Login to MeghaBook
icon 0
icon เติมเงิน
rightIcon
icon ประวัติการอ่าน
rightIcon
icon ออกจากระบบ
rightIcon
icon ดาวน์โหลดแอป
rightIcon
ยอดดวงใจแม่ทัพกลับเป็นคู่หมายองค์ชายรอง

ยอดดวงใจแม่ทัพกลับเป็นคู่หมายองค์ชายรอง

ธีรเธียร

5.0
ความคิดเห็น
3.6K
ชม
25
บท

ความรักแท้จริงที่สามารถเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างได้ด้วยความเชื่อมั่นและความเสียสละจริงเหรอ? การต่อสู้เพื่อความรัก หรือการยอมรับในชะตากรรมที่ถูกลิขิตจากสวรรค์ สิ่งใดกันคือเส้นทางรักที่ข้าควรเลือก?

บทที่ 1 บุปผาแย้มบานในยามที่เหมาะสม

ในยามเช้าที่หมอกบางเบาแผ่คลุมเหนือยอดเขา ดวงตะวันเริ่มเผยแสงแรกของวัน ลอดผ่านม่านหมอกและเมฆขาวที่ล่องลอยเหนือสวนบุปผา จวนของตระกูลไป๋ตั้งตระหง่านในนครลั่วหยางเป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและอำนาจ ความโอ่อ่าของจวนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่กำแพงหินสูงที่ถูกแกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรบรรจง แต่ยังรวมถึงสวนดอกไม้ที่ล้อมรอบด้วยสระน้ำใส สะท้อนภาพของศาลาทรงเก๋งจีนที่ตั้งอยู่กลางน้ำ

ในจวนนี้เอง “ไป๋เสวี่ยหนี่” บุตรสาวของขุนนางใหญ่ เป็นที่เลื่องลือในความงามของนาง ผู้คนต่างกล่าวขานว่านางงามยิ่งกว่าดอกเหมยที่ผลิบานกลางฤดูหนาว และนางยังเป็นหญิงสาวที่มีความสามารถทั้งในด้านกวีนิพนธ์และดนตรี ผู้ชายหนุ่มทั่วทั้งนครต่างหลงรักในความงามและคุณสมบัติของนาง ทุกวันนางจะได้รับจดหมายรักมากมายจากเหล่าบุรุษที่หมายปอง แต่ไม่มีใครสักคนที่สามารถเข้าไปถึงหัวใจของนางได้

ภายในห้องบรรทมอันหรูหราของเสวี่ยหนี่ ผ้าม่านผืนยาวปักลายหงส์และมังกรพลิ้วไหวไปตามสายลมเย็น เงาของดอกเหมยที่ผลิบานในสวนทอดผ่านหน้าต่างเข้ามาเป็นลายเงาบนพื้นไม้ขัดมัน ทว่านางกลับยืนอยู่เพียงลำพัง ใบหน้าของเสวี่ยหนี่ที่สวยงามดั่งภาพวาดดูนิ่งสงบแต่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ดวงตาคู่นั้นมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อลอย นางมิได้ยินเสียงขับกล่อมของนกในสวน มิได้ชื่นชมความงามของดอกไม้รอบตัว แต่กลับรู้สึกเหมือนถูกพันธนาการด้วยกรงทองคำที่ยิ่งใหญ่แต่ไร้ซึ่งอิสรภาพ

แม้เสวี่ยหนี่จะมีทุกสิ่งที่หญิงสาวพึงปรารถนา แต่หัวใจของนางกลับว่างเปล่า ดั่งทะเลทรายที่กว้างใหญ่ไม่มีสิ้นสุด ในห้วงคิดนั้น นางถามตัวเองซ้ำๆ ว่าความสุขที่แท้จริงคือสิ่งใด สิ่งที่นางได้รับคือความรักที่ห้อมล้อมจากคนที่นางไม่เคยรู้จักอย่างแท้จริง ความรักที่ไม่ได้มาเพราะตัวตนของนาง แต่เป็นเพราะนางเป็น “ไป๋เสวี่ยหนี่” บุตรสาวของขุนนางใหญ่ที่ถูกจับจ้องในฐานะทรัพย์สินอันล้ำค่ามากกว่าคนที่มีจิตใจ

ยิ่งคิดถึงอนาคตที่ถูกกำหนดไว้ ความรู้สึกโศกเศร้าของเสวี่ยหนี่ก็ยิ่งลึกซึ้ง นางรู้ดีว่าวันหนึ่งนางจะต้องแต่งงานกับชายที่พ่อเลือกให้ โดยที่หัวใจของนางไม่เคยได้มีส่วนเลือกเลยสักครั้ง ดั่งดอกเหมยที่เบ่งบานกลางฤดูหนาว แม้จะงดงามเพียงใด ก็ต้องทนต่อความหนาวเหน็บเพียงลำพัง ไม่มีผู้ใดเข้าใจถึงความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ในดวงใจของนาง

ไป๋เสวี่ยหนี่ถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะหันกลับมาจากหน้าต่าง สายตาที่เคยเฉยชากลับเปลี่ยนเป็นเด็ดเดี่ยว นางรู้ดีว่าชะตากรรมที่ถูกลิขิตไว้นั้นไม่อาจหลีกหนี แต่ในส่วนลึกของหัวใจ นางยังคงมีความหวังเล็ก ๆ ว่าสักวันหนึ่ง ความรักที่แท้จริงอาจมาถึง แม้ต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม

ไป๋เสวี่ยหนี่ทิ้งตัวลงบนเตียงผ้าไหมที่ถูกปูอย่างพิถีพิถัน สีหน้าแสนเศร้าปรากฏชัดบนใบหน้าของนาง ขณะที่มือเรียวของนางลูบไล้ไปบนผ้าห่มที่ปักด้วยลวดลายดอกไม้ประณีต นางรู้สึกถึงความหนาวเย็นที่ไม่สามารถคลายออกได้ แม้จะห่อหุ้มด้วยความหรูหรารอบกาย ความเบื่อหน่ายและท้อแท้ในชีวิตที่ถูกตีกรอบไว้อย่างแน่นหนาทำให้นางรู้สึกเหมือนถูกกักขังอยู่ในกรงทองคำที่ไร้ประตูทางออก

ในจังหวะนั้น ประตูไม้แกะสลักก็เปิดออกเบา ๆ หญิงวัยกลางคนที่มีใบหน้าสงบนิ่งแต่แฝงไปด้วยความเมตตาเดินเข้ามา "แม่นมหลิน" ผู้เป็นพี่เลี้ยงคนสนิทของเสวี่ยหนี่ ตั้งแต่ยังเยาว์วัย นางเป็นมากกว่าพี่เลี้ยง นางคือผู้ที่เสวี่ยหนี่สามารถพูดคุยและระบายความรู้สึกได้เสมอ

"คุณหนูเจ้าคะ ท่านเป็นอะไรรึเปล่า ข้าสังเกตเห็นว่าท่านดูเหม่อลอยมาหลายวันแล้ว" แม่นมหลินถามอย่างอ่อนโยน พร้อมเดินเข้ามานั่งใกล้ๆ

เสวี่ยหนี่มองแม่นมหลินด้วยสายตาอ่อนล้า นางถอนหายใจยาวก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา "แม่นม... ข้าเหนื่อยเหลือเกิน ชีวิตนี้ดูเหมือนจะมีทุกอย่าง แต่ข้ากลับรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรเลย ข้าอยู่ในจวนที่งดงาม มีผู้คนล้อมรอบ แต่ทำไม... ทำไมข้าถึงรู้สึกว่างเปล่าเช่นนี้?"

แม่นมหลินมองเสวี่ยหนี่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความห่วงใย "คุณหนู ความรู้สึกเช่นนี้มิได้ผิดหรือประหลาดแต่อย่างใด ท่านเป็นหญิงสาวที่มีหัวใจอ่อนโยนและลึกซึ้ง การที่ท่านรู้สึกเช่นนี้เป็นเพราะท่านยังไม่พบสิ่งที่หัวใจของท่านต้องการอย่างแท้จริง"

เสวี่ยหนี่ฟังคำพูดนั้นและรู้สึกว่ามันกระทบใจของนางอย่างลึกซึ้ง นางหลุบตาลง มือของนางเริ่มกำผ้าห่มในมือแน่นขึ้น

"แต่ข้าจะทำเช่นไรได้ ในเมื่อชะตาชีวิตของข้าไม่ได้เป็นของข้าเอง ข้าไม่มีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเอง ทุกอย่างถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ว่าข้าจะปรารถนาอะไร มันก็เป็นเพียงความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง"

แม่นมหลินยิ้มอย่างอ่อนโยนและเอื้อมมือมาจับมือของเสวี่ยหนี่ "คุณหนู ข้ารู้ว่าท่านมีความรู้สึกที่หนักอึ้งในใจ แต่ข้าอยากให้ท่านรู้ว่าชีวิตนั้นมิได้มีเพียงกรอบที่เราต้องยอมรับเสมอไป บางครั้งทางออกอาจอยู่ที่การเปิดใจรับสิ่งใหม่ ๆ หรือการกล้าหาญพอที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงและสร้างชะตากรรมของตัวเอง"

เสวี่ยหนี่มองแม่นมหลินด้วยความสับสนและความหวังที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในใจ นางไม่แน่ใจว่าคำพูดของแม่นมหลินหมายถึงอะไร แต่คำแนะนำนี้ทำให้นางรู้สึกว่าในโลกที่ดูเหมือนจะปิดกั้นทุกสิ่ง อาจยังมีทางออกที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน

“ท่านคิดว่าข้า... ควรทำอย่างไรดี แม่นม?”

แม่นมหลินบีบมือของเสวี่ยหนี่เบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "ท่านต้องเริ่มต้นด้วยการฟังเสียงหัวใจของตัวเอง ข้าเชื่อว่าถ้าท่านตามหัวใจของตัวเอง ท่านจะพบคำตอบที่ท่านกำลังมองหา และเมื่อถึงเวลานั้น ข้าเชื่อว่าท่านจะสามารถเปลี่ยนชะตากรรมของตัวเองได้"

คำพูดนั้นทำให้เสวี่ยหนี่เงียบไปครู่หนึ่ง นางรู้สึกถึงความกล้าที่เริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อยในใจ แม้จะยังไม่แน่ใจว่านางจะทำเช่นไร แต่หัวใจของนางบอกว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งใหม่ที่นางเฝ้ารอมาตลอดชีวิต

ทันใดนั้น แววตาของไป๋เสวี่ยหนี่ก็เปลี่ยนไป ดั่งมีประกายแห่งความคิดสว่างวาบขึ้นในใจ นางค่อย ๆ ผุดลุกจากเตียงด้วยท่าทางที่สง่างาม ดวงตาที่เคยหม่นหมองกลับส่องประกายความมุ่งมั่นเล็กน้อย ริมฝีปากบางเผยรอยยิ้มอ่อนโยนขณะนางหันมาทางแม่นมหลิน

"แม่นม ข้าอยากออกไปที่สวนเก็บดอกไม้กับท่านเจ้าค่ะ" เสวี่ยหนี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สดใสขึ้น "ข้าคิดว่าเราน่าจะนำดอกไม้เหล่านั้นมาทำอบร่ำ เผื่อกลิ่นหอมของมันจะช่วยให้ข้ารู้สึกดีขึ้นบ้าง"

แม่นมหลินมองเสวี่ยหนี่ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็ดีใจที่เห็นคุณหนูของนางกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง "เป็นความคิดที่ดีเจ้าค่ะคุณหนู ดอกไม้ในสวนนี้งดงามแล้วยังมีกลิ่นหอมชื่นใจอีกด้วย อาจจะช่วยคลายความเศร้าหมองในใจของคุณหนูได้"

ทั้งสองจึงเดินออกไปยังสวนดอกไม้ที่ตั้งอยู่ด้านหลังของจวน เสวี่ยหนี่สูดหายใจลึกเมื่อเท้าเปลือยเปล่าของนางสัมผัสกับหญ้าเขียวชอุ่ม ความสดชื่นของอากาศยามเช้าทำให้นางรู้สึกผ่อนคลายลงบ้าง ดอกเหมยที่ผลิบานสะพรั่งอยู่ทั่วสวนส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ปกคลุมไปทั่วทุกอณูของสวน

เสวี่ยหนี่และแม่นมหลินเดินเคียงข้างกันผ่านสวนที่เต็มไปด้วยสีสันของดอกไม้หลากหลายชนิด มือเรียวของเสวี่ยหนี่ค่อยๆ เอื้อมไปเด็ดดอกเหมยสีขาวนวลที่บานอยู่บนกิ่งอย่างระมัดระวัง นางรู้สึกถึงความนุ่มนวลของกลีบดอกในมือ รอยยิ้มที่แท้จริงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนางเป็นครั้งแรกในหลายวัน

"ดอกเหมยเหล่านี้ช่างงดงามนัก แม่นม ข้ารู้สึกว่ากลิ่นหอมของมันสามารถชำระล้างความทุกข์ในใจได้" เสวี่ยหนี่พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน

แม่นมหลินพยักหน้าและยิ้มอย่างอ่อนโยน "ดอกไม้ก็เหมือนหัวใจของเรานั่นแหละเจ้าค่ะ คุณหนู มันผลิบานเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และกลิ่นหอมของมันจะนำความสดชื่นมาสู่ใจของผู้ที่เปิดใจรับ"

เสวี่ยหนี่เก็บดอกไม้ไปพลาง คุยกับแม่นมหลินไปพลาง นางรู้สึกว่าการได้ใช้เวลาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติและทำสิ่งที่เรียบง่ายเช่นนี้ทำให้นางลืมความกังวลที่ถาโถมเข้ามาในจิตใจได้ชั่วคราว นางหวังว่ากลิ่นหอมของดอกไม้ที่นางเก็บมานี้ เมื่ออบร่ำแล้ว จะช่วยนำพาความสงบสุขมาสู่จิตใจที่เคยว้าวุ่นของนาง

เมื่อดอกไม้ในตะกร้าเริ่มเต็ม เสวี่ยหนี่หันมามองแม่นมหลินพร้อมกับรอยยิ้มที่อ่อนโยนและมีความสุข

"ขอบคุณท่านนะ แม่นม ขอบคุณที่ท่านคอยให้คำปรึกษาและรับฟังข้าเสมอ ตอนนี้ข้ารู้สึกดีขึ้นมากแล้ว"

แม่นมหลินหัวเราะเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู "ข้าดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของคุณหนูอีกครั้งเจ้าค่ะ ท่านดูงดงามที่สุดเมื่อท่านยิ้ม ข้าเชื่อว่าความสุขของท่านจะต้องกลับมาสู่ใจของท่านในไม่ช้านี้"

เสวี่ยหนี่รู้สึกอุ่นใจที่มีแม่นมหลินอยู่เคียงข้าง และนางก็สัญญากับตัวเองว่าจะพยายามค้นหาความสุขที่แท้จริงในชีวิต..

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ ธีรเธียร

ข้อมูลเพิ่มเติม

หนังสือที่คุณอาจชอบ

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

สามีเป็นถึงเศรษฐีพันล้าน

Davin Howson
5.0

ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

ไฟรักเร่าร้อน NC18++

Me'JinJin
4.9

คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"

โชคชะตาของพระชายา

โชคชะตาของพระชายา

Raff Madison
3.8

ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"

กู๊ดบาย นายสุดที่รัก

กู๊ดบาย นายสุดที่รัก

Glad Rarus
5.0

หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล

ขอโอกาสอีกครั้ง

ขอโอกาสอีกครั้ง

Arny Gallucio
5.0

หลังจากเมา เธอก็ได้รู้จักกับคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง เธอต้องการความช่วยเหลือจากเขา ส่วนเขาหลงเสน่ห์รูปร่างที่ดีและความสวยงามของเธอ พอเวลาผ่านไป เธอก็ตระหนักได้ว่าเขามีคนอยู่ในใจแล้ว เมื่อรักแรกของเขากลับมา เขาก็ไม่ค่อยได้กลับบ้าน แต่ละคืนเหวินม่านอยู่ในห้องว่างเปล่าด้วยคนเดียว แต่สุดท้ายแล้ว สิ่งที่เธอได้รับมาก็มีแต่เช็คใบหนึ่งและคำกล่าวลาเท่านั้น เดิมทีคิดว่าเธอจะร้องไห้โวยวาย แต่ไม่คาดคิดว่าเธอหยิบใบเช็คแล้วจากไปอย่างไม่ลังเล: "คุณฮั่ว ลาก่อน!"... พอพบกันอีกครั้ง เธอก็มีคนอยู่ข้างกายแล้ว เขาพูดด้วยตาแดงก่ำ: "เหวินม่าน ผมคบกับคุณมาก่อนนะ" เหวินม่านยิ้มเบา ๆ แล้วพูดว่า "ทนายฮั่ว คนที่บอกเลิก นั่นคือคุณเองนะ! ถ้าอยากจะเดทกับฉัน คุณต้องต่อคิว..." วันถัดมา เธอได้รับเงินโอนหนึ่งแสนล้านพร้อมแหวนเพชร ทนายฮั่วคุกเข่าข้างหนึ่ง: "คุณเหวิน ผมอยากจะแทรกคิว"

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

ซูเจิน นายหญิงแห่งพฤกษา

l3oonm@
5.0

“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ
ยอดดวงใจแม่ทัพกลับเป็นคู่หมายองค์ชายรอง
1

บทที่ 1 บุปผาแย้มบานในยามที่เหมาะสม

01/10/2024

2

บทที่ 2 โปรดชื่นชมพรหมลิขิต

02/10/2024

3

บทที่ 3 ไม่คาดคิดว่าจะรวดเร็วปานสายฟ้าฟาด

03/10/2024

4

บทที่ 4 ปราศจากการเตรียมใจ

04/10/2024

5

บทที่ 5 จำต้องไปแม้ใจไม่ต้องการ

05/10/2024

6

บทที่ 6 พิธีการสานสัมพันธ์

06/10/2024

7

บทที่ 7 บางวันฟ้าก็กลั่นแกล้ง

07/10/2024

8

บทที่ 8 อย่าแสดงความรู้สึก

08/10/2024

9

บทที่ 9 ตรึกตรองพระราชสาส์น

09/10/2024

10

บทที่ 10 บ้านของใจอยู่ที่ใด

10/10/2024

11

บทที่ 11 ถึงไหนถึงกัน

11/10/2024

12

บทที่ 12 หัวใจต้องพันธนาการ

11/10/2024

13

บทที่ 13 ผันผ่านประดุจสายธารา

11/10/2024

14

บทที่ 14 โปรดอย่ามาให้เจออีกเลย

11/10/2024

15

บทที่ 15 ความเฉยชาคือคำตอบ

11/10/2024

16

บทที่ 16 ขอบคุณความอ่อนโยน

11/10/2024

17

บทที่ 17 โชกโชนหรือไร้เดียงสา

11/10/2024

18

บทที่ 18 สืบหาความจริงในสิ่งที่เรียกว่าความลับ

11/10/2024

19

บทที่ 19 กลับตัวก็ไม่ได้ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง

11/10/2024

20

บทที่ 20 โปรดอย่าดึงดันในวันที่ไม่เป็นใจ

11/10/2024

21

บทที่ 21 เหมือนหลับฝันไปแล้วตื่นมาพบความจริง

11/10/2024

22

บทที่ 22 ต้องทิ้งบางสิ่งไว้ข้างหลัง

11/10/2024

23

บทที่ 23 ยังไม่พร้อมแต่ต้องไปต่อ

11/10/2024

24

บทที่ 24 โปรดอย่ารอความไม่แน่นอน

11/10/2024

25

บทที่ 25 ก่อนทุกอย่างจะจบลง

11/10/2024