Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ล้วงรักจอมวายร้าย

ล้วงรักจอมวายร้าย

ภัคร์ภัสสร

5.0
ความคิดเห็น
80
ชม
15
บท

“อะไรนะ เดี๋ยว... เดี๋ยว ฉันว่าฉันยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยน้า! ทำไมต้องอุ้มกันด้วย ฉันเดินเองได้แมนนี่!” มันเป็นความอับอายที่สุดในชีวิตของอันนา กับการไล่ตาม เฮคเตอร์ พี. เกลนนอน! มหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าสำราญ เสือหนุ่มเจ้าเล่ห์ที่นักข่าวต่างต้องการที่จะเป็นผู้สัมภาษณ์เขา มันเป็นข้อตกลง เป็นสัญญา เป็นพันธะที่เกิดจากความเสียหน้า! เฮคเตอร์ พี. เกลนนอนไม่เคยคิดเลยว่า ความพึงพอใจที่ไม่เกี่ยวกับความรัก จะดึงให้เขาเข้าไปติดกับดัก! “คุณไม่ได้รักฉัน ฉันพูดถูกไหม ตอนนี้คุณก็แค่ยัง ‘ติดใจ’ แต่ฉันไม่ต้องการอะไรแบบนั้นเหมือนคุณ สามอาทิตย์นั่นฉันเองก็ ‘พลาด’ เพราะดัน ‘เผลอ’ ไปกับบรรยากาศ” แน่นอน ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับเขา และอันนาเป็นคนแรก และแน่นอนอีกเช่นกัน เฮคเตอร์ พี. เกลนนอน ไม่เคยยอมให้ใครมาดูถูก อันนา กานดิศ จะต้องเปลี่ยนมุมมองในตัวเขาใหม่ และเพื่อการนั้น เขาจึงต้องผูกมัดเธอไว้ด้วยสัญญาทาส แม้ว่าเธอจะคิดว่ามันเป็นข้อตกลงโปเกระหว่างเราก็ตาม!

บทที่ 0 บทนำ

Rotterdam, Netherlands.

จากชั้นบนสุดเพ้นท์เฮ้าส์หรูย่านธุรกิจในรอตเตอร์ดัม บรรยากาศเต็มไปด้วยผู้คนต่างพลุกพล่านในเช้าวันจันทร์ อันเป็นวันแรกของการทำงาน ทุกคนกุลีกุจอเดินทางโดนระบบขนส่งสาธารณะอย่างรีบเร่ง เมืองแห่งนี้จัดเป็นเมืองท่าที่มีความทันสมัยและเป็นจุดศูนย์รวมทางการค้าของยุโรป

แม่น้ำเมิซอันเป็นแม่น้ำสายหลักไหลผ่านเมืองนี้ เป็นแม่น้ำที่เกิดในฝรั่งเศส ไหลผ่านเบลเยี่ยมเพื่อออกสู่ทะเลที่เมืองรอตเตอร์ดัม ทำให้ท่าเรือรอตเตอร์ดัมเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ และเป็นเมืองเพียงแห่งเดียวที่มีสถาปัตยกรรมที่ไม่มีกลิ่นอายของดัชต์อยู่เลย เพราะเคยเป็นเมืองที่ถูกวางระเบิดเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง จากปฏิบัติการรอตเตอร์ดัมบลิทซ์[ รอตเตอร์ดัมบลิทซ์(การโจมตีสายฟ้าแล่บที่รอตเตอร์ดัม) – เยอรมันทิ้งระเบิดลุฟท์วัฟเฟอที่เมืองรอตเตอร์ดัมอันเป็นเมืองท่าที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ในเวลานั้น ยึดสนามบินรอตเตอร์ดัม เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 ในช่วงเยอรมันยึดครองเนเธอร์แลนด์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อหยุดยั้งการต่อต้านของชาวดัชต์บีบบังคับให้ยอมจำนน] จนเมืองย่อยยับและกลายเป็นบาดแผลในใจของชนเมืองนี้ หลังเหตุการณ์เลวร้ายนั้นผ่านไป ชาวดัตช์จึงบูรณะซ่อมแซมเมืองนี้ขึ้นมาใหม่ ในเมื่อสิ่งปลูกสร้างแบบดัชท์ไม่หลงเหลือ พวกเขาก็สร้างมันขึ้นมาใหม่ในสไตล์โมเดิร์นและล้ำสมัยขึ้นมาใหม่เสียเลย

เมืองนี้จึงได้รับฉายาว่า ‘City of Modern Architecture’ เมืองแห่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่...

ตึกสูงระฟ้า ท้องฟ้ากระจ่างใสในช่วงฤดูร้อนของรอตเตอร์ดัม สายลมเอื่อยอ่อน ผู้คนคลาคล่ำ เนื่องด้วยเป็นเมืองเศรษฐกิจ ผู้คนที่นี่เดินทางด้วยขนส่งมวลชนและจักรยานส่วนตัว หากถัดจากถนนเส้นหลักไม่ไกลนั้นมีร่างเล็กของสาวเอเชียที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งอย่างรีบเร่ง ด้วยความสูงไม่น่าจะเกินมาตรฐานหญิงสาวชาวไทย ทรวงทรงสมส่วนในชุดทะมัดทะแมงที่มีกางเกงผ้าเดนิมขายาวเข้ารูป เสื้อยือคอเต่าสีเทาแล้วสวมทับด้วยแจ็คเก็ตยีนส์เอวสั้นสีน้ำเงินเข้มที่พับแขนขึ้นมาถึงข้อศอก ทำให้หน้าปัดนาฬิกาสะท้อนแสงพระอาทิตย์อยู่วิบวับๆ ยามเธอขยับร่างกาย ดวงหน้ารียาวเกือบเป็นรูปไข่ไก่ ปากนิดจมูกหน่อย มองรวมๆ แล้วน่ารักน่ามองมากกว่าสวยจัด ด้วยปราศจากการแต่งแต้มเครื่องสำอางใดๆ หากมีเพียงลิปกลอสชมพูมันวาว และพวงแก้มสีชมพูระเรื่อตามธรรมชาติ หน้าผากมนสวย ด้วยผมสีดำขลับยาวสลวยถูกรวบตึงเอาไว้เป็นทรงหางม้ามันจะปัดแกว่งไปมาเวลาเธอออกวิ่งด้วยความรีบเร่ง

“สายๆ ตายแล้ว ฉันต้องไปก่อนที่หมอนั่นจะหนีไปใช้ชีวิตชิลๆ สโลไลว์ฟที่เกาะนรกนั่น” หญิงสาวกึ่งเดินกึ่งวิ่งพลางยกข้อมือขึ้นดูเวลาที่แม้จะยังเช้าอยู่ก็จริง แต่เธอรับรู้มาว่า ถ้าไปไม่ทันทำภารกิจสำคัญ เธอมีอันต้องตกงานไปถึงชาติหน้าอย่างแน่นอน

เพียงชั่วอึดใจ ร่างเล็กของหญิงสาวชาวไทยไซส์มินิก็มายืนตระหง่านเบื้องล่างของอพาทเม้นท์หรู ร่างเล็กแหงนเงยจนสุดลูกหูลูกตา “ตึกสวย... น่าอยู่จัง คนรวยเขาคงใช้ชีวิตกันอย่างนี้สินะ” ไม่ชักช้าให้เสียเวลาเธอรีบพาร่างขึ้นไปยังจุดหมาย

ดวงตากลมโตของสาวน้อยชาวไทยวัยย่างยี่สิบสี่ปีแหงนมองตึกสูงแทบคอตั้งบ่า มันเป็นตึกที่ดูสวยงามทันสมัย สมกับเป็นแท่งหนึ่งของสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่บนผังเมืองที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง

ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะเป็นเมืองที่สวย ประเทศแห่งนี้จะเคยเป็นทริปในฝันที่เคยอยากมาเที่ยว แล้วเธอก็ยืนอยู่ตรงนี้จริงๆ แต่ความรู้สึกที่ต้องแบกรับภารกิจอันหนักอึ้ง แถมมีคำบัญชาการอันเด็ดขาดค้ำคอเอาไว้ว่าถ้างานไม่สำเร็จ ก็อย่าหวังว่าจะได้กลับเมืองไทย... ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนกำลังถูกลอยแพอย่างไร้อนาคตอย่างไรก็ไม่รู้...

ก๊อกๆๆๆ

ร่างเล็กพาตัวเองขึ้นมายืนอยู่หน้าประตูที่พักของบุคคลที่เป็นเป้าหมาย... หรือจะว่าเขาเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เธอมายืนอยู่ตรงนี้ดี ร่างบอบบางหายใจถี่รัวด้วยความเหนื่อยหอบปนตื่นเต้น แล้วก็เคาะประตูอีกครั้งด้วยจังหวะระรัวยิ่งขึ้น กำมือแน่นเคาะประตูด้วยจังหวะเร่งรีบอย่างไม่เกรงกลัวเจ้าของห้องแม้จนนิดเดียว หลังจากกดกริ่งด้านหน้าแต่ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครแย้มหนวดมาเปิดประตูให้เธอ

“ไม่เปิดใช่มั้ย... ได้!”

สิ้นคำ คีย์การ์ดที่เธอได้รับมาก็ถูกนำมาใช้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ แน่ล่ะระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่ใช้การสแกนม่านตาของเจ้าของที่พัก แต่ก็มีคีย์การ์ดไว้สำรองและเธอได้มันมาใช้ยามฉุกเฉินแบบนี้ เธอไม่อยากจะใช้มันเลยจริงๆ จะว่าถือวิสาสะก็คงได้ แต่ทำไงได้ล่ะ ก็พ่อคุณชายเจ้านายน้อยไม่ยอมมาเปิดประตูต้อนรับเธอนี่ ก็คงต้องใช้วิธีนี้

พรวด!

“เฮ้! หล่อนเป็นใคร?” เสียงต้อนรับจากหญิงสาวหน้าตาสวยจัด ผมยาวฟูฟ่องสีทองเป็นประกาย ใบหน้าปราศจากการแต่งเติมเพราะดูเหมือนจะเพิ่งตื่นนอน รวมๆ แล้วหน้าตาเธอจะไปทางโซนรัสเซียน ริมฝีปากบางเฉียบเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ หญิงสาวผู้มาเยือนกวาดสายตามองไปโดยรอบ พบว่าเจ้าหล่อนดูสวย... เอ่อ... ไม่รู้จะเรียกชุดนอนได้มั้ย แต่มันเป็นเสื้อสายเดี่ยวบางเบาที่ทำจากผ้าซาติน ลู่แนบเนื้ออย่างแนบสนิท... เธอว่าไม่ใส่ก็นะ ถ้าผ้าจะมีแค่นี้!

อ้อ... ท่อนล่างของเธอนั่น... จีสตริงสินะ กางเกงชั้นในอะไรกัน... ผ้าไม่พอหรือยังไงถึงได้ใส่แล้วเหมือนไม่ได้ใส่แบบนั้นน่ะ!

“ฉันก็คือภรรยาตัวจริงของผู้ชายที่คาบคอเธอเมื่อคืนน่ะสิ ออกไปนะ ผู้หญิงหน้าไม่อาย” หญิงสาวอ้าง ก็มันมีทางเลือกที่ไหน ยังไงเธอต้องทำภารกิจให้สำเร็จ

“โกหก เขาไม่เคยบอกว่ามีเมียย่ะ โกหกไม่เนียนไปเรียนมาใหม่เถอะหล่อน” ถ้อยคำสื่อสารภาษาสากลที่ถกเถียงกันอย่างชัดถ้อยชัดคำของ Cat fight[ สำนวน หมายถึงผู้หญิงตีกัน]!

“เธอคิดว่าตัวเองมีความสำคัญนักหรือไง ที่เขาต้องบอกทุกเรื่องให้เธอรู้ ออกไปซะ!”

“ไม่!”

ศลิษาไม่พูดพร่ำทำเพลง เพียงเห็นสาวรัสเซีย เธอก็เดาเรื่องออกมาเป็นฉากๆ ได้ว่า พ่อเจ้านายน้อยจอมแสบของเธอจะต้องหนีไปอยู่เกาะกับเจ้าหล่อนแน่ๆ แล้วถ้าเธอมาไม่ทันหมายกำหนดการการเดินทางของเขาและหล่อน นอกจากเธอจะทำภารกิจผิดพลาดแล้ว เธอยังต้องรับสภาพตกงานอย่างไม่ได้รับเชิญอีกด้วย

‘ถ้าคุณทำงานนี้สำเร็จ หน้าที่การงานของคุณก็มีอนาคต หากตรงข้าม เตรียมรับซองขาวได้เลยศลิษา’

คำสั่งนั่นยังวนเวียนอยู่ในสมอง หญิงสาวหลับตาแน่นสลัดมันทิ้งไป ผู้หญิงอย่างลิษา... มีหรือจะยอม เธอไม่ยอมตกงานง่ายๆ หรอก!

ไม่ใครก็ใคร จะต้องพ่ายไปสักข้างระหว่างเธอกับเจ้านายน้อยตัวแสบ

“เฮ้! เอะอะอะไรกันน่ะ” เสียงคำรามลั่นออกมาจากห้องนอน เรียกความสนใจของหญิงสาวทั้งสองให้มองไปตามเสียง

เขาเดินออกมาในสภาพเพิ่งตื่นนอน.... ใช่ เขาแทบไม่ยอมลืมตามามองโลกด้วยซ้ำ ก็เพราะอย่างนี้สิ ถึงไม่รู้ตัวเลยว่า ร่างสูงโปร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อได้รูปสวยงามของเขานั้น มันไม่มีเสื้อผ้าเลยสักชิ้นปกปิดอยู่

‘ชีเปลือยยังไม่สูญพันธุ์!’ แน่ใจนะว่าไม่ได้ออกมาจากถ้ำ!

เขาขยี้ตาเร็วๆ ก่อนร่างจะเดินมาประชิดร่างเล็กที่มาในฐานะผู้คุกคาม

“เธออีกแล้วเรอะ?” น้ำเสียงแหบแห้งเจือแววไม่สบอารมณ์อย่างสุดๆ

“ก็ฉันน่ะสิคะ จะใครล่ะ” หญิงสาวยืนแหงนคอตั้งบ่าตอบหน้าตาเอาเรื่อง เธอไม่มีความกลัวเกรงเขาเลยแม้แต่น้อย

“คราวที่แล้วยังไม่เข็ด?” เขาหรี่ตาแคบมองเธอศีรษะจรดเท้า เบ้ปากอย่างระอา สายตามองมาอย่างเจ้าเล่ห์ มองอย่างไรก็เหมือนคนมีแผนการร้ายๆ ในสมองอยู่ตลอดเวลา เขาน่ะ... อันตรายจะตาย

“มีอย่างอื่นที่น่าเข็ดกว่า” ‘ฉันตกงานแน่ถ้าคุณไม่กลับไปกับฉัน’ สาวไทยตัวเล็กคิดในใจ แม้ไซค์จะมินิแต่หัวใจเธอไม่เล็กอย่างกับใจหรอก เธอได้ทำในสิ่งที่เรียกว่ากล้าหาญอย่างมากมาย อย่างน้อยก็ตอนนี้ล่ะน่ะ

“ก็ดี๊.... งั้นสวย” เขาสรุปพร้อมยกร่างเล็กขึ้นอุ้ม ร่างกายหญิงสาวแนบเนื้อแข็งแรงของเขาจนเธอสะท้านหวั่นไหว

กรี๊ดดด! สาวไทยตัวน้อยแผดเสียงลั่น มันฟังแทบไม่เป็นภาษา

ไม่ใช่แค่ร้องเพราะร่างกายของตนถูกคนร่างยักษ์ยกขึ้นอุ้มพาดไหล่เขาเท่านั้น แต่ศรีษะเจ้าหล่อนจมดิ่งลงมาอยู่บั้นท้ายหนั่นแน่นของเขา สายตาเธอปะทะเข้าอย่างจังเบ้อเริ่มกับสิ่งที่เธอไม่ควรได้ชม ‘ก้นผู้ชาย’ มันล่อแหลมร้ายแรงอย่างไม่น่าให้อภัย ทำไมเขาไม่ใส่อะไรก่อนที่จะออกมา เธออายจนหน้าแดงซ่านหมดแล้วนะรู้มั้ย นี่แค่เบื้องหลังนะ ถ้าเป็นเบื้องหน้าล่ะ หัวใจเธอวายแน่ๆ

“โอ้ย! แสบหู” เขาตวาดลั่น เสียงดุๆ ยังกึกก้องในโสตประสาทของผู้หญิงตัวน้อยๆ อย่างเธอ

“ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ” ปากว่า มือปิดตาเสียมิด หากหัวใจเต้นรัวกระหน่ำ มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย

“ปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่ในห้องส่วนตัวของฉันแน่ๆ ยายตัวแสบ” เขาหิ้วร่างน้อยๆ อย่างกับเธอเป็นขยะอันเหม็นเน่าและกำลังจะเอาไปทิ้งให้ไกลๆ

พลั่ก!

“โอ้ย!”

ร่างเล็กร้องเสียงหลง ก้นจ้ำเบ้าเมื่อเขาทุ่มร่างเธอลงไปกองกับพื้นนอกห้องอย่างไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บสักแค่ไหน

“กรี๊ดดด” เสียงเล็กแผดดังลั่นอีกครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบเจอกับสิ่งที่ไม่เคยคาดไว้

‘นะ... นี่มันไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ของโลกใช่มั้ย พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยสาด้วย อุจาดตาที่สุด!’ หญิงสาวหลับตาแน่น กลัวจนขนหัวลุก ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยพบเคยเจออาวุธลับของท่านชายก็คราวนี้ล่ะ แล้วนี่ไม่ใช่อาวุธลับขนาดธรรมดาๆ เท่านั้น แต่มันมหึมาถ้าเป็นงูก็ต้องอนาคอนดาถึงจะคู่ควร!

“ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า ส่งซักหมดเลยรึไง” เธอตวาดเสียงเกรี้ยว หลับตาปี๋ เท่านั้นยังไม่พอ สองมือน้อยๆ ยกขึ้นปิดตาเอาไว้แน่น

“โวยวายอยู่ได้ยายตัวแสบ ออกไป๊!”

“คุณทำกับฉันมากเกินไปแล้วนะ” สาวไทยร่างเล็กมองมาตาเขียวปั๊ด ลืมไปเลยว่าเขาไม่ใส่อะไรเลย

“น้อยไปสิไม่ว่า... กลับไทยไปซะ อย่ามายุ่งกับฉันอีก” เจ้าของร่างสูงยื่นคำขาด สายตาคมกล้ามองมาอย่างเหี้ยมเกรียม ถ้าไม่รู้ประวัติเขามาก่อน เธอต้องคิดว่าเขาเป็นมาเฟียใหญ่แห่งรอตเตอร์ดัมเป็นแน่

‘อะไรจะโหดปานนั้น ค่อยๆ คุยกันก็ได้นี่นา’

“ไม่ได้นะ.... คุณไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉันนะ!”

เขาย่อตัวลง โน้มหน้าเข้ามาใกล้... จมูกโด่งๆ แทบประชิดจมูกเชิดรั้นของเธอ ก่อนเปล่งถ้อยคำข่มขู่อย่างท้าทาย “ฉันจะทำมากกว่าไล่อีก ถ้าเธอไม่ฟังที่ฉันเตือน!”

ปัง!!!

ประตูบานใหญ่ของเพ้นท์เฮ้าส์สุดหรูกระแทกเสียงดังลั่นเมื่อมันถูกผลักจากขุมพลังแรงกำลังของผู้ชายร่างใหญ่ที่อยู่ในอารมณ์ร้อนร้าย ดีแล้วที่มันไม่พังทลายลงมา ดูเหมือนว่าสิ่งที่พังตอนนี้จะไม่ใช่ประตู แต่เป็นแก้มเนื้อนุ่มๆ ของบั้นท้ายใครบางคนต่างหาก เขาใจร้ายไปนะ ทุ่มเธอลงมาได้ยังไง เธอก็เจ็บเป็นนะไม่ใช่ตุ๊กตายาง

“แล้วคุณจะรู้... ว่าที่ทำกับฉันวันนี้ ฉันไม่ยอมเจ็บฟรีๆ แน่ซาเร็ค!”

อ่านต่อ

หนังสือที่คุณอาจชอบ

หนังสืออื่นๆ ของ ภัคร์ภัสสร

ข้อมูลเพิ่มเติม
บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ