Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ให้ตายข้าก็ (ไม่) แต่งกับท่าน

ให้ตายข้าก็ (ไม่) แต่งกับท่าน

จิรัฐติกาล

5.0
ความคิดเห็น
2.1K
ชม
11
บท

จางเวยหรงได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับการแข่งขันเป็นพระชายาเอกของฮ่องซือหยาง เพราะเห็นมารดาเจ็บปวดเรื่องอนุมาตลอดชีวิต นางจึงตั้งใจแล้วว่าชาตินี้จะไม่ออกเรือน หากเรื่องมากก็จะออกบวชเสีย เมื่อได้รับการคัดเลือกนางก็ต้องทำทุกวิธีทางให้ตัวเองถูกคัดออก แต่ทำไมยิ่งทำก็ยิ่งชนะ นางไม่เข้าใจ

บทที่ 1 พบเจอกัน

รถม้าสกุลจางของเสนาบดีฝ่ายซ้ายจอดเทียบอยู่หน้าประตูวัง กำแพงสีแดงตรงหน้าทำให้ “จางเวยหรง” บุตรีคนโตของเสนาบดีจางจงฉีที่อายุเพียงแปดขวบ รู้สึกตื่นเต้นกับการเข้าวังครั้งแรก

“อย่าลืมรักษามารยาท” ฮูหยินม่าน ผู้เป็นมารดาเอ่ยตักเตือนบุตรี ทำให้เวยหรงที่ยิ้มปากกว้างรีบหุบปาก แล้วทำตัวเรียบร้อยด้วยเพราะกลัวจะไม่ได้เข้าวังแม้ว่าจะอยู่ตรงหน้าประตูแล้วก็ตาม

ผู้เป็นมารดาสำรวจเสื้อผ้าผู้เป็นสามี แล้วหันมาจัดเสื้อผ้าให้บุตรีก่อนจะลงจากรถม้า “วันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองวันครบรอบวันประสูติไทเฮา ขุนนางและฮูหยินมีตำแหน่งมากมายล้วนเข้าวัง เจ้าต้องรักษามารยาทให้ดี ติดตามแม่อย่าให้ห่าง เข้าใจหรือไม่อาเวย”

“เจ้าค่ะ ท่านแม่” เพราะความอยากเข้าไปดูในวังมาหลายวัน จึงทำให้เด็กน้อยที่แสนซุกซน และไม่ชอบความระเบียบวินัยกลับรับคำอย่างง่ายดาย จนคนเป็นแม่อดค้อนใส่เสียไม่ได้ สายตาก็เหมือนคาดโทษเอาไว้หากนางคิดทำผิดคำพูด

เด็กน้อยเดินตามบิดามารดาเข้าไปด้านในวัง เดินผ่านอุทยานไปจนถึงท้องพระโรงขนาดใหญ่ มารดาของนางก็ขอแยกตัวไปเข้าเฝ้าไทเฮาอีกตำหนักหนึ่ง

เวยหรงเดินตามผู้เป็นมารดาจนเหนื่อย เพราะวังหลวงไม่ได้มีแค่ตำหนักสองตำหนัก กว่าจะถึงตำหนักของไทเฮาก็เล่นเอาขาสั้นๆ ของนางแทบทรุดลงพื้น

แต่... เพราะกลัวเสียมารยาท นางก็เลยยืนขาแข็ง แล้วรีบตามมารดาไปคำนับถวายพระพรไทเฮา ยามที่เงยหน้าขึ้นมองไทเฮานั้นนางก็ประหลาดใจ ด้วยพระพักตร์นั้นยังงดงาม ได้ยินมาว่าปีนี้ไทเฮามีอายุสี่สิบพรรษา

มีฮ่องเต้ที่อายุยี่สิบห้าพรรษา และฮ่องเต้ก็มีบุตรชายทั้งหมดแปดคน บุตรีอีกสามคน คนโตตอนนี้อายุเพียงสิบขวบซึ่งจะได้เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์คนต่อไป มีนามว่า “อ๋องซือหยาง” เพียงแต่ได้ยินมาว่าตั้งแต่เล็กจนโตนั้นกลับมีร่างกายที่อ่อนแอ และขี้โรค จึงทำให้ขุนนางคิดจะเปลี่ยนกฎอยู่บ่อยครั้ง หากแต่เพราะมีบิดาของนางคอยขัดขวาง จึงทำให้ขุนนางท่านอื่นไม่กล้าเหิมเกริมมาก เพราะเป็นเช่นนี้ฮ่องเต้จึงเกรงใจบิดาของนางถึงสามส่วน มีสิ่งใดก็เรียกหา และปรึกษา

นางจึงไม่ค่อยได้เจอบิดาบ่อยนัก ทุกวันก็อยู่กับมารดาเพียงสองคน ดังนั้น หากให้นางกลัวระหว่างคำสั่งมารดากับคำสั่งบิดา นางก็จะตอบว่านางกลัวอย่างหลัง

ดังนั้น ในตอนนี้บิดานางไม่ได้สั่งว่าให้อยู่นิ่งๆ ร่างเล็กก็เลยอาศัยตอนที่มารดากำลังคุยกับไทเฮาถูกคอนั้นคืบคลานแอบออกไปทีละนิด ก่อนจะหลุดพ้นจากกลุ่มคนพวกนั้น เท้าน้อยเดินไปด้านในตำหนัก เพราะเคยได้ยินว่าอุทยานของไทเฮานั้นสวยงามราวกับอยู่บนสรวงสวรรค์แม้แต่ชั้นเซียนก็เทียบไม่ได้ ในเมื่อเข้าวังมาแล้ว นางก็ต้องขอเห็นด้วยตา

เท้าน้อยวิ่งมาจนถึงอุทยานด้านหลังก็พบกับน้ำตกขนาดใหญ่ มีสระน้ำที่เต็มไปด้วยดอกบัวสีชมพูเต็มสระ ปลาตัวใหญ่กำลังแหวกว่ายไปมา อีกทั้งดอกไม้พืชพรรณต่างๆ ก็ล้วนออกดอกบานสะพรั่ง นางคิดว่าอุทยานด้านนอกงามแล้ว มาเจอด้านหลังของตำหนักเรียกได้ว่าเทียบไม่ติด

เด็กน้อยรีบวิ่งไปดูดอกไม้แปลกตา ไม่ว่าจะดอกไม้สีเหลืองขนาดใหญ่เท่าศีรษะนาง หรือจะดอกไม้สีม่วงที่ห้อยเป็นพวงขนาดใหญ่ ดอกไม้ที่มีลักษณะเหมือนนก วิ่งเล่นดูจนถึงริมสระ พอเหนื่อยก็คิดจะนั่งพักเสียหน่อย

แต่ไม่ทันได้แตะพื้นก็มีเสียง

ตู้ม!! นางหันมองไปทางสระบัว ก็พบว่ามีคนตกน้ำ ด้วยความตกใจนางก็รีบวิ่งออกจากศาลาไปที่ริมสระบัวแล้วกระโดดลงไปทันที

นางลืมเรื่องรักษามารยาท นางลืมเรื่องที่รับปากท่านแม่เอาไว้ ด้วยเพราะนางไม่อาจปล่อยให้คนจมน้ำต่อหน้าได้

ร่างเล็กแหวกว่ายเข้าไปจนถึงตัว ก็พบว่าคนที่กำลังจมน้ำนั้นเป็นเด็กชาย ร่างกายนั้นผอมบาง และดูเหมือนตัวเล็กกว่านางเสียอีก

“ช่วยด้วย มีคนตกน้ำ” เสียงด้านบนบกดังขึ้น เหมือนมีนางกำนัลมาพบแล้ว จากนั้นก็มีความวุ่นวายเกิดขึ้น

เวยหรงไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้นางถึงตัวเด็กชายตัวเล็กคนนั้นแล้ว มือนางรีบคว้าแขนเขาเอาไว้ แต่เพราะความกลัวทำให้เด็กชายกระชากนางลงไปด้านล่าง

“อาเวย” นั่นเป็นเสียงมารดานาง น้ำเสียงตกใจ และกระวนกระวายนั้นบอกว่านางต้องโดนลงโทษแน่นอน

แต่ตอนนี้นางต้องเอาตัวเองให้รอดเสียก่อน เวยหรงไม่ได้ยินเสียงคนกระโดดลงน้ำมาเพิ่ม เพราะตอนนี้นางกำลังกอดคอ ไม่สิ ลากคอคนที่จะกดนางลงน้ำไปใกล้ฝั่งให้มากที่สุด

โชคดีที่มีทหารวังมาช่วยรับไม้ต่อ นางก็ว่ายเข้าฝั่งแล้วขึ้นไปนั่งหอบอยู่บนบก มองทุกคนที่กำลังรุมเด็กชายคนนั้นอยู่ แล้วก็มีเสียงหนึ่งเรียกชื่อเขา

“ซือหยางหลานย่า ใครก็ได้รีบไปตามหมอหลวงที”

ที่แท้คนที่นางช่วยก็คืออ๋องซือหยาง บุรุษที่เขาร่ำลือกัน ตอนแรกนางก็ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้จนได้มาเห็นด้วยตา เด็กชายตรงหน้าอายุมากกว่านางสองปี แต่ร่างกายกลับเล็กกว่าด้วยซ้ำ

ในระหว่างคนที่กำลังวุ่นวายนั้น เด็กชายก็ได้สติ ดวงตาหรี่เล็กหันมองเด็กหญิงที่กำลังนั่งสั่นเทา มีมารดาโอบกอด และร้องไห้ไม่หยุดอยู่ข้างกาย

เวยหรงไม่ได้สนใจมารดา แต่หันมองเขาแล้วพูดว่า

“ข้าเสี่ยงช่วยชีวิตท่านเอาไว้ ดังนั้นท่านจะต้องมีชีวิตต่อให้ยืนยาวเพื่อตอบแทนข้า”

นั่นถึงจะคุ้มกับการช่วยเขาในครั้งนี้ ส่วนต่อจากนั้นเรื่องราวเป็นอย่างไรนางก็ไม่เคยคิดจะสนใจอีก...

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ จิรัฐติกาล

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

บุตรเช่นข้า หาได้ต้องการบิดาเช่นท่าน

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

ลิขิตรักภรรยาตัวร้าย

จิ้งจอกสะท้านหม้อไฟ
5.0

เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

ที่แท้เป็นคุณหนูตัวจริง

Nadia Lada
5.0

เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"

เมียผมน่ารักจัง

เมียผมน่ารักจัง

Penn Tofallis
5.0

กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

ไม่เป็นทาสรักอีกต่อไป

Frannie Bettuzzi
5.0

คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ