หวงรักคู่หมั้น CEO

หวงรักคู่หมั้น CEO

B.J.BEN

5.0
ความคิดเห็น
12
ชม
14
บท

เธอเป็นคู่หมั้นที่เขาสุดหวงและห่วง ตามรับตามส่งดูแลมาแต่เล็กแต่น้อยเพราะบ้านอยู่ใกล้กัน อดทนอดกลั้นมานานหลายปีจนเธอเรียนจบ อีกไม่กี่เดือนจะแต่งงานกันแล้ว แต่เขาดันตบะแตกเสียก่อนนี่สิ! ตัวอย่างบางช่วงบางตอน "พี่ฤกษ์คะ อย่าค่ะ" "ยังไม่แต่งจะหย่าได้ยังไงกัน" เขาเลื่อนมือไปกอบกุมทรวงอกอวบอิ่มของเธอเอาไว้ ทำเธอสะดุ้งตกใจ "พี่ฤกษ์ อื้อ... อย่าค่ะ เมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลยนี่คะ" "เมื่อก่อนพี่ต้องอดทน รอให้กานต์เรียบจบก่อน แต่ตอนนี้เรียนจบแล้ว อีกไม่กี่เดือนจะแต่งงานกันแล้ว พี่ขอก่อนไม่ได้เหรอครับ ทรมานจะตายอยู่แล้ว" เขากระซิบขอเสียงแหบพร่า เขาอยากรวบหัวรวบหางแต่เกรงใจบิดามารดาของเธอ "พี่ฤกษ์คะ กานต์ก็ขอพี่ฤกษ์เหมือนกันคะ ขอให้รอกานต์ก่อนนะ" หญิงสาวเบี่ยงหลบแต่เขากอดรัดมาทางด้านหลังแนบแน่น "อย่าหนีพี่ ให้พี่กอดเอาไว้แบบนี้ก่อน" เขาพูดเสียงหอบๆ พยายามสงบสติอารมณ์เอาไว้อย่างเต็มที่ แต่ขอให้ได้กอดเธอสักนิด การบูรตัวแข็งทื่ออยู่ในอ้อมแขนของเขา แต่ก็ยอมให้เขากอด สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนแรง แสดงว่าเขากำลังสงบสติอารมณ์อยู่ เธอก็ควรที่จะตามใจให้เขากอด หญิงสาวคิดว่าควรรู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา รู้จักปฏิเสธก็อาจจะต้องรู้จักยอมบ้างตามสถานการณ์ "ดีจังได้กอดกานต์แบบนี้ พี่อยากกอดกานต์ อยากนอนพร้อมกัน ตื่นพร้อมกัน เห็นหน้ากานต์ทุกวันแบบนี้" "ตอนนี้ก็เห็นหน้ากานต์ทุกวันอยู่แล้วนี่คะ"

บทที่ 1 1

ร่างอรชรของการบูรเดินเข้ามาในห้องทำงานอันโอ่อ่าของฤกษ์ด้วยรอยยิ้ม

“สวัสดีค่ะพี่ฤกษ์”

“สวัสดีครับคนสวยของพี่” เขายืนขึ้นเต็มความสูงหนึ่งร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร ก่อนจะเดินไปรับร่างอรชรที่อยู่ในชุดเดรสสีหวานแวว เธอทรงตัวอยู่บนรองเท้าส้นสูงปลายแหลมที่เขาคิดว่าดูดีก็จริง แต่มันทำให้เมื่อยขาเอาเรื่องอยู่ หากต้องใส่เดินทั้งวัน

“วันนี้กานต์ทำมื้อกลางวันมาให้พี่ด้วยนะคะ”

เขารีบรับปิ่นโตที่เธอหิ้วมาด้วยอย่างยินดี เธอทำอาหารอร่อยและเขาก็ติดใจรสมือของเธอเป็นอันมาก

“กำลังหิวอยู่พอดีครับ” เขาโอบเอวบางไปนั่งที่โซฟามุมห้องด้วยกัน

“อุ๊ย! พี่ฤกษ์” เธออุทานตาโตเมื่อโดนเขาหอมแก้มเข้าให้ ก่อนที่มือหนาจะจับมือเธอไปกุมเอาไว้

“คิดถึงจังครับ” เขายกมือเธอมาจุมพิตเบาๆ ก่อนจะมองเธอตาหวาน

“อย่ามาปากหวานเลยนะคะ เดี๋ยวกานต์จัดอาหารใส่จานให้นะคะ วันนี้ทำราดหน้าหมูหมักทะเลที่พี่ฤกษ์อยากกินมาให้ค่ะ”

“อยากกินคนตรงหน้ามากกว่า” เขาดึงเธอมากอด ก่อนจะช้อนอุ้มมานั่งบนตัก

“ไม่เอานะคะพี่ฤกษ์ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” เธอดันใบหน้าของเขาออกห่าง

“งั้นล็อกประตูก่อนไหม ขอชื่นใจหน่อย”

“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวเสื้อผ้ายับ” เธอดิ้นลงจากตักของเขา ทำให้ฤกษ์ถอนใจเฮือกใหญ่

“พี่ฤกษ์โกรธกานต์เหรอคะ”

“เมื่อไหร่จะใจอ่อนกับพี่สักทีครับ เราเป็นคู่หมั้นกันนะครับ ไม่ใช่คนอื่นคนไกล อีกไม่กี่เดือนก็จะแต่งงานกันแล้ว” เขาเว้าวอน เป็นคู่หมั้นกันตั้งแต่เล็ก คอยเฝ้าตามหวงตามห่วงอยู่ไม่ห่าง เธอให้เขาได้เพียงจับมือถือแขน โตขึ้นมาหน่อยก็ได้แค่หอมแก้ม แค่กอดยังยาก เธอรักนวลสงวนตัวเขาเข้าใจ และคิดว่าดีเสียด้วย เพราะเธอไม่นอกกายนอกใจเขาแน่นอน แต่เธอก็ยังหวงตัวกับเขาซึ่งเป็นคู่หมั้นด้วย

“รอให้แต่งงานกันก่อนสิคะพี่ฤกษ์” เธอยิ้มหวานให้เขา

“งั้นขอจูบหน่อย” เขาเขยิบเข้าไปหา รั้งเธอมาอยู่ตรงหน้า

“อุ๊ย! อื้อ” ช่วงที่เธอหลุดอุทาน เขาก็จุมพิตเข้ามาหาแบบไม่ทันตั้งตัว มือหนาข้างหนึ่งโอบกอดรอบร่างบอบบางเอาไว้ อีกข้างจับท้ายของเธอเอาไว้เพื่อให้เขาจูบเธอได้อย่างถนัดถนี่

ลิ้นหนาสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากนุ่ม ก่อนที่จะแตะสัมผัสกับเกลียวลิ้นเล็กๆ ที่หลบหลีกอย่างตื่นกลัว

“อื้อ... พี่ฤกษ์” เธอครางออกมาเหมือนประท้วง เมื่อเขาถอนปากออกห่าง ก่อนที่จะบดจูบลงมาใหม่ จนเธอปราชัย

ร่างหนาหนักบดเบียดเข้ามาแนบชิด ดันเธอไปจนชิดกับพนักโซฟา เขาขบกัดริมฝีปากบนล่าง รุกเร้าหนักขึ้น ด้วยการสัมผัสทรวงอกสาวอวบอิ่ม

“พี่ฤกษ์ อย่าค่ะ พอก่อน” การบูรร้องประท้วง ตัวสั่นระริกเมื่อเขาเบียดกายเข้ามาแนบชิดจนเธอไม่มีช่องว่างให้หนีอีกแล้ว

“ปากหวานจัง ตัวก็หอมมากด้วย” ฤกษ์กระซิบชิดใบหน้าของเธอ ลมหายใจของคนทั้งสองเป่ารดกันถนัดถนี่

ท่าทีของเขาดูคลั่งไคล้คุกคามจนการบูรใจสั่น ปกติแล้วเขาจะเป็นสุภาพบุรุษ แต่พออยู่ต่อหน้าคนอื่น แต่เวลาอยู่ด้วยกัน เธอก็ยอมรับว่าหลังๆ มานี้เขาถึงเนื้อถึงตัวพอสมควร

“พี่ฤกษ์ไม่หิวเหรอคะ เดี๋ยวราดหน้าเย็นชืดหมด” เธอตั้งใจทำมาให้เขาโดยเฉพาะ เขาควรกินมันตอนนี้เลย

“หิวครับ แต่หิวคนตรงหน้าพี่มากกว่า” เขาใช้นิ้วโป้งเกลี่ยไปมากับริมฝีปากนุ่มสีสด

“ไม่ทำแบบนี้นะคะพี่ฤกษ์ มันไม่ดีค่ะ”

“อะไรที่ว่าไม่ดีครับ” เสียงเขาออดอ้อน จนใจเธอสั่นรัวอีกรอบ

“ก็เราไม่ควรชิงสุกก่อนห่ามยังไงล่ะคะ” เพราะครอบครัวของเธอเลี้ยงให้ลูกสาวรักนวลสงวนตัว มารดาบอกว่าหากมีลูกชายเพิ่มอีกคนก็จะสอนให้ลูกชายเป็นสุภาพบุรุษ ไม่รังแกผู้หญิงก่อนถึงวันที่สมควร แต่จนแล้วจนรอดมารดาก็มีลูกแค่คนเดียวคือเธอ

“พี่ทรมานจะตายอยู่แล้ว ทนมาตั้งหลายปีแล้วนี่ครับ” เขาพ้อเสียงน่าสงสาร ทั้งยังไล้มือของเธอเล่น

การบูรขนลุกเกลียว เธอเองก็เกือบใจอ่อนยอมทอดกายให้เขาหลายครั้ง แต่นึกถึงคำพูดของบิดามารดา ก็ทำให้เธอยั้งใจเอาไว้ได้ แต่ถ้าต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อีก เธออาจจะไม่รอดมือเขา เพราะใจเธอนี่แหละ ตกหลุมรักเขาเหมือนกัน

ไม่รักคงไม่ยอมให้ถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้ กับคนอื่นเธอไม่เคยยินยอม แม้แต่จับมือยังไม่เคย

“ก็ทนต่ออีกนิดสิคะ อีกไม่กี่เดือนเอง” เธอจะขยับลุกหนี เขาก็โอบกอดเอวบางเอาไว้

“อุ๊ย!” เธอหลุดอุทานเขาก็ตรงเข้ามาทำท่าจะจุมพิต เธอรีบดันใบหน้าของเขาเอาไว้

“พี่รอกานต์มาตั้งแต่เด็ก ทั้งหวง ทั้งห่วงมาตลอดเลยรู้ไหม” เขาไล้แก้มสาวเล่น เธอมองสบตาเขาแล้วสะเทิ้นอาย หลบสายตาเป็นพัลวัน

“เอ่อ...” เธออึกอักเพราะไม่รู้จะตอบรับว่าอย่างไรดี เขาหวงเธอคือเรื่องจริง ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เธอ ได้มีเรื่องแน่ ๆ

เธอกับเขาอยู่บ้านใกล้กัน ดังนั้นจึงสนิทกันตั้งแต่เด็ก บิดามารดาก็เป็นเพื่อนกัน

ยิ่งโตยิ่งสวย ยิ่งน่ารัก ทำเอาเขาหวงจนแทบไม่เป็นอันทำอะไร

ยิ่งตอนเรียนมหาวิทยาลัย เขายิ่งหวง ต้องไปรับไปส่งทุกวันเพราะเห็นหนุ่มๆ มองเธอแล้วรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้ง

อ่านต่อ

หนังสืออื่นๆ ของ B.J.BEN

ข้อมูลเพิ่มเติม
วิวาห์คลั่งรัก

วิวาห์คลั่งรัก

สมัยใหม่

5.0

เมื่อโชคชะตาบังคับให้เขาและเธอซึ่งเป็นคู่กัดต้องกลายเป็นคู่แต่งงานแบบสายฟ้าแลบ! ระหว่างอดีตที่เต็มไปด้วยการปะทะคารม กับปัจจุบันที่ต้องใช้ชีวิตร่วมชายคา... เรื่องวุ่น ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่แปรงสีฟันยันหัวใจ เขา...ผู้ชายเจ้าเล่ห์ ขี้แกล้ง และขี้หวงอย่างหนัก เธอ...หญิงสาวปากแข็ง ขี้ประชด แต่แอบอ่อนโยนในทุกความใส่ใจ จากบ้านไม้ริมคลอง กลายเป็นสนามรักและสงครามขนาดย่อม ที่ไม่มีใครยอมใคร แต่หัวใจสองดวงกลับเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด... เพราะบางที...โชคชะตาอาจไม่ได้บังคับ แต่มันอาจกำลังพาเขาและเธอ... กลับมายังที่ที่เรียกว่า "บ้าน" ด้วยกัน

คู่หมั้นไร้เสน่หา

คู่หมั้นไร้เสน่หา

โรแมนติก

5.0

เมื่อข่าวฉาวบิดเบือนเปลี่ยนหญิงสาวให้กลายเป็นคนที่เขาเกลียด และเมื่อคำสัญญาเก่าของผู้ใหญ่ พาเธอกลับมาในฐานะ ‘คู่หมั้น’ ที่เขาไม่ต้องการ ลลิล สาวสวยผู้สง่างามและเข้มแข็ง ต้องเผชิญแรงกดดันจากคนในครอบครัว รวมถึง กวิน ชายหนุ่มผู้เย็นชา ผู้มองเธอด้วยสายตาดูแคลน…แต่ไม่อาจละสายตาได้เลย ในความเงียบงันระหว่างพวกเขา...กลับมี ‘หัวใจ’ ที่ค่อย ๆ เรียนรู้กันอย่างไม่รู้ตัว จากความเข้าใจผิด กลายเป็นความผูกพัน จากการดูแคลน กลายเป็นการปกป้อง และจาก ‘คู่หมั้นไร้เสน่หา’ กลายเป็น ‘ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารัก’

หนังสือที่คุณอาจชอบ

รอยรักรอยร้าว

รอยรักรอยร้าว

Del Goodman
5.0

เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"

คุณนายยอมหย่าแล้ว

คุณนายยอมหย่าแล้ว

Calv Momose
4.9

หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"

รักร้ายจอมทระนง

รักร้ายจอมทระนง

มาชาวีร์
5.0

“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)

บท
อ่านเลย
ดาวน์โหลดหนังสือ