ลูกเสือของสายหมอก

ลูกเสือของสายหมอก

Crying

5.0
ความคิดเห็น
278
ชม
13
บท

เธอเกลียดฉัน เราไม่ชอบหน้ากัน แล้วเราจะทำงานร่วมกันได้ยังไง

บทที่ 1 เสืออกหัก

“ฝากดูแลน้องด้วยนะ” สิ้นเสียงไอ้แพนก็พาคิตตี้กลับไป ฉันได้แต่ทำหน้าลำบากใจอยู่กับตัวเอง ฉัน ‘หมอก’ หรือจะเรียกสายหมอกก็ได้ถ้าไม่ลำบาก ถึงอย่างนั้นเพื่อนๆ ก็จะถนัดเรียกแค่หมอกมากกว่า ที่ทำหน้าลำบากใจอยู่คนเดียวที่ลานจอดรถนี่ก็เพราะไอ้แพนเพื่อนตัวดีมันพาสาวกลับไปแล้ว ไม่คิดจะสนใจคนที่ชอบมันอย่างพรีมเลย

เมื่อเดินกลับเข้ามาในผับ แสงสีเสียงก็แทบทำให้หูหนวกตาบอด แต่แล้วเมื่อมองดีๆ ก็จะเห็นร่างเล็กในชุดเดรสสีแดงนั่งดื่มอยู่คนเดียวได้ไม่ยาก

“พรีม เมาแล้วนะ” ฉันเดินเข้าไปเอ่ยกับเธออย่างเป็นห่วง เราเป็นคู่กัดกันก็จริงแต่เธอก็เป็นน้องของเพื่อนสนิทอย่างไอ้เฟย์ด้วย จะให้ปล่อยปละละเลยคงทำไม่ได้

“จะมายุ่งอะไร” เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลอ่อนหันขวับมาพูดด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร ฉันไม่ได้อยากยุ่งแต่มันปล่อยไว้ไม่ได้ ไม่เข้าใจกันบ้างหรือไง หันหน้าไปกวาดสายตาที่ฟลอร์เต้นก็เห็นว่าไอ้เฟย์กลับไปแล้ว นี่มันเองไม่ห่วงน้องที่อยู่คนเดียวหรือไม่ทันสังเกตว่าน้องมันมาด้วย ไม่สิ รายนั้นเมาแล้วแหงๆ ถึงได้กลับไปโดยไม่บอกใคร

“ก็ไม่ได้อยากยุ่งนะ แค่เห็นคนเมาแถวนี้แล้วเวทนา” เมื่อว่าไปแบบนั้นคนร่างเล็กก็ตวัดสายตามามองตาขวางอีกหน

“เห็นพี่แพนไหม” คำถามของเธอทำเอาพูดไม่ออก ไอ้แพนมันกลับห้องกับคิตตี้ไปแล้ว แล้วเคมีระหว่างทั้งสองก็เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่สายตาเพื่อนทั้งกลุ่ม ใครเห็นก็ดูออกว่าชอบกัน คนที่ยังทำเหมือนดูไม่ออกและปิดหูปิดตาตัวเองไว้ก็เห็นจะมีแต่พรีม

“มันกลับไปแล้ว” ฉันถือวิสาสะนั่งลงตรงข้ามเธอ เทเหล้ากินอย่างไม่มียางอาย ขอบคุณนะสำหรับเหล้าฟรี อุตส่าห์อยู่ดูแลทั้งทีก็ให้กำไรฉันบ้างเถอะ

“ทำไมต้องเป็นผู้หญิงคนนั้นด้วย” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเมามาย ฉันมองหน้าเธอด้วยสายตาสงสาร เธอแอบชอบไอ้แพนมานานจนถึงขั้นยอมลงทุนซิ่ว เสียเวลาชีวิตไปหนึ่งปี แต่แล้วก็ถูกตอบแทนด้วยการเห็นไอ้แพนอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ถึงอย่างนั้นความรักมันก็บังคับกันไม่ได้

“เลิกชอบมันได้แล้ว”

“มันง่ายมากมั้ง” ร่างเล็กตบโต๊ะดัง‘ปึง’ ฉันถอนหายใจเบาๆ ก็เจ้าหล่อนเมาจนไม่สนใจว่าฉันเป็นคู่กัดแบบนี้ จะให้ไปกวนตีนก็สงสารคนอกหัก

“จะกลับบ้านไหม” เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลส่ายหน้า ฉันเองก็ขมวดคิ้ว ถ้าไม่กลับบ้านแล้วหล่อนจะไปนอนที่ไหน ยัยเสือจรจัด

“กินขนาดนั้นเดี๋ยวก็ร่วงหรอก” ฉันเอ่ยเมื่อเห็นเธอกระดกเหล้าเข้าปากเหมือนน้ำเปล่า มือเรียวคว้าแก้วเหล้าออกแต่พรีมก็ยังดื้อดึง จนฉันต้องออกแรงเล็กน้อยเพื่อให้เธอละความพยายาม

“เอาคืนมาา” น้ำเสียงที่เริ่มยานคางบอกฉันได้เป็นอย่างดีว่าคนตรงหน้าเมาแค่ไหน ไอ้เมาน่ะไม่ว่าหรอก แต่ช่วยไปเมาในที่ปลอดภัยกว่านี้หน่อยได้ไหม

“พี่แพน..” ร่างบางว่าแล้วก็ก้มหน้า ทำให้ฉันเดินไปประคองเธอให้ลุกยืนขึ้น ฉันต้องพาเธอกลับบ้าน

“ไอ้แพนไม่อยู่ที่นี่” ฉันกล่าวน้ำเสียงเด็ดขาด แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นน้ำตาของคนตัวเล็กร่วงหล่นลงมา

“พรีม.. ร้องไห้ทำไม ใครทำอะไรพรีม” ฉันกล่าวด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ถูกยัยเสือสาวผลักออกอย่างไม่ใยดี

“พี่แพน” เธอกล่าวแบบนั้นฉันเองก็ทำอะไรไม่ได้ ไอ้แพนไม่ได้อยู่ที่นี่และป่านนี้มันก็คงดูแลคิตตี้อยู่ ตรงนี้มีแต่ฉันที่เป็นห่วงเธอก็เท่านั้น

ผับเปิดเพลงอกหักอย่างพอเหมาะพอเจาะ ยิ่งทำให้คนตัวเล็กร้องไห้สะอื้นหนักกว่าเดิม ฉันเดินเข้าไปกอดเธออีกครั้ง เธอเองก็เมาจนอาจจะลืมไปแล้วว่าพวกเราเป็นคู่กัดกัน ถึงได้ยืนกอดฉันร้องไห้อย่างน่าสงสาร

“ทำไมพี่แพนต้องเลือกคนนั้นด้วย พรีมรักพี่แพน รักมาตั้งนาน” น้ำเสียงหวานปนเสียงสะอื้น ทำให้ฉันกอดเธอแน่นกว่าเดิม เธอที่เมาขนาดนี้ต้องเป็นภาระที่ฉันคอยดูแลอย่างช่วยไม่ได้ จะรู้ไหมนะว่าตัวเองน่ะไม่เหมาะกับน้ำตา เธอควรสวมมาดพญาเสือแล้วด่ากราดไม่ใช่ร้องไห้เพราะความรักแบบนี้

ฉันพาร่างของพรีมมาถึงลานจอดรถอย่างทุลักทุเลเพราะคนเมายิ่งอยากดื่มเหล้ามากขึ้นไปอีก จนต้องบอกว่าในห้องฉันมีโซจูอยู่เธอถึงยอมมาที่คอนโดกับฉัน ประคองคนตัวเล็กไว้แล้วก็รูดคีย์การ์ดอย่างลำบาก ยัยคนนี้เล่นทิ้งตัวลงในอ้อมกอดของฉันแบบนี้ ดีนะที่ฉันแข็งแรง

“พรีม เข้าห้องก่อน” ฉันว่าก่อนอุ้มเธอเข้าไปวางที่โซฟา ก่อนที่จะเดินมาปิดประตูย้อนหลัง ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก นี่ฉันต้องดูแลยัยคนปากจัดที่คอยด่าฉันมาตลอดน่ะเหรอ ช่างเป็นโชคชะตาที่โหดร้ายกับสาวน้อยตัวเล็กๆ อย่างไอ้หมอก

“ไหน! เหล้า!” จู่ๆ ร่างบางที่นอนอยู่บนโซฟาก็เด้งตัวขึ้นมาถามหาเหล้าเสียงดัง ฉันเองก็จำใจต้องเปิดตู้เย็น ยกโซจูให้เธอไปเลยขวดหนึ่ง สภาพนี้ขวดเดียวก็ร่วงหลับปุ๋ยแล้ว ยังกล้ามีหน้ามาขอกินอีก ไม่เจียมสังขารเลยนะยัยเสือขี้เมา

“อะ” ฉันส่งโซจูให้เธอ แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเธอคว้าแขนเสื้อฉันแล้วดึงไปนั่งข้างๆ เธออย่างใกล้ชิด

“ทำอะไรเนี่ย”

“กินด้วยกัน.. นะ” คำสุดท้ายของพรีมช่างเกินต้านทาน หากเธอว่ามาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนเช่นนี้ฉันจะไปทำอะไรได้ ได้แต่รินโซจูลงแก้วด้วยความลำบากใจ เอ้า กินก็กินวะ ไอ้หมอกสู้ตายเว้ย

“ทำไมถึงชอบไอ้แพนขนาดนั้น” ฉันลอบถามคนเมา เมาขนาดนี้ข้อมูลอะไรก็คงหลุดออกมาบ้างแหละน่า แถมเขาว่ากันว่าคนเมาพูดความจริง ฉันเชื่อมัน

“ก็ใจดี เทคแคร์ น่ารัก ดีกับเราทุกอย่าง” พรีมเอ่ยข้อดีของไอ้แพนออกมาเรื่อยๆ เอ่ยออกมาทีละข้อจนบางทีมันก็ซ้ำกัน แต่เธอดูเหมือนจะไม่รู้ตัวเลย

“—แต่เลือกคนอื่น” เธอจบด้วยประโยคน่าเศร้า ก็ทำให้ฉันส่งมือไปลูบหัวเธอด้วยความเห็นใจ แต่แล้วคนหน้าสวยก็หันมาสบตากัน ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ฉันใจสั่น

“ใจดีแบบนี้แหละ” นี่ฉันเผลอทำอะไรสวมรอยไอ้แพนไปหรือเปล่า ถึงมันจะเป็นคนดีมาก แต่ในเวลานี้ฉันไม่อยากเป็นตัวแทนของมันเลย ขอโทษทีนะเพื่อน

“พูดมาก กิน!” ฉันเอามือออกจากหัวเธอด้วยความรู้สึกติดขัดในใจ จำใจรินโซจูให้เธอ พร้อมมิกซ์มันอย่างเคยจนเธอเองก็ยกดื่มอย่างสบาย

“เฮ้ย อย่าอ้วกตรงนี้นะ” ฉันว่าเมื่อเธอทำท่าจะสำลักแต่แล้วมือเรียวก็ยกปฏิเสธ เธอกลืนเหล้าลงคอแล้วก็วางแก้ว ก่อนจะเอนหัวมาพิงไหล่ฉันอย่างอ่อนแรง

“ผู้หญิงคนนั้น.. เขาดีไหม” เธอว่าอย่างเมามาย ส่วนฉันเองนึกถึงคิตตี้ก็พยักหน้า ตามความจริงแล้วคิตตี้ก็เป็นคนดีคนหนึ่ง จะเรียกว่าคู่มันเหมาะสมกันแล้วก็คงไม่เกินจริง

“ดีกว่าพรีมหรือเปล่า” คำพูดของเธอทำให้ฉันเหลือบไปมอง อะไรแบบนี้มันวัดกันได้ที่ไหน คิตตี้ก็มีดีของคิตตี้ ส่วนเธอเองก็มีดีของเธอ ทำไมคนเราจะต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นด้วย

“จะเปรียบเทียบทำไม” ฉันทิ้งคำพูดให้เธอคิด ก่อนจะเดินไปหยิบโซจูอีกขวดเพื่อกินเอง ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องเป็นไอ้แพนเหมือนกัน ทั้งที่ตอนนี้ฉันเป็นคนดูแลเธออยู่ กลับกลายเป็นเธอคิดถึงแต่เรื่องไอ้แพน

วันนี้กูเกลียดมึงเป็นพิเศษเลยว่ะเพื่อน

“พี่แพน” เธอยังคงพร่ำเพ้อ จากตอนแรกที่คิดว่าจะไม่ดื่ม ฉันเองก็ซัดโซจูอย่างหิวกระหาย ฉันเองก็อยากเมาเหมือนกัน ไม่อยากจำว่าดูแลใครแล้วเขาเรียกชื่อเราเป็นคนอื่น

“พรีม เข้าไปนอนในห้อง” ฉันว่าก่อนพยายามถอดรองเท้าของเธอออก หากเธอไปนอนในห้องฉันเองก็คงได้นอนโซฟา เฮ้อ ทำคุณคนไม่ขึ้นจริงๆ ไอ้หมอกเอ้ย ดูแลเขา เขาก็คิดว่าเป็นคนอื่น

แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ร่างเล็กฉุดฉันขึ้นไปบนโซาอีกครั้งก่อนประกบจูบเข้ามา เมื่อเรียวลิ้นของเราพันกระหวัดกัน ฉันค้นพบว่าตัวเองก็เผลอไผลไปกับจูบรสเมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอร้องไห้น้ำตาไหล แต่ก็ยังคงบดจูบเข้ามาอย่างหิวกระหาย

“อืออ” ได้ยินเสียงครางเล็กน้อยของคนเมาก็ทำให้สติของฉันกระเจิง เธอเมา ฉันเองก็เมา และตอนนี้ฉันก็เมาเกินกว่าจะควบคุมตัวเองได้เช่นกัน

คำพูดของฉันเงียบลงเมื่อริมฝีปากของเธอปะทะกับฉันอีกครั้ง จูบที่เข้มข้นและเร่าร้อน รสชาติจากปากของเธอ ซึ่งเป็นส่วนผสมของความหวาน แอลกอฮอล์และความปรารถนาที่เข้มข้น จุดประกายไฟร้อนในตัวฉัน

ประสาทสัมผัสของฉันก็ถูกปลุกขึ้นมาเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ ชั่วครู่หนึ่ง ขอบเขตระหว่างเราสลายไปเมื่อจูบนั้นลึกซึ้งขึ้น ร่างกายของฉันก็ตอบสนองต่อการสัมผัสของเธอราวกับแมงเม่าในเปลวไฟ

มันเป็นการผสมผสานระหว่างความปรารถนาและความท้าทาย เคมีที่ไม่อาจปฏิเสธได้ซึ่งมักจะร้อนอยู่ใต้ผิวเผิน ในที่สุดก็จุดประกายด้วยความหลงใหลให้แผดเผา

หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดการจูบก็สิ้นสุดลง เราสองคนหายใจไม่ออกและหน้าแดง “นี่คือสิ่งที่ต้องการเหรอ พรีม?” ฉันพึมพำเสียงของฉันแหบแห้งด้วยความพึงพอใจและความต้องการ การพักรบระงับการจูบอันดุเดือดของเราชั่วคราว

แต่ความหลงใหลระหว่างเรายังคงร้อนแรงและไม่หยุดยั้งเช่นเคย การพักรบได้เปลี่ยนเกม แต่ความร้อนแรงแห่งความปรารถนาร่วมกันของเรายังมีอยู่มาก

“พี่แพน..” คำพูดของเธอสะกิดใจฉัน เธอคิดว่าฉันเป็นไอ้แพน แต่ถึงอย่างนั้นความปรารถนาของฉันก็มีมากเกินไปที่จะสนใจ ฉันเอื้อมมือออกไป ดึงเธอเข้ามาใกล้อีกครั้ง แขนของฉันโอบรอบเธออย่างเป็นเจ้าของ

การพักจูบอาจทำให้เราหยุดชั่วคราว แต่แรงดึงดูดระหว่างเรายังคงคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ และราวกับขู่ว่าจะกลืนกินความยับยั้งชั่งใจใดๆ ทั้งหมดไปกับสัมผัสวาบหวาม เมื่อริมฝีปากของเราจูบกันอีกครั้ง ไฟก็ลุกโชนขึ้น

“พี่แพน ฮึก” เสียงสะอื้นของเธอทำให้ฉันหลุดออกจากพะวัง ฉันผละตัวเองออก ยกมือปิดปากแล้วมองเธออย่างไม่เชื่อในตัวเองว่าเผลอจูบกับคนเมาไป หากไอ้เฟย์รู้มันคงเอาฉันตาย แต่ว่าพรีมเองก็อยู่ในห้วงอารมณ์ที่เมามาก

ฉันจึงตัดสินใจอุ้มเธอไปนอนในห้อง จัดการเปิดแอร์ห่มผ้าคลุมร่างกายที่ฉันเกือบจะสัมผัสไปอย่างระมัดระวังตัวมากขึ้น ไม่รู้พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร แค่เธอรู้ว่าคืนนี้พักหลับอยู่ที่ห้องของฉันบ้านคงแตก แถมเรายังคงเป็นคู่ไม้เบื่อไม้เมากัน เธอกับฉันไม่เคยถูกกันสักนิด ถ้าจำได้ว่ามาจูบกับคนอย่างฉัน แค่คิดก็ขนลุกวาบ

ฉันเดินเตรียมผ้าห่มและหมอนออกมานอนที่โซฟาอย่างช่วยไม่ได้ สมองก็พลันคิดไปถึงตอนที่เราจูบกัน รสหวานของโซจูถูกผสมไปด้วยความหวานจากริมฝีปากและลิปสติกหรู เธอจะจำได้ไหมนะ

ยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากตนเองแล้วก็คิดถึงคนในห้องนอนที่ป่านนี้ก็คงหลับปุ๋ยไปแล้ว ฉันลุกไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย ปล่อยจิตใจไปกับสายน้ำให้ตัวเองไม่ฟุ้งซ่าน แต่แล้วมันก็ไม่ได้ผล จูบของเธอยังติดตรึงอยู่ที่ริมฝีปาก

“แม่งเอ๊ย พรีม” ฉันบ่นออกมาอย่างเสียไม่ได้ จากที่คอยดูแลเธอ เรื่องราวมันกลับกลายเป็นแบบนั้นไปได้ยังไง ถ้าไอ้เฟย์รู้ว่าฉันเผลอไปจูบน้องมันมีแต่ตายกับตาย เรื่องความหวงน้องของไอ้เฟย์เพื่อนทุกคนในกลุ่มรู้ดี และเพราะมันไม่อยากให้พรีมเจ็บไปมากกว่านี้ถึงให้ไอ้แพนชัดเจนกับเรื่องของพรีม แต่มันกลายเป็นพรีมมาพัวพันกับฉันเองเนี่ย โอ๊ย

ตายแล้ว ไอ้หมอก ตั้งสติ!

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ Crying

ข้อมูลเพิ่มเติม
ลูกสิงโตของเฟย์

ลูกสิงโตของเฟย์

โรแมนติก

5.0

    “พี่ชอบเป็นเด็กดีของเธอนะ”     “เฟย์หงุดหงิด.. ที่เห็นคนนั้น” เธอปิดปากขำเล็กน้อยก่อนฝังจมูกลงบนแก้มของฉัน ราวกับว่ามันจะช่วยให้เธอรอดพ้นข้อหาไปหาคนอื่นโดยที่ไม่รอฉันได้อย่างนั้นแหละ      “แล้วจะทำยังไงให้รู้สึกดีขึ้นดี?” เธอว่า ปลายนิ้วเล่นผมของฉันที่หลังคออย่างออดอ้อน เจ้าของใบหน้าหวานขยับเข้ามาจุ๊บที่ริมฝีปากของฉันอีกครั้ง แต่ฉันก็ยังนิ่ง เป็นการบอกให้รู้ว่าฉันอารมณ์เสียจริงๆ ที่เห็นเธออยู่กับคนอื่น      แต่ทว่าคำถามของเธอจุดประกายความปรารถนาในตัวฉัน และฉันรู้สึกว่าเอวของฉันกระชับขึ้นเล็กน้อย ฉันโน้มตัวเข้าไปใกล้ๆ ริมฝีปากของฉันแนบชิดใบหูของเธอ เสียงของฉันลดลงเหลือเพียงเสียงกระซิบแผ่วเบาที่เย้ายวน      “พี่ต้องเริ่มต้นด้วยการจดจำว่าพี่เป็นของใคร”     “ของเธอ” ...    เสือต้องเจอสิงห์ มันถึงจะสมน้ำสมเนื้อ!

หนังสือที่คุณอาจชอบ

เมียหย่ารัก

เมียหย่ารัก

Gabie Parpia
4.9

เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"

หวนคืนมิลืมรัก

หวนคืนมิลืมรัก

ต้ายวี่
5.0

นางเคยมอบความรัก ความภักดี ให้เขาด้วยความจริงใจ แต่เขากลับตอบแทนนางด้วยการทรยศ หักหลัง สกุลของนางต้องล่มสลาย ยามที่สวรรค์มอบโอกาสให้นางได้หวนคืนชะตา นางจึงตั้งมั่นไม่ขอหวนกลับไปยุ่งเกี่ยวพัวพันกับเขาอีก เพียงแต่นางพยายามหลีกหนี คนหน้าหนากลับพยายามไล่ตาม ใช้ความเจ้าเล่ห์ทั้งหลอกล่อบีบคั้นจนนางไร้หนทางหลีกหนี ในเมื่อมิอาจหลีกหนีเช่นนั้นครั้งนี้นางก็จะทำให้เขาได้รู้ว่า สตรีสกุลหลิวจะไม่ยอมโง่เขลาเป็นครั้งที่สอง "กู่เหว่ยหยวน ตลอดชีวิตของข้า สิ่งที่ข้าเสียใจที่สุด คือมอบใจให้บุรุษชั่วช้าเช่นเจ้า หากสวรรค์มีจริง ไม่ว่าจะกี่ภพชาติอย่าได้พบกันอีกเลย"

เลือกฉันหรือเขา

เลือกฉันหรือเขา

Flss Macgillivray
5.0

"ชาร์ลีถูกทิ้งไว้ที่ห้องจัดงานและกลายเป็นตัวตลก เธอพยายามทำตัวให้ว่านอนสอนง่าย แต่สุดท้ายกลับได้รับคลิปวีดีโอที่เกี่ยวกับคู่หมั้นและน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอเสียใจมากและใช้เวลาทั้งคืนอย่างสุดเหวี่ยงกับคนแปลกหน้าที่ร้อนแรง ซึ่งควรจะเป็นแค่ครั้งเดียว แต่เขากลับโผล่มาช่วยเธอทำโปรเจ็กต์ต่างๆ และแก้แค้น ในขณะที่คอยจีบเธออยู่ตลอดเวลา ในไม่ช้า ชาร์ลีก็ตระหนักว่าการมีเขาอยู่ใกล้ๆ เป็นเรื่องดี จนกระทั่งแฟนเก่าของเธอปรากฏตัวที่หน้าประตูบ้านของเธอและขอร้องให้โอกาสอีกครั้ง คนรักที่ร่ำรวยของเธอถามว่า “คุณจะเลือกใคร คิดให้ดีก่อนตอบ”"

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

มาชาวีร์
4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

คุณสามีเป็นผู้พิการ

คุณสามีเป็นผู้พิการ

Devocean
4.9

"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"

รอยรักรอยร้าว

รอยรักรอยร้าว

Del Goodman
5.0

เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ