึ้นมาแล้วรอบหนึ่งแต่ก็หลับต่อเพราะฤทธิ์ยา แม่อย่าร้องไห้เลยนะครับ” คุณหมอหนุ่มเอ่ยปลอบมารดา

“มันเกิดขึ้นได้ยังไงอ่ะภู รู้ไหมใครเป็นคนทำน้อง” คนเป็นแม่เอ่ยถามทั้งน้ำตา เพราะรู้สึกสงสารเมลดาจับใจ นางไม่อยากจะเชื่อว่าเมลดาจะถูกยิง เมลดาไม่ได้มีศัตรูที่ไหน ตอนนี้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร คงต้องรอทางตำรวจสืบหาคนร้ายให้ได้

“พี่พีท พี่พีทต้องช่วยติดตามเรื่องนี้นะคะ การที่เมเปิ้ลโดนยิงมันต้องไม่ใช่เรื่องปกติ บางครั้งอาจจะเกิดจากการยิงผิดตัวก็ได้นะคะ คอยดูเถอะนภาจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” นภาเอ่ยบอกปีเตอร์ผู้เป็นสามี

“นภาไม่ต้องกังวลนะครับ พี่จะช่วยให้ถึงที่สุด พี่สัญญา” เพียงแค่สามีรับปาก นภาก็รู้สึกดีขึ้นมาก

“ภู แล้วภีมล่ะ ภีมไปไหน” นภาเริ่มสงสัย เพราะตั้งแต่นางเข้ามายังไม่เห็นลูกชายคนโตแม้แต่เงา

“พี่ภีมกำลังไปติดตามเรื่องนี้อยู่ครับแม่” ภูบดีเอ่ยตอบ ก่อนจะหันไปสบตากับผู้เป็นพ่อ

รุ่งเช้าของอีกวัน

เมลดารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเต็มตา เธอรู้สึกเจ็บและตึงที่ต้นขาเป็นอย่างมาก ใบหน้าจิ้มลิ้มที่เคยสดใส กลับซีดเซียวไร้สีเลือด เธอรู้สึกคอแห้งผาก เพียงขยับตัวก็รู้สึกเจ็บแปลบบริเวณต้นขาจนต้องร้องออกมาเบา ๆ

“โอ๊ย”

เสียงร้องของคนเจ็บ ทำให้เพื่อนทั้งสามที่กำลังเฝ้าเธออยู่ตางกรูเข้าไปหาคนที่ยังนอนอยู่บนเตียง

“เม ตื่นแล้วเหรอ” ทั้งสามเอ่ยถามออกมาเป็นเสียงเดียว

“พลอย ปิ๊ง แทน นี่อยู่ด้วยกันหมดเลยเหรอ”

“อือ เป็นห่วงแทบแย่” เพื่อนทั้งสามเข้ามาสวมกอด พร้อมลูบเนื้อลูบตัวด้วยความเป็นห่วง นั่นทำให้เมลดาถึงกับน้ำตารื้น

“ขอโทษนะที่ทำให้เป็นห่วง” เมลดารู้สึกซึ้งใจที่ยามนี้เพื่อนสนิทมาอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้า เธออยู่กับเพื่อน ๆ ไปพักใหญ่ แต่เธอก็ยังไม่เห็นหน้าคู่หมั้นของเธอสักที เมลดาจึงเอ่ยถาม

“ไม่เห็นพี่ภีมเลย ใครเห็นพี่ภีมบ้าง” สิ้นคำนั้น เพื่อน ๆ ต่างส่ายหน้า ตั้งแต่เมื่อวานทุกคนก็ไม่เห็นภีมเช่นกัน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาหายไปไหน ทุกคนต่างคิดว่าเขาน่าจะไปจัดการเรื่องคดีความให้เมลดา

“ไง ฟื้นแล้วเหรอ” เสียงเอ่ยทักทาย มาพร้อมภูบดีที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามา ภูบดีซึ่งทำหน้าที่แพทย์ฝึกหัดอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้แวะมาเยี่ยมเมลดาแต่เช้า

“พี่ภู”

“เป็นไงบ้าง ดีขึ้นไหม เจ็บแผลรึเปล่า” คุณหมอหนุ่มถามเป็นชุด

“เจ็บค่ะ ตึงแผลด้วย พี่ภูคะ พี่ภีมล่ะ เมยังไม่เห็นหน้าพี่ภีมเลย”

สิ้นคำนั้นภูบดีได้แต่ยิ้มเจื่อน เขาลูบศีรษะเมลดาเบา ๆ เวลานี้ในใจของเขาเต็มไปด้วยความหนักอึ้ง แต่เขายังฝืนยิ้ม ก่อนจะเอ่ยบอก “พี่ภีมมีความจำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศด่วนน่ะ”

“คะ?” เมลดารู้สึกงงงัน เธอเงียบไป มองสบตาพี่ชายนิ่งเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าภีมมีธุระด่วนต้องเดินทาง แต่เขาต้องเดินทางในเวลาที่เธอบาดเจ็บขนาดนี้ด้วยเหรอ ในใจเธอเต็มไปด้วยคำถาม

“เมพักผ่อนเยอะ ๆ นะ จะได้หายไว ๆ”

“ค่ะ แล้วพี่ภูทราบไหมคะว่าพี่ภีมจะกลับมาเมื่อไร?”

“พี่ยังไม่ทราบเลย”

“หมายความว่าไงคะ พี่ภีมไม่ได้บอกไว้เหรอคะ?” คนเจ็บเอ่ยถาม ในขณะที่น้ำตากำลังเอ่อคลอเบ้าตา

“มันเป็นความจำเป็นจริง ๆ พี่ภีมฝากขอโทษเมด้วย ที่อยู่ดูแลไม่ได้ แต่เมไม่ต้องเสียใจนะ พี่และทุกคนอยู่กับเมตรงนี้แล้ว พี่สัญญาว่าจะดูแลเมอย่างดี”

เมื่อภูบดีพูดจบ เมลดาก็น้ำตาร่วงเผาะ ในช่วงเวลาแบบนี้ทำไมภีมถึงทิ้งเธอได้ลงคอ ภูบดีเฝ้าเช็ดน้ำตาให้คนเจ็บ กระทั่งถึงเวลาที่เขาต้องออกตรวจ เขาฝากเพื่อน ๆ ทั้งสามให้ดูแลเมลดา ก่อนจะออกไปทำหน้าที่ของตน

เมลดาร้องไห้อยู่นาน ความรู้สึกมันบอกเธอว่าการจากไปของภีมในครั้งนี้ มันไม่ควรเกิดขึ้น มันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ ๆ แล้วมีเหตุผลอะไรเขาถึงจากไปโดยไม่ลากันสักคำ

เมลดาเฝ้ารอการติดต่อจากคู่หมั้นมาหลายวัน แต่ก็ไม่เป็นผลเขาไม่ติดต่อกลับมาสักครั้ง เธอไม่กล้าบอกคุณยายนิ่มด้วยซ้ำว่าเธอถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แถมยังกำชับครอบครัวโดเรนสันทุกคนให้ปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย เพราะไม่อยากให้คุณยายนิ่มเป็นห่วง แม้แต่พริษาพี่สาวคนสนิทที่อยู่เมืองนอก ก็ยังไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ

ผ่านไปเกือบสัปดาห์ กระทั่งเมลดาได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล ภีมก็ยังไม่ติดต่อกลับมา เธอพยายามติดต่อหาเขาเกือบทุกวันแต่ก็ยังติดต่อไม่ได้เหมือนเดิม ถามครอบครัวโดเรนสันก็ได้คำตอบเดียวกันคือเขาน่าจะยุ่งกับการช่วยงานปู่ นภาเองก็ทำหน้าเศร้าสร้อย คงติดต่อลูกชายไม่ได้เหมือนกัน นั่นทำให้เมลดาไม่กล้าเอ่ยปากถามผู้เป็นป้า

คนเจ็บได้แต่เก็บทุกอย่างไว้ในใจ ทั้ง ๆ ที่เธอบาดเจ็บขนาดนี้ เธอไม่เข้าใจว่าเขายุ่งขนาดไหนถึงติดต่อไม่ได้ แถมเขายังไม่ติดต่อมากลับมาสักครั้ง เขาทำราวกับเธอไม่ใช่คู่หมั้นของเขา หรือที่ผ่านมาเขาแค่นึกสนุก หลอกฟันเธอเล่น ๆ จริง ๆ แล้วเขายังฝันจะไปใช้ชีวิตกับใครสักคนที่เขารักที่เมืองนอก แล้วจะไม่กลับมาอีกอย่างที่เขาเคยบอก แค่คิดเมลดาก็รู้สึกปวดหนึบในหัวใจ ร่างบางค่อย ๆ ทรุดตัวลงนั่งร้องไห้บนที่นอน มือบางที่กำลังจับโทรศัพท์มือถืออยู่ค่อย ๆ ปล่อยมันลงไปอย่างหมดเรี่ยวแรง สองมือกอดเข่าทั้งสองข้างไว้ น้ำตายังไหลอาบสองแก้ม เสียงสะอึกสะอื้นเริ่มดังขึ้น หากใครได้ยินคงคิดว่าใครทำอะไรให้เธอเสียใจนักหนา เวลานี้เธอรู้สึกเสียใจเป็นที่สุด ภีมช่างใจดำกับเธอเหลือเกิน เธอเจ็บขนาดนี้ ทิ้งไปได้ยังไง ในเมื่อเขาใจดำกับเธอนัก เธอก็ไม่ควรจะสนใจไยดีเขาเช่นกัน นับจากวันนี้เป็นต้นไป เธอจะไม่ติดต่อหาเขา และจะไม่ถามถึงเขากับสมาชิกในครอบครัวโดเรนสันอีกแล้ว

จากวันนั้นล่วงเลยมาถึงวันนี้ก็เป็นเวลาสี่ปีเต็มแล้ว ที่เมลดาไม่ถามถึงภีมกับใครอีก แม้เธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงทิ้งเธอไปได้ลงคอในสภาพแบบนั้น แต่ในเมื่อคำถามมันไร้คำตอบ เธอจึงไม่อยากถามอีก ชีวิตเธอยังต้องดำเนินต่อไป และเธอหวังว่าเธอจะได้รับคำตอบเมื่อเขาพร้อมจะกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ แหวนก้อย

ข้อมูลเพิ่มเติม
ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ

โรแมนติก

5.0

‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง

True Love รักแท้แค่เพียงเธอ

True Love รักแท้แค่เพียงเธอ

โรแมนติก

5.0

“นอนดูดาวด้วยกันนะครับ” แค่ได้ยินเท่านั้นสติของเธอก็แทบกระเจิง หัวใจของหญิงสาวก็เต้นเร่า ๆ คิดไปตามคำที่เขาเอ่ย หากคืนนี้เธอนอนดูดาวกับเขาแล้วมันจะเป็นเช่นไร เขาจะให้เธอดูดาวแบบไหน ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ หรือจะให้ดูดาวทั้งฟ้า แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน เธอสาบานว่าจะดู... +++++ วุ้นเส้น : สาวเนิร์ดร่างอวบประจำคณะสถาปัตย์ ผู้แอบรักหนุ่มหล่อเหลาดีกรีเดือนคณะมานานกว่าห้าปี เธอตั้้งใจจะแอบรักเขาไปเงียบ ๆ แต่ทว่าในคืนฉลองเรียนจบ กลับเกิดเหตุการแสนเร่าร้อนจนทำให้เธอได้มีโอกาสเปิดเผยความในใจที่มีต่อเขาอย่างใกล้ชิดชนิดเนื้อแนบเนื้อ และเมื่อการแอบรัก ไม่ใช่การแอบรักอีกต่อไป นั่นจึงเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นในการเรียนรู้เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ครั้งแรกของคนที่ไร้ประสบการณ์อย่างเธอ แน่นอนว่าเธอคาดหวังเสมอว่าจะได้เจอรักแท้เหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ มาร่วมลุ้นไปด้วยกันค่ะว่า คนที่เธอแอบรักจะใช่รักแท้ของเธอหรือไม่ แล้วถ้าหากไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใคร? ติดตามอ่านได้ใน "True love รักแท้แค่เพียงเธอ"

ล้านักข้าจักเลิกรักคุณพี่

ล้านักข้าจักเลิกรักคุณพี่

โรแมนติก

5.0

อุตส่าห์ได้ออกเรือนกับคุณพี่ที่รักมาตั้งแต่เด็กทั้งที แต่มิมีที่คุณพี่ผู้เป็นผัวจักนอนร่วมเบาะเฉกเช่นผัวเมียพึงกระทำ ดังนั้นเธอจะทำทุกวิถีทางให้เขาร่วมเบาะนอนกับเธอให้ได้ 'มารยาที่มีเมียคนนี้จักใช้กับคุณพี่เจ้าค่ะ' --- เมื่อเห็นแผงอกแกร่งของผัวชัด ๆ แม่หญิงก็ให้กลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ สิบคนว่าฤๅจักเท่าตาเห็น สิบตาเห็นฤๅจักเท่ามือคลำ แล้วสิบมือคลำฤๅจักเท่านอนคุย แค่คิดแก้มนวลก็แดงดั่งลูกตำลึงสุกแล้ว -------- ในหอนอน แม่หญิงชบานั่งรอคุณพี่ผู้เป็นผัวขึ้นมาจากท่าด้วยท่าทางกระสับกระส่าย ในกบาลน้อย ๆ เฝ้าแต่คิดถึงสิ่งที่แม่ผัวสั่งแม่ผัวสอน “ฟังแม่หนาแม่ชบาลูก การเป็นผัวเมียมิใช่แค่การนอนหลับจับมือกันเพียงเท่านั้น” “แล้วลูกต้องทำสิ่งใดอีกเล่าเจ้าคะคุณแม่” “ผัวเมียนอกจากมีใจผูกสมัครรักใครกันแล้วไซร้ กายนั้นก็ต้องแนบชิดสนิทเสน่หา” “แนบชิดสนิทเสน่หารึเจ้าคะ ต้องทำเช่นไรรึเจ้าคะคุณแม่ ชบามิเคยทำดอกเจ้าค่ะ” “ก็รู้ว่ามิเคย แม่ถึงได้นั่งพร่ำสอนอยู่นี่อย่างไรเล่า แนบชิดสนิทเสน่หาก็คือใกล้ชิดกัน ตัวต่อตัว เนื้อแนบเนื้อ ผ้าเสื้อมิได้มาเกี่ยวมาข้อง” สิ้นคำนั้นแม่หญิงก็ให้อ้าปากค้าง ตั้งแต่เล็กแต่น้อย นางสนใจแต่การเล่นซน เพิ่งจะมาสนใจงานบ้านงานเรือนก็เมื่อปีที่แล้วด้วยโดนผู้เป็นแม่เอ็ดแลจักโดนลงหวาย แต่วันนี้เมื่อได้มาออกเรือนกับคุณพี่อย่างมิทันได้ตั้งตัว เธอเพิ่งรู้ว่าอิสตรีที่ออกเรือนนั้น นอกจากต้องดูเหย้าเฝ้าแลเรือนแล้วยังต้องปรนนิบัติพัดวีแบบเนื้อแนบเนื้อกับผัวด้วย

นายช่างใหญ่แห่งอโยธยาที่ข้าอยากได้

นายช่างใหญ่แห่งอโยธยาที่ข้าอยากได้

โรแมนติก

5.0

เมื่อยมทูตแห่งกาลเวลาส่งฉันย้อนเวลามาพบกับนายช่างใหญ่ผู้กร้าวใจ หล่อล่ำ แถมกล้ามแน่น แผนการอ่อยนายช่างของฉันจึงเกิดขึ้น “นายช่างใหญ่นี่ใหญ่สมชื่อนะเจ้าคะ” “พูดกระไรของเจ้า” “ข้าชมเจ้าค่ะ ใหญ่นักข้าชอบ แบบว่าประทับใจเจ้าค่ะ” “พูดจาอย่างคนวิปลาสหารู้ความไม่” ---- เมื่อต้องมาอยู่อโยธยา เมื่อเจอคนถูกตาต้องใจ เมื่อรู้สึกคลั่งรักเกินจะทนไหว เมื่อแม่บอกให้เชื่อใจ เมื่อพ่อไม่อยากให้ออกเรือน ฟ้ารดา มหานคร หญิงสาวทะลุมิติมายังอโยธยา ที่นี่เธอได้เจอกับนายช่างทองหลวงที่ถูกตาถูกใจ ก็ในเมื่อกลับไปไม่ได้ แผนการอ่อยนายช่างแบบเนียน ๆ จึงเกิดขึ้น นายช่างใหญ่ นายช่างทองหลวงผู้หล่อล่ำ กล้ามแน่น เขาจะต้านทานเสน่ห์ของแม่หญิงผู้ไม่เหมือนใครในอโยธยาได้หรือไม่ โปรดติดตามอ่านได้ใน "นายช่างใหญ่แห่งอโยธยาที่ข้าอยากได้"

พี่หมอเจ้าขาอย่าทำข้าหวั่นไหว

พี่หมอเจ้าขาอย่าทำข้าหวั่นไหว

โรแมนติก

5.0

​ เธอข้ามเวลามาพบเขา   เขารอเวลาเพื่อจะได้เจอเธอ  ------ คนอื่นทะลุมิติย้อนไปในอดีตที่พอจะรู้เรื่องราวที่ผ่านมาบ้าง แต่สำหรับแม่หญิงช่อฟ้าเธอกลับทะลุมิติมาในโลกปัจจุบันที่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลย เช่นนั้นเธอจะปรับตัวอยู่ในโลกแห่งนี้ได้ฤๅไม่ แล้วพี่หมอจะช่วยให้เธอผ่านวิกฤตในชีวิตได้อย่างไร ความรักของพวกเขาจะมีอุปสรรคแค่ไหน โปรดติดตามอ่านได้ใน "พี่หมอเจ้าขาอย่าทำข้าหวั่นไหว" โปรย จากแม่หญิงคนงามแห่งอโยธยา สู่กรุงเทพเมืองฟ้าอมร แม่หญิงหวังให้พี่หมอสั่งพี่หมอสอน จักว่านอนแลสอนง่ายด้วยตั้งใจ แต่พี่หมอกลับอ่อนโยนจนหวั่นไหว ทำหัวใจมิใคร่อยู่กับเนื้อตัว ดั่งแสงสว่างชี้ทางยามมืดมัว ที่เคยกลัวกลับมลายหายสิ้นไป ยิ่งนานวันรักรุกคืบสู่หัวใจ ฤๅชะตาไซร้ลิขิตให้เรามาพบพาน ดลบันดาลให้อยู่เคียงคู่กัน ถ้าเยี่ยงนั้นข้าจักอยู่เป็นคู่เคียง ….. แปรงปัดแก้มถูกบรรจงปัดไล้เบา ๆ ลงบนผิวแก้มขาวละเอียดลออของคนดวงหน้าหวานเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ช่างแต่งหน้าจะค่อย ๆ วางแปรงลง แล้วสำรวจผลงานตัวเองอีกครั้ง ใบหน้างดงามหมดจดสร้างความภาคภูมิใจให้แก่ช่างแต่งหน้าไม่น้อย “เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณฟ้าชอบรึเปล่าคะ” “ฟ้าชอบค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” สิ้นคำนั้นช่างแต่งหน้าก็ค้อมศีรษะรับ ก่อนจะก้าวออกไปจากห้อง ปล่อยให้เจ้าของห้องนั่งอยู่หน้ากระจกเพียงลำพัง เจ้าของดวงตากลมโตจ้องมองตัวเองในกระจกนิ่ง ริมฝีปากรูปกระจับที่เคลือบด้วยลิปสติกสีโอลด์โรสค่อย ๆ คลี่ยิ้มเต็มใบหน้า แม้กระทั่งแววตาของเธอก็ยังเปล่งประกายทอแสงแห่งความสุข เรียวปากบางค่อย ๆ เผยอและขยับเขยื้อนเอื้อนเอ่ยกับตัวเองด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น “ฉันชื่อ ‘ฟ้ารดา มหานคร’ เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของคุณก้องเกียรติ และคุณรดาภา มหานคร เจ้าของห้างทองสี่สาขาในกรุงเทพฯ”  ​

รักไม่ได้ถ้าไม่ร้ายแบบนี้

รักไม่ได้ถ้าไม่ร้ายแบบนี้

โรแมนติก

5.0

คืนนั้นเตียงแทบลุกเป็นไฟเกินใครจะห้ามได้ เมื่อทั้งคู่ต่างโรมรันเข้าหากันอย่างถึงพริกถึงขิง เขา : ผมไม่คิดว่าผู้หญิงที่ผมลากขึ้นเตียงจะไม่ใช่เด็กไซด์ไลน์ที่ผู้ช่วยผมหามาให้ ผมไม่รู้ว่าเธอคือใคร เพราะเมื่อผมออกมาจากห้องน้ำเธอก็จากไป ทิ้งไว้เพียงแบงก์พันสามใบกับกางเกงในซีทรูไว้ให้ดูต่างหน้า เธอ : ด้วยความเมาเธอฝันว่าเธอลากผู้ชายขึ้นเตียงแล้วแซบกับเขาอย่างถึงพริกถึงขิง ตื่นขึ้นมาเธอจึงรู้ว่ามันไม่ใช่แค่ฝันแต่เธอลากผู้ชายขึ้นเตียงมาจริง ๆ เธอตัดสินใจรีบออกจากห้องไปโดยคิดว่าให้ทิปเป็นแบงก์พันสามใบก็คงน่าจะพอ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

ขอเลิกกับสามีงี่เง่า

Thalia Frost
5.0

กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

จากเมียส้มหล่นสู่หญิงแกร่ง

Arvin Bikoff
5.0

หลังจากที่แต่งงานเข้ามาในตระกูลมู่ หลินซีได้ทำหน้าที่เป็นคุณนายมู่ที่ยอมอดทนกับทุกอย่างโดยไม่ปริปากเป็นเวลาสามปี เธอรักมู่จิ่วเซียว จึงยอมอดทนดูแลเขาอย่างเต็มใจ แม้ว่าเขาจะมีคนอื่นอยู่ข้างนอกก็ตามแต่เขากลับไม่เคยเห็นค่าของเธอ เหยียบย่ำความรักของเธอให้แหลกสลาย และถึงขั้นปล่อยให้น้องสาวของเขามอมเหล้าเธอแล้วส่งไปยังเตียงของลูกค้า หลินซีนั้นถึงเพิ่งจะตาสว่างเมื่อรู้ว่าความรักที่มีมานานนั้นช่างน่าขันและน่าเศร้าในใจของเขา เธอไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกาะเขา เธอจึงทิ้งข้อตกลงการหย่าไว้แล้วจากไปโดยไม่ลังเล มู่จิ่วเซียวมองดูเธอประสบความสำเร็จ กลายเป็นดวงดาวที่ส่องแสงในสายตาของผู้คนเมื่อได้เจอกันอีกครั้ง เธอเต็มไปด้วยความมั่นใจและสงบเสงี่ยม โดยมีผู้ชายที่มีฐานะสูงส่งอยู่เคียงข้าง มู่จิ่วเซียวมองดูใบหน้าของคู่แข่งหัวใจที่ดูคล้ายกับของเขามาก จากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าในสายตาเธอ เขาเป็นเพียงตัวแทนของคนอื่นในมุมแห่งหนึ่ง เขาขวางทางเธอไว้ “หลินซี คุณเล่นตลกกับผมใช่ไหม”

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

มาชาวีร์
4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

ข้าโหด ทว่าข้าคือสุดที่รักของท่านอ๋อง

ข้าโหด ทว่าข้าคือสุดที่รักของท่านอ๋อง

Samuel Wren
5.0

เสิ่นสุยยินถูกบังคับให้ดำรงชีวิตในสถานะที่ด้อยกว่าตั้งแต่เด็ก การถูกกดขี่มาอย่างยาวนานไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองแม้แต่น้อย การตกต่ำของตระกูลเสิ่นในสายตาของคนภายนอกดูเหมือนจะเป็นความเสื่อมของตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นโอกาสเดียวของเสิ่นสุยยินที่จะกลับคืนสู่ชีวิตใหม่ นางต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ทว่ากลับไม่รู้ว่าทุกแผนการของนาง เขากำลังจ้องตามองอยู่ ลู่จินหวยให้นางหลอกใช้ตนเองเป็นประโยชน์ได้ตามอำเภอใจของนาง แต่ไม่เคยให้นางต้องเปื้อนเลือดแม้แต่นิด สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงตัวนางเท่านั้น “เสิ่นสุยยิน ทางที่ดีเจ้าจะแกล้งทำไปตลอดชีวิต”

หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง

หยางเสี้ยว หนูน้อยหัวใจแกร่ง

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
รักไม่ได้ร้าย
1

บทที่ 1 ทิ้ง

24/11/2023

2

บทที่ 2 เหงา

24/11/2023

3

บทที่ 3 คนสารเลว

24/11/2023

4

บทที่ 4 คลื่นที่ซัดสาด

24/11/2023

5

บทที่ 5 น้ำผึ้งอาบยาพิษ

24/11/2023

6

บทที่ 6 คนเจ้าเนื้อ

24/11/2023

7

บทที่ 7 ครอบครัวโดเรนสัน

24/11/2023

8

บทที่ 8 เมียน้อย

24/11/2023

9

บทที่ 9 ยางหวาย

24/11/2023

10

บทที่ 10 หม่ามี๊

24/11/2023

11

บทที่ 11 ไม่อยากจะเชื่อ

24/11/2023

12

บทที่ 12 ฝากเลี้ยง

24/11/2023

13

บทที่ 13 คนเจ้าชู้

24/11/2023

14

บทที่ 14 ยิงปืนนัดเดียวได้นกกี่ตัว

24/11/2023

15

บทที่ 15 ของถูกใจ

24/11/2023

16

บทที่ 16 จูบแรกของเมเปิ้ล

24/11/2023

17

บทที่ 17 ของขาด

24/11/2023

18

บทที่ 18 ถอนหมั้น

24/11/2023

19

บทที่ 19 คัพซีเป็นเหตุ

24/11/2023

20

บทที่ 20 จูบสั่งลา

24/11/2023

21

บทที่ 21 ํYou're mine.

24/11/2023

22

บทที่ 22 ตีตราจอง

24/11/2023

23

บทที่ 23 เก็บดอกบัว

24/11/2023

24

บทที่ 24 อย่าเกร็งนะคะ

24/11/2023

25

บทที่ 25 บันทึกของพ่อ

24/11/2023

26

บทที่ 26 กินซ้ำ ๆ

24/11/2023

27

บทที่ 27 หวง

24/11/2023

28

บทที่ 28 คนในอ้อมกอด

24/11/2023

29

บทที่ 29 สามคนผัวเมีย

24/11/2023

30

บทที่ 30 เพราะรัก

24/11/2023

31

บทที่ 31 เคลียร์ใจ

24/11/2023

32

บทที่ 32 อดอยากปากแห้ง

24/11/2023

33

บทที่ 33 ชดเชย

24/11/2023

34

บทที่ 34 มันใช่เหรอ

24/11/2023

35

บทที่ 35 รอให้โตก่อน

24/11/2023

36

บทที่ 36 งอนย้อนหลัง

24/11/2023

37

บทที่ 37 พูดดีไหม

24/11/2023

38

บทที่ 38 จูบแรกของภีม

24/11/2023

39

บทที่ 39 ตามคำขอ

24/11/2023

40

บทที่ 40 ตอนพิเศษ 1 คัพซีนี้พี่หวง

24/11/2023