Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ทะลุมิติมาปลูกผักพร้อมของวิเศษ

ทะลุมิติมาปลูกผักพร้อมของวิเศษ

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
52.6K
ชม
91
บท

ชีวิตเธอกำลังมีความสุข แต่แล้วก็ประสบอุบัติเหตุมาอยู่ในยุคโบราณ อยู่โบราณไม่ว่าถ้ามาอยู่ในร่างเด็กที่แม่ป่วย พ่อพิการ แถมตัวเองก็เป็นคนเดียวที่พอจะหาอาหารให้พวกเขาได้!!

บทที่ 1 1

ชุดกระโปรงยาวสีขาวบริสุทธิ์ฟูฟ่องดุจเจ้าหญิงสวมทับอยู่บนร่างของต้าเหนิง เธอมองภาพสะท้อนตัวเองในกระจกด้วยความรู้สุขปลาบปลื้ม วันที่เธอเฝ้าฝันมาถึงแล้ว เสียงระฆังวิวาห์วันนี้คงถูกจดจำในใจเธอไปตราบนานเท่านาน หญิงสาวหมุนตัวหน้ากระจกด้วยความอิ่มเอมใจ อยากจะจดจำตัวเองในวันนี้ไว้ เพราะเธอคงมีโอกาสใส่มันแค่ครั้งเดียว และเธอก็ปรารถนาให้มันเป็นแค่ครั้งเดียวชั่วชีวิตนี้จริงๆ

หญิงสาวนักพฤษศาสตร์วัยยี่สิบห้าปีขององค์กรเอกชนแห่งหนึ่งกำลังจะได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่ชั่วโมง

"ต้าเหนิง รถพร้อมแล้วนะ" เพื่อนเจ้าสาวคนหนึ่งเดินมาเรียกเธอในห้อง วันนี้เพื่อนๆ ของเธอก็สวยพริ้มทุกคน ต้าเหนิงรู้สึกดีใจมากที่เพื่อนๆ เธอสามารถมากันได้ครบทุกคน เพราะวัยทำงานนั้นโอกาสในการรวมตัวกันกับกลุ่มเพื่อนน้อยยิ่งกว่าน้อย

"วันนี้ขอบใจพวกเธอมากนะ"

"วันสำคัญของเพื่อนทั้งทีนี่นา รีบไปขึ้นเถอะ ราชรถของเจ้าหญิงมาแล้ว" หญิงสาวคนเดิมเอ่ยแซวก่อนจะดันหลังของเธอให้ขึ้นไปนั่งบนรถที่ตกแต่งด้วยผ้ามันวาวอย่างสวยงาม ต้าเหนิงจะนั่งไปกับคนขับรถ และเพื่อนของเธอจะตามมาในภายหลัง

ปลายทางคือโบสถ์ที่ใช้ทำพิธี ซึ่งเจ้าสาวคนนี้ยิ้มกว้างไปตลอดทาง ใครเห็นก็รับรู้ได้ว่าเธอต้องมีความสุขมาแน่ๆ หญิงสาวพยายามทำใจให้สงบแม้เธอจะตื่นเต้นมากก็ตาม

เจ้าบ่าวของเธอคือคนที่คบกันมาตั้งแต่เรียนมหา’ลัยปีหนึ่ง เป็นความมั่นคงอันยาวนานที่ทำให้เธอยอมตกลงสวมแหวนจากเขา

"คุณพ่อคะ หนู...มีความสุขมาก" เธอไม่รู้จะหาคำใดมาบ่งบอกความรู้ตอนนี้ได้ชัดเจนไปกว่านี้อีกแล้ว

"ยินดีกับลูกด้วยนะ เจ้าหนุ่มนั่นเป็นคนดี แต่ถ้าเริ่มไม่ดีก็กลับมาบ้านนะ"

"โธ่ พ่อคะ ไม่เป็นไรหรอกน่า หนูเก่งมากนะ"

"พ่อรู้ลูกรัก แต่คนเราไม่ต้องเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้ พ่อกับแม่ยังอยู่ข้างลูกเสมอนั่นล่ะ"

ชายวัยย่างเข้ากลางคนระบายยิ้มอบอุ่นออกมา วันนี้แล้วที่ลูกจะออกไปจากอ้อมอกของพ่อแม่ สร้างครอบครัวของตัวเอง คนเป็นพ่อก็อดรู้สึกสุขปนเศร้าไม่ได้ สัญญาณไฟจราจรสั่งให้หยุด อีกไม่ไกลก็ถึงสถานที่จัดงานแล้ว ต้าเหนิงใช้ช่วงเวลานี้พยายามเรียกสติตัวเองกลับมา ทว่ากลับสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นกระหน่ำอยู่ในอกตัวเองอย่างชัดเจน

"ฮู่~"

"ตื่นเต้นเหรอลูก"

"ค่ะ"

"ไม่เป็นไร มันจะผ่านไปด้วยดี วันที่แต่งงานกับแม่ พ่อก็ตื่นเต้นมากเหมือนกัน"

หลังจากผู้เป็นพ่อพูดจบ สัญญาณไฟก็เปลี่ยนสี รถยนต์ประดับผ้าเคลื่อนตัวไปช้าๆ ทว่าหางตาหญิงสาวในชุดขาวก็สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างเข้าเสียก่อน

"คุณพ่อคะ!" เธอร้องลั่นด้วยความตกใจเมื่อรถซุปเปอร์คาร์จากฝั่งตรงข้ามเสียหลักพุ่งเข้ามาขณะที่เธอกับพ่ออยู่ตรงกลางแยก

พาหนะเหล็กกระแทกกันเสียงดังสนั่น ยังไม่ทันรับรู้เหตุการณ์ต่อจากนั้นเธอก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบที่แล่นขึ้นมาของตัวเองก่อนแล้ว ร่างของต้าเหนิงลอยเคว้งอยู่ในอากาศ สะบัดตามแรงเหวี่ยงของรถที่กระแทกมาจนไถลร่วงลงพื้น

หูของเธออื้ออึงไปชั่วขณะ ไม่อาจขยับร่างกายได้ดั่งใจ ทิวทัศน์เดียวในคลองสายตาเวลานั้นคือรถยนต์สีขาวที่เธอกับพ่อนั่งมายับเยินจากอุบัติเหตุ เสียงโวยวายของผู้คนโดยรอบที่ฟังไม่ได้ศัพท์ ร่างกายเจ็บจนชาไปถึงอวัยวะภายใน ชุดเจ้าสาวถูกย้อมเป็นสีแดง แล้วสติของเธอก็ค่อยๆ เลือนหายไป

บางทีนั่นอาจเป็นแค่ฝันร้าย หรือไม่เธอก็กำลังฝันซ้อนฝัน ความอึดอัดที่แสนคุ้นเคยนี้เหมือนเคยเกิดขึ้นมาก่อนในวัยเด็ก ร่างทั้งร่างเย็นเฉียบจากสิ่งเร้าภายนอก สัมผัสแรกของฝ่ามือคือดินโคลนเหลวๆ ของก้นแม่น้ำ เปลือกตาที่ปิดสนิทค่อยๆ เปิดขึ้นตามสติการรับรู้ที่ค่อยๆ กลับมา ความอึดอัดจนทรมาณเสียดอกทำให้ดวงตาคู่นั้นเบิกโพลงขึ้นทันที เด็กหญิงผู้หนึ่งตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำสุดแรง รอบข้างมืดมิดจนน่าขนลุก เห็นแต่เพียงแสงสะท้อนของพระจันทร์ที่ทอดผ่านลงมานำทาง

อากาศหลุดลอยออกจากปากจนไปหมดจนไม่มีอะไรให้ออกมาแล้ว ทำให้นางต้องกัดฟันใช้แรงเฮือกสุดท้ายพาตัวเองขึ้นไป มือเล็กบางของมนุษย์วัยต้นอ่อนไขว่คว้าอากาศและผืนน้ำพาตัวเองขึ้นมาสูดอากาศจนเต็มปอดได้สำเร็จ

นางพาตัวเองว่ายเข้าหาฝั่ง ทันทีที่พาตัวเองขึ้นไปได้ก็สำลักน้ำออกมาหลายคำ ไอจนเจ็บอกเจ็บคอก่อนจะทิ้งตัวนอนแผ่อยู่แบบนั้น เด็กหญิงหายใจหอบเหมือนใช้เรี่ยวแรงส่วนของวันนี้ทั้งวันนี้หมดไปแล้วกับการเอาชีวิตรอด หลังจากสติได้เล็กน้อยก็พึ่งได้มีเวลาสังเกตตัวเอง

"นี่มัน...อะไร"

มองมือตัวเองที่เล็กจิ๋วไม่ต่างจากมือเด็ก ทั้งยอมผอมแห้งติดกระดูกเหมือนไม่เคยได้กินอะไรดีๆ ตั้งแต่เกิด ปากเล็กๆ อ้ากว้างด้วยความตื่นตะลึง ต้าเหนิงพุ่งไปที่ริมน้ำอีกครั้ง แล้วหญิงสาวก็ได้เห็นภาพสะท้อนเต็มตา บุคคลตรงหน้านี้ต้าเหนิงไม่รู้จักอย่างแน่นอน

ทำไมฉันถึงกลายเป็นเด็กไปได้!?

ผู้อยู่ในร่างเด็กน้อยเริ่มสติหลุดอีกหน ใจเย็นแทบไม่อยู่ แต่ก็ระลึกได้ว่ายิ่งเสียสติจะยิ่งแย่ เธอต้องใจเย็นๆ ก่อน มือน้อยๆ ตบแก้มตัวเองเบาๆ เรียกสติ ต้าเหนิงนั่งอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่งเพื่อปรับลมหายใจให้เข้าที่ คิดย้อนไปถึงเหตการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

ในห้วงคะนึงหนึ่งสักแห่งหนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก หญิงสาวในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์เหมือนไม่เคยมีเลือดเปรอะเปื้อนมาก่อนยืนอยู่ต่อหน้าบุรุษผมยาว เขาสวมชุดฮั่นฝูดูสง่างาม ใบหน้าเข้ารูปไร้ที่ติเหมือนพระเจ้าตั้งใจแกะสลักอย่างบรรจง

ชายคนนั้นโบกมือพัดในมือด้วยท่าทีเอื่อยเฉื่อย เดินวนรอบนางเหมือนสำรวจวัตถุแปลกตา

"แม่นางน้อยผู้นี้ เจ้าช่างประหลาด อยู่ต่อหน้าข้ากลับไม่มีท่าทีตกใจเลยนะ"

"จริงๆ แล้วฉันตกใจมากค่ะ แค่สติไม่มากพอจะตกใจไปกว่านี้แล้ว" เธอตอบตามจริง เพราะตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าสติเธอกลับมาหรือยัง ตอนนี้เธอพูดอยู่ใช่หรือเปล่า ที่นี่ที่ไหน หลายคำถามสาดซัดใส่ในหัวจนเหมือนระบบประมวลผลขัดข้องอย่างไรอย่างนั้น

บุรุษผู้นั้นหัวเราะเบาๆ ไม่รู้ว่าชอบใจหรือตลกสิ่งที่เธอพูดอยู่จริงๆ กันแน่ มองดูดีๆ แล้วตัวเขาคล้ายว่าเรืองแสงอยู่ตลอดเวลา และเวลาที่เปิดปากเอื้อนเอ่ยสักคำรัศมีรอบกายนั้นก็ยิ่งสว่างขึ้นวาบขึ้นไปอีก

ผู้ชายคนนี้เป็นสิ่งที่นอกเหนือจากมนุษย์ไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย หรือถ้าเป็นมนุษย์ ก็ไม่ใช่คนธรรมดาแบบเธอแน่ๆ

"คุณมารับวิญญาณฉันหรือคะ?"

ต้าเหนิงคิดความเป็นไปได้อื่นไม่ออกจริงๆ ในเมื่อเธอตายแล้วก็ควรต้องข้ามทางหวงเฉวียนใช่หรือเปล่า

เขาไม่ได้ตอบคำถามเธอในทันที แต่ยื่นน้ำแกงถ้วยหนึ่งมาให้

"นี่คือ?"

"ไม่ใช่ของอันตรายอะไรหรอก เจ้าไม่มีพันธะผูกพันกับที่นั่นแล้ว จึงต้องไปที่อื่นก็เท่านั้น"

เขากล่าวด้วยท่าทีสบายๆ แต่หญิงสาวขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีที่ฟังจบ เธอรับถ้วยใบนั้นมาถือไว้ด้วยมือสั่นเทา อยู่ๆ ดวงตาก็ร้อนผ่าวขึ้น

"หมายความว่ายังงที่ว่าไม่มีพันธะผูกพันแล้ว ฉันพึ่งตกลงแต่งงานกับคนรัก ยังไม่ทันได้แต่งก็เป็นแบบนี้ ท่านคิดว่าฉันจะยอมรับได้หรือ" เธอร้องออกมาพร้อมหยาดน้ำตาพรั่งพรู ที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ด้วยซ้ำ ยังยืนอยู่ได้ก็ปาฏิหาริย์แล้ว แล้วพ่อของเธออีกล่ะ ไม่รู้เขาจะเป็นอย่างไร ปลอดภัยไหม

ทำไมเธอจะไม่มีพันธะ ทำไมเธอจะไม่ผูกพันกับใคร ชีวิตยี่สิบห้าปีมันว่างเปล่าขนาดพูดคำนั้นออกมาได้เชียวหรือ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นอยู่กันแน่

ชีวิตมนุษย์มันแค่นี้อย่างนั้นหรือ ไม่เข้าใจเลยสักนิด และไม่อยากเข้าใจด้วย ต้าเหนิงไม่แน่ใจว่าตัวเองโกรธหรือเศร้าอยู่กันแน่ อาจจะเป็นทั้งสองอารมณ์ปะปนกันอยู่ตอนนี้ แต่เธอรู้แน่ชัดว่าตัวเองกำลังไม่พอใจ

"มีภพมีจาก โชคชะตาวนเวียน เช่นนี้คือมนุษย์ ความตายไม่อาจเรียกคืนได้ แม้แต่เดรัจฉานยังรู้เรื่องนี้ แม่นางน้อยปล่อยวางเถิด"

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

ผู้บัญชาการรักซ้อนแค้น

ผู้บัญชาการรักซ้อนแค้น

Diena Beran
5.0

หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

คุณหนูปกปิดตัวตนไม่ได้แล้ว

Critter
5.0

เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ